วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ใจร้าว ตอนที่5

ตอนที่ 5

คุณปราชญ์เดินมาทางห้องผ่าตัด ได้รับรายงานจากหลายฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พยาบาลที่ทำงานผ่าตัดกับหมอลักษณ์
ต่างชมว่าหมอทำงานเยี่ยมมาก ทำให้คุณปราชญ์รู้สึกปลื้มมากเป็นพิเศษ...
จากนั้นคุณปราชญ์ก็เดินไปหาหมอลักษณ์ที่ห้องพร้อมกับปรัชญา
ผู้จัดการจอมเสเพลของเขา เมื่อพบหมอลักษณ์
จึงบอกพรุ่งนี้จะมีประชุมบอร์ดของโรงพยาบาลทั้งหมด
อยากเชิญให้หมอลักษณ์เข้าประชุม จะได้แนะนำทุกท่านให้รู้จักไว้
ปรัชญาค้านทันทีว่าหมอไม่ใช่ ฝ่ายบริหาร พ่อกลับติงว่า
วันหน้าอาจจะอยากบริหารบ้าง ลักษณ์รีบบอกว่าเขาไม่ชอบ
แต่ถ้าเป็นงานเขาพร้อมจะทำ ถามประชุมสิบโมงใช่ไหม
พอปราชญ์พยักหน้า เขาจึงตกลง แล้วขอตัวไปทำงานปรัชญาไม่พอใจ
ที่พ่อเอาใจหมอลักษณ์เกินไป แต่พอมือถือดัง เขารับแล้วยิ้มร่า
เพราะคนที่โทร.มาคือแสงฉาย หรือแซนดี้ที่ต่างก็คิดล่าเหยื่อด้วยกันทั้งคู่
ปรัชญานัดพบแซนดี้ที่ร้านอาหารในศูนย์การค้า...
ต่างฝ่ายต่างชมกันไปมา ว่าโชคดีที่ได้พบผู้จัดการใหญ่
ส่วนแซนดี้บอกโชคดีที่ได้พบเขา เพราะเธอจากไปอยู่อเมริกานาน
ตอนนี้เธออยากทำธุรกิจที่นี่...แล้วเผยว่าเธออยากทำธุรกิจเครื่องสำอาง
เช่นครีมทาผิวจากสมุนไพร ซึ่งเมืองนอกตื่นสมุนไพรไทยมาก
ปรัชญารับลูกทันที เชิญแซนดี้ไปชมสปาของโรงพยาบาลดูก่อน
เกิดไอเดียแล้วคุยกัน เขาช่วยเต็มที่...จากนั้นก็แลกเปลี่ยนลมปาก
ส่งสายตาหยาดไปเยิ้มมาให้กันและกัน

ooooooo

ดวงแก้วเก็งกำไรมหาศาล ที่จะนำฉากเลิฟซีน ตอนกรวิกขยี้ปากเมลานีด้วยการจูบ
อย่างทั้งกองถ่ายไม่คาดคิดมาก่อนไปทำโฆษณา
นอกจากจะเอาภาพจากเจษฎามาแล้ว ยังสั่งให้ตัดฉากทีเด็ดนี้ไปให้
ทางช่องทีวีโปรโมตเลย แต่ให้แค่แวบเดียว คนจะได้ตามดูตอนออนแอร์
คนที่ปวดหัวคือผู้กำกับ ถึงกับประชดพี่ดวงแก้วด้วย
การจะรื้อบทให้พระเอกกรวิกมานั่งสั่งให้เขียนบทแทน
ไม่ต้องจ้างคนเขียนบทให้เสียเงิน พี่ดวงแก้วกลับสั่งอย่าซีเรียส
ยังไงก็ให้พระเอกออกทุกฉากได้ยิ่งดี เล่นเอาผู้กำกับปุ๋ยบ่นแบบมหาเซ็งที่ไม่ได้ทำ
ละครตามที่ได้ร่ำเรียนมาจนตาเหล่กว่าจะจบ
ส่วนที่หน้ารถนอนของกรวิก ช่อลดานั่งเซ็งอยู่ด้านหน้า
ช่างภาพมือซุ่มปาปารัซซี่เดินมาทักทายช่อลดา
เพราะจำได้ว่าเธอคือแฟนคลับที่เป็นลมจนกรวิกอุ้มส่งโรง พยาบาล
เธอบอกว่ากรวิกอยู่ข้างใน เจษฎาไม่สน ซักช่อลดาว่า มาทำอะไรที่นี่
"ผู้จัดการส่วนตัวของฉัน...นายมีอะไร" กรวิกออกมาตอบคำถามแทน
เจษฎาบอกไม่มีอะไร แต่อยากคุยกับเขา กรวิกปัดทันที ไม่ว่าง...
ขณะนั้น หมอลักษณ์ไปซื้อแหวนเพชรเม็ดงามที่ห้าง
แต่ไม่เห็นปรัชญากับแซนดี้ที่ไปคุยกันที่ร้านหนึ่ง
ในศูนย์การค้านั้น...หมอลักษณ์เดินลิ่วมาหาช่อลดา เพื่อจะรับหลังเลิกงาน
"สวัสดีครับ คุณกรวิก" หันไปทางช่อลดา
"เลิกงานแล้วใช่ไหมเอย...ไปกัน"
ช่อลดาหันไปขอตัวกลับกับกรวิก และเจษฎา
ซึ่งแอบมองท่าทีของกรวิกที่มองตามหมอกับช่อลดาไป แล้วยังเปรยขึ้น
"ซีนจูบ ใครๆอาจชื่นชมว่านายแสดงได้สวีตสมจริงสุดๆ
แต่ฉันดูออกว่านายเฟกสุดๆต่างหาก" กรวิกหันมามอง
"ตานายมันฟ้อง ไม่มีแววอาลัยอาวรณ์ สู้ตอนที่นายมองผู้จัดการส่วนตัว
เดินเคลียคลอออกไปกับแฟนไม่ได้...นั่นน่ะ ดูอาลัยอาวรณ์สมจริงกว่ากันเยอะ"
มันเป็นถ้อยคำที่จี้ใจดำเผง กรวิกอยากจะตะบันให้หน้าแหก
แต่สะกดตัวเองไว้ หวั่นว่าจะเข้าทางไอ้หมอนี่
กรวิกเดินหนีไปทันที เจษฎายิ้มอย่างรู้ทันว่า กรวิกกับช่อลดามีอะไรกันแน่นอน...
หมอลักษณ์พาช่อลดาไปนั่งทานอาหารในร้านหรูแห่งหนึ่งในตอนค่ำ...
พอช่อลดาถามพี่ลักษณ์ว่า ที่บอกเธอว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกนั้นคืออะไร
เขาบอกทันทีว่า มีของจะมอบให้เอย...
ลักษณ์หยิบกล่องกำมะหยี่ขึ้นมา...จังหวะนั้นเสียงมือถือของช่อลดาดังขึ้น...
เธอหันมารับ ลักษณ์จึงกำกล่องไว้แน่น... พร้อมกับเสียงช่อลดาฮัลโหล...
ถามพี่วิกว่ามีอะไร...กลับมีการตัดสายไปทันที เธอจึงหันมาทางลักษณ์...
ขอโทษเขาก่อนถามอีกว่า มีอะไรคะ...ลักษณ์จึงเปิดกล่องแหวนเพชรออกมา
"แสงฉายตกลงหย่าให้พี่ อีกไม่กี่วันพี่จะเป็นอิสระแล้วเอย พี่ขอหมั้นเอยไว้ก่อนนะ"
เขาเอาแหวนออกมาจะสวมนิ้วนาง ข้างซ้ายให้...มือถือดังอีก
ช่อลดาจึงเอามือซ้ายนั้นไปรับ
"พี่วิก ฮัลโหล พี่วิกได้ยินเอยไหมคะ พี่วิก...พี่วิก" เสียงเงียบอีกตามเคย
จึงวางมือถือหันมาชมแหวนว่า...สวยมาก
"พี่รอวันนี้มานานแล้ว นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่พี่อยากทำ
แหวนวงนี้คือหัวใจของพี่ พี่ฝากเอยให้ดูแลมันด้วยนะครับ
"ลักษณ์สวมแหวนให้เอยอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม" เวลาหนึ่งปี
อาจทำให้เอยเปลี่ยนใจ ถึงเวลานั้นพี่จะไม่ฝืนใจ
ถ้าเอยไม่อยากสวมมันเมื่อไหร่ ก็ถอดออกได้ทันที"
ช่อลดาบีบมือเขาแน่น มองเขาอย่างสุดซึ้งในน้ำใจ...
แล้วมือถือดังขึ้นอีก ช่อลดารีบขอโทษลักษณ์ แล้วฮัลโหลเรียกพี่วิกหลายคำ...
แล้วเสียงก็เงียบไป...
ที่ห่างออกไป ในมุมหนึ่งของร้านนั้น กรวิกเก็บมือถือใส่กระเป๋า
ยิ้มอย่างพอใจก่อนเดินหนีไปช้าๆ
ช่างบังเอิญอะไรเช่นนั้น...หลังจากทานเสร็จ ลักษณ์พาช่อลดาออกมาจากร้าน...
สวนกับคุณปราชญ์กับปรัชญาเดินเข้ามาในร้าน ลักษณ์ทักทายสองพ่อลูก
ทั้งสองหันมามองช่อลดา ลักษณ์จึงแนะนำ
"เอย...นี่คุณปราชญ์และคุณปรัชญาเจ้าของโรงพยาบาลที่พี่ทำงานด้วย"
ช่อลดาไหว้ทั้งสอง ลักษณ์บอกอย่างชัดเจน
"เอยเป็น...คู่หมั้นผมครับ"
ปราชญ์มองช่อลดาอีกครั้ง แล้วชมว่าหน้าตาน่าเอ็นดู กิริยาก็นอบน้อม
คุณหมอโชคดีมากทีเดียว ลักษณ์ยิ้มภูมิใจ... ปรัชญาหมั่นไส้ลักษณ์
รำคาญพ่อที่ชมหญิงหน้าจืดซะเลิศหรูเกินไปแล้ว

ooooooo

โสภิตากำลังดูทีวีอย่างมันในอารมณ์ เพราะเป็นละครดังตอนจบด้วย
แต่เมลานีผู้บุตรสาว ดารายอดนิยมที่กำลังตกอยู่ในสภาพว้าวุ่น
อยากคุยกับแม่ จึงกดรีโมตปิดทีวี แม่โวยวาย ลูกสาวจึงบอกแม่ว่า
เธอมีเรื่องไม่สบายใจ พอแม่หันมาฟัง จึงถามอีก
"ตอนที่พ่อกับแม่รักกัน...จีบกันนานหรือเปล่าคะ"
คุณแม่โสภิตายิ้มตาลอยลิ่วสู่ความหลัง แล้วยอมรับว่านาน
สบตากันสองปี จดหมายถึงกันสามปี เกี่ยวก้อยกันสองปี
แยกกันไปเรียนเมืองนอกอีกสองปีครึ่ง กว่าจะได้แต่งงานร่วมสิบปี
แล้วพ่อแอบรักแม่อยู่นาน แต่แม่แกล้งเล่นตัว
"ถ้าใครสักคนมารักเรา เราจะรู้ได้ไงว่าเขารักเราจริง" เมลานีถามอีก
"ใช้หัวใจเป็นเครื่องวัดสิลูก คนมีหัวใจให้เรา
มองแวบเดียวก็รู้สึกได้ว่าเขารักเราจริง แต่เอ๊ะนึกยังไง ถึงได้ถามแม่เรื่องนี้
หรือมีใครหลงรักลูกแม่แล้ว"
เมลานีรีบปฏิเสธทันทีว่าไม่มี ไม่มีอะไรเลย...แล้วรีบเดิน
หนี...แม่ร้องตามครู่เดียว หันมากดรีโมตดูละครช่องสามต่อทันที

ooooooo

ช่อลดาเปิดประตูกลับเข้าห้องใน อพาร์ตเมนต์ก็เห็นกรวิกมานั่งเอ้เตอยู่
ถามทันทีว่าเป็นไง ดินเนอร์ คืนนี้ โรแมนติกสวีตมากไหม ช่อลดาย้อนถามว่า
เขามีธุระด่วนหรือ เห็นโทร.หลายครั้ง เอยโทร.กลับก็ไม่ติด กรวิกสวมรอยเลยว่า
เขาถึงถ่อมาหาเอยที่นี่ พอถามว่าจะให้เอยทำอะไร เขาตอบห้วนๆ "นวด"
เอยถามย้ำเพราะฟังไม่ชัด เขาตอบชัด
"นวดให้ฉันหน่อย เมื่อยจะตายอยู่แล้ว" ช่อลดาเดินเลี่ยงไปทางหลัง นวดที่ไหล่ให้
"นวดหนักๆหน่อยได้ไหม ไปอยู่อเมริกา 8 ปี ไอ้หมอนั่นคงเลี้ยงดูดี
ไม่ให้จับอะไรสิท่ามือถึงเบาหวิวเป็นนุ่นแบบนี้" ช่อลดาไม่โต้ตอบ
เขาอยากดูหน้าจึงให้มานวดแขน ช่อลดามานวดแขนด้านหน้า
กรวิกกัดติดหนักขึ้น
"วันไหนคุณเมนี่ไม่มีคิว ไปหัดนวดกับเขาสิ เขาเคยนวดให้ฉันน้ำหนักมือดีมาก
กดถูกจุดเป๊ะ" พอเห็นแหวนถามทันที
"แหวนหมั้นเหรอ ทำไมเพิ่งเอามาใส่"
"เอยเพิ่งได้มาเมื่อกี้นี้ค่ะ พี่ลักษณ์ให้มา"
เจอเข้าลูกนี้อาการอิจฉาตาร้อนบวกพายุหึง ถึงกับลุกพรวด
"พอ...พอ...ไม่ต้องนวดมันแล้ว ฝีมือห่วยแตก เทียบเมนี่ไม่ได้สักเรื่อง"
กรวิกเดินหนีท่าทีตึงตัง แต่ใจเหี่ยวเฉาแทบตาย...
ช่อลดาเองก็เซ็งที่อะไรก็สู้เมนี่ไม่ได้จริงๆ

ooooooo

ที่โต๊ะอาหาร เมลานีได้ยินเสียงแม่โสภิตากรี๊ดแต่เช้า จึงรีบวิ่งมาดู
คิดว่าแม่จะถึงซึ่งเวลาเด็ดสะมอเร่...
แต่เมื่อซักเข้าจริงๆ แม่วางหนังสือพิมพ์ลงตรงหน้า
"ไม่มีอะไรลูก แม่ดีใจ ในที่สุดลูกกับกรวิกก็ลงเอยกันจนได้"
แม่ผวากอดลูกสาวยังงงๆบอกแม่ว่า ยังไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย แม่ยังยืนยัน
"อย่าปากแข็งหน่อยเลยน่า ภาพมันฟ้อง" ว่าแล้วยกหนังสือพิมพ์ให้ดู
ภาพที่กำลังจูบกันมันหยด แม่ร้องสวีตสุดยอด เมลานีกลับว่ามันฉากในละคร
เข้าใจผิดกันไปใหญ่ แล้วแม่ยืนยันว่าแม่ดูละครมานักต่อนัก ไม่เห็นใครจูบกัน
ดูดดื่มปลื้มใจขนาดนี้ แล้วแม่ก็เชียร์สนั่นมันอร่อยเอนจอยปาก
แล้วยังย้ำยังไงก็คบดูก่อน ถ้ายังไม่แน่ใจ ไม่เสียหายอะไรเลยลูกจ๋า...
เรื่องภาพจูบกันของกรวิกกับเมลานีดังเป็นพลุแตก กลางฟ้าบันเทิงบางกอก...
แต่ตอนนี้ กรวิกกลายเป็นจำเลยของทอปัดที่กำลังสอบสวนอยู่ในบ้าน
หลังจากแทบจะเผารูปในหนังสือพิมพ์ ทิ้ง กรวิกบอกรู้ตัวคนถ่ายแล้ว...
แต่คงไม่เรียกค่าเสียหายอย่างที่ทอปัด เสนอ ทอปัดว่าถ้าไม่เรียกค่าเสียหาย
ก็ให้กฎหมายลงโทษให้หลาบจำ จะได้ไม่ทำอะไรมั่วๆให้คนอื่นเสียหายอีก
กรวิกว่าทุกทีเขาเอาเรื่อง แต่ครั้งนี้ กรวิกบอกหน้าตาเฉย

"ครั้งนี้พี่ต้องการให้มันเป็นข่าว อะไรที่เป็นเรื่องจริง พี่ก็ต้องการให้สังคมรับรู้"
"พี่วิก..." ทอปัดอ้าปากค้าง เหมือนฟ้าผ่ากลางกบาลโดยไม่มีเค้าฝน...
คนที่เจอลูกหนักอีกคนคือคุณดวงแก้ว เพราะที่ตกลงเรื่องรูปถ่าย

สองดาราใหญ่จูบกันมันหยดของเจษฎา ที่เรียกราคา 3 หมื่น

แต่ดวงแก้วต่อรอง 5 พันนั้น บัดนี้ดวงแก้วถึงกับใบ้กิน

เมื่อรูปจูบนั้นลงหนังสือพิมพ์และนิตยสารถึง 6 ฉบับ...

แล้วยังเอามาเรียงให้แค้นอยู่ที่โต๊ะ...คุณดวงแก้วจ้องมองเจษฎา

เหมือนถูกหักหลัง จึงตั้งคำถามเจษฎาที่มายืนไม่รู้ไม่ชี้
"บอกมาซิ เธอกล้าหักหลังฉันรึนายเจษฎา" เจษฎาสั่นหัว ไม่ได้หักหลัง "

ไม่หักหลัง แล้วไอ้รูปพวกนี้มันไปอยู่บนปกหนังสือพิมพ์ แถมนิตยสารเล่มอื่น

ได้ยังไงตั้งห้าหกเล่ม"
"ก็ผมบอกต้องการสามหมื่น พี่ดวงจ่ายแค่ห้าพัน ผมก็ต้องไปหาจากที่อื่น

ให้ครบจำนวนตามที่ผมต้องการ แล้วมันผิดตรงไหนไม่ทราบ"
ภัทรมือไม้สั่น...แต่ดวงแก้วนิ่งงัน...แล้วแววตาค่อยๆส่งประกายสว่างขึ้น

เมื่อมองเห็นอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ...

ooooooo

ผู้กำกับการแสดงและทีมงานกำลังตั้งท่าเตรียมถ่ายละครฉากต่อไป

เกี่ยวกับเรื่องแหวนหมั้นของดาราดัง...แต่แล้วก็รอการมาของเมลานี

นางเอกยอดนิยม จนต้องโทร.ตามกันให้วุ่นวายไป แล้วภัทรก็ร้องจ๊าก

ผู้กำกับก็หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นกรวิกเดินนำหน้าช่อลดามาที่กองถ่าย...
คนที่ไม่รู้เรื่องเชิญกรวิกซ้อมได้เลย ภัทรจึงเอ็ดตะโรลั่นว่า ซ้อมได้ไง

ในเมื่อเมนี่ยังมาไม่ถึงเลย แล้วโกหกว่ากำลังมา เดี๋ยวก็ถึงแล้ว

แต่แป้นเดินกลับมาจากโทร.เข้าเครื่องบ้านเมลานี

มาบอกดังๆต่อหน้าทุกคนว่า...คุณแม่เมนี่บอกว่าเมนี่นอนป่วยอยู่แต่ในห้อง

จึงมาไม่ได้...กรวิกไม่พูดอะไร ดึงมือช่อลดาเดินผละไป...ภัทรหนาว

บอกว่ากรวิกมีหวังไม่มาถ่ายแน่ พี่ดวงแก้วจะว่ายังไง ถ้ายกกองเลิกถ่ายอีกวัน...

ทุกคนเกิดอาการเซ็งไปตามๆกัน
ขณะเดียวกัน เมลานีทนไม่ไหวเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังมาทุกนาทีเช่นนี้

เธอรู้ว่ากองถ่ายโทร.มาจิกแน่ๆ...แม่ถามว่าไปไหวไหม เมลานีบอกปวดหัว

ขับรถไม่ไหว แม่จึงบอกว่ามีคนมาอาสาขับให้ พร้อมเชิญกรวิกกับ

ช่อลดาเข้ามา...เมลานีตกใจ ไม่คิดว่ากรวิกจะบุกมาถึงบ้าน
กรวิกเริ่มแสดงบทบาทที่รักเมนี่และห่วงใยเธอสุดๆ

ทั้งน้ำเสียงและอาการห่วงใย พอเขารู้ว่าเธอไม่สบายเป็นห่วงแทบแย่

จะไปหาหมอ เดี๋ยวเขาจะพาไป เมลานีงงมาก

บอกเขาว่าเธอดีขึ้นแล้ว กรวิกยังจ้อต่อว่า ถ้าเมนี่ไม่อยากไป

เขาจะอยู่เป็นเพื่อน เมนี่ตัดบทว่านี่บ้านเธอ มีคุณแม่ดูแลแล้ว

ไม่ต้องการเพื่อนมากกว่านี้ กรวิกยิ้มหน้าตาย

บอกว่าเดี๋ยวคุณแม่คุณจะไปประชุม แม่บ้านก็ลากลับบ้าน

เขาทิ้งเมนี่ไว้คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
"ถ้างั้นฉันจะไปทำงาน" เมนี่ลุกขึ้นทันที กรวิกหน้าตาย

เข้าประคองเอาใจ เดินตามผ่านหน้าช่อลดาไปโดยไม่มองเธอเลย

โสภิตามองตามทั้งสองไป แล้วยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง...

ช่อลดาเหมือนถูกบอนไซเหลือหน้าแค่สองนิ้ว ทั้งยังถูกเหยียบย่ำอย่างไม่ปรานีอีกด้วย...

ช่อลดายังไม่หมดเวรกรรมที่คนอื่นก่อ โดยเฉพาะกรวิก...

หลังจากที่กองถ่ายยืนยันนัดนักข่าวมาให้สัมภาษณ์กรณี

อื้อฉาวในฉากจูบ ซึ่งกำหนดให้สัมภาษณ์แค่สิบนาที...

แต่เมื่อกรวิกลงรถมาเปิดประตูประคองเมนี่ลงจากรถ

โดยมีช่อลดาตามต้อยๆอย่างน้อยหน้ามาตามหน้าที่

ถูกนักข่าวรุมซักเมนี่ทั้งเรื่องความรัก คาดว่าจะแต่งงานปีนี้หรือ

จะมีลูกกี่คน นักข่าวอีกคนโพล่งถาม
"ได้ข่าวคุณเมนี่ไม่สบาย แล้วทำไมมากองถ่ายพร้อมคุณวิก หรือว่าเมื่อคืนอยู่ด้วยกัน"
เมนี่ถึงกับอึ้ง ตอบไม่ถูกว่าจะเลือกคำถามไหนดี กรวิกรีบยิ้มแย้มเปิดปาก
"อยากอยู่เหมือนกันครับ แต่คุณเมนี่ไม่อนุญาต แล้วผมก็กลัวเธอซะด้วย

ที่มาด้วยกัน ผมไปรับเธอที่บ้าน คุณเมนี่ไม่สบาย ขับรถไม่ไหว"

กรวิกหันไปทางช่อลดา แล้วหันไปยิ้มกับนักข่าว ดึงช่อลดามายืนข้าง

"คิดว่าผมแก้ตัวใช่ไหม... นี่ไง ผู้จัดการส่วนตัวผมที่หนีบไปมาเป็นเงาตามตัวตลอด
เมนี่เขาเรียกยันต์กันผี ไม่ให้เข้าใกล้ตัวเมนี่เกินหนึ่งฟุต...

ลองถามดูสิครับ เธอพูดได้นะครับ"
ทุกสายตามองมาที่ช่อลดา...เธอแทบมุดแผ่นดินหนี... หนีสภาพยันต์กันผี

ไม้กันหมา แต่หนีหน้าใครไม่ได้ กรวิกมองช่อลดาแล้วสะใจใน

ผลงานสร้างสรรค์ทางสมองครั้งนี้...อีกมุมหนึ่ง เจษฎายืนจ้องมาอย่างพินิจ

เขาสนใจปฏิกิริยาที่เกิดกับช่อลดามากกว่า...

กรวิกยังไม่ยอมหยุด...เมื่อตอนเข้าฉากกับเมนี่ เขากำลังซ้อมจะ

สวมแหวนหมั้นที่เขาบอกว่ามันไม่มีราคาเหมือนแหวนที่รินเคยได้จากชายคนเก่า

แต่อยากให้รินสวมไว้ เผื่อเมื่อห่างไกล รินจะรู้สึกเหมือนมีณัฐอยู่ใกล้เสมอ
หลังซ้อม จะเริ่มนับถ่ายจริง กรวิกเริ่มป่วนอีก เขาขอแหวนที่จะถ่ายจริง

ทุกคนบอกว่า แหวนซ้อมนั่นแหละถ่ายจริง กรวิกบอกน่าจะหาใหม่

ให้เหมาะกับตัวละครณัฐในเรื่อง จะไปหาที่ไหน เอาที่ใคร

จะไปซื้อหรือเช่าจากร้าน กว่าจะได้มาหลายชั่วโมง...ตอนนี้จึงเข้าทางกรวิก..

.เขาให้ภัทรไปขอยืมจากนิ้วผู้จัดการส่วนตัวเขา แต่ไม่รู้จะให้ยืมหรือเปล่า

เพราะแหวนหมั้นใครจะถอดจากนิ้วง่ายๆ...ทุกคนจึงหันไปหาช่อลดา...

เธอจึงกลายเป็นจำเลยของทุกคนไปทันที...ภัทรรับงานหนักไปกล่อมช่อลดา

ขอยืมแหวน จะได้ถ่ายให้เสร็จ ไม่งั้นนักข่าวเอาไปเขียนกันสนุก

กรวิกเร่งด้วยการบอกว่า เขารักคู่หมั้นจะตาย ยังไงก็ไม่ให้ยืม

ยกไปก่อนเถอะ...ว่าแล้วเดินออก ภัทรหมดใจก่อนจะบอกยกเลิกกองถ่าย ช่อลดาร้องขึ้น
"เดี๋ยวค่ะพี่วิก" กรวิกหันมามอง ช่อลดาถอดแหวนจากนิ้วให้ภัทร แล้วบอกกรวิก

"กลับไปทำงานให้เสร็จเถอะค่ะ" กรวิกยืนมองช่อลดานิ่ง นึกไม่ถึงว่าเธอ

จะกล้าถอดแหวนออกจากนิ้ว...
ตลอดการถ่ายฉากนั้น กรวิกสวมแหวนหมั้นให้เมนี่ด้วยอาการอิ่มเอม

เปรมใจในการสวมแหวนหมั้นให้คนที่รักสุดๆ แต่สายตากรวิกกลับ

แอบชำเลืองช่อลดาตลอดเวลา... กระทั่งเสียงสั่งคัตดึงขึ้นเป็นอันจบฉากนี้

พระเอกนางเอกหมดคิวแล้ว...เมนี่ถอดแหวนคืนกรวิกไป
"หวังว่าผมคงมีโอกาสสวมแหวนที่เป็นของผมเองให้คุณสักวันนะครับ"
เมนี่เจอน้ำหยดลงหินทุกบ่อย เกิดอาการหวามหวิวไปไม่น้อย

ขณะจะสะเทิ้นอาย ภัทรมาบอกว่าพระนางทั้งสอง เอาไว้สวีตกันวันหลัง

ตอนนี้จะพานางเอกไปอาบน้ำแต่งตัว จะมีงานโชว์ตัวต่ออีก...

ช่อลดามาทวงแหวนจากตาล...แล้วต่างก็ถามว่าเมนี่คืนแหวนให้ใครไป

เมื่อไม่รู้ ช่อลดาจึงบอกเธอจะไปตามคุณเมนี่เอง...กรวิกมองตามช่อลดา...

มองแหวนในมือของเขา ก่อนจะหย่อนลงกระเป๋า...
ช่อลดาวิ่งไปหาเมนี่ที่อยู่กับภัทร ขอแหวนเธอคืน

เมนี่บอกให้คุณกรวิกไว้แล้ว คงยังไม่ได้คืน ช่อลดาจึงรีบวิ่งกลับไป...

เห็นหลังกรวิก จึงตามไปทันที่หน้ารถตู้นอน พอถึงก็ขอแหวนเธอคืน

เขาถามหน้าตาเฉยว่าแหวนอะไร พอบอกว่าแหวนพี่ลักษณ์ที่เอยให้ยืมเข้าฉาก

คุณเมนี่ว่าอยู่ที่พี่วิก
"ใครยืม เธอก็ไปทวงคนนั้นสิ...มันไม่ได้อยู่ที่ฉัน" ว่าแล้วเดินหนี

ช่อลดาวิงวอนขอให้คืน ดักหน้าไว้
"พี่วิก...พี่ลักษณ์เพิ่งให้แหวนเอยมา ถ้าหายไปแบบนี้

จะบอกพี่ลักษณ์ว่ายังไง เอยไม่อยากมีปัญหากับพี่ลักษณ์"
"จะบอกยังไง มันเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน...อ้อ กลัวมันโกรธเรอะ

แต่มันน่าโกรธ อยู่ๆคู่หมั้นดันไปถอดแหวนให้ คนอื่น แหวนแทนใจไม่รักษา

นับประสาคำว่ารักที่พูดพล่อย ลอยไปมา"
"พี่วิกจะด่าเอยยังไงก็เชิญเถอะค่ะ เอยขอแหวนคืนด้วย แหวนนั้นสำคัญกับเอยมากนะคะ"
กรวิกเดินขึ้นรถนอนเฉย...ไม่สนใจเสียงร่ำร้องวิงวอนของช่อลดา...

กรวิกกลับเข้าไปกำแหวนไว้แน่น เหมือนกับโลกทั้งโลกหลอมละลาย

มาเป็นความแค้นที่ทิ่มแทงใจเขา ถึงกับตะโกนว่า...มันสำคัญสำหรับเธอมากนักใช่ไหม...

ใช่ไหม...เขาตะโกนด้วยเสียงที่แทงทะลุลงไปในอกที่ช้ำเลือดของเขา...
กรวิกนิ่งเงียบครู่หนึ่ง จึงเดินออกมาจากรถนอน เห็นช่อลดานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว

กรวิกรู้สึกสงสารจับใจ กำแหวนเดินไปมา เตรียมจะคืนให้ แล้วต้องชะงัก

เมื่อลักษณ์เรียกเอย... ลักษณ์หันมาสวัสดีกรวิก แล้วพูดกับช่อลดาอ่อนโยนน่ารัก
"เหนื่อยไหม หิวไหม วันนี้พี่จองโต๊ะอาหารอิตาเลียนไว้ให้"
"ฉลองที่หมั้นกันหรือครับ" กรวิกถามดุ่ยๆ แต่ช่อลดารู้ว่าเขาโยงเข้าเรื่องแหวนหมั้น

ลักษณ์ย้อนถามว่าเขารู้หรือ กรวิกจึงสุมไฟทันที
"รู้กันหมดทุกคนล่ะครับ ก็คู่หมั้นคุณเล่นเอาแหวนมาอวดทุกคนในกองนี่ครับ"

ลักษณ์ยิ้ม กรวิกรีบแสดงความยินดี เลี้ยงฉลองเมื่อไหร่เขาไปร่วมงานทันที

ลักษณ์รีบบอกว่า ถ้าเอยให้จัดเมื่อไหร่เขาเชิญกรวิกเป็นคนแรก...

กรวิกยิ้มแต่ไม่ปลื้ม มือถือลักษณ์ดังขึ้น
"ครับ...ผมไม่ลืมหรอก โอเคผมไปรับคุณ แล้วเราไปอำเภอด้วยกัน"

ลักษณ์พูดต่อ
"จะกล้าบอกคู่หมั้นรึเปล่าว่าแหวนสุดรักสุดหวงมันหายไปน่ะ"

กรวิกแกล้งกระซิบที่หูช่อลดา...ลักษณ์ปิดมือถือ ลากรวิก

แล้วชวนช่อลดาไป...กรวิกมองแหวนอีกครั้ง คราวนี้สติอารมณ์เขาแตกกระจุยยับเยิน

ooooooo

ขณะที่ลักษณ์กับช่อลดานั่งกินอาหารอิตาเลียน อยู่ด้วยกัน

เขาสังเกตว่าช่อลดามีอาการไม่ค่อยจะเสบย เพราะไม่รู้ว่า

ช่อลดาหมดความสุขกลัวเขาจะถามถึงเรื่องแหวน...

เขาจึงคิดว่าเธอไม่สบาย เขาบอกเป็นห่วงเธอมาก

แล้วสังเกตที่นิ้วเธอจนได้ พอถามว่าแหวนหายไปไหน...อึกอักแล้วโกหกทันทีว่า

ลืมไว้ที่ห้องน้ำ


"แต่คุณกรวิกบอกว่า เอยใส่ไปที่กองถ่ายนี่"
ช่อลดารีบแก้เกมอย่างรวดเร็ว บอกลืมถอดล้างมือใน ห้องน้ำตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า

ลักษณ์จึงบอกว่าค่อยยังชั่ว นึกว่าเอยทิ้งเสียแล้ว

ช่อลดารีบยืนยันว่าแหวนนี้สำคัญกับเอยมาก มันหมายถึงพี่ลักษณ์

แล้วเอยจะทิ้งหรือ?
ขณะนั้น แซนดี้กับปรัชญาออเซาะกันพลางเดินเข้ามา ในร้านนั้น

หลังจากไปพบปรัชญาที่แผนกเมดิคัลสปา ให้เธอทดลองคอร์สสปาวีไอพี

เพื่อผ่อนคลายร่างกายมาแล้ว จึงพา มาทานอาหารที่นี่ แต่พอแซนดี้มองไป

หน้าบูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลักษณ์ดึงมือช่อลดาขึ้นมาหอมอย่างทะนุถนอม

แซนดี้ เดินไปด้วยความคิดอาฆาตแค้นทั้งคู่ขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ได้

ตกลงหย่ากับลักษณ์อยู่แล้ว...
แซนดี้คุยกับปรัชญา แต่ตาแอบมองมาที่โต๊ะลักษณ์กับช่อลดา

จนแทบจะคุยไม่รู้เรื่อง พอเห็นลักษณ์เช็กบิลจ่ายเครดิตการ์ดและทิป

เด็กแล้วพากันเดินออก แซนดี้ขอตัวไปห้องน้ำ...

แต่แอบเดินไปดักลักษณ์ที่ลานจอดรถ ลักษณ์เห็นแซนดี้ จึงทักอย่างแปลกใจ

และแนะนำให้รู้จักกับช่อลดา ซึ่งเธอทักชื่อแสงฉาย จนแปลกใจที่รู้จักเธอ

แล้วในที่สุด แซนดี้ ย้ำกับลักษณ์ว่า อย่าลืมที่นัดกันวันพรุ่งนี้

ก่อนลาจากยังหอมแก้มลักษณ์หนึ่งฟอด...
แต่เมื่อกลับมาส่งช่อลดาที่อพาร์ตเมนต์ ลักษณ์รู้ว่าช่อลดา

ไม่สบายใจเรื่องแสงฉาย จึงบอกเธอว่า ได้แยกกันมาแปดปีแล้ว

และพรุ่งนี้จะไปหย่ากันแล้ว เขาดีใจที่สุดที่จะได้ คบกับช่อลดาอย่างเปิดเผย

ช่อลดาจึงยิ้มให้เขา และคลายกังวลไป
ขณะที่กรวิกแอบเอาช่อดอกไม้ช่อใหญ่ขึ้นไปหาเมนี่

ขณะที่กำลังเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตมือถือรุ่นใหม่พิเศษ...

เขาสร้างความฮือฮาให้วงการสื่อ และดวงแก้วที่นึกไม่ถึงว่า

กรวิกจะทำให้เจ้าของสินค้าได้ประโยชน์เกินค่า ทั้งๆที่ดวงแก้วเตรียม

จะให้กรวิกออกเทป และมีเมนี่เป็นนางเอกมิวสิกวีดิโอเร็วๆนี้ ด้วย...

การมอบช่อดอกไม้ครั้งนี้ กรวิกยังกระซิบเมนี่ว่า คืนนี้ เธอสวยที่สุด

เล่นเอาเมนี่ใจเต้นระทึก แทบละลายไปกับคำหวานของเขา...
ขากลับ กรวิกยังขับรถมาส่งเมนี่ถึงบ้าน เขายิ้มรับคำขอบคุณของเธอ

สำหรับดอกไม้ที่เขาให้ กรวิกรีบบอก ดอกไม้นั้นเหมาะกับเมนี่มาก

ทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ หอมเย้ายวนใจ แล้วอาสาจะมารับเธอพรุ่งนี้...

ทั้งสองลากันด้วยสายตาหวานเยิ้ม...เมนี่ หอบดอกไม้บานแข่งกับหัวใจเธอเข้าบ้าน...

ลับตาเมนี่ กรวิกเอามือถือมากด
"ฮัลโหล...เธอยังอยากได้แหวนหมั้นอยู่ไหม...ช่อลดา"

เขาสั่งความสองสามคำก่อนปิดสาย

ooooooo

ทอปัดกระโจนลงมาจากชั้นบน โดยมีประยงค์ ตามลงมา

พอเห็นช่อลดามานั่งที่ห้องรับแขก กรากเข้าไปหาเหมือนพยัคฆ์จะขย้ำเหยื่อ

ถามว่าใครใช้ให้ เสนอหน้ามาที่นี่ ช่อลดาบอกเธอมีธุระกับพี่กรวิก

ทอปัดด่าว่าผู้หญิงหากินอย่างเธอจะมีธุระอะไร นอกจากเรื่องอย่างว่า
ช่อลดาตอบโต้ว่าทอปัดคิดแต่เรื่องอย่างนี้หรือ ทำเอาทอปัดโกรธจนตาเหล่

พอจะตบ ช่อลดาจับมือไว้ จึงยื้อกันไปมา ทอปัดเรียกประยงค์กับเยื้อนมาช่วย

จับช่อลดามือไขว้หลัง ทอปัด ตบช่อลดาฉาดใหญ่ เลือดปริ่มมุมปาก

พอจะซ้ำอีก ต้องชะงัก
"หยุดเดี๋ยวนี้นะทอปัด" กรวิกสั่ง ทอปัดรีบบอกพี่วิก มาก็ดีแล้ว ลากนังนี่ออกไปที

"ไม่ต้องลากต้องไล่ เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเสร็จ จะเชิญเขากลับเอง ส่วนเธอ

กลับขึ้นห้องเดี๋ยวนี้" ทอปัดปึงปังขึ้นไปแล้ว กรวิกสั่งสองแม่บ้าน

อย่าช่วยยายปัดก่อเรื่องอีก ขัดคำสั่งเอาเรื่องแน่ ทั้งสองรีบรับคำเผ่นหนีไปทันที
กรวิกให้ช่อลดาตามเขาไป...ถึงมุมส่วนตัว เขาเห็นเลือดที่มุมปาก แต่ทำไม่สน

ขอโทษแทนทอปัดที่ทำร้าย ช่อลดาขอแหวนคืนเท่านั้นก็พอ

พี่วิกให้เธอมาเรื่องนี้ ฉะนั้นคืนแหวนมาให้เธอ
"ไม่ให้ ฉันไม่มีอารมณ์ ไว้มีอารมณ์เมื่อไหร่ จะคืน ให้ก็แล้วกัน"
"พี่วิกทำอย่างนี้ทำไม ต้องการแกล้งเอย เพื่อความสะใจของตัวเองแค่นั้นใช่ไหม"

ช่อลดาขึ้นเสียงจนกรวิกตกใจ... แล้วเธอหันหลังก้าวยาวๆหนีไปทันที

ไม่สนใจเขาร้องเรียกให้หยุด...จนมาถึงหน้าบ้าน เขาจึงวิ่งมาดัก สั่งให้หยุด

ทำไมเจ็บใจอะไรนักหนาเรื่องแค่นี้ ช่อลดาโต้ว่า มันสำคัญมากสำหรับเอย

แกล้งเธอพอทนได้ แต่ขออย่าทำให้กระเทือนใจพี่ลักษณ์

กรวิกเจอคำนี้ ถึงกับจุกเสียดยอกอก
"เธอแคร์ไอ้หมอนั่นขนาดนี้หรือ พูดเหมือนกับว่า

ในชีวิตเธอมีแค่ไอ้หมอนั่นที่รักหวังดีกับเธอ"
"พี่ลักษณ์เป็นคนดี เขารักและหวังดีกับเอยมาตลอด...

แต่มีผู้ชายอีกคนที่รักและหวังดีกับเอย อาจมากกว่าพี่ลักษณ์

แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เราต่างคนมีภาระพันธะต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดด้วย"

กรวิกรับว่าเข้าใจ ช่อลดาจึงย้ำว่า เขาจะคืนแหวน ให้เธอใช่ไหม

กรวิกกำลังแสบในทรวง จึงกระชากเสียงใส่
"ไม่...ในเมื่อรักมันมาก ก็ไปหาทางแก้ตัวกับมันก็แล้วกัน"

ว่าแล้วจะเดินหนีเข้าบ้าน กลับหยุดฟัง
"การแก้แค้น เอาคืน หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มัน

ไม่มีข้อยกเว้นเลยหรือคะ คำขอร้องของเอย

ไม่มีความหมายต่อพี่วิกเลยใช่ไหม หรือตอนนี้ แค่อยากเห็นเอยเจ็บปวด

เอยยอมรับค่ะ ว่าเอยเจ็บ ได้ยินแล้วคงสะใจพี่วิกมากสินะคะ"

กรวิกหันมามอง...แต่แล้วเห็นแต่หลังช่อลดาไวๆ เขาต้องวิ่งตามไปทันที
เขาวิ่งตามช่อลดาออกมาถึงปากซอยที่แม้จะดึก ยังคง

สว่างไสวเหมือนตลาดโต้รุ่ง...เขาเรียกช่อลดา

แล้วจับแขนไว้ เมื่อตามทัน แล้วต่อว่าเธอ

จะมาด่าแล้ววิ่งหนีไม่ได้ ช่อลดาแย้งทันทีว่า พูดความจริง

ไม่ได้ด่า แต่จะบอกว่าเอยรับความจริงได้ ความจริงที่ว่า

พี่วิกต้องการทำให้เอยเจ็บเหมือนพี่วิกเคยเจ็บ...
"เธอเอาแหวนมาตัดสินความเป็นฉันอย่างนั้นหรือ

ถ้าไอ้แหวนวงนั้นมันสำคัญกับเธอนักละก็ ฉันจะคืนให้เธอเดี๋ยวนี้"
ขณะสองคนกำลังโต้วาทีกันนั้น แฟนคลับที่นั่งดื่มนั่งกิน

อยู่หลายร้านมองมา คนแรกร้องขึ้นว่ากรวิก...

หลายคนจ้องตาม...ขณะที่กรวิกจะส่งแหวนคืนให้

เสียงผู้หญิงร้อง "พี่วิก...พี่วิกขา..."
กรวิกตามช่อลดาออกมา โดยไม่ได้พรางตัวตามเคย...

พวกนั้นฮือมารายล้อมทั้งหญิงชายและสาว

ประเภทสองที่มาผสมโรงส่งเสียงเจี๊ยว รุมชมรุมขอลายเซ็น

เสียงกรี๊ดกร๊าด...กรวิกหนีพลางเซ็นพลาง...

ช่อลดาถือโอกาสหลบหนี กรวิกเซ็นไป เดินหนีไป...ตามองตามช่อลดา

แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น: