วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ดินเนื้อทอง ตอนที่7

ตอนที่ 7
สงกรานต์พามุกหอมไปคาดคั้นให้บอกมาว่ามีความหลังอะไรกับคุณหยาดพิรุณ
ถึงพยายามเข้าใกล้ ทำแม้กระทั่งใช้งานของเขาเป็นสะพาน...
แทนที่จะได้ คำตอบ มุกหอมกลับย้อนอย่างมีอารมณ์ว่า
"ฉันยังทำได้มากกว่านี้อีก"
"มุกหอม...พวกเราไปทำอะไรคุณ คุณถึงจงเกลียดจงชังเราไม่มีเหตุผล"
"มีสิ เหตุผลน่ะฉันมี แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่คนเกิดมาเพียบพร้อมแบบคุณไม่มีวันเข้าใจ
เพราะมันเป็นเหตุผลของคนถูกทิ้ง คนคนนึงที่มาตามหาความรัก
แต่กลับได้สายตาดูถูกเหยียดหยาม ได้ฟังคำพูดที่ตอกย้ำว่าเรามันต่ำเหมือนเศษคน
แทนที่จะได้รับอ้อมกอดที่คิดถึงมาทั้งชีวิต"
มุกหอมกลั้นไม่อยู่ปล่อยโฮออกมาจนสงกรานต์ตกใจ ดึงเธอเข้ามากอด
"ปล่อยฉัน อยากจะหัวเราะเยาะฉันก็เชิญ แต่อย่ามาสมเพชเวทนาแม่ค้าอย่างฉัน"
มุกหอมจะเบี่ยงออก แต่สงกรานต์ ไม่ปล่อย
"มุกหอม ฟังผม...ผมไม่ได้รังเกียจคุณ"
"ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อพวกผู้ดีอีกแล้ว"
"ผมไม่ใช่ผู้ดี...ผมเป“นเพื่อนคุณ อย่างน้อยคุณก็ยังไว้ใจผมได้"
มุกหอมดิ้นขัดขืน สงกรานต์มองตามุกหอมจริงจัง
และกอดปลอบประโลม...มุกหอมสงบลง แต่ยังสะอื้นแรงในอกสงกรานต์
เวลานั้น ตวงใจยังอยู่ในชุดหมั้น มองสภาพงานเละเทะ
ร้องไห้คร่ำครวญกับแม่ว่าตนทำอะไรผิด ตนรักสงกรานต์มาก่อน
เจียมจึงโทษเป็นความใจอ่อนของคุณหยาดพิรุณ ทำให้มุกหอมกล้าฉีกหน้าคุณหนู

"ออกไป...เจียม ไม่ใช่หน้าที่ของเธอ ฉันจะปลอบลูกเอง"
หยาดพิรุณขึ้นเสียง เจียมจำต้องถอยหลบไปยืนหลังประตู ดูแม่ปลอบลูก
"เข้มแข็งนะลูก ยังมีเรื่องในชีวิตอีกเยอะที่มันจะไม่ เป็นอย่างใจเรา
แต่ลูกยังมีหวัง ยังมีพรุ่งนี้ที่จะแก้ไขให้ดีได้"
"ตวงใจยังเหลือความหวังอีกเหรอคะ แม่ก็เห็นสงกรานต์ เขาเลือกปกป้องมุกหอม"
"ความดีไงจ้ะลูก ลูกต้องทำความดีเอาชนะใจคนที่ลูกรัก สงกรานต์จะต้องกลับมา"
ส่วนพิชญะที่มางานล่าช้า
แต่ก็พอจับต้นชนปลายจากคำพูดของคนในงานแล้วเอาไปเล่าให้พีรพลฟัง
จนเกิดข้อสงสัยนักหนาว่าใครกันที่เป็นเจ้าของระเบิด!
เจ้าของระเบิดตัวจริงกำลังตั้งวงฉลองที่ร้านกาแฟ เล้ง
ชื่นชมเฮียตู้พ่อบังเกิดเกล้าเป“นการใหญ่ แล้วพูดกันถึงหยาดพิรุณ...
ใบคูณผ่านมาได้ยิน จึงรีบกลับไปบอกมุกหอมซึ่งอยู่กับสงกรานต์ที่บ้านเช่า
สงกรานต์ได้ฟังก็ปะติดปะต่อได้ไม่ยากว่าพวกเล้งแค้นหยาดพิรุณ
ที่ระแคะระคายเรื่องโกงตลาด จึงใช้วิธีนี้ข่มขู่
"ก็ดีแล้วนี่ เกลือจิ้มเกลือ" มุกหอมโพล่งขึ้นมา

"มุกหอม นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว พ่อค้าแม่ค้าทั้งตลาดกำลังตกเป“นเครื่องมืออันธพาล"
"จะให้พวกฉันเสี่ยงแล้วโดนป่วนร้านอีกล่ะสิ เสียใจด้วยนะ
ฉันคงไม่อุทิศร้านฉันเพื่อว่าที่แม่ยายสุดประเสริฐของคุณ"
"อย่างน้อยก็ถือว่ามีบุญคุณกับคุณน้า"
ชมพูเห็นด้วยกับสงกรานต์ หวังว่าถ้าช่วยสืบข่าวส่งหยาดพิรุณ
อาจได้แผงในตลาดฟรีสัก 6 เดือน ใบคูณจึงว่าชมพูคิดแต่เรื่องของตัวเอง
ชมพูเถียงว่า เขาเรียกเอาตัวรอดต่างหาก
"อย่าหวังสร้างบุญคุณกับคนรวยเลยชมพู พอเราหมดประโยชน์ เขาก็จะถีบหัวเราส่ง"
"มุกหอม คุณมันมองคนในแง่ร้าย กล้าหรือเปล่าล่ะ ถ้าจะเข้าไปเล่าความจริงกับผม"
สงกรานต์มองมุกหอมแบบวัดใจ แล้วโทร.เข้ามือถือของหยาดพิรุณ แต่หยาดพิรุณไม่รับสาย
ซ้ำยังบอกเจียมว่า ถ้าสงกรานต์โทร.เข้าบ้าน ให้บอกว่าเธอไม่อยู่

พอรู้ว่าหยาดพิรุณไม่รับโทรศัพท์ ชมพูเดาทันทีว่า หยาดพิรุณคงโกรธว่าที่ลูกเขย...
ก่อนจะบ่นต่อไปว่า น่าจะปล่อยให้โดนโกง
"ใบคูณก็ไม่ได้สงสารคุณหยาดพิรุณหรอกจ้ะ แต่ก็ไม่อยากให้พวกไอ้เล้งไปแกล้งใครอีก"
ใบคูณพูดจบก็เดินตามชมพูออกไปอีกคน ทิ้งให้มุกหอมคิด
สงกรานต์ขยับมาใกล้ มุกหอมลุกหนีทันที
"ไม่ได้ง้อหรอกนะ แต่ขอร้อง เพราะผมอยากให้คุณกับคุณน้าเข้าใจตัวตนของกันและกัน
คุณกับคุณน้าหยาดพิรุณ นิสัยเหมือนกัน คิดถึงแต่เรื่องของคนอื่นมากกว่าตัวเอง"
"ฉันไม่เหมือนคุณหยาดพิรุณ"
"เหมือน...แววตาดื้อดึง เชื่อมั่นความถูกต้องของตัวเอง
แววตาแบบนี้แหละที่คุณมีเหมือนคุณน้าหยาดพิรุณ...ผมก็ไม่ใช่กามเทพ
ชอบทำให้คนรักกันหรอกนะ แต่คุณไม่อยากได้ยินคำขอบคุณจากคนที่คุณเกลียดหน่อยเหรอ"
มุกหอมมองสงกรานต์อย่างลังเล ส่วนตวงใจที่ยังทำใจไม่ได้ที่งานหมั้นต้องล่มลง
ในคืนนี้เองเธอได้ประกาศกับแม่ว่า เธอต้องเป็นที่หนึ่ง ไม่มีวันแพ้แม่ค้าอย่างมุกหอม...
รุ่งขึ้น พีรพลมาที่บ้านมุกหอม และเจอสงกรานต์มาเอา
คำตอบจากมุกหอมเรื่องที่จะช่วยสืบว่าพวกเล้งกินหัวคิวในตลาด
เพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่หยาดพิรุณเพียงคนเดียว
ซึ่งมุกหอมไตร่ตรองอย่างดีแล้วได้ตอบตกลง และว่าเรื่องนี้ต้องเงียบที่สุด
ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะพวกเล้งหูตายังกับสับปะรด
พีรพลจึงมีแผนที่แนบเนียนที่สุด ต้องใช้คนที่พวกมันไม่เคยเห็นหน้า...
หวยเลยไปออกที่พิชญะ พ่อของเขานั่นเอง
พิชญะปลอมตัวเป็นพ่อค้าเต้าฮวย หาบเร่เข้าไปขายในตลาดของหยาดพิรุณ
พวกเฮียตู้เห็นเข้าก็มาข่มขู่เก็บค่าที่ พิชญะจึงต่อรองขอลดราคา
เล้งไม่พอใจวางก้ามใช้กำลังจัดการ จึงเกิดชุลมุนกันขึ้นจนแผนแตก
เพราะหนวดปลอมของพิชญะหลุดติดมือเล้ง

พวกพีรพลที่แอบซุ่มสังเกตการณ์ต้องรีบเข้าช่วยเหลือพิชญะขณะวิ่งหนีพวกเล้ง
กว่าจะรอดพ้นมาได้ก็เล่นเอาพิชญะโดนชกจนเบ้าตาช้ำเขียว
เดือดร้อนใบคูณต้องช่วยประคบ...เมื่อได้หลักฐานคือพิชญะที่ถูกทำร้ายจากการข่มขู่ของพวกเล้ง
สงกรานต์จึงตั้งท่าจะให้พิชญะไปพบหยาดพิรุณเพื่อเป็นการยืนยัน
พิชญะกับพีรพลกลัวความลับของตนแตก จึงปฏิเสธเสียงแข็ง อ้างว่าคนไม่รู้จักกัน
พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาคงไม่เชื่อ สงกรานต์นั่นแหละที่ต้องเป็นคนไปเล่า
พอสงกรานต์เอ่ยปากชวนมุกหอมไปด้วยกัน พีรพลกันท่าทันที ให้มุกหอมอยู่ที่นี่
เขาจะไปกับสงกรานต์เอง
"งั้นก็อยู่นี่กันให้หมด ผมโทร.ไปเล่าก็ได้"
สงกรานต์ ตัดบท หยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาหยาดพิรุณ
แต่ผลคือเหมือนเดิม หยาดพิรุณไม่ยอมรับสาย ตวงใจรู้เห็นว่าสงกรานต์โทร.มา
ถึงกับตัดพ้อด้วยความน้อยใจว่า ทำไมเขาไม่โทร.หาเธอ
แต่พอแม่ถามว่าลูกอยากคุยกับเขาหรือเปล่า ตวงใจก็ทำเข้ม
"ไม่ค่ะ คนทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ตวงใจจะไม่อภัย จนกว่าสงกรานต์จะมาคุกเข่ายอมรับผิด"
"สงกรานต์เป็นคนทิฐินะลูก"
"ตวงใจถึงต้องทำให้เขารู้ไงคะ ว่าคนที่จะสยบเขาได้ คือตวงใจคนเดียว"
เมื่อติดต่อไม่ได้ พีรพลจึงสรุปให้สงกรานต์ไปคุยกับหยาดพิรุณคนเดียว
แล้วช่วยเคลียร์เรื่องมุกหอมให้ด้วย ยังไง หยาดพิรุณก็เป็นว่าที่แม่ยาย
สงกรานต์ลังเลเล็กน้อยก่อนจะ จำยอม เพราะมุกหอมขอร้องอีกคน
มะเดื่อซุ่มฟังการสนทนาของพวกมุกหอม
แล้วรีบไปบอกเฮ้ยตู้ให้รู้ตัวว่าเวลานี้สงกรานต์เป็นต้นคิด
และจะคาบข่าว ไปบอกหยาดพิรุณด้วย เฮียจะทำยังไง เกิดหยาดพิรุณไหวตัวทัน
"จะล้างบางพวกเรามันไม่หมูหรอกเว้ย อย่างน้อยเราก็กุมเสียงพ่อค้าแม่ค้าไว้เยอะ
แค่พวกที่กู้เงินเราก็ครึ่งตลาดเข้าไปแล้ว แต่คนที่เราต้องจัดการก่อน
ก็คือไอ้พวกชอบสอดไม่เข้าเรื่อง" เฮียตู้คำราม ขณะที่เล้งนั่งลับมีดอย่างใจเย็น...
สงกรานต์ตั้งใจไปพบหยาดพิรุณแต่ไม่เจอ เจียมบอกว่าไม่อยู่...
ขณะเดียวกัน ตวงใจอยู่ที่บริษัทของแนนนี่
กำลังเจรจาบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้แนนนี่รู้สึกลำบากใจที่สุด
"น้ำตาของตวงใจไม่มีความหมายสำหรับสงกรานต์
เขาไม่เคยรู้สึกรู้สา พี่ต้องช่วยตวงนะคะ หรือพี่แนนนี่คิดว่า
ผู้ชายโลเลอย่างสงกรานต์ไม่ควรได้รับบทเรียน"
"พี่ว่าวิธีของคุณตวงมันแรงไป ตัดสินปัญหาด้วยอารมณ์ หักด้ามพร้าด้วยเข่า คนเจ็บคือเรานะคะ"
"ตวงใจมาขอร้อง และอยากได้คำตอบว่าตกลง ถ้าพี่แนนนี่มีปัญหา
ตวงใจจะให้ทนายรื้อสัญญาเช่าตึกมาดู บางทีเราอาจจะต้องทบทวนค่าเช่า
หรือไม่ก็หาคนเช่ารายใหม่ๆ ที่ยินดีจ่ายแพงกว่า" ตวงใจเสียงแข็ง
แล้วเดินออกไป แนนนี่ ลุกพรวด บ่นออกมาอย่างกลัดกลุ้ม
"นี่คิซซี่คิซซี่ของฉันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องรักสามเส้า... หายนะ หายนะชัดๆ"
ooooooo
ค่ำนี้ พีรพลซึ่งยังเป็นห่วงความปลอดภัยของมุกหอมได้แวะเวียนมาหาที่บ้านอีก
และว่าพรุ่งนี้จะมาช่วยขายของด้วย มุกหอมเกรงใจ
บอกให้เขาทำงาน ของตัวเองบ้าง ถ้าโดนไล่ออกขึ้นมา
เธอคงรับเลี้ยงไม่ไหว...พีรพลได้โอกาสเกริ่นถาม ถ้าเขาจะขอเลี้ยงมุกหอมล่ะ?
"ได้ แต่ต้องเลี้ยงมุกหอม แล้วก็ต้องเลี้ยงใบคูณ ชมพู
เลี้ยงให้หมด เพราะมุกหอมไม่ชอบกินคนเดียว"
"ไม่ใช่เลี้ยงข้าว...มุกหอมอ่ะ" พีรพลหน้ายู่ มุกหอมยิ้มขำ
ทันใด สองคนได้ยินเสียงชาวบ้านร้องบอกว่าไฟไหม้...
เล้งกับชิบดอดมาวางเพลิงบ้านมุกหอมแล้วรีบหลบออกไป
ขณะที่มุกหอมกับพีรพลช่วยกันดับไฟจนสำลักควัน สงกรานต์เข้ามาช่วยไว้ได้
และโชคดีที่บ้านและของเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่มุกหอมก็ยังกังวล
เพราะอีกไม่กี่วันยายก็จะออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้าน
เธอกลัวพวกเล้งจะไม่หยุดแค่นี้ พีรพลกับสงกรานต์จึงเห็นพ้องว่า
ควรให้ยายแคไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้
เมื่อพีรพลกับมุกหอมนำเรื่องไปปรึกษาพิชญะ ก็ได้ รับคำแนะนำว่า
ยายแคควรไปอยู่บ้านพักฟื้นคนชรา
ซึ่งเหมาะสำหรับคนแก่ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ใกล้หมอ
มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ความปลอดภัยดี มุกหอมอยากไปเยี่ยมเมื่อไหร่ ก็ไปได้เลย
"ต้องจ่ายค่าดูแลยังไง แล้วไม่ต้องเข้าคิวเหรอคะ"
"ไม่เป็นไร ใช่มั้ยพี่" พีรพลรีบนำร่อง พ่อเลยรับลูก
"ใช่ๆ ฉันพอรู้จักคนในที่เขาช่วยได้น่ะ เอาเป็นว่า สบายใจได้ เรื่องค่าดูแล
ก็ผ่อนส่งเขาไป เอาน่า อย่าเพิ่งกังวลมาก เราต้อง ห่วงยายก่อน
เกิดพวกไอ้เล้งมันมาตอนมุกหอมไปขายของ ไม่อยากนึกเลยว่ายายจะเป็นยังไง"
"ขอบคุณนะคะ คุณสองพี่น้องใจดีกับมุกหอม กับยาย ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันเลย"
"ฉันชอบความกตัญญูของเธอ แล้วก็ความซื่อตรง อดทน"
"เห็นมั้ย ผมบอกว่าใครๆก็รักมุกหอม" พีรพลยิ้มกริ่ม พิชญะกลับทำทะเล้น
ว่าจริงๆแล้วเขาห่วงน้องใบคูณต่างหาก...

ooooooo

เช้านี้สงกรานต์ถูกแนนนี่เรียกตัวไปรับซองขาว ซึ่งแนนนี่ให้เหตุผลว่าสงกรานต์ทำผิดร้ายแรง
ทำให้เราเสียลูกค้า พลาดงานสองครั้ง...สงกรานต์ไม่เชื่อว่าเป็น
ความคิดของแนนนี่ จึงเกิดการซักถามจนรู้ความจริงว่าเป็นฝีมือของตวงใจที่มาบีบแนนนี่
เมื่อสงกรานต์ไปเผชิญหน้ากับตวงใจที่บ้าน ตวงใจยื่นข้อเสนอทันทีว่า
สงกรานต์จะทำงานที่นั่นต่อก็ได้ แต่มุกหอม ต้องเป็นฝ่ายไป
"ตวง...มุกหอมเขามียายที่ป่วย ต้องเลี้ยงดู"
"สงกรานต์ก็เลือกสิคะ อนาคตตัวเองที่จะแลกกับมุกหอม"
"มีอะไรอีกที่คุณจะบงการผม" เขาประชด
"สงกรานต์คิดว่าตวงใจอยากทำเหมือนผู้หญิงไม่มีศักดิ์ศรีเหรอคะ
แต่ตวงใจก็ต้องทำ ในขณะที่มุกหอมไม่ต้องทำอะไรเลย เขาเดินมา
แล้วสงกรานต์ก็ไปหาเขา ทั้งๆที่เราเคยรักกัน ตวงใจ ไม่ดีตรงไหน ตวงใจผิดตรงไหน"
ตวงใจสะอึกสะอื้นอย่างคับแค้นใจ แล้วโผเข้ากอดสงกรานต์
"ไล่มุกหอมไปนะคะ ไล่เขาไป แล้วทุกอย่างในชีวิตเราก็จะเหมือนเดิม
หรือสงกรานต์อยากเห็นตวงใจตายไปต่อหน้าต่อตา ตวงใจอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีสงกรานต์"
สงกรานต์มองแววตาทุกข์ระทมของตวงใจแล้วยิ่งลำบาก ใจ...
ครั้นสงกรานต์กลับไปบ้าน นั่งเปิดคอมพิวเตอร์หางานในเว็บไซต์
พ่อกับแม่เห็นแล้ว รู้สึกขัดหูขัดตาเหลือเกิน
"แค่แกง้อหนูตวง เรื่องทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องมานั่งคลิก หางานใหม่"
พ่อบ่นขึ้นก่อน ตามด้วยถ้อยคำดักคอของแม่
"แล้วก็อย่าเอาเรื่องศักดิ์ศรีมาอ้าง เพราะลูกผู้ชายตัวจริง ทำผิดต้องยอมรับผิด"
"ผมกับมุกหอมเรารู้จักกันในขอบเขตความเป็นเพื่อน
ถ้าอธิบายแล้วไม่มีใครเชื่อ ผมก็ห้ามไม่ได้ แล้วเรื่องตวงใจให้ผมหมั้น ผมก็หมั้น
แต่ที่งานพัง เป็นความผิดของผมด้วยเหรอครับ"
"เพราะแกทำให้หนูตวงใจเขาระแวง เขาไม่มั่นใจ" แม่แว้ด
"ผมก็เลยต้องเสียงานที่ผมรัก ต่อไปตวงใจก็คือคนชี้เป็นชี้ตาย
กำหนดชีวิตผมว่าจะกิน นอน หายใจยังไง หลังจากที่ซื้อผมไปจากพ่อแม่"
ทิพยงค์สุดทนเงื้อมือจะตบลูกชาย พ่อรีบดึงมือไว้ พลางก็ตำหนิสงกรานต์กำลังด่าพ่อแม่ขายลูกกิน
"แล้วทำไมเราไม่อยู่อย่างรู้จักพอล่ะครับ เอาแค่กินอิ่ม นอนหลับ ไม่เป็นหนี้ใคร ก็พอแล้ว"
"แล้วแกจะเสียใจที่ไม่ง้อหนูตวง" พ่อย้ำ
"ครับ ผมว่าผมคงคุยไม่รู้เรื่อง กับผู้หญิงที่เอาอาชีพผมไปเป็นเครื่องมือต่อรอง"
สงกรานต์ลุกขึ้นหุนหันออกไป ทิพยงค์ยิ่งเครียด บ่นขรม
"เงินที่ยืมคุณหยาดน่ะ รวมไปรวมมาเกือบสิบล้าน
นี่ถ้ารุ่นพ่อรุ่นแม่ฉันไม่เคยอุปถัมภ์ค้ำชูกันมา ป่านนี้เขามาตามทวงตั้งแต่หลังวันงานแล้ว"
"คุณก็ไปบีบน้ำตา ร้องห่มร้องไห้เล่นละครอีกสักหน่อย"
"บ่อน้ำตาฉันมันแห้งไปหมดแล้ว คุณร้องมั่งเถอะ ฉันเบื่อ
ฉันจะไปเล่นไพ่แก้เครียด" ว่าแล้วทิพยงค์เดินออกไปทันที ทิ้งราชายืนงง
"เอ้าคุณ...ตกลงว่าทนได้เหรอที่จะมีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้า แต่ผมทนไม่ได้นะ
แค่คิดก็อยากจะร้องไห้แล้ว"
ooooooo

ไม่เพียงทำให้สงกรานต์ต้องตกงาน ตวงใจยังทำให้มุกหอมไม่มีที่ทำมาหากิน
โดยให้เจ้าของที่ตรงหน้าตึกมาไล่อย่างไม่มีเหตุผล แต่มุกหอมไม่งอมืองอเท้า
ชวนใบคูณกับชมพูเข็นรถขายไปเรื่อยตามตรอกซอกซอย
พีรพลเจ็บแค้นแทนมุกหอมและเพื่อน เขาไปเอาเรื่องตวงใจถึงบ้าน จึงเกิดโต้เถียงกันรุนแรง
พีรพลโมโหจัดถึงกับดึงตวงใจที่เถียงฉอดๆมาจูบปิดปาก แล้วผลักออกอย่างรังเกียจ ทำให้ตวงใจกรี๊ดบ้านแทบแตก ด่าเช็ด
"ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้เลว ไอ้เถื่อน"
แต่พอพีรพลชี้หน้าสั่งให้เงียบ ตวงใจจึงเม้มปากนิ่ง เพราะกลัวจะโดนแบบเมื่อกี๊อีก
"ถ้าไม่เลิกยุ่งกับมุกหอม คุณเจอยิ่งกว่านี้แน่"
"แกก็คุมแฟนแกให้ดีๆสิ ไม่ใช่เที่ยวมาอ่อยแฟนคนอื่น"
"บอกให้เงียบ ฟังอย่างเดียว...สงกรานต์น่ะมาวุ่นวายกับมุกหอม
เพราะคุณมันไม่มีเสน่ห์มัดใจผู้ชาย รู้ไว้ด้วยยายดอกหน้าวัว"
ตวงใจเจ็บจี๊ดจะกรี๊ดอีก แต่ต้องชะงักเพราะพีรพลชี้หน้า
จากนั้นพีรพลกลับออกไปอย่างฉุนๆ ตวงใจทำอะไรไม่ได้
นอกจากยืนเต้นขัดใจ กระทั่งไปหาน้ำยาบ้วนปากมาบ้วนแล้วบ้วนอีก
เจียมเกิดสงสัยซักถามว่าปากเป็นอะไรถึงแดงเห่อเหมือนโดนใครตบ
ตวงใจนึกได้ทันที ขอให้เจียมช่วยตบหน้าเธอหน่อย แต่เจียมทำไม่ได้
ตวงใจเลยตบตัวเอง แล้วสั่งเจียมช่วยเป็นพยานให้ด้วย
จากนั้นไม่นาน ทิพยงค์ร้อนรนมาที่บ้านหยาดพิรุณ...
ตวงใจฟ้องว่าเธอถูกแฟนของมุกหอมมาตบถึงบ้าน ทั้งที่เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เรื่องที่มุกหอมถูกไล่ที่ขายส้มตำ เจียมรีบเป็นพยาน เล่าเป็นฉากๆราวกับอยู่ในเหตุการณ์
ทิพยงค์ฟังแล้วเต้นผางโกรธจัด ผลุนผลันไปเอาเรื่องมุกหอมถึงบ้านเช่า พอเจอหน้าก็ตบผัวะ
แล้วด่าซ้ำชนิดม้วนเดียวจบ จนมุกหอมตั้งตัวไม่ติด ต้องไปคาดคั้นพีรพลที่ทิพยงค์
บอกว่าเขาไปตบตวงใจ เพราะมุกหอมเป็นต้นเหตุ
พีรพลตกใจ และยืนยันไม่ได้ตบตวงใจ แค่สั่งสอนว่าอย่าปากดี
พอมุกหอมเค้นว่าสั่งสอนยังไง พีรพลก็ตอบเลี่ยงว่า สั่งสอนแบบผู้ชาย แต่ไม่ยอมอธิบายรายละเอียด...
หลังจากนั้น มุกหอมกลับมามุ่งมั่นเข็นรถขายส้มตำต่อไป
ใบคูณกับชมพูช่วยกันร้องเรียกลูกค้าในหมู่บ้าน แม้บางครั้งต้องคอยวิ่งหนีหมาบ้าง
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อทั้งสามคน
สงกรานต์เพิ่งรู้ว่ามุกหอมถูกไล่ที่ จึงตามมาต่อว่ามุกหอมใจดำเปลี่ยนที่ขายก็ไม่บอกกันสักคำ
มุกหอมเองก็เพิ่งรู้ว่าสงกรานต์ตกงาน และกำลังหางานใหม่...
พอสงกรานต์ เปรยว่า เราตกงานเหมือนกัน มุกหอมท้วงทันที

"ตกงานที่ไหน พวกฉันเข็นรถขายส้มตำในซอย ก็พออยู่ได้ คุณล่ะ สมัครงานไปกี่ที่"
"ไม่เยอะ สองสามที่"
"น่าเห็นใจนะ รู้หรือเปล่าว่ามุกหอมเป็นคนโชคดี เพราะว่ามุกหอมมีเทวดา 5 องค์อยู่กับตัว...
นี่ไง เทวดานิ้วโป้ง เทวดานิ้วชี้ เทวดานิ้วกลาง เทวดานิ้วนาง
เทวดานิ้วก้อย 5 องค์ที่อยู่กับตัวมุกหอม 5 องค์ที่หยิบจับ ทำงานได้ทุกอย่าง เพื่ออนาคต"
สงกรานต์มองมือสองข้างของมุกหอมที่แบมาตรงหน้าด้วยความรู้สึกประทับใจในความคิด
แล้วยื่นสองมือของตัวเอง ไปทาบทับบนมือมุกหอม ค่อยๆเลื่อนมือสอดกุมไว้อย่างนุ่มนวล
"ตอนนี้เทวดาของผมอยากขอกำลังใจจากคุณ...อุ่นดีนะ"
"ปล่อยเถอะค่ะ ถ้ามีคนมาเห็น มันจะไม่ดี"
"ใครจะเห็นก็ช่าง ใครอยากฟ้องใคร ก็ฟ้อง ถึงไม่ทำอะไร เราก็ผิดไปแล้วครึ่งนึง"
มุกหอมแววตาอ่อนลง นึกถึงตอนทิพยงค์มาตบและด่าซ้ำ อยากจะบอกสงกรานต์
แต่แล้วเปลี่ยนใจ ถามเพียงว่า แม่คุณว่ายังไงบ้าง?
"ก็เอาแต่สั่งให้ผมไปง้อตวงใจ"
มุกหอมเงียบไปนิด ก่อนลุกขึ้นขอตัวกลับบ้าน และห้ามเขาตามไปด้วย...
สงกรานต์รีบโอดว่าหิว ตกงาน เงินก็ไม่ ค่อยมี ต้องประหยัดทุกอย่าง ขอไปกินข้าวบ้านมุกหอมได้ไหม?
ขณะกำลังจะตั้งวงกินข้าวมื้อเย็น พีรพลโผล่มาทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง
เพราะหึงหวงไม่อยากให้สงกรานต์เข้าใกล้ มุกหอม สงกรานต์ก็ใช่ย่อย
ยียวนกวนประสาทพีรพล ก่อนจะ ขอตัวกลับไปเพราะตวงใจโทร.มาตาม
ตวงใจทำอาหารไว้ให้สงกรานต์ แต่พอเห็นเขากินหน่อยเดียว จึงเกิดแง่งอนว่า
บ่นว่าอุตส่าห์ทำทั้งวัน แต่ก็ยังสู้ฝีมือพวกแม่ค้าไม่ได้
"ตวงครับ ผมไม่ได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะใครคนนึงเดินเข้ามา
แต่ผมกำลังคิดเรื่องงาน ตวงก็รู้ว่าผมอยากประสบความสำเร็จ"
"ตวงไม่เชื่อ คุณรักนังมุกหอม คุณรักมันมากกว่าตวง"
"ผมเหนื่อยแล้วนะตวง เมื่อไหร่เราจะพูดกันรู้เรื่อง"
"ไม่มีวันรู้เรื่องค่ะ ถ้าคุณยังรักนังแม่ค้ามากกว่าตวง
สำหรับเราจะไม่มีคำว่าเพื่อน ตวงไม่มีวันเลิกรักคุณ
แล้วตวงใจก็ไม่มีวันหลบทางให้ใคร" ตวงใจจ้องเขม็ง...สงกรานต์เบือนหน้าหนีด้วยความเบื่อหน่าย

ooooooo

เช้าขึ้น มุกหอมเปิดประตูมาเห็นสงกรานต์นั่งจุ้มปุ๊กขวางทาง
มุกหอมให้เขาถอย และจิกกัดด้วยคำพูดไปอีกนิดหน่อย
ก่อนจะเดินไปรดน้ำกล้วยไม้อย่าง ไม่ใส่ใจเขา เสร็จแล้วจะออกขายของ
สงกรานต์ลุกพรวด คว้ามือมุกหอมหมับ
"นี่ ไม่อยากตายก็ปล่อยเดี๋ยวนี้"
สงกรานต์ไม่ปล่อย มองมุกหอม แววตามีแต่ความกังวล
"ถ้าเป็นคุณ ต้องเลือกระหว่างงานกับความรัก คุณจะ เลือกอะไร"
นาทีนี้ พีรพลเดินมาอีกด้าน หยุดมองสองคนอย่างช้ำๆ
สงกรานต์ยังยื้อมือมุกหอม ทั้งระบายความคับแค้นใจ
"ยิ่งตวงใจเขาเด่น มีหน้ามีตา เขาก็ยิ่งไม่สนใจความ รู้สึกคนอื่น"
"ก็คิดซะว่าทุกอย่างคุณตวงใจทำลงไปเพราะรักคุณ...
ผู้หญิงบางคนยอมตายเพื่อความรัก"
พีรพลได้ยินและเห็นภาพบาดตา หันหลังออกไป จึงไม่ทันเห็นมุกหอมดึงมือออก และพูดเน้นย้ำ
"แต่ไม่ใช่ฉันแน่นอน เพราะฉันมีชีวิตอยู่เพื่อยาย เพื่ออนาคต
ไม่ใช่เพื่อความรักที่ฝากไว้กับใครสักคน ใครคนเดียว ที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ร้อนรน เจ็บปวด"
"แต่ความรักทำให้เรามีความหวัง"
"ความหวังฉันอยู่ที่สองมือ สองขา ไม่ใช่รอคอยคำพูด หรูๆหวานๆ ไว้ฝันลมๆแล้งๆ
แล้วถึงจะผิดหวังแค่ไหน เราก็ต้องปลอบใจตัวเองให้ได้
อย่าคิดว่าจะมีใครยอมทิ้งทุกอย่างมารักคนอย่างเรา"
ว่าแล้วมุกหอมหันหลังเดินเข้าบ้านทันที... สงกรานต์เดินคอตกออกไป
กลับไปถึงบ้านได้ไม่นาน สงกรานต์ได้รับการติดต่อให้ไปทำงานได้เลยในวันพรุ่งนี้
พ่อกับแม่รู้เข้า แทนที่จะดีใจ กับลูกชาย กลับแอบบ่นกันว่า
แผนบังคับให้เลิกทำงานของตวงใจไม่สำเร็จ สงสัยต้องมีแผนสำรอง...

ไม่ทันข้ามวัน พีรพลก็โทร.มาแสดงความยินดีกับสงกรานต์ที่ได้งานใหม่
นี่เองทำให้สงกรานต์เอะใจ ย้อนถามพีรพลรู้ได้ยังไง...
แล้วเขาก็ได้รู้ความจริงว่าเป็นฝีมือของพีรพล นั่นเอง...สงกรานต์โกรธ
ขับรถไปจอดพรืดใกล้รถเข็นของมุกหอม แล้วฉุดดึงเธอขึ้นรถ
โดยไม่สนว่าใบคูณกับชมพูจะแตกตื่นกันแค่ไหน
สงกรานต์ขับรถไปจอดริมถนนที่แทบไม่มีรถผ่าน
มุกหอมตามลงมาอย่างงงๆ
"คุณให้พีรพลช่วยหางานใหม่ให้ผมทำไม" สงกรานต์ เกรี้ยวกราด
มุกหอมยังไม่ทันตอบ เขาใส่อีกเป็นชุด "อย่าปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง
คุณรู้ว่าผมตกงาน ก็เลยไปบอกแฟนคุณ
แฟนคุณก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเพราะอยากโชว์แมนว่าไม่มีอะไรคาใจกับผม"
"ฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่เคยบอกเรื่องคุณตกงานกับใคร"
"ยังจะตีหน้าซื่อ ใครๆก็รู้พีรพลน่ะเขาทำตามคำสั่งคุณยิ่งกว่าหมาเดินตามก้นนาย
คุณให้กำลังใจผมสู้ แต่กลายเป็นว่าผมโง่เอง
กี่ครั้งแล้วที่ผมโง่เพราะตามความคิดแม่ค้าอย่างคุณไม่ทัน"
"ใช่ คุณมันโง่ โง่ที่สุด" มุกหอมเดือด
"คุณให้พีรพลมายุ่งเรื่องของผมทำไม"
"ก็เพราะเขาเป็นเพื่อนฉัน..."
"ผมก็เพื่อนคุณ แล้วทำไมต้องทำอะไรที่ดูถูกเพื่อนด้วย
นึกว่าคุณจะรู้จักนิสัยผม ผมอยากยืนบนขาตัวเอง
ตวงใจทำให้ผมตกงาน แล้วผมก็ได้งานเพราะผู้ชายที่มาชอบคุณ
ทำไมชีวิตผมถึงไม่พ้นผู้หญิงที่ชอบยื่นมือมาวุ่นวายเหลือเกิน"
"งั้นก็เชิญไปไกลๆ อย่าเที่ยวมาวนเวียน ขอข้าวขอน้ำ บ้านฉัน"
"นึกว่าผมต้องง้อแม่ค้าอย่างคุณล่ะสิ"
"ใช่ ง้องอน อ้อนวอนมาหลายครั้งแล้วด้วย ทั้งๆที่ฉัน
ก็เหม็นขี้หน้าคุณจะแย่ ทีอย่างงี้ทำไมไม่รู้ตัว หรือมัวเข้าข้าง
ตัวเองว่าหล่อ ทำงานหรู ดูฉลาด แล้วผู้หญิงต้องเข้าแถวรุมกันจีบ
บอกได้เลยว่าฉันเห็นแล้วอยากจะอ้วก ไปเลยนะ อย่าเข้ามา ใกล้ฉัน อย่ามาให้เห็นหน้าอีก พอกันที"
มุกหอมวิ่งหนี สงกรานต์วิ่งตามมาดึง มุกหอมสะบัด แล้วระเบิดอารมณ์
"อย่ามาใกล้ฉัน ฉันเบื่อ ได้ยินมั้ย เบื่อจนทนไม่ไหว แล้ว
ที่ใครต่อใครรอบตัวคุณมาด่าฉัน มาโยนความผิดให้ฉัน คุณเองก็ด้วย"

"อ้อ...แสดงว่าตลอดมาที่เราเจอกัน มันมีแต่เรื่องแย่ๆ"
"ใช่ ตั้งแต่วันแรกที่ฉันเจอคุณ"
"ผมไม่น่าชวนคุณอยู่ที่นี่ต่อเลยใช่มั้ย ตอนนั้นที่คุณจะ
กลับมุกดาหาร ผมน่าจะยุส่ง เอาซี้ กลับตอนนี้เลยมั้ยล่ะ
จะขับรถไปส่ง ขืนอยู่นานกว่านี้ ชีวิตฉันคงพังเพราะคุณคนเดียว"
"ไม่ต้อง ขามี เดินเองได้ น้ำใจพร่ำเพรื่อ อย่าเอามา ใช้กับฉัน"
"ไม่เหมือนน้ำใจพีรพล อ๋อ ชอบติดดินเหมือนๆกัน...
ขึ้นรถเลย ผมจะได้รีบพาคุณไปหาผู้ชายแสนธรรมดา"
สงกรานต์เข้าดึงมือ มุกหอมจิกเล็บบนเนื้อเขาจนร้องลั่น แล้วเธอสำทับ
ไม่ยอมขึ้นรถเขา สงกรานต์จึงเสนอเงินค่ารถกลับ มุกดาหารให้หนึ่งพัน
"น้อยไปหรือเปล่าคะ แค่พันเดียว ฉันทำงานสองสามวัน ก็หาได้แล้ว
มีเป็นล้านมากองตรงหน้าก่อนสิคะ ค่อยเอามายื่นให้
คนอย่างมุกหอมมีขา มีปัญญา ถึงไม่เก่งเท่าคุณ แต่ก็ไม่ใช่พวกด้านชา
ไร้ความรู้สึก ปล่อยให้คนมาไล่เอา ไล่เอา" มุกหอม วิ่งหนีอีก
สงกรานต์ร้องบอกให้กลับมา เขาแค่พูดประชด แต่มุกหอมไม่หยุด
สงกรานต์มองรถลังเล...สุดท้ายก็ตัดสินใจทิ้งรถวิ่งตามมุกหอมไป
สงกรานต์ตามมาง้องอนขอโทษมุกหอม...ต่างคนต่างแอบมีใจ
พอใกล้ชิดก็เกือบจะหักห้ามใจไม่อยู่ โดยเฉพาะสงกรานต์...
แต่แล้วฝนโปรยปรายลงมา มุกหอมจึงวิ่งไปเรียกแท็กซี่
พอเธอขึ้นนั่ง สงกรานต์ก็ตามเข้ามานั่งเบียด...
ด้านตวงใจ กำลังอาละวาดกับทิพยงค์เพราะเธอติดต่อสงกรานต์ไม่ได้เลย
ร้อนรนกลัวสงกรานต์ไปขลุกอยู่กับมุกหอม...
เมื่อส่งมุกหอมถึงหน้าบ้านเช่า สงกรานต์ยังเคืองที่พีรพล
สาระแนไม่หาย ฝากมุกหอมบอกพีรพลด้วยว่า
"ผมไม่ไปทำงานที่บริษัทเพื่อนเขา ผมจะสมัครงานใหม่
แล้วก็จะรอคนที่เห็นความสามารถของผมจริงๆ
คนอย่างสงกรานต์ไม่ต้องพึ่งโชคช่วยจากผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น!"

ไม่มีความคิดเห็น: