วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ใจร้าว ตอนที่3

ตอนที่ 3

ในช่วงเวลาที่กรวิกกำลังเข้าฉาก เขานั่งเก้าอี้ในร้าน
บนโต๊ะมีช่อดอกไม้วางอยู่ เขาสูดลมหายใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...
ซ้อมในบทเป็นณัฐที่กำลังพูดกับคนรัก โดยการบอกรินว่า
เขาเพิ่งได้เงินเดือนเดือนแรกมา เลยอยากพารินมากินข้าว
ที่นี่บรรยากาศดี แล้วก็นี่... เขาหมายถึงช่อดอกไม้ที่จะให้...
ผู้กำกับอยู่หน้ามอนิเตอร์ ทีมงานอยู่หลังกล้อง
ขณะนั้นช่อลดาเดินลัดเลาะมายืนมองกรวิกอยู่อีกมุมหนึ่ง ไกลออกไป...
กรวิกหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาเพื่อจะมอบให้ริน...มองซ้ายขวากลัวคนมอง
"นี่จ้ะดอกไม้ ยินดีกับรินด้วยนะจ๊ะ ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้" กรวิกพูด และเริ่มสะดุด
"อีกสี่ปีเท่านั้นนะริน ณัฐสัญญา..."
"คัต..." พี่ปุ๋ยผู้กำกับการแสดง วิ่งมาหากรวิก
"ขออีกเทกนะวิก" แล้วอธิบายว่าหัวซีนไม่ค่อยอารมณ์
สดใสอย่างที่เคยทำ นี่เป็นเทกสุดท้ายแล้วกัน...
กรวิกนิ่งคิด ฉากละครนี้มันละม้ายกับความหลังของเขากับช่อลดาในอดีต
"พี่วิกไปเข้าฉากละคร แล้วได้เงินมา
ละครเรื่องแรกที่มีบทพูดด้วยนะ ก็เลยทำกับข้าวเลี้ยงน้องเอยซะเลย
เป็นยังไง หน้าตาดูดีไหมจ๊ะ"
"นอกจากดูดีแล้ว เอยว่ามันต้องอร่อยด้วยค่ะ"
"นี่จ้ะ" กรวิกวางช่อดอกไม้ แล้วนึกได้
"อ้าว...ดูสิ กะจะเซอร์ไพรส์น้องเอยนะเนี่ย ดันลืมวางไว้ตรงนี้ได้"
เอยหัวเราะ เขายืนช่อดอกไม้ให้
"ยินดีกับน้องเอยด้วยนะจ๊ะที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้"
กรวิกบอกว่าทุกดอกเขาตัดเอง แต่อาจเข้าช่อไม่สวย
ช่อลดารีบดมแล้วบอกว่า น่ารักและหอมที่สุดในโลก...
กรวิกจ้องมอง แล้วตัดสินใจพูด
"อีก 4 ปีเท่านั้นนะน้องเอย พี่วิกสัญญาว่าพี่วิกจะสร้างฐานะ
จะตั้งตัวให้ได้ น้องเอยเรียนจบเมื่อไหร่ พี่วิกจะไปขอน้องเอย
เราจะแต่งงานกัน แล้วมีเจ้าตัวน้อยให้เร็วที่สุด
เอากี่คนดีจ๊ะ"
นี่คือภาพแห่งความหลัง...เมื่อกรวิกตื่นมาสู่ฉากปัจจุบัน
เขาพยายามประคองอารมณ์ให้ดีที่สุด
เพราะอดีตมันละม้ายคล้าย เรื่องของความรักในปัจจุบัน...
เขาจึงเริ่มพูดต่อ
"ณัฐจะไปขอริน เราจะแต่งงานกัน แล้วมีเจ้าตัวน้อยให้เร็วที่สุด
เอากี่คนดีจ๊ะ ณัฐว่า..."
ถึงตรงนี้ กรวิกก็ทนเค้นอารมณ์ไม่ไหว
เขาจึงเบรกตัวเองอย่างหงุดหงิด หันไปบอกพี่ปุ๋ย
"ถ่ายฉากอื่นที่ไม่มีผมไปก่อนก็แล้วกัน ผมขอพักแป๊บนึง
เดี๋ยวมาถ่ายใหม่" กรวิกเดินไปทันที พี่ปุ๋ยกับใหญ่บ่นกันว่า
วันนี้กรวิกเป็นอะไร ฉากง่ายๆต้องใช้หลายเทก มันเกิดอะไรขึ้น
มีช่อลดาคนเดียวที่รู้สาเหตุอารมณ์ของกรวิกครั้งนี้...
กรวิกเดินหนีมาหามุมสงบ เขาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้พับ บ่นตัวเองว่า
"เป็นบ้าอะไรวะเรา" กรวิกหลับตาลงให้คลายสิ่งที่กดดันเขา
ครู่ต่อมาช่อลดาถือถ้วยกาแฟมาหาเขา กรวิกเห็นช่อลดาเท่านั้น
เขาเรียกเป้มาหา สั่งให้ชงกาแฟให้เขา
บอกด้วยว่าไม่มีใครชงถูกใจเขาเท่าเป้ เป้รับคำรีบไป กรวิกหันไปทางช่อลดา
"จะไปไหนก็ไป ฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเวลาทำงาน"
เขาหันไปหยิบบทมาอ่าน ช่อลดาจ๋อย ประคองกาแฟออกไป..
กรวิกจึงวางบทหลับตาลง เพื่อให้ความกดดันคลายลงบ้าง

คุณปราชญ์กำลังพูดถึงการสร้างโรงพยาบาลใหม่ขึ้นอีกที่
โดยมีหมอลักษณ์เดินคุยมาด้วยกัน ฟังเรื่องที่ลูกค้าจากสหรัฐฯ
และยุโรปมาใช้บริการมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง
"เมดิคอลสปา" ของเมือง ไทยกำลังติดอันดับต้นๆของโลก...
ปราชญ์ชวนลักษณ์เข้าไปดูในเมดิคอลสปา
เห็นช่างกล้องช่างไฟกำลังเซตกล้องเพื่อถ่ายโบรชัวร์เผย
แพร่ไปเมืองนอก พยาบาลเข้ามาส่งเอกสารให้ปราชญ์
ซึ่งขอพากันไปหาที่ดูก่อนจะเข้าประชุม ให้หมอลักษณ์รอสักครู่...
หมอหันไปมองเห็นเมลานีกำลังถ่ายแบบในชุดขาว
เดินมาลงอ่างบิดตัวน้อยๆ มองกล้อง
แล้วลดเสื้อลงแค่หน้าอกเพื่อโชว์ช่วงไหล่....
เมลานีแอ่นน้อยๆ หันมาเห็นลักษณ์โผล่มาพอดี
เขายิ้มให้คล้ายทักว่า เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะ...
ส่งผลให้เมลานีผู้จองหองถึงกับขยับผ้าขึ้น วีนแตกดังโพละ
"เมนี่บอกแล้วใช่ไหมคะว่า งานนี้เมนี่ขอเป็นส่วนตัว"
ว่าแล้วสะบัดตัวขึ้นจากอ่าง กระแทกนั่งลงเก้าอี้แทบพัง...
พอดีปราชญ์เดินกลับมาหาลักษณ์ ชวนไปห้องผ่าตัดกัน
เจ้าหน้าที่มาหาเมลานี ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือ
เมลานีบอกทันทีว่า มีคนที่ไม่ใช่หน้าที่มาในห้องนี้ด้วย
พอถูกถามว่าใคร เมลานีลุกขึ้นมองหาไม่เห็นลักษณ์ ภัทรมาช่วยเสริม
ไหนมันอยู่ไหนจะด่าให้ขี้หูหลุดเชียว พอไม่เห็นคนคนนั้น
เมลานีรีบทำไม่รู้ไม่ชี้...ตาขวางเหมือนจะห้ามใครถามอีก

ooooooo

เมื่อกรวิกกลับมาเข้าฉากอีกครั้ง ช่อลดาแอบมาดูฉากนี้อีก
จึงเหมือนถูกดูดเข้ามาดูฉากเลิฟซีนอันเก่านี้ ฉากนี้กำลังจะจบสวยงาม...
กรวิกกลับมองไปเห็นช่อลดาอีกตามเคย...
อารมณ์ของเขากลับหลุดอีกหลายปล้อง เสียงเริ่มขาดเป็นห้วง
"เราจะ...แต่งงานกัน แล้วมีเจ้าตัวน้อย...ให้เร็วที่สุด...
เอากี่คนดี...จ๊ะ สองคน" ในที่สุดเขาหยุดแล้วตะโกนขึ้นอย่างสุดจะทน
"ใครก็ได้...ช่วยพาผู้หญิงคนนั้นออกไปจากสายตาผมที"
พี่ปุ๋ยถามว่าผู้หญิงคนไหน...ส่ายตามองหา...
ขณะที่กรวิกมองช่อลดาที่หลังกล้อง...
ทุกคนหันไปมองที่ช่อลดาเป็นตาเดียว...
ช่อลดารู้สึกตัวรีบหลบหนีไปทันที...
หลังจากการถ่ายเจาะไปจนหมดแล้ว
ส่วนพี่ดวงแก้วก็เร่งว่าทางช่องกำหนดให้ออนแอร์แล้ว
จึงมีการเสนอให้เจาะบทพูดกรวิกก่อน
โดยให้ใครแต่งคล้ายเมลานี ถ่ายมาจากด้านหลัง
หลายคนเห็นด้วยจะได้ไม่เสียเวลา แต่เสนอใครก็ไม่ถูกใจ..
.เมื่อเห็นช่อลดาเดินผ่านไปทางสวัสดิการ พี่ปุ๋ยจึงได้คิดว่าจะเอายังไงดี?
ทางกรวิกที่กำลังถามหาช่อลดา จึงถูกตามตัวไปเข้าฉาก
พอไปถึงพี่ปุ๋ยชวนกรวิกทำงานทันที...พี่ปุ๋ยแนะกรวิกในฉากต่อไป...
ให้วิกหงุดหงิดที่รอเมลานีนาน
จนเดินวนไปมาแล้วได้ยินเสียงช่อลดาเรียกมา "ณัฐ"
แล้วให้วิกหันมา...กรวิกหันมา ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นช่อลดา
ในชุดเสื้อผ้าและทำผมคล้ายเมลานี พี่ปุ๋ยร้องขึ้นอย่างชอบใจ
"ใช่เลย อารมณ์ตะลึงอึ้งย้งแบบนี้ที่พี่ต้องการ
จากนั้นวิกเดินมากุมมือเมลานี มองตากันซึ้งๆ
แช่ทิ้งไว้นานๆ ให้ พี่หนุ่มตัดสลับหน้าได้ แล้ววิกเริ่มไดล็อก"
กรวิกฟังผู้กำกับสั่ง พยายามรวบรวมสติ ก่อนจะเริ่มเจรจา
"ณัฐมาฟังคำตอบเรื่องระหว่างเรา ตกลง...ริน..."
กรวิกพูดจบ ช่อลดายังนิ่ง พี่ปุ๋ยจึงสั่ง
"เอ้า...เอย...ต่อบทให้พี่หน่อย" ช่อลดายกบทในมือขึ้นมาอ่านตะกุกตะกัก
"ริน...ริน...ขอโทษนะณัฐ"
"หมายความว่า รินเลือกเขา" กรวิกจ้องมองช่อลดา
ซึ่งกำลังอินกับเรื่องที่เหมือนของกรวิกกับเธอ
"ริน รักณัฐนะ แต่..."
"แต่รินเลือกเขา เอาละ ณัฐเข้าใจแล้วณัฐยินดีด้วยนะ
อะไรที่เป็นความสุขของริน ณัฐยินดีด้วยทั้งนั้น"
ทั้งสองมองตากันเหมือนไม่ได้ถ่ายละคร
ต่างสะกดอารมณ์ไม่ให้น้ำตาเอ่อออกมา
แต่ช่อลดาคนเดียวที่ทำน้ำตารื้นออกมาจนได้ พี่ปุ๋ยร้องโอเค
"ดีมากแม้วรุ่ง ดูหน้าผมให้วิกหน่อย เสร็จแล้วจะได้ถ่ายเลย"
หันมาแซวช่อลดา
"แหม แค่ถ่ายผ่านหลัง ไม่ต้องอินจนร้องไห้ก็ได้...นี่
ถ้าสนใจอยากเป็นนักแสดงบอกพี่นะ สวยไม่ปรึกษาใคร
แถมพรสวรรค์จ้าแบบนี้ พี่ให้เป็นนางเอกเลย"
ช่อลดาขอบคุณผู้กำกับ หันมามองกรวิก
เขารีบหันหนีไปคุยคนอื่นเหมือนไม่สนใจ
หลังจากพักไปครู่ใหญ่ ขณะที่กำลังเริ่มถ่ายใหม่ หารู้
ไม่ว่าภัทรกำลังพาเมลานีวิ่งมาให้ทันเวลา

แต่เมลานียังเดินตามสบาย ดาราใหญ่ซะอย่าง คนอื่นต้องรอ...
เมื่อเดินกล้อง กรวิกเดินตามบล็อก ช่อลดาตื่นเต้น แม้เป็น
แค่ตัวสำรองแค่ถ่ายด้านหลังก็ตื่นเต้นที่จะได้ไปยืนต่อหน้ากรวิก..
.ขณะนั้นเมลานีเดินเข้ามามองทีมงานกำลังเรียกช่อลดาเข้ามายืนต่อหน้ากรวิก
"ณัฐ..." กล้องผ่านไหล่ช่อลดาไปยังกรวิก เขาหันมาหาเธอ
"ณัฐมาฟังคำตอบ เรื่องระหว่างเรา ตกลง...ริน"
ก่อนที่ช่อลดากำลังจะตอบ...เมลานีเห็นแล้วสติแทบแตก ตะโกนถามทันที
"นี่มันอะไรกันคะ" ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว กรวิกยิ้มหยัน พูดให้ทุกคนได้ยิน
"อ้าว...ตัวจริงเขามาแล้ว ตัวปลอมถอยไปไกลๆเลย" ทุกสายตาจ้องช่อลดา
จนเธอต้องก้มหน้าน้อยใจ...แล้วค่อยๆเร้นกายออกไปจากที่นั่น...

ooooooo

เมื่อกลับเข้ามาในห้องแต่งตัว เมลานีกระแทกก้นลงเก้าอี้
เริ่มอาละวาดทันที เรียกหาตัวคนเอาสแตนด์อิน มาถ่ายแทนเธอ
แป้นออกรับว่าเธอเอง จึงถูกจิกว่ามันกงการอะไรของเธอ
ตาลรีบออกรับว่าพี่ดวงบอกเร่งละครจะออนแอร์แล้ว...
พี่ปุ๋ยเลยขอว่า มีอะไรจะเจาะถ่ายได้ก็ให้ทำเลย
ภัทรจึงต่อให้ว่า ไม่ได้จ้างมา เพราะยายนั่นเป็นผู้จัดการกรวิก
คงเดินผ่านไปมา พี่ปุ๋ยจึงจับมาใช้งานเลยเป้ถือชุดที่เมลานีใส่
และเอาให้ช่อลดาใส่ถ่ายด้านไหล่
และช่อลดาเปลี่ยนออกแล้วตามหลังออกมา เมลานีจึงเริ่มไม่พอใจ ถามทันที
"มีดับเบิลชุดไหม เมนี่ไม่ใส่เสื้อที่คนอื่นใส่แล้วนะ"
"ไม่มีค่ะ แต่ชุดนี้คุณเอยใส่แค่ไม่ถึงห้านาทีเลย
ไม่เปื้อนไม่สกปรกหรอกค่ะ น้องเมนี่" เป้บอก
"เมนี่ไม่ใช้ของซ้ำซ้อนกับใคร เปลี่ยนชุดใหม่ให้เมนี่ก็แล้วกัน"
"แต่มันถ่ายหน้าหลัง ต่อเนื่องไว้แล้วนะฮะ" แป้นแย้ง
"แล้วยังไง...พี่แป้นอยากเป็นคนต้นคิด ก็ไปแก้ไขปัญหาที่ห้องตัดเอาเองสิ"
ทีมงานต่างมองเมลานีอย่างเอือมระอา ช่อลดาเดินหนี
ไม่ให้มีปัญหาตามมาอีก...แต่คนที่ตามจิกช่อลดาคือภัทร
ตามด่าว่าช่อลดาก่อปัญหาตั้งแต่เช้ามาเลย
ทำให้ภัทรโดนด่า ทำให้ เมนี่ติดที่ลิฟต์จนมาถึงนี่ช้า
แล้วยังมีหน้าไปแสดงแทนเมนี่อีก
"ตกลงหล่อนอยากเป็นผู้จัดการดาราหรืออยากเป็นดาราซะเอง
อยากเข้าฉากมองตาวิกปิ๊งๆ เครซี่เขาอยู่แล้วนี่
จะบอกให้เอาบุญ วิกเขามีหวานใจเขาอยู่แล้ว
หล่อนจะทุ่มเทแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจหล่อนหรอกน่า"
"เอยไม่เคยคิด แค่อยากช่วยงานเขาเท่านั้น"
"แล้วทำไมไปแสดงสแตนด์อินให้วิกเขาล่ะ น้องเมนี่น่ะ
เบอร์หนึ่งเมืองไทยนะ ยังไงหล่อนไม่มีวันทาบเขาได้"
ภัทร ทั้งจิกทั้งตี ถ้าเป็นไก่ก็เลือดอาบหงอนไปแล้ว
ช่อลดาซ่อนความเจ็บปวดไว้อย่างเต็มที่

ooooooo

เป้ถือกาแฟ อีกมือถือเสื้อผ้า เดินไปยังรถนอนของกรวิก
ช่อลดาถือบทตามไป เป้ทักทายกรวิกให้ดื่มกาแฟก่อน
แล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้า กรวิกแปลกใจว่าเปลี่ยน ทำไม
ยังฉากเดิมอยู่เลย เป้แจงสี่เบี้ยว่า เมนี่ไม่ยอมใส่ชุดที่คุณเอยใส่เมื่อกี้
พี่ปุ๋ยเลยขอเปลี่ยน ได้โปรดเถอะ อย่าให้ตลาดแตกยิ่งกว่านี้เลย...
กรวิกดื่มกาแฟ แล้วชมว่าดี บอกได้ดื่มกาแฟดีๆแบบนี้ ไม่สติแตกแน่
ว่าแล้วยกขึ้นดื่มอีก
"แก้วนี้ไม่ใช่ฝีมือเป้หรอกค่ะ ฝีมือคุณเอยเขาน่ะ"
ฟังเป้แล้วกรวิกตีหน้าไม่ถูก ช่อลดาส่งบทให้ พร้อมบอก
บทที่ 21 พี่ปุ๋ยจะถ่ายต่อเลย...กรวิกตีหน้าขรึม
หันไปบอกเป้ว่าจะให้ใส่ ยังไงก็ว่ามาเลย
ช่อลดารีบเลี่ยงไปอีกทาง ช่อลดาเดินมาทางหน้ารถนอน
ชนม์มาบอกว่ามีคนมาหา...หันไปหมอลักษณ์เดินมาหาช่อลดาทันที...
ถามว่าเหนื่อยไหม เธอรีบบอกไม่เหนื่อย ลักษณ์กลับบอกว่า ทำไมหน้าซีด...
กรวิกแต่งตัวใหม่เดินออกมาจากรถนอน เห็นทั้งสอง
สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ยิ่งเห็นลักษณ์จับหน้าช่อลดาซับเหงื่อให้
พอเป้บอกว่าสวีตจริง ช่อลดาจึงผละออกห่าง เป้มองอย่างสนใจ
เดินมาหาช่อลดากับลักษณ์ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชม
"แฟนคุณเอยเหรอคะ...ต๊าย หล่อเลิศประเสริฐยิ่งจริงๆนะคะเนี่ย
หล่อน่ากินกว่าพระเอกบางคนซะอีก นี่ถ้าพี่ปุ๋ยเห็นละเสร็จแน่
สเปกแกเลยนะ" เป้ทำหน้าตาลอย "หล่อ สูง ไหล่กว้าง
วงแขนกำยำ พร้อมจะปกป้องผู้หญิงบอบบางทั้งโลก"
ลักษณ์หันมามองช่อลดา ยิ้มในท่าทางเป้ กรวิกทนไม่ไหว
เตือนว่าจะจ้ออีกนานไหม คนเขารอกันนะ
เป้จึงสะดิ้งรีบวิ่งนำหน้าทันที กรวิกหันไปบอกช่อลดาว่า
เธอก็ต้องรีบไปทำงานด้วย ช่อลดาจึงผละจากลักษณ์
เขาทำท่าจะตาม กรวิกหันไปสั่งลูกน้องทั้งสองคน
"เฝ้าไว้...อย่าให้คนแปลกหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปวุ่นวายในกองถ่ายเด็ดขาด"
กรวิกมองลักษณ์ด้วยหางตาแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามเป้ไป
ลักษณ์ต้องบอกช่อลดาว่า รีบเข้าไปเถอะ เขาจะรอข้างนอกนี้
แล้วหมอลักษณ์ก็ข่มใจไม่ให้ไหลตามกรวิกไป...
เมื่อเริ่มการถ่ายทำ ตอนที่ใช้ช่อลดาเป็นสแตนด์-อิน
แต่เมลานีไม่ยอมใส่เสื้อที่ช่อลดาใส่ จึงเปลี่ยนใหม่...
เมื่อการถ่ายฉากเก่าเริ่มขึ้น...
การโต้ตอบระหว่างกรวิกกับเมลานี ผู้กำกับปุ๋ยสั่งคัตทันที วิ่งไปหากรวิก
"วิก...พี่ขออีกเทกนะ อารมณ์สุดท้ายมันต้องไม่ออกมา
เป็นกราดเกรี้ยวอย่างนั้น ต้องแบบหน้ายิ้ม แต่ใจร้องไห้
เหมือนอย่างตอนซ้อมกับเอย แบบนั้นน่ะ"
"เทกใหม่ก็ได้" กรวิกออกอาการหงุดหงิด "แต่ท้ายฉาก ผมไม่เดินออกนะ"
เมลานีอารมณ์บ่จอยอยู่แล้ว พอฟังวิกพูด ยิ่งอารมณ์ บูดหนักขึ้น
"อ้าว คุณไม่เดินออก ฉันจะร้องไห้โฮได้ไง คุณก็ได้ยินหมดน่ะสิ"
"คุณก็ร้องไห้เงียบๆสิ เสียใจก็ร้องไห้ลึกๆได้นี่ ไม่ต้องปล่อยโฮก็ได้"
"ในบทเขาเขียนไว้...คุณก็อ่านภาษาไทยออกนี่
หรือคุณไม่เคารพคนเขียนบท"
"ผมไม่เดินออกนะพี่ปุ๋ย กล้องควรจบที่ผม"
แล้วทั้งสองก็เปิดฉากเถียงกันเอาแพ้เอาชนะ กรวิกบอกผู้กำกับว่า
แค่แก้ท้ายบทไม่เสียหายอะไร เมลานีตอบโต้ พี่ปุ๋ยรีบขอให้ใจเย็นๆกัน..
.แต่กลับจบลงที่กรวิกยืนกรานไม่เดินออก
กล้องจบที่เขาเมลานีก็จะร้องไห้โฮ กล้องจบที่เธอ...
ผู้กำกับเริ่มสติยุ่ยบ้างแล้ว ให้ภัทรโทร.ไปถามพี่ดวง
ถามว่าจะถ่ายหรือจะหยุด แก้บทก่อน หรือจะเอายังไงก็ว่ามา...
ทั้งผู้กำกับและดาราใหญ่ต่างเดินไปคนละทาง
ภัทรต่อมือถือถึงดวงแก้ว ช่อลดาแอบมองอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?

ooooooo

เมลานีเดินก้นบิดท่าทางป่องๆมาที่ลานจอดรถ
ภัทรหิ้วของตามหลัง ฟังเมลานีบ่นว่า ซวยแต่เช้า
เอาชีวิตแทบไม่รอด กลับมาที่นี่ยังไม่ได้ถ่ายอีก
ภัทรรีบสอพลอนางเอกว่า ภัทรก็ซวยพอกัน...
เมลานีเห็นรถคันหนึ่งจอดขวาง ภัทรไปเข็นไม่เขยื้อน
แสดงว่ามีเบรกมือติดไว้ เมลานีจึงระเบิดเสียงด่าลั่น
จอดรถไร้มารยาทไร้การศึกษา พอดีลักษณ์เดินมาได้ยิน
บอกทันทีว่า การศึกษาเขาพอมี
"แค่ ป.4 น่ะสิ...เอ๊ะ นายสะกดรอยตามฉันมาเหรอ มาทำอะไรที่นี่"
ลักษณ์โต้ทันทีว่า เขามีธุระของเขา แล้วย้อน
ถามเธอบ้างว่ามาที่นี่ทำไม เมลานีตอกกลับทันที
"ฉันมาทำงาน งานมีเกียรติ มีคุณค่า ไม่ใช่แค่คนขับรถส่งเจ้านายอย่างนาย"
"ทำไมครับ" เขารู้ว่าเมลานีเข้าใจผิด
"อาชีพคนขับรถ มันไร้เกียรติด้อยค่าตรงไหนครับ"
"ด้อยค่าตรงที่นายไม่เคารพกติกาของสังคมไง
จอดขวางคนอื่น ทำไมใส่เบรกมือ มีสมองไหม"
"จะให้เลื่อนรถก็บอกกันดีๆ ไม่ใช่มาจิกด่าแบบนี้
นอกจากไม่น่ารักแล้ว ยังดูก้าวร้าวอีกกระทง"
ภัทรฟังแล้วสะใจ อยากตบมือให้ แต่ไม่กล้า...
แต่ ลักษณ์ก็ยอมถอยรถเปิดทางให้เมลานี

ส่วนกรวิก กลับมาที่รถนอน ออกอาการปึงปังสติใกล้แตก
ช่อลดาตามไปถามกรวิกว่าหงุดหงิดใคร มีเรื่องอะไร
กรวิกสะอึก...นิ่งคิดก็คิดไม่ออกว่าเขาเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาเพราะอะไร
เขาตอบไม่ได้ แล้วพาลจับของโยนปึงปัง ช่อลดาได้แต่สงสัย
แล้วเก็บบทเดินออกมาจากรถนอน โดยมีกรวิกหิ้วกระเป๋าตามออกมา
พอเห็นลักษณ์มาดักรอช่อลดา กำลังจะชวนเธอไปขึ้นรถ กรวิกดักคอทันที
"เธอยังไปไหนไม่ได้ ช่อลดา"
"ทำไมล่ะครับ กองถ่ายยกกองแล้ว
ถือว่าเลิกงานแล้วไม่ใช่หรือครับ หรือว่ามีงานที่ไหนต่อ
แต่คุณไมค์กับเพื่อนบอกว่าไม่มีนี่ครับ"
กรวิกหันไปตาขวางใส่ลูกน้องทั้งสองคน ลักษณ์จึงสรุป
"ฉะนั้นเวลานี้เป็นเวลาส่วนตัว เอยจะไปไหนกับใครก็ได้
หรือว่าจะมีรายการขนของไปที่รถ ได้เลยครับ ส่งกระเป๋ามา...
เอย เดี๋ยวพี่หิ้วไปส่งคุณกรวิกเอง...เชิญครับ"
กรวิกจำต้องเดินไป ลูกน้องทั้งสองตาม
ช่อลดาถอนใจโล่งที่งานวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว
ส่วนภัทรไปรายงานดวงแก้วถึงที่ทำงาน
เรื่องเมลานีติดอยู่ในลิฟต์
เรื่องทะเลาะกันของยอดดาราทั้งสองจนต้องยกกองถ่ายเลิกรา
ที่กรวิกอารมณ์เสียเพราะมีแม่ช่อลดามายุ่งด้วย
ซึ่งเรื่องนี้เมลานีโทร.มาบอกคุณดวงแก้วแล้ว
ซึ่งดวงแก้วสนใจว่าความสัมพันธ์ของกรวิกกับช่อลดาไปถึงไหน
เรื่องนี้ให้ภัทรจับตามองไว้แล้ว
"อ๋อ วันนี้แกล้งเป่าหูแม่นี่ว่า วิกกับเมนี่เป็นคู่รักกัน
ก็ไม่เห็นชีเฮิร์ต หรือกระวนกระวายอะไรนี่"
"จับตามองต่อไป...ถ้ามีอะไร เราจะเป็นสื่อเจ้าแรกที่จะเล่นเรื่องนี้"
ดวงแก้วตาวาว มองเห็นกำไรลอยมามหาศาล...ภัทรรีบรับมุกทันที

ooooooo

ลักษณ์พาช่อลดาไปนั่งทานอาหารค่ำที่ร้านหนึ่ง
เขาถามถึงเรื่องงาน ช่อลดาบอกตามตรงว่า
เธอทำอะไรก็ไม่ถูกใจพี่กรวิกไปหมด จนเหมือนตัวตลก
ส่วนจะท้อไหม ก็คิดหลายครั้ง แต่มานึกว่าเพิ่งวันแรก
ถ้าท้อพี่วิกคงเกลียดหน้าเธอหนักขึ้น ลักษณ์ติงนิดๆว่า เอยรู้สึกจะแคร์กรวิกมาก
"พี่วิกเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่คนแรกในชีวิตของเอยค่ะ พี่ลักษณ์"
บอกหมอไปแล้ว...ช่อลดาเริ่มนึกย้อนไปถึงชีวิตแต่ หนหลัง ที่ได้รู้จักกับกรวิก...
ช่อลดาย้อนไปสู่ภาพความหลังเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว...
พี่แก้วดูแลช่อลดา เมื่อพ่อกับแม่จากไป
คาดว่าเป็นเดือนถึงจะกลับ แล้วแก้วสาวรุ่นวัย 16
กำลังแต่งตัวจะไปหาแฟนตามนัด ช่อลดาวัย 6 ขวบ
อยู่คนเดียวไม่ได้เพราะกลัว อ้อนวอนพี่แก้วขอไปด้วย
แก้วจะไปหาแฟน จึงพาไปด้วยไม่ได้ ช่อลดาร้องไห้กอดแข้งขาจะไปด้วย
แก้วจึงตัดใจสลัดช่อลดากลิ้งไป แล้ววิ่งออกจากห้อง
ปิดประตูขังช่อลดาไว้ เสียงช่อลดาร้องไห้เรียกให้คนมาช่วย ทุบประตูไม่ยั้ง...
ยิ่งใกล้ค่ำ ช่อลดายิ่งกลัวตัวสั่นงันงก เมื่อมีแมวกระโจนผ่านหน้าไป
ช่อลดาร้องไห้สุดเสียง...แล้วประตูถูกถีบเปิดออก
ช่อลดาเห็นเป็นเด็กชายมาช่วย จึงผวากอดเขาตัวสั่นงันงก...
เด็กชาย คนนั้นต้องกอดเธอไว้ พยายามปลอบขวัญ
"น้องครับ น้อง...ลืมตาก่อนครับ ลืมตา" เสียงเขาปลอบ
ช่อลดาจึงลืมตาขึ้นมอง...ทั้งๆที่ยังหนาว
"พี่ชื่อกรวิก อยู่ไม่ไกลจากบ้านน้องนี่เอง ไม่ต้องกลัวนะ"
กรวิกส่งสายตาและรอยยิ้มให้อย่างสงสารเต็มที่...
ช่อลดาหยุดร้องไห้ ฝืนยิ้มทั้งๆที่ยังสะอื้น...
ช่อลดาตื่นจากความหลัง กลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง แล้วเอ่ยขึ้น
"หลังจากวันนั้น ถึงเอยจะถูกขังให้อยู่คนเดียว
แต่เอยก็ไม่กลัว และไม่ร้องไห้อีกเลย
เพราะเอยรู้ว่าจะมีพี่วิกคอยดูแลอยู่ข้างๆเสมอ"
"ชักจะน้อยใจแล้วสิ พี่คงเทียบอะไรเขาไม่ได้สักนิด"
ลักษณ์ฝืนยิ้ม...ช่อลดาบอกว่า พี่ทั้งสองไม่เหมือนกัน "
ถ้าเลือกได้ พี่อยากจะเลือกเป็นเขา เพราะพี่จะได้เจอเอย ได้รักเอยเร็วกว่านี้"
"พี่วิกเปรียบเหมือนชีวิต แต่พี่ลักษณ์เป็นลมหายใจของเอย
เราจะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มีลมหายใจ จริงไหมคะ"
ลักษณ์ฟังแล้วยิ้มให้ช่อลดา ด้วยตื้นตันใจ...
ครู่ต่อมา เสียงมือถือดัง พอเขารับ
สีหน้าและน้ำเสียงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเสียง...เขาตอบไปห้วนๆ
"อยู่ไหนนะ...แล้วยังไง ก็ได้ รออยู่นั่นละ เดี๋ยวพี่ไปรับ"
เขากดปิด หันมาบอกช่อลดาว่า นี่ดึกแล้ว พรุ่งนี้เอยมีงาน
เดี๋ยวพี่ไปส่ง ไปพักผ่อนเถอะนะ...ช่อลดารับคำทันที ชายหนุ่มเริ่มสีหน้ากังวล...
ช่อลดายิ่งกว่าที่หมอลักษณ์กังวล เพราะเมื่อเขาไปส่ง
ช่อลดากลับเข้าห้องนอน พอเปิดไฟสว่างขึ้น
ตกใจแทบตาย เมื่อเห็นกรวิกมานั่งรออยู่
"ตกใจมากหรือที่เห็นฉัน" กรวิกถามเสียงกระด้าง...
ช่อลดาถามว่าเขามีธุระอะไร กรวิกพูดอย่างไม่สนใจ
"ฉันแค่ แวะมาดูว่าเธอจะแหกกฎพาคู่รักขึ้นมาใช้ที่นี่เป็นเรือนหอรึเปล่า"
"เอยไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ พี่ลักษณ์ไม่ใช่ผู้ชายชอบฉวยโอกาสแบบนั้น"
"แตะนิดหน่อยไม่ได้เชียว ยังดีที่อุตส่าห์กลับมา
นึกว่าจะพากันไปค้างที่อื่นซะแล้ว"
"ถ้าพี่วิกไม่มีอะไรจะใช้เอย เอยขอตัวไปทำธุระส่วนตัวก่อนนะคะ
จะกลับเมื่อไหร่รบกวนล็อกประตูให้เอยด้วยแล้วกันค่ะ"

ช่อลดาเดินหนีไปทันที กรวิกมองตามแค้นแสนสาหัสที่ช่อลดาไม่สนใจเขา

ooooooo

ขณะที่เมลานีกลับถึงห้องนอน เปลี่ยนเสื้อผ้า
หาสมุดจดงานจะหยิบปากกา จึงไปคว้ากระเป๋ามาหา
แล้วเทของออก เหลือบไปเห็นผ้าเช็ดหน้ากอง
มีปลายเนกไทโผล่ จึงหยิบมาดู พอจำได้ว่าถูกยัดปากตัวเอง
นึกถึงนายคนขับรถ จึงคีบขึ้นอย่างขยะแขยง พอจะปาทิ้ง
เหลือบเห็นยี่ห้อถึงอึ้ง
"หน็อย...ใส่อาร์มานี่เชียวรึ เชอะ ถ้าไม่ของปลอมต้องไปขโมยมาแน่"
ทำปากจิ๊กจั่กรังเกียจ
ในเวลาไล่เลี่ยกัน หมอลักษณ์ไปรอใครสักคนที่สนามบิน...
ขณะยืนรออยู่นั้น หญิงสาวนางหนึ่งเข้ามาทางด้านหลัง
กอดเขาไว้แน่น แล้วพูดไทยปนการทักแบบมะกัน
เธอเรียกตัวเองว่าแซนดี้ ที่จริงชื่อแสงฉาย ลักษณ์หันมา
สีหน้าเขาไม่ยิ้ม มองหญิงสาวจืดชืด จึงถูกเหนี่ยวลงมาจูบอย่างฝรั่ง
จนเขาแกะ ออก บอกว่าทำประเจิดประเจ้อ ที่นี่ไม่ใช่อเมริกา แม่แซนดี้จีบปากคอใส่
"จะแปลกอะไรคะ ในเมื่อเราเป็นสามีภรรยากัน และเราก็รักกัน...ม้ากกก"
"คุณตามผมมาทำไม"
"อ้าว แซนดี้เป็นภรรยายูนะ สามีอยู่ที่ไหน
ภรรยาก็อยู่ที่นั่น ไม่ถูกเหรอคะ" ลอยหน้าท้าทาย
"นี่คงจะเบื่อไอ้หนุ่มอิตาเลียนนั่นแล้วสิ
ถึงได้นึกว่าตัวเองมีสามีกับเขาเหมือนกัน"
พูดจบ ลักษณ์เดินหนี แซนดี้มองตามอย่างเคืองๆ
แต่ต้องตามเขาไปดิกๆ จากนั้นไม่นาน
หมอลักษณ์พาแซนดี้หรือแสงฉายไปพักที่โรงแรม
เธอลงไปนอนเตียงแผ่หลาสบายใจเฉิบ บอกว่าห้องนี้หรูจัง
ไม่นึกว่ามาฮันนีมูนรอบสองจะฟุ้งฟ่องล่องลอยขนาดนี้
ลักษณ์กลับไม่ยอมเพ้อไปด้วย
"คุณมีธุระอะไรก็ว่ามา...ผมรู้นะ ถ้าไม่มีอะไร
คงไม่บินตามผมมาถึงนี่หรอก ตกลงเรื่องอะไร"
"ก็เรื่องทะเบียนสมรส ตกลงไอยอมหย่ากับยู แต่เรื่องเงิน
ไอขอเพิ่มจาก 30 ล้านเป็น 40 ล้าน"
"ความจริงเรื่องเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นของคุณ
ถ้าผมฟ้องหย่า อาจไม่เสียสักบาทก็ได้"
"ก็เอาสิ...ถ้าไม่กลัวเสียชื่อก็เชิญ...คุณหมอมือหนึ่ง
ถูกเมียสวมเขาสามสิบปี มันน่าสมเพชน้อยไปซะเมื่อไหร่"
เจอไม้นี้ หมอลักษณ์ถึงกับมึนตึ้บ
"จะเซ็นให้เมื่อไหร่"
"ทันทีที่ยูจ่ายเช็คไอ" แซนดี้ยิ้มร่าอะร้าอร่ามขึ้นมาทันที...
ลักษณ์ดึงนามบัตรโรงพยาบาลของเขาส่งให้ บอกให้ไปพบเขาพรุ่งนี้...
ลักษณ์หันหลังเดินออกทันที แซนดี้พุ่งลงจากเตียงตามไปทันหน้าห้อง
ถามเขาว่าจะไปไหน เขาจะกลับไปที่พักของเขา แซนดี้ขอตามไปด้วย
"อย่าดีกว่า อย่างคุณ นอนที่นี่เหมาะแล้ว เกิดเหงาขึ้นมา
อยากพาผู้ชายมาค้างคืนแก้เหงา มันก็ไม่น่าเกลียด เพราะมันเป็นโรงแรม"
ลักษณ์บอกแล้วเดินหนีไปดื้อๆ แซนดี้มองตามสูดหายใจลึกๆ
แล้วกรี๊ดขึ้นสุดเสียง เมื่อถูกลักษณ์เชือดด้วยลมปากนิ่มๆ

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น: