วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

แก้วใบโปรด... บอกความเป็นคุณ

แก้วใบโปรด... บอกความเป็นคุณ



อันที่จริงแล้วไม่เฉพาะแก้วกาแฟเท่านั้นแต่หมายถึงแก้วใบโปรดที่ถูกใจมากที่ สุด ไม่ว่าจะใส่นม ใส่ชา หรือใส่ น้ำเปล่าก็ตาม ลองสังเกตดูสิว่าแก้วแบบไหน สีอย่างไร ลวดลายแบบไหน ที่ใส่เครื่องดื่มสุดโปรดแล้วก็สุขใจเป็นพิเศษ.......ลองเลือกกันเลย


ชอบแก้วกาแฟลายการ์ตูน
ใครที่ถูกใจแก้วแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายตัวการ์ตูนเดี่ยว ๆ หรือว่ามีตัวอักษรที่น่ารัก ๆ ประกอบอยู่ด้วยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดีถึงดีมาก ๆ จนบางครั้งอาจถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย มักจะเป็นคนนิสัยดี ใจอ่อน รักเด็ก รักสัตว์ และมีจิตใจเอื้ออาทรต่อผู้คนรอบข้าง และติดเจ้าชู้นิดหน่อย

ชอบแก้วกาแฟที่มีถ้อยคำเปี่ยมความหมาย
ส่วนคนที่ชอบแก้วกาแฟซึ่งมีถ้อยคำที่มีความหมายไม่ว่าจัเป็นคำซึ้งๆอย่าง "I WAIT FOR YOU AGAIN" หรือคำกวน ๆ แบบ "ช่างมัน...ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว" หรือคำตลกๆก็ตาม แสดงว่าเป็นคนช่างคิด และมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบทำในสิ่งที่แปลกๆใหม่ ๆ ในความคิดเห็นของคนทั่วไป จะมีความเป็นตัวของตัวเองซึ่งเป็นลักษณะโดดเด่นเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง และชอบคบหากับเพื่อนฝูงที่สนใจในเรื่องเดียวกัน แต่ก็มักจะเป็นคนใจร้อน แต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าวรุนแรง เมื่อเสียใจ มักจะให้กำลังใจตัวเอง มากกว่าจะแสวงหาจากคนอื่น ๆ

ชอบแก้วกาแฟสีสันสดใส
คนที่ชอบแก้วกาแฟแบนี้ แสดงว่าเป็นคนกระฉับกระเฉง รักความก้าวหน้าในชีวิต ต้องการแต่สิ่งที่ดี ๆ ให้ชีวิตและยังเป็นคนที่มีความพยายามสูง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นคนใจกว้าง ชอบเข้าสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็มีโลกส่วนตัว และยังเป็นคนร่าเริง ยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย ใครอยู่ใกล้ก็พลอยสดชื่นแจ่มใสไปด้วย

ชอบแก้วกาแฟรูปทรงแปลก ๆ
สำหรับคนที่ชอบแก้วกาแฟซึ่งทำเป็นรูปทรงแปลก ๆ เช่น รูปรองเท้าบู้ต รูปกระถางต้นไม้ หรือรูปกร์ตูนตัวโปรด แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ร่าเริงเบิกบาน มีความเป็นเด็ก มนุษยสัมพันธ์ดี จะเข้ากับผู้คนได้ง่าย แต่ก็มีความดื้อรั้นแอบแฝงอยู่ หากโกรธใครก็ไม่ผูกใจเจ็บนาน แต่จะนำไปบ่นกับเพื่อนฝูงท่สนิทกัน เพราะเป็นคนที่รักเพื่อนมาก ส่วนในด้านความรัก จะเป็นคนที่โรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ และยังรักใครได้ง่าย ๆ อีกด้วย


ชอบแก้วกาแฟลายดอกไม้
คนที่โปรดปรานแก้วกาแฟแบบนนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้แบบไหนก็ตาม แสดงว่าเป็นคนที่อารมณ์อ่อนหวาน ใจดีแต่ก็เจ้าน้ำตา และจะเป็นคนที่มีอารมณ์ในเชิงรักใคร่สูงมาก รักใครก็จะคาดหวังในตัวเขาหรือเธออย่างมากมาย พอผิดหวังก็แทบจะเป็นจะตาย คนรอบข้างต้องคอยให้กำลังใจเสมอ ไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเองนัก ต้องการผู้นำตลอดเวลา มีเพิ่มเติมอีกนิดว่าหากชอบแก้วกาปฟที่มีลายดอกไม้สีสด ๆ เป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงกว่าคนท่ชอบลวดลายดอกไม้เล็กๆสีอ่อน ๆ ซึ่งจะช่างฝันมากกว่า


ชอบแก้วกาแฟไม่มีลวดลาย
ส่วนใครที่ชอบแก้วกาแฟเรียบที่สุด ไม่มีลวดลาย สีขาวสะอาดทั้งใบ แสดงว่าเป็นคนที่มีจิตใจเปราะบาง มีความละเอียดอ่อน เป็นคนรอบคอบ นิยมสิ่งที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ เกี่ยวกับความรัก มักจะเป็นคนที่คล้อยตามคนรักอยู่เสมอ จนบางครั้งก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่ชอบก็ฝืนใจ เพื่อให้สถานการณ์เป็นไปอย่างราบรื่น เป็นคนที่ดูภายนอกจะเพียบพร้อม แต่ว่าในความเป็นจริงจะมีเรื่องเก็บกดลึก ๆ

ชอบแก้วกาแฟรูปราศี - วันเกิด
ส่วนใครที่โปรดปรานแก้วกาแฟชุดราศี หรือว่าแก้วกาแฟที่มีรูปวันเกิดหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเองนั้น มักเป็นคนที่ชอยบเกี่ยวกับงานศิลปะ เป็นคนมีความละเอียดอ่อนและจิตใจก็อ่อนไหวง่าย และในอีกด้านหนึ่งนั้น จะเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญหรือเชื่อถือในเรื่องเร้นลับต่าง ๆ ที่หาข้อพิสูจน์ได้บากนอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีเหตุผลหลักการ ชอบการคิดและค้นคว้า แต่ก็ต้องเป็นเฉพาะสิ่งเฉพาะเรื่องที่ตัวเองสนใจเท่านั้น และในบางครั้งกับบางเรื่องจะเป็นคนหัวโบราณนิด ๆ มักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ค่อนข้างปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้ช้ากว่าคนอื่น ๆ

ชอบแก้วกาแฟดินเผา
สำหรับคนที่ชอบแก้วกาแฟสีธรรมชาติ ประเภทเครื่องปั้นดินเผาสีน้ำตาล จะเป็นแบบเรียบๆหรือมีสีเอิร์ธโทนอื่นๆประดับ แสดงว่าเป็นคนมีน้ำใจ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นคนมีอุดมการณ์ รักโลก ชอบดูแลพิทักษ์สิ่งแวดล้อม บุคลิกที่เห็นได้ชัดก็คือมักจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยเข้ากับใครก่อน แต่ก็จะยิ้มง่าย แต่มักใช้เวลาปรับตัวอยู่เงียบ ๆ ก่อนที่จะสนิทสนมกับใคร ทั้งนี้ก็เพราะลึก ๆ เป็นคนอ่อนไหว เปราะบาง สะเทือนใจง่ายนั่นเอง


เพื่อน ๆ เลือกอันไหนกันบ้าง........แล้วตรงกับตัวคุณหรือเปล่าคะ

ยางลบ กับความรัก





ยางลบ กับความรัก

ถ้าสมมุติคุณมียางลบวิเศษอยู่ 1 อัน คุณจะเลือกลบใครเวลาที่เกิดเหตุการณ์ **รักสามเส้า**

ลบตัวคุณเอง
ลบคนรักของคุณ
ลบมือที่สาม





เฉลย


ลบตัวคุณเอง
คุณเป็นคนที่ชอบหนีปัญหา เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับความรักของคุณ คุณจะหลีกเลี่ยงไปให้ไกล

ลบคนรักของคุณ
คุณเป็นคนที่ชอบความรัก และมองว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม

ลบมือที่สาม
คุณเป็นคนที่ออกแนวลุย ๆ โดยจะไม่ยอมปล่อยให้ปัญหานั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ หรือค้างคาใจอยู่

อยากรู้จังเพื่อน ๆ เลือกลบใครกัน...... แล้วเป็นไงคะตรงกันหรือเปล่าเอ่ย!!

ใจร้าว ตอนที่8

ตอนที่ 8
คืนนี้ เมนี่ขับรถมาหากรวิกถึงบ้าน แล้วยังชวน ออกมานั่งริมสนามหญ้า กรวิกต้องออกมานั่งคุย เมนี่บอกว่าเธอชอบออกมานั่งรับลมชมจันทร์อย่างนี้ ทุกครั้งทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ตอนนี้เธอออกมา เพราะรู้ว่าเขามีเรื่องไม่สบายใจ จึงชวนออกมา...จากนั้นเมนี่เริ่ม เผยความรู้สึก
"เมนี่ไม่เคยรักใคร ไม่ใช่ไม่มีคนมาจีบนะคะ แต่เมนี่ไม่ถูกใจใคร จนกระทั่งมาเจอคุณไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นความรักหรือเปล่า รู้แต่ว่าเมนี่อยากให้คุณมีความสุข อยากตื่นมาทำงาน อยากเห็นรอยยิ้มของคุณทุกวัน และไม่อยากเห็นคุณทุกข์ใจ..."
กรวิกนั่งนิ่ง ไม่คิดว่าเมนี่จะจริงจังขนาดนี้ เธอถามย้ำอีก
"คุณไม่สบายใจเรื่องอะไร เล่าให้เมนี่ฟังได้นะ"
"คุณขับรถมาตั้งไกลในเวลาควรจะนอน เพียงอยากรู้ว่า ผมไม่สบายใจเรื่องอะไรแค่นั้นหรือครับ"
"ค่ะ ถ้าเราเป็นห่วงใครสักคน เราจะหลับตาลงได้ยังไงคะ ถ้ารู้ว่าอีกคนยังไม่หลับ"
"คุณดีกับผมมากนะเมนี่ ผมดีใจ ในเวลาเลวร้ายอย่างนี้ อย่างน้อยผมก็มีคุณ แต่...เรื่องนี้..."
"ยังไม่อยากเล่าให้ฟังก็ไม่เป็นไรค่ะ เมนี่แค่แวะมาบอกว่า เมื่อไหร่คุณพร้อมก็บอกนะคะ เมนี่ยินดีรับฟัง และอยู่ข้างคุณเสมอ" เขายังนั่งนิ่งเธอลุกขึ้น
"วิกพักผ่อนเถอะค่ะ ดึกแล้ว เมนี่ขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"
กรวิกลุกขึ้นกุมมือเธอไว้ พร้อมคำขอบคุณอย่างสุดซึ้งใจ เมนี่ยิ้มหวานให้อย่างสุดจะอาลัย...ภาพการจากกันของทั้งสอง หาได้รอดพ้นสายตาวาวๆ ไม่พอใจของทอปัดไม่...
ส่งเมนี่ขึ้นรถไปแล้ว กรวิกกลับเข้าบ้าน เจอทอปัดยืนรอที่หน้าห้องรับแขก ทอปัดถามตามปกติเรื่องที่เขาเพิ่งกลับตอนตีหนึ่ง เขารีบบอกว่าไปเยี่ยมผู้จัดการส่วนตัวมา เขาไม่สบาย ทอปัดย้ำ
"ยายช่อลดาเหรอ" กรวิกไม่ตอบ ทอปัดซัดเข้าไปอีก
"เมื่อกี้ปัดเห็นยายนางเอกนั่นมาหาพี่วิก"
"เขาชื่อคุณเมนี่เวลาจะเรียก กรุณาใส่ชื่อกับคำนำหน้า ที่สุภาพเข้าไปด้วย"
เสียงกระด้างของกรวิก ทำให้ทอปัดสติกระจุยทันที
"ปัดไม่สนหรอกค่ะ ว่าแม่นั่นจะชื่ออะไร ปัดอยากรู้ว่าทำไมเขามายุ่งกับพี่วิกนัก ถ้านักข่าวรู้จะว่ายังไง นางเอกสาวบุกมาหาพระเอกถึงบ้านตอนตีหนึ่งแบบนี้"
"ใครรู้ก็ช่างเขาปะไร อยากเขียนอะไรก็เขียนไป ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย"
"แล้วกับยายผู้จัดการนั่นล่ะ พี่วิกแวะไปทำอะไรเสียหายมารึเปล่า ดูผู้หญิงสองคนนั่นจะสำคัญกับพี่วิกมากนะ พี่วิกชอบใครแน่หรือจะเหมาทั้งสองคน"
"เธอพูดอะไรของเธอ เด็กอย่างเธอมีหน้าที่อย่างเดียวคือเรียนหนังสือให้จบ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ เข้าใจไหม"
กรวิกเดินผ่านทอปัดขึ้นข้างบน ทอปัดกัดฟันกรอด กำมืออยากจะทำอะไรสักอย่าง...
กรวิกเข้าไปในห้องนอน...นอนลงไปแล้ว แต่มือกลับมาก่ายหน้าผาก คิดกังวนไปมาเรื่องช่อลดากับเมนี่...แล้วต้องหันขวับมา เมื่อทอปัดใส่ชุดนอนคลุมร่าง สยายผมลงมาอย่างเซ็กซี่ กรวิกเตือน จะเข้าห้องใครเคาะประตูก่อน แล้วถามว่ามีอะไร?
ทอปัดไม่ตอบ แต่เปลื้องเสื้อคลุมทิ้ง เหลือชุดนอนบางเบา เผยให้เห็นส่วนสัดเว้าโค้งทั้งตัว เขาถามเสียงสั่น เธอทำอะไร?
"ปัดจะทำให้พี่วิกรู้ว่า ปัดไม่ใช่เด็กอย่างพี่วิกว่าน่ะสิคะ"
ว่าแล้วเดินเยื้องย่างเข้ามาหาเขาเหมือนนางสิงห์จะตะครุบเหยื่อ เขาตั้งสติได้สั่งทันที
"ออกไปได้แล้วทอปัด" คำสั่งของเขาเป็นหมัน ทอปัดเข้าขย้ำกรวิกอย่างไม่ปรานี ทั้งกอดทั้งฟัด สะบัดเหยื่อ เขาตกใจรีบแกะมือทอปัด แล้วผลักออกไป สำทับทันที
"เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทอปัด"
"ใช่ ปัดเป็นบ้า บ้าเพราะรักพี่วิก" กรวิกได้แต่คำรามเรียกยายปัด
"ปัดไม่สวย ไม่เซ็กซี่ตรงไหน ปัดมีดีกว่ายายสองคนนั่นตั้งเยอะ ทำไมพี่วิกไม่มอง ไม่สนใจปัดบ้าง ปัดรักพี่วิกนะคะ ปัดไม่ยอมให้พี่วิกเป็นของคนอื่นหรอก พี่วิกต้องเป็นของปัดคนเดียว"
แล้วทอปัดก็บุกเข้ากอดรัดฟัดกรวิกอีกยก เขาจึงออกแรงอีกครั้ง เหวี่ยงเธอไปแล้วดึงแขนเข้ามาสั่งสอน
"ถ้าฉันเคยทำให้เธอเข้าใจผิด ก็ขอให้เข้าใจตรงนี้เลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันรักเธออย่างน้องสาว แล้วมันก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้ เข้าใจไหมทอปัด"
ทอปัดยืนจังงัง...เขาสั่ง
"ออกไปได้แล้ว" แต่ทอปัดกลับยิ่งมันเขี้ยว ตรงเข้ากอดจูบกรวิกอย่างเมามัน ปากก็บอกว่าปัดรักพี่วิก ไม่ไปไหนทั้งนั้น...เขาหมดทาง ปัดมือทอปัดออก แล้วเดินหนีออกจากห้อง...ทอปัดมองตามเขา น้ำตาพรั่งพรู
"สักวัน...ปัดจะทำให้พี่วิกเห็นปัดอยู่ในสายตาให้ได้ คอยดู"
ตาทอปัดดั่งไฟสุมสักร้อยกอง...

ooooooo

เช้านี้กรวิกลงมาชั้นล่าง โทร.บอกช่อลดาว่าเดี๋ยวจะไปรับ แต่เธอตอบมาทันทีว่าไม่ต้องรับ เธอไปถึงสตูดิโอแล้ว กรวิกหงุดหงิด หันไปเห็นทอปัดนั่งหน้าหงิก จึงบอกไมค์กับชนม์ออกจากบ้านไปขึ้นรถไปทำงานทันที ทำให้ทอปัดยิ่งอัดใจแค้นคลั่งเจียนบ้าที่กรวิกไม่สนใจเธอเลย
เมื่อกรวิกไปถึงสตูดิโอเพื่อบันทึกเสียง ได้ฟังดวงแก้วพูดกับภัทรและช่อลดาเรื่องที่หมอลักษณ์โทร.มาลาให้ช่อลดา ว่าจะป่วยถึงวันศุกร์ แต่แล้วไม่ได้บอกให้ภัทรทราบ เมื่อภัทรบอกว่า ถ้าบอกเธอ กรวิกจะไม่หงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้หรอก กลัวว่าผู้จัดการส่วนตัวจะหนีไปไม่มาทำงานอีก
กรวิกเดินเข้ามาได้ยิน รีบหาว่าภัทรเว่อร์ เขาแค่ห่วงงาน ใครจะอยู่จะไปเขาไม่สน...ช่อลดาได้ยิน สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะเดินเข้าสตูดิโอไป...
จากนั้นไม่นาน กรวิกเข้าไปใส่หูฟัง ฝากร้องเพลงอยู่...พอช่อลดาเอากาแฟมาวาง กรวิกรีบดึงหูฟังออก หันมาต่อว่าทันที...ทำไมเอยไม่บอกว่ามีคนลางานให้แล้ว ปล่อยเขาเข้าใจผิด แล้วยังไม่อธิบายที่ถูกให้ฟัง...ช่อลดาหันมาย้อน
"พี่วิกเคยถามหรือให้โอกาสเอยชี้แจงอะไรด้วยหรือ นอกจากจะคิดเองแล้ว ยังหาเรื่องปรับปำเอย ทั้งๆที่ไม่มีความจริง พี่วิกต้องการแค่ความสะใจ"
"แล้วเธอ...เป็นอะไรมากหรือเปล่า อยู่โรงพยาบาลตั้งเป็นอาทิตย์"
"เป็นไข้ธรรมดาค่ะ เสียใจใช่ไหมคะ ที่ไม่หนักอย่างที่คิด"
ช่อลดาจ้องตาเขาไม่ยี่หระ ก่อนเดินหนีไป...
กรวิกได้แต่อยากเขกหัวตัวเองที่ไม่กล้าแม้แต่ขอโทษเธอ...

ooooooo

เมนี่พาแม่โสภิตามาตรวจเช็กร่างกาย เสร็จแล้วแม่ก็บอกเมนี่ ชื่นชมหมอที่ตรวจว่าสุภาพ หล่อด้วย ถ้าเมนี่ไม่ติดกรวิก จะเชียร์ให้มาสนิทกับหมอคนนี้ แต่ยังไม่ทันบอกว่าหมอชื่ออะไร ภัทรรีบมาหาเมนี่ ให้แม่คอยที่นี่ พาเมนี่ไปรับยา ขณะภัทรไปรับยา เมนี่นั่งคอย กำลังจะไปหยิบน้ำมะตูมที่วางเรียงให้คนหยิบดื่ม เมนี่เกิดหยิบแก้วเดียวกับหมอลักษณ์ เมนี่ไม่พอใจ ต่างหาว่าที่วางเป็นสิบๆแก้ว ดันจะมาหยิบแก้วเดียวกัน เถียงยังไม่ตกฟาก ภัทรเดินมาทักทาย
"สวัสดีค่ะ หมอลักษณ์"
"อ้อ...เป็นหมอดูนี่เอง คุ้นหูไม่น้อย เข้าใจเลือกทำมาหากินนะ ทิ้งต้นมะขามมาถึงนี่ คงได้ลูกค้าเยอะ ญาติคนป่วยก็อยากรู้ว่าจะหายเป็นปกติเมื่อไหร่ เดาให้ถูกๆแล้วกัน"
"คุณกล้าดูถูกวิชาชีพผมเหรอ" ลักษณ์ตาขวางทันที ก่อนที่ภัทรจะชี้แจงว่าลักษณ์ไม่ใช่หมอดู แม่โสภิตาก็รีบมาสมทบ แล้วทักทายหมอลักษณ์ทันที หมอรีบถามโสภิตา
"ดูหมอไหมครับ"
"ไม่ต้องมายุ่งกับแม่ฉัน จะไปปูเสื่อดูที่มุมไหนก็ไป"
แม่โสภิตาจึงปรามลูกสาวว่า พูดกับหมอแบบนี้ได้ยังไง เกิดหมอไม่ยอมเป็นหมอประจำตัวแม่จะเป็นยังไง รีบขอโทษหมอเดี๋ยวนี้ เมนี่จึงถึงบางอ้อ อุทานออกมาหน้าเหลอ
"หมอประจำตัว...ตกลงนายเป็น..."
"หมอจ้ะ หมอรักษาคน" ภัทรรีบบอกแทน
"ไม่ใช่หมอดูใต้ต้นมะขาม"
"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการและถูกต้องสักทีนะครับ"
ลักษณ์ส่งยิ้มให้ เมนี่หายซ่าส์ หน้าแตก...

ooooooo

กรวิกซ้อมร้องเพลง ครูที่สอน ยิ่งสอนเขาก็ยิ่งเพี้ยน นั่นเพราะทุกครั้งที่สายตามองช่อลดาที่กำลังนั่งเขียนหนังสืออีกมุมหนึ่ง เห็นเธอไม่สนใจ จึงมีอารมณ์บูด ร้องเพี้ยนไปมาจนครูฝากสั่งสอนให้ใช้ อารมณ์นำ ไม่ใช่สักแต่ร้องไปตามเรื่อง กรวิกหารู้ไม่ว่า ช่อลดาคอยแอบมองเขาเช่นกัน แต่พอเขามองไป
เธอกลับทำเป็นจดยุกยิก ให้เห็นว่าเธอไม่สนใจเขา ยิ่งเมื่อเลิกกรวิกนั่งรถกลับคู่กับช่อลดาในตอนหลัง เสียง MP3 ที่กรวิกพยายามร้องตามที่ฝกมา แล้วไม่ได้ดีอย่างที่คิด เขาถึงกับเหวี่ยงมันทิ้งอย่างไม่พอใจ ที่เหมือนเขาถูกบังคับให้ร้อง โดยการระบายแค้น
"โธ่เว้ย...ทำไมถึงได้ยากเย็นอย่างนี้วะ"
ช่อลดาจำต้องหยิบขึ้นมาวางข้างๆเขา โดยไม่มองหน้าพูดจาเลย...กรวิกรับรู้ความเย็นชาของช่อลดา ถึงกับหนาวใน ไอไม่ออกสักแอะ

ooooooo

คุณปราชญ์เรียกประชุมครั้งสำคัญ นอกจากบอร์ด 6 คนแล้ว ที่สำคัญคือมีปรัชญากับหมอลักษณ์ อยู่ด้วย เมื่อคุณปราชญ์ได้เปิดซองบอร์ดทุกคนที่ลงความเห็นเลือกกรรมการผู้จัดการคนใหม่แทนคนเก่าคือปรัชญาแล้ว พร้อมกับขอคำยืนยันจากเจ้าของความเห็น
ในที่สุด ทุกคนก็เลือกหมอลักษณ์ เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของโรงพยาบาล โดยไม่มีเสียงค้าน แม้แต่เสียงเดียว
"ผมขอค้านครับ" หมอลักษณ์ยกมือพร้อมกับยืนขึ้น
"ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติผมมารับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้...ผมมีเหตุจำเป็นไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้ เพราะผมมีความจำเป็นต้องกลับอเมริกาในอีกไม่กี่วันนี้"
คุณปราชญ์ได้แต่ตัดพ้อ ไม่น่ากะทันหันอย่างนี้ ลักษณ์รีบขอโทษ
"ผมต้องขอประทานโทษท่าน ที่มิได้แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า..."
เมื่อพูดถึงลักษณ์ผิดสัญญาที่ทำไว้ หมอลักษณ์รีบรับกับคุณปราชญ์ทันที
"เรื่องสัญญา ผมยินดีให้ปรับเป็นเงินค่าเสียหายตามที่ได้ตกลงไว้ทุกอย่าง ผมเชื่อว่าจะมีคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าผม มารับหน้าที่แทนผมได้อย่างแน่นอน"
คุณปราชญ์ได้แต่ยิ้มอย่างในใจนั้นว้าวุ่นสุดประมาณ ขณะที่ปรัชญาลูกชายยิ้มอย่างสะใจ
จากนั้น คุณปราชญ์ได้เรียกทนายมาพบที่ห้องประชุมโรงพยาบาล บอกทันทีที่นั่งลง
"ผมต้องการทำพินัยกรรมฉบับใหม่"
ขณะนั้น ปรัชญาเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานพ่อ กลับไม่พบ แต่ได้ยินเสียงพูดที่ห้องประชุมข้างๆ จึงเดินไปแอบดูเงี่ยหูฟัง...เสียงปราชญ์พูดชัด
"เรื่องทรัพย์สิน ผมต้องการยกเงินฝากในธนาคาร และที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดให้ทายาททั้งสองคน คนละเท่าๆกัน"
ปรัชญาที่เงี่ยหูฟัง ถึงกับหูผึ่ง...ชักจะสับสน
"นอกจากคุณปรัชญาแล้ว ท่านมีทายาทอื่นอีกหรือครับ...ผมเห็นคุณปรัชญาอยู่กับท่านคนเดียวมาตั้งแต่เกิด"
"ผมมีลูกนอกสมรสกับภรรยาอีกคน ก่อนที่ผมจะแต่งงานกับแม่ของปรัชญา แล้วเราแยกจากกันไป ผมไม่เคยเจอหน้าลูกอีกเลย...จนกระทั่งวันนี้ ผมเจอเขาแล้ว"
ปรัชญาฟังแล้ว มันชัดแจ๋วในหู
"พ่อมีลูกอีกคน" มันอึงอลตอกย้ำจนอื้อไปแล้ว...

"ถ้าอย่างนั้น ผมจะแยกแยะ ทำรายการไว้ จะนำมาให้ ท่านพิจารณาว่าต้องการอะไร ยกให้ใคร...เอ่อ ขอประทานโทษนะครับ ทายาทท่านอีกคนชื่ออะไรครับ ผมจะได้ทำเอกสารเตรียมไว้"
"นายแพทย์ลักษณ์ พิษณุการ" สิ้นเสียงปราชญ์... ปรัชญาเหมือนถูกหินก้อนโตทุ่มลงบนหัว
พอตั้งตัวได้ ปรัชญาพาเนื้อตัวที่ร้อนฉ่าเดือดพล่าน ทะยานไปยังห้องหมอลักษณ์ จนหมอตกใจที่เขามาเป็นพายุ พอตั้งสติได้ จึงเอ่ยขึ้น
"ผมต้องการมาบอกคุณหมอว่า...ผมเสียใจจริงๆที่คุณหมอจะไปจากที่นี่ อยากถามว่า คราวนี้ไปจริงหรือเปล่า" ลักษณ์ ยืนยันว่าจริงแท้แน่นอน "ก็ดี จะได้จบ หวังว่าคงไม่มีเหตุต้องกลับมาอีก"
ปรัชญาจ้องลักษณ์อย่างอาฆาตจองเวรก่อนกลับไป ลักษณ์สงสัยมันไปกินอะไรมา?

ooooooo

เย็นนี้ หลังจากกรวิกกลับไปยังที่พัก เพนท์เฮาส์ อันหรูหราของเขาบนยอดตึกแล้ว บอกช่อลดาที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกว่า มารู้จักที่ซุกหัวนอนของเขาแล้วก็กลับได้ เผื่อวันหลังมีงานอะไร จะได้มาถูก สั่งชนม์ ไปส่งช่อลดา แล้วให้ไมค์ไปเอาน้ำแข็งมาโปะหัวให้ ด้วย ปวดหัวจะระเบิดแล้ว...สั่งเสร็จเขารีบเข้าห้องนอนไปทันที...
กรวิกล้มตัวลงนอนที่ห้องพักผ่อนของเขา หลับตาลงอย่างอ่อนล้าหัวใจ...จากนั้นไม่นาน ก็มีผ้าชุบน้ำแข็งมาตั้งตามสั่ง มือที่นุ่มนวลมือหนึ่งก็ชุบน้ำแข็งเช็ดหน้าตาให้ กรวิกสบายขึ้น ถามทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา ว่าชนม์ไปส่งช่อลดาแล้วหรือ... ก่อนออกไป เขาพูดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?...ไม่มีเสียงตอบ มีแต่ ความนุ่มนวลจากมือที่เช็ดให้เขา...กรวิกค่อยๆลืมตาดู...แล้วพึมพำเรียกอย่างอ่อนโยน "ช่อลดา..."
"หลับตาเถอะค่ะ เอยจะเช็ดหน้าให้ จะได้หายเครียด"
"ทำไมถึงยังไม่กลับ เป็นห่วงฉันเหรอ"
"เอยไม่อยากเห็นพี่วิกเครียด"
"เธอเองก็เพิ่งหายไข้ น่าจะรีบกลับไปพักผ่อน...ที่ยังอยู่ เพราะเป็นห่วงฉันใช่ไหม" เอยยังเช็ดเฉย เขาจึงย้ำ "เธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ช่อลดา"
เขารอคำตอบจากเธอ เพียงคำว่าใช่ เขาจะขอโทษเธอ จะกอดเธอ จะทำทุกอย่างเพื่อให้เธออภัยเขา...แต่เอยกลับยื่นคำขาด ถ้าเขาไม่หลับตา เอยจะกลับเดี๋ยวนี้...เขาจึงหลับตาลงอย่างยอมจำนน...เอยถอนหายใจโล่ง...ที่จริงแล้ว เอยกลัวใจตัวเอง ไม่กล้าสบตาที่มองมาอย่างเว้าวอนของเขา...
เอยกับกรวิกหารู้ไม่ว่า...หมอลักษณ์แอบตามเมนี่ที่หิ้วหม้อเคลือบขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนยอดตึก เพื่อเอาซุปมาให้ กรวิก โดยเมนี่เข้าห้องกรวิกมาก่อน...

ขณะที่กรวิกนอนให้เอยเช็ดน้ำเย็นให้อย่างสบายขึ้น กรวิกถือโอกาสฟื้นความหลัง
"เธอโกรธฉันมากไหม กับทุกเรื่องที่ผ่านมา" เอยไม่ตอบ เขาจึงประคองแก้มให้หันมา จ้องด้วยสายตาอ่อนโยน ที่เพิ่งเคยเห็น "เธอคงจะโกรธฉันมากสินะ มันน่าโกรธ เพราะฉันทำไม่ดีกับเธอไว้เยอะ ผิดกับหมอลักษณ์ที่ดีกับเธอทุกอย่าง..." เอยยังเงียบ "เธอจะไม่พูดกับฉันสักคำหรือ"
เอยทำท่าหยุดมือ เตรียมยกชามน้ำแข็งออกไป เขาจับมือเธอไว้ จะขอโทษ...

"ช่อลดา...ฉัน..." ก่อนที่จะขอโทษ เขาต้องชะงัก เมื่อเอยบอก "ปล่อยมือเอยเถอะค่ะ"
"ขอบใจมากนะ..." กรวิกจำต้องขอบใจ ทั้งๆที่น้อยใจ แต่ไม่อยากทำอะไรให้เกิดแรงกระเพื่อมมากกว่านี้...เมื่อชนม์ โผล่เข้ามาบอกว่าคุณเมนี่มา มือของทั้งสองจึงปล่อยจากกัน เมนี่เข้ามา แปลกใจที่เห็นช่อลดาอยู่ในห้องกรวิก...เมนี่ทัก เอยรีบบอกว่า กำลังจะกลับ กรวิกจึงให้ชนม์ไปส่งช่อลดา...ยังไม่ทันขยับ ไมค์รีบบอกว่า คุณลักษณ์มาพบคุณเอย ลักษณ์เข้ามาบอกกรวิกว่า เขามารับคุณเอยกลับบ้าน กรวิกรีบเชิญเสียงกระด้าง...เมื่อทั้งสองไปแล้ว เมนี่จึงบอกว่า เจอลักษณ์ข้างล่าง เพิ่งรู้ว่ามารับคู่หมั้นนี่เอง
"เอยโทร.บอกเมนี่ค่ะว่า คุณไม่สบาย เมนี่เลยทำซุปมาให้"
ขณะเมนี่ไปจัดแจงใส่ชามมาให้ กรวิกมองแล้วอึดอัด ไม่รู้ว่า จะบอกเธอยังไงดี ยิ่งเธอถึงกับตักป้อนให้ เขายิ่งไม่กล้าบอกว่า เขารักเธออย่างเพื่อนเท่านั้น...
ส่วนลักษณ์ พาช่อลดาลงมาที่รถ เขาบอกเอยว่าเขาได้ตั๋วเครื่องบิน และลาออกจากโรงพยาบาลแล้ว...แล้วตัดพ้อว่า วันนี้เอยมาอยู่กับกรวิกทั้งวัน เอยยังอยากเปลี่ยนใจไม่กลับอเมริกาไหม
"ไม่ค่ะ เอยยืนยัน จะกลับอเมริกากับพี่ลักษณ์...สำหรับพี่วิก เอยคิดว่า เอยทำดีที่สุดแล้ว เอยพอแล้ว...และเอยจะไม่เปลี่ยนใจ เด็ดขาด" เอยเปิดประตูรถ เข้าไปนั่ง ลักษณ์โล่งใจ ที่เห็นเอยหนักแน่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
ส่วนเมนี่ ดีใจที่กรวิกทานซุปจนเกลี้ยง เมนี่พร้อมจะหาของอร่อยๆทำมาให้เขา ขอให้บอก เขารับได้ทุกอย่าง...
เมนี่จึงรีบกลับไปซื้อของ พรุ่งนี้เย็นพบกัน...
หลังจากเมนี่กลับไปแล้ว กรวิกได้รับโทรศัพท์ พอเปิดรับ เห็นรูปเขาอุ้มช่อลดาในอิริยาบถต่างๆนับสิบรูป ที่เห็นหน้าชัดเจน...เขากดดูแต่ละรูปด้วยความแค้นจนมือไม้สั่น...แล้วเสียงจากเจษฎาที่โทร.มากวนประสาทจนได้...เพราะมันพูดเหมือนกรวิกเคยปฏิเสธมาแล้ว
"รูปชัดขนาดนี้ คงไม่ปฏิเสธใช่ไหมว่า...ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ผม...และผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น"
"แกต้องการอะไร เจษ"

"ถ้าไม่อยากให้เรื่องอื้อฉาวเหม็นเน่าไปทั้งวงการ เราต้องคุยกัน...เดี๋ยวนี้...แล้วเจอกันนะ"
"เดี๋ยวสิ...ไอ้เจษ โธ่เว้ย" กรวิกแค้นจนแน่นอก...เมื่อเจษฎาตัดสายไปเสียก่อน กรวิกเตะโซฟาระบายลมที่เดือดพล่าน...
ถึงอย่างไร กรวิกก็ต้องไปพบเจษฎาที่คอนโดฯของเขา พอพบกันเจษฎาก็ยั่วยวนกวนใจจนแทบทนไม่ได้ แต่อยากรู้ ว่ามันจะเอายังไง จนถูกยั่วจนทนไม่ไหว ถึงกับลุกเดินหนี แต่มันกลับแย้มให้สนใจ จึงให้มันพูดมาว่า ทำไมมันถึงตามจองล้างจองผลาญเขา ในที่สุดกรวิกจะเดินหนี เจษฎาเจ้าเล่ห์จึงหยอดท้าย
"ถ้าไม่ใช่เพราะเกลียดขี้หน้ากันแล้ว มันจะมีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ใครคนหนึ่ง ตามใครอีกคนหนึ่งไม่เลิกรา นอกเสียจากความรัก" เมื่อกรวิกได้ฟังคำพูดของมัน ถึงกับตัวชากว่าการช็อก มันเดินมาหาเขา "ฉันหลงรักนายมาตั้งแต่เข้าวงการ แล้วจู่ๆนายเติบโตจนฉันเข้าไม่ถึง เหมือนดาวบนฟ้า ส่วนฉันกระจอกเท่าธุลีดิน ฉันถึงถีบตัวเองทุกวิถีทางให้เท่านายให้ได้...แล้ววันนี้ก็มาถึง" ว่าแล้วส่งตาเชื่อมใส่ ทั้งยังลูบแขนกรวิกไปมาอย่างแสนพิศวาส กรวิกทนไม่ไหว ผลักเจษฎาออกไปอย่างขยะแขยง
"ถ้ารักจะอยู่ร่วมโลกกันต่อไป มึงอย่าพูดแบบนี้กับกูอีก" กรวิกเดินหนี เจษฎาตามติดทั้งจิกทั้งตี
"ถ้านายไม่ยอมตามเงื่อนไขของฉัน ก็เตรียมโดนเขี่ยจากวงการได้เลย" เขาถามเงื่อนไขอะไร? "ค้างที่นี่ ยอมให้ฉันทำอะไรก็ได้ แลกกับรูปพวกนั้น"
"ยอมให้ทำอะไรก็ได้ งั้นเหรอ" กรวิกยิ้ม แล้วลั่นกำปั้นยัดปากเจษฎาโป้งเดียว ยันโครมอีกที แล้วยังตามเตะซ้ำ "อย่าว่าแต่กูจะต้องออกจากวงการเลย ต่อให้กูต้องตาย แล้วกลับไปจนไม่มีจะกินเหมือนเดิม กูไม่มีวันยอมตามเงื่อนไขอัปรีย์ของมึง มึงจำไว้" ตบด้วยหลังมืออีกครั้งจนมันล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเดินออกไป...มันเช็ดเลือดที่ปาก มองตามกรวิก ฝังความแค้นใส่กะโหลกจนเต็มปรี่
กรวิกเหยียบน้ำมันรถ พุ่งไปตามถนนเหมือนจะบิน แล้วก็เบรกเอี๊ยดลั่นโลก หยุดลง ทุบพวงมาลัยระบายความคับแค้นใจและจนแต้ม...จากนั้นก็ขับต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ตอนนี้ เขากระหายอยากจะซบลงบนอ้อมแขนใครสักคน แต่ไม่รู้ จะไปหาใครดี?

ooooooo

ดึกคืนนี้ เมนี่เดินออกมารับลมทางหน้าบ้าน... หารู้ไม่ว่า กรวิกขับรถวนเวียนไร้จุดหมาย แต่เมื่อนึกได้ จึงพุ่งรถมายังบ้านเมนี่ จอดรถ จะลงไปกดออด แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ...ขึ้นรถขับออกไป เมนี่หันไปมอง เห็นท้ายรถ ไวๆ ทีแรกสนใจแต่แล้วกลับคิดว่า ไม่ใช่รถคนรู้จัก หรือกรวิกจะขับมาทำไมดึกป่านนี้...
ส่วนช่อลดา คืนนี้เธอนอนนั่งยืน คิดไป พอนึกได้กลับลงมานอนเขียนจดหมาย...หารู้ไม่ว่า รถของกรวิกวิ่งมาจอดที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอ...เขาทอดถอนใจ เพราะที่นี่เคยเป็นที่ที่เขาหักห้ามใจ ไม่ควรจะมา แต่ก็มาจนได้ เมื่อเขาต้องการใครสักคนที่จะมาเป็นความอบอุ่นในใจได้บ้าง มองไปบนห้อง ไฟในห้องเอยยังสว่าง สงสัยว่าดึกแล้ว ทำไมเอยไม่นอน...แล้วเขาตาสว่าง เมื่อเห็นช่อลดาเดินมาที่ระเบียง เธอกอดอกยืนคิดอะไรสักอย่าง...แสงจันทร์นวลอร่ามสาดแสงลงมาอาบร่างของเอย ดูช่างงามตาดุจนางฟ้าก็ไม่ปาน...เอยไม่รู้ว่า กรวิกกำลังยืนชมความงามของเธอในยามสงบสงัดอย่างนี้

ooooooo

เช้าวันนี้ เมื่อกรวิกพาลูกน้องทั้งสองเข้าไปในวิชั่น พอสสิเบิล ต่างก็ทักถามถึงช่อลดาที่ไม่ได้มาด้วย ยังไม่ทันจะเดา เสียงคนในที่นั่นส่งเสียงฮือฮา ร้องว่าสวยจังเลย...พอหันไป ช่อลดาเยื้องย่างมาในมาดเข้มที่แต่งตัวสวยใส สดชื่นอิ่มเอิบกว่าทุกวัน กรวิกเห็นแล้วถึงกับตะลึง เสียงหลายคนบอกว่า พี่ดวงแก้วเห็นคงจับเซ็นสัญญาเป็นนางเอกในสังกัดแน่ มีเสียงถาม มีนัดตอนเย็นหรือเอย? กรวิกตอบแทนดังๆว่า ถามทำไม คงเป็นวันพิเศษของคู่หมั้นเขามากกว่า...


แต่เมื่อเข้าไปในสำนักงาน ช่อลดาจึงเคลียร์งานกับกรวิก...เธอแจงรายละเอียดคิวต่างๆทั้งเดือนให้กรวิกฟัง ภัทรมายืนมองตกใจ เคลียร์ทั้งเดือนล่วงหน้า กรวิกหรือจะจำได้ แต่แล้วภัทรจึงดึงกรวิกไปแต่งตัวก่อนให้สัมภาษณ์หนังสือฉบับหนึ่ง ช่อลดา ตามเรียกพี่วิกมาถาม
"ให้สัมภาษณ์เสร็จพี่วิกมีธุระหรือเปล่าเอยอยากชวนพี่วิกไปทานด้วยกันน่ะค่ะ" กรวิกมองยิ้มที่เอยส่งมาให้ด้วยความแปลกใจที่เอยชวนไปทานข้าว...มีหรือเขาจะปฏิเสธเธอได้อีกทางหนึ่ง เมนี่แต่งตัวสวยเช้งไม่น้อยหน้าใคร หิ้วปิ่นโตเข้ามาถามภัทรว่าวิกไปไหน ลักษณ์มาทักทาย เมนี่ไม่อยากมองเขารีบบอกว่ามารับน้องเอย ภัทรจึงบอกทั้งสองคน
"วิกกับเอยไม่ได้อยู่ที่นี่ เพิ่งออกไปทานข้าวด้วยกันเมื่อกี้นี้เองค่ะ"
เมนี่ฟังแล้วเซ็งทันที หิ้วปิ่นโตที่จะมาให้กรวิก เพื่อไปทานด้วยกัน เมนี่เดินกลับไปที่ลานจอดรถ พอหารีโมตไม่พบจึงเปิดรถไม่ได้ ลักษณ์เองหนีพวกภัทรกับไมค์และชนม์ เขามาขึ้นรถ ขับผ่านรถเมนี่เห็นเธอกดแล้วก็ไม่สำเร็จ จึงจอดถาม จึงรู้ว่ารีโมตเสียใช้ไม่ได้ ลักษณ์จึงอาสาไปส่งเมนี่ไม่สน จะไปตามคนในออฟฟิศมาช่วยตามช่าง เขาบอกว่าไปกันหมดแล้ว จะเรียกมอเตอร์ไซค์อาจเปียกฝน...เมนี่นิ่งคิด...เขาเชิญพร้อมเปิดประตูรถให้ เมนี่จำกอดปิ่นโต เข้านั่งในรถอย่างไม่มีทางเลือก...

ooooooo

ส่วนกรวิกขับรถพาเอยไปติดไฟแดงหน้าโรงแรม หรูแห่งหนึ่ง ทั้งสองต่างจำได้ว่าเมื่อ 8 ปีก่อนกรวิกบอกว่า ถ้าเป็นพระเอกจะพาน้องเอยมากินอาหารบนชั้นสูงสุดนั้น อยากรู้ว่า กินข้าวใกล้ๆสวรรค์กับคนที่เรารัก มันจะมีความสุขแค่ไหน?
"อย่าให้เอยรอจนต้องถือไม้เท้าเดินเขยกขึ้นไปก็แล้วกัน"
"พูดอย่างนี้ จับจูบปากซะดีไหมพูดดีนัก" เขาโน้มหน้าลงมาชิดปากเธอ เอยนั่งตัวตรง มองไปยังคนบนรถเมล์ พร้อมกับปราม...อย่านะพี่วิก...กรวิกหัวเราะ...หยอกด้วยคำพูด... ยายบ๊องเอ๊ย...
กรวิกสอดมือไปกอดเอยไว้ อีกมือจับมือเอยไว้แน่น...สายตาทั้งสองคู่ประสานกัน...ค่อยๆเห็นโลกกลายเป็นสีชมพู... ช่างน่าอภิรมย์ยิ่งนัก...เมื่อทั้งสองลงรถที่หน้าโรงแรมหรูแห่งนั้น ช่อลดาถามเขาว่า เขาจำได้ไหม เคยพูดอะไรกับเอยไว้ เขานิ่งเงียบ เอยผิดหวังเล็กน้อย แล้วกลับสู่บรรยากาศเดิม
"เราจะขึ้นไปทานข้าวบนชั้นบนสุดของที่นี่ พี่วิกสั่งได้เต็มที่เลยนะคะ เอยเป็นเจ้ามือเอง"แล้วทั้งสองพากันขึ้นไปสู่ชั้นบนเทียบด้วยแดนสวรรค์ในเมืองมนุษย์ กรวิกสงสัยว่าทำไมวันนี้เอยถึงได้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ...
ที่ชั้นบนสุด โรงแรมหรูเลิศประเสริฐศรี มองเห็นสายน้ำคดเคี้ยวและขอบฟ้าสุดสายตา เอยสั่งอาหารมาเพียบจนกรวิกบ่น แต่แล้วเอยบอกว่า อยากรู้ว่าสั่งอาหารจานโปรดให้พี่วิกครบหรือไม่ กรวิกกวาดตาดูทีละจาน ร้องขึ้นว่า อุตส่าห์จำได้...เอยบอก
"จำจนขึ้นใจต่างหากค่ะ...เอยเคยบอกแล้วไงไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับพี่วิกแล้วเอยจำไม่ได้"
ฟังเอยพูดแล้ว เขาอยากสลัดความโกรธแค้นที่แบกไว้ ทิ้งให้หมดแล้วกอดเอยไว้ดั่งใจปรารถนาแต่ทำไม่ได้ เพราะเธอมีคู่หมั้นแล้ว เขาจึงก้มหน้าก้มตาถาม
"แล้วที่พามาเลี้ยงนี่ เนื่องในโอกาสอะไร"
"ไม่มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ เอยเลี้ยงเพราะอยากเลี้ยง บางทีอาหารมื้อนี้อาจเป็นมื้อที่ทำให้พี่วิกมีความทรงจำที่ดีกับเอยบ้าง"
เอยมองตากับเขาด้วยรอยยิ้ม เธอชูแก้วไวน์ขึ้น
"ดื่มให้กับความสุข ความสำเร็จ และอนาคตสดใสของพี่วิกค่ะ"
ทั้งสองชนแก้ว กรวิกหลบตาเอย ซ่อนความรู้สึกเขินไว้...
จากนั้น ช่อลดาชวนกรวิกไปยังโบสถ์แห่งหนึ่ง เขาตามไปนั่งข้างๆเธอต่อหน้าพระแม่มาเรียและองค์พระเยซูคริสต์... เขาไม่รู้ว่าเธอไหว้แล้วอธิษฐานว่าอย่างไร แต่เธอพึมพำ ประสานมือสงบนิ่งนาน...เขาปล่อยให้เธอกราบพระอย่างสงบเท่าที่เธอต้องการ กระทั่งออกมาจากโบสถ์แล้ว กรวิกถึงได้ถามว่า เธอมาที่นี่ทำไม? เอยบอกทันทีว่ามาทำใจให้สงบ กรวิกย้อนถามทันที
"ใจเธอไม่สงบ เพราะฉัน งั้นหรือ"
"ไม่ใช่ค่ะ เพราะเอยเอง เอยไม่สงบเอง"
เอยมองเขา ยิ้มจืดชืดให้กับตัวเอง กรวิกเดินตามเธออย่างละอายใจ ด้วย รู้ว่า เขาบั่นทอนจิตใจเธอมากเพียงใด แต่เอยไม่เคยโทษเขาแม้แต่น้อย...
เมื่อกรวิกขับรถพาเอยมาส่งที่หน้าอพาร์ตเมนต์ เอยยังนั่งนิ่งพยายามกลั้นน้ำตาไว้เต็มที่เขาถามทันทีว่า อยากไปไหนอีกหรือถึงไม่ลง เอยมองหน้าเขานิ่ง น้ำตาเริ่มเอ่อ เขาถามว่าเป็นอะไรไป?
"อยากจำหน้าพี่วิกไว้นานๆ พี่วิกต้องอยู่รับความสุขความสำเร็จไปอีกนานเอยเป็นกำลังใจให้นะคะ"
"คำพูดแบบนี้ ฉันเคยได้ยินเธอพูดมานานแล้ว"
"ที่พูดซ้ำ ให้แน่ใจว่าพี่วิกจะจำได้ว่าเอยรู้สึกอย่างนั้น จริงๆ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้นะคะ"
"ฉันสิต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเธอ ก็เธอเป็นคนพาฉันไปเลี้ยงข้าว ลืมแล้วหรือ ยายบ๊อง"
"พี่วิก..." เอยยิ้มดีใจ
"เอยไม่ได้ยินพี่วิกเรียกเอยอย่างนี้ มานานมากแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ยังจำยายบ๊องคนนี้ได้"
เธอจ้องเขานิ่งกรวิกเองก็อึ้ง ที่หลุดเรียกเอยแบบนี้เหมือนหลายปีก่อนโน้น เขาจึงแก้เก้อ เร่งให้เอยขึ้นไปนอนได้แล้ว... เอยจ้องมองเขาอีกเหมือนจะตราตรึงภาพของเขาฝังใจไว้ให้นานเท่านาน ก่อนจะเดินจากไป...เขามองตามเอย แล้วได้แต่ทอดถอนใจ...ก่อนจะขับรถกลับ...

ooooooo

ตลอดเวลาที่กรวิกนั่งรถไปทานอาหารด้วยกันนั้น ลักษณ์เองก็มีโอกาสพาเมนี่นั่งรถไปส่งที่บ้าน แต่ด้วยฝนและพายุลงอย่างหนัก การเดินทางจึงต้องล่าช้า รถติดเป็นตังเม...
เมนี่กอดปิ่นโต แล้ววิตกกังวลเรื่องกรวิก...ลักษณ์จึงแกล้งดึงปิ่นโตมา เมนี่ตกใจมองตาขวาง เขาถอดปิ่นโตออกบอกเธอว่า รถติดจะถึงเช้าก็ยังไม่รู้ หิวแล้วขอกินมั่ง เมนี่ด่าว่าไร้มารยาท เขาดีใจที่เธอพูดได้ จึงหยอดให้ว่า...จะชวนกินก็ไม่ชวน หรือทำมาให้ใครก็ไม่รู้ เมนี่เคืองถูกจี้ใจ บอกทันทีว่า เธอเอามากินเอง...ว่าแล้วหยิบช้อนตักกินให้เห็นกับตา...ลักษณ์ชอบใจกินไปถามไปว่ามีอะไรบ้าง เมนี่ก็อวดอาหารที่ทำมาเพราะคิดว่ากรวิกชอบหลายอย่าง ลักษณ์กินไปชวนคุยไป แล้วแกล้งตำหนิไป เมนี่ขุ่นใจอยากเอาปิ่นโตทุ่มหัวให้ตายไปเลย...

ใจร้าว ตอนที่7

ตอนที่ 7
ขณะที่ภัทร กินเลี้ยงจนเมาเป๋ กลับขึ้นห้องนอนตอนดึก ถึงตาสว่างทันที
เมื่อเห็นเมนี่ออกมาจากห้องกรวิก จึงเข้าไปทักเมนี่ว่า ออกมาจากห้องกรวิก
ถึงกับเล่นรำมะนากันแล้วหรือ เมนี่ร้องว่าบ้า เธอเข้าไปดูว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า
ภัทรเมาไปพล่ามไปว่า
ไปจ้องหน้าเป็นปลากัดงั้นเรอะ แล้วทำปากซู้ดๆ จนเมนี่ต้องอธิบายว่าไม่มีอะไร
แล้วได้รู้ว่ากรวิกเป็นสุภาพบุรุษ ว่าแล้วยิ้มหวานสะท้านทรวงเดินเลยไป
กรวิกยังนอนไม่ได้ เขาออกจากห้องลงไปในผับของโรงแรม
หารู้ไม่ว่าแสงฉายหรือแม่แซนดี้กำลังอยู่กับปรัชญา
โดยแซนดี้ได้ที่ยืนเต้นโยกๆคลึงๆอยู่หน้าโต๊ะที่ปรัชญานั่งดื่ม
ปลื้มสุดๆ เป็นโต๊ะสุดท้ายอ้างว่าเป็นการฉลองฮันนีมูนกัน
พอปรัชญาหันไปเห็นกรวิก จึงบอกว่านี่ซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย
แซนดี้เห็นเข้าเท่านั้น ถามว่าที่เป็นเจ้าบ่าวในงานชายหาดใช่ไหม
นอกจากจะจ้องเอาๆจนปรัชญาชักไม่ชอบใจ แต่แซนดี้หิ้วไวน์
กับแก้วไปหากรวิกที่โต๊ะเสียแล้ว ปรัชญาจึงตามไปทันที
"สวัสดีค่ะ คุณกรวิก นั่งคนเดียวหรือคะ ขอนั่งเป็นเพื่อนได้ไหมคะ"
"ผมปรัชญา แล้วนี่แสงฉาย แฟนผมเอง" ปรัชญารีบกันท่า แสงฉายยื่นมือให้กรวิกจับ
"สวัสดีครับ" กรวิกว่า แต่ไม่ยอมจับ แสงฉายหรือแซนดี้จะนั่งตรงข้าม
กรวิกรีบบอกเสียงห้วนๆ
"ผมไม่ต้องการเพื่อน ไม่ต้องการใคร ต้องการความเป็น ส่วนตัว"
ว่าแล้วรินไวน์ลงแก้ว ดื่มไม่สนใจใครในโลก ปรัชญา
ฉุนขาดที่ถูกมองข้ามหัว...ตรงข้ามแซนดี้ เธอเหมือนทหารหญิง
ผ่านศึก ชายหนุ่มคนนี้เหมือนข้าศึกที่ท้าทาย สมควรพิชิตให้ได้...
ooooooo
วันนี้ หลังจากไปรับส่งเมนี่จากบ้านเธอแล้ว กรวิก จึงไปตามช่อลดาที่อพาร์ตเมนต์
ไม่พบใคร โทร.หาก็ ไม่มีใครรับ จึงหงุดหงิด กดเบอร์อีกอย่างไม่นับ...
ที่เตียงคนไข้ในโรงพยาบาล ช่อลดามองมือถือข้างเตียง กำลังจะเอื้อมมือไปรับ
ลักษณ์นำหน้าพยาบาลเข้ามาเห็นพอดี จึงขอให้เอยพักก่อน
อย่าเพิ่งรับโทรศัพท์เลย ให้ทานยาหลังอาหาร ลักษณ์หยิบมือถือเอยมาดู
รู้ว่ากรวิกโทร.มา ลักษณ์ซักถามอาการ ยังทานอาหารไม่ค่อยได้
เขาจึงบอกว่าอาการของเอยไข้ขึ้นสูง จนช็อก มีอาการข้างเคียงตามมาหลายอย่าง
อาจอาเจียนสอง สามวัน แล้วจะค่อยดีขึ้น ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน
"พี่อยากให้เอยพักผ่อนให้เต็มที่ หยุดคิดทำอะไรที่ ทำให้เครียด
พี่จะโทร.ไปลางานให้ โทรศัพท์เครื่องนี้พี่จะคืน ให้ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล
ตกลงไหม" เอยพยักหน้าตกลง หมอลักษณ์ลูบผมเธออย่างห่วงใย
พยาบาลเอาน้ำเกลือมาเปลี่ยนขวดใหม่ ลักษณ์จึงให้บอกประชาสัมพันธ์
"ถ้ามีใครโทร.มา หรือมาขอพบคุณช่อลดา บอกว่าไม่มีคนไข้ชื่อนี้มารักษาตัว
ผมไม่ต้องการให้ใครมารบกวน คนไข้ของผม"
หมอลักษณ์หารู้ไม่ว่า กรวิกที่กดมือถือหาช่อลดาแทบมือหงิกนั้น
พอไม่ติด เกิดอารมณ์แค้นประกาศออกมาแบบองุ่นเปรี้ยว
"โธ่เอ๊ย ทำอะไรที่ไหนวะ...คิดว่าฉันจะใส่ใจนักเรอะ... ไม่มีทาง"
ooooooo
ภัทรมาที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งของเมืองบางกอก
แล้วก็ตาโตเมื่อที่แผงขายหนังสือผู้คนมารุมซื้อกันชุลมุน ภัทรโผล่หน้าเข้าไปดู
คอย่นทันที เพราะหน้าปกนิตยสารหลายฉบับมีรูปกรวิกอุ้มเมนี่อยู่ครึ่งหน้า
อีกครึ่งหน้ามีรูปกรวิกอุ้มช่อลดาอยู่ด้วย...ภัทรหลบหัวหนีไปกดมือถือถึงดวงแก้ว
แล้วรายงานอย่างไม่หายใจ หายคอ ดวงแก้วเองก็เต้นเหยง ฟังเรื่องแล้วว้ากทันที
"ใครมันกล้าหักหน้า วิชั่น พอสสิเบิล...เธอซื้อมาเลยภัทร กวาดให้หมดแผง
แล้วเข้ามาเดี๋ยวนี้"
ภัทรหันไป...ช้าไปแล้ว ไม่รู้ผู้คนมาจากไหน ซื้อคน ละเล่มสองเล่มเกลี้ยงทันที
ขอซื้อจากคนที่ได้มาแล้ว ให้ราคาแพงหูฉี่ ยังไม่ยอมขาย...ภัทรต้องรีบเผ่นไปหาให้ได้...
ที่ห้องทำงานพี่ดวงแก้ว ผู้ยิ่งยงในวงการบันเทิงไทย
กำลังสัมมนากับเจษฎาช่างภาพมือดีอย่างชนิดเชือดเฉือนกันด้วยเหลี่ยมคู เ
จษฎายอมรับว่าฝีมือเขาเอง แล้วยังเอาบุญคุณว่าอุตส่าห์เลือกรูปกรวิกกับ
ผู้จัดการส่วนตัวที่ไม่ค่อยชัด รักษาน้ำใจพี่ดวงแล้ว
ดวงแก้วสั่งภัทรให้ตามกรวิกกับเมนี่มาแถลงข่าว เรื่องนี้ที่สถานีด้วย ออกอากาศค่ำนี้เลย
เมื่อภัทรออกไปแล้ว ดวงแก้วหันมาเจรจากับเจษฎา ดวงแก้วมีข้อเสนอ
"เพื่อแลกกับภาพที่เหลือทั้งหมดเพื่อลงพิมพ์ในนิตยสาร เล่มใหม่ของฉัน..
.ที่มีเธอเป็นเจ้าของ...ฉันจะลงทุนเปิดบริษัทให้เธอ เราจะทำนิตยสารแข่งกัน
เธอจะได้นั่งตำแหน่ง บก.อย่าง ที่ฝัน...เธอเล่นข่าวชู้สาวดาราตามถนัด
จะไม่มีใครรู้ว่านายทุนของเธอคือใคร นอกจากเราสองคน
การแข่งกันทั้งสองฉบับในที่สุดเงินก็ไหลเข้ากระเป๋าเดียวอยู่แล้ว"
ทั้งสองยิ้มให้กัน อย่างเสือผจญสิงห์
ooooooo
โสภิตาที่ปลื้มมานาน ยุยงส่งเสริมให้ลูกสาวได้รักกับพระเอกกรวิก
แล้วมั่นใจว่ากรวิกกับเมนี่รักกัน แน่นอน...แต่วันนี้กลับตื่นเต้น
เมื่อพวกพ้องโทร.มาบอก เรื่องรูปกรวิกกับเมนี่ที่ลงนิตยสาร
มีรูปกรวิกกับสาวอื่นด้วย โสภิตาตกใจไม่เชื่อ วิ่งแจ้นไปถามลูกสาวทันที
เมนี่บอกแม่ว่า คงเป็นเรื่องในละครมากกว่า แต่เมื่อแม่ยืนยัน จึงถามแม่ว่า มีด้วยหรือ?
พอดีภัทรโทร.มาหา พอเมนี่รู้ว่ากรวิกอุ้มช่อลดาด้วย เมนี่รีบบอกจะไปเดี๋ยวนี้เลย
สั่งให้แม่ดูข่าวตอนค่ำให้อีกด้วย...
จากนั้นไม่นานทุกคนก็มาพร้อมที่ห้องประชุม โดยมี คุณดวงแก้วนั่งหัวโต๊ะ
กรวิกดูนิตยสารแล้วโยนลงบนโต๊ะ บ่น ถึงนายเจษฎาที่ตามจองล้างจองผลาญเขา
ดวงแก้วว่าเรื่องนี้ไว้ทีหลัง แต่อยากรู้เรื่องกรวิกกับช่อลดามากกว่า
กรวิกจึงอธิบายว่า ไปถึงโรงแรมหัวหินยังมีเวลาจึงให้เอยไปทำธุระส่วนตัว
ทรเล่าต่อว่า เขาเห็นเอยลงเล่นน้ำ กรวิกว่าต่อ เขาเห็นเล่นน้ำนาน
จึงไปตาม จู่ๆเธอตัวร้อนลมจับ เขาจึงอุ้มมาที่ห้อง
จะผ่านล็อบบี้กลัวนักข่าว หลบไปบันไดหนีไฟก็เป็นข่าวอีกจนได้
ดวงแก้วจึงให้กรวิกตอบนักข่าวตามสคริปต์ ที่ภัทรจะเอาให้อ่านระหว่างนั่งรถไปสถานี
ส่วนเมนี่ต้องตอบตามความเป็นจริง...
ooooooo
กรวิกและเมนี่เข้ารายการสีสันบันเทิง ฝ่ากลุ่มนักข่าวเป็นร้อย พิธีกรกล่าวนำเข้าสู่รายการ
และทั้งสองดาราอื้อฉาวเข้านั่งประจำที่ท่ามกลางเสียงปรบมือเกรียวๆ
และประเด็นที่จะสัมภาษณ์วันนี้คือความอื้อฉาวของดาราดังทะลุฟ้า
ที่โชว์อร่ามบนปกนิตยสาร สร้างความฮือฮาไปทั่ว ว่ารูปไหนคือนางเอกตัวจริงของกรวิก
"รู้สึกว่านางเอกจะมีอยู่คนเดียวนะครับ" กรวิกชี้ไปที่รูปอุ้มเมนี่ทันที
เสียงผู้คนฮือฮา บ้างก็กรี๊ดจนแสบแก้วหู พิธีกรรีบตอกย้ำว่า น้องเมนี่คือนางเอกตัวจริง...
"นางเอกในจอนะครับ ส่วนนอกจอ ก็คงต้องรอดูกัน ต่อไป" กรวิกพยายามให้เป็นลูกเล่น
พิธีกรหันไปถามทางเมนี่...มีเสียงว่า คงไปแต่งงานกันมาแล้ว
ถึงมีรูปแบบนี้หลุดออกมา เมนี่รีบบอกว่าเราสองคนไปโปรโมตงานการท่องเที่ยว
ชักชวนคู่รักให้มาแต่งงานกันที่หัวหิน ไม่มีอะไรจริงๆ กรวิกเสริมทันที

"ถ้าจะมีก็เป็นเรื่องน่ายินดี ซึ่งเราจะประกาศให้ทุกคนทราบ

และเชิญไปร่วมงานด้วยอยู่แล้ว ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องแอบแต่งนี่ครับ"

เสียงปรบมือเกรียวอีกครั้ง...จากนั้นพิธีกรหันมาอีกประเด็น

เกี่ยวกับผู้หญิงอีกคนที่กรวิกอุ้มอีก รูปนั้นเป็นใคร และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด?
คำถามนี้ ทุกคนเงียบกริบ สายตาจ้องไปที่กรวิก...
ช่อลดานอนบนเตียงในห้องพักคนไข้ แต่สายตาจ้องจับที่จอทีวี...

เช่นเดียวกับลักษณ์ที่ยืนจ้องทีวีเช่นกัน...กรวิกยิ้มตอบอย่างสบายๆ
"ผมขอตอบว่า ผมไม่รู้จักผู้หญิงที่อยู่ในรูป ผู้ชายในรูป อาจเป็นใครสักคนที่คล้ายผม

แต่ไม่ใช่ผม จะเมกรูปเป็นผมทั้งที น่าจะลงรูปให้มันชัดสักหน่อย"

ช่อลดาฟังแล้วเสียใจวูบ ทันที ไม่คิดว่ากรวิกจะตอบอย่างนี้ แล้วได้ฟังต่ออย่างช้ำหนักอีก

กรวิกตอบคำถามที่ว่า อาจมีผู้หญิงคลั่งไคล้อยากกอดเขา ทำภาพตัดแต่งคอมพิวเตอร์ก็ได้
ลักษณ์มองช่อลดา เห็นเธอน้ำตาคลอ เขาหยิบรีโมตขึ้นมากดปิดจอทันที เธอเอ่ยขึ้น
"เขาคงมาช่วยเอยตอนที่เอยเป็นลม ไม่ได้มีอะไร"
"เรื่องบางเรื่องพี่ก็ไม่อยากรู้ เอยก็เหมือนกัน เรื่องอะไร ที่ทำให้เราไม่สบายใจ

ก็ทำปิดหูปิดตาไปซะ ที่ต้องใส่ใจตอนนี้ คือสุขภาพของเราเอง เอ้า

พักผ่อนได้แล้ว คืนนี้พี่จะเฝ้าเอยเอง"
เขาห่มผ้าให้ เอยหันหลังให้ซ่อนน้ำตา ลักษณ์รู้ดีว่าเอยปวดร้าวใจแค่ไหน...
ส่วนกรวิก เมื่อมาส่งเมนี่ที่บ้าน ถามเธอเรื่องเอย เมนี่ บอกเธอไม่ได้คิดอะไร

แต่ก็อยากให้เขาอยู่กับตัวเองให้มาก เพราะเขาอาจมีเรื่องต้องคิดมากเรื่องนี้
"เมนี่ไว้ใจและเชื่อใจคุณ คนอย่างคุณไม่มีวันคบผู้หญิงสองคนได้ในเวลาเดียวกัน

สบายใจเถอะนะคะ" กรวิกฟังแล้วยิ้มให้เมนี่ ยิ้มอย่างปวดช้ำในใจ...
เพราะหลังจากส่งเมนี่แล้ว เขามุ่งตรงไปยังอพาร์ตเมนต์เอย

ก็พบกับความชอกช้ำทับถมเข้ามาอีก...เมื่อพบแต่ความว่างเปล่า เขายืนนิ่ง

แต่รู้สึกเคว้งคว้าง ด่าและชิงชังตัวเอง
"ไอ้วิก ทำไมไม่กลับบ้าน มาที่นี่ทำไม...เขาอยู่ดีมีสุข กับคนของเขาแล้ว

โง่ไปถึงไหน ไอ้บ้าเอ๊ย"
กรวิก พระเอกดังถึงทางช้างเผือก กลับมาจนตรอก เขาเตะซ้ายป่ายขวา

แล้วนั่งกุมขมับ ถามตัวเองว่า แกคือใคร กำลังตกอยู่ในสภาพแบบไหน?
ขณะเดียวกัน เอยนอนเหมือนหลับ แต่ยังตื่นตัวและ ประคองตัวเองให้มีชีวิตอยู่

บัดนี้เธอเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพี่วิกไปแล้ว...กำลังจะยกมือเช็ดน้ำตา

เหมือนถูกรั้งไว้ เอยมองไปเห็นลักษณ์หลับอยู่ข้างเตียง แต่มือยังกุมข้อมือเธอไว้

เขาซบหลับข้างเตียงของเอย เอยมองเขาอย่างเทิดทูนบูชา

ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้เธอชอกช้ำใจแม้แต่น้อย...

ooooooo

คุณปราชญ์มากดออดหน้าห้องพักที่อพาร์ตเมนต์ ของปรัชญาลูกชาย

พอลูกหัวยุ่งงัวเงียมาเปิดรับ จึงถามอย่างไม่พอใจว่า เขาประชุมกันแปดโมง

ทำไมแกไม่เข้าประชุม นี่ 11 โมงแล้ว เพิ่งโงหัวจากที่นอน...
ขณะนั้นเสียงแสงฉายหรือแม่แซนดี้ร้องถามว่าใครมา เสียงเอะอะเชียว

เธอพาผมกระเซิงมายืนให้คุณปราชญ์เห็น พอรู้ว่าพ่อเขา แซนดี้ยกมือไหว้

เขาแนะนำแซนดี้ว่า เธอเพิ่งมาจากนิวยอร์กไม่กี่อาทิตย์นี้เอง พ่อจึงดึงลูกชายไป

โดยขอตัวไปพูดกับลูกหน่อย
เมื่อดึงลูกชายมายังมุมหนึ่ง จึงเล่นงานว่า เขาทำบริษัทเสียหายมาก

ที่ดึงเอาโครงการผลิตยามะเร็งมาไม่ได้ เมื่อลูกชายบอกไม่รู้เรื่อง

พ่อจึงสำทับว่า ส่งเอกสารให้เป็นอาทิตย์แล้ว ลูกไม่เคยพลิกดู ไม่รับผิดชอบอะไรเลย
"ฉันขอเตือนแกไว้ อย่าเสียคนเพราะผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นภรรยาคนอื่น"
"พ่อรู้จักแสงฉายด้วยหรือ"
"แกลืมแล้วหรือ พ่อบินไปนิวยอร์กปีนึงเป็นสิบครั้ง รู้จักคนไทยแทบทุกคน

หมอลักษณ์เป็นคนดี อย่าให้เราต้องเสียบุคลากรมือหนึ่งไป

เพราะเรื่องชู้สาวคาวโลกีย์ของแก มันทุเรศสิ้นดี"
ปราชญ์หันหลังเดินหนีไป ปรัชญากำมือแน่น ไม่พอใจพ่อที่มาด่า

ooooooo

เมื่อกรวิกจนปัญญาไม่รู้ว่าเอยหลบไปอยู่ที่ไหน แล้วเขาก็มาลงที่ภัทร

ทั้งดึงทั้งจิกมาคาดคั้นว่าเอยอยู่ที่ไหน ภัทรเองก็จนด้วยเกล้าที่เมื่อเอยไม่โทร.มาหาเขา

จึงไม่อาจรู้ได้ เอยจมน้ำตั้งนาน คงป่วยหนักนอนซมไปแน่ๆ กรวิกฟังเรื่องเอยจมน้ำ

เหมือนที่นายลักษณ์อ้างเหตุมาเล่นงานเขา จึงคาดคั้นภัทรให้เล่าเรื่องให้ฟัง...

ตอนที่ลักษณ์กับภัทรตามไปพบเอยนอนจมน้ำหวิดตายที่ชายหาด แล้วย้ำ
"ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วยังจะลงไปว่ายให้แดดเผาจนเป็นไข้" ภัทรสรุป

กรวิกฟังแล้วตกใจเมื่อรู้ว่าเอยว่ายน้ำไม่เป็น ภัทรย้ำว่าคุณลักษณ์บอกภัทรเองว่า

เอยเคยจมน้ำเกือบตายมาแล้ว...กรวิกร้อนรนถามให้ภัทรหรือคนที่รู้บอกมาว่า

เอยอยู่ที่ไหน รู้เบอร์นายลักษณ์ไหม เขาอยู่ไหน ทำงานอะไร

ภัทรถูกขย้ำคอจนไอค่อกแค่ก แล้วจำต้องรีบตอบเอาชีวิตรอด
"ไม่รู้...รู้แต่ว่าลักษณ์เขาเป็นหมอ เคยเห็นที่โรงพยาบาล แต่ไม่รู้อยู่ที่นั่นรึเปล่า"
กรวิกสั่งภัทรเปิดปากอีกครั้ง แล้วผลักภัทรกระเด็น... จากนั้นแจวอ้าวไปไม่เหลียวหลัง

ooooooo

กรวิกใส่หมวกและแว่นดำกันคนจำได้ ไปถามประชาสัมพันธ์โรงพยาบาล

โดยมีการ์ดสองคนตามคุ้มกัน ถามถึงคนไข้ชื่อช่อลดา

ค้นเท่าไหร่ก็ไม่มีชื่อช่อลดา ถึงขนาดถอดแว่นและหมวก

สาวๆกรี๊ดกันระงมกับดารากรวิก...แต่ไม่มีคนไข้ชื่อนี้...กรวิกไม่รามือ

พอถามถึงหมอลักษณ์ จึงได้เรื่องทันที
กรวิกเข้าไปหาหมอลักษณ์ที่ในห้อง แล้วตั้งคำถาม
"ผมอยากรู้ว่า คุณเอาช่อลดาไปไว้ที่ไหน"
"จะมาตามไปทรมานกันอีกยังงั้นหรือครับ" ลักษณ์ถามหน้าตาเฉย
"ผมอยากรู้คิวผม...หยุดงานไม่บอกกล่าว รู้ไหมว่าผมเสียหายขนาดไหน"
"เอยป่วยขนาดนี้แล้ว คุณยังห่วงแต่งาน ห่วงแต่ตัวเอง

จะมีแก่ใจถามสักคำไหมว่าเอยเป็นยังไง" กรวิกถามทันทีว่าเป็นไง

"เอยยังไม่ตาย ยังอยู่ให้คุณทรมานอีกทั้งปี" กรวิกซักว่าบอกมา

ตอนนี้เธออยู่ไหน...หมอห้าม อย่าไปหาเธอเลย เอยจะไม่ได้พักผ่อน
"ผมจะรู้ได้ไงว่าป่วยจริงป่วยหลอก เกิดแอบลาพักร้อนไปฉลองฮันนีมูนชายหาด

ผมเสียหายมาก เริงสุขบนความทุกข์คนอื่นนะหมอ"
"อย่าคิดว่าผมเป็นนักแสดงอย่างคุณ เที่ยวเผยมายาหลอกคน หลบๆซ่อนๆ ลักกินขโมยกิน"
กรวิกหาว่าหมอดูถูกอาชีพเขา หมอโต้ทันทีว่าเขาก็หมิ่นเกียรติหมอกับเอยเช่นกัน

ทั้งสองแยกเขี้ยวจะเคี้ยวเนื้อสดๆกัน...กรวิกซัดกำปั้นใส่หน้าลักษณ์จนล้มเค้เก้

ก่อนจะใช้วิชามวยกันต่อ พยาบาลเข้ามาเรียกหมอลักษณ์...บอกคนไข้ห้องวีไอพีช็อก

ให้เชิญคุณหมอด่วนที่สุด...หมอลักษณ์ ลุกขึ้นได้ วิ่งไปทันที
ลักษณ์ไปพบหมอพิสิษฐ์ จึงรู้ว่าเอยช็อก กำลังให้เลือด

แต่เลือดกรุ๊ปเอขาดแคลนด้วยรถทัวร์ของมหาวิทยาลัยคว่ำ

มูลนิธิเลยส่งมาที่นี่เพราะใกล้ที่เกิดเหตุ ติดต่อกาชาดแล้ว

แต่ต้องรอเป็นชั่วโมง...จึงสั่งให้ประกาศรับบริจาคเลือดกรุ๊ปนั้นทันที

ก่อนกรวิกจะกลับ ได้ยินเสียงประกาศขอบริจาคเลือดกรุ๊ปเอ

เขาจึงรีบไปติดต่อขอบริจาคเลือดทันที พยาบาลเห็นเป็นซุปเปอร์สตาร์รีบมาเจาะเลือด

ชื่นชมพระเอกกันทั่วหน้า ถือว่าหล่อเป็นดาราแล้วยังมีน้ำใจ...

ขณะที่กรวิกนอนให้เลือดอยู่นั้น พยาบาลเข็นเตียงเอยเข้ามาจอดไว้ข้างๆกรวิก

แล้วยังบอกกรวิกว่า นี่คือคนไข้ที่กรวิกจะบริจาคเลือดให้ เขาพยายามจะมองหน้า

แต่เห็นเพียงด้านข้าง พอจะเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าหน้าที่กลับมารูดม่านบังเสียก่อน...
หมอลักษณ์ออกจากห้องผ่าตัด เสร็จแล้วรีบมาดูเอยที่รอรับเลือดถุงใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน

ส่วนกรวิกหลังให้เลือดแล้ว พยาบาลถอดสายปิดแผลให้ แล้วให้นั่งพักสักครู่ก่อน...

หลังจากเตรียมเลือดที่บริจาคให้เอยแทนถุงเก่าที่จวนหมดลง เมื่อเปิดม่าน

กรวิกจึงเดินไปมองคนที่จะรับเลือดจากเขา...พอจะเห็นหน้าชัด

พยาบาลกลับมาเรียกเขาไปดื่มเครื่องดื่มร้อนๆที่ห้องวีไอพีก่อน

เขาจำต้องเดินตามพยาบาลไป จึงคลาดกับเอยหวุดหวิด
กรวิกไปแล้ว หมอลักษณ์เข้ามาหาเอยที่ยังหลับ เขาบอกพยาบาลอีกชั่วโมง

คนไข้แข็งแรงดีแล้ว พาไปพักที่ห้องเดิม...

จากนั้นหมอไปหาคนที่มาบริจาคเลือดให้เอย เพื่อขอบคุณเขา

หมอลักษณ์กับกรวิกเห็นกัน ต่างอึ้งไป หมอจึงขอบคุณเขาที่มีน้ำใจ

บริจาคเลือดให้คนไข้ของเรา...กรวิกขอคุยกับหมอ ถามว่าเอยอยู่ไหน

ถ้าคุณหมอบริสุทธิ์ใจควรบอกเขา เขามีสิทธิ์รู้ว่าคนของเขาเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน

แต่หมอกลับ ยืนยันว่า ไม่มีวันเปิดปากบอกเขาแน่...
หมอเดินออกจากห้องนั้น กรวิกวิ่งตามเรียกไว้ แต่บรรดาแฟนคลับในโรงพยาบาลร้องเรียกกรวิก...

หลายคนกรูกันมารุมล้อมกรี๊ดกร๊าด ทั้งขอจับมือ ทั้งขอลายเซ็น

ไมค์กับชนม์ต้องวิ่งมาทำหน้าที่กันกรวิกหนีให้ได้...


หมอลักษณ์มาหาเอยในอีกหลายชั่วโมงต่อมา เมื่อเอยตื่นขึ้นมา
สีหน้าสดใสด้วยเลือดบริจาคของกรวิก หมอบอกดีใจที่เอยหายดี
แต่เขากลับช้ำลึกอยู่ภายในว่า ทำไมต้องเป็นไอ้หมอนั่นมาต่อลมหายใจให้เอย...
ลักษณ์ฝังความเจ็บปวดไว้ภายในแต่ผู้เดียว...
คนที่เจ็บช้ำไม่พอใจเอยอีกคนคือทอปัด เธอเกลียดเอยหนักขึ้น
หลังจากเห็นเอยถูกพี่กรวิกของเธออุ้มในหน้าปกหนังสือ...
เกลียดเอยยิ่งกว่าเมนี่เสียอีก...แล้วยังลามไปถึงเจษฎา
ไอ้คนไปแอบถ่ายมาลงหนังสืออีกด้วย
ส่วนกรวิกจะไม่ไปงานเปิดหนังสือเล่มใหม่ของเจษฎา
แม้จะมีรูปกรวิกลงหน้าปกเป็นปฐมฤกษ์ด้วยก็ตาม
คุณดวงแก้วที่เป็นคนลงทุนให้อย่างลับๆ รีบยืนยันให้กรวิกไปงานนี้ให้ได้
ทั้งนี้เพราะกรวิกยังหงุดหงิดติดข้องใจไม่รู้ว่าลักษณ์เอาเอยไปไว้ที่ไหน
จนบางทีบ่นดังๆ เมนี่ได้แต่ช่วยคิดว่า เอยอาจไม่สบาย
พอจะให้ติดต่อแฟนที่เป็นหมอ กรวิกสั่งห้ามยุ่งทันที...
เมื่อรู้ว่าเมนี่จะอยู่ที่บริษัทจนค่ำ เขาจึงขอตัวไปธุระ แล้วจะมาพบกันตอนค่ำ...

ooooooo

ปรัชญาเข้ามาในห้องทำงาน เห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่
พอเปิดดูจึงแทบจะเต้นเป็นงิ้ว เดินลิ่วๆไปที่ห้องปราชญ์ผู้พ่อทันที
โยนจดหมายลงตรงหน้า ถามพ่อว่าทำแบบนี้หมายความยังไง
ที่ให้บอร์ดปลดเขาจากกรรมการผู้จัดการ
พ่อบอกเขาย้ายไปทำงานลูกค้าสัมพันธ์ที่ลูกถนัด ลูกชายด่าพวกบอร์ดหัวหงอก
พ่อไม่คัดค้าน พ่อยืนยันว่าเราเป็นบริษัทมหาชน ทำตามมติ
เขาลงมติกันตอนแกยังไม่ตื่นมาประชุม ทีหลังต้องหัดมาให้ทันเวลาจะได้รู้เรื่อง
ปรัชญาโดนพ่อย้อนศร จึงปึงปังกลับไป สวนกับลักษณ์ที่เดินมาหาปราชญ์ตามคำสั่ง
ปรัชญาจึงแขวะว่าลักษณ์วางยาอะไร พ่อถึงเรียกได้วันละสามเวลา จึงถูกแขวะซ้ำอีกว่า
ยาที่ดีคือการมาทำงานและเข้าประชุมตามเวลาเป็นยาดีที่สุด...หมอลักษณ์เดินหนีไป
ปรัชญาคำรามตามหลังหมอลักษณ์
"โดนกูสวมเขาจนเหมือนควายแล้วยังจะทำปากดีอีก"
มองตามหลังลักษณ์ไปอย่างหยามหยัน...
ปรัชญากลับมาที่ห้อง เลขาฯหอบแฟ้มมาให้ มีงานมาเต็มอัตรา เขาโยนแฟ้มโครม
บอกเลขาฯว่า จะแยกตัวไปกี่เสี่ยง ถึงจะทำงานตั้งสามสี่งาน
พอเลขาฯบอกมันคนละเวลากัน จึงตะเพิดเลขาฯให้ไปบอกพวกนั้นว่า
ให้กรรมการผู้จัดการใหม่มันทำ เขาไม่ทำม่มีอารมณ์ทำ...พอเลขาฯออกไป
แซนดี้ก็เชิดหน้าเข้ามาทักเสียงใส เขาติงว่าน่าจะโทร.มาก่อน แซนดี้บอกว่ามีข่าวดี

เธอหาทำเลเปิดสปาสาขาโรงพยาบาลนี้ได้แล้ว เช่าเดือนละห้าแสน
ถ้าซื้อก็ 270 ล้าน ถูกม้ากมาก เขาถามว่าเธอจะซื้อหรือเช่า
"ต้องถามคุณสิคะ ก็คุณเป็นคนจ่ายเงินนี่"
ปรัชญากำลังเหี่ยวในอารมณ์ จึงปัดว่าไว้คุยกันวันหลังวันนี้เขามีงาน
ให้กลับไปก่อน แซนดี้ใช้มายาเข้าไปกอดออเซาะ กลับถูกเขาตะเพิดให้ออกไป...
แซนดี้หน้าจืดลง แต่ยังนัดพบกันคืนนี้แซนดี้ผู้กร้านชีวิตเดินออกมา
และเข้าลิฟต์ไปแล้ว งึมงำเยี่ยงนางสิงห์นักล่าเหยื่อมือฉมัง
"นึกว่าฉันจะกลัวแกงั้นเรอะ รอให้ฉันรีดเงินจากแกจนพอใจก่อนเถอะ จะถีบหัวส่งให้ดู"
สัญญาณลิฟต์ดัง แซนดี้ก้าวออกมาแต่พอรู้ว่าผิดชั้น จะกลับก็ไม่ทันแล้ว
จึงได้แต่บ่นว่าวันนี้วันซวยจริงๆพับผ่า...แล้วก็หันไปเห็นลักษณ์ประคองเอยมาที่ลิฟต์...
เกิดอาการผีเข้าทันที
"วันนี้วันซวย แล้วยังมาเจอคุณอยู่กับเมียน้อยพอดี" เอยอุทานชื่อแสงฉายอย่างแตกตื่น...
แล้วแซนดี้ก็กรากเข้ามาทักทายใบหน้าเอยด้วยฝ่ามือ ลักษณ์ช่วยไม่ทัน แต่กรากมากั้น
ตะคอกใส่แซนดี้ว่า ทำรุนแรงเกินไป แซนดี้บอกเขาทำรุนแรงกับเธอมากกว่า
เพราะเอาเมียน้อยมาเป็นเมียหลวงในที่ทำงาน หมอบอกเธอป่วย
แซนดี้ก้าวมาดูว่าป่วยที่ตรงไหน จะตบอีก ลักษณ์จับไว้สั่งสอนหลายคำ
แล้วขู่ถ้าทำตัวแบบนี้ จะไม่ได้อะไรจากเขาอีกแม้แต่บาทเดียว แซนดี้จึงหยุดมือ
แต่ยังสำทับเอยว่าอย่าให้เห็นอีกก็แล้วกัน แล้วเข้าลิฟต์ที่เปิดออกมาพอดี...
หมอได้แต่มองเอยอย่างเห็นใจ
หมอลักษณ์พาเอยมานั่งรอที่ล็อบบี้ ตัวเขาไปรับยาที่ช่องจ่ายยา กรวิกใส่แว่น
หมวกหลุบหน้าเดินมาเห็นเอยนั่งรอ ลักษณ์ถือถุงยามาพาออกจากโรงพยาบาลไป
กรวิกแอบสะกดรอยตาม...ขึ้นรถตามไปจนถึงตึกห้องชุดของหมอลักษณ์
รถหมอเข้าไปแล้ว รถกรวิกถูกกัก เพราะไม่มีบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่...
กรวิกถอดหมวกและแว่นตา พวก รปภ.ร้องเรียกชื่อกรวิกเท่านั้น
ไทยมุงก็กรูกันมาห้อมล้อม ดีใจที่เห็นตัวจริงดาราดังวันนี้เอง
ขอถ่ายรูป เขาจึงให้ถ่ายขากลับก็แล้วกัน จึงหลุดเข้าไปได้
แต่ไม่มีการ์ดรูดเพื่อผ่านเข้าไปในห้องโถงได้ พอดีมีโทรศัพท์ตามไป
งานเปิดนิตยสารใหม่ เขาจึงจำต้องกลับออกไปทันที

ooooooo

ในงานนี้ แม้ภัทรเองก็เพิ่งรู้ว่านิตยสารนี้เจษฎาเป็นทั้งหัวหน้าบริหาร
และบรรณาธิการคนเดียวกัน แล้วดวงแก้วก็เชิดชูเจษฎาอย่างเต็มที่
ทั้งๆที่ปากบอกว่าเป็นคนในวงการเดียวกัน แล้วให้กรวิกกับเมนี่มา
ถ่ายรูปกับเจษฎาอย่างเต็มที่ ภัทรเหมือนจะร้องไห้มากกว่า
เจษฎามองกรวิกอย่างหยันในทีขณะนักข่าวรุมสัมภาษณ์เมนี่
กรวิกเดินหลบออกมาดื่มไวน์พรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อนึกถึงเอย
ที่ถูกหมอลักษณ์พาหนีไป แล้วกรวิกก็หันมา เมื่อเจษฎาเดินมาทักว่า
งานไม่สนุกหรือ ถึงทำท่าจะกลับ กรวิกหันหน้าเดินหนี แล้วต้องชะงัก หันมาตัวร้อนฉ่า
"ฉันมีรูปนายกับแม่ผู้จัดการส่วนตัว นั่นด้วยอีกเซตใหญ่ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์..
.ถ้าไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นขี้นหน้า และถูกตั้งฉายาว่าเจ้าชายขี้จุ๊ละก็ ทำตัวดีๆกับฉันหน่อย"
"แกต้องการอะไร" เขากระชากเสียงถามแล้วดึงคอเสื้อเข้ามา เจษฎาไม่สะทกสะท้าน ยิ้มกวนโอ๊ย
"เอาไว้ค่อยนัดเปิดอกคุยกันอย่างลูกผู้ชายวันหลัง วันนี้ฉันมีงาน"
เจษฎาแกะมือกรวิกออก แล้วขยับสูทยักไหล่... พอดีวุฒิ ว่าที่พระเอกใหม่มาบอกเจษฎาว่านักข่าวขอสัมภาษณ์เขาอีก เจษฎาตกลงกอดวุฒิยืดอกไป แล้วยังหันมายิ้มเห็น
ไรฟันใส่กรวิกอีกรอบ...กรวิกได้แต่กัดฟันแน่น นิ่งนาน...

ooooooo

รปภ.อาคารชุดเพนท์เฮ้าส์ของลักษณ์โทร.ขึ้นไปบอกว่ามีคนจะเรียนสายคุณลักษณ์
เมื่อเอยรับสายแทนเพราะลักษณ์ไม่อยู่ กรวิกจึงนัดเอยลงมาพบข้างล่าง
เธอถามทันทีว่าทำไมรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ กรวิกบอกว่าเห็นไอ้หมอนั่นมันพา
เธอกลับมาจากพาไปหาหมอวันนี้ พอเอยบอกว่าเธอนอนโรงพยาบาล
ตั้งแต่วันกลับจากหัวหิน กรวิกหาว่าโกหก
"ไอ้หมอวางแผนให้คนเห็นว่าป่วย แล้วพาเธอไปฮันนีมูนในโรงแรมไหนสักแห่ง..
.ที่จูงมือเข้าโรพยาบาล คงฮันนีมูนกันหนักไปหน่อยละสินะ"
เอยสุดทนฟัง ตบหน้ากรวิกสั่งสอนหนึ่งฉาด
"อย่าดูถูกคนอื่น ในเมื่อคุณไม่รู้ความจริง"
"ความจริงที่ว่าป่วยที่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์น่ะรึ นั่นมันอาการคนโคม่า

แต่เธอไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าเป็นจริง เอาใบรับรองแพทย์มาดูซิ เธอกล้าไหม"
ช่อลดาหรือเอยไม่คิดถึงว่ากล้าหรือไม่กล้า แต่เสียใจอาการเย้ยหยันดูหมิ่นของเขาต่างหาก
เอยเดินหนี เสียงกรวิกดังตามหลัง...แล้วต้องเดินมาจะตอบโต้ แต่ทำอะไรไม่ถูก
"เธอไม่กล้า เธอโกหก ทีหลังจะไปฮันนีมูนที่ไหน บอกมาจะจัดเวลาให้นานๆไม่ใช่มาโกหก
แล้วถึงต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้" ขาดคำ เอยซัดหน้ากรวิกอีกที คราวนี้หนักกว่าเดิม
"หยาบคาย...พี่ลักษณ์ไม่ใช่คนหยาบอย่างพี่วิก รู้ไว้ด้วย" จะก้าวหนีเขาดึงข้อมือ...กอดแล้วจูบ
ไม่ใช่โกรธแต่โหยหามากกว่า...เธอตะลึงไม่คาดคิด มีแต่น้ำตาพร่างพรูด้วยความคับแค้นใจ...
พอเห็นน้ำตาเธอ กรวิกจึงคลายมือออก กำลังจะขอโทษ เธอวิ่งหนีไปเสียก่อน...
เขาวิ่งตามไปทัน ดึงตัวเอยไว้ ขอร้องให้พูดกันเสียก่อน เขาอยากขอโทษ แต่กลับพูดเรื่องงาน
ให้เอยทำงานชดใช้ที่ขาดไป เอยรับคำรับรองใช้คืนทุกวินาที เธอจะเดินหนีเขาดึงไว้
ต้องชดใช้เวลาให้เขาเดี๋ยวนี้...กรวิกกึ่งลากกึ่งกระชากเอยไปทันที
กรวิกลากเอยมาที่ลานจอดรถ สุดที่เอยจะขัดขืน ได้แต่ขอร้องให้เขาปล่อย
เพราะเธอไม่ใช่สิ่งของ เธอมีชีวิตจิตใจ...ขณะจะดันเอยเข้าไปในรถ
ลักษณ์ขับรถมาจอดพอดี เขารีบลงรถ
"หยุดนะคุณกรวิก คุณจะพาเอยไปไหน"
"ทำงาน" กรวิกตอบห้วน ลักษณ์ถามงานอะไร นี่มันเที่ยงคืนแล้ว
"อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม"
"ผมจะไม่ยุ่ง ถ้าคนที่คุณฉุดไม่ใช่เอย กรุณาปล่อยมือคู่หมั้นของผมด้วย"
กรวิกได้ยินคำว่าคู่หมั้น ต้องปล่อยมือ เอยวิ่งมาแอบหลังลักษณ์ แล้วชวนเขากลับขึ้นห้อง...
ทั้งสองกำลังจะพากันเดินหนี กรวิกโจมตีทันที
"อย่าทำอะไรหักโหม จนพรุ่งนี้ต้องลาป่วยอีกล่ะ"
"จะพูดอะไรกรุณาให้เกียรติกันหน่อย อย่างน้อยเอยก็เคยเป็นคนที่คุณรัก"
"เรื่องสมัยเด็กๆ ผมจำไม่ได้หรอกมันไม่ประทับใจอะไรจนน่าจำ ไม่เหมือนวีรกรรมเสี่ยงตาย
ลงไปงมแหวนหมั้นในทะเลอย่างกรณีคุณหมอนี่"
"พี่วิกเอยขอร้องนะคะ" เอยไม่อยากให้สาวไส้สู้กัน
"คุณหมอน่าจะขอบคุณผมนะ ถ้าผมไม่เหวี่ยงแหวนลงทะเล คุณหมอคงไม่รู้ว่าความรัก
ที่คุณเอยมีต่อคุณหมอ มันมหาศาลขนาดไหน"

"นี่คุณกำลังจะบอกผมว่า คุณเหวี่ยงแหวนหมั้นของผมให้เอยลงไปงมในทะเลอย่างนั้นหรือ...
คุณรู้จักผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า เธอว่ายน้ำไม่แข็ง เคยจมน้ำแทบตายหรือทั้งๆรู้
คุณก็อยากให้เธอลงไปตาย ใจคอคุณทำด้วยอะไร คุณกรวิก"
เอยฟังแล้วถึงสะอื้นหนักขึ้น บอกลักษณ์ให้ไปกันดีกว่า แต่เขายังพูดต่อ
"ถ้าผมรู้ความจริงตั้งแต่วันนั้น หรือถ้าเอยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังสักนิด
ผมจะไม่ปล่อยให้คุณมาทำร้ายเอยอย่างนี้ แต่ก็ยังดีรู้ความจริงตอนนี้ก็ยังไม่สาย
ไปเอย...หมดความจำเป็นต้องทนผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว" เขาพาเอยเดินหนีไป...
กรวิกอึ้งที่เขาพลาดอย่างมหันต์ เอยไม่ได้บอกลักษณ์ แต่เขากลับมาพูดเอง...
เมื่อกลับถึงเพนท์เฮ้าส์ เอยตอบคำถามลักษณ์ที่ว่า เธอไม่อยากเล่าให้เขาฟัง
กลัวเขาไม่สบายใจ ยังไงเธอก็ต้องเอาแหวนมาคืนจนได้ แล้วเอยก็ส่งแหวนให้ลักษณ์ดู
เขารีบบอกทีหลังอย่าทำ ถ้าเอยเป็นอะไรไป แหวนนี้ไม่มีคุณค่าเลย...
ลักษณ์มองเอยอย่างซึ้งใจ
"ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงทำกับเอยขนาดนี้ ถึงเกลียดยังไงก็ไม่น่าทำขนาดนี้...
เอยไม่ต้องทนเขาอีกแล้ว ถ้าเอยต้องการจะอยู่..." เอยแทรกขึ้นมาทันที
"การอยู่หรือไปของเอย ไม่มีความหมายกับพี่วิกหรอกค่ะ ถึงเอยจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้
ก็ไม่ทำให้พี่วิกรู้สึกดีกับเอยขึ้นมาได้ นับวันจะเลวร้ายลงไป
ที่ผ่านมาเอยถือว่าชดใช้ให้เขาพอสมควรแล้ว เอยตัดสินใจจะกลับอเมริกา
เราจะกลับอเมริกาด้วยกันนะคะ" เอยเด็ดเดี่ยว ลักษณ์พยักหน้ารับหนักแน่นเช่นกัน
ส่วนกรวิกกลับมาบ้าน ทนปวดหัวอยู่ในห้องคนเดียว
มีแต่ภาพการฉุดดึงทึ้งความรู้สึกกันไปมา ระหว่างเขากับเอย โดยมีหมอลักษณ์มาแทรก...
ภาพแห่งความรู้สึกมากมายที่ถ่ายทอดออกมาจากจิตใจของคนทั้งสาม...
ภาพเหล่านั้นมันกอดเกี่ยวฉุดดึงความรู้สึกของเขาจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีแล้ว
"อยู่คนเดียวมืดๆ อย่างนี้ไม่ดีนะคะ"
กรวิกเงยหน้าขึ้นมอง ไม่คาดคิดว่าเมนี่จะมายืนส่งยิ้มให้เขา...

ooooooo

ใจร้าว ตอนที่6

ตอนที่ 6
ลักษณ์เซ็นเช็ค 25 ล้านใส่กระเป๋าแต่เมื่อคืนแล้ว

พอรุ่งเช้ารีบไปรับแซนดี้ที่โรงแรมตามนัด แต่แล้วแซนดี้ยังไม่แต่งตัว

บอกเมื่อคืนคุยงานกับเพื่อนจนดึก จึงตื่นสาย

แล้วยังหยันว่าอยากหย่าเต็มแก่สินะ ถึงได้มาแต่เช้า ลักษณ์สั่งให้รีบแต่งตัว

แซนดี้แบมือขอเช็ค เขาจะให้ที่อำเภอ แซนดี้รีบบอกว่าเอามาให้เธอก่อน

ไม่งั้นไม่ไป เดี๋ยวเขาเบี้ยว ลักษณ์กลับย้อนว่า แซนดี้จะเบี้ยวเขามากกว่า

เธอรีบคุยว่า จะยื้อเขาไว้ทำไม ในเมื่อเธอมีชายคนใหม่ หล่อรวยมากด้วย
"เอาเช็คมาให้ไอ แล้วไปรอที่อำเภอ ไอจะตามไป

แล้วจะแนะนำสวีตฮาร์ตคนใหม่ให้รู้จักด้วย"
"ผมมีคนไข้รอผ่าตัดอยู่ หวังว่าคนไทยใจฝรั่งอย่างคุณคงไม่เลทนะ"

ลักษณ์ส่งเช็คให้แล้วเดินกลับทันที แซนดี้

มองตัวเลขในเช็คแล้วยิ้มเริงร่าสบายใจเฉิบๆ
เช้าเดียวกัน กรวิกเริ่มปฏิบัติการชำระแค้นต่อ...วันนี้

เขาไปรับเมลานีที่บ้านแล้วไปรับช่อลดาที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอ

ช่อลดารีบวิ่งมาขึ้นรถ พอเปิดประตู แปลกใจที่เห็นเมลานีมาด้วย

เธอจึงทักทายแล้วนั่งข้างเมลานี กรวิกนั่งริมสุด เขาเริ่มตำหนิช่อลดา
"จะมีสักวันไหม ที่เธอจะเป็นฝ่ายรอฉัน ต้องให้ฉันมานั่งรอเธอทุกวัน

ไม่รู้จักเกรงใจกันเลย" กรวิกหันไปยิ้มกับเมลานี "ขอโทษนะครับที่ทำให้เสียเวลา

เอยก็อย่างนี้ละครับ ช้าเป็นเต่าล้านปี ทนเอาหน่อย"
ช่อลดามือไม้เย็นเฉียบด้วยความอาย ขณะที่เขาสั่งชนม์ออกรถ

ชนม์มองไมค์ที่นั่งข้างๆ อยากจะบอกว่า เจ้านายเล่นงานคุณเอยอีกแล้วเพื่อน...
ชนม์ทำหน้าที่ขับรถออกสู่ถนนนอกเมือง...เป็นการเดินทางไปงานต่างจังหวัด

กรวิกเริ่มแกล้งช่อลดาอีก ด้วยการส่งน้ำผลไม้และแซนด์วิชให้เมลานี

บอกรองท้องก่อน แล้วค่อย ไปทานอาหารที่โรงแรม

พอเมลานีถามว่าแล้วของช่อลดาล่ะ กรวิกตอบทันทีว่ารายนี้เขาไม่หิวหรอก

น้ำก็ไม่กิน ทนเหมือนอูฐ นั่งซึมเพราะเซฟพลังงาน แบบคางคกกบเขียดจำศีลไง...
ช่อลดามองไปนอกรถ ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าที่น้ำตาเริ่มซึมตอนนี้

จากนั้นเขาส่งกาแฟ แซนด์วิชให้ไม้ค์กับชนม์ ข้างหน้า บอกด้วยว่า

เขากับเมนี่กินแค่นี้ นอกนั้นให้นายสองคน...

ชนม์กับไมค์รู้ทันทีว่ากรวิกไม่ให้ช่อลดากินจริงๆ

จากนั้นยังใช้ทิชชูเช็ดปากให้เมนี่ผู้น่ารักอย่างเอาใจสุดๆ

ooooooo

นับว่าแซนดี้วางแผนไว้แนบเนียน...ให้ลักษณ์มารอเงกที่หน้าอำเภอ

รอจนร้อนรุ่ม โทร.ตามก็ไม่รับ จน สายโด่งจึงนวยนาดมา เขาต่อว่า

แล้วดึงแขนจะพาขึ้นที่ทำการ แซนดี้สะบัดหนี ถามว่าจะไปไหน

เขาตะคอกใส่ทันทีว่า ก็ไปหย่ากันสิ แซนดี้ตวาดกลับดังลั่น
"ไอไม่หย่า" เขาเตือนอย่าเล่นตลก "ไอไม่หย่าให้ยู...

ยูจะได้ไปเสวยสุขกับนังเอยสบายใจเฉิบสิ"
"คุณรู้...แต่จะแปลกอะไร ในเมื่อเราแยกกันอยู่เป็นสิบปี

คุณมีใหม่ ผมมีใหม่ มันผิดตรงไหน"
"ผิดที่ไอมีใครไม่เคยปิดบังยู แต่ยูปิดบังไอจนคนนิวยอร์กเห็นไอเป็นควาย

คบแม่ผู้หญิงคนนั้นมาตั้ง 7 ปี มีแต่ ไอคนเดียวที่ไม่รู้"

ลักษณ์แจงแล้วยืนยันว่า เขาไม่มีอะไรกับเอย

"เมื่อยูไม่จริงใจกับไอไอจึงไม่จำเป็นต้องทำตามเงื่อนไขของยู"
"แล้วทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่เห็น...ที่เห็นผมกับเอยอยู่ด้วยกัน"
"อ๊ะ...ถ้าโวยวายแล้วไอจะได้เงินมาใช้ฟรีๆตั้ง 50 ล้านเหรอ"
ลักษณ์โกรธจนหน้าเขียว กระชากแขนแซนดี้ จะเอาตัวขึ้นอำเภอให้ได้
"ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค่ะ ผัวอยากมีเมียน้อย ผัวจะลากเอาขึ้นไปหย่า โดยเมียไม่เต็มใจ..."
คนที่เข้าออกแถวนั้นต่างหันมามองเป็นตาเดียว ลักษณ์ แค้นจนกัดฟันกร้วมๆ
"ยังไงผมก็ต้องหย่ากับคุณ" ลักษณ์ปล่อยมือ เดินหนี... แซนดี้มองตามยิ้มอย่างผู้พิชิต...
จากนั้นแซนดี้โทร.นัดพบปรัชญาที่ห้องในโรงแรมทันที...

ครั้นได้เวลานัด ทำเป็นนาฬิกาไม่เดิน จนปรัชญารอไม่ไหว รีบขึ้นมาหาที่ห้อง

ขณะที่แซนดี้ทำเป็นว่ายังแต่งตัวไม่เสร็จ

ปล่อยให้เกิดอาการนมหกเรี่ยราดจากอก...ปรัชญารู้เชิง จึงรวบหัวรวบหาง

แต่ก็เข้าทางแซนดี้ ทั้งสองจึงฟัดกันไปเหวี่ยงกันมา

แล้วไปจบที่เตียงตามประเพณีฟรีเซ็กซ์...

ooooooo

แซนดี้กับปรัชญาพากันลงมาจากห้องหอบนโรงแรม ถึงล็อบบี้

ปรัชญาบอกลืมกุญแจรถที่ห้อง เธอ จะไปเอาให้ แต่ปรัชญาให้เธอรอ

เขาขอการ์ดกุญแจห้อง จะไปเอาเอง...
ขณะปรัชญาเดินไปไม่กี่ก้าว ได้ยินเสียงทักแสงฉาย

จึงหันมองเห็นลักษณ์เข้ามาทักแซนดี้ ทำให้ปรัชญาแปลกใจ

ทำไมหมอลักษณ์จึงรู้จักแซนดี้ จึงหลบแอบจับตามองจนหูผึ่ง

แซนดี้ไม่อยากพูด บอกลักษณ์ว่ามีอะไรว่ามา

เขาบอกว่าวันนี้เธออาจไม่พร้อม เขารอได้ แต่อยากรู้ว่าเมื่อไหร่

แซนดี้ ยืนกรานท่าเดียวว่าไม่หย่า เขาอ้างว่า เมื่อไม่รักกันจะให้มีพันธะกันไปทำไม
"เพื่อสะใจไง ไอไม่เคยบังคับยูให้มารักไอ แล้วไอก็ไม่ห้าม

ถ้ายูจะไปรัก หรือเอาแม่นั่นทำเมีย"
"อย่าก้าวร้าว อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะใจง่ายเหมือนคุณ"
"งั้นเชิญนั่งเฝ้าพรหมจรรย์มันไปก็แล้วกัน...วันไหนไอนึกครึ้ม

อยากจดทะเบียนกับชายคนใหม่ อาจจะเซ็นหย่าให้ แต่วันนี้ รอไปก่อน"

แซนดี้เดินเชิดหนี...ลักษณ์มองตามด้วยความแค้น

ทั้งเสียรู้ทั้งเสียเงินก้อนโตไปด้วย...ส่วนปรัชญาได้แต่

มองตามลักษณ์ไปอย่างไม่คาดคิด

เพราะเขาได้ยินการสัมมนาจนจะเกิดรำมะนากันจนหมดแล้ว...
แน่นอน...ปรัชญารู้สึกว่าเรื่องราวที่กำลังเป็นปัญหาของลักษณ์ขณะนี้

เขาอยู่ในสถานะที่เหนือกว่าในตัวแซนดี้ภรรยาของลักษณ์

จึงหาโอกาสเข้าไปพูดจาเฉียดไปมา จนลักษณ์

รู้ว่าปรัชญาอาจรู้เรื่องเขากับแซนดี้ ปรัชญาจึงแย้มว่า ถ้าหมอมีปัญหาหนัก

ปรึกษาเขาได้ เราผู้ชายด้วยกัน เข้าใจกันดีเรื่อง แบบนี้...

ปรัชญายิ้มหยันก่อนผละไป...ลักษณ์ได้แต่ถอนใจ ที่เหมือนหนามทิ่มตำคาใจอยู่ไม่หาย
แต่ปรัชญากับแซนดี้ต่างก็กอดเกี่ยวกันอย่างหนัก

แซนดี้บอกไม่อยากอยู่โรงแรมกลัวคนเข้าใจผิด เธอออดอ้อน

ปรัชญาเสนอให้ไปอยู่อพาร์ตเมนต์ด้วยกัน แต่ก่อนจะไปอยู่ด้วยกัน

ต้องไปฮันนีมูนเปลี่ยนบรรยากาศกันก่อน...ทั้งสองจึงรักแสนพิศวาส

กอดเกี่ยวรัดกันยิ่งกว่างูกินหาง

ooooooo

ทันทีที่รถกรวิกไปถึงหน้าโรงแรมที่พักหัวหิน ภัทรวิ่งมาต้อนรับ

เมลานีลงรถก่อนจึงทักทาย พอบอกว่ามาแค่นี้ไม่เหนื่อยเลย ภัทรจึงเสียดสีทันทีว่า

ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู ใครจะรู้เหนื่อย เมลานี หยิกภัทรจนร้องลั่น

แต่จิกต่อ คนมีความรักมือหนักจริง ทุกคนหัวเราะ กรวิกทำตาเยิ้มใส่เมลานี

แล้วก็มองช่อลดา เมื่อเธอรับสาย
"ฮัลโหล...พี่ลักษณ์หรือคะ" กรวิกทำท่าจะจิกช่อลดา

กลับถูกหยิกจิกตีแสบสันทันที เมื่อได้ยินชื่อลักษณ์...ภัทรรีบชวนเมลานีไปแต่งตัวกัน

สั่งกรวิกให้ไปพบพี่ดวงแก้ว มีธุระสำคัญจะคุยด้วย...
กรวิกจำต้องไปพบดวงแก้ว ที่เสนอให้กรวิกออกเทปซีดีร้องเพลง 4-5 เพลง

โดยมีเมลานีมาเป็นนางเอกมิวสิกวีดิโอให้ด้วย กรวิกยืนกรานหลายครั้งว่าเขาไม่ถนัด

ร้องเพลงไม่เป็นเลย
"ผมคิดดีแล้ว ผมไม่ทำ" กรวิกยืนกราน ดวงแก้วกลับยืนยันว่า

กว่าจะสร้างเป็นซุปเปอร์สตาร์ไม่ใช่งานสบายๆ แล้วในที่สุดก็ยื่นคำขาดอย่างสุภาพ
"นี่ไม่ได้บังคับนะ แต่วิกต้องทำ จะลองไปอ่านสัญญาดูอีกทีก็ได้นะ"

กรวิกฟังแล้วกัดกรามแน่น
กรวิกวิ่งลงไปชายหาด กำหมัดแน่นเมื่อถูกบีบอย่างหนัก เขาร้องระบายลม
"ทำไมต้องทำด้วยวะ" ขณะกำลังหน้ามืด ช่อลดาวิ่งมาหา แล้วถามทันที
"พี่วิกคะ เมื่อคืนพี่วิกบอกใช่ไหมคะว่าจะคืนแหวนให้เอย" กรวิกหันมามอง

ลมสว้านในใจยิ่งปั่นป่วนกระพือโหมยิ่งขึ้น

"เอยขอคืนเดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ พี่ลักษณ์จะมารับเอยกลับกรุงเทพฯคืนนี้

เอยไม่อยากเข้าไปรบกวนพี่วิกตอนงานเลิกน่ะค่ะ"
กรวิกจ้องช่อลดาเหมือนคนกำลังผีเข้า ยิ้มนั้นน่ากลัว เสียงที่

เอ่ยออกมานั้นเรียบคล้ายทะเลหลับ ก่อนมีพายุ
"เดี๋ยวนี้เลยหรือ...ได้สิ" กรวิกล้วงแหวนมายื่นให้ช่อลดา...

แต่แล้วกลับเป็นอาการสติแตก เขาเหวี่ยงแหวนวงนั้นลอยลิ่วลงไปในทะเล

"อยากได้คืนนัก ก็ลงไปงมเอาเองก็แล้วกัน"
ช่อลดาหัวหมุนติ้ว ใจสั่นใกล้อาการอยากจะช็อกตาย

เพราะไม่คาดฝันว่ากรวิกจะทำได้ขนาดนี้...

กาลเวลาหมุนติ้วๆไปนานแค่ไหนช่อลดาไม่รู้ แต่แล้วเมื่อหันไปมองกรวิก

แล้วตั้งคำถาม
"ทำไมพี่วิกถึงทำแบบนี้ ใจดำที่สุดเลย" ช่อลดาวิ่งลงไปในทะเล

ดำผุดดำว่ายจะงมแหวนมาคืนให้ได้ กรวิกมองแล้วเหมือนถูกตบ

ฉาดใหญ่ รู้สึกสะเทือนใจ ไม่คิดว่าช่อลดาจะรักแหวนวงนี้มากขนาดนี้
"งมไปเถอะ งมให้ตายก็หาไม่เจอ" เขาตะโกน แล้วเดินหนีโดยไม่รู้ว่าตัวเขาเองอยู่ที่ไหน?

ooooooo

กรวิกไปแสดงความห่วงใยเมลานีที่กองถ่ายด้วยการช่วยทาครีมให้

ลูบไล้ไปทั้งแขนแมน ยังความอิจฉาให้แก่ทุกคนอย่างออกนอกหน้าทีเดียว

จากนั้นกรวิกก็ยังถูกแฟนคลับตามมารุมขอลายเซ็น จนการ์ดทั้งสอง

ต้องรีบพาหนีหลบหลีกแฟนเพลงไปยังห้องพักสำเร็จ
ภัทรมาดูแล ยังไม่ออกจากห้อง หลังการ์ดสองคนออกไปพักห้องข้างๆแล้ว

ภัทรมองไปยังชายหาด ตกใจมากที่เห็นช่อลดาลงไปดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำชายหาด

ยามแดดเปรี้ยงๆ บ่นว่าว่ายน้ำเป็นรึเปล่า แล้วเรียกกรวิกมาดู

กรวิกไม่ดูให้เสียเวลา ภัทรจึงขอกลับไป สั่งให้วิกมีเวลางีบครึ่งชั่วโมง แล้วจะมาปลุก...


กรวิกทำหลับตา ภัทรรีบออกไป ทันทีที่ประตูปิด กรวิกเผ่นพรวดไปที่ระเบียง...
ขณะเดียวกัน ช่อลดาพยายามอย่างหนัก สำลักน้ำหลายหน เหนื่อยก็ไม่ยอมแพ้

ในที่สุดเธอก็งมแหวนขึ้นมาได้ ช่อลดายิ้มอย่างดีใจสุดๆ

เธอสวมแหวนที่นิ้วทันที เดินเซขาอ่อนล้าขึ้นมา...แล้วต้องชะงัก

เมื่อกรวิกมายืนจังก้าตรงหน้า
"ความรักของเธอ มันยิ่งใหญ่เหลือเกินนะ ถ้าไม่เจอคงยอมเป็นผีเฝ้าทะเลเลยใช่ไหม"

ช่อลดารับคำว่าค่ะชัดเจน เล่นเอากรวิกยืนจุก เหมือนเจอหมัดเขาทราย

แต่ทำเป็นเก่ง "งั้นเก็บมันไว้ให้ดี หลุดมาถึงมือฉันเมื่อไหร่ ทีนี้จะโยนเข้ากองไฟ

เธอเตรียมบูชายัญได้เลย ช่อลดา"
กรวิกเดินหนีไปทันที ช่อลดายืนโงนเงน มองบนฟ้าแดดจ้าส่อง

พอก้าวเท้า เกิดหน้ามืด ซวนเซล้มลงบนหาดทรายทันที... กรวิกหันมาเห็นตกใจ

วิ่งกลับมาช้อนร่างช่อลดา จึงรู้ว่าตัวเธอร้อนมาก เขารีบอุ้มพาเดินไป

ไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงมือช่างภาพกดชัตเตอร์ไม่นับ...

ช่างภาพนั้นคือเจษฎา...ยืนมองยิ้มตามไปอย่างสมใจนึก...แล้วรีบก้าวตามไปทันที
กรวิกอุ้มช่อลดาไปโรงแรม แต่เพื่อหนีแฟนคลับ

จึงหลบไปทางบันไดหนีไฟ ซึ่งเจษฎาตามถ่ายตลอด

ยิ่งตอนอุ้มขึ้นบันไดอย่างอ่อนล้า ยิ่งทำให้เจษฎาเลือกมุมถ่ายได้ตามใจชอบ....
พอถึงหน้าห้องช่อลดา ไมค์กับชนม์มาเห็นรีบเปิดประตูให้กรวิกพาเข้าไปในห้องเธอ

เขาบอกลูกน้องสั้นๆว่า คุณเอยไม่สบายนิดหน่อย...
ที่ห้องแต่งตัว ภายในโรงแรม เมลานีแต่งตัวเพื่อเข้าฉากเสร็จ

เกิดชะเง้อคอยกรวิก เมื่อไหร่จะมา จนทนไม่ไหว

ถามว่าป่านนี้กรวิกยังไม่ลงมาแต่งตัวอีก จะทันหรือ

ภัทรจีบปากบอกว่ากรวิกหล่อเริ่ดอยู่แล้ว แต่งห้านาทีก็เสร็จ...

แล้วภัทรก็แปลกใจสั่งการ์ดของกรวิกไว้นานป่านนี้ยังเงียบ จึงต้องไปดูเอง
ที่ห้องช่อลดา กรวิกติดกระดุมเม็ดสุดท้ายให้ช่อลดา

แล้วจึงดึงผ้าเช็ดตัวที่ห่มไว้ข้างในออก เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำเช็ดตัวให้...

ช่อลดาเริ่มกระสับกระส่าย แล้วละเมอเบาๆ
"พี่ลักษณ์คะ...แหวน แหวนของพี่ลักษณ์อยู่ที่เอย อยู่กับเอยแล้วนะคะ"
กรวิกหยุดมือทันที...พยายามข่มใจ ฝืนเช็ดให้ช่อลดาต่อ...
หลังจากภัทรรู้ว่ากรวิกอยู่ที่ห้องเอย จึงให้การ์ดทั้งสองถอยไป ภัทรเปิดเข้าไป

แล้วถึงตาพอง แตะอกตัวเองไว้ทันที...ร้องว้าย แล้วบอกกรวิกว่า

เธอไม่เห็นอะไรทั้งนั้น กรวิกจึงบอกว่า
เอยไม่สบาย เลยเช็ดตัวให้ ถามว่ามีอะไรหรือ ภัทรตั้งสติได้

จึงบอกว่ามาเรียกลงไปแต่งตัว จะเช็ดตัวต่ออีกก็ได้

ให้เวลาสิบนาที...แล้วภัทรรีบกลับออกไป แต่ใจยังตื่นเต้นระทึก...
ในห้อง เสียงมือถือของช่อลดาดัง เขาหยิบมาดู เป็นลักษณ์โทร.มา...

ด้วยอาการผีเข้า กรวิกปาโทรศัพท์ลงพื้น เสียงยังดังเรียกอยู่เรื่อยๆ

ช่อลดาค่อยๆลืมตาควานหาโทรศัพท์ กรวิกจิกทันที
"พอคู่รักโทร.มารีบลืมตาเชียว หายไข้เลยสิท่า" ช่อลดามองกรวิกงงๆ

จับเรื่องยังไม่ได้ว่ากรวิกมาอยู่ในห้องเธอได้ยังไง เธอเป็นอะไรไป...

เขาสำทับ "หายแล้วก็ดี จะได้ไปทำงานซะที ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้"

ช่อลดายันตัวขึ้น แต่ยังมีไข้ จึงป้อแป้ไม่มีแรง "คิดว่าฉันเป็นไอ้หมอนั่นสิ

จะได้มีแรง มีจิตใจทำงานลุกขึ้นมาเลย ไม่ต้องสำออย"

กรวิกปากว่ามือถึง กระชากช่อลดาขึ้นมา แล้วฉุดลงจากเตียง

ร่างของเธอปลิวตามแรงเหวี่ยงไป...
ภัทรเอาเรื่องที่เห็นกับตานี้ไปบอกดวงแก้ว แล้วให้ออกความเห็น

ว่ากรวิกชอบใครกันแน่ ช่อลดาหรือเมนี่ ดวงแก้วว่าช่อลดาน่า

จะมีอะไรพิเศษกับกรวิก เขาจึงดูแลกันดีขนาดนี้

แต่กรวิกจะรักใครชอบใครไม่สำคัญ เราก็ขายข่าวโกยเงินเข้าบริษัทได้ทั้งนั้น
ooooooo
ถึงแม้จะยังไม่หายไข้ ช่อลดาก็ยังแข็งใจไปทำงาน

ตอนที่กรวิกกับเมลานีจะเข้าฉากพิธีวิวาห์

กรวิกแกล้งชมความงามของเมลานีว่า แต่งแล้วสวยงามมีเสน่ห์

ใครเห็นก็อยากแต่งงานด้วย เมลานีหน้าบานแต่เหนียมอาย...
ภัทรรับสาย ตัวสำคัญที่จะรันคิวเกิดไม่สบายมาไม่ได้

มีการเสนอใครต่อใครหลายคน กรวิกเสนอช่อลดาให้ทำแทนทันที

แม้จะยังเพลียแต่ช่อลดาก็จำต้องรับคำ
ช่อลดาแนะนำคิวพระเอกนางเอกเข้าฉาก การคล้องแขน ลอดซุ้ม

ให้เกาะเกี่ยวแขนกันท่าไหนยังไง กรวิกรีบให้เมลานีมาคล้องลอดซุ้ม

เพลงขึ้นแล้วทั้งสองก็จูบกัน ภัทรให้ซ้อมจูบกัน

กรวิกทำอย่างดูดดื่มต่อหน้าช่อลดา ภัทรชมว่า คนรักกันนี่

ทำอะไรก็ดูดีไปหมด เมลานีเขินจนสะเทิ้นอายหลายม้วน
ช่อลดาก้มหน้าก้มตาอ่านสคริปต์ในมือที่สั่นระริก ไม่อยากมองการจูบ

ซ้ำซากของทั้งสองตามที่กรวิกอยากจะจูบ... พอดีมือถือช่อลดาดังขึ้น
"ฮัลโหล มาถึงแล้วหรือคะ เอยทำงานอยู่น่ะค่ะ พี่ลักษณ์

รอเอยที่ล็อบบี้นะคะ เสร็จแล้วเอยจะรีบไปหา"
ภัทรแอบเหล่มองกรวิก รู้ทันทีว่าเขาไม่พอใจที่เห็นช่อลดาหน้าบาน

เมื่อรู้ว่าแฟนมารับ
ส่วนลักษณ์ที่โทร.มาจากล็อบบี้โรงแรม แล้วแปลกใจ

ที่เห็นแซนดี้กับปรัชญาในชุดเดินเล่นชายหาดควงกันมา...

ลักษณ์ จึงตรงไปหา ทักสวัสดีคุณปรัชญา ปรัชญายิ้ม

อยากรู้ว่าแซนดี้จะแก้ปัญหานี้ยังไง เขาจึงทักหมอลักษณ์ว่ามาเที่ยวเหมือนกันหรือ

ลักษณ์รีบบอกว่ามารับช่อลดา เธอมาทำงานที่นี่
แล้วทั้งสองฝ่ายคุยกันเรื่องการจัดโปรแกรมงานแต่งงาน

ชายหาดโปรโมตการท่องเที่ยว
"อ้อ...นี่แซนดี้ เพื่อนผมครับ" ปรัชญาแนะนำ ทั้งๆที่

รู้แล้วว่าหมอคือสามีแซนดี้ แล้วแนะนำหมอ

"นี่หมอลักษณ์ที่ผมเคยพูดให้ฟังว่ามาจากนิวยอร์กเหมือนคุณไง"
"สวัสดีค่ะ คุณหมอ" แสงฉายหรือแม่แซนดี้ตัวดีตีหน้าตายสวมรอย

"ได้ยินชื่อคุณหมอมานานแล้ว เพิ่งเจอตัววันนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"

ยื่นมือให้จับ หมอลักษณ์จำต้องเล่นด้วย แล้วรีบบอกลาไป...

แซนดี้แอบเบะปาก ปรัชญาทึ่งในความสามารถของแซนดี้ในทางนี้...
ooooooo
งานที่ชายหาดจัดขึ้นอย่างคึกคัก ซุ้มที่ตบแต่งอย่างงดงามรายเรียงไปเป็นแนว

ทั้งรูปปะการัง รูปหอยปูปลา ประชันผลงานศิลป์หลากฝีมือ ผู้คนมาเที่ยวตอน

ตะวันจะลับฟ้าล้นหลาม เสียงเพลงโหมโรงดังก้องไปทั่วท้องน้ำและชายหาด

เสียงหัวร่อเฮฮา ถ่ายภาพกันในมุมต่างๆ
ภัทรกับช่อลดาวิ่งมาพร้อมทีมงาน ไปสมทบคุณดวงแก้ว...

กรวิกให้เมลานีคล้องแขนออกงาน โดยมีช่างภาพสารพัดสื่อบันทึก

ภาพและเหตุการณ์ต่างๆในงาน ภัทรให้คุณดวงแก้วจับตาดูช่อลดา

ที่มองกรวิกกับเมลานีสวีทกันอย่างขมขื่น...
เหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเมลานีเดินไปเหยียบเปลือก

หอยที่พลิกฝังทรายอยู่ เธอเซจนจะล้ม กรวิกคว้าไว้ทัน

ภาพนั้นเหมือนกอดกัน ภัทรรีบบอกคุณดวงแก้วว่า นี่ไม่มีในสคริปต์...

ช่อลดามองแล้วเบือนหน้าหนีเสียใจและน้อยใจ...เมลานีอยู่ในอ้อมแขนกรวิก

ไม่เจ็บเพราะยิ้มอย่างพอใจ แฟนๆส่งเสียงกรี๊ด ยาวนาน...มุมหนึ่ง

แซนดี้เคลียคลออยู่กับปรัชญา แล้วเมื่อมองเห็นช่อลดา สีหน้าเป็นนางยักษ์ขึ้นมาทันที
ช่อลดาเห็นภาพที่เคยซ้อมของกรวิกกับเมลานี

ตอนนี้กำลังลอดซุ้มโปรยดอกไม้ เพลงโมสาร์ทดังขึ้น

กรวิกจูบปากเมลานีอย่างดื่มด่ำยาวนาน เสียงแฟนๆกรี๊ดสนั่นลั่นชายหาดอันยาวเหยียดนั้น
ช่อลดาไม่อาจยืนอยู่กับภาพนั้นได้อีก จึงรีบบอกลา
"พี่ดวง พี่ภัทรคะ เอยขอตัวไปทานยาที่ห้องก่อนนะคะ

รู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ แล้วเอยจะมาช่วยตอนเก็บของนะคะ"

เมื่อทั้งสองมองตากันแล้วอนุญาต...ช่อลดาเดินจากไป

แซนดี้มองตามช่อลดา ตาวาวเหมือนเริ่มจะติดไฟแล้ว...
ช่อลดาเดินมาตามทางเลียบชายหาด ตกอยู่ในสภาพคล้ายจะหน้ามืด

มีเสียงทักมา ถามว่าจะไปไหนคุณเอย ช่อลดาหันมาเห็นแซนดี้

ตกใจอุทานชื่อ...แม่นั่นสวนทันที
"จำชื่อฉันแม่นจัง คงจะเพราะควงสามีฉันมานานถึงเจ็ดแปดปี

ถึงจำแม่นขนาดนี้" ช่อลดาถึงกับตะลึงพูดไม่ออก

แซนดี้เข้ามาตบจนหน้าหัน แล้วจิก "จำชื่ออย่างเดียวไม่พอ

ควรจำใส่กะโหลกด้วยว่า ฉันเป็นเมียหมอลักษณ์ จะได้ไม่ลอยหน้า

ไปไหนๆกับสามีฉันแบบนี้"
"คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ ฉันกับพี่ลักษณ์ไม่มีอะไรกัน"

ขาดคำ ช่อลดาถูกตบซ้ำอีกที "นี่แน่ะ เอาผัวฉันไปกกเป็นสิบปี

ยังทำหน้าซื่อว่าไม่มีอะไรกัน คิดว่าฉันปัญญาอ่อนรึไง"
"ถ้าคุณไม่เชื่อ ไปถามพี่ลักษณ์สิคะ"
"จะไปถามทำไม ในเมื่อฉันไม่หย่าให้หมอลักษณ์ รู้ไว้ ถ้ายังเกาะเขาต่อไป

เธอก็เป็นแค่เมียน้อยหรือนางบำเรอเท่านั้น" ช่อลดาแทบยืนไม่อยู่

ยังถูกแซนดี้ชนจนล้มลง...ช่อลดาถึงกับนั่งร้องไห้ออกมา

เพราะทั้งเจ็บทั้งอายคนที่ผ่านไปมา...
งานอันสนุกสนานครึกครื้นรื่นเริงกันทั่วหน้าผ่านไปจนค่ำ

ฝ่ายเก็บของกวาดชายหาดทำหน้าที่แทน ภัทรสั่งคนทำงานอยู่ที่มุมหนึ่ง

พอเห็นลักษณ์เดินมาถามหาช่อลดา รีบต้อนรับเต็มอัตราสาระแน

บอกว่าช่อลดาปวดหัวขอไปพัก ลักษณ์ จะรีบไปหาช่อลดา

ภัทรรวบรัดจับมือถือแขน อาสาพาไปหา
ขณะนั้นช่อลดาถูกแซนดี้ตบแล้วชนจนทรุดคาชายหาดมาแล้ว...

ยามนี้มีดาวเต็มฟ้าน่าดู แต่ช่อลดาได้แต่นั่งปาดน้ำตาตัวเอง...

แล้วถ้อยคำเยาะเย้ยถากถางจากกรวิก จากแซนดี้ เรื่องแหวนก็ประดังมา

กรวิกด่าว่าเธอยอมงมหาแหวนจนตาย แล้วยังขู่ ถ้าเขาได้แหวนมาอีก

จะโยนลงกองไฟ ให้เอยกระโจนเข้าควานหาจนตายในกองไฟ ส่วนแซนดี้

หลังจากตบเธอจนทรุดแล้วยังสำทับว่า จะไม่หย่าหมอลักษณ์ ช่อลดาเป็นได้แค่

เมียน้อย นางบำเรอเท่านั้น...
แล้วช่อลดาก็นึกขึ้นได้...ร้องหาพี่ลักษณ์ แล้วออกวิ่งไป แต่ไปได้ไม่กี่ก้าว

สำนึกวูบไปทันที ร่างของช่อลดาล้มลง เท้าเรี่ยชายน้ำแน่นิ่งไป...
ooooooo
ภัทรพาลักษณ์เที่ยวตามหาช่อลดาที่บอกว่าไม่ค่อยสบายจะมาหายากิน

แต่ช่วยกันตามหาจนทั่วโรงแรมก็ไม่พบ ภัทรจึงเห็นว่าช่อลดาอาจไม่สบาย

ล้มฟุบอยู่แถวชายหาดอีกด้านก็ได้ ลักษณ์จึงรีบวิ่งไปทันที ภัทรต้องจ้ำอ้าวตาม
พอตามลักษณ์ทัน จึงหันมาถามภัทรว่าทำไมเอยถึงไม่สบาย ภัทรตอบทันทีว่า

อาจเพราะลงเล่นน้ำกลางแดดเปรี้ยง ลักษณ์ค้านทันทีว่า เอยเคยจมน้ำมาแล้ว

ไม่จำเป็นเธอไม่ลงแน่ ยิ่งกลางแดดเปรี้ยงอย่างนี้ ยิ่งไม่ลง เป็นไปไม่ได้แน่
"แต่มันเป็นไปแล้วค่ะ ขึ้นมานอนซม ให้วิกเช็ดตัว... อุ๊ย" ภัทรแย้งจนลืมตัว

เปิดเผยความลับ "เอ่อ...ดูแลอยู่เป็นชั่วโมง แต่ก็ยังขยัน ตามวิกลงไปทำงานนะคะ"
"ขยันหรือโดนบังคับครับ" ลักษณ์หยุด หันมาจ้องเอาคำตอบ...ภัทรหันหน้าหนี

หาคำตอบ แต่สายตากลับมองไปเห็นร่างช่อลดานอนถูกน้ำซัด
"คือ....เฮ้ย...นั่นเอยนี่" ภัทรร้องขึ้น ทั้งสองผวาไปทันที เมื่อน้ำทะเลขึ้นเกือบจ่อจมูกเอย

ภัทรร้องจะถึงตายไหมเนี่ย ลักษณ์พูดถามแทบไม่เป็นภาษา อุ้มเอยขึ้นมาเหนือชายหาด

ทั้งจับเช็กอาการ ปากร้องเรียกเอย...ครู่หนึ่งเอยลืมตาขึ้นเรียก "พี่ลักษณ์"
ลักษณ์ดีใจที่ช่อลดาฟื้น แต่แล้วกลับสลบวูบไปอีก เขารวบตัวเธออุ้มวิ่งไป

ภัทรตามติดทันที...
กรวิกกระวนกระวายที่ห้องในโรงแรม หลังจากไมค์ไปรายงานว่าคุณเอย

ไม่ได้อยู่ที่ห้องของเธอ พอดีเมลานีมาเคาะประตูห้อง เขาจึงให้ลูกน้องออกไป

เมลานีเข้ามาทำทีว่ามาตามหาภัทร...แต่เมื่อภัทรตามเข้ามาอีกคน

จึงบอกกรวิกว่ามีคนมาหาเขา พอลักษณ์เข้ามา หน้าตาเขาถมึงทึง...

แล้วไม่พูดพล่ำทำเพลง ชกเปรี้ยงเข้าที่หน้า กรวิกล้มตึง เขาตามชกซ้ำ

เมลานีกับภัทรร้องแตกตื่น เมลานีถามว่ามันเรื่องอะไร ภัทรเองก็ไม่รู้

หันไปห้ามหมอลักษณ์ หมอคำรามใส่
"คุณทำอะไรเอย คุณแกล้งเอยใช่ไหม รู้ทั้งรู้ว่าเอยไม่สบาย

คุณยังใช้ทำงาน"
"จะอะไรนักหนา" กรวิกผลักลักษณ์กระเด็นไป "แค่ปวดหัวตัวร้อน

ก็แจ้นไปฟ้องแฟน...สำออย"
"สำออยเหรอ" ลักษณ์กระชากคอเสื้อมา "คุณรู้ไหม เอยป่วยหนักแค่ไหน

ที่ต้องไปนอนจมในทะเลเป็นชั่วโมงๆน่ะ"
"นายพูดอะไรของนาย ใครไปนอนจมในทะเล" กรวิกขมวดคิ้วนิ่วหน้า
"ถ้าเอยเป็นอะไรไป ผมจะไม่มีวันให้อภัยคุณเด็ดขาด จำไว้"

ลักษณ์ซัดเปรี้ยงที่หน้ากรวิกอีก เลือดทะลักมุมปาก พิงผนังห้อง...

กรวิกไม่ตอบโต้ลักษณ์เพราะกำลังคิดห่วงเอย...

ลักษณ์กระชากประตูเดินหนีไป ภัทรวิ่งไปหากรวิก

ในขณะที่เมลานีวิ่งตามลักษณ์ออกไป
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ" เสียงเมลานีกระชากมา ลักษณ์หันไปมอง

"นายมีสิทธิ์อะไรมาทำกับวิกขนาดนี้ ป่าเถื่อนที่สุด"

ลักษณ์ถามว่า เป็นแฟนเขาเหรอถึงเดือดร้อนแทน เมลานีโต้ตอบ

"เป็นเพื่อนร่วมงาน แล้วขอบอกว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่นายจะมาทำแบบนี้

คราวหน้าถ้ายังกล้าดี ฉันเอาตำรวจลากคอนายเข้าคุก"
"รีบไปบอกแฟนคุณเลยว่า อย่าแตะต้อง ทำร้ายเอยอีก ถ้าเอยเป็นอะไรไป

ผมจะเล่นงานเขาให้ถึงที่สุด" ลักษณ์เดินเข้าห้องช่อลดาไป

เมลานีนึกไม่ถึงว่าเขาจะเดือดร้อนแทนเอยขนาดนี้...
ooooooo
ขณะที่เมลานีถูกภัทรมาตามไปหาพี่ดวงแก้ว จะให้รู้จักเจ้าของงานในงานเลี้ยง

เมลานียังชะเง้อหา กรวิกตลอดเวลา แล้วยังซักภัทรเรื่องลักษณ์ว่า

ถ้าเป็นเพื่อนช่อลดา แต่ท่าทางไม่แค่นั้น ไม่งั้นคงไม่ทำถึงขนาดนี้

ภัทรลากเมลานีไปหาคุณดวงแก้วทันที
ที่ลานจอดรถโรงแรม...ลักษณ์อุ้มช่อลดาที่คลุมผ้าห่มหนาลงมาที่รถ

ช่อลดาหนาวสั่นและเพ้อด้วยพิษไข้
"แหวน...พี่ลักษณ์ เอยได้คืนแล้ว พี่วิก...ใจดำที่สุดเลย พี่วิก..."
ลักษณ์ร้อนรุ่มอุ้มช่อลดาใส่เข้าไปในรถ พลางเรียกเอยตลอด

เรียกให้ลืมตาไว้ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไป...เมื่อรถลักษณ์วิ่งออกไปแล้ว..

.กรวิกขยับออกมาจากเสาต้นหนึ่ง เขามองตามรถไป..

.เหมือนหัวใจถูกกระชากตามช่อลดาไปในรถด้วย....
กรวิกได้ไวน์มาดื่มระบายความเครียด...

เขาเดินไปดื่มไปตามชายหาดที่ช่อลดามานอนจม...

เขาลำดับเรื่องที่ทั้งพูดทั้งกระทำต่อเธอ เรื่องแหวน

เรื่องบังคับใช้งานทั้งๆที่รู้ว่าเธอไม่สบาย...เขาดื่มไวน์หมดแก้วโตๆนั้นแล้ว

นึกตำหนิตัวเอง ถึงปาแก้วไวน์ทิ้งสุดแรง ตะโกนลั่น
"บ้าแล้ว ไอ้วิก แกทำอะไรลงไป ทำไม?" เขาหันไปคว้าขวดไวน์

ดื่มอั๊กๆ แล้วปาทิ้ง วิ่งลงไปในน้ำ ปากร้องถาม "ทำไมแกทำแบบนี้

แกสุขมากรึ สุขมากไหม ไอ้วิก" ตบตีน้ำทะเลเหมือนผีบ้าเข้าสิง
ooooooo
เมื่อหมอลักษณ์พาช่อลดาเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาล

จนอาการดีขึ้น แต่ต้องนอนพักรักษาตัวต่อที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาลนั้น.

ส่วนกรวิกหายบ้าแล้ว จึงเดินพาร่างเปียกปอนมอมแมมกลับห้องพัก...
กลับเจอเมลานีมานั่งรออยู่ในห้องแล้ว เขาบอกเธอว่า
เขาหนีไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ที่เปียกเพราะลงไปเล่นน้ำ
เมลานีเตือนว่า เมาลงเล่นน้ำอันตราย...เขาย้อนถามมองตาเธอซึ้งว่า
เธอห่วงเขาหรือ เมลานีกลับถามถึงที่เขาถูกชก เจ็บมากไหม
เขากลับย้อนถามเรื่องที่เท้าเมลานีถูกเปลือกหอยบาด เขาก้มลงดูเท้าเธอ
เมลานีรีบก้มลงห้าม...ยามนี้ หน้าของทั้งสองถึงกับสัมผัสกัน
เมลานีเปลี่ยนเรื่อง บอกเขาว่าแผลเธอนิดเดียว เธอห่วงเขา
มียาไหม เธอจะได้ทาให้
"ไม่มีใครเป็นห่วงผม อย่างนี้มานาน...นานมาก" กรวิก พูดเหมือนตัดพ้อบางคน
และอยากลืมช่อลดา พยายามสลัดเธอไปจากหัวใจ เขาปล่อยใจไปตามอารมณ์...
ดึงเมลานีเข้ามาจูบ เมลานีตกใจ เพราะไม่ทันตั้งตัว...
แล้วกลับเคลิ้มไปตามรอยรสจูบของกรวิก...
ส่วนกรวิกต้องการหยุดหัวใจไว้ที่เมลานีคนนี้ เพื่อลบความรักฝังใจของเขามานานด้วย...
ทั้งสองประชิดติดพันกันไปถึงเตียงนอน
เมลานีซุกตัวพลิ้วไหวไปตามกรวิกด้วยความอบอุ่นหวานชื่น...
ขณะเดียวกันนี้...พยาบาลและหมอลักษณ์ที่เฝ้าไข้ช่อลดาอยู่
ต่างตกใจเมื่อเครื่องวัดการเต้นหัวใจบนจอวิ่งเกือบเป็นเส้นตรง
พยาบาลเสนอให้เข้าห้องไอซียู แต่ลักษณ์บอกไม่ทันแล้ว
เขารีบกดปั๊มหัวใจช่อลดาด้วยมือของเขา ขณะที่ช่อลดานิ่งไม่ไหวติง
ลักษณ์ตกใจจนเหงื่อแตก...ตั้งนานยังไม่ดีขึ้น
เขาทำหน้าที่ต่อด้วยความหวังว่าเธอจะต้องกลับมาหายใจเหมือนเดิม...
ในที่สุด ช่อลดากลับมาหายใจได้อีกครั้ง...ลักษณ์ปาดเหงื่อ แล้วยิ้มออกมาได้...
แล้วช่อลดาเริ่มหายใจกลับเข้าสู่อาการปกติ...
ในช่วงแห่งความเป็นความตายของช่อลดา..
.เป็นช่วงแห่งความสุขของวัยหนุ่มสาวอย่างกรวิกกับเมลานี...
ขณะที่กรวิก กำลังแกะกระดุมเสื้อของเมลานีนั้น...
เป็นช่วงที่กรวิกตัดสินใจกะทันหัน ถึงชะงักงัน แล้วกรวิกผละจากเมลานีทันที...
เขาลุกจากเตียงลงไปนั่งกุมขมับเหมือนคนกำลังแฮงก์จากอาการเมา
"ผมขอโทษครับ เมนี่ ผมไม่ตั้งใจจะทำอะไรขาดสติแบบนี้
ผมควรจะให้เกียรติคุณ และทำทุกอย่างให้ถูกต้องก่อน พรุ่งนี้จะให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไหม"
"เมนี่เองก็ขาดสติไปเหมือนกัน เมนี่ขอตัวกลับห้อง ก่อนนะคะ กู๊ดไนต์ค่ะ"
ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนเมลานีจะเดินกลับออกไป.

ใจร้าว ตอนที่5

ตอนที่ 5

คุณปราชญ์เดินมาทางห้องผ่าตัด ได้รับรายงานจากหลายฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พยาบาลที่ทำงานผ่าตัดกับหมอลักษณ์
ต่างชมว่าหมอทำงานเยี่ยมมาก ทำให้คุณปราชญ์รู้สึกปลื้มมากเป็นพิเศษ...
จากนั้นคุณปราชญ์ก็เดินไปหาหมอลักษณ์ที่ห้องพร้อมกับปรัชญา
ผู้จัดการจอมเสเพลของเขา เมื่อพบหมอลักษณ์
จึงบอกพรุ่งนี้จะมีประชุมบอร์ดของโรงพยาบาลทั้งหมด
อยากเชิญให้หมอลักษณ์เข้าประชุม จะได้แนะนำทุกท่านให้รู้จักไว้
ปรัชญาค้านทันทีว่าหมอไม่ใช่ ฝ่ายบริหาร พ่อกลับติงว่า
วันหน้าอาจจะอยากบริหารบ้าง ลักษณ์รีบบอกว่าเขาไม่ชอบ
แต่ถ้าเป็นงานเขาพร้อมจะทำ ถามประชุมสิบโมงใช่ไหม
พอปราชญ์พยักหน้า เขาจึงตกลง แล้วขอตัวไปทำงานปรัชญาไม่พอใจ
ที่พ่อเอาใจหมอลักษณ์เกินไป แต่พอมือถือดัง เขารับแล้วยิ้มร่า
เพราะคนที่โทร.มาคือแสงฉาย หรือแซนดี้ที่ต่างก็คิดล่าเหยื่อด้วยกันทั้งคู่
ปรัชญานัดพบแซนดี้ที่ร้านอาหารในศูนย์การค้า...
ต่างฝ่ายต่างชมกันไปมา ว่าโชคดีที่ได้พบผู้จัดการใหญ่
ส่วนแซนดี้บอกโชคดีที่ได้พบเขา เพราะเธอจากไปอยู่อเมริกานาน
ตอนนี้เธออยากทำธุรกิจที่นี่...แล้วเผยว่าเธออยากทำธุรกิจเครื่องสำอาง
เช่นครีมทาผิวจากสมุนไพร ซึ่งเมืองนอกตื่นสมุนไพรไทยมาก
ปรัชญารับลูกทันที เชิญแซนดี้ไปชมสปาของโรงพยาบาลดูก่อน
เกิดไอเดียแล้วคุยกัน เขาช่วยเต็มที่...จากนั้นก็แลกเปลี่ยนลมปาก
ส่งสายตาหยาดไปเยิ้มมาให้กันและกัน

ooooooo

ดวงแก้วเก็งกำไรมหาศาล ที่จะนำฉากเลิฟซีน ตอนกรวิกขยี้ปากเมลานีด้วยการจูบ
อย่างทั้งกองถ่ายไม่คาดคิดมาก่อนไปทำโฆษณา
นอกจากจะเอาภาพจากเจษฎามาแล้ว ยังสั่งให้ตัดฉากทีเด็ดนี้ไปให้
ทางช่องทีวีโปรโมตเลย แต่ให้แค่แวบเดียว คนจะได้ตามดูตอนออนแอร์
คนที่ปวดหัวคือผู้กำกับ ถึงกับประชดพี่ดวงแก้วด้วย
การจะรื้อบทให้พระเอกกรวิกมานั่งสั่งให้เขียนบทแทน
ไม่ต้องจ้างคนเขียนบทให้เสียเงิน พี่ดวงแก้วกลับสั่งอย่าซีเรียส
ยังไงก็ให้พระเอกออกทุกฉากได้ยิ่งดี เล่นเอาผู้กำกับปุ๋ยบ่นแบบมหาเซ็งที่ไม่ได้ทำ
ละครตามที่ได้ร่ำเรียนมาจนตาเหล่กว่าจะจบ
ส่วนที่หน้ารถนอนของกรวิก ช่อลดานั่งเซ็งอยู่ด้านหน้า
ช่างภาพมือซุ่มปาปารัซซี่เดินมาทักทายช่อลดา
เพราะจำได้ว่าเธอคือแฟนคลับที่เป็นลมจนกรวิกอุ้มส่งโรง พยาบาล
เธอบอกว่ากรวิกอยู่ข้างใน เจษฎาไม่สน ซักช่อลดาว่า มาทำอะไรที่นี่
"ผู้จัดการส่วนตัวของฉัน...นายมีอะไร" กรวิกออกมาตอบคำถามแทน
เจษฎาบอกไม่มีอะไร แต่อยากคุยกับเขา กรวิกปัดทันที ไม่ว่าง...
ขณะนั้น หมอลักษณ์ไปซื้อแหวนเพชรเม็ดงามที่ห้าง
แต่ไม่เห็นปรัชญากับแซนดี้ที่ไปคุยกันที่ร้านหนึ่ง
ในศูนย์การค้านั้น...หมอลักษณ์เดินลิ่วมาหาช่อลดา เพื่อจะรับหลังเลิกงาน
"สวัสดีครับ คุณกรวิก" หันไปทางช่อลดา
"เลิกงานแล้วใช่ไหมเอย...ไปกัน"
ช่อลดาหันไปขอตัวกลับกับกรวิก และเจษฎา
ซึ่งแอบมองท่าทีของกรวิกที่มองตามหมอกับช่อลดาไป แล้วยังเปรยขึ้น
"ซีนจูบ ใครๆอาจชื่นชมว่านายแสดงได้สวีตสมจริงสุดๆ
แต่ฉันดูออกว่านายเฟกสุดๆต่างหาก" กรวิกหันมามอง
"ตานายมันฟ้อง ไม่มีแววอาลัยอาวรณ์ สู้ตอนที่นายมองผู้จัดการส่วนตัว
เดินเคลียคลอออกไปกับแฟนไม่ได้...นั่นน่ะ ดูอาลัยอาวรณ์สมจริงกว่ากันเยอะ"
มันเป็นถ้อยคำที่จี้ใจดำเผง กรวิกอยากจะตะบันให้หน้าแหก
แต่สะกดตัวเองไว้ หวั่นว่าจะเข้าทางไอ้หมอนี่
กรวิกเดินหนีไปทันที เจษฎายิ้มอย่างรู้ทันว่า กรวิกกับช่อลดามีอะไรกันแน่นอน...
หมอลักษณ์พาช่อลดาไปนั่งทานอาหารในร้านหรูแห่งหนึ่งในตอนค่ำ...
พอช่อลดาถามพี่ลักษณ์ว่า ที่บอกเธอว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกนั้นคืออะไร
เขาบอกทันทีว่า มีของจะมอบให้เอย...
ลักษณ์หยิบกล่องกำมะหยี่ขึ้นมา...จังหวะนั้นเสียงมือถือของช่อลดาดังขึ้น...
เธอหันมารับ ลักษณ์จึงกำกล่องไว้แน่น... พร้อมกับเสียงช่อลดาฮัลโหล...
ถามพี่วิกว่ามีอะไร...กลับมีการตัดสายไปทันที เธอจึงหันมาทางลักษณ์...
ขอโทษเขาก่อนถามอีกว่า มีอะไรคะ...ลักษณ์จึงเปิดกล่องแหวนเพชรออกมา
"แสงฉายตกลงหย่าให้พี่ อีกไม่กี่วันพี่จะเป็นอิสระแล้วเอย พี่ขอหมั้นเอยไว้ก่อนนะ"
เขาเอาแหวนออกมาจะสวมนิ้วนาง ข้างซ้ายให้...มือถือดังอีก
ช่อลดาจึงเอามือซ้ายนั้นไปรับ
"พี่วิก ฮัลโหล พี่วิกได้ยินเอยไหมคะ พี่วิก...พี่วิก" เสียงเงียบอีกตามเคย
จึงวางมือถือหันมาชมแหวนว่า...สวยมาก
"พี่รอวันนี้มานานแล้ว นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่พี่อยากทำ
แหวนวงนี้คือหัวใจของพี่ พี่ฝากเอยให้ดูแลมันด้วยนะครับ
"ลักษณ์สวมแหวนให้เอยอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม" เวลาหนึ่งปี
อาจทำให้เอยเปลี่ยนใจ ถึงเวลานั้นพี่จะไม่ฝืนใจ
ถ้าเอยไม่อยากสวมมันเมื่อไหร่ ก็ถอดออกได้ทันที"
ช่อลดาบีบมือเขาแน่น มองเขาอย่างสุดซึ้งในน้ำใจ...
แล้วมือถือดังขึ้นอีก ช่อลดารีบขอโทษลักษณ์ แล้วฮัลโหลเรียกพี่วิกหลายคำ...
แล้วเสียงก็เงียบไป...
ที่ห่างออกไป ในมุมหนึ่งของร้านนั้น กรวิกเก็บมือถือใส่กระเป๋า
ยิ้มอย่างพอใจก่อนเดินหนีไปช้าๆ
ช่างบังเอิญอะไรเช่นนั้น...หลังจากทานเสร็จ ลักษณ์พาช่อลดาออกมาจากร้าน...
สวนกับคุณปราชญ์กับปรัชญาเดินเข้ามาในร้าน ลักษณ์ทักทายสองพ่อลูก
ทั้งสองหันมามองช่อลดา ลักษณ์จึงแนะนำ
"เอย...นี่คุณปราชญ์และคุณปรัชญาเจ้าของโรงพยาบาลที่พี่ทำงานด้วย"
ช่อลดาไหว้ทั้งสอง ลักษณ์บอกอย่างชัดเจน
"เอยเป็น...คู่หมั้นผมครับ"
ปราชญ์มองช่อลดาอีกครั้ง แล้วชมว่าหน้าตาน่าเอ็นดู กิริยาก็นอบน้อม
คุณหมอโชคดีมากทีเดียว ลักษณ์ยิ้มภูมิใจ... ปรัชญาหมั่นไส้ลักษณ์
รำคาญพ่อที่ชมหญิงหน้าจืดซะเลิศหรูเกินไปแล้ว

ooooooo

โสภิตากำลังดูทีวีอย่างมันในอารมณ์ เพราะเป็นละครดังตอนจบด้วย
แต่เมลานีผู้บุตรสาว ดารายอดนิยมที่กำลังตกอยู่ในสภาพว้าวุ่น
อยากคุยกับแม่ จึงกดรีโมตปิดทีวี แม่โวยวาย ลูกสาวจึงบอกแม่ว่า
เธอมีเรื่องไม่สบายใจ พอแม่หันมาฟัง จึงถามอีก
"ตอนที่พ่อกับแม่รักกัน...จีบกันนานหรือเปล่าคะ"
คุณแม่โสภิตายิ้มตาลอยลิ่วสู่ความหลัง แล้วยอมรับว่านาน
สบตากันสองปี จดหมายถึงกันสามปี เกี่ยวก้อยกันสองปี
แยกกันไปเรียนเมืองนอกอีกสองปีครึ่ง กว่าจะได้แต่งงานร่วมสิบปี
แล้วพ่อแอบรักแม่อยู่นาน แต่แม่แกล้งเล่นตัว
"ถ้าใครสักคนมารักเรา เราจะรู้ได้ไงว่าเขารักเราจริง" เมลานีถามอีก
"ใช้หัวใจเป็นเครื่องวัดสิลูก คนมีหัวใจให้เรา
มองแวบเดียวก็รู้สึกได้ว่าเขารักเราจริง แต่เอ๊ะนึกยังไง ถึงได้ถามแม่เรื่องนี้
หรือมีใครหลงรักลูกแม่แล้ว"
เมลานีรีบปฏิเสธทันทีว่าไม่มี ไม่มีอะไรเลย...แล้วรีบเดิน
หนี...แม่ร้องตามครู่เดียว หันมากดรีโมตดูละครช่องสามต่อทันที

ooooooo

ช่อลดาเปิดประตูกลับเข้าห้องใน อพาร์ตเมนต์ก็เห็นกรวิกมานั่งเอ้เตอยู่
ถามทันทีว่าเป็นไง ดินเนอร์ คืนนี้ โรแมนติกสวีตมากไหม ช่อลดาย้อนถามว่า
เขามีธุระด่วนหรือ เห็นโทร.หลายครั้ง เอยโทร.กลับก็ไม่ติด กรวิกสวมรอยเลยว่า
เขาถึงถ่อมาหาเอยที่นี่ พอถามว่าจะให้เอยทำอะไร เขาตอบห้วนๆ "นวด"
เอยถามย้ำเพราะฟังไม่ชัด เขาตอบชัด
"นวดให้ฉันหน่อย เมื่อยจะตายอยู่แล้ว" ช่อลดาเดินเลี่ยงไปทางหลัง นวดที่ไหล่ให้
"นวดหนักๆหน่อยได้ไหม ไปอยู่อเมริกา 8 ปี ไอ้หมอนั่นคงเลี้ยงดูดี
ไม่ให้จับอะไรสิท่ามือถึงเบาหวิวเป็นนุ่นแบบนี้" ช่อลดาไม่โต้ตอบ
เขาอยากดูหน้าจึงให้มานวดแขน ช่อลดามานวดแขนด้านหน้า
กรวิกกัดติดหนักขึ้น
"วันไหนคุณเมนี่ไม่มีคิว ไปหัดนวดกับเขาสิ เขาเคยนวดให้ฉันน้ำหนักมือดีมาก
กดถูกจุดเป๊ะ" พอเห็นแหวนถามทันที
"แหวนหมั้นเหรอ ทำไมเพิ่งเอามาใส่"
"เอยเพิ่งได้มาเมื่อกี้นี้ค่ะ พี่ลักษณ์ให้มา"
เจอเข้าลูกนี้อาการอิจฉาตาร้อนบวกพายุหึง ถึงกับลุกพรวด
"พอ...พอ...ไม่ต้องนวดมันแล้ว ฝีมือห่วยแตก เทียบเมนี่ไม่ได้สักเรื่อง"
กรวิกเดินหนีท่าทีตึงตัง แต่ใจเหี่ยวเฉาแทบตาย...
ช่อลดาเองก็เซ็งที่อะไรก็สู้เมนี่ไม่ได้จริงๆ

ooooooo

ที่โต๊ะอาหาร เมลานีได้ยินเสียงแม่โสภิตากรี๊ดแต่เช้า จึงรีบวิ่งมาดู
คิดว่าแม่จะถึงซึ่งเวลาเด็ดสะมอเร่...
แต่เมื่อซักเข้าจริงๆ แม่วางหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้า
"ไม่มีอะไรลูก แม่ดีใจ ในที่สุดลูกกับกรวิกก็ลงเอยกันจนได้"
แม่ผวากอดลูกสาวยังงงๆบอกแม่ว่า ยังไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย แม่ยังยืนยัน
"อย่าปากแข็งหน่อยเลยน่า ภาพมันฟ้อง" ว่าแล้วยกหนังสือพิมพ์ให้ดู
ภาพที่กำลังจูบกันมันหยด แม่ร้องสวีตสุดยอด เมลานีกลับว่ามันฉากในละคร
เข้าใจผิดกันไปใหญ่ แล้วแม่ยืนยันว่าแม่ดูละครมานักต่อนัก ไม่เห็นใครจูบกัน
ดูดดื่มปลื้มใจขนาดนี้ แล้วแม่ก็เชียร์สนั่นมันอร่อยเอนจอยปาก
แล้วยังย้ำยังไงก็คบดูก่อน ถ้ายังไม่แน่ใจ ไม่เสียหายอะไรเลยลูกจ๋า...
เรื่องภาพจูบกันของกรวิกกับเมลานีดังเป็นพลุแตก กลางฟ้าบันเทิงบางกอก...
แต่ตอนนี้ กรวิกกลายเป็นจำเลยของทอปัดที่กำลังสอบสวนอยู่ในบ้าน
หลังจากแทบจะเผารูปในหนังสือพิมพ์ ทิ้ง กรวิกบอกรู้ตัวคนถ่ายแล้ว...
แต่คงไม่เรียกค่าเสียหายอย่างที่ทอปัด เสนอ ทอปัดว่าถ้าไม่เรียกค่าเสียหาย
ก็ให้กฎหมายลงโทษให้หลาบจำ จะได้ไม่ทำอะไรมั่วๆให้คนอื่นเสียหายอีก
กรวิกว่าทุกทีเขาเอาเรื่อง แต่ครั้งนี้ กรวิกบอกหน้าตาเฉย

"ครั้งนี้พี่ต้องการให้มันเป็นข่าว อะไรที่เป็นเรื่องจริง พี่ก็ต้องการให้สังคมรับรู้"
"พี่วิก..." ทอปัดอ้าปากค้าง เหมือนฟ้าผ่ากลางกบาลโดยไม่มีเค้าฝน...
คนที่เจอลูกหนักอีกคนคือคุณดวงแก้ว เพราะที่ตกลงเรื่องรูปถ่าย

สองดาราใหญ่จูบกันมันหยดของเจษฎา ที่เรียกราคา 3 หมื่น

แต่ดวงแก้วต่อรอง 5 พันนั้น บัดนี้ดวงแก้วถึงกับใบ้กิน

เมื่อรูปจูบนั้นลงหนังสือพิมพ์และนิตยสารถึง 6 ฉบับ...

แล้วยังเอามาเรียงให้แค้นอยู่ที่โต๊ะ...คุณดวงแก้วจ้องมองเจษฎา

เหมือนถูกหักหลัง จึงตั้งคำถามเจษฎาที่มายืนไม่รู้ไม่ชี้
"บอกมาซิ เธอกล้าหักหลังฉันรึนายเจษฎา" เจษฎาสั่นหัว ไม่ได้หักหลัง "

ไม่หักหลัง แล้วไอ้รูปพวกนี้มันไปอยู่บนปกหนังสือพิมพ์ แถมนิตยสารเล่มอื่น

ได้ยังไงตั้งห้าหกเล่ม"
"ก็ผมบอกต้องการสามหมื่น พี่ดวงจ่ายแค่ห้าพัน ผมก็ต้องไปหาจากที่อื่น

ให้ครบจำนวนตามที่ผมต้องการ แล้วมันผิดตรงไหนไม่ทราบ"
ภัทรมือไม้สั่น...แต่ดวงแก้วนิ่งงัน...แล้วแววตาค่อยๆส่งประกายสว่างขึ้น

เมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ...

ooooooo

ผู้กำกับการแสดงและทีมงานกำลังตั้งท่าเตรียมถ่ายละครฉากต่อไป

เกี่ยวกับเรื่องแหวนหมั้นของดาราดัง...แต่แล้วก็รอการมาของเมลานี

นางเอกยอดนิยม จนต้องโทร.ตามกันให้วุ่นวายไป แล้วภัทรก็ร้องจ๊าก

ผู้กำกับก็หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นกรวิกเดินนำหน้าช่อลดามาที่กองถ่าย...
คนที่ไม่รู้เรื่องเชิญกรวิกซ้อมได้เลย ภัทรจึงเอ็ดตะโรลั่นว่า ซ้อมได้ไง

ในเมื่อเมนี่ยังมาไม่ถึงเลย แล้วโกหกว่ากำลังมา เดี๋ยวก็ถึงแล้ว

แต่แป้นเดินกลับมาจากโทร.เข้าเครื่องบ้านเมลานี

มาบอกดังๆต่อหน้าทุกคนว่า...คุณแม่เมนี่บอกว่าเมนี่นอนป่วยอยู่แต่ในห้อง

จึงมาไม่ได้...กรวิกไม่พูดอะไร ดึงมือช่อลดาเดินผละไป...ภัทรหนาว

บอกว่ากรวิกมีหวังไม่มาถ่ายแน่ พี่ดวงแก้วจะว่ายังไง ถ้ายกกองเลิกถ่ายอีกวัน...

ทุกคนเกิดอาการเซ็งไปตามๆกัน
ขณะเดียวกัน เมลานีทนไม่ไหวเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังมาทุกนาทีเช่นนี้

เธอรู้ว่ากองถ่ายโทร.มาจิกแน่ๆ...แม่ถามว่าไปไหวไหม เมลานีบอกปวดหัว

ขับรถไม่ไหว แม่จึงบอกว่ามีคนมาอาสาขับให้ พร้อมเชิญกรวิกกับ

ช่อลดาเข้ามา...เมลานีตกใจ ไม่คิดว่ากรวิกจะบุกมาถึงบ้าน
กรวิกเริ่มแสดงบทบาทที่รักเมนี่และห่วงใยเธอสุดๆ

ทั้งน้ำเสียงและอาการห่วงใย พอเขารู้ว่าเธอไม่สบายเป็นห่วงแทบแย่

จะไปหาหมอ เดี๋ยวเขาจะพาไป เมลานีงงมาก

บอกเขาว่าเธอดีขึ้นแล้ว กรวิกยังจ้อต่อว่า ถ้าเมนี่ไม่อยากไป

เขาจะอยู่เป็นเพื่อน เมนี่ตัดบทว่านี่บ้านเธอ มีคุณแม่ดูแลแล้ว

ไม่ต้องการเพื่อนมากกว่านี้ กรวิกยิ้มหน้าตาย

บอกว่าเดี๋ยวคุณแม่คุณจะไปประชุม แม่บ้านก็ลากลับบ้าน

เขาทิ้งเมนี่ไว้คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
"ถ้างั้นฉันจะไปทำงาน" เมนี่ลุกขึ้นทันที กรวิกหน้าตาย

เข้าประคองเอาใจ เดินตามผ่านหน้าช่อลดาไปโดยไม่มองเธอเลย

โสภิตามองตามทั้งสองไป แล้วยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง...

ช่อลดาเหมือนถูกบอนไซเหลือหน้าแค่สองนิ้ว ทั้งยังถูกเหยียบย่ำอย่างไม่ปรานีอีกด้วย...

ช่อลดายังไม่หมดเวรกรรมที่คนอื่นก่อ โดยเฉพาะกรวิก...

หลังจากที่กองถ่ายยืนยันนัดนักข่าวมาให้สัมภาษณ์กรณี

อื้อฉาวในฉากจูบ ซึ่งกำหนดให้สัมภาษณ์แค่สิบนาที...

แต่เมื่อกรวิกลงรถมาเปิดประตูประคองเมนี่ลงจากรถ

โดยมีช่อลดาตามต้อยๆอย่างน้อยหน้ามาตามหน้าที่

ถูกนักข่าวรุมซักเมนี่ทั้งเรื่องความรัก คาดว่าจะแต่งงานปีนี้หรือ

จะมีลูกกี่คน นักข่าวอีกคนโพล่งถาม
"ได้ข่าวคุณเมนี่ไม่สบาย แล้วทำไมมากองถ่ายพร้อมคุณวิก หรือว่าเมื่อคืนอยู่ด้วยกัน"
เมนี่ถึงกับอึ้ง ตอบไม่ถูกว่าจะเลือกคำถามไหนดี กรวิกรีบยิ้มแย้มเปิดปาก
"อยากอยู่เหมือนกันครับ แต่คุณเมนี่ไม่อนุญาต แล้วผมก็กลัวเธอซะด้วย

ที่มาด้วยกัน ผมไปรับเธอที่บ้าน คุณเมนี่ไม่สบาย ขับรถไม่ไหว"

กรวิกหันไปทางช่อลดา แล้วหันไปยิ้มกับนักข่าว ดึงช่อลดามายืนข้าง

"คิดว่าผมแก้ตัวใช่ไหม... นี่ไง ผู้จัดการส่วนตัวผมที่หนีบไปมาเป็นเงาตามตัวตลอด
เมนี่เขาเรียกยันต์กันผี ไม่ให้เข้าใกล้ตัวเมนี่เกินหนึ่งฟุต...

ลองถามดูสิครับ เธอพูดได้นะครับ"
ทุกสายตามองมาที่ช่อลดา...เธอแทบมุดแผ่นดินหนี... หนีสภาพยันต์กันผี

ไม้กันหมา แต่หนีหน้าใครไม่ได้ กรวิกมองช่อลดาแล้วสะใจใน

ผลงานสร้างสรรค์ทางสมองครั้งนี้...อีกมุมหนึ่ง เจษฎายืนจ้องมาอย่างพินิจ

เขาสนใจปฏิกิริยาที่เกิดกับช่อลดามากกว่า...

กรวิกยังไม่ยอมหยุด...เมื่อตอนเข้าฉากกับเมนี่ เขากำลังซ้อมจะ

สวมแหวนหมั้นที่เขาบอกว่ามันไม่มีราคาเหมือนแหวนที่รินเคยได้จากชายคนเก่า

แต่อยากให้รินสวมไว้ เผื่อเมื่อห่างไกล รินจะรู้สึกเหมือนมีณัฐอยู่ใกล้เสมอ
หลังซ้อม จะเริ่มนับถ่ายจริง กรวิกเริ่มป่วนอีก เขาขอแหวนที่จะถ่ายจริง

ทุกคนบอกว่า แหวนซ้อมนั่นแหละถ่ายจริง กรวิกบอกน่าจะหาใหม่

ให้เหมาะกับตัวละครณัฐในเรื่อง จะไปหาที่ไหน เอาที่ใคร

จะไปซื้อหรือเช่าจากร้าน กว่าจะได้มาหลายชั่วโมง...ตอนนี้จึงเข้าทางกรวิก..

.เขาให้ภัทรไปขอยืมจากนิ้วผู้จัดการส่วนตัวเขา แต่ไม่รู้จะให้ยืมหรือเปล่า

เพราะแหวนหมั้นใครจะถอดจากนิ้วง่ายๆ...ทุกคนจึงหันไปหาช่อลดา...

เธอจึงกลายเป็นจำเลยของทุกคนไปทันที...ภัทรรับงานหนักไปกล่อมช่อลดา

ขอยืมแหวน จะได้ถ่ายให้เสร็จ ไม่งั้นนักข่าวเอาไปเขียนกันสนุก

กรวิกเร่งด้วยการบอกว่า เขารักคู่หมั้นจะตาย ยังไงก็ไม่ให้ยืม

ยกไปก่อนเถอะ...ว่าแล้วเดินออก ภัทรหมดใจก่อนจะบอกยกเลิกกองถ่าย ช่อลดาร้องขึ้น
"เดี๋ยวค่ะพี่วิก" กรวิกหันมามอง ช่อลดาถอดแหวนจากนิ้วให้ภัทร แล้วบอกกรวิก

"กลับไปทำงานให้เสร็จเถอะค่ะ" กรวิกยืนมองช่อลดานิ่ง นึกไม่ถึงว่าเธอ

จะกล้าถอดแหวนออกจากนิ้ว...
ตลอดการถ่ายฉากนั้น กรวิกสวมแหวนหมั้นให้เมนี่ด้วยอาการอิ่มเอม

เปรมใจในการสวมแหวนหมั้นให้คนที่รักสุดๆ แต่สายตากรวิกกลับ

แอบชำเลืองช่อลดาตลอดเวลา... กระทั่งเสียงสั่งคัตดึงขึ้นเป็นอันจบฉากนี้

พระเอกนางเอกหมดคิวแล้ว...เมนี่ถอดแหวนคืนกรวิกไป
"หวังว่าผมคงมีโอกาสสวมแหวนที่เป็นของผมเองให้คุณสักวันนะครับ"
เมนี่เจอน้ำหยดลงหินทุกบ่อย เกิดอาการหวามหวิวไปไม่น้อย

ขณะจะสะเทิ้นอาย ภัทรมาบอกว่าพระนางทั้งสอง เอาไว้สวีตกันวันหลัง

ตอนนี้จะพานางเอกไปอาบน้ำแต่งตัว จะมีงานโชว์ตัวต่ออีก...

ช่อลดามาทวงแหวนจากตาล...แล้วต่างก็ถามว่าเมนี่คืนแหวนให้ใครไป

เมื่อไม่รู้ ช่อลดาจึงบอกเธอจะไปตามคุณเมนี่เอง...กรวิกมองตามช่อลดา...

มองแหวนในมือของเขา ก่อนจะหย่อนลงกระเป๋า...
ช่อลดาวิ่งไปหาเมนี่ที่อยู่กับภัทร ขอแหวนเธอคืน

เมนี่บอกให้คุณกรวิกไว้แล้ว คงยังไม่ได้คืน ช่อลดาจึงรีบวิ่งกลับไป...

เห็นหลังกรวิก จึงตามไปทันที่หน้ารถตู้นอน พอถึงก็ขอแหวนเธอคืน

เขาถามหน้าตาเฉยว่าแหวนอะไร พอบอกว่าแหวนพี่ลักษณ์ที่เอยให้ยืมเข้าฉาก

คุณเมนี่ว่าอยู่ที่พี่วิก
"ใครยืม เธอก็ไปทวงคนนั้นสิ...มันไม่ได้อยู่ที่ฉัน" ว่าแล้วเดินหนี

ช่อลดาวิงวอนขอให้คืน ดักหน้าไว้
"พี่วิก...พี่ลักษณ์เพิ่งให้แหวนเอยมา ถ้าหายไปแบบนี้

จะบอกพี่ลักษณ์ว่ายังไง เอยไม่อยากมีปัญหากับพี่ลักษณ์"
"จะบอกยังไง มันเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน...อ้อ กลัวมันโกรธเรอะ

แต่มันน่าโกรธ อยู่ๆคู่หมั้นดันไปถอดแหวนให้ คนอื่น แหวนแทนใจไม่รักษา

นับประสาคำว่ารักที่พูดพล่อย ลอยไปมา"
"พี่วิกจะด่าเอยยังไงก็เชิญเถอะค่ะ เอยขอแหวนคืนด้วย แหวนนั้นสำคัญกับเอยมากนะคะ"
กรวิกเดินขึ้นรถนอนเฉย...ไม่สนใจเสียงร่ำร้องวิงวอนของช่อลดา...

กรวิกกลับเข้าไปกำแหวนไว้แน่น เหมือนกับโลกทั้งโลกหลอมละลาย

มาเป็นความแค้นที่ทิ่มแทงใจเขา ถึงกับตะโกนว่า...มันสำคัญสำหรับเธอมากนักใช่ไหม...

ใช่ไหม...เขาตะโกนด้วยเสียงที่แทงทะลุลงไปในอกที่ช้ำเลือดของเขา...
กรวิกนิ่งเงียบครู่หนึ่ง จึงเดินออกมาจากรถนอน เห็นช่อลดานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว

กรวิกรู้สึกสงสารจับใจ กำแหวนเดินไปมา เตรียมจะคืนให้ แล้วต้องชะงัก

เมื่อลักษณ์เรียกเอย... ลักษณ์หันมาสวัสดีกรวิก แล้วพูดกับช่อลดาอ่อนโยนน่ารัก
"เหนื่อยไหม หิวไหม วันนี้พี่จองโต๊ะอาหารอิตาเลียนไว้ให้"
"ฉลองที่หมั้นกันหรือครับ" กรวิกถามดุ่ยๆ แต่ช่อลดารู้ว่าเขาโยงเข้าเรื่องแหวนหมั้น

ลักษณ์ย้อนถามว่าเขารู้หรือ กรวิกจึงสุมไฟทันที
"รู้กันหมดทุกคนล่ะครับ ก็คู่หมั้นคุณเล่นเอาแหวนมาอวดทุกคนในกองนี่ครับ"

ลักษณ์ยิ้ม กรวิกรีบแสดงความยินดี เลี้ยงฉลองเมื่อไหร่เขาไปร่วมงานทันที

ลักษณ์รีบบอกว่า ถ้าเอยให้จัดเมื่อไหร่เขาเชิญกรวิกเป็นคนแรก...

กรวิกยิ้มแต่ไม่ปลื้ม มือถือลักษณ์ดังขึ้น
"ครับ...ผมไม่ลืมหรอก โอเคผมไปรับคุณ แล้วเราไปอำเภอด้วยกัน"

ลักษณ์พูดต่อ
"จะกล้าบอกคู่หมั้นรึเปล่าว่าแหวนสุดรักสุดหวงมันหายไปน่ะ"

กรวิกแกล้งกระซิบที่หูช่อลดา...ลักษณ์ปิดมือถือ ลากรวิก

แล้วชวนช่อลดาไป...กรวิกมองแหวนอีกครั้ง คราวนี้สติอารมณ์เขาแตกกระจุยยับเยิน

ooooooo

ขณะที่ลักษณ์กับช่อลดานั่งกินอาหารอิตาเลียน อยู่ด้วยกัน

เขาสังเกตว่าช่อลดามีอาการไม่ค่อยจะเสบย เพราะไม่รู้ว่า

ช่อลดาหมดความสุขกลัวเขาจะถามถึงเรื่องแหวน...

เขาจึงคิดว่าเธอไม่สบาย เขาบอกเป็นห่วงเธอมาก

แล้วสังเกตที่นิ้วเธอจนได้ พอถามว่าแหวนหายไปไหน...อึกอักแล้วโกหกทันทีว่า

ลืมไว้ที่ห้องน้ำ


"แต่คุณกรวิกบอกว่า เอยใส่ไปที่กองถ่ายนี่"
ช่อลดารีบแก้เกมอย่างรวดเร็ว บอกลืมถอดล้างมือใน ห้องน้ำตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า

ลักษณ์จึงบอกว่าค่อยยังชั่ว นึกว่าเอยทิ้งเสียแล้ว

ช่อลดารีบยืนยันว่าแหวนนี้สำคัญกับเอยมาก มันหมายถึงพี่ลักษณ์

แล้วเอยจะทิ้งหรือ?
ขณะนั้น แซนดี้กับปรัชญาออเซาะกันพลางเดินเข้ามา ในร้านนั้น

หลังจากไปพบปรัชญาที่แผนกเมดิคัลสปา ให้เธอทดลองคอร์สสปาวีไอพี

เพื่อผ่อนคลายร่างกายมาแล้ว จึงพา มาทานอาหารที่นี่ แต่พอแซนดี้มองไป

หน้าบูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลักษณ์ดึงมือช่อลดาขึ้นมาหอมอย่างทะนุถนอม

แซนดี้ เดินไปด้วยความคิดอาฆาตแค้นทั้งคู่ขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ได้

ตกลงหย่ากับลักษณ์อยู่แล้ว...
แซนดี้คุยกับปรัชญา แต่ตาแอบมองมาที่โต๊ะลักษณ์กับช่อลดา

จนแทบจะคุยไม่รู้เรื่อง พอเห็นลักษณ์เช็กบิลจ่ายเครดิตการ์ดและทิป

เด็กแล้วพากันเดินออก แซนดี้ขอตัวไปห้องน้ำ...

แต่แอบเดินไปดักลักษณ์ที่ลานจอดรถ ลักษณ์เห็นแซนดี้ จึงทักอย่างแปลกใจ

และแนะนำให้รู้จักกับช่อลดา ซึ่งเธอทักชื่อแสงฉาย จนแปลกใจที่รู้จักเธอ

แล้วในที่สุด แซนดี้ ย้ำกับลักษณ์ว่า อย่าลืมที่นัดกันวันพรุ่งนี้

ก่อนลาจากยังหอมแก้มลักษณ์หนึ่งฟอด...
แต่เมื่อกลับมาส่งช่อลดาที่อพาร์ตเมนต์ ลักษณ์รู้ว่าช่อลดา

ไม่สบายใจเรื่องแสงฉาย จึงบอกเธอว่า ได้แยกกันมาแปดปีแล้ว

และพรุ่งนี้จะไปหย่ากันแล้ว เขาดีใจที่สุดที่จะได้ คบกับช่อลดาอย่างเปิดเผย

ช่อลดาจึงยิ้มให้เขา และคลายกังวลไป
ขณะที่กรวิกแอบเอาช่อดอกไม้ช่อใหญ่ขึ้นไปหาเมนี่

ขณะที่กำลังเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตมือถือรุ่นใหม่พิเศษ...

เขาสร้างความฮือฮาให้วงการสื่อ และดวงแก้วที่นึกไม่ถึงว่า

กรวิกจะทำให้เจ้าของสินค้าได้ประโยชน์เกินค่า ทั้งๆที่ดวงแก้วเตรียม

จะให้กรวิกออกเทป และมีเมนี่เป็นนางเอกมิวสิกวีดิโอเร็วๆนี้ ด้วย...

การมอบช่อดอกไม้ครั้งนี้ กรวิกยังกระซิบเมนี่ว่า คืนนี้ เธอสวยที่สุด

เล่นเอาเมนี่ใจเต้นระทึก แทบละลายไปกับคำหวานของเขา...
ขากลับ กรวิกยังขับรถมาส่งเมนี่ถึงบ้าน เขายิ้มรับคำขอบคุณของเธอ

สำหรับดอกไม้ที่เขาให้ กรวิกรีบบอก ดอกไม้นั้นเหมาะกับเมนี่มาก

ทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ หอมเย้ายวนใจ แล้วอาสาจะมารับเธอพรุ่งนี้...

ทั้งสองลากันด้วยสายตาหวานเยิ้ม...เมนี่ หอบดอกไม้บานแข่งกับหัวใจเธอเข้าบ้าน...

ลับตาเมนี่ กรวิกเอามือถือมากด
"ฮัลโหล...เธอยังอยากได้แหวนหมั้นอยู่ไหม...ช่อลดา"

เขาสั่งความสองสามคำก่อนปิดสาย

ooooooo

ทอปัดกระโจนลงมาจากชั้นบน โดยมีประยงค์ ตามลงมา

พอเห็นช่อลดามานั่งที่ห้องรับแขก กรากเข้าไปหาเหมือนพยัคฆ์จะขย้ำเหยื่อ

ถามว่าใครใช้ให้ เสนอหน้ามาที่นี่ ช่อลดาบอกเธอมีธุระกับพี่กรวิก

ทอปัดด่าว่าผู้หญิงหากินอย่างเธอจะมีธุระอะไร นอกจากเรื่องอย่างว่า
ช่อลดาตอบโต้ว่าทอปัดคิดแต่เรื่องอย่างนี้หรือ ทำเอาทอปัดโกรธจนตาเหล่

พอจะตบ ช่อลดาจับมือไว้ จึงยื้อกันไปมา ทอปัดเรียกประยงค์กับเยื้อนมาช่วย

จับช่อลดามือไขว้หลัง ทอปัด ตบช่อลดาฉาดใหญ่ เลือดปริ่มมุมปาก

พอจะซ้ำอีก ต้องชะงัก
"หยุดเดี๋ยวนี้นะทอปัด" กรวิกสั่ง ทอปัดรีบบอกพี่วิก มาก็ดีแล้ว ลากนังนี่ออกไปที

"ไม่ต้องลากต้องไล่ เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเสร็จ จะเชิญเขากลับเอง ส่วนเธอ

กลับขึ้นห้องเดี๋ยวนี้" ทอปัดปึงปังขึ้นไปแล้ว กรวิกสั่งสองแม่บ้าน

อย่าช่วยยายปัดก่อเรื่องอีก ขัดคำสั่งเอาเรื่องแน่ ทั้งสองรีบรับคำเผ่นหนีไปทันที
กรวิกให้ช่อลดาตามเขาไป...ถึงมุมส่วนตัว เขาเห็นเลือดที่มุมปาก แต่ทำไม่สน

ขอโทษแทนทอปัดที่ทำร้าย ช่อลดาขอแหวนคืนเท่านั้นก็พอ

พี่วิกให้เธอมาเรื่องนี้ ฉะนั้นคืนแหวนมาให้เธอ
"ไม่ให้ ฉันไม่มีอารมณ์ ไว้มีอารมณ์เมื่อไหร่ จะคืน ให้ก็แล้วกัน"
"พี่วิกทำอย่างนี้ทำไม ต้องการแกล้งเอย เพื่อความสะใจของตัวเองแค่นั้นใช่ไหม"

ช่อลดาขึ้นเสียงจนกรวิกตกใจ... แล้วเธอหันหลังก้าวยาวๆหนีไปทันที

ไม่สนใจเขาร้องเรียกให้หยุด...จนมาถึงหน้าบ้าน เขาจึงวิ่งมาดัก สั่งให้หยุด

ทำไมเจ็บใจอะไรนักหนาเรื่องแค่นี้ ช่อลดาโต้ว่า มันสำคัญมากสำหรับเอย

แกล้งเธอพอทนได้ แต่ขออย่าทำให้กระเทือนใจพี่ลักษณ์

กรวิกเจอคำนี้ ถึงกับจุกเสียดยอกอก
"เธอแคร์ไอ้หมอนั่นขนาดนี้หรือ พูดเหมือนกับว่า

ในชีวิตเธอมีแค่ไอ้หมอนั่นที่รักหวังดีกับเธอ"
"พี่ลักษณ์เป็นคนดี เขารักและหวังดีกับเอยมาตลอด...

แต่มีผู้ชายอีกคนที่รักและหวังดีกับเอย อาจมากกว่าพี่ลักษณ์

แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เราต่างคนมีภาระพันธะต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดด้วย"

กรวิกรับว่าเข้าใจ ช่อลดาจึงย้ำว่า เขาจะคืนแหวน ให้เธอใช่ไหม

กรวิกกำลังแสบในทรวง จึงกระชากเสียงใส่
"ไม่...ในเมื่อรักมันมาก ก็ไปหาทางแก้ตัวกับมันก็แล้วกัน"

ว่าแล้วจะเดินหนีเข้าบ้าน กลับหยุดฟัง
"การแก้แค้น เอาคืน หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มัน

ไม่มีข้อยกเว้นเลยหรือคะ คำขอร้องของเอย

ไม่มีความหมายต่อพี่วิกเลยใช่ไหม หรือตอนนี้ แค่อยากเห็นเอยเจ็บปวด

เอยยอมรับค่ะ ว่าเอยเจ็บ ได้ยินแล้วคงสะใจพี่วิกมากสินะคะ"

กรวิกหันมามอง...แต่แล้วเห็นแต่หลังช่อลดาไวๆ เขาต้องวิ่งตามไปทันที
เขาวิ่งตามช่อลดาออกมาถึงปากซอยที่แม้จะดึก ยังคง

สว่างไสวเหมือนตลาดโต้รุ่ง...เขาเรียกช่อลดา

แล้วจับแขนไว้ เมื่อตามทัน แล้วต่อว่าเธอ

จะมาด่าแล้ววิ่งหนีไม่ได้ ช่อลดาแย้งทันทีว่า พูดความจริง

ไม่ได้ด่า แต่จะบอกว่าเอยรับความจริงได้ ความจริงที่ว่า

พี่วิกต้องการทำให้เอยเจ็บเหมือนพี่วิกเคยเจ็บ...
"เธอเอาแหวนมาตัดสินความเป็นฉันอย่างนั้นหรือ

ถ้าไอ้แหวนวงนั้นมันสำคัญกับเธอนักละก็ ฉันจะคืนให้เธอเดี๋ยวนี้"
ขณะสองคนกำลังโต้วาทีกันนั้น แฟนคลับที่นั่งดื่มนั่งกิน

อยู่หลายร้านมองมา คนแรกร้องขึ้นว่ากรวิก...

หลายคนจ้องตาม...ขณะที่กรวิกจะส่งแหวนคืนให้

เสียงผู้หญิงร้อง "พี่วิก...พี่วิกขา..."
กรวิกตามช่อลดาออกมา โดยไม่ได้พรางตัวตามเคย...

พวกนั้นฮือมารายล้อมทั้งหญิงชายและสาว

ประเภทสองที่มาผสมโรงส่งเสียงเจี๊ยว รุมชมรุมขอลายเซ็น

เสียงกรี๊ดกร๊าด...กรวิกหนีพลางเซ็นพลาง...

ช่อลดาถือโอกาสหลบหนี กรวิกเซ็นไป เดินหนีไป...ตามองตามช่อลดา

แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว

ooooooo