วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ใจร้าว ตอนที่10

ตอนที่ 10

แซนดี้นั่งแปรงผมหน้ากระจกในห้องนอนของปรัชญา
เธอชำเลืองมองเขาที่กำลังนอนมือก่ายหน้าผากบนเตียง
จึงคิดจะช่วยปลอบใจ เข้าไปลูบไล้และอาสาจะคลายเครียดให้
เขาห้ามไว้ เพราะกำลังใช้ความคิด... แซนดี้หมดอารมณ์
"ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหมอลักษณ์ถึงเปลี่ยนใจกลับไปกลับมาแบบนี้"
แซนดี้หัวเราะ เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ เขาย้ำให้แซนดี้รู้
"ทีแรกหมอจะคืนห้องหรูให้พ่อ แล้วจะบินไปแต่งงานที่อเมริกา
แต่บ่ายเมื่อกี้ไปดูยังเห็นอยู่ที่ห้อง สงสัยจะเปลี่ยนมาแต่งงานในไทย..."
แซนดี้ฟังแล้วของขึ้นทันที ปรัชญาเห็นท่า จึงสาดเบนซินใส่
"ลาออกจากโรงพยาบาลแล้วยังเปลี่ยนใจ...จะแต่งที่ไหนไม่สำคัญ
มันอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ กะจะพาคุณไปอยู่ ถูกตัดหน้าซะนี่...
ไม่รู้กล่อมพ่อท่าไหน ท่านอนุญาตให้เป็นเรือนหอชั่วคราวได้เลย"
ปรัชญาลุกมาโอบกอดแซนดี้ด้านหลัง
"ไม่เป็นไร ผมจะหาเพนท์เฮ้าส์ใหม่ให้ เรือนหอหมอลักษณ์จะสู้เรือนหอเราได้ไง
จริงไหมครับ"ว่าแล้วจูบไซ้เอาใจ แต่รู้ว่าตอนนี้ไฟราคะหน้ามืดของเธอวูบหายไปแล้ว...
เหลือแต่ความแค้นลักษณ์...

ooooooo

หลังจากกรวิกอาบน้ำแล้ว เดินออกมาหาเอยที่นั่งเงียบอยู่มุมห้อง...
ขณะที่ป้าสวยกำลังดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงอย่างอ้อยอิ่ง
ยิ้มอย่างรู้ทันฮันนีมูนอย่างกรวิกว่า แล้วลุงส่งก็หอบหมอนผ้าห่มมาให้อีกหนึ่งชุด
กลัวคุณเอยจะหนาว ป้าสวยตัวดีรีบบอกผัว
"ไม่ต้องเอามาก็ได้ ถึงหนาว เธอก็มีคุณวิกให้กอดอยู่แล้วทั้งคน...จริงไหมค้า"
เอยยิ้มจืดเต็มหน้า กรวิกกลับรีบพยักหน้ารับคำ แล้วถือโอกาสกอดเอยทันที
ป้าหัวเราะคิกๆ กรวิกทำหาวหวังจะไล่สองผัวเมียไปเสียที
แต่ลุงส่งตอบคำถามหน้าตาเฉยว่า เขายังไม่ง่วง จึงถูกป้าตีหนึ่งเพี๊ยะ
บอกว่าง่วงแล้วทั้งบอกลา จิกสามีให้รีบไป ยืนนิ่งอยู่ได้...
เมื่อสองผัวเมียไปแล้ว...เอยรีบบอกว่าลุงป้าไปแล้ว
ปล่อยเอยเถอะ เขาจึงปล่อยมือ แล้วสั่งแก้เก้อให้เอยไปอาบน้ำ..
.แล้วสำทับเร่งว่า ถ้าไม่อาบ จะรอให้เขาอาบให้หรือ...พอเขาเดินมาหา เอยรีบบอก
"อาบ...เอยอาบเองได้...แต่เอยไม่มีเสื้อผ้าติดมาเลย" กรวิกเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตู้
มีเสื้อเชิ้ตกับผ้าขนหนูมาให้ บอกว่าใช้ไปก่อน พรุ่งนี้จะให้ป้าไปซื้อมาให้...
เขามองตามหลังเอยที่ไปเข้าห้องน้ำ แล้วเอนตัวลงเหมือนตอนนี้เขาอยู่ในความฝัน...
คิดว่าจะจากกันชั่วชีวิตแล้ว กลับได้มาอยู่ห้องเดียวกันบนเกาะที่ไม่มีใครมาวุ่นวายได้อีก...
กรวิกหารู้ไม่ว่า...ในเวลาเดียวกันนี้
ทอปัดก็มาเปลือยร่างอยู่บนเตียงกับเจษฎาที่คอนโดฯของเขา
หลังจากนาทีความรักสุดยอดผ่านไป เจษฎาก็นอนยิ้มอย่างสะใจ
แต่ทอปัดกลับต้องทวงให้เจษฎารีบทำตามสัญญา เขาจึงรับรองให้ความหวังเธออีกครั้ง
"อีกไม่นาน ปัดได้ขึ้นปกแน่...ตอนนี้ขอดูคนเดียวก่อน
ยังไม่อยากให้ผู้ชายที่ไหนเห็น ผมหวง"
"แหม...มันแค่รูปบนปกหนังสือ ใครจะทำอะไรได้คะ"
"นั่นละ ผมไม่อยากให้ใครลามเลียทางสายตา ผมหึง
เซ็กซี่น่าฟัดไปทั้งตัวอย่างนี้ เป็นใคร ใครจะไม่หึง"
ว่าแล้วดึงตัวทอปัดมาฟัดอีกรอบ ทอปัดก็ยอมให้ฟัด
มีความฝันอันบรรเจิดเพริศแพร้วในฐานะนางเอกชื่อดัง ลอยมาอะร้าอร่ามตรงหน้า...
ในค่ำคืนเดียวกันนี้ เมนี่นอนไม่หลับ เดินวนเกือบแปดรอบ
จึงตัดสินใจโทร.หากรวิก...ขณะที่กรวิกนอนฝันหวานบนเกาะ
เอยกำลังอาบในห้องน้ำ เสียงมือถือดังขึ้น พอมองดูก็รู้ว่าเมนี่โทร.มา
จึงตัดสินใจรับ แล้วเดินออกไปนอกห้อง...บอกเมนี่ว่าเขามาทำธุระต่างจังหวัด
ขอโทษที่ยุ่งทั้งวัน ไม่มีเวลารับโทรศัพท์จากใคร เมนี่บอกว่าไม่เป็นไร
รู้ว่าเขาปลอดภัยก็โล่งใจ ทีแรกใจไม่ดี คิดว่าเขาจะมีอันตราย
"แล้วนี่คุณทราบไหมคะว่า เอยหายตัวไป" กรวิกทำเป็นสนใจย้อนถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"เมนี่ก็ไม่รู้ บังเอิญเจอหมอลักษณ์จึงรู้ว่าเอยหายตัวไป
เลยคิดว่าเอยอาจติดต่อกับวิกบ้าง"
"ไม่นี่ครับ...ผมจะกลับราวเที่ยงพรุ่งนี้...อ๋อ ได้แล้วครับ
พี่ภัทรให้คิวผมมาแล้ว...แล้วเจอกันครับ"
เมนี่เตือนให้ขับรถดีๆ ย้ำว่าห่วงเขามาก...แล้วเมนี่ก็ยืนมองพระจันทร์ดวงโต...
แล้วยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนกรวิกยืนมองไปยังท้องทะเลอย่างไม่สบายใจ...
เมื่อได้ยินเสียงห้องน้ำเปิด เขาเดินกลับห้อง พอเห็นเอยใส่เสื้อเชิ้ต
สระผมมาหมาดๆ จ้องจนเธอหวาดๆ เขาชมว่าเธอแต่งแบบนี้น่ารัก
เซ็กซี่อีกต่างหาก เอยทำใจดีสู้เสือ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
ที่นี่มีบ้านพักสองหลัง พอเขารับ จึงบอกทันที
"ถ้างั้นเอยขอไปนอน..."
"ถ้ากลัวฉันนัก...ก็ตามใจ อยากจะไปนอนที่อื่นก็ได้ แต่เธอแน่ใจหรือ"
เอยรับคำ แต่ท่าทียังระวังตัวแจ...ส่วนกรวิก ยังมองเอยแล้วคิดวนไปมา
จากนั้นเขาพาเอยไปยังห้องที่มีสองเตียง เอยชวนคุยว่า
เขาคงพาแขกมาพักที่นี่บ่อย เขาปัดทันทีว่า เขาไม่ได้ทำไว้รับแขก
"เอยนอนเตียงนี้แล้วกันนะคะ เอยไม่รบกวนพี่วิกแล้ว"
"จะไล่ฉันให้กลับไปนอนที่ห้องว่างั้นเถอะ...แต่ฉันยังกลับไม่ได้
จนกว่า...จะจัดการภารกิจบางอย่างก่อน" ว่าแล้วค่อยๆย่างเข้าหาเธอ
เอยใจเต้นระทึก ภารกิจอันใดทำให้เอยใจหวาดผวา
"พี่วิกจะทำอะไร" เอยค่อยถอยทีละก้าว จนติดข้างฝา
เขาเดินมาจนชิดรู้สึกด้วยลมหายใจ เธอถามเสียงสั่นพร่า
"พี่วิก...จะทำอะไร...อย่าทำอะไรเอยนะคะ เอยขอร้อง"
"อยู่นิ่งๆ..." เขาสั่งเฉียบ
"ขอร้องให้อยู่นิ่งๆ อย่าเพิ่งหันไปทางขวาเด็ดขาด"
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เอยค่อยๆหันไปมอง...แล้วแทบช็อก
เมื่อเจอตุ๊กแกเข้า เอยกรี๊ดสุดเสียง ผวาเข้ากอดกรวิกแน่น หลับตาปี๋ปากร้อง
"พี่วิก...ช่วยด้วย"
"นิสัยเหมือนเดิมไม่มีผิด" กรวิกขำและรู้สึกเอยกอดเขาแน่นหนึบ อุ่นไปถึงหัวใจ...
ไม่นาน...ลุงส่งก็วิ่งมาหน้าตาตื่น จากเสียงร้องของเอย กรวิกส่งถุงใส่ตุ๊กแกให้
ลุงส่งยิ้มอย่างเห็นขำ...ยิ่งเห็นท่าสยองไม่หายของเอย
ลุงบอกว่าได้ยินเสียงร้องลั่น นึกว่าอะไร ที่แท้ก็ไอ้นี่เองที่ก่อเรื่อง
แล้วยังถามว่าไม่รู้ตัวไหนนะเนี่ย เอยฟังยิ่งหนาวแกมสงสัย จึงถาม
"หมายความว่า...ไม่มีแค่ตัวนี้ตัวเดียวหรือคะ"
ลุงส่งอธิบายยาวยืด ทีแรกก็ตัวเดียว พอมีตัวเมียมาอยู่ด้วย
ก็มีลูกคลานตามกันมาอีกสอง ลุงส่งเรียกชื่อล้วนตุ๊ดตู่ ตุ๊ดติ่ง
สารพัดตุ๊ด...แล้วก็มีการผสมผสานกันจนแตกลูกตามมาอีกยั้วเยี้ย
จนเอยขอร้องหยุดเล่าได้แล้ว กรวิกจึงบอกว่า พวกมันอยู่กันพร้อมหน้าที่นี่ไปก่อน
เขาย้ายมา ค่อยให้พวกมันอพยพพาลูกหลานไปอยู่ที่อื่น ให้ลุงกลับไปพักผ่อนได้แล้ว
"เธอก็เหมือนกัน พักผ่อนได้แล้ว" กรวิกสั่งเอย แล้วทำท่าจะเดินกลับห้องของเขา
เอยรีบคว้ามือเขาหมับทันที
"พี่วิกคะ...ให้เอยไปนอนห้องพี่วิกด้วยคนได้ไหมคะ"
"จะเอายังไงกันแน่" กรวิกถามอย่างเจ้าเล่ห์ ทำท่าเหมือนไม่พอใจ
แต่ที่แท้อยากจะหัวเราะให้ฟันหักด้วยความชื่นมื่น สมใจ...
เมื่อเข้าไปในห้อง กรวิกให้เอยนอนบนเตียง เขานอนที่โซฟา
เอยจะนอนโซฟา เขาดุอย่ามากเรื่อง จึงจำยอม เขามองเอยแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
แล้วจึงหลับตาลง...เอยเองก็นอนหลับตา แต่อดลืมตามองไม่ได้
เห็นเขานอนขดตัวคงหนาวมาก จึงมาห่มผ้าให้ เขาลืมตาทันที
"นึกว่าเธอจะไม่ห่วงฉันซะอีก แล้วเธอล่ะ ที่นี่ยังหนาวนะ"
"เอยนอนบนเตียง ยังไงก็อุ่นกว่า"
กรวิกยิ้ม นอนอย่างสบายใจที่สุดเป็นครั้งแรกในหลายเดือนที่ผ่านมา
เขาสั่งเธอปิดประตู จะได้กันลมด้วย...ทั้งสองมองกันอย่างเข้าใจ ก่อนจะต่างคนต่างนอน...

ooooooo

คืนนี้เวลาสำหรับลักษณ์ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า แม้ว่าจะใกล้รุ่งแล้ว
ลักษณ์อยากเร่งให้สว่างเร็วๆ แล้วเสียงออดก็ดังขึ้น...พอเปิดออกมา
กลับเป็นแสงฉาย หรือแม่แซนดี้ภรรยาสาวแสบตัวดี มาอาละวาดด่า
ช่อลดาหรือนังเอยที่ถือว่าหน้าด้านมาแย่งสามีชาวบ้าน
หมอปรามอย่าหยาบคาย แซนดี้ยิ่งด่าหนัก ด่าว่าจะแอบพากันไปแต่งงานที่อเมริกา
แล้วตะโกนเรียกเอยให้ออกมา ลักษณ์บอกว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่
ยิ่งทำให้แซนดี้เดือดดาล คาดคั้นให้บอกว่ามันอยู่ไหน

"ถ้าผมรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมจะคุกเข่าขอแต่งงาน
จะไม่รอช้าเหมือนที่ผ่านมาแม้วินาทีเดียว"
"ก็เอาสิ...ถ้าคุณกล้าแหกหน้า กล้าทำให้แซนดี้เจ็บ แซนดี้ก็จะทำให้คุณกับ
แม่นั่นเจ็บหนักกว่าแซนดี้ร้อยเท่าพันเท่า...คอยดู"
แซนดี้ระบายแค้น แล้วสะบัดก้นหนีไป ลักษณ์ทรุดลงอย่างสิ้นเรี่ยวแรง

ooooooo

เอยตื่นขึ้นมาในตอนเช้า มองไปที่โซฟาไม่เห็นกรวิก จึงลุกขึ้นเดินมาที่ระเบียง
เห็นเขาขี่จักรยานวนไปมาเป็นการออกกำลัง เอยนึกถึงความหลังที่เคยซ้อน
ท้ายจักรยานไปตามชายหาด จนถูกเขาแกล้งยกล้อให้หวาดเสียว...
เช้านี้จึงมองเขาเพลิน กรวิกหันมามอง เอยรีบหันหนีทันทีลุงส่งถือถาด
ข้าวต้มและถ้วยชามพร้อมเครื่องดื่มมาวางที่โต๊ะ ลุงส่งถามว่าไม่ลงไป
ขี่จักรยานอย่างคุณวิกหรือ เอยบอกไม่ดีกว่า พี่วิกชอบขี่โลดโผนมานานแล้ว
ป้าได้ยิน จึงถามขึ้น
"คุณช่อลดา ท่าจะคบหาคุณวิกมานานแล้วนะคะ เอ... แล้วคุณรู้จักกับคุณ..."
"ไม่เอาน่า" ลุงส่งตัดบทเมียทันที
"แกจะพูดถึงคุณคนนั้นทำไม ในเมื่อคุณวิกเลือกคุณช่อลดาเป็นภรรยาแล้ว"
"ลุงกับป้าหมายถึงคุณเมนี่หรือคะ" เอยทนนิ่งไม่ไหวถามขึ้น
"พี่วิกพาคุณเมนี่มาที่นี่บ่อยหรือคะ"
ลุงส่งเห็นท่าไม่ดี รีบบอกเอยว่า คุณหนูอย่าไปสนใจคำพูดยายสวยเลย
แล้วรีบเสนอรายการข้าวต้ม ขนมปังกาแฟ อยากได้อะไรสั่งได้
ป้าสวยบอกคุณวิกสั่งให้เอาไข่ลวกสองฟอง สงสัยอยากมีลูกเร็วๆ
แล้วถามเอยว่าอยากได้ลูกกี่คน หญิงหรือชาย เอยได้แต่ยิ้มห่อเหี่ยวลงทันที
ป้าสวยยังว่าต่อ พูดถึงถ้ามีลูกคงสวยหล่อเหมือนแม่กับพ่อ แล้วยังเปรยต่อไปว่า
คุณวิกหล่อสุดหลุดโลก ไม่เห็นมีใครมาเอาไปเป็นพระเอกละครบ้าง
เอยจึงรู้ว่าที่นี่คงไม่เคยดูละครทีวี จึงไม่รู้ว่ากรวิกคือพระเอกดัง...
แล้วเอยก็รู้ว่า ที่นี่สองผัวเมียไม่มีทีวีดูเลย...
หลังจากกรวิกกลับมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ มาที่โต๊ะอาหาร กินไข่ลวก
ขณะเอยกินข้าวต้ม ป้าเสนอรายการไข่มาอีก กรวิกจึงบอกพอแล้ว
เดี๋ยวจะไปทำงานแล้ว ลุงติงว่า น่าจะอยู่สองสามวัน ตามประสาข้าวใหม่ปลามัน
เล่นเอาเอยหน้าม้านตั้งตัวไม่ติด...กรวิกส่งเงินให้ป้าข้ามไปเกาะข้างๆ
ซื้อเสื้อผ้ามาให้เอย สี่ห้าชุดเพราะเธอไม่ได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วย...
สองผัวเมียพากันกลับบ้านแล้ว เอยยกน้ำส้มที่กรวิกปั่นไว้เอง
ดื่มจนหมดแก้ว กรวิกมองแล้วทวงทันที
"อร่อยละสิ ดื่มซะเกลี้ยง มีแรงแล้วอย่าทรยศคนทำ ด้วยการหนีเขาไปล่ะ"
เอยวางแก้วลงเก้อๆ อยากจะบอกให้ช้ำว่า คิดหาทางหนีตั้งแต่ยังไม่ถึงเกาะอยู่แล้ว...
หลังอาหารแล้ว กรวิกคิดว่าเขาจะต้องไปทำงานเสียที
จึงแต่งตัวเดินไปลงเรือ กำลังล้วงกุญแจออกมาสตาร์ต
ก่อนจะออกเรือ เขานึกถึงบทละครที่จำเป็นที่ต้องเอาไปด้วย
จึงค้นในเรือกลับไม่พบ จึงโดดลงเรือกลับเข้าไปหาในบ้าน...
ส่วนเอยคิดว่าเมื่อกรวิกไปแล้ว...เธอจึงถามป้าสวยว่าบ้านนี้มีโทรศัพท์ไหม
ป้าบอกไม่มีเลย อยากได้ของต้องเอาเรือไปเกาะข้างๆ ที่เอาของบนฝั่งมาขาย
แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์ เพราะแม้แต่ไฟฟ้ายังไม่มี เวลาจะติดต่อชาวบ้าน
ต้องเอาเรือออกโต้คลื่นไปหาเครื่องโทรศัพท์สาธารณะที่ตลาดบนฝั่งโน้น
"แล้วตลาดที่ว่าเนี่ย อยู่ไกลไหม"
"ไกลมาก แล้วเสี่ยงฉลามรับประทานด้วย แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ใช้เครื่องนี้"
กรวิกมาได้ยินพอดี บอกแล้วเดินไปหยิบมือถือที่ลืมวางไว้บนโต๊ะให้
ซึ่งเอยเสียดายที่มองไม่เห็น กรวิกแนะ
"อยากโทร.หาใครก็ออกไปข้างนอก ข้างในสัญญาณมันไม่ดี"
แล้วกรวิกมาคว้าข้อมือหญิงสาวพาเดินออกไป...
"บอกมาซิ เธอมีแผนอะไรในใจ" เอยงงคำถาม "
เธอจะให้ลุงส่งขึ้นฝั่ง แล้วโทร.ให้หมอนั่นมารับกลับไปอยู่ด้วยกันใช่ไหม"
เอยถามคืนว่า ทำไมคิดยังงั้น
"เธอรักเขาไม่ใช่เหรอ เธอต้องทำทุกทางเพื่อกลับไปหาคนรักน่ะสิ แต่เสียใจ
พระเจ้าไม่เข้าข้างเธอ"
"พี่วิก เอยแค่จะโทร.ไปบอกพี่ลักษณ์ว่า..."
"ฉันเสียใจจริงๆเมื่อขอร้องดีๆแล้วเธอไม่ทำตาม คิดแต่จะหนีตลอดเวลาฉัน
ต้องงัดมาตรการ เด็ดขาดมากำราบเธอ"
"พี่วิกจะทำอะไรเอย"
เขาไม่ตอบแต่หลังจากนั้น เขาเดินตามเอย ไม่ว่าจะไปไหนเขาไม่ยอมให้ทิ้งห่างเด็ดขาด
แม้จะเข้าห้องน้ำ ก็ยังไม่วางใจ...

ooooooo

ปรัชญาเดินมาตามทางในโรงพยาบาล เห็นทนายกำลังจะไปหาคุณปราชญ์
พอทักทายรู้ว่ามีเอกสารไปให้คุณพ่อ เขาจึงขอเอกสารมา เขาจะเอาไปให้เอง
ทนายไม่ยอม แต่ถูกคาดคั้นจนต้องยอมให้ ปรัชญาเปิดซองเอกสารดู
เห็นหัวกระดาษเป็นเรื่องพินัยกรรมฉบับใหม่ อ่านไปมือสั่น
เพราะมันมีบัญชีรายการทรัพย์สินที่พ่อปราชญ์จะยกให้ลักษณ์ยาวเหยียด
ปรัชญามือไม้สั่นด้วยความโกรธและแค้น จึงคำรามลั่น

"ไอ้หมอลักษณ์ กูให้โอกาสมึงแล้ว แต่มึงยังวนกลับมาหาที่ตายจนได้"
ก่อนจะเดินไป พ่อปราชญ์กับทนายเดินมาหา ปรัชญาตกใจมาก
ปราชญ์ให้ทนายเดินไปก่อน ปรัชญาจึงเล่นละครกับพ่อว่า เขาคิดว่าเป็นเรื่อง
โรงพยาบาลจึงเปิดอ่าน ขอโทษที่เสียมารยาท
"ผมไม่ตั้งใจก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวพ่อ แต่ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่เหรอว่าผมมีพี่ชาย"
ปราชญ์อุทานว่า แกรู้แล้ว? "หมอลักษณ์เป็นพี่ชายผม"
"ความจริง พ่อไม่อยากปิดแกหรอกนะ เพียงแต่พ่อรอโอกาสที่จะอธิบาย
พ่อไม่แน่ใจว่า ถ้าแกรู้ความจริงแล้ว แกจะรับได้หรือเปล่า"
"ทำไมพ่อคิดยังงั้นล่ะ ผมควรจะดีใจด้วยซ้ำไป ที่รู้ว่ามีพี่ชายอยู่อีกคน"
"แกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆหรือ" คุณปราชญ์รู้สึกผิดคาด
ไม่นึกว่าลูกคนนี้จะมีน้ำใจได้อย่างนี้
"ครับ...เสียดายอย่างเดียวที่รู้ช้าเกินไป ถ้าผมรู้แต่แรก ผมคงไม่เสีย
มารยาทกับพี่ลักษณ์อย่างนั้น"
คุณปราชญ์รู้สึกโล่งใจและดีใจจนยิ้มออกมาได้...ปรัชญาบอกอยากรู้ว่า
ถ้าพี่ลักษณ์รู้ จะตื่นเต้นดีใจเหมือนเขาไหม คุณปราชญ์ขอร้องว่า
อย่าเพิ่งบอกลักษณ์ พ่อจะบอกเอง ปรัชญารับคำ ขอให้พ่อบอก
เขาพร้อมทำให้พ่อสบายใจ ปราชญ์รีบขอบใจปรัชญาทันที
ทั้งกอดลูกชายอย่างรักใคร่ แต่หารู้ไม่ว่า ปรัชญากอดพ่อ แต่ซ่อนความแค้นไว้เต็มอก...
ปราชญ์พาลูกชายมาที่ห้อง เห็นลักษณ์นั่งรอที่หน้าห้อง
ปรัชญาโทร.นัดลักษณ์ให้มาเอง แล้วพูดอย่างคนอโหสิกรรมกัน
ว่าที่เขาล่วงเกินไป อย่าถือสา เขารู้สึกผิด ขอให้ยกโทษ ให้ด้วย
ลักษณ์บอกไม่เคยถือสาปรัชญา แล้วถามนอกจากเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นไหม
ปรัชญาตอบทันทีว่าเขาไม่มี แต่พ่อมีคุณปราชญ์อึ้งไปทันที
เมื่อปรัชญาไม่ทำตามที่ตกลงกัน ปรัชญารีบบอกว่า ถ้าพ่อไม่อยากบอก
เขาจะบอกเอง แล้วเสไปบอกว่า พ่ออยากให้ลักษณ์กลับมาเป็นบอร์ด
ลักษณ์จึงปฏิเสธว่า เขาต้องทำธุระส่วนตัว ไม่มีเวลาไปทำงานให้
ปรัชญากลับเสนอให้เป็นที่ปรึกษา ลักษณ์จึงปฏิเสธไม่ได้
ปราชญ์เห็นท่าทีปรัชญา จึงมั่นใจวางใจว่าเขาเปลี่ยนนิสัยได้เพราะ
พี่ชายแสนดีอย่างลักษณ์นี่เอง...

ooooooo

ทางกองถ่าย พี่ปุ๋ยคุมกองถ่ายมารอกรวิก จนหลายชั่วโมงก็ยังไม่เห็นหัว
โทรศัพท์ก็ไม่ได้รับ จึงระดมโทร.กันจนมือหงิก กรวิกก็ไม่รับสาย
พอทุกคนเห็นเมนี่เดินมา จึงขอให้เธอโทร.หาเขา...
คราวนี้ได้ผล เมนี่กดฉับๆไม่กี่ครั้ง กรวิกรับสายทันที เธอกรอกเสียงบอก
ว่าทุกคนกำลังรอเขาคนเดียว กรวิกแก้ตัวเกิดอุบัติเหตุยางระเบิด
กำลังรอซ่อมรถอยู่ที่อู่ปั๊ม ปตท. เลยชะอำมาหน่อย...
เขาไม่เป็นไร แต่วันนี้คงไปไม่ทันแล้ว...ทำให้ทั้งกองถ่ายตกใจตามๆกัน
พี่ปุ๋ยขอพูดเอง ซักกรวิกหนัก แล้วโล่งใจขึ้นมาบ้าง กรวิกรีบบอกว่าขอโทษ
จะไม่มีอย่างนี้อีก ค่าเสียหายวันนี้เขารับจะจ่ายให้ แล้วกรวิกก็บอกไปว่า
เขารับปากจะเดินทางมาแน่นอนพรุ่งนี้...
ภัทรกำชับการ์ดทั้งสองคนให้เอารถมารอล็อกตัวกรวิกที่เพนท์เฮ้าส์
คุมตัวมาให้ได้...
เมนี่รู้แล้วว่ากรวิกอยู่ที่ไหน...
กรวิกที่เกาะ ปิดมือถือด้วยความไม่สบายใจที่ต้องโกหกทุกคน
เอยเดินมาหาเขาจากด้านหลัง เพราะได้ยินหมดแล้ว
ตำหนิที่เขาทำตัวเป็นเด็กไม่ไปโรงเรียน แต่ผู้ใหญ่ทำเป็นเด็ก
ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเสียหาย...เขายืนยันว่าเขาบอกไปแล้ว
เขารับค่าใช้จ่ายกองวันนี้เอง เอยบอกเงินซื้อความรู้สึกดีๆของคนไม่ได้
"เอยไม่เข้าใจที่พี่วิกมาทำอะไรเสียเวลาไร้สาระ เดินตามเอยทั้งวันทำไม"
"ก็เพราะเธอคิดไม่ซื่อ คอยจ้องแต่จะหนีฉันไง ถ้าฉันกลับมาไม่ทันได้
ยินที่เธอคุยกับลุงส่ง ป่านนี้เธอคงบีบน้ำตาให้ลุงส่งพาขึ้นฝั่งหนีฉันไปแล้ว
แล้วจะให้ฉันไว้ใจเธอ ไม่ตามเธอทุกฝีก้าวได้ยังไง"
"ถ้าเหตุผลพี่วิกมีแค่นี้ ก็เลิกตามเอยเถอะค่ะ"
"ทำไม รำคาญฉันงั้นสิ"
"ไม่ได้รำคาญ แต่ไม่ต้องตาม เพราะเอยไม่คิดจะหนี"
"คิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ"
"ไม่เชื่อก็ตามใจ อยากจะเดินตามทั้งวันก็เชิญเถอะค่ะ"
เอยพูดจบ เดินหนี กรวิกตามทันที

ขณะที่กรวิกตามติดเอยอย่างไม่ไว้ใจ ตามไปไม่ยอมให้คลาดสายตาที่เกาะนั้น...เมนี่เอง
ขณะที่ไมค์ กับชนม์กำลังจะพากันขึ้นรถไปตามกรวิกตามที่ดวง-แก้วสั่ง

เมนี่ดักสั่งทั้งสองการ์ดไม่ต้องไป เมนี่จะเป็นคนไปรับเขากลับมาเอง...
แล้วเมนี่ก็ขับรถออกไปทันที
เมนี่ขับรถห้อตะบึงไปเหมือนไก่จะบิน...และทำเวลาไม่เลว...
ในที่สุดเมนี่ก็ขับรถเลี้ยวเข้าปั๊ม ปตท. แล้วจอดลงไปเมื่อเห็นอู่ซ่อมรถตั้งอยู่

คิดว่าจ๊ะเอ๋กันแน่
แต่แล้วมองยังไงก็ไม่เห็นรถกรวิกและตัวเขา พอพนักงานเข้ามาทัก

จึงถามถึงรถที่ยางระเบิดมาซ่อมหรือเปล่า
คำตอบคือมีแต่มอเตอร์ไซค์ยางแตก เมนี่ผิดหวังถามถึงปั๊ม ปตท.ที่มีอยู่แถวนี้

จึงได้รู้ว่าแถวนี้ไม่มีอีก จะมีก็แต่ที่เมืองเพชรบุรี
แต่ไม่มีอู่ เมนี่ถอดแว่น แล้วก็เกิดเรื่อง เมื่อพวกนั้นเห็นดาราสาว

ก็ฮือกันมาแทบจะยกก้นขึ้นมามอง เมนี่ถามหารถดาราดังกรวิก
ยิ่งทำให้พวกนั้นแตกตื่น บอกทันทีว่า ถ้ามาก็เมืองแตกทั้งจังหวัดแล้ว

จากนั้นรุมขอลายเซ็น รุมขอถ่ายรูปจนรับหน้าไม่ไหว...
เมนี่ได้แต่แค้นที่กรวิกหลอก
เมนี่ขับรถกลับ ความเครียดเกาะติดสมองมาจนยุ่งเหยิง แล้วสรุปได้ทันทีว่า..

.มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ใต้พรมกองโตทีเดียว...


ooooooo


ในคืนเพ็ญเดือนเด่นลอยคว้างกลางเวหา...บนเฉลียงบ้านพักบนเกาะของกรวิก

เขากำลังนั่งอ่านบทละคร เอยนั่งอ่านหนังสืออยู่อีกมุม
ทั้งสองสมมติเอาเองว่า เขาทั้งสองไม่ยี่หระกัน แต่แล้วก็อดชำเลืองมองอีกฝ่ายไม่ได้...
แล้วทั้งสองก็จ๊ะเอ๋มองกันลั่นเปรี้ยง...
ต่างก็รีบหลบเหมือนพวกเสื้อเหลืองหลบแก๊สน้ำตาเบอร์ 79...แล้วไฟจากเครื่อง

ปั่นก็ดับวูบลง มีแต่แสงจันทร์นวลส่องมารางๆ เขาสั่งให้เธอ นั่งนิ่งๆ
"ที่นี่ นอกจากตุ๊กแกแล้วยังมีสัตว์มีพิษสารพัดชนิด มืดอย่างนี้มันแยกไม่

ออกตรงไหนภูเขา ตรงไหนบ้านคน"
"คุณวิกครับ..." ลุงส่งถือตะเกียงมาบอก "สะพานเครื่องปั่นไฟมันไหม้ ผมกำลังซ่อม

คงอยู่มืดไปอีกสักพัก"
กรวิกบอกไม่เป็นไร ให้รีบซ่อม หลังจากลุงส่งไปแล้ว ทั้งสองจึงนั่งมองตากัน...
"เธอคงอึดอัดที่นั่งกับฉันตามลำพังนะ" เอยเงียบ "ไป ฉันพาไปสูดอากาศข้างนอก"

ว่าแล้วไม่รีรอดึงมือเอยมา แล้วอุ้มไปทันที
เอยร้องลั่นว่า เธอไปเองก็ได้
"ฉันบอกแล้วไงที่นี่มีงูสารพัด ฉันอุ้มเธอไป ปลอดภัยกว่า" กรวิกเดินหน้า

เอยดิ้นกระแด่วไป...


ooooooo


ลักษณ์มานั่งใช้สมองวกวนไปมาเป็นตัวยึกยืออยู่คนเดียวในร้านกาแฟ

แล้วรับรายงานจากผู้กองที่เจรจาขอร้องให้ช่วยตามหาหญิงสาวชื่อช่อลดา

ว่าตาม ทุกแห่งแล้วไม่พบเลย ลักษณ์แนะให้ประสานงานไปยังโรงพักต่างจังหวัดให้เขาด้วย

เจอแล้วขอให้รีบบอกด้วยจากนั้น ลักษณ์กำลังคิดจะโทร.หาเมนี่ แล้วเมนี่ก็โทร. มาก่อน
"คุณลักษณ์ ฉันมาคิดดูแล้ว การนั่งขบปัญหาคนเดียว
นอกจากจะคิดไม่ออกแล้วยังทำให้ปัญหามันเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก คุณอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปหาคุณ"
ต่างคนต่างใจร้อนจะเป็นฝ่ายไปหา เมนี่เตรียมเช็กบิลจะไป
พอดีมีคนมาชนขอบโต๊ะ พอมองหน้ากัน เมนี่ยิ้มออกมาได้ เขาคือลักษณ์นั่นเอง

และกำลังหัวอกเดียวกันด้วย...
ทั้งตกใจ และดีใจ จากนั้นก็ต้องสั่งกาแฟเย็นมาสองแก้ว...

เริ่มต้นใหม่ ทั้งสองดูดหลอดพร้อมกัน แล้วก็ถามพร้อมกันว่า

คุณมาที่นี่บ่อยหรือ คำว่าครับกับค่ะพร้อมกันอีก...
ความบังเอิญทำให้ทั้งสอง ต้องยิ้มขำๆให้กัน อันเป็นไมตรีต่อกันเป็นครั้งแรก
"ครับ...ผมชอบที่นี่ เวลาเขาเปิดเพลงไลท์มิวสิกให้ฟัง
หลังผ่าตัดเคสซีเรียส มันผ่อนคลายดี"

"สำหรับฉัน ที่นี่และโต๊ะนี้ ที่ประจำของฉันเลยค่ะ แล้วฉันชอบไม่พลุกพล่าน"
พอเธอว่ากาแฟที่นี่...เขาต่อทันทีว่าอร่อยมาก เข้ากันเป็นปี่ขลุ่ย
ลักษณ์ชมว่าคุณเมนี่ดีนะ ขนาดมีปัญหายังทานได้ดี เมนี่บอกเธอเคยอ่าน

น้ำตาลทำให้ต่อมในสมองสดชื่น
ฉันจึงสั่งเค้กสองชิ้น ให้คิดอะไรออก
"แต่กินจนหมดแล้ว ยังคิดไม่ออก จึงต้องพึ่งคุณไง"
"คุณมีปัญหาอะไร"

"ฉันอยากรู้...เรื่องระหว่างวิกกับเอย มีอะไรที่ฉันไม่รู้ และควรต้องรู้หรือเปล่าคะ"

ลักษณ์ถึงกับอึ้ง
เมนี่จึงว่าต่อ "คุณรู้แต่คุณไม่พูด" เมนี่เริ่มตัวร้อนขึ้น "ที่คุณเงียบ

คุณต้องการปิดเรื่องนี้ไว้ มันไม่แฟร์นะ ฉันควรรู้เรื่องทั้งหมดเท่ากับคุณสามคน"
"ทุกวันนี้ คุณยังรักเขาไม่ใช่หรือ"
"ก็ใช่ แต่ฉันไม่ชอบมีเงื่อนงำ"
"อดีตของกรวิกนั่นหรือคือเงื่อนงำ...ผมเองไม่ทราบ เขา อาจรู้จักกันมาก่อน

อาจสนิทกันมาก
ผมไม่สน ผมไม่เคยยึดติดอดีตของคนที่ผมรัก ผมสนใจแค่ปัจจุบัน

ที่เอยเป็นคู่หมั้นผม และผมก็รักเธอ"
คำตอบของลักษณ์ทำเอาเมนี่ต้องคิดหนัก...
แล้วพอจะเดาความคิดของเขาได้จากร้านนั้น...
ทั้งสองออกไปหาที่คุยกัน เพราะยังไงเมนี่ก็อยากแกะรอยความรู้สึก

นึกคิดของเขาเพื่อจะให้เขาดึงเอยกลับมาให้ชิดใกล้ปักใจยิ่งกว่า

ความเป็นคู่หมั้นที่ยังเป็นปัญหา...
"ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณพูด...แต่มันยากที่เราจะรักใคร โดยไม่สนใจอดีตของเขา"

เมนี่เดินบนสวนสงบเงียบริมฝั่งน้ำ
"คุณสนใจได้ แต่อย่าใส่ใจ มันจะเป็นเรื่องที่ทำให้ ไม่สบายใจ"
"คุณคงรักเอยมาก อะไรคือความรักของคุณ คุณรักเอยตรงไหน"
"แล้วคุณล่ะ รักกรวิกตรงไหน"
"ฉันอยากเห็นเขามีความสุข ตลอดเวลา"
"ในความสุขนั้น ต้องมีคุณอยู่ด้วยรึเปล่า...คุณพร้อมจะเห็นเขา

อยู่อย่างมีความสุขกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณรึเปล่า...
ความรักของผมที่มีต่อเอยเป็นแบบนั้น"
เมนี่อึ้ง นึกไม่ถึงว่าลักษณ์จะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอมมือสำหรับความรัก
เมนี่นั่งมองสายน้ำนิ่งเงียบ เขาถามว่า ตอนนี้สบายใจรึยัง?
"ขอบคุณที่สอนให้รู้จักความรักมากขึ้น แต่ฉันคงรักใครแบบคุณไม่ได้หรอก
ฉันยังกิเลสหนา ถ้ารักใครโดยไม่ ครอบครอง ไปบวชชีดีกว่า ไม่รู้จะรักไปทำแมวอะไร"
ลักษณ์อดขำไม่ได้ แต่ก็บอก "ลงทุนพูดตั้งนาน นึกว่าคุณจะซึ้ง"
"ฉันซึ้งมาก แต่ทำไม่ได้ มันเป็นความรักในอุดมคติ...
แต่เพื่อไม่ให้คุณเสียใจ ฉันจะพยายามเปลี่ยนทัศนคติ ไม่ใช่จะรับอย่างเดียว

จะมีให้แล้วก็ให้ด้วยก็แล้วกัน"
"ความรักไม่ยุ่งยาก ถ้าคุณเจอคนที่ใช่ ที่เบื้องบนส่งมา คุณจะรู้ว่ามันง่ายกว่าที่คุณคิด

วิกอาจจะใช่หรือไม่ใช่ของคุณ
แต่สักวันคุณจะรู้เอง...ปัญหาคุณมีแค่นี้ใช่ไหม ทีนี้ปัญหาของผมบ้าง

คุณจะเจอกรวิกอีกเมื่อใด" เมื่อเมนี่บอกว่า "พรุ่งนี้" ลักษณ์จึงสรุปว่า

เราทั้งสองคนมีเรื่องคุยกับพวกเขาเยอะพอกัน


ooooooo


กรวิกและเอยยืนรับลมอยู่ชายน้ำ เบื้องหน้าท้อง ทะเลเวิ้งว้าง

ท่ามกลางแสงนวลใยจากพระจันทร์ดวงโต...
เอยมองพระจันทร์สองดวงเบื้องหน้าอย่างดื่มด่ำตะลึงลาน เขาถามเอยว่า

ไม่เคยเห็นมาก่อนใช่ไหม เอยรับคำ
"สวยงามมากจนบอกไม่ถูกว่า ดวงบนฟ้าหรือดวงที่ทอดเงาลงในน้ำ ว่าดวงไหนจะสวยกว่ากัน"
"ฉันก็ไม่เคยเห็นว่าพระจันทร์ที่นี่จะสวยเท่าวันนี้ วันที่ฉันมีเธอมาดูอยู่ข้างๆ"
ถ้อยคำของกรวิกทำให้เอยถึงกับอึ้ง...
และยิ่งจับจ้องมองเขาไม่วางตา เมื่อเห็นสายตาของเขามองมา...

สายตาทั้งสองฝ่ายประสานกัน...นิ่งนานเหมือนไม่เคยเห็นกันมาก่อน
เป็นนาน
เอยจึงชวนเขากลับเข้าบ้าน อ้างว่าลมแรง เอยหนาว เอยกอดอกห่อไหล่
"เธอกลัวจะอยู่ใกล้ฉันมากใช่ไหม" เอยสั่นหัว เขาจับมือแล้วกอดเธอทันที
"ฉันกอดเธอได้ไหม"
เอยตกใจ แต่ก็ได้แต่เรียกชื่อเขาเป็นการเตือน...กรวิกกอดเธอนิ่งนาน...

แล้วเสียงป้าสวยดังขึ้น ร้องหาคุณวิก คุณหนู อยู่แถวนี้รึเปล่า...

ป้ามาพร้อมตะเกียง
เอยกำลังจะร้องบอก กรวิกรีบคว้าข้อมือ บอกให้หลบมาทางนี้

แล้วดึงเอยเข้าหลังพุ่มไม้ ป้าสวยร้องบอกว่า ทำไข่หวาน ไว้ให้แล้ว

ทั้งบ่นสามีที่ตามหลังมา ที่ปล่อยให้ไฟดับ....เอยให้ออกไปหา เดี๋ยวป้ากับลุงจะห่วง...
เมื่อลุงกับป้าหาไม่เจอ จึงเดินไปหาทางอื่น
เอยเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีหวังจะกลับบ้าน แต่กรวิกวิ่งตาม ร้องเตือนระวังงู
เอยคิดว่าเขาจะหลอก แต่ไม่กี่ก้าว เอยถึงกับร้อง ตกใจเมื่อเจองูฉกเข้าให้

เอยทรุดลงกับพื้นทราย เขาวิ่งมาดู แล้วร้องเรียกลุงส่งป้าสวยดังลั่นไป...
เขาเห็นเอยซวนเซ จึงตัดสินใจก้มลงดูดพิษงูที่ข้อเท้าให้...

เอยมองเขาด้วยสายตาพร่าพราย จนเป็นลมพับไป...เขาร้องเตือนอย่าหลับ...
ช้อนร่างเธออุ้มพาวิ่งไปทันที...
หลังจากกรวิกมีลุงส่งกับป้าสวยช่วยดูแล ลุงส่งให้ป้าไปปรุงสมุนไพรมา

หลังขันชะเนาะรัดไว้ จากแสงไฟทำให้รู้ว่าเป็นแผลจากงูกะปะ
ป้าปรุงยามาให้ กรวิกประคองเอยแล้วป้อนยาให้จนหมด

ป้าบอกค่อยยังชั่วที่ตาส่งเรียนเรื่องยาแก้ พิษงูจากพ่อมา

ไม่งั้นไกลฝั่งไกลหมออย่างนี้น่ากลัวมาก ลุงส่งบอกอย่าวิตก
คืนนี้ให้ดื่มยาสมุนไพรทุกชั่วโมงตลอดคืน มันจะขับพิษงูออกมา

ถ้าพ้นคืนนี้ไปได้ ไม่มีอาการแทรกซ้อน ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น...

จากนั้นป้าสวยออกไปจัดการต้มยาให้เอยได้ดื่มทุกชั่วโมงตลอดคืน


ดึกมากแล้ว...กรวิกยังไม่ยอมหลับ เสียงเอยละเมอขึ้นด้วยพิษไข้

ขณะที่เขาลูบเหงื่อให้ เธอร้องเรียกหาพี่วิกตลอดเวลา
"เอย...รู้สึกตัวแล้วเหรอ...เอย ได้ยินพี่พูดไหม" เขาก้มลงถามชิดหูเอย
"ฮือ...เอยหนาว...หนาวเหลือเกิน หนาว" เขารีบห่มผ้าให้ กุมมือเอยไว้

"เอยไม่หนีพี่วิกแล้ว เอยอยากบอกพี่ลักษณ์ เอยยังมีชีวิตอยู่ เอยไม่หนีพี่วิกแล้ว..

.เอยสงสารพี่วิก...เอยไม่ไป..." เสียงแผ่วลง
"น้องเอย" กรวิกเพิ่งรู้ เสียใจจนน้ำตาซึม ที่เขาเข้าใจเอยผิดมาตลอด

"น้องเอยลืมตามาคุยกับพี่ พี่จะขอโทษเอยมากมาย...ได้โปรดเถอะนะ"

เขาดึงมือเธอมากอดแล้วจูบทั้งแนบไว้กับหน้าตัวเอง
ป้าสวยกลับมาวางกาต้มยาลง กรวิกขอบใจ แล้วบอกให้ป้าไปนอนได้แล้ว

เขาจะจัดการเอง...ป้ามองการประคองให้ เอยดื่มยา แล้วกลับออกไป

ป้าเพิ่งได้รู้ว่าเธอชื่อเล่น...คุณเอย

ooooooo

หลังจากลักษณ์ขับรถตามรถเมนี่มาส่งเธอถึงหน้าประตูบ้าน ร่ำลากันด้วยไมตรี...

เมื่อเมนี่ขับเข้าบ้าน ไปแล้ว ประไพที่มาปิดประตู เห็นรถลักษณ์ที่ขับออกไป

เกิดมีคนวิ่งตัดหน้า เขาต้องเบรกอย่างแรง ลดกระจกลง เห็นชายคนนั้นฟุบลง

แล้วค่อยๆลุกขึ้น
ลักษณ์รีบลงไปถามว่าเป็นอะไรมากไหม จะไปโรงพยาบาลรึเปล่า

เขาเป็นหมอ เดี๋ยวจะดูแลเอง...ชายคนนั้นถาม เป็นหมอด้วย งั้นก็ไม่ผิดตัว..

.ลักษณ์ถูกถีบจากข้างหลัง แล้วไอ้โม่งอีกสามคนมารุมยำจนล้มลุกคลุกคลาน

ประไพรีบวิ่งเข้าบ้านไปบอกเมนี่ทันที...

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น: