วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ใจร้าว ตอนที่11

ตอนที่ 11
หลังจากประไพวิ่งไปบอกเมนี่ในบ้านว่าเพื่อนคนที่ขับรถตามมาส่งเธอถูกรุมทำร้าย
เมนี่รีบวิ่งออกจากบ้านมา...เห็นผู้ชายสองคนกำลังรุมทำร้ายลักษณ์
มันสั่งให้ทุบมือทั้งสองข้างจนลักษณ์ร้องอย่างเจ็บปวด เมนี่กรี๊ดขึ้นสุดเสียง
ประไพเองช่วยร้องไฟไหม้เพื่อให้คนตกใจมาช่วย...
พวกมันจึงร้องบอกกันให้เผ่นหนีด้วยมอเตอร์ไซค์ทันที เมนี่ดึงหมอขึ้น
ถามด้วยความเป็นห่วง...จะดึงแขน ลักษณ์รีบห้ามอย่าดึง กระดูกจะหัก
ทั้งสอนให้รู้วิธีช่วยกระดูกที่บาดเจ็บ เขาขอนอนนิ่งๆ ให้เธอโทร.
เรียกรถพยาบาลมาด่วน เมนี่จัดการโทร.ทันที
"พวกมันรุมทำร้ายคุณทำไม มันปล้นเหรอ มันเอาอะไรไป" เมนี่ซักขณะรอรถพยาบาล
"เขาไม่ต้องการเงิน แต่ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร"
ลักษณ์พูดได้แค่นั้นก็หมดสติตรงนั้นเอง...เมนี่ถึงกับร้องคราง
เพราะเริ่มเป็นห่วงว่าลักษณ์จะถึงตายหรือไม่?
ส่วนพวกวายร้าย ทำงานรุมทำร้ายหมอลักษณ์แล้ว...
พวกมันมาพบปรัชญาที่กำลังซดไวน์อารมณ์ดี...พวกมันมารายงานว่า
เรียบร้อยตามคำสั่งแล้ว
"ดีมาก..." โยนถุงเงินที่เตรียมไว้แล้วใส่อกลูกน้อง "สามแสน จะนับก่อนก็ได้"
ช่วงนี้คุณปราชญ์เดินมาจะเข้าห้อง แล้วต้องชะงักถอยเข้าที่กำบัง
เมื่อได้ยินการพูดจากัน
"ไม่ต้องนับครับ ผมไว้ใจนาย...เสียดายมีคนมาเห็นก่อน ไม่งั้นน่วม
แต่แค่นี้ก็หยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน...โดยเฉพาะมือ ผมตีซะเละตามนายสั่ง"
"ดี...ให้มันพิการไปตลอดชีวิตเลยยิ่งดี พวกแกกลับไป ไว้วันหลังฉัน
จะเรียกใช้บริการพวกแกอีก"
พวกมันยิ้มถือถุงเงินออกไป...หลังผ่านคุณปราชญ์ที่แอบเสาไปแล้ว...
ปราชญ์จึงเข้าไปหาลูกชายที่กำลังรินไวน์ซดอย่างสุโขสโมสร....แล้วงึมงำสะใจ
"เป็นคุณหมออนาคตไกลจากนอก ต้องมาเป็นหมอมือกุดเมืองไทย
ถึงมีมรดกมหาศาลแต่มือกุด จะทำอะไรได้...โถๆๆ ทำไมถึงน่าสมเพชยังงี้
หา...ไอ้คุณหมอลักษณ์" ว่าแล้วระเบิดหัวเราะลั่นห้อง แล้วอุทาน "พ่อ..."
เมื่อหันมาเห็นคุณปราชญ์... แล้วหน้าปรัชญาก็เจอฝ่ามือของพ่อซัดซะหน้าหัน
"แกรู้ตัวรึเปล่า ว่าแกทำอะไรลงไป" ปราชญ์โกรธจนมือไม้เนื้อตัวสั่น
"แกทำแบบนี้ทำไม แกแกล้งทำดีกับหมอลักษณ์ เพื่อตบตาฉันเท่านั้น
ถ้าฉันไม่มาที่นี่ ฉันคงไม่รู้ความจริง คงเป็นควายที่แกจะสนตะพายไปมาได้ยังงั้นรึ"
"แล้วพ่อกลับมาที่นี่ทำไม มาสารภาพว่าเป็นพ่อมันใช่ไหม มากราบกราน
ให้มันอภัยในความผิดที่ผ่านมา หรือมาเพื่อจะยกมรดกทั้งหมดให้มันล่ะ"
"เพราะในสมองแกมีแต่เรื่องเงินๆ ถึงได้ทำกรรมชั่ว อย่างนี้"
สองพ่อลูกส่งเสียงเถียงกันไปมา ปรัชญาแค้นพ่อที่ไม่เห็นหัวลูกที่อยู่กับพ่อมานาน
สมบัติควรเป็นของเขาทั้งหมด จู่ๆไอ้หมอคนนี้กลับมาแย่งไป
"เห็นไหม พ่อเห็นลูกเมียน้อยดีกว่าผม พ่อรักแม่มันมากกว่าแม่ผม
พ่อเห็นผู้หญิงชั้นต่ำยอมเป็นเมียน้อยคนอื่น ดีกว่าคุณหญิงอย่างแม่ผม
พ่อถึงได้รักไอ้ลูกนอกคอกนั่นมากกว่าผม"
"แกหยุดด่าลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ"
"แล้วไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ มันไม่ใช่ลูกพ่อรึไง หรือว่าลูกผู้หญิงหากินอย่าง
ไอ้หมอลักษณ์ มันเป็นลูกพ่อคนเดียว"
"ใช่..." คุณปราชญ์โกรธจนลืมตัว "หมอลักษณ์เป็นลูกฉันคนเดียว"
"หมายความว่ายังไง" ปรัชญาเริ่มจะชาไปทั้งตัวแล้ว
"ฉันรักกับแม่หมอลักษณ์ และมีหมอลักษณ์ตั้งแต่ก่อน
จะแต่งงานกับแม่แกเพราะ...ความจำเป็น" ปรัชญารุกว่าจำเป็นอะไร
"ความจำเป็นที่แม่แกมาขอร้องให้ฉันรับเป็นพ่อเด็กที่อยู่ในท้องเขาน่ะสิ
ฉันสงสารเลยยอมแต่งงานด้วย แม่หมอลักษณ์ รู้เข้า เลยพาลูกหนีไป
โดยฉันไม่มีโอกาสอธิบายความจริงให้ เขาฟัง...จนเขาตายจากไป..."
"พ่อกำลังจะบอกว่า..." ปรัชญาเสียงแหบแห้งลงฉับพลัน
"ผมเป็นลูกติดแม่มาอย่างนั้นเหรอ" คุณปราชญ์ยืนนิ่ง เริ่มได้ คิดว่า...
เขาไม่ควรพูด เขาพลาดไปแล้ว...ปรัชญาระเบิดความ รู้สึกออกมา
"ผมไม่ใช่ลูกพ่อ" ปรัชญาเดินจากไปเหมือนหุ่นยนต์ ไร้ชีวิต...
ไม่สนใจที่ปราชญ์จะตามเรียกไว้...ปราชญ์เสียใจ อุตส่าห์
เก็บไว้อย่างมิดชิดไม่ให้ใครรู้ แม้ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากรู้แล้ว...
แต่มันกลับมาระเบิดเอาวันนี้...

ooooooo

เมื่อเอยตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอมองกรวิกอย่างซึ้งใจ เมื่อเห็นเขาหลับข้างเตียง
มือยังจับมือเอยไว้ พอป้าสวยเข้ามาทัก พร้อมน้ำอุ่นและผ้ามาเช็ดตัว
กรวิกจึงลืมตาตื่นขึ้น เขารีบถามเอยทันทีว่า เป็นยังไงบ้าง ไข้ลดลงแล้วนี่...
พอเอยเรียก "พี่วิก" เท่านั้น เขาหัวใจพองโตที่เอยจำเขาได้แล้วเขาถามย้ำหลายครั้ง
ป้าสวยจึงตอบแทนว่า งูกัดนะคะ ไม่ใช่มะพร้าวหล่นใส่หัว จะได้จำอะไรไม่ได้...
เขาจะพาไปหาหมอ เอยให้พี่วิกไปทำงานก่อน เขาไม่ยอม ไม่งั้นเขาจะไม่ไปทำงาน
กรวิกจึงพาเอยไปหาหมอที่คลินิกบนฝั่ง เขาให้เงินเอยเข้าไปหาหมอ
เขาจะรอข้างนอก เพราะตอนนี้พรางตัวหน้าตา ทั้งแว่นดำและหมวกช่วย...
เอยได้รับการตรวจจากหมออย่างดี ทุกอย่างไม่มีปัญหา หมอให้ยามากินเพิ่ม
เอยขอยืมมือถือหมอโทร.ไปหาลักษณ์ ซึ่งตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาลของคุณปราชญ์
มือทั้งสองข้างถูกทั้งเข้าเฝือก อีกข้างพันผ้าไว้...โทรศัพท์ของเขาวางข้างเตียง
มันมีแต่การสั่น...ไม่มีเสียงเรียก ลักษณ์จึงไม่ได้ยิน เอยจึงได้แต่คืนมือถือให้หมอ
จากนั้นรับยาแล้วออกจากคลินิกไป
อย่างไรก็ตาม แม้หมอลักษณ์จะไม่ได้รับโทรศัพท์จากเอยก็ตาม
ตลอดเวลาที่เขาฟื้นขึ้นมานั้น เขาได้รับฟังจากพยาบาลว่า
ดาราสาวเมลานีเป็นคนมาส่งเขาและเฝ้าอยู่ เพิ่งไปเมื่อตอนตีห้า...
ยังความซึ้งในน้ำใจเมนี่มาก ไม่คิดว่าเธอจะเอื้ออาทรเขามากขนาดนี้...
เมื่อกรวิกพาเอยกลับเกาะนั้น เขาซื้อของสำหรับเอยมาเต็มบ่า
มีเสื้อผ้าหลายถุง อาหารเสริมถุงใหญ่ เครื่องดื่มบำรุงอีกมากมาย
แล้วกำชับให้ป้าสวยช่วยดูแลให้เอยกินตามหมอสั่ง ส่วนยาจากคลนิก
เอยบอกว่ายาบำรุงเลือด...เอยเร่งให้เขาไปทำงาน เขายังอ้อยอิ่งห่วงเอยจนเดินพล่านไปมา
กรวิกดึงลุงส่งไปกระซิบกันอีกทาง เอามือถือซื้อมาใหม่ ให้ไว้
สอนวิธีใช้ วิธีรับ เวลาเขาโทร.มาถามอาการเอย แล้วห้ามบอกเรื่องมือถือให้เอยรู้....
ก่อนจะผละไป ยังกำชับดูแลเอย ลุงส่งมองตามหลังกรวิกไป งึมงำถามตัวเอง
"ใครอาการป่วยหนักกว่ากันวะเนี่ย"
แม้เวลาเดินอ้าวไปที่ท่าเรือแล้ว...จู่ๆยังวิ่งกลับมา บอกเอยให้ไปส่งหน่อย
เขามีเรื่องจะสารภาพกับเอยหลายเรื่องนะ เอยได้แต่เร่งให้เขาไปทำงาน
ทีมงานคงรอตาตั้งอยู่แล้ว...อาการสุดท้ายคือ ยังไงก็ให้เอยยืนส่งตรงสะพานนี้
เขายังไม่อยากขับเรือไปแล้วหันซ้ายหันขวามากนัก แล้วกำชับสุดท้าย คือ
ห้ามหนีเขาไปไหนอีก เอยต้องรับปากจนปากแทบแฉะ เขาจึงยอมไป...
ความรู้สึกของเธอขณะนี้...เหมือนกับความหอมหวานเมื่อวันวาน
ได้ถูกลมหวนทวนกลับมา ให้รู้สึกเหมือนลอยบนวิมานอีกครั้ง...

ooooooo

เมื่อคุณปราชญ์ตามเข้าไปในห้อง ปรัชญากำลังเก็บข้าวของ
พ่อถามว่าจะไปไหน ปรัชญาบอกว่าไม่รู้ แต่เขาหมดหน้าที่
หมดความชอบธรรมที่จะอยู่ที่นี่แล้ว แล้วยกมือไหว้ลาพ่อ
"อย่าไปได้ไหม พ่อขอร้อง ถึงแกจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของ พ่อ
แต่พ่อก็รักแกเหมือนลูกในไส้"
จากนั้นระบายความรู้สึกว่า ที่เขาสร้างตัวขึ้นมาเพราะ ต้องการให้
ลูกทุกคนมีต้นทุนไว้ทำกิน

"พ่อไม่เคยคิดจะยกทุกอย่างให้หมอลักษณ์ แล้วปล่อยให้แกไปปาก
กัดตีนถีบข้างนอกอย่างที่แกเข้าใจ...แค่อยากเห็นแกสองคนช่วยกัน
ทำมาหากินสานต่องานพ่อที่ทำไว้ พ่อผิดที่ไม่บอกความจริงแต่แรก"
ปรัชญาตีอกชกหัวตัวเอง ด่าตัวเองว่าเลว ชั่ว เอาแต่ได้ ไม่คิดถึงความรู้สึกของพ่อ
ก่อเรื่องเลวชั่วจนไม่น่าให้อภัย ทั้งเตะโต๊ะชกกำแพงเลือดสาด
คุณปราชญ์ยื้อยุดฉุดลูกชาย ห้ามไม่ให้ทำ ให้ไปช่วยดูแลพี่ลักษณ์ดีกว่า
พ่อจะลืมเรื่องทั้งหมด ปรัชญาก้มกราบพ่อ ร้องไห้เหมือนเด็กๆ
ขอโทษพ่อสาบานจะไม่ทำชั่วอีก
"ถ้าคิดชั่วๆแบบนั้นอีกเมื่อไหร่ ขอให้ผมมีอันเป็นไปเมื่อนั้น"
คุณปราชญ์ดึงปรัชญามาลูบหลังไหล่ปลอบใจ...ปรัชญาร้องไห้ตัวโยน
แต่แววตานั้นซ่อนความกร้าวไว้เต็มข้างในอย่างลึกซึ้ง...
แน่นอน เมื่อปรัชญาเพียงแค่บีบน้ำตาแสดงละครให้คุณปราชญ์เห็นว่าเขาสำนึกผิดแล้ว
ปรัชญาตามคุณปราชญ์มาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมลักษณ์
ลูกชายที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ปรัชญาเห็นแล้วยิ่งแค้นหนัก...
คุณปราชญ์มาสอบถามอาการของลักษณ์ จึงได้รับรู้ว่าตอนแรกอาการหนัก
แต่หลังเยียวยาแล้วอาการดีขึ้น แต่ที่มือนั้นถอดเฝือกแล้วจะดูอีกที
อาจเป็นพังผืด จนทำให้หมอจับมีดผ่าตัดไม่ได้อีกหรือเปล่า
คุณปราชญ์มองลูกชายแล้วยอมรับว่าเขาผิดเอง เขาเห็นแก่ตัวยื้อลูกไว้
จนต้องมาเจ็บอย่างนี้ แล้วต้องขอโทษลูก แม้ตอนนี้ยังไม่ฟื้นก็ตาม
ปรัชญาเองเริ่มเดินเครื่อง โทร.ไปใส่ไฟแซนดี้คู่ขาทันที
โดยแจ้งข่าวหมอลักษณ์ถูกทำร้ายบาดเจ็บ คนที่พามาส่งคือเมนี่
ดาราดังคนนั้นนั่นเอง นักข่าวซักกันให้วุ่นว่าทั้งสองมีอะไรกันรึเปล่า...
แซนดี้ทนฟังมาแค่นี้ ของขึ้น เต้นผางลงจากเตียงทันที...
ooooooo
ลักษณ์เพิ่งจะเริ่มตื่นสะลึมสะลือ เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เมนี่หิ้วปิ่นโตเข้ามา ทักถามอาการลักษณ์ แล้วจัดของคาวหวานใส่จาน
เขาขอบคุณที่เธอพาเขามาส่ง และอยู่จนเช้า ตามที่พยาบาลเล่าให้ฟัง
...แล้วเอาผลไม้ป้อนใส่ปาก ออกตัวว่าที่ป้อนเพราะเห็นมือเจ็บ
ขณะที่เมนี่ป้อนใส่ปากลักษณ์...แซนดี้ก็เปิดประตูห้องผางทันที...
แล้วตอกหน้าเมนี่ว่า นึกแล้วว่าแกต้องมีอะไรกับหมอลักษณ์
เมนี่ถามว่ามีอะไรรึ แซนดี้ด่าเมนี่ว่า จะมีอะไรกับใครให้ดูว่าเขามีเมียแล้วหรือยัง?
ลักษณ์ทนไม่ไหว สั่งแซนดี้หุบปาก แซนดี้กลับประกาศ
เธอเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมายของลักษณ์ และไล่เมนี่กลับไป
ยังด่าซ้ำว่าหมอลักษณ์เจ็บจะตาย ยังมาป้อนของหวานถึงเตียง...
เมนี่ไม่ยอม ยิ้มก่อนตอบ
"ตอนนี้ต้องเติมพลังของหวานก่อน มีแรงเมื่อไหร่เติมพลังช้างหนักขึ้น
เมนี่ป้อนได้ 3 เวลา ไม่ต้องห่วง นอกจากวันละ 3 เวลาแล้ว ยังแถมมื้อดึก
ก่อนนอนให้หลับเป็นตายไปเลย"
"แก...จะจับผัวฉันให้ได้ใช่ไหม" หันไปทางลักษณ์ "มีนังเอยคนเดียวยังไม่พอ
ริจะเอานังนี่เป็นเมียน้อยอีกคนเรอะ"
"แหม..." เมนี่ร้องเสียงยาวเฟื้อย "เมนี่ว่าจะขอคิดนานกว่านี้หน่อย
แต่เมื่อมาเจอเมียหมอตัวเป็นๆแล้ว...เอ้อ...ไม่คิดดีกว่า จะให้เป็นเบอร์ 3
รองเอยก็ได้ค่ะ เมนี่ยอม เพราะสงสารคุณหมอมาก
ที่เมียเบอร์หนึ่งนิสัยคล้ายไพร่แบบนี้..." เมนี่หันมา หลบไม่ทันจึงเจอ
ฝ่ามือมรณะของแซนดี้หนึ่งเปรี้ยง
"แสงฉาย ทำไมทำบ้าๆแบบนี้...หา" ลักษณ์ร้องต่อว่า
"นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ" หันไปหาเมนี่ "อย่ามายุ่งกับผัวฉันอีก"
แซนดี้หันมา จึงไม่เห็นฝ่ามือสายฟ้าแลบของเมนี่ ตบจนหน้าสะบัดไปมาสองทีซ้อน
พร้อมสำทับ...อย่าคิดว่าคนอื่นมือกุดตีนกุด ต้องเจอคืนดับเบิ้ล..
.เมนี่คว้ากระเป๋าเดินหย่งๆออกไป แซนดี้อ้าปากหวอแล้วกรี๊ดไม่ออก..
.หมอลักษณ์ ปวดหัว อยากยกเท้ากุมขมับแทนมือเจ็บ...
ที่กองถ่ายวันนี้ ทีมงานที่รอพระเอกนางเอกมาหลายวันจึงได้เฮ
เมื่อกรวิกเดินเข้ามา ทำให้ทีมงานฮือฮา...คุณดวงแก้วกับภัทรหน้าบาน
แต่พอซักกันไปมา กรวิกเพิ่งรู้ว่าเมนี่ตามไปหาเขาถึงชะอำ
คนอื่นจึงคิดว่าเมนี่ไปรับกรวิกมา แต่ทำเป็นว่ามาคนละที
จนพี่ปุ๋ยผู้กำกับฯ สั่งทำงานทันที จะได้ปิดกล้องและเลี้ยงฉลองกันให้สนุก...
ขณะเดียวกันที่บนเกาะ ลุงส่งกับป้าสวยที่ติดใจชื่อที่กรวิกเรียกช่อลดาว่า "เอย"
จึงช่วยกันถามเอย เธอก็ยอมรับว่าเธอชื่อเล่นเอยอย่างที่กรวิกเรียก
สองผัวเมียจึงตบเข่าฉาด เล่าให้เอยฟังว่า ตอนที่กรวิกตกลงซื้อเกาะนี้
ให้สองผัวเมียเป็นพยาน ส่วนคนซื้อกลับเป็นผู้หญิง คุณกรวิกบอกว่า
เขาซื้อเกาะนี้ให้คนรักของเขาที่ชื่อคุณเอย...เอยฟังแล้วแทบไม่หายใจ.
..ทนฟังสองผัวเมียเล่าต่อไป...บ้านที่พักนี้ เขาก็สร้างไว้ให้คุณเอย เรียกว่า
"บ้านรักเอย" คุณวิกเทียวมาค้างที่นี่ จนหลายปีผ่าน...
ป้าถามว่าเมื่อไหร่จะพาคุณเอยมาอยู่ คุณวิกเงียบไป จากนั้นก็ไม่ได้
ถามอีก...
เอยตื้นตันใจ พยายามกลั้นน้ำตาไว้ ลุงส่งถามว่าคุณไม่รู้เรื่องเลยหรือ
เอยได้แต่สั่นหน้า ลุงส่งร้อนตัว สงสัยคุณวิกอยากบอกเอง เขาสองผัวเมียมาปูดเสียก่อน
กลัวคุณวิกเล่นงานตายแน่...จึงขอคุณเอยอย่าบอกเรื่องนี้คุณวิก...
เอยรีบพยักหน้ารับรอง...เมื่อพาเอยเดินลงมาที่ลานบ้าน ป้าชี้ให้ดู
เขาสร้างบ้านไว้สามหลัง...ส่วนตึกสร้างใหม่มี 3 ห้อง
ไว้ให้คุณเอยและลูกที่คิดว่าจะมี 2 คน...เอยปลื้มเมื่อรู้ความจริงว่าแปดปีที่ผ่านไป
กรวิกคนนี้ ไม่ได้ลืมเธอเลย
ooooooo
กรวิกให้ภัทรไปบอกเมนี่ให้มาพบเขาที่มุมหนึ่งของกองถ่าย กรวิกพบเมนี่
เขารีบขอโทษเธอที่ไม่นึกว่าจะไปหาเขาถึงชะอำ กรวิกจะสารภาพความจริง
แต่เมนี่ดักทันทีว่า กรวิกอย่าบอกนะว่ามีคนใหม่ ที่จะทำความรักของเราเปลี่ยนไป
"เมนี่...ผมรักและนับถือน้ำใจของคุณมากนะ แต่มันเป็นความรักแบบ...
" กรวิกไม่ทันพูดจบ เมนี่ขัดขึ้นเสียก่อน
"ถ้าระหว่างเรา เคยมีเรื่องไม่เข้าใจและไม่ชอบใจกัน ก็ขอให้เมนี่ปรับตัวก่อนได้ไหม...
ถ้าเรื่องที่วิกจะพูดมันรุนแรงต่อความรู้สึก อย่างน้อยเมนี่จะได้ตั้งหลักได้"
กรวิกอยากจะพูดอีกมากมาย แต่ได้ฟังเมนี่แล้ว ความสงสารทำให้เขาจำกลืนคำพูดลงคอ
เมื่อกรวิกกับเมนี่จำต้องเข้าฉาก...ทั้งสองพระนางเดินไปตามบท
โดยเฉพาะเมื่อถึงบทเลิฟซีน แฮปปี้เอ็นดิ้ง...พระเอกจูบมือนางเอก
อย่างแผ่วเบาและสุดซึ้งตรึงใจ จนเมนี่ถึงกับเคลิ้มไปตามบทนั้นอย่างสุดซึ้งตรึงใจ...
หลังสั่งตัดจบฉากสุดท้ายแล้ว คณะละครทุกคนไชโยโห่ร้องอึงคะนึง
สั่งเตรียมตัวเดินทางไปเลี้ยงฉลองให้ถึงระดับ ไม่เมาไม่เลิกรา..
.กรวิกกำลังเตรียมหาทางหนีทีไล่ จะแอบซิ่งรถกลับไปยัง
เกาะสวาทหาดสวรรค์ของเขา แต่เมนี่ถลามาบอกว่า
เธอไม่ได้เอารถมา ขอไปเลี้ยงฉลองกับกรวิก...เขาแอบถอนใจที่หนีไม่ทัน...
ถึงยังไงกรวิกก็แอบโทร.ถามลุงส่งถึงสภาพของเอย
ลุงส่งจึงรายงานมาว่าทุกอย่างปกติ กรวิกจึงให้บอก...
โดยไม่รู้ว่าเมนี่เดินมาฟังข้างหลัง...ว่าเขากลับดึก ถ้าดึกมากให้เอยเข้านอนก่อนเลย...
กรวิกปิดเครื่อง...หันมาเชิญเมนี่ขึ้นรถ เดินทางไปงานเลี้ยงปิดกล้องทันที...
การเลี้ยงฉลอง...ดื่มและกินอย่างมีความสุขในผับหรูแห่งนี้...
ทำให้ทีมงานละครของคุณดวงแก้วดำเนินไปอย่างสนุกครึกครื้น
มีทั้งดนตรีบรรเลง มีทั้งการพูดจาและร้องเพลงและเต้นหางเครื่องแบบกันเอง
กรวิกถูกดึงขึ้นร้องเพลงบนเวที เมนี่จับตาเขาตลอดเวลา
รู้ว่าเขามักชำเลืองมองนาฬิกาตลอดเวลา... พอหลุดจากเวทีได้
เขาบอกดวงแก้วที่ทักทายว่า จะเข้าห้องน้ำ แต่เขารีบเลี่ยงออก
ไปยังลานจอดรถที่ซุ่มไว้ กรวิกจะขึ้นรถ หมอลักษณ์โผล่มาทักทาย
เมนี่รีบหลบบังต้นไม้ กรวิกถามแปลกใจว่าหมอไปโดนอะไรมา
แต่หมอกลับถามว่า เขาเอาเอยไปไว้ไหน กรวิกรีบย้อนถามว่า
เขาควรถามหมอ ที่พาเอยกลับอเมริกา แล้วเกิดอะไรขึ้น?
"คุณเองน่าจะรู้แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น" ลักษณ์รุก แล้วย้ำเอาเรื่อง
"คุณเอาเอยไปไว้ที่ไหน" พอกรวิกเสียงแข็งว่า จะถามกี่ร้อยหน
ก็ตอบได้คำเดียวว่าผมไม่รู้...
"ไอ้ผู้ร้ายปากแข็ง" ลักษณ์ยัดกำปั้นเข้าเลาะฟันกรวิกทันที
สำทับต่อว่า เอาเธอไปขังแบบนั้น เป็นการฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น
"ทำไม...เอยต้องอยู่กับคุณเท่านั้นเรอะ เธอถึงจะปลอดภัย...หา"
กรวิกยื่นหน้าท้าทาย ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป...ลักษณ์ที่ยังทรงตัวไม่ดี
เริ่มเจ็บปวดไปทั้งร่าง เขาค่อยๆทรุดลง...แล้วก็เห็นเมนี่เข้ามาประคองไว้
เมนี่ติงลักษณ์ไม่ควรออกมาขณะป่วยหนักขนาดนี้
เขาบอกว่าต้องออกมาพูดกับกรวิกให้ได้
เมนี่เองไม่รู้ว่าจะสงสารเขา หรือสงสารตัวเองดี?
ไม่นานเมนี่ก็หิ้วปีกลักษณ์กลับขึ้นไปที่ห้องพิเศษของเขา
แซนดี้มายืนจังก้า สาดน้ำลายใส่อย่างถนัดปากว่า
ไปโซ้ยอาหารมื้อค่ำหนักไปรึ ถึงหิ้วปีกมา
ลักษณ์ขอให้แซนดี้กลับไปก่อน เขาไม่อยากทะเลาะกับเธอ แซนดี้ยังแขวะว่า
จะกินข้าวต้มรอบดึกกันอีกรึ เมนี่จึงสวมรอยชวนแซนดี้กินข้าวต้มตอนดึก
ด้วยกันสามคนผัวเมียไปเลย...ไม้นี้แซนดี้ถึงสะอึก เมื่อถูกชวนเซ็กซ์หมู่
ได้แต่ด่าหน้าด้าน
แล้วสงครามน้ำลายก็กลายเป็นสงครามฟ้อนเล็บ ทั้งจิกทั้งตี
ทั้งด่ากันด้วยสำนวนสุดหยาบและหยิว...ห้ามก็ไม่มีใครฟัง
เกมต่อไปจนถึงใช้ฝรั่งรำเท้า ลักษณ์รวมพลังฉุดแซนดี้ ดึงออกไปนอกห้อง
เมนี่ทรุดลงนั่งหอบ....
ลักษณ์ทั้งเหนื่อยกายและใจ กระชากแซนดี้ออกมาหน้าห้อง..
.โดยไม่เห็นปรัชญาที่ผ่านมาและหลบฟัง...
"ผมจะฟ้องหย่าคุณ" สิ้นเสียงลักษณ์ แซนดี้ซีดและสั่นไปทั้งตัว
"ผมปล่อยเวลาผ่านไป คิดว่าจะตกลงกันด้วยดี แต่มันสูญเปล่า ผมหมดความอดทนแล้ว"


แซนดี้ย้อนถามว่า หย่าเพื่อมีเมียใหม่หรือ เขาย้อนว่า เหตุผลการหย่า

เธอก็รู้แก่ใจ อย่าให้เขาประจาน แซนดี้ท้า เอาอะไรมาประจานเธอ?
"แปดปีที่ผ่านมา ผมจ้างนักสืบตามคุณตลอด จะให้บอกไหมคุณคบผู้ชายพวกนั้นมากี่คน

ใคร ชื่ออะไร...ที่ไหนบ้าง...คุณอยากให้ทนายขนรูปคุณกับชายชู้พวกนั้นมาให้ศาลดูไหม

ถ้ายังมีสติ คุณน่าจะรู้ว่าศาลจะตัดสินยังไง" แซนดี้ด่าเธอถูกแบล็กเมล์ เขายันกลับทันทีว่า

เธอบังคับให้เขาต้องทำอย่างนี้
ลักษณ์มองแซนดี้อย่างสมเพช ก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง... ส่วนแซนดี้ยืนเซ่อ

ทำท่าจะลมใส่ ปรัชญาเร่เข้ามาแสดงความเห็นใจ...แซนดี้เห็น รีบทำให้เหมือนเป็นลมจริงๆ

ก่อนจะพากลับไป
จากนั้นเมนี่กลับเข้ามาหาลักษณ์ที่ห้องด้วยความเป็นห่วง..

.แล้วก็นั่งนิ่งเพราะต่างมีเรื่องขบคิดจนล้นอก แต่ลักษณ์ก็ขอโทษเมนี่แทนแซนดี้

เมนี่ได้แต่แสดงความเห็นใจที่เขามีเมีย แบบนี้และเห็นใจเอยไปด้วย..

.เมนี่ถอนใจก่อนลากลับ ลักษณ์ อาสาไปส่ง เมนี่บอกกลัวเธอต้องมาส่งเขาอีกที...

ลักษณ์แสดงความห่วงใย เพราะรู้ว่าเธอนั่งแท็กซี่มา เมนี่ฟังแล้วน้ำตาซึม

เพราะอย่างน้อยยังมีลักษณ์ที่เป็นห่วงเธอ...แต่ลักษณ์กลับรู้สึกได้ว่า

เมนี่ต้องมีความทุกข์บางอย่างท่วมหัวใจ...

ส่วนแซนดี้ ปรัชญาพาเธอมาที่ห้องทำงานในโรงพยาบาล นั้น รินไวน์ให้ดื่มพออุ่นใจ

และยิ่งดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อรู้ว่าปรัชญารู้แล้วว่าเธอเป็นเมียหมอลักษณ์

ปรัชญาปากหวานว่า รู้มานานแต่ไม่แคร์เพราะเขารักแซนดี้ แซนดี้หลงกล

รีบบอกว่าจะหย่าหมอ แล้วมาแต่งกับเขา ปรัชญารีบบอกว่าเขาพร้อม

แต่ตอนนี้มันมาสะดุดขาเขาก่อน พ่อเขารักมันจนให้เป็นบุตรบุญธรรม

มันจะมาแย่งสมบัติส่วนของเขา มันได้มากกว่าที่เขาจะได้

มันจึงไม่ยุติธรรม เขาแค้นมาก และยิ่งเห็นมันหักหลัง

แซนดี้ มันทำร้ายแซนดี้
"มันทำร้ายคุณกับผม ในเวลาเดียวกัน" ปรัชญาปลุกใจเสือป่าหญิง
"ฉันไม่รู้จะช่วยคุณยังไง ฉันเองแทบเอาตัวไม่รอดแล้ว" แซนดี้อ้อน
"เราจะรอด ถ้าเราร่วมมือกัน" ปรัชญาคำรามเสียงกร้าวให้แซนดี้ศรัทธา

"ถ้ามันมีชีวิตอยู่ หย่าแล้วคุณเป็นม่าย ไม่ได้ แม้แต่บาทเดียว

เราแต่งงานกันก็ต้องกัดก้อนเกลือกิน...แต่ถ้ามันตาย เราสองคนรอด

มีลมหายใจอยู่ดูความไฉไลของโลกนี้ไปอีกนาน"
แซนดี้ฟังแล้วยิ่งเมา สาดไวน์เข้าคออีกที...ดับความเครียด อีกตาหนึ่ง...


ooooooo


ทันทีที่กรวิกจอดเรือที่ท่า เขาวิ่งไปบ้าน แต่ต้องหยุด

มองไปเห็นเอยนั่งหลังพิงเสาสะพาน เขาอดสงสารไม่ได้

เขย่าแขนเรียกเอย ตำหนิที่มานอนตากยุง เอยบอกว่าเธอจะรอพี่วิกที่นี่

ให้เขากลับมาบ้านแล้วเห็นเธอเป็นคนแรก...กรวิกฟังแล้วซึ้งในคำว่าบ้าน..

.มีความหมายยิ่งใหญ่ก็วันนี้เอง...
เมื่อเข้ามาในบ้าน...เขาเห็นทุกอย่างแปลกไป มีการ ตบแต่งจัดวางดอกไม้..

.มีเทียนลอยน้ำส่องแสงวอมแวมน่ารักตามจุดต่างๆ มองไปที่โต๊ะอาหาร

ป้าสวยบอกว่าคุณเอยทำกับข้าว เองทั้งหมด แม้ปอกหอมจนน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล...

ซึ่งเรื่องนี้ในอดีตนั้น กรวิกเคยแกล้งเอาหอมป้ายตาจนวิ่งหนีน้ำตา

เล็ดแล้วถูกเอยป้ายกลับฟูมฟายตามๆกัน...กรวิกยิ่งซึ้งใจยิ่งขึ้น
กรวิกนั่งลงทานอาหารฝีมือเอยอย่างอร่อย...เอยมองเขาทานอาหารอย่างมีความสุข...
หลังอาหาร เขาตามหาเอย จนมาเห็นนั่งมองพระจันทร์ ดวงโตที่บนฟ้าดวงหนึ่ง

กับอีกดวงในน้ำ...เขานั่งลงข้างๆ แล้วเอ่ยขอโทษ ที่พาลอารมณ์เสีย เย็นชา

คิดเองเออเอง เขาเสียใจจริงๆ เอยเองก็เสียใจยอมรับว่า เอยเองก็เคยก่อเรื่อง
"แปดปีที่เอยจากไป ใจของพี่อัดแน่นไปด้วยความแค้น คิดเพียงแต่ว่า เมื่อไหร่กลับมา

จะเอาคืนให้สาสมที่สุด...แต่เอยคงไม่รู้...การที่เราทำให้คนที่เรารักเจ็บปวด

มันทำให้เราเจ็บปวดมากกว่าหลายร้อยพันเท่า"
"ทำไมเอยจะไม่รู้ เอยรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นดี

เพราะเอยเคยเจอเหตุการณ์เลวร้ายนั้นมาแล้ว...วันที่เอยไปอเมริกา

เอยเสียใจที่ไม่ได้บอกลาพี่วิก เอยอยู่ที่สนามบินเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจ...

เอยเห็นพี่วิกที่นั่นด้วย" แล้วเอยนึกถึงวันที่กรวิกวิ่งไปหาเธอ

ขณะที่เดินไปยังประตูผู้โดยสารขาออก ขณะที่กรวิกตามมองหน้าผู้หญิงผมดำทุกคน

...เอยฝืนใจเดินเข้าไปจนได้...เสียงเรียก "น้องเอย..."

ยังแว่วอยู่ในหู ขณะเข้าไปนั่งเช็ดน้ำตาเหมือนคนไม่มีหัวใจ

ในที่สุดเอยก็ตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน ด้วยความคิด...ให้เขาพบสิ่งที่ดีกว่าในชีวิต...
เอยนึกถึงวันนั้นแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ เอยมองกรวิก แล้วสารภาพถึงความรู้สึกตอนนั้น
"พี่วิกไม่รู้หรอกว่า ที่เอยทำเป็นไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียง พี่วิกในวันนั้น...

อยากวิ่งไปกอดพี่วิก แต่ต้องห้ามใจ...ใจที่เหมือนถูกทิ่มแทงซ้ำๆ

คนที่แทงก็คือตัวเอยเอง"
"แล้วเอยรู้จักหมอลักษณ์ยังไง ทำไมถึงตัดสินใจไปอเมริกา"
"เอยไม่ได้ไปกับพี่ลักษณ์ เอยไปเจอ ไปรู้จักพี่ลักษณ์ที่อเมริกา"
"งั้นเกิดอะไรขึ้น เอยมีเหตุผลอะไร ที่ต้องหนีพี่ไปอเมริกา"
"ถ้าเอยตอบได้ เอยคงตอบพี่วิกไปตั้งแต่นาทีแรก ที่เรากลับมาเจอกันแล้ว

แต่นี่เพราะ...เอยตอบไม่ได้ เอยตอบไม่ได้ จริงๆ" เอยบอกแล้วเดินหนีไป

กรวิกตามติดไปถึงชายหาด จับมือเอยไว้
"พี่ขอโทษที่ทำให้เอยไม่สบายใจ ถ้าไม่อยากพูด พี่วิก จะไม่ถาม ไม่พูดถึงมันอีก"
"พี่วิก...คงมีสักวันที่พี่วิกจะได้รู้ความจริง"
กรวิกเช็ดน้ำตาให้เอย แล้วปลอบ "ช่างมัน ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว

ตอนนี้สำคัญที่สุดในชีวิตพี่วิกคือดูแลเอย...เอยรู้ไหม ตอนเอยถูกงูกัด

ยังไม่แน่จะอยู่รอด พี่รู้สึกว่านาทีนั้นยาวนานเหลือเกิน

ถ้าวันนั้นไม่มีเอยชีวิตพี่จะเป็นยังไง ทำไมเราจนวินาทีสุดท้าย

ไม่บอกรักใครที่เรารักที่สุด ในเมื่อเราสามารถ บอกเขาได้เดี๋ยวนี้ วินาทีนี้..."

เขาจับมือเอยไว้แน่น "พี่วิกรักน้องเอย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน

พี่วิกยังรักน้องเอย"
เอยโผกอดเขาไว้แน่น กอดอย่างมีความเอิบอิ่มสุดซึ้งใจที่สุด

"เอยก็ไม่เคยหยุดรักพี่วิก เอยรักพี่วิก รักมากที่สุด มากกว่าชีวิตของเอย ได้ยินไหมคะ"
เอยสะอื้น...เมื่อนึกถึงชีวิตที่ผ่านมา กรวิกเช็ดน้ำตาให้เธออย่างนุ่มนวล..

.แล้วค่อยประคองแก้มของเอยขึ้น จูบอย่างทะนุถนอม...

เอยเองก็ปล่อยให้ใจลอยล่องไปในห้วงแห่งความรัก..

.แต่แล้วเอยกลับผลักเขาออก
"พี่วิก เรากำลังทำผิดกับคนอื่นเขารึเปล่าคะ"
"เอยกลัวหมอลักษณ์จะเสียใจงั้นหรือ"
"เอยไม่อยากทำร้ายคุณเมนี่ ไม่อยากทำร้ายพี่ลักษณ์

เอยไม่อยากเห็นใครต้องเสียใจเพราะเรา"
เอยมองเขานิ่ง...แล้วตัดสินใจเดินหนีไปทันที...กรวิกจะตาม

แต่แล้วหักใจ ยืนนิ่งคิด...

เอยวิ่งหนีเข้าห้องนอนในบ้านรักเอย รังรักบนเกาะของกรวิก

เอยถูกบีบคั้นด้วยจิตใต้สำนึกที่มีมโนธรรม ที่ทำไม่ได้ตามที่ใจปรารถนา..

.แล้วอนาคตของกรวิกจะเป็นอย่างไร นอนก็ไม่ได้ ลุกไปที่หน้าต่าง..

.เห็นกรวิกเดินที่ชายหาด แล้วทรุดนั่งกอดเข่า แน่นอนเขาคงปวดร้าวรานใจที่สุด
เอยลงจากบ้านไปหาเขา แล้วค่อยๆเอาผ้าห่มให้ บอกว่าอากาศเย็นมากแล้ว

เอยกลัวพี่จะหนาว กรวิกบอกเธอว่า ผ้าห่มแค่นี้ไม่พอแน่ แล้วคว้าตัวเอยมากอด

กระซิบข้างหู
"อยู่อย่างนี้แป๊บได้ไหม...วันนี้หมอลักษณ์มาหาพี่วิก..." เอยผละออกทันที "

เขาบอกว่าพี่ซ่อนเอยไว้ เท่ากับฆ่าเอยให้ตายทั้งเป็น พี่ขอบอกว่าถึงพี่ไม่ใช่หมอ

แต่พร้อมดูแลเอยอย่างดีที่สุด ดีกว่าหมออย่างเขาก็แล้วกัน พี่ไม่รู้ว่าเขาคนนั้น

รักเอยมากกว่าพี่หรือเปล่า แต่พี่ไม่ได้รักเอยน้อยกว่าเขา"
"แล้วคุณเมนี่ล่ะคะ เขารักพี่มากนะคะ"
"เราควบคุมความรักได้อย่างนั้นหรือ หัวใจควบคุมไม่ได้เหมือนสมอง

ถ้าหัวใจพี่รักใคร พี่จะรักคนนั้น พี่ควบคุมมันไม่ได้หรอก พี่รักเอยคนเดียว เข้าใจไหม"

เขาซุกหน้าลงบนซอกคอเอย ซุกหาความอบอุ่นที่โหยหามาแสนนาน...


ooooooo


เอยเพิ่งได้ยินเสียงไก่ขัน...พอลืมตาขึ้นก็เช้าแล้ว...คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาเมื่อคืน

...เห็นกรวิกยังนอนหลับอยู่ข้างๆ มองด้วยสายตาแห่งความรักและภักดี..

.ผู้ชายที่ทอดแขนให้เธอนอนหลับทั้งคืนคนนี้ เขาเป็นทั้งพ่อ ทั้งพี่

ทั้งเพื่อน เป็นสามีของเธอ...เอยยิ้มอย่างมีความสุข
"ยิ้มหวานจัง..." เสียงเขาดังขึ้น เอยหันมามอง อุทานเขินสุดๆ ลุกขึ้นจะหนี

เขาดึงตัวลงมากอด เอยสั่งให้ปล่อย มันเช้าแล้วเดี๋ยวลุงกับป้ามาเห็นเข้า

กรวิกบอกทันทีว่าดีสิ จะได้จูบโชว์เสียเลย...แล้วกดจูบทันที เอยเบี่ยงตัววิ่งหนี

เขามองตามอย่างคนที่หัวใจอัดอิ่มจนล้นอก...
เอยกลับเข้าบ้านด้วยความสุข...แล้วก็ถูกกรวิกตามเข้ามาจูบเติมความสุขอีกครั้ง

จนเธอประท้วงด้วยสายตา เขาจึงบอกอยู่ในห้องนี้ไม่มีใครเห็นแล้ว

เขาจูบอีกจนเอยท้วงว่า เดี๋ยวจะเบื่อ
"น้องเอยคือหัวใจของพี่ ถ้าพี่วิกเบื่อหัวใจตัวเอง จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง"

กรวิกไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก เขาระดมจูบ กระทั่งปิดปากเอยในที่สุด..

.แล้วทรุดตัวลงบนที่นอนอันนุ่มสบายในห้องแสนสุขนั้น
ที่โต๊ะอาหารในตอนสาย ลุงส่งป้าสวยจัดอาหารรอ บ่นหาทั้งสองที่เห็นเดิน

คุยกันตั้งแต่ชายหาดจนมานอนในตอนเช้า จึงน่าจะอดนอนอย่างมีความสุข

ป้าสวยไม่เข้าใจ อดนอนมันจะสุขอย่างไร ลุงส่งจึงชวนป้าอดนอนสักตั้งดูไหม

จะได้รู้ว่ามันมีความสุขยังไง
"ไอ้บ้าส่ง หง่อมขนาดนี้มีหน้าชวนขึ้นเตียง เดี๋ยวได้ขึ้นโลงซะก่อน...เจ้าบ๊อง"

ป้าสวยสะบัดบั้นท้ายเหี่ยวๆหนี ลุงส่งมองแล้วปลงว่า...หนังยานแล้ว...เคี้ยวให้ฟันหักก็โง่...

ว่าแล้วหัวร่อฮ่าๆ


ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น: