วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ดินเนื้อทอง ตอนที่4

ตอนที่ 3 (ต่อ)
หลังฟังเรื่องราวจากมุกหอมแล้ว สงกรานต์จึงชวนมุกหอมไปซื้อของเพื่อให้มีทันขายส้มตำในวันพรุ่งนี้ ขณะช่วยกันเลือกของอยู่ในห้างสรรพสินค้า ทวยเทพบังเอิญมาเห็นสองคนใกล้ชิดสนิทสนม จึงใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายเอาไว้หลายภาพ
พอเช้าขึ้น สงกรานต์เข้าออฟฟิศและพบว่าทุกคนกำลัง ดูภาพของเขากับมุกหอมและเม้าท์กันน้ำลายแตกฟอง สงกรานต์ ไม่ชอบใจ กระชากรูปคืนมา แล้วบอกว่า เมื่อวานมุกหอมโดนพังร้าน ที่เขาไปช่วยซื้อของก็เพราะมนุษยธรรม...มุกหอมกำลังจะเอาข้าวเหนียวหมูทอดมาตอบแทนสงกรานต์ ได้ยินคำพูดนี้เข้าถึงหน้าสลดด้วยความผิดหวัง
"เห็นเขาเดินเป๋อๆ ไม่มีที่พึ่ง ใครมาเจอสภาพมุกหอมเมื่อวาน ก็ต้องทำเหมือนผม"
ยิ่งฟังมุกหอมก็ยิ่งผิดหวัง ทิ้งถุงข้าวเหนียวหมูทอด หันหลังวิ่งออกไปยืนร้องไห้อยู่มุมหนึ่งในตึก อีกครู่สงกรานต์ ออกมาเห็น มุกหอมจึงประชด ขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเมื่อวาน เธอซึ้งในความเมตตาของเขามาก แต่วันหลังช่วยเอาความหวังดีเก็บไว้กับตัวเอง...ว่าแล้ววิ่งออกไป สงกรานต์ยังงงๆ แต่ก็
รีบตามไปเรียก และจะมอบซองเงินค่ารักษายายแคให้
เมื่อมุกหอมข้องใจว่าเจ้าของเงินเป็นใคร สงกรานต์บอกทันทีว่า เป็นคนที่เห็นใจมุกหอม ขอให้รับเงินไป ยายแคคงได้ อยู่โรงพยาบาลดีๆที่มุกดาหาร
"ตกลงว่านี่คุณอยากไล่ฉันกลับ" สงกรานต์ไม่ตอบ แต่เร่งให้รับเงินไป "ฉันไม่รับ ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็ไม่ใช่คนหน้าเงิน ฉันเจ็บแล้วจำ จำไปถึงหัวใจ ว่าอยู่ที่นี่อย่าได้รับความช่วยเหลือจากใครอีก เพราะมันไม่ใช่ความจริงใจที่เขาหยิบยื่นให้ มันก็แค่เรื่องสนุกๆให้เขาเอามาหัวเราะเยาะ"
สงกรานต์หน้าเสีย เดินมายัดเงินใส่มือมุกหอม "เอาไปเถอะน่า"
"อยากไล่ฉันนักใช่มั้ย...ได้ ฉันจะไม่หนี ฉันจะอยู่ที่นี่ แล้วก็ทำให้คุณต้องกินส้มตำมุกหอม" มุกหอมยัดเงินใส่มือคืนสงกรานต์ แล้ววิ่งออกไป สงกรานต์วิ่งตาม แต่มุกหอมเข้าลิฟต์ ไปแล้ว จึงได้แต่ยืนพึมพำขอโทษมุกหอม...

หยาดพิรุณมาดักพบมุกหอม ซักถามมุกหอมว่าเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับยายแค หรือว่ายายแคสั่งให้มุกหอมมาหาเธอที่บ้าน...เมื่อไม่ได้คำตอบ หยาดพิรุณยิ่งร้อนใจ
"ฉันขอร้องนะมุกหอม ครอบครัวฉันมีความสุขมาตลอด ยายแคก็รู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมามันเป็นความผิดพลาด ทั้งฉัน ยายแค แล้วก็เธอ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน"
"ที่จริงคุณรู้จักยาย แล้วทำไมวันก่อนถึงปฏิเสธว่าไม่รู้จัก"
"ฉันมีเหตุผล"
"เหตุผลคนหน้าไหว้หลังหลอก"
"มุกหอม เธอไม่ควรก้าวร้าวผู้ใหญ่"
"แล้วทำไมผู้ใหญ่มาทำร้ายเด็กล่ะคะ"
"ฉันกำลังขอร้องเธอดีๆ ให้เธอไปจากที่นี่ อยากได้ อะไรเพิ่ม บอกผ่านสงกรานต์ก็ได้"
"อ๋อ คุณนี่เองเจ้าของเงิน มิน่า ถึงได้ยกขบวนกันมาไล่ฉันทั้งแม่ยาย ลูกเขย ดีค่ะ ถ้าฉันมันเหมือนหนามตำใจนักล่ะก้อ ฉันก็จะไม่ไปไหน"
"เธอยังสาว จะทำอะไรก็คิดมากๆหน่อย ตวงใจเป็นลูกสาวคนเดียวของฉัน ไม่มีแม่คนไหนจะทนเห็นน้ำตาของลูก" หยาดพิรุณมองแหวนเพชรในนิ้ว แล้วดึงออกมายื่นให้ "พอมั้ยที่จะทำให้เธอยอมไปจากครอบครัวฉัน"
"ขอบคุณค่ะที่อุตส่าห์ลดตัวลงมาเตือนแม่ค้าอย่างฉัน แต่ช่วยจำไว้ด้วยว่า ทั้งเงินทั้งแหวนเพชรของคุณ มันไม่มีความหมายกับเราเลยสักบาท แล้วถ้าคุณจะไล่เราสองยายหลาน ออกไปจากชีวิตคุณ เราก็จะไป ขอแค่คุณกล้าไปหายาย"
"ฉันไม่ไป"
"งั้นคุณก็ไม่มีวันไล่เราได้ เพราะคุณไม่เคยมีบุญคุณ ไม่เคยมีความผูกพันอะไรกับเรา"
หยาดพิรุณโกรธจัด หันหลังเดินเร็วไป มุกหอมตัวชา ได้แต่มองแหวนในมือ ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมา
"แม่ใจร้าย ถ้าแม่ไม่รักยาย มุกหอมก็รักแม่ไม่ได้ เหมือนกัน"
เมื่อกลับมาที่ร้านส้มตำ มุกหอมเจอพีรพลกับสงกรานต์ รออยู่ พีรพลเห็นมุกหอมร้องไห้กลับมา จึงถามด้วยความเป็นห่วง นึกว่าถูกพวกเล้งคุกคามอีก พูดพลางก็ช่วยเช็ดน้ำตาให้ สงกรานต์ เห็นแล้วทั้งแอบหึงทั้งหมั่นไส้ ประชดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
"ดีนะ ได้คนงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกคน"
"ผู้ชายซื่อๆ จริงใจขนาดนี้ ใครจะยอมให้เป็นแค่คนงาน ล่ะค่ะ พีรพลน่ะเขาเหมาะจะเป็น..."
"เจ้าของหัวใจ" สงกรานต์ต่อให้
"คุณสงกรานต์นี่คิดเก่งจังเลย คำนี้น่าใช้กับพีรพลมาก ค่ะ...เจ้าของหัวใจมุกหอม" มุกหอมประชดกลับ สงกรานต์ไม่ อยากทนฟัง รีบเดินออกไป มุกหอมมองตาม แววตาเสียใจไม่ น้อยกว่ากัน...

ooooooo

ตอนที่ 4
สงกรานต์หน้าตูมกลับออฟฟิศ แล้วเจอทวยเทพ กับวีณาแขวะเรื่องมุกหอม ยิ่งทำให้สงกรานต์หงุดหงิดมากขึ้น ศอกกลับสองคนนั้นก่อนผลุนผลันออกจากออฟฟิศไปอีก...สงกรานต์ตัดสินใจนำเงินไปคืนหยาด-พิรุณ และบอกว่ามุกหอมไม่ขอพึ่งเงินคนอื่น
"เด็กคนนี้หยิ่งยโส ไม่เห็นหัวผู้ใหญ่"
"ถ้าผมเป็นมุกหอม ผมก็คงไม่อยากรับเงินช่วยเหลือจากใครเหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเงินมันจะมาผูกมัดอนาคตเรา"
"สงกรานต์ เรื่องเธอกับมุกหอมไม่เหมือนกันนะ น้าไม่เคยคิดจะเอาเรื่องหนี้สินที่คุณทิพยงค์กู้ไปลงทุนมาบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับลูกสาวน้า แต่น้าเห็นเธอเป็นผู้ชายที่อนาคตไกล แล้วเธอกับตวงใจก็รักกันมานาน"
"ผมกับตวง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"
"เธอพูดเหมือนไม่ได้รักลูกสาวน้า แล้วเธอรักใคร... มุกหอม?"
"มุกหอมไม่เกี่ยว ผมไม่ได้รักมุกหอม ผมขอร้องนะครับ เรื่องผมกับตวงมันไม่เกี่ยวกับมุกหอม ถ้าผมจะมีครอบครัว ผมก็อยากแน่ใจว่ามันไปตลอดรอดฝั่ง คุณน้าคงเข้าใจผม" สงกรานต์ เอ่ยเกรงใจ หยาดพิรุณจนด้วยเหตุผล เงียบไปอย่างหนักใจ
ด้านมุกหอมที่ได้แหวนของหยาดพิรุณกลับมาบ้านเช่า ใบคูณเห็นแหวนนี้เข้าก็ตื่นเต้น ซักว่าแหวนของใคร สวยจัง
"ผู้หญิงใจดำเขาเอามาฟาดหัวพี่...ใบคูณ ถ้าใบคูณมีแม่แล้วแม่ไม่ยอมรับว่าใบคูณเป็นลูก ใบคูณจะทำยังไง"
"ก็คงร้องไห้ไม่หยุด ทำไมจ๊ะ พี่มุกหอมทะเลาะกับแม่มาเหรอ"
"ใช่ พี่อยากให้แม่มาเยี่ยมยาย แต่เขาไม่มา"
"พี่มุกหอมขยันทำมาหากินอย่างนี้ ใบคูณว่าวันนึงพี่จะต้องรวยจนแม่พี่ตะลึง แล้วก็รีบกลับมาหายายกับพี่"
"สมพรปากนะจ๊ะ ขอให้รวย...ขอให้รวย"
"ใบคูณพอจะทำขนมได้ ให้ใบคูณลองทำไปขายนะ ร้านเราจะได้มีทั้งของคาวของหวาน"
"เอาสิ ใบคูณจะทำอะไรล่ะ"
มะเดื่อยืนลับๆล่อๆแอบฟังอยู่ด้านนอก พอได้ยินชัดว่า ใบคูณทำจริง และช่วยกันกับมุกหอมเตรียมของทำขนมขาย มะเดื่อจึงกลับไปรายงานคำปลิวที่นั่งลอยหน้าอยู่กับเล้งที่ร้านคาราโอเกะ คำปลิวโกรธจี๊ดที่มุกหอมจะมีของขายเพิ่ม ทั้งที่ส้มตำอย่างเดียวก็ทำให้ร้านของตนแทบจะต้องปิดร้าน เล้งเอาใจแฟนรีบอาสาไปจัดการให้ แต่คำปลิวบอกไม่ต้องถึงมือพี่เล้งหรอก แค่มะเดื่อคนเดียวก็พอ
ครั้นรุ่งเช้า มะเดื่อก็ไปด้อมๆมองๆที่บ้านเช่ามุกหอม พอเห็นมุกหอมเข็นรถส้มตำออกไปก่อน แล้วให้ใบคูณเอาขนมตามไปทีหลัง มะเดื่อรีบเข้ามาก่อกวนใบคูณจนหม้อสาคูเปียกหล่นจากมือหกเหลือแค่ก้นหม้อ

ขณะที่มุกหอมกำลังจัดร้าน สงกรานต์แกล้งเดินผ่าน มุกหอมเห็นแล้วแต่ทำเป็นไม่สนใจ จนสงกรานต์เดินกลับมาอีกรอบ มุกหอมจึงหยิบมีดมาลับกับครก พร้อมกับร้องบอก
"ถ้าจะมาสั่ง ร้านยังไม่เปิด แต่ถ้าจะมาจี๊ดสมอง เชิญไปห่างๆก่อน เช้านี้ไม่มีอารมณ์"
"เข้าข้างตัวเองตลอด คิดว่าฉันสนใจส้มตำโป๊กๆทึ่กของเธอตายล่ะ"
"ก็ถ้าไม่สนใจส้มตำ แต่ยังป้วนเปี้ยนแถวนี้ แสดงว่าสนใจแม่ค้า"
"หนุ่มออฟฟิศอย่างฉันน่ะนะ จะมาสนใจแม่ค้าอาภัพความสูง"
"คุณสงกรานต์! ฉันไม่มีความสุขเลยนะที่ต้องมาคอย ลับฝีปากกับผู้ชายเพี้ยน ประหลาด ประสาท ชอบหาเรื่องอย่างคุณ"
"อ๋อ ชอบแบบนุ่มนวลชวนฝัน ขยัน ขายของเก่งแบบเซลส์แมน วันนี้ไปไหนซะล่ะ หรือว่ามัวไปปีนต้นมะละกอ"
มุกหอมมองเคืองๆ อีกด้านใบคูณวิ่งมา เนื้อตัวยังเลอะเทอะสาคูเปียก...พอมุกหอมรู้ว่าใบคูณถูกมะเดื่อแกล้ง จึงลุยไปถึงบ้านคำปลิวที่มะเดื่ออาศัยอยู่ด้วย สงกรานต์วิ่งตามมาเตือน อยากให้คุยกันดีๆ มาลุยถึงถิ่นแบบนี้ เดี๋ยวได้เละเป็นโจ๊ก
"ฉันไม่ยอมปล่อยให้เขารังแกเหมือนเราไม่มีมือมีเท้า กลัวมีเรื่องก็กลับออฟฟิศไปเลย"
มุกหอมคว้ามือใบคูณตรงไป คำปลิวกำลังทาเล็บ มะเดื่อเห็นมุกหอมมาก็สะกิดบอกลูกพี่ว่าโจทก์มา
"คำปลิว...มีอะไรอีกที่เธอจะสรรหามาแกล้งฉันกับใบคูณ" มุกหอมตะโกนอยู่หน้าบ้าน คำปลิวเดินออกมา มะเดื่อตามหลัง ชาวบ้านเริ่มพากันมามุง
"มาถึงก็ใส่ร้ายกันฉอดๆ ฉันไปทำอะไรเธอจ๊ะ แม่ส้มตำมุกหอม ฉันก็นั่งบิวตี้อยู่ที่บ้านตั้งกะเช้า ชาวบ้านแถวนี้เขาก็เห็น เป็นพยานได้"
"แต่ลูกน้องเธอเทขนมใบคูณทิ้ง"
"ก็แค่ขนมถูกๆ เทให้หมากินสักหม้อสองหม้อ จะเป็นอะไรไป" คำปลิวลอยหน้าเถียง
"อ๋อ...แสดงว่านังดำนังด่างแถวนี้มันอยากกินขนมเธอนะใบคูณ ฉันกะแล้วว่ามันคงไม่มีปัญญาขอกินดีๆ ก็เลยเอาขนมมาฝากพวกหมาลอบกัด" ขาดคำ มุกหอมล้วงขนมเค้ก ก้อนขนาดพอมือออกจากถุงโปะหน้าคำปลิวเต็มๆ คำปลิวกรี๊ดกระจาย สงกรานต์รีบเข้ามาต่อว่ามุกหอม จะแซบไปถึงไหน มุกหอมกลับย้อนว่า "นี่มันเรื่องของแม่ค้า หนุ่มออฟฟิศอย่ายุ่ง"
ว่าแล้วมุกหอมพุ่งเข้าใส่คำปลิวกับมะเดื่อที่จะเล่นงานใบคูณ ชาวบ้านเลยลุ้นกันใหญ่ แต่มีคนหนึ่งร้องบอกให้ตามตำรวจมาเร็ว จากนั้นไม่นาน สองฝ่ายถูกตำรวจรวบตัวไปโรงพัก แต่คำปลิวกับมะเดื่อมีเล้งมาประกันตัว ขณะที่มุกหอมกับใบคูณทำท่าจะถูกยัดเข้าห้องขัง
ส่วนชมพูพ่อค้าขนมจีนก็ถูกจับมาโรงพักเหมือนกัน เพราะหาบขนมจีนไปวางในที่ห้ามขาย พอชมพูเห็นสงกรานต์ มาประกันตัวมุกหอมกับใบคูณ จึงอ้อนวอนขอความเห็นใจช่วยประกันตัวเขาออกไปด้วย
สงกรานต์ทำฟอร์มว่าที่มาประกันตัวเพราะสงสารใบคูณที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กับความบ้าเลือดของมุกหอม ส่วนพีรพลที่เพิ่งมาถึงรีบตามมุกหอมกลับไปที่บ้านเช่า ชมพูยังติดสอยห้อยตามพวกมุกหอมมาขออยู่ร่วมชายคา มุกหอมคิดๆ เห็นว่าดีเหมือนกันที่จะมีตัวหารค่าเช่าห้องเพิ่มอีกคน จึงตอบตกลง แถมมีทำเลให้ขายขนมจีน แต่ไม่ได้ให้ฟรีๆ ต้องมีของแลกเปลี่ยนกันหน่อย

ooooooo

เช้ามืดวันใหม่ มุกหอม ใบคูณ และชมพู ออกไปจ่ายตลาด เจอลิลลี่แซวเรื่องเมื่อวานที่เกือบไปนอนตบยุงในคุก มุกหอมไม่ตอบโต้ แต่ให้ชมพูทำเหี้ยมข่มขู่ ชมพูเลยสนองซะมันสะใจ ทำตัวเป็นนักเลงปล้นฆ่าและข่มขืน เพิ่งถูกปล่อยจากคุกมาสดๆร้อนๆ ลิลลี่ได้ฟังก็กลัวจัด ถอยร่นไม่เป็นท่า
เมื่อสามคนร่วมแรงร่วมใจออกมาขายของ พีรพลกับสงกรานต์วิ่งหน้าตั้งมาก่อนลูกค้า พีรพลเป็นห่วงสองสาว กลัวชมพูที่เป็นชายหนุ่มจะทำรุ่มร่าม แต่ชมพูยืนยันว่า ถึงหน้าไม่หล่อ แต่เขาก็เป็นสุภาพบุรุษ
"ชมพูเขาเป็นองครักษ์พิทักษ์ร้านเรา" มุกหอมเสริมทันที
พีรพลเหล่ไปทางสงกรานต์ แล้วแขวะ "สงสัยจะมีคนกลืนน้ำลายตัวเองซะแล้ว เกลียดนักเกลียดหนา เกลียดเหลือ เกิน...ส้มตำ"
สงกรานต์ไม่พอใจ ตอบโต้พีรพลแบบนิ่มๆ ก่อนหันไปสั่งขนมจีนของชมพูมากิน พลางบรรยายสรรพคุณของขนมจีนว่า กินกับผักสดได้สารอาหารเต็มเปี่ยม ดีต่อสุขภาพ ถ่ายง่าย สบายอารมณ์
"งั้นก็กินเยอะๆนะคะ" มุกหอมโยนถาดผักมาตรงหน้าดังโครม "กินให้หมดทั้งถาดนี่แหละ อิ่มแล้วจะได้รีบไป"
"อย่าไปไล่เลยมุกหอม ใจจริงคงอยากชิมฝีมือมุกหอม แต่วางฟอร์มมากินขนมจีนชมพู"
สงกรานต์ขวางหูขวางตาพีรพลเหลือเกิน ชมพูเอาขนมจีนมาวาง และบอกว่าจานนี้ไม่คิดตังค์ ตอบแทนที่คุณสงกรานต์ช่วยประกันตัว
"ดีมากไอ้น้อง คนไทยมันต้องมีน้ำใจกันแบบนี้ ไม่เหมือนบางคน...สองคนเลยก็ได้ ใจจืดใจดำเหมือนกันเปี๊ยบ"
มุกหอมหมั่นไส้เดินมายกจานขนมจีนที่สงกรานต์กำลังจะตักกินออกไป สงกรานต์เหวอร้องขึ้นว่า ขนมจีนของผม...
"แต่นี่โต๊ะฉัน ร้านฉัน มาด่าฉันกับพีรพล ฉันก็เลยเปลี่ยนใจไม่ขาย"
"กลับไปกินแซนด์วิช พิซซ่าเถอะคู้ณ รสชาติมันคงแซบไฮโซกว่าอาหารร้านนี้"
"จำไว้เลย มุกหอม"
"ไม่จำค่ะ วันๆ ฉันก็มีเรื่องต้องคิดว่าจะทำยังไงถึงจะขายดิบขายดี เรื่องขี้ปะติ๋วของคุณมันก็เหมือนเห็บเหมือนหมัดคอยเกาะกวนรำคาญใจ แล้วจะจำทำไมให้เปลืองสมอง"
พีรพลเคาะโต๊ะรัว เป่าปากทำเสียงสะใจ สงกรานต์หน้ามุ่ยสะพายกระเป๋าเดินออกไป ใบคูณมองตามหน้าจ๋อย บ่นพี่มุกหอมรุนแรงเกินไปหรือเปล่า มุกหอมเลยประชดใส่ ให้ตามไปปลอบเขาซะ
ถึงตอนเที่ยง เพื่อนร่วมงานพากันออกไปกินส้มตำหน้าตึก สงกรานต์อยากไปแต่กลัวเสียฟอร์ม จึงนั่งทำงานต่อ อยากจะสั่งพิซซ่ามากินก็กลัวจะกินไม่หมด ทันใดตวงใจโผล่เข้ามา สองคนจึงพากันออกไปกินอาหารข้างนอก แต่แล้วสงกรานต์กลับนั่งคิดถึงแต่ส้มตำของมุกหอม จนเผลอพูดออกมา ทำให้ตวงใจเขม่นมองอย่างแปลกใจ
แล้วจู่ๆ วันรุ่งขึ้น ตวงใจก็จัดแจงซื้อข้าวของมาทำส้มตำแล้วเอาไปส่งให้สงกรานต์และเพื่อนๆถึงออฟฟิศ วีณากระเหี้ยนกระหือรือลองชิมก่อนใคร คิดว่าต้องอร่อยแน่เพราะส้มตำไฮโซหน้าตาดีดี๊ แต่พอเข้าปากคำแรกก็แทบจะคายทิ้ง ติงว่านี่มันส้มตำหรือว่ามะละกอล้างน้ำ
หลังจากนั้น วีณากับเพื่อนๆออกไปโซ้ยส้มตำของมุกหอมตามเดิม พอมุกหอมได้ยินวีณาเล่าว่าตวงใจทำส้มตำมาให้สงกรานต์กิน มุกหอมหน้าคว่ำ สะบัดพรืดกลับไปที่ครก วีณาเลยเม้าท์กับเพื่อนว่า หน้าตามุกหอมเหมือนคนอกหัก

ตกตอนบ่าย ทวยเทพเอางานที่ได้รับมอบหมายมาเสนอแนนนี่ ปรากฏว่ามันทั้งเชยทั้งเก่า แนนนี่ติแล้วติอีก ก่อนจะโยนงานโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังชิ้นนี้ไปให้สงกรานต์ทำต่อ
พีรพลยังแวะเวียนมาช่วยมุกหอมขายส้มตำ พอใกล้ค่ำก็ช่วยขนของกลับบ้านเช่า ระหว่างนี้เองพีรพลได้ยินมุกหอมคุยกับใบคูณกับชมพูว่า ตรงหน้าตึกที่ขายส้มตำจะปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้าติดแอร์ พีรพลจึงเกิดไอเดีย จะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส หาที่ขายใหม่ในห้าง ให้พวกเล้งกับคำปลิวตามขึ้นไปไม่ได้ หรือจะเปิดร้านใหญ่ๆ ทำแฟรนไชส์ประเดิมสักห้าสาขา
มุกหอมฟังแล้วกลับหาว่าพีรพลเพ้อเจ้อ พีรพลเถียงว่าไม่เพ้อ เขาจะเป็นนายทุนให้เอง
"เซลส์ขายรถจะมาออกทุนให้แม่ค้าส้มตำ?"
"ก็ผมอยากค้าขายไง ถ้ากล้าเสี่ยงลงทุน มุกหอมจะมีเงินเยอะๆไว้รักษายาย"
"แล้วถ้าขาดทุน เจ๊งล่ะ"
"มะเดื่ออาจจะหลอกเราก็ได้ อาจจะเป็นแผนของคำปลิว รอดูอีกสักพักดีกว่านะพี่" ใบคูณยังไม่ไว้ใจมะเดื่อที่มาป่าวประกาศ ชมพูจึงประชดทันที
"รอให้เขามาไล่ วิ่งหาร้านไม่ทันชาวบ้าน ต้องไปแย่งที่กับคนอื่น วิ่งหนีเทศกิจตับแลบ"
"ไม่เอาน่าชมพู อย่ายั่วใบคูณสิ" มุกหอมปราม
"ก็ซื่อเหลือเกิน ซื่อจนน่ารำคาญ ต้องรอให้อดตายไส้ขาดก่อน ถึงจะคิดออก"
ใบคูณมองค้อนชมพู เดินออกไปอย่างโมโห พีรพลยังปรารถนาดี ถ้ามุกหอมสนใจเรื่องลงทุน เขาพอจะช่วยได้
"ขอบใจนะ เก็บเงินไว้เถอะ แค่ที่พีรพลมาช่วยทุกวันนี้ ก็มีค่ามากกว่าเงินทองหลายเท่า"
มุกหอมพูดจากใจจริง พีรพลถึงกับยิ้มหน้าบาน พอ
กลับไปพบพ่อจึงเลียบเคียงเรื่องเงินลงทุน พิชญะเตือนลูกที่ชักจะเป็นเอามาก ให้เลิกคิดดีกว่า ต่อให้มุกหอมเป็นรักแท้ที่ลูกตามหา พ่อก็ไม่มีวันยอมรับลูกสะใภ้เป็นแม่ค้า
"มุกหอมไม่ใช่แม่ค้าธรรมดานะพ่อ เขาขยัน ซื่อสัตย์ รักยาย เป็นคนดี"
"แต่ลูกสะใภ้ฉันต้องสวย รวย เก่ง"
"มุกหอมก็เริ่มจากสวย ขายของเก่ง อีกหน่อยก็รวย"
"การศึกษาต้องสูงมาก"

"อ๋อ แน่นอน สูงอยู่แล้ว" พีรพลยักคิ้วมั่นใจ ยิ้มให้พ่ออย่างไม่ยอมแพ้
มุกหอมกำลังเรียนในระดับปริญญาตรี เธอใช้เวลาเรียนรอบค่ำหลังจากเลิกขายส้มตำ...ค่ำนี้เอง หลังจากเรียนเสร็จ มุกหอมเอาตำรามานั่งอ่านหน้าตึกออฟฟิศของแนนนี่ สงกรานต์ ออกมาเจอ เพิ่งรู้ว่ามุกหอมเรียนด้วยค้าขายด้วย ก็รู้สึกทึ่งไม่น้อย
สองคนเริ่มคุยกันดีขึ้น แต่บางครั้งก็ยังมีกวนๆใส่กันบ้าง สงกรานต์แนะนำที่แห่งหนึ่งซึ่งสงบเงียบให้มุกหอมเอาไว้อ่านหนังสือ ปรากฏว่ามุกหอมชอบมาก และคุยเล่นกับเขาอย่างสนิทใจมากขึ้น
สงกรานต์กลับเข้าบ้านค่อนข้างดึก เจอแม่หลับพับคาแก้วไวน์อยู่ที่โซฟา จึงประคองพาเข้าห้องนอน ก่อนจะออกมาคุยกับพ่อ ถึงรู้ว่าแม่กลุ้มใจเพราะหุ้นตก หาเงินหมุนไม่ทัน หนี้ทบต้นทบดอก จนแม่ต้องไปยืมเงินหยาดพิรุณมาอีก
"คราวนี้มันจำเป็นจริงๆ เจ้าหนี้เขาทวงมา พ่อก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปโป๊ะ"
สงกรานต์หน้าเครียด ราชาเดินมาแตะไหล่ลูก
"พ่อรู้ว่าแกรู้สึกยังไง แต่ถ้าพ่อกับแม่มีทางออกที่ดีกว่านี้ พ่อก็คงไม่ต้องขอร้องให้แกทำดีกับหนูตวงใจเขาบ้าง"
"ผมไม่ลำบากใจที่จะทำดีกับตวง แต่ถ้าจะให้ผมรักตวง ผมคงฝืนตัวเองไม่ไหว"
"แกรักใครอยู่ แม่ค้าส้มตำคนนั้นหรือเปล่า"
สงกรานต์ไม่ตอบ ราชามองแววตาลูกแล้วหวั่นใจ
"แกเรียนเก่ง ฉลาด หวังว่าคงจะเลือกเป็น ว่าผู้หญิงแบบไหนที่เหมาะจะแต่งงานด้วย" ราชาทิ้งท้ายก่อนจะผละไป สงกรานต์มองตาม แล้วหันกลับมาพึมพำหน้าเศร้า
"ผมรู้ว่าไม่ควรรักคนอื่น...ใจผมมันก็กำลังห้ามตัวเอง อยู่"

ooooooo

เมื่อแว่วข่าวว่าอาจจะไม่มีที่ทำมาหากิน เช้านี้มุกหอมกับใบคูณและชมพูไปเดินตลาดของหยาดพิรุณ ชมพูเห็นว่าตลาดนี้สะอาด กว้างขวาง และคนมาเดินเยอะ จึงเสนอให้มุกหอมเลือกที่นี่ แต่มุกหอมสวนทันทีว่า เธอไม่ชอบตลาดนี้
"แม่คุณตวงใจเป็นเจ้าของตลาด" ใบคูณรีบกระซิบบอกชมพู มุกหอมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตวงใจ มันเป็นเรื่องของตนกับหยาดพิรุณ
ระหว่างนี้เอง กลุ่มของเล้งเดินเฉียดมา คำปลิวทำปากยื่น "จะมาหาแผงว่างล่ะสิ ที่นี่ไม่มีที่ให้แกขายหรอก โน่น... อยากขายไปขายหน้าส้วม"
"ฉันจะได้ขาย หรือไม่ได้ขาย ไม่ใช่พวกเธอที่จะมาชี้นิ้วสั่ง" มุกหอมโต้
"มันคิดจะเกาะบารมีคุณนายหยาดพิรุณ" ลิลลี่โพล่งขึ้น
"คุณนายก็ไม่เกี่ยว เพราะถ้าพวกฉันมีเงินจ่ายค่าแผง ฉันก็มีสิทธิ์ขายของที่นี่"
"ก็ลองมาสิ" คำปลิวทำก๋า ใบคูณไม่อยากมีเรื่อง ดึงมือมุกหอมให้ไปหาตลาดอื่น ชมพูจำต้องเดินตาม ทั้งที่ขัดใจจะแย่...

ไม่มีความคิดเห็น: