วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ดินเนื้อทอง ตอนที่1

ตอนที่ 1 ในงานปาร์ตี้ครบรอบ 5 ปี บริษัทคิซซี่ คิซซี่... แนนนี่ เจ้าของบริษัทสาวใหญ่วัยเคาะคานได้มอบหมาย ให้สงกรานต์ ครีเอทีฟหนุ่มหน้ามนเป็นคนจัดการเรื่อง อาหาร ซึ่งสงกรานต์ได้สั่งอาหารอีสานรสเด็ดของยายแคที่ขายอยู่หน้าบริษัทเอาไว้ แต่เมื่อเขาโทร.ไปตาม ยายแคกลับบอกว่ายังไม่มีคนส่ง เพื่อนฝูงในบริษัท ที่ยังไม่รู้ว่าอาหารเป็นอะไร แต่ก็บ่นกันขรมที่ป่านนี้อาหารยังไม่มาขึ้นโต๊ะ


ขณะที่ยายแคกำลังกลุ้มใจ หลังวางสายจากสงกรานต์ที่โทร.มาเร่ง...มุกหอม สาวบ้านนาจากมุกดาหารก็นั่งมอเตอร์ไซค์ รับจ้างแบกครกกับสากขนาดใหญ่มาจอดพรืดที่หน้ารถเข็นของยายแค
"ยายจ๋า..." มุกหอมตะโกนพร้อมกับโดดลงมอเตอร์ไซค์
คำปลิว...แม่ค้าส้มตำคู่แข่งเห็นเข้าก็แตกตื่นด้วยความอิจฉา ทำปากยื่นปากยาวทันที
"แม่เจ้าโว้ย ครกยักษ์ สากยักษ์ ใหญ่ขนาดนี้จะเอามาทิ่มปากใคร"
"ก็ต้องปากเจ๊น่ะสิ เข้ากั๊น เข้ากัน" มะเดื่อโพล่งทันควัน จนเกือบจะโดนสากของคำปลิวกระแทกหน้า
"ปากแกก่อนแล้วกันไอ้มะเดื่อ...นังสากยักษ์นั่นมันใครวะ"
"มุกหอม มาแล้วจ้า" มุกหอมส่งเสียง แบกครกวิ่งมาจะกอดยาย
"เฮ้ย...ครกๆๆ"
"อุ๊ยลืม" มุกหอมรีบวางครกลงก่อน แล้วกอดยาย หอมซ้ายขวาด้วยความคิดถึง
"เอ็งมาก็ดีแล้ว ยายมีเรื่องสำคัญให้เอ็งทำ"
"มีอะไรสำคัญกว่าแบกครกยักษ์ สากยักษ์มาจากมุกดาหารอีกเหรอจ๊ะ"

จากนั้นไม่นาน มุกหอมก็หอบหิ้วกล่องอาหารในถุงขนาดใหญ่เต็มสองมือเข้าไปในบริษัทคิซซี่ คิซซี่ แต่เธอไม่รู้ว่าห้องไหนที่จัดงาน สุ่มหาอยู่พักหนึ่ง กว่าจะไปเจอห้องที่มี เสียงเพลงดังอึกทึก ซึ่งภายในห้อง แนนนี่กำลังยืนจังก้าหน้าโต๊ะอาหารที่ไม่เหลืออะไร แม้แต่ของกินเล่น
"สงกรานต์จ๋า มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนจ้ะ" เสียงแนนนี่เพรียกหา สงกรานต์หน้าเจื่อนจ๋อยหลบอยู่ใต้โต๊ะ รีบเอาจานกระดาษปิดหน้า ค่อยๆคลานหนีออกจากห้อง
มุกหอมเงี่ยหูฟัง กำลังจะเอาตัวกระแทกประตูให้เปิด สงกรานต์เปิดประตูมาพอดี มุกหอมเลยเซ สงกรานต์ตกใจจึงรวบตัวเธอไว้ สองคนจึงอยู่ในสภาพกอดกัน จมูกเกือบชนจมูก มุกหอมตกใจและประหม่า ปล่อยมือจากถุงอาหาร ทำให้ถุงหล่นใส่เท้าสงกรานต์ ถึงร้องโอ๊ย...

"ตายแล้ว ตายๆ" มุกหอมร้องลั่น มองกล่องอาหารที่หกเลอะเทอะบนพื้น
"ผมสิตาย" สงกรานต์เสียววาบ นึกถึงว่าเจ้านายและเพื่อนๆรออาหารอยู่ มุกหอมทำท่าจะหยิบมันขึ้นมา แต่สงกรานต์ ร้องห้ามเสียงหลง "หยุด อย่าแตะต้องอาหารพวกนี้"
"คือว่าฉัน..."
"ไม่ต้อง ไม่ต้อง ผมไม่ชอบฟังคำแก้ตัว เสร็จงาน แล้วเดี๋ยวค่อยมาเก็บตังค์ อ้อ แต่ผมจ่ายแค่ครึ่งเดียวนะ เพราะส่งของไม่ตรงเวลา" ชายหนุ่มพูดรวดเดียว แล้วหอบหิ้วกล่องอาหารกลับเข้าไปในงานทันที ทิ้งมุกหอมยืนละเมอ ชะเง้อมองเข้าไปอย่างสนใจพ่อหนุ่มรูปหล่อ พอเอาหน้าแนบกระจกเห็นงานเลี้ยงสนุกสนาน ยิ่งอยากรู้ว่าข้างในเขามีงานอะไรกัน
ด้วยความอยากรู้ทำให้มุกหอมยังป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้อง แอบมองเข้าไปเห็นสงกรานต์จัดคิวงาน สั่งคนโน้นคนนี้...ยิ่งเพิ่มความประทับใจ
"คนอะไร ทั้งเก่งทั้งหล่อ"
ทันใดนั้นประตูเปิดออก มุกหอมผงะถอย วีณาเดินออกมามองตั้งแต่ตัวจดเท้า
"หน้าตาไม่คุ้น ท่าทางไม่ใช่พนักงานคิซซี่ คิซซี่"
มุกหอมยิ้มกลบเกลื่อน อ้อมแอ้มว่า "มางานนี้เหมือนกันจ้ะ"
วีณาคิดนิดเดียว แล้วร้องอ๋อ รู้แล้ว...จากนั้นก็เข้าคว้ามือมุกหอมไป โดยไม่พูดไม่จาว่าจะพาไปไหน...
วีณาพามุกหอมไปในห้องแต่งตัวหลังเวที จับให้นั่งลงที่หน้าโต๊ะ ได้ยินเสียงคนคุมคิวดังลอดมาว่า
"อีกสิบนาที นางแบบทุกคนสแตนด์บายหลังเวที"
มุกหอมเหวองง ทำท่าจะลุก วีณารีบกดบ่าให้นั่งลง
"มาสายแล้วยังมาทำหน้ามึนใส่ฉันอีกเหรอยะ...มาจัดการคนนี้หน่อย" วีณาหันไปเรียกช่างแต่งหน้า แล้วผละไปทันที มุกหอมจะลุก แต่ช่างแต่งหน้าปราดมาดัก แล้วจัดการแต่งหน้าอย่างรวดเร็ว

ooooooo

ด้านหน้าเวที พนักงานยืนออรอดูนางแบบวัยเอ๊าะ พอสงกรานต์สั่งคิวดับไฟ เสียงเพลงดังขึ้นทันที ทุกคนมองนางแบบเดินออกมาในชุดคอนเซปต์ปาร์ตี้หลังบ้าน ทั้งถือลูกบอล ลูกบาส แก้วแชมเปญ และปืนฉีดน้ำมาฉีดคนดู
ทุกคนตบมือสนุกสนาน พอนางแบบเดินเข้าไปจนหมด สงกรานต์มองเวทีว่าง แล้วบ่น
"ชุดฟินาเล่ล่ะ"
ทันใด มุกหอมถูกคนคุมคิวผลักออกมา มุกหอมในชุดสีขาวหรูฟูฟ่องเหมือนเจ้าหญิง ใส่มงกุฎเก๋ๆอันเล็ก ทุกคนตะลึงในความสวย นึกว่าลูกหลานไฮโซ...สงกรานต์เพ่งมอง แล้วจำได้ เมื่อมุกหอมมาหยุดยืนกลางเวที
"ตายแล้ว ตายๆ โธ่ ไอ้สงกรานต์เอ๊ย เค้าจะพูดก็ดันไม่ให้พูด เกิดเป็นลูกหลานหุ้นส่วนบริษัท...แกจบอนาคตแน่"
"น้องนางแบบคนนี้หน้าตาไม่คุ้น เคยเมมเบอร์ไว้หรือเปล่า" ทวยเทพ พนักงานอีกคนของบริษัทรีบเปิดโทรศัพท์มือถือดูรูปผู้หญิงที่ถ่ายไว้ สงกรานต์เดินไปเบียดหน้าทวยเทพ จะขอดูคิว ทวยเทพหมั่นไส้ ว่าให้ "ดูคิวหรือดูขานางแบบกันแน่"
พนักงานหนุ่มๆส่งเสียงเชียร์ชื่นชอบ มุกหอมฝืนยิ้ม หันมาเจอสงกรานต์ยิ้มให้ พร้อมกับโบกมือ ทวยเทพแกล้งขัดขาสงกรานต์จนล้มลง ผู้คนวี้ดว้าย มุกหอมพลอยตกใจโดดลงจากเวที ฝ่าคนมาที่สงกรานต์ ยื่นมือให้เขาจับ และช่วยดึงเขาลุกขึ้น
"ผมต้องขอโทษที่เมื่อกี๊เข้าใจคุณผิด ผมสงกรานต์ครับ แล้วคุณ..."
"มุกหอมจ้ะ"
"คุณมุกหอมมากับคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมครับ ท่านนั่งตรงไหนครับ เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่โต๊ะท่าน"
"คือว่า..."
"คราวนี้ไม่ต้องกลัวผมแย่งพูดนะครับ ไหนครับ มากับใครเอ่ย"
"มาคนเดียวจ้ะ กำลังจะกลับพอดี" มุกหอมหันหลัง วิ่งฝ่าคนออกไป สงกรานต์รีบตาม วีณาวิ่งสวนมาบอกทุกคนว่า นางแบบชุดฟินาเล่ท้องเสียอยู่ในห้องน้ำ สงกรานต์ชะงัก แปลกใจว่ามุกหอมมาเดินชุดนี้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่ใส่ใจนัก รีบวิ่งต่อไป
มุกหอมถกกระโปรงวิ่งลงบันไดหน้าตึกมา ได้ยินเสียงสงกรานต์วิ่งตามหลัง
"คุณมุกหอม รอด้วยครับ คุณมุกหอม อย่าเพิ่งไป"
มุกหอมหันไปมอง เลยพลาดล้มกลิ้ง รีบมุดหลบข้างบันไดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สงกรานต์จะวิ่งมาหยุด ยืนมองหาในความมืด
"คุณมุกหอม นี่มงกุฎ มงกุฎของคุณมุกหอม...คุณมุกหอม เจ้าหญิงของผม เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก"
มุกหอมได้ยินทุกคำ ยิ้มเขินอยู่ในมุดมืด แล้วรีบคลานออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้สงกรานต์ยืนเพ้อ ฝันหวาน...

ooooooo

มุกหอมในชุดสุดหรูวิ่งมาถึงรถเข็นส้มตำของยายแค ไม่ทันที่ยายจะทักถาม มุกหอมก็โผมากอดรัดยาย พร่ำบอกว่า มุกหอมเจอเจ้าชายแล้ว...
"เจ้าชงเจ้าชายที่ไหน แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไร ไปขโมยชุดใครมา"
"ยายจ๋า เรื่องมันยาวเหมือนนั่งรถทัวร์จากมุกดาหารถึงกรุงเทพฯ แต่ยาวแค่ไหน มุกหอมก็เต็มใจเล่า เรื่องมันก็มีอยู่ว่า..."
ไม่ทันได้เล่า คำปลิวกับมะเดื่อเดินเร่เข้ามาแขวะหาเรื่อง ด้วยนึกว่ายายแคหัวใสให้หลานสาวแต่งชุดสวยมาแย่งลูกค้า...สองคนไม่พูดเปล่า ยังทำลายข้าวของด้วย มุกหอมไม่ยอม ทำท่าจะตอบโต้ แต่ยายแคสั่งห้าม คำปลิวฉวยโอกาสตอนมุกหอมเผลอ ผลักซะล้มก้นกระแทก
มุกหอมโกรธ ลุกขึ้นจะเอาคืน ยายแคกระชากแขนมาทันที
"ข้าบอกให้หยุด"
"เค้ารังแกยายนะ รังแกมากี่ครั้งแล้ว"
"กี่ครั้งก็ช่าง เก็บของ กลับบ้าน" ยายแคสั่งเฉียบ มุกหอมจำใจก้มเก็บจานที่แตก
"ถ้าข้องใจ ตามไปเอาคืนได้นะจ๊ะ แม่มุกหอม มุกเหม็น" คำปลิวหัวเราะ เดินเชิดไป มะเดื่อเข็นรถตาม มุกหอมเก็บจาน พลางชำเลืองมองยายด้วยความน้อยใจ
กลับถึงหน้าบ้านเช่าในชุมชน มุกหอมยังบ่นกระปอด กระแปด "ยอมเค้าง่ายๆ เสียชื่อยายแค เมืองมุก"
แล้วยายหลานต้องตกใจ ที่บ้านเช่าฝั่งตรงข้าม พวกเล้งกำลังโยนหมอนมุ้งออกมาจุดไฟเผา เพียงเพราะเจ้าของห้องดันปากไวไปวิจารณ์ส้มตำร้านคำปลิวว่ารสชาติไม่ได้เรื่อง กินแล้วท้องเสียเข้าโรงพยาบาล
เล้งทำตัวเป็นมาเฟียก็ไม่ปาน โกรธแทนคำปลิวซึ่งเป็นแฟน มุกหอมเลยถึงบางอ้อที่ยายไม่อยากตอบโต้คำปลิว ก็เพราะแบบนี้นี่เอง...

เมื่อพากันเข้าบ้าน มุกหอมจัดแจงล้างอุปกรณ์ค้าขายของยาย ส่วนยายนั่งนับเงินอยู่ใกล้ๆ
"ยายจ๋า ไหนๆก็มากรุงเทพฯทั้งที ยายพามุกหอมไปหาแม่หน่อยนะจ๊ะ มุกหอมอยากเจอหน้าแม่สักครั้ง"
ยายแคชะงัก หน้าตึง "อยากเจอทำไม หรือว่าอยู่กับข้า เอ็งไม่มีความสุข"
มุกหอมหน้าจ๋อย มองยายแล้วนึกถึงอดีตตอนเรียนมัธยมปลาย มุกหอมไปประกวดร้องเพลงในหมู่บ้าน แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นล้อว่ามุกหอมเป็นลูกไม่มีพ่อมีแม่ มุกหอมโกรธเลยใช้ไมค์ไล่ฟาดปากพวกนั้น ขณะที่ยายแคก็ไม่พอใจ ยกเก้าอี้ทุ่มใส่ทั้งกลุ่มจนวิ่งกระเจิง...
"ยายบอกว่าพ่อตายไปแล้ว แต่แม่ยังมีชีวิตอยู่ มุกหอมก็อยากรู้ว่าแม่บังเกิดเกล้า หน้าตาท่าทางเป็นยังไง มุกหอมจะได้จำไปจนวันตาย"
"ไม่ต้องจำ แล้วก็ไม่ต้องเจอ รีบนอนซะ พรุ่งนี้เช้ามืดต้องไปซื้อของ" ยายแครีบเอาเงินใส่กระเป๋าวางไว้ มุกหอมเหลือบตาเห็นรูปรูปหนึ่งสอดอยู่ รับคำยายเสียงแจ้ว แต่พอยายหันหลังเดินไปตรงฟูกนอน มุกหอมก็ย่องมาแอบหยิบกระเป๋าเงินยาย เอาไปเปิดดู เห็นภาพของแม่ยิ้มสดชื่น ด้านหลังสอดไว้อีกภาพ เป็นรูปคู่ยายกับแม่ในช่วงวัยรุ่น
"โธ่ยาย ทำเป็นปากแข็ง ที่จริงก็คิดถึงแม่เหมือนกัน... ดีล่ะ ยายไม่ยอมเจอแม่ งั้นมุกหอมนี่แหละจะพาแม่มาเจอยายเอง"

ooooooo

เช้าวันใหม่ รถคันหรูของหยาดพิรุณแล่นมาจอดหน้าตลาด คนขับลงมาเปิดประตูให้หยาดพิรุณ ส่วนอีกด้าน ตวงใจลูกสาวลงจากรถในหมวกปีกกว้าง มีผ้าลูกไม้คลุมหน้า ทำเอาพ่อค้าแม่ค้าพากันมอง
"คุณแม่อ่ะ จะพาตวงใจมาตลาดทำไมไม่รู้ ทั้งเฉอะแฉะ แถมมีแต่พวกพ่อค้าแม่ค้าจนๆ"
"เบาๆสิตวงใจ เราเป็นเจ้าของตลาดนะลูก"
"น่าภูมิใจมากค่ะ ทำมาหากินกับชนชั้นล่าง"
เจ๊สว่างได้ยิน เดินรี่เข้ามา "เอ้า คุณหนูไฮโซ วันนี้มาดูกิจการถึงนี่เลยเหรอคะ"
ตวงใจเอาผ้าเช็ดหน้าปิดจมูก สะบัดหน้า หยาดพิรุณรีบทักทายเจ๊สว่างว่า ขายดีไหม?
เฮียตู้เดินมายืนข้างเมีย ตอบแทน "จะขายดีอะไรคุณนาย เศรษฐกิจดิ่งลงนรก แถมค่าเช่าแผงยังแพงหูฉี่ คุณนายรู้มั่งมั้ยครับ ว่าพวกคนรวยมันจะซ้ำเติมคนจนไปถึงไหน"
เล้งก้าวมาอีกคน ถามเหย้าคุณหนูตวงใจว่ารู้บ้างไหมครับ ตวงใจตอบสะบัดเสียงอย่างรังเกียจว่า "ฉันไม่รู้เรื่องคนจน"
หยาดพิรุณเห็นท่าไม่ดี รีบดึงตวงใจหลีกพวกเฮียตู้ "งั้นเดี๋ยวฉันขอไปดูด้านในหน่อยนะ"
"หมั่นไส้ อยากตบนังคุณหนูนั่นจริงๆ" เจ๊สว่างมองตาม
"ตบไปก็เจ็บมือเรา สู้เล่นให้มันขายขี้หน้าคนทั้งตลาดดีกว่า ไป ไอ้เล้งลูกพ่อ"
สามคนพ่อแม่ลูกพากันเดินออกไป ยิ้มกริ่มในหน้าอย่าง มีแผน
หยาดพิรุณพาตวงใจที่เดินปิดจมูกทักทายแม่ค้าพ่อค้าตามแผงต่างๆ อีกด้านเล้งอยู่ตรงแผงหมู ยิ้มเจ้าเล่ห์ หยิบถุงน้ำมันหมูออกมาเทลงตรงทางเดิน ตวงใจสะบัดสะบิ้งเดินแซงแม่มา เหยียบไปบนน้ำมันหมู ร้องวี้ดว้ายจะล้ม มุกหอมกับยายแคมาจ่ายตลาด หันมาตามเสียง มุกหอมทิ้งถุงมะละกอในมือวิ่งพรวดมาช่วยตวงใจ แต่ตวงใจรังเกียจสะบัดมือออก ตวงใจเลยเซกลิ้งลงไปนั่งในรถเข็นผัก เฮียตู้ได้ทีแกล้งถีบรถเข็นลื่นไปตามทาง หยาดพิรุณเห็นสภาพลูกสาวถึงกับร้องลั่น
"ตวงใจ ลูกแม่"
ยายแคหันขวับไปตามเสียง แล้วอุทานตกใจ "คุณหยาดพิรุณ"
มุกหอมได้ยินยายเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้น หันมองตาม จำได้ว่าเธอคือผู้หญิงในรูปที่เห็นเมื่อคืนในกระเป๋าเงินยาย
"มุกหอม กลับบ้าน" เสียงยายแคตะโกนเรียก แทนที่มุกหอมจะไปหายาย กลับวิ่งตามหยาดพิรุณที่วิ่งตามตวงใจไป
ตวงใจส่งเสียงแปดหลอด เพราะรถเข็นยังลื่นไหลไม่หยุด กระทั่งมุกหอมเอาลูกฟักทองโยนสกัด รถถึงหยุด แต่ตวงใจหน้าทิ่ม พุ่งออกมาล้มลงบนกองผัก ชาวตลาดถึงกับหัวเราะสนั่น หยาดพิรุณวิ่งมาดึงลูกที่กรี๊ดไม่หยุด
"พวกแกแกล้งฉัน ไล่มันค่ะ คุณแม่ ไล่มัน"
"เลอะหมดแล้ว กลับบ้านก่อนเถอะ ลูกตวง"
"ไม่ค่ะ คุณแม่ต้องหาคนผิดให้ตวงใจก่อน"
หยาดพิรุณมองไปเห็นพ่อค้าแม่ค้ามองมาก็ยิ่งอาย อีกด้านยายแคหลบมองมาที่หยาดพิรุณ
"เร็วๆสิคะคุณแม่ หรือคุณแม่จะให้ลูกสาวคนเดียวอับอายขายขี้หน้าพ่อค้าแม่ค้าจนๆพวกนี้"
"คำก็จน สองคำก็จน แหม...คนจนทั้งตลาดอยากมีเมียเป็นนางฟ้าจังเลยเว้ย" สิ้นเสียงของเล้ง พ่อค้าแม่ค้าร้องเฮสนับสนุน โดยเฉพาะเฮียตู้ สั่งลูกชายสมนาคุณคุณหนูไฮโซเขาหน่อย หยาดพิรุณกลัวๆ สั่งคนขับรถไปเอารถมาเร็ว พร้อมๆกับดึงลูกสาว ผ่านหน้ามุกหอมไป
"แม่" เสียงเรียกของมุกหอมทำให้หยาดพิรุณหยุดชะงัก หันมายิ้มอย่างคนใจดี
"หนูเรียกฉันเหรอจ๊ะ"


"คุณแม่...ตวงใจไม่ยอมนะ" ตวงใจกระชากแขนแม่ "ไม่ยอมจริงๆด้วย ไล่ค่ะ ไล่มันให้หมดตลาด"
พวกเฮียตู้ดาหน้าเข้ามา หยาดพิรุณรีบดันตวงใจขึ้นรถออกไปทันที มุกหอมแสนเสียดาย หันมาทางเจ๊สว่าง ซักว่าผู้หญิงสวยๆคนนั้นชื่ออะไร?
"หยาดพิรุณ เจ้าของตลาดนี้ไงล่ะ ส่วนนังลูกสาว ดีดดิ้นเป็นปลาช่อนโดนทุบหัวน่ะชื่อตวงใจ"
"คุณหยาดพิรุณเค้าเป็นใคร มาจากไหน เป็นคนมุกดาหารหรือเปล่า"
ไม่ทันเจ๊สว่างจะพูดอะไรอีก ยายแควิ่งพรวดมาดึงมุกหอม สั่งให้หยุดถาม ทำให้เจ๊สว่างสงสัย ถามเร็วจี๋
"มีอะไรกันหรือเปล่า อยากรู้อยากเห็นเรื่องอะไร เจ๊สว่างช่วยได้นะ ไม่คิดเงิน"
ยายแคหน้าตูมใส่ ลากมุกหอมออกห่าง "ถ้าเอ็ง
ยังไม่หยุดเรื่องตามหาแม่ ก็กลับมุกดาหารไปเลย" ยายแคขัดใจเดินออกไป มุกหอมมองตาม แล้วพึมพำกับตัวเอง
"มุกหอมไม่กลับ มุกหอมจะอยู่พิสูจน์ความจริงว่าคุณหยาดพิรุณคือลูกของยาย คือแม่ของมุกหอม..."

ooooooo

สายแล้ว ร้านส้มตำรถเข็นเริ่มเดินเครื่อง มีลูกค้าทยอยมาสั่งมาซื้อ รวมทั้งสงกรานต์ที่ออกจากตึกเดินตรงมา มุกหอมตาไวเห็นสงกรานต์ก่อน รีบทิ้งสากหลบวูบลงข้างรถเข็น จนยายแคแปลกใจ ถามว่าเป็นอะไร?
"มดกัด ยาย มดกัดขา"
คำปลิวชะเง้อคอยาวก่อนวิ่งมาเบียด ทักสงกรานต์ "วันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยคะ ตั้งแต่เช้าเพิ่งเห็นลงมาซื้อกาแฟแก้ว เดียวเอง"
สงกรานต์ถอยห่าง ทักแบบเสียไม่ได้ "ขายดีมั้ย"
"ดีค่ะ ดีมากเลย ดีกว่าร้านยายแค"
มุกหอมหลบไปหลบมาหลังรถเข็น กลัวสงกรานต์เห็น สงกรานต์มองเห็นแต่ยายแค แล้วเดินเลยไป มุกหอมลุกพรวดหัวชนรถ ลุกขึ้นคลำป้อย คำปลิวเดินเชิดมาคุยอวด
"หล่อนคงไม่รู้จัก คนเมื่อกี๊น่ะแฟนตัวจริงของฉัน คุณสงกรานต์ สุดยอดครีเอทีฟของคิซซี่ คิซซี่"
"อ๋อเหรอ ท่าทางเค้ายังไม่รู้ตัวนะ ว่าเป็นแฟนเธอ"
"นังมุกหอม นังสากยักษ์"
"ทำไมเหรอ คำปลิว สักป๊อกมั้ยจ๊ะ" มุกหอมยกสากเงื้อง่าอย่างไม่กลัว ยายแคต้องปราม ก่อนจะเร่งให้เอาของไปส่งคนบนตึก
สงกรานต์กลับขึ้นไปทำงานได้สักพัก ตวงใจก็โทร.เข้ามาหา วีณากับพวกสาวๆทำท่าหูยื่นหูยาวอยากรู้
"ครับ ตวง ผมรออยู่...ไม่ลืมครับ ว่าต้องไปเอารถที่จองไว้ แล้วตวงถึงไหนแล้วครับ"
"ไม่บอกค่ะ อยู่ไกลสงกรานต์ อีกเป็นชั่วโมงเลยค่ะ กว่าจะถึง เดี๋ยวเจอกันนะคะ"

ตวงใจวางสาย ยิ้มแย้มมีความสุขที่ได้อำสงกรานต์ เธอก้าวลงจากรถที่จอดอยู่หน้าตึก โดยไม่ทันมองว่ามีรถสปอร์ต คันหรูแล่นมา...ตวงใจผงะตกใจ ขณะที่ชายหนุ่มในรถคันนั้นก็เบรกตัวโก่ง แล้วรีบลงมาถาม
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
"ขับรถประสาอะไร" ตวงใจมองเขาหัวจดเท้า
"ก็ผมไม่คิดว่าคุณจะพรวดพราดลงจากรถ"
"อ๋อ โทษว่าฉันผิด รู้หรือเปล่าว่าฉันลูกใคร? ไม่รู้ล่ะสิ งั้นฟังดีๆ ฉันลูกสาวคนเดียวของคุณกรณ์ เจ้าของตึก ฉันจะจอดรถตรงนี้ ลงตรงนี้ มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน"
"อ๋อ ลูกสาวเจ้าของตึก"
"อย่ามาทำเสียงล้อเลียน"
"เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันครับ คือผมมีธุระ ต้องรีบไปส่งของลูกค้า"
"มาส่งรถใช่มั้ย...รถของสงกรานต์"
พอชายหนุ่มตอบรับ สาวเจ้าก็ขอกุญแจทันที บอกว่ารถคันนี้ของแฟนที่ชื่อสงกรานต์...มุกหอมที่หิ้วอาหารมาส่ง แอบดูแอบได้ยินสองคนทุ่มเถียงกัน ถึงกับรำพึงออกมา
"คุณสงกรานต์เป็นแฟนคุณตวงใจ ลูกแม่หยาดพิรุณ"
"คงไม่ได้นะครับ ยังไงผมก็ต้องเอากุญแจให้ถึงมือลูกค้า" พีรพลไม่ยอม แล้วประชดต่อไปเมื่อตวงใจบอกว่า เธอกำลังจะไปเจอสงกรานต์ "งั้นผมตามคุณไปดีมั้ยครับ กุญแจรถมันหนัก ผมถือให้ดีกว่า เดี๋ยวจะเสียเกียรติลูกสาวเจ้าของตึก"
"ก็ดี" ตวงใจเชิดหน้าเดินเข้าไป พีรพลแอบยิ้มกับมาดนางพญาของเธอ แล้วเดินตาม มุกหอมค่อยๆตามหลัง
สงกรานต์กำลังง่วนกับงาน พอพวกวีณาเห็นตวงใจเดินเข้ามาก็ฉีกยิ้มต้อนรับ วีณารี่มาชมตวงใจประสาคนขี้ประจบ ตวงใจไม่ชอบนัก และพูดดักคอจนวีณาหน้าม้าน...
"นี่ไง สงกรานต์ แฟนฉัน เอามาสิ กุญแจรถน่ะ" ตวงใจ หันไปพูดกับพีรพล สงกรานต์เพิ่งเห็น
"ผมบอกว่า ผมจะไปรับเอง"
"ตอนนี้ทางโชว์รูมเรามีโปรโมชั่นพิเศษครับ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการช่วงนี้ เราจะส่งรถถึงที่ แล้วยังแถมคูปองสำหรับเช็กเครื่องรถฟรี 5 ปี"
"พอแล้ว กุญแจรถ ที่ฉันต้องการคือกุญแจรถ" ตวงใจ ขัดขึ้น พีรพลส่งมอบกุญแจรถให้สงกรานต์ แต่ตวงใจรีบดึงมา "อย่าลืมนะคะ ที่ตวงใจบอกว่าตวงใจต้องเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ได้นั่งรถคันนี้"
"มีปัญหาอะไร ติดต่อผม...พีรพล"
"พอๆ หมดหน้าที่เซลล์แล้ว" ตวงใจทำท่าเหม็นหน้าเซลส์หนุ่ม แล้วหันไปยิ้มหวานกับสงกรานต์ พีรพลจึงถอยออกไป...ตวงใจตื๊อสงกรานต์ จะให้พาออกไปนั่งรถคันใหม่ แต่สงกรานต์บอกว่างานยังไม่เสร็จ ตวงใจกลับทำท่าเอาแต่ใจ เดินมาเก็บของบนโต๊ะ
"ไม่เอาค่ะ ตวงไม่ให้ทำแล้ว...เอ๊ะ นี่รูปใครคะ"
มุกหอมยืนชะเง้อมาเห็นรูปตัวเองที่ตวงใจถืออยู่ ทวยเทพแถมาดูรูป แล้วบอกตวงใจว่า เธอคือนางแบบใหม่ของสงกรานต์ กำลังปลื้มสุดๆ
"นางแบบคนนี้ชื่ออะไร" ตวงใจถามยิก
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะขึ้นขัดจังหวะ วีณารีบกดสปีกเกอร์ ทุกคนจึงได้ยินเสียงแนนนี่
"สงกรานต์จ๋า หลับอยู่หรือเปล่า ถ้าตื่นแล้ว รีบเข้ามาให้พี่เห็นหน้าหน่อยจ้ะ คิดถึง"
พนักงานแอบหัวเราะ สงกรานต์ได้โอกาส บอกตวงใจ ว่าเจ้านายเรียก สงสัยจะคุยเรื่องโฆษณาตัวใหม่ ให้ตวงใจไปรอที่ร้านกาแฟก่อน...ว่าแล้วชิ่งไปทันที
ตวงใจจำใจต้องไป มุกหอมแอบเดินตามตวงใจ สักครู่ ตวงใจรู้สึกแปลกๆ หันขวับมา...ครั้งแรกไม่เจอ แต่พอครั้งสอง เจอมุกหอมเต็มๆ ตวงใจกระชากแขน ถามเอาเรื่อง
"แกตามฉันมาทำไม"
พีรพลเพิ่งออกจากห้องน้ำ เห็นตวงใจกำลังคาดคั้นมุกหอม...มุกหอมบอกว่ามาส่งส้มตำ ตวงใจผงะ ที่รู้ว่ามุกหอม เป็นแม่ค้า รีบปล่อยมือทันที
"ใครปล่อยให้แม่ค้าส้มตำมาเดินเพ่นพ่านในตึกหรูของพ่อฉันเนี่ย ยามๆ"
"มีเรื่องอะไรกัน" พีรพลวิ่งเข้ามา

"แกอีกแล้ว ฉันเรียกยาม ไม่ใช่เซลส์ขายรถ หรือว่า แกเป็นพวกนางนกต่อ สะกดรอยตามคนรวย เรียกค่าไถ่"
"โห...คุณ ผมว่ามันเว่อร์ไปนะ คิดมากไปหรือเปล่า น้องเค้าก็แค่มาส่งของ"
"ฉันมีสิทธิ์คิดเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ฉันเป็นลูกสาวเศรษฐีรวยพันล้าน พ่อฉันก็เป็นเจ้าของตึกนี้"
"แล้วแม่คุณล่ะ แม่คุณชื่อหยาดพิรุณใช่ไหมคะ"
"ใช่ เจ้าของตลาดทรัพย์มหาศาล ตลาดใหญ่อันดับหนึ่ง เอ๊ะ นี่ถามเอาชื่อแม่ฉันไปล้อใช่มั้ย...ยามๆ มาจับตัวมันไป"
มุกหอมดิ้นหนีมือตวงใจจนถุงส้มตำฟาดไปเลอะเนื้อตัว ตวงใจถึงกับกรี๊ดลั่น พีรพลรีบดึงมุกหอมออกไป แต่มุกหอมยังไม่วายร้องถามตวงใจว่า บ้านคุณอยู่ไหน?
"จะตามไปจ่ายค่าชุดฉันหรือไง ถามอยู่ได้ แกนะแก...อี๋ จำไว้เลย อย่าให้ฉันเห็นหน้าในตึกนี้อีก"
พีรพลลากมุกหอมออกมาหน้าตึก บอกให้รู้ว่าถ้าเขาเรียกตำรวจมาจับ ได้ติดคุกหัวโตแน่ มุกหอมเถียงว่า คนแค่อยากรู้ ถึงกับติดคุกด้วยเหรอ...พอพีรพลถามว่าอยากรู้อะไร มุกหอมก็สะบัดหนี บอกว่าเรื่องของเธอ คนอื่นไม่เกี่ยว...
มุกหอมกลับมาตำส้มตำ พีรพลยังตามมายืนมอง เห็นท่าทีหญิงสาวคล่องแคล่ว ให้นึกอยากกิน และอยากคุย เดินมาถามๆ แต่กลัวเผ็ด มุกหอมเลยบอก
"ไม่เผ็ดก็ได้ หน้าตาจืดๆแบบคุณ พริกเม็ดเดียวแล้วกัน ถือว่าเลี้ยงที่พาฉันวิ่งจนลิ้นห้อย"
"เอ้า ลองดู"
ไม่นานนัก มุกหอมก็วางจานส้มตำตรงหน้าพีรพล พอได้ชิมแค่คำเดียว พีรพลแทบร้องจ๊าก...กลับไปโชว์รูมรถยังซี๊ดปากไม่หาย
"นี่ถ้าท่านประธานรู้ว่าคุณพีรพลขับรถไปส่งลูกค้าเอง มีหวังเซลส์อย่างพวกผมตกงานกันหมด" ลูกน้องคนหนึ่งเดินมาทัก
"ผมไม่ใช่นักเรียนนอกประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ถ้าผมต้องมาดูแลที่นี่ต่อจากพ่อ ผมก็อยากเริ่มเรียนรู้เหมือนพวกคุณ ไปทำงานเถอะ อย่าซีเรียส"
ลูกน้องมองพีรพลอย่างชื่นชม พีรพลเดินเลยไปด้านในได้สักครู่ พิญชะก็ตามเข้ามา
"ไหนว่าวันนี้จะไปออกรอบกับก๊วนไงครับ"
"แวะมาดูลูกน้องคนใหม่ เป็นไง ทำงานวันแรก"
"สบายมากครับพ่อ เพิ่งไปเจออะไรแปลกๆมา"
"สวยแปลกน่ะเหรอ...ถ่ายรูป ขอเบอร์มาป่ะ"
"ฮื้อ พ่อ...ไม่ใช่หยั่งงั้น ผมเพิ่งมีเพื่อนเป็นแม่ค้าส้มตำ"
"เดี๋ยวๆ ไอ้พีรพลลูกรัก กลับมาจากเมืองนอกได้ไม่ถึงอาทิตย์ มีเพื่อนเป็นแม่ค้าส้มตำ เพื่อนแกคนนี้เป็นลูกหลานไฮโซ ไฮซิ้ม ไฮซ้อคนไหนเล่นพิเรนทร์อีกล่ะ"
"แม่ค้าส้มตำจริงๆพ่อ แล้วก็เป็นแม่ค้าส้มตำที่น่ารัก ที่สุดด้วย" พีรพลพูดยิ้มๆ ทำเอาพ่อเหล่มองแปลกใจ...

ooooooo

ที่มา
http://variety.mcot.net/inside_novel.php?novell_id=145202526


ไม่มีความคิดเห็น: