วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ดำขำ 1-3

ณ ไร่กาฬมณี แห่งโคกน้ำเชี่ยว หนูดำคุมคนทำไร่ และซ่อมรถด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันที่บ้านกำนันแดง พ่อของหนูดำก็ได้รับโทรศัพท์จากทิวาเพื่อนเก่า
ที่โทรมาทวงสัญญาแต่งงานรวมสายเลือดของสองครอบครัว ถนอมได้ยินก็รีบไปบอกหนูดำ
หนูดำมาคาดคั้นพ่อจนรู้ว่าเธอต้องแต่งงานกับ "ไอ้จืด" ศัตรูในวัยเด็ก
เธอโมโหยืนกรานไม่มีวันแต่งด้วยแน่
ทางด้านที่ทุติยะกลับมาถึงเมืองไทยได้แค่วันเดียว ก็เจอกับดาววดี
หญิงสาวที่มาร่วมงานเดียวกัน ซึ่งได้พวงแก้ว แม่ของทุติยะเห็นดีเห็นงามด้วย
แต่ทิวาไม่ชอบใจนัก จึงตัดสินใจบอกลูกชายเรื่องที่เขาต้องแต่งงานกับหนูดำ ทุติยะจำ
"ดำตับเผ็ด" ได้ไม่มีวันลืม และจะไม่ยอมแต่งงานด้วยเด็ดขาด
ทุติยะไปตามนัดที่ทิวาสั่ง และเขาตั้งใจจะไปทำให้หนูดำยกเลิกการแต่งงาน
โดยมีไม้คนขับรถขับไปให้
แล้วรถทุติยะที่ขับโดยไม้ก็ขับมาจอดที่
คฤหาสน์โคกน้ำเชี่ยว ทุติยะมองป้ายชื่อแล้วหัวเราะ


"ท่าทางจะฝันเฟื่องมากเลยนะยายดำ ฝันอยากอยู่คฤหาสน์ล่ะสิท่า
ถึงว่าอยากจะจับผู้ชายรวยๆ อย่างฉัน"
ไม้มองรอบๆ สงสัย
"ไหนล่ะครับเจ้าสาวของเจ้านาย เห็นแต่วัวแต่ควายเต็มคอก
อย่าบอกนะว่านายจะแต่งกับวัว"
ทุติยะตบหัวไม้ "จำไว้
อย่ามาเรียกยายดำนั่นว่าเป็นเจ้าสาวฉันอีก ฟังแล้วคลื่นไส้
แกก็รู้ว่าคนอย่างฉันไม่มีวันจะมองผู้หญิงน่ารังเกียจอย่างยายนั่นหรอก"
ทันใดนั้นเอง มีคนสาดน้ำใส่ทั้งคู่โครมใหญ่
ทุติยะกับไม้กระโดดกระจายกันไปคนละด้าน
"หมาที่ไหนมาเห่าอยู่แถวนี้ว่ะ"
ทุติยะกับไม้สะดุ้งเฮือก "ถ้าไม่หยุดเห่า เดี๋ยวแม่เอาน้ำสาดให้อีกรอบ
เอาให้วิ่งหางจุกตูดไปเลย"
ประตูบ้านเปิดออก ทุติยะกับไม้เห็นผู้หญิงตัวดำ
โพกผ้า เห็นแต่ดวงตา กับฟันสีขาวตัดกับสีผิว แต่งเนื้อแต่งตัวราวกับชาวเผ่ากินคน
กินหมากปากแดง ฟันดำปี๋ หนูดำเดินผ่างๆ ออกมาชี้หน้า
"เฮ้ย พวกแกเป็นใครวะ
เข้ามาที่นี่ได้ยังไง เดี๋ยวแม่ยิงให้ร่วงเลย"
หนูดำคว้าปืนลูกซองขึ้นมาเล็ง
ทุติยะรีบหลบหลังไม้ ไม้ตกใจรีบชิ่งหนีไป ทุติยะร้องเรียกก็ไม่สน
หนูดำเอาปืนที่เล็งไว้ลง เท้าเอวมองทุติยะอย่างสมเพช
"อ๋อ คิดว่าใคร
ที่แท้ก็แกเองเหรอ ไอ้จืด"
ทุติยะสะดุ้งเพราะหนูดำจำฉายาเก่าของเขาได้
หันมาจ้องหน้าหนูดำ
"เธอก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ ตอนเด็กน่าเกลียดยังไง
โตมายิ่งดูไม่ได้"
หนูดำโมโหเข้ามาผลักอกทุติยะอย่างแรง ทุติยะเซเกือบล้ม
"แกว่าใครทุเรศ ลองมองดูตัวเองสิ ไอ้จืด สารรูปแกมันตุ๊ดชัดๆ"
"เธอว่าใครตุ๊ด" ทุติยะโกรธจัดเงื้อมือผลักอกหนูดำแต่ต้องเงื้อค้างอยู่
เพราะหนูดำไม่ยอมลดละ
ทุติยะส่ายหน้า "เอาเถอะคราวนี้เธอรอดได้
เพราะฉันไม่อยากมือเปื้อน"
ขณะที่ไม้แอบดูอยู่ และลุ้นไปด้วยเกิดแสบคอ
หันไปหาน้ำกิน แต่ดันไปหยิบเหล้ามาดื่ม
ทุติยะชี้หน้าหนูดำ
"อย่าเผลอคิดว่าวันนี้ฉันมาดูตัวเธอล่ะ ฉันแค่จะแวะมาบอกเธอว่า
ถ้าชาตินี้หาสามีไม่ได้ก็ทำใจซะเถอะ เพราะสารรูปเธอมันสุดทนจริงๆ
แล้วก็เลิกคิดเลิกฝันลมๆ แล้งๆ ได้แล้วนะว่าจะได้แต่งงานกับฉัน เราสองคนต่างกัน
แค่มองก็น่าจะรู้แล้วนี่ หัดลืมตาแล้วก็ทำใจซะยายดำตับเป็ด"
ทุติยะยิ้มเหยียดใส่หนูดำแล้วเดินกลับไปที่รถ หนูดำกัดฟันกรอดกำหมัดแน่น
ปรี่เข้าไปหาทุติยะ
"จะรีบไปไหนล่ะค่ะผัวขา"
หนูดำดึงมือทุติยะไว้
ทุติยะสะบัดปัดป้อง "เฮ้ย ปล่อย อย่ามาถูกตัวฉัน"
หนูดำทำเสียงดัดจริต "นานๆ
เจอกันทีอยู่คุยกันก่อนสิคะ เขาคิดถึงตัวเองนะ"
หนูดำโผเข้ากอดทุติยะทันที
ทุติยะปัดป้องชุลมุนไปหมด
"เป็นอะไรของเธอ ผีเข้าเหรอ ออกไปนะ ปล่อยฉัน"
หนูดำพยายามปล้ำจะกอดทุติยะให้ได้ "ไม่ต้องเล่นตัวไปหรอกตัวเอง ล่ำๆ
อย่างนี้น้องดำชอบนัก มาให้น้องชื่นใจที"
ทุติยะผลักหนูดำล้มลงไป
แต่หนูดำรีบลุกขึ้นและเล่นต่อพยายามจะเข้าไปกอด
"แหมตัวเอง
ชอบแนวตบจูบก็ไม่บอก"
ทุติยะรีบวิ่งไปขึ้นรถ "อย่าเข้ามานะยายดำ
คนอะไรก็ไม่รู้น่าเกลียดน่ากลัวที่สุด ไม้ ไอ้ไม้ ฉันจะกลับแล้ว"
หนูดำวิ่งตามมา ทุติยะร้องไล่ ขณะที่ไม้ดื่มเหล้าเข้าไปมากเลยหน้าแดงกล่ำ
วิ่งไปที่รถ แต่กว่าจะเปิดรถได้ ทุติยะต้องคอยบอก พลางตะโกนบอกหนูดำไปด้วยว่า
"อย่าเข้ามาใกล้ฉัน ต่อให้เหลือเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลก
ฉันยอมตายซะยังดีกว่าต้องแต่งงานกับเธอ"
หนูดำชะงักค้างอยู่ท่าเดิม
ทุติยะอาศัยช่วงที่หนูดำอึ้งรีบเข้าไปนั่งในรถ ไม้สตาร์ทรถขับออกไปทันที
หนูดำมองตามก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจออกมา
"นายพูดเองนะ ไอ้จืด"
ถนอมขี่จักรยานสวนมาเบรกถามหนูดำว่าเป็นยังไง
"หนูดำว่างานนี้สำเร็จ"
"เฮ้อ โล่งอก ไม่ต้องแต่งแล้วเว้ย แผนดำตับเป็ดได้ผลจริงด้วย หนูดำนี่เจ๋งจริงๆ
เลยทำเอาคุณชายจิ้งจกนั่นเผ่นไม่เป็นท่าเลย" ถนอมหัวเราะสะใจ
"เราไปฉลองที่ยังรักษาความโสดไว้ได้กันดีกว่าพี่หนอม"
หนูดำหัวเราะออกมาด้วยความยินดีปรีดาที่ทำสำเร็จ
ไม้เมามากจนขับรถไปคว่ำที่ปากทาง หนูดำกับถนอมผ่านมาพอดี ต้องพาส่งโรงพยาบาล
ทุติยะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งที่โรงพยาบาล แต่กลับจำความไม่ได้เลย
หนูดำรู้จากหมอว่า ทุกคนต้องช่วยกระตุ้นความทรงจำของทุติยะให้กลับคืนมาเป็นคนเดิม
ทำให้หนูดำสะดุดความคิดบางอย่าง และวางแผนจะดัดสันดานทุติยะให้เลิกดูถูกคน
เลยพาทุติยะไปเก็บตัวที่ไร่ และให้ข้อมูลใหม่ว่าทุติยะชื่อว่า ทุย
เป็นแรงงานต่างด้าวคนใหม่
หนูดำขู่ให้บุญโฮมกับไก่ช่วยปิดเรื่องทุติยะเป็นความลับแลกกับการยกหนี้ให้
ขณะที่ไม้จะโทรกลับไปรายงานเจ้านาย
หนูดำก็ขู่ว่าจะฟ้องเรื่องที่เมาแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ไม้จึงต้องโทรศัพท์ไปโกหกทิวาว่า ทุติยะมีความสุขดี
และคิดว่าจะพักผ่อนอยู่ที่ไร่กาฬมณีเพื่อจู๋จี๋ดูใจกับหนูดำ ทิวาพอใจมาก
00000000000000
ที่ไร่กาฬมณี การมาถึงของทุย ในฐานะคนงานใหม่
สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าคนงานสาวอย่างมาก จนไม่เป็นอันทำงานกัน โดยเฉพาะบัวตอง
สาวฮอทประจำไร่รีบมาดูหน้า พอเห็นก็กรี๊ดถูกใจ รีบเข้าไปแสดงความสวยทันที
หนูดำไม่ค่อยพอใจนักที่ทุยกลายเป็นขวัญใจของสาวๆ เลยบังคับให้ทำงานอย่างหนัก
แต่พวกบัวตองก็คอยช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
หนูดำไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน
และกลับมาที่บ้านพักคนงาน เธอเอาเสื้อผ้าไปเก็บแล้วเตรียมอาบน้ำ
โดยไม่รู้ว่าทุติยะได้เข้าไปอาบน้ำก่อนแล้ว และได้ยินเสียงโทรศัพท์
ทุติยะรีบควานหาโทรศัพท์แล้วกดรับ หนูดำฮัมเพลงเข้ามาพอดี
ดาววดีที่โทรศัพท์มาชะงักไปด้วยความหึงหวง
หนูดำยังไม่รู้ว่าทุติยะอยู่ในห้องน้ำ เธอยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าสบายอารมณ์
ทุติยะได้แต่ยืนจ้อง จนดาววดีต้องถามซ้ำว่าเขาอยู่กับใคร
"เอ่อ คือ อยู่ อยู่"
หนูดำได้ยินเสียงทุติยะก็ตกใจ รีบเอาเสื้อลง
เห็นทุติยะนอนแช่น้ำคุยโทรศัพท์อยู่ก็ตกใจ
"ไอ้ทุย อ๊ายยยย"
ดาววดีได้ยินก็ร้องถาม "เสียงผู้หญิงนี่ นี่คุณอยู่ที่ไหนกันแน่"
"อยู่โคก
โคกน้ำเชี่ยว"
ทุติยะตอบเสร็จ หนูดำก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์ไป
ทั้งสองแย่งกันไปมาจนโทรศัพท์หลุดกระเด็นตกพื้น
หนูดำไม่ทันระวังเลยลื่นตกลงไปในอ่างกับทุติยะ
"เฮ้ย ลงมาทำไม ผมโป๊อยู่นะ"
"อ๊ายย ชีเปลือย"
ทางด้านดาววดีพยายามโทรศัพท์หาทุติยะอีกแต่ไม่ติด
จึงโทรไประบายให้จูลี่ฟัง และก็ตัดสินใจที่จะไปโคกน้ำเชี่ยว
เช้าวันต่อมา
หนูดำสั่งให้ทุติยะแยกไปขุดดินตามลำพัง โดยใช้จอบเพียงอันเดียว
เธอหวังว่าอีกฝ่ายจะทำไม่เสร็จจะได้ถูกลงโทษ แต่เมื่อเดินย้อนกลับมาดูอีกครั้ง
เธอก็โกรธจัดเพราะทุติยะปล่อยให้บัวตองเกณฑ์คนงานสาวๆ มาช่วยจนงานเกือบจะเสร็จแล้ว
"ใครสั่งให้พวกเธอมาช่วยนายนี่" หนูดำโวย
"ก็พวกเราสงสารพี่ทุยเขานี่คะ
เพิ่งจะมาใหม่แท้ๆ แต่กลับต้องมาตากแดดขุดดิน เกิดพี่ทุยมือแตก ผิวเสีย
ใครจะรับผิดชอบ พวกเราทนไม่ได้ก็ต้องมาช่วย ใช่มั้ยพวกเรา" บัวตอบออกหน้า
"ใช่"
ทุกคนเห็นพ้องด้วย
"นายกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ ไอ้ทุย" หนูดำพาลกับทุติยะ
"ไม่ได้ขัดคำสั่ง
เจ้านายแค่บอกว่าให้ใช้จอบขุดแต่ไม่ได้บอกว่าต้องขุดกี่คนสักหน่อย"
หนูดำหันไปถามบุญโฮมกับไก่ว่าเธอพูดจริงหรือ ทั้งสองช่วยยืนยัน
ทำให้หนูดำเถียงไม่ออก
"ได้ นายทำงานเสร็จเร็วก็ดี นายจะได้ทำงานต่อไปเร็วๆ"
หนูดำเดินปึงปังไป บุญโฮมกับไก่รีบตามไป
"เป็นไงล่ะ นายหนูดำ
เจอไอ้ทุยสวนกลับมั้ยล่ะ"
"แล้วคิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมแพ้ คอยดูต่อไปละกัน"
หนูดำแกล้งทุติยะด้วยการพาไปที่บ่อปลาแล้วออกคำสั่งให้ทุติยะวิดน้ำออกแล้วสูบน้ำเข้าไปใหม่
แล้วเอาอึ่งอ่างที่บัวตองจับใส่กระสอบมาเทลงไปในบ่อเพื่อแกล้งทุติยะ
บัวตองโวยลั่นเพราะเธออุตส่าห์ไปดักมา ขณะทีทุติยะเองก็ตกใจว่ายน้ำหนีให้จ้าละหวั่น
หนูดำหัวเราะชอบใจ
"พี่ทุย นายหนูดำแกล้งพี่ทุยทำไมเนี่ย
พี่ทุยไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ เดี๋ยวบัวตองช่วยเอง"
บัวตองวิ่งไปหาไม้มาให้ทุติยะจับ
ทุติยะโวยวายก่อนจะกระโดดคว้าตัวหนูดำไว้ จนอีกฝ่ายตกลงไปในบ่อด้วย
"เฮ้ยยย
ไอ้ทุย"
บัวตองเจอไม้ไผ่ลำหนึ่งก็ยกขึ้นมา "พี่ทุยจับไม้นี้ไว้นะจ๊ะ"
ไม้ไผ่ของบัวตองดันไปเกี่ยวเอาสายไฟขาด ตกลงไปในบ่อน้ำ ต่อหน้าต่อตาทุกคน
"นายหนูดำ"
"พี่ทุย"
หนูดำมองสายไฟแล้วแหกปากลั่น กระโดดเข้าหาทุติยะ
แต่อีกฝ่ายหายไปแล้ว
"ผมอยู่นี่"
ทุติยะขึ้นมาได้พอดี หันไปบอกหนูดำ
แต่กลายเป็นหญิงสาวถูกไฟดูดเสียเอง
ขณะที่เกิดเรื่องวุ่ยวายในไร่อยู่นั้น
ดาววดีก็ขับรถมุ่งหน้ามาตามหาทุติยะที่โคกน้ำเชี่ยว จนกระทั่งรถมาเสียกลางทาง
พอดีธงรบขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมา ดาววดีรีบลงจากรถ
วิ่งใส่รองเท้าส้นสูงแหลมเปี๊ยบวิ่งตาม
"เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน นาย นาย นายน่ะ"
ธงรบจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ริมทาง ก่อนจะเดินมาหาดาววดี
"รถคุณเป็นอะไร"
"รถของฉันเป็นรถนำเข้าจากยุโรป
เป็นรุ่นลิมิตเต็ดผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบร้อยปีของผู้ก่อตั้ง
ทั้งประเทศไทยมีแค่ 30 คัน คุณพ่อกับคุณแม่ซื้อให้ตอนที่ฉัน"
ธงรบรีบห้ามเสียก่อน "ไม่ใช่ ผมหมายความว่า อาการรถคุณเป็นยังไง"
ธงรบถามพร้อมกับเดินไปดูอาการรถ
"ฉันไม่รู้ ถ้ารู้จะมาถามคุณทำไมล่ะ"
ธงรบมองดาววดีงงๆ ไม่กล้าถามอะไรอีก
ดาววดีรีบเข้าไปในรถหยิบร่วมและครีมกันแดดออกมาทา ธงรบแอบมองอย่างแปลกใจ
"เร็วๆ
หน่อยได้มั้ย ฉันไม่อยากถูกแดดเผาผิวเสีย"
"เกิดเป็นคนไทยแล้วกลัวแดดอย่างนี้
ผมว่าคุณย้ายไปอยู่ที่อื่นดีกว่า"
"ฉันไม่ได้กลัวแดด แดดก็ทำให้ผิวแทนสวยดี
แต่แดดบ้านนอกมันแรง ผิวอย่างฉันทนแดดบ้านๆ อย่างนี้ไม่ไหวหรอก
แล้วตกลงรถฉันเป็นอะไร"
"แบตหมด หม้อน้ำก็เดือด คงต้องหาช่างมาซ่อม
ขึ้นรถมาสิผมจะพาไปหาช่าง"
"ตายแล้ว
รถเสียอย่างนี้ฉันจะไปโคกน้ำเชี่ยวได้ยังไง" ดาววดีร้องลั่น
"คุณจะไปโคกน้ำเชี่ยวเหรอ"
"แล้วคุณคิดว่าฉันจะไปแกรนแคนย่อนรึไง"
"ที่นี่แหละโคกน้ำเชี่ยว" ธงรบตอบเสียงรำคาญเต็มทน
ดาววดีตื่นเต้น
"ที่นี่น่ะเหรอ บ้านป่าเมืองเถื่อนนี่น่ะเหรอโคกน้ำเชี่ยว ตายแล้ว
ผู้คนเขาคิดยังไงถึงมาอยู่กันที่นี่เนี่ย"
ธงรบรำคาญสุดๆ "จะไปไหมคุณ"
"ฉันไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซค์"
"ก็แค่เอาก้นมาวางไว้บนเบาะเท่านั้นแหละ"
ดาววดีเอามือลูบๆ เบาะ กล้าๆ กลัวๆ ธงรบขึ้นขี่สตาร์ทเครื่อง
"เร็วสิคุณ"
"ฉันไม่กล้า"
"งั้นก็ตามใจ"
ธงรบตัดสินจะขี่ออกไป
ดาววดีตกใจรีบกระโดดขึ้นนั่งคร่อมเบาะท่าทางทุลักทุเล ธงรบหันมาเห็นก็อดขำไม่ได้
"ก็ไม่เห็นยากอะไรใช่มั้ยล่ะ จับดีๆ นะ จะซิ่งแล้วนะ"
ธงรบขับรถออกไป
ดาววดีเสียหลักกระตุกไปข้างหน้า มือกอดเอวธงรบโดยอัตโนมัติ
ธงรบพาดาววดีมาที่อู่ ซึ่งเป็นอู่เดียวกับที่ไม้เอารถของทุติยะมาซ่อม
ไม้เห็นดาววดีก็ตกใจรีบหลบไป ขณะที่ดาววดีของให้ธงรบไปส่งเธอที่ตลอด
เพื่อเอารูปไปเดินถามหาทุติยะจากพวกแม่ค้า เผอิญถนอมมาซื้อของแล้วเห็นก็ตกใจมาก
ก่อนจะตัดสินใจดึงรูปมาฉีกทิ้งทันที
ดาววดีเห็นก็โมโหมาก
"นี่แกมาฉีกรูปแฟนฉันทำไม หยุดนะ"
ดาววดีพยายามเข้าไปแย่ง แต่ถนอมไม่ยอม
ดาววดีทั้งจิกทั้งทึ้ง จนกลายเป็นทั้งคู่ตบตีกันนัวเนีย ถนอมเอาของในตะกร้ามาขว้าง
เละเทะ คนเริ่มเข้ามามุง ธงรบที่ยืนอยู่แถวนั้นรีบเข้าไปดู
พอเห็นทั้งสองก็รีบเข้าไปแยก
"หยุดนะ ทำอะไรกัน"
"ดาววดีกับถนอมยังดึงแย่งรูปกัน ก่อนที่รูปจะขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ดาววดีเห็นก็ร้องไห้โฮ
"มีอะไร ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จา ทำไมต้องตบกันด้วย อ้าว
เจ๊หนอม มีอะไรกันครับ"
"หนอมก็ไม่รู้ ก็ยัยนี่อยู่ดีๆ ก็บ้า
หวงกะอีแค่กระดาษหนังสือพิมพ์"
"มันไม่ใช่แค่กระดาษหนังสือพิมพ์
มันเป็นรูปแฟนฉัน"
"เพ้อเจ้อ รูปบี้ เดอะสตาร์ชัดๆ
สงสัยท่าจะเพี้ยนยัยนี่เพี้ยนหนักแล้วค่ะคุณปลัด"
ดาววดีจะเข้าไปเอาเรื่องถนอมอีก แต่ธงรบจับไว้
"พี่หนอมรีบไปก่อนเถอะครับ
เดี๋ยวผมจัดการเอง ไปเถอะคุณ"
ถนอมรีบเดินออกไป ดาววดีมองจ้องตามอย่างแค้นมาก
"ปล่อยฉันนะ"
"ใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์หน่อย อายเขาบ้างสิ คนมองใหญ่แล้ว"
ธงรบรีบพาดาววดีที่กำลังโมโหออกไปทันที
ด้านถนอมก็รีบตรงไปที่ไร่ด้วยหน้าตาตื่น
เพื่อส่งข่าวเรื่องของดาววดีให้หนูดำรู้
"หนอมเจอผู้หญิงคนหนึ่งกำลังตามหาคุณทุติยะในตลาด"
"จริงเหรอพี่หนอม"
"หนอมสาบานด้วยสภาพที่เห็น ตัวเป็นๆ เลยหนูดำ หนอมเพิ่งตบกับยัยนั่นมาเอง
เห็นบอกใครต่อใครว่าเป็นแฟน มีรูปมาด้วย เจ๊เลยทำมั่วนิ่มเอารูปมาฉีก
ก็เลยทะเลาะตบตีกันหูหัวพังแบบนี้แหละค่ะ"
"สวยมั้ยวะนังหนอม" บุญโฮมถาม
"สวยสิ สวยมากด้วยนะ ตางี้โต๊โต ปากก็อิ่มสวยเลยล่ะ หุ่นก็อื้อหือ
ท่าทางกรุงเท๊บกรุงเทพ อุ้ย แต่สู้หนูดำไม่ได้หรอก เฮะๆ"
"แล้วจะทำยังไงล่ะ
ถ้ายายนั่นตามมาเจอ แผนก็แตกสินายหนูดำ" ไก่รำพึง
"ไม่มีทาง
ยังไงฉันต้องกำราบนายทุยให้สำเร็จ คนอย่างหนูดำลงมือทำอะไรแล้ว ไม่มีเลิกง่ายๆ
ใครหน้าไหนก็ขวางไม่ได้ทั้งนั้น"
ธงรบขี่มอเตอร์ไซค์พาดาววดีมาจากตลาด
พลางบ่นต่อว่าหญิงสาวที่ไปมีเรื่องมีราว จนดาววดีทนรำคาญไม่ไหว
ขอลงกลางทางแล้วเดินเท้าไปเอง แต่ไปได้หน่อยเดียวก็เป็นลมกลางทาง
เพราะความอ่อนแรงจนกระทั่งทุติยะผ่านมาเจอเข้า
"ใครวะ มาทำอะไรแถวนี้"
"โอ๊ยยยไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย" ดาววดีรำพึงรำพันเหมือนคนใกล้ตาย
"คุณ เป็นอะไรน่ะคุณ" ทุติยะได้กลิ่นน้ำหอมก็ชะงัก
"กลิ่นอะไรหอมๆๆ คุ้นๆ
เหมือนเคยได้กลิ่นที่ไหน"
ดาววดีค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง
แล้วตกใจที่เห็นชายหนุ่มในสภาพเสื้อผ้าสกปรกจากชุดชาวไร่
มอมแมมใส่หมอไอ้โม่งปิดหน้าไว้ จนจำไม่ได้ว่าเป็นทุติยะ กำลังมาดมๆ อยู่ใกล้ๆ
"ว้าย แกเป็นใครน่ะ อย่าเข้ามานะ"
"กลิ่นคุณคุ้นมากเลย
ผมเคยรู้จักคุณรึเปล่า"
"อย่ามาดมฉันนะ ไอ้โรคจิต" ดาววดีตบตีปัดป้อง
"เดี๋ยวสิคุณ หน้าตาก็คุ้นๆ เราเคยรู้จักกันใช่ไหม รู้หรือว่า ว่าผมเป็นใคร"
"ช่วยด้วย ไอ้โรคจิตมันจะข่มขืนฉัน ช่วยด้วย"
ดาววดีลุกขึ้น
ผลักอกทุติยะแล้วถอดรองเท้าหิ้ววิ่งหนีไป พลางร้อง "ช่วยด้วยค่ะ"
"เดี๋ยว
อย่าเพิ่งไป ผมไม่ใช่โรคจิต คุณรู้จักผมหรือเปล่า"
"ฉันไม่รู้จักแก ไอ้บ้ากาม"
ดาววดีวิ่งหนีไป
ทุติยะทำหน้างงๆ "อะไร ถามดีๆ ดันหาว่าบ้ากาม หน้าคุ้นๆ จริงๆ
นะเนี่ย ใครกันนะ"
ดาววดีหนีเตลิดไปเจอชาวนาสองพ่อลูก
เลยขอติดรถอีแต๋นไปเข้าพักที่รีสอร์ตในหมู่บ้านจนได้
โดยไม่รู้ว่าเป็นที่เดียวกับที่ไม้มาพัก ไม้นอนเล่นอยู่ดีๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากทิวา
"คุณท่านโทรมาอีกแล้ว โกหกยังไงดีวะ ครับคุณท่าน"
"สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง"
"อู้ยย คะแนนกำลังขึ้นครับคุณท่าน เจ้านายฝากบอกว่าจะยังไม่กลับกรุงเทพฯ
นะครับ"
"มันติดใจอย่างนั้นเลยเหรอ"
"ติดใจมากครับ คาดว่าจะอยู่ไปเรื่อยๆ
ไม่มีกำหนด ไม่ต้องห่วงครับ ทุกอยจ่างกำลังเป็นไปด้วยดีครับ เฮ้ย"
ไม้ร้องออกมาอย่างลืมตัว เมื่อมองไปเห็นดาววดีเดินตรงมา
ทิวาได้ยินก็ถามว่ามีอะไร ไม้แกล้งทำเป็นสายหลุดจากทิวา แล้วรีบแอบไปดูดาววดีใกล้ๆ
อย่างหวั่นเกรง
จบ 2

ดำขำ 3
ไม้รีบร้อนไปหาหนูดำ
บอกเรื่องดาววดีเข้ามาพักที่รีสอร์ต เพื่อตามหาทุติยะ หนูดำกลัวว่าความลับจะแตก
เลยคิดแผนหาทางไล่ดาววดีกลับกรุงเทพฯ ให้เร็วที่สุด
หนูดำชวนสมุนทุกคนไปที่ห้องพักของดาววดีในรีสอร์ต แล้วแกล้งทำผีหลอก
ดาววดีเชื่อสนิทใจ แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น เธอแอบเห็นคราบฝุ่นสีดำจับอยู่ที่หน้าต่าง
บริเวณที่หนูดำกับพวกหลอก ก็รู้ว่าโดนแกล้ง เลยรีบโทรปรึกษาจูลี่
เพราะมั่นใจว่าต้องเป็นผู้หญิงของทุติยะแน่ที่ทำกับเธออย่างนี้
ที่บ้านกำนันแดง
หลังจากที่ทิวาโทรศัพท์มาบอกกำนันแดงให้รู้ว่าทุติยะอยู่ที่โคกน้ำเชี่ยว
ตามที่ไม้บอก กำนันแดงก็ตัดสินใจออกไปที่ไร่ เพื่อไปหาหนูดำ
เพราะคิดว่าลูกสาวยังไม่รู้เรื่องนี้
แต่ในเวลานั้นทุติยะแอบเข้ามาหลบนอนอยู่ในห้องของหนูดำตามลำพัง
พอได้ยินเสียงกุกกักเลยนึกว่าอีกฝ่ายเป็นขโมย จึงเอาไม้ไล่ตีกำนันแดงเป็นการใหญ่
จนหนูดำกลับมาเห็นพอดี
"นายทำอะไร"
"ผมจับขโมยได้
มันบุกเข้ามาห้องนายหนูดำ" ทุติยะพูดด้วยความภาคภูมิใจ แล้วแกะผ้าออก
"ดู
ดูหน้ามัน แก่ขนาดนี้แล้วยังคิดจะมาเป็นขโมยอีกนะ
อย่างนี้เขาเรียกว่าแก่แล้วไม่เจียม ลูกหลานไม่หาเลี้ยงรึไงถึงต้องมาเป็นขโมย"
หนูดำเห็นพ่อก็ซัดป้าบเข้าให้ที่กลางหลังทุติยะ
"ปากดีนักกล้าดียังไงมาด่าพ่อฉัน"
ทุติยะหน้าเหรอ "นี่พ่อนายหนูดำเหรอ"
"ก็เออสิวะ ไอ้หนูดำ ไอ้นี้มันเป็นใคร ทำไมมันถึงมานอนอยู่ในห้องแกดึกๆ ดื่นๆ
มิน่าถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ไอ้เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง นึกว่าเอาแต่ทำไร่
ที่ไหนได้ แอบซุกผู้ชายไว้นี่เอง เพราะงี้ใช่ไหมถึงได้ไม่อยากแต่งงานกับคุณทุ"
หนูดำรีบปิดปากพ่อทันที แล้วดึงไปหน้าบ้าน และเล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง
กำนันแดงฟังแล้วตกใจ
"ความจำเสื่อม ลูกชายไอ้วาความจำเสื่อมงั้นเหรอ
นี่แกทำอะไรของแกไอ้หนูดำ แกต้องแต่งกับเขา ไม่ใช่เอาเขามาทรมานอย่างนี้ พอๆ
พอกันที เรื่องใหญ่เรื่องโตแกจะมาทำเป็นเล่นไม่ได้"
"เดี๋ยวสิพ่อ
พ่อพูดเองไม่ใช่เหรอว่า ฉันต้องแต่งกับเขา"
"ก็เออน่ะสิ"
"แล้วพ่ออยากให้ฉันแต่งกับคนไม่เอาไหนงั้นเหรอ พ่ออยากได้ลูกเขยที่วันๆ
คอยถากถางเยาะเย้ยที่พ่อเป็นชาวไร่ยากจนรึไง
พ่อลองคิดใหม่นะว่าถ้าเราช่วยกันดัดนิสัยนายทุติยะซะก่อนแต่งงาน มันจะไม่ดีกว่าเหรอ
ฉันได้ผัวดี พ่อก็ได้เขยดีนะ"
"เออ มันก็จริง แต่ข้าว่ามันออกจะโหดไปหน่อย
อย่าเลยวะ" กำนันแดงจะไม่เล่นด้วย
"โธ่พ่อ พ่ออยากให้ฉันแต่งกับคนเลวรึไง
พ่ออยากให้ฉันไม่มีความสุขใช่ไหม"
กำนันแดงชะงักไป ค่อยๆ หันมามองลูกสาวอึ้งๆ
และยอมคล้อยตาม
วันต่อมาดาววดีไปแจ้งความที่โรงพัก
เจอกับธงรบจึงขอติดรถมาเดินตลาด
ขณะเดียวกันหนูดำก็มาพบบัวตองที่ควงทุติยะมาเที่ยวตลาดพอดี จึงรีบพาทุติยะหลบหนีไป
แต่ดาววดีเห็นหลังไวๆ จึงวิ่งตามไป แต่ก็โดนถนอมขัดขาจนล้มไปชนแผงขายของ
หนูดำพาทุติยะหนีออกมาที่ตลาดนัด ทุติยะร้องถามว่าจะรีบไปไหน
แล้วเขาก็สะบัดมือออก ทำให้หนูดำเสียหลักล้มลงไป และพลอยดึงเขาล้มไปด้วย
"โอ๊ยย
ทำบ้าอะไรเนี่ยนายหนูดำ เจ็บนะ"
ดาววดีวิ่งหนีพวกแม่ค้ามาพอดี
หนูดำเห็นก็รีบตะปบปากทุติยะให้เงียบ แล้วลากออกไป
ดาววดีหันกลับมามองพวกแม่ค้าคิดว่ารอดแล้ว ก็ยืนมองๆ ไปรอบๆ เห็นเข่งใบหนึ่งค่อยๆ
เลื่อนไป เธอมองแล้วเดินไปนั่งพักบนเข่ง โดยไม่รู้ว่าหนูดำกับทุติยะหลบอยู่
ทุติยะสะบัดจนหลุดจากมือหนูดำแล้วกระซิบ
"นายหนูดำ นี่มันอะไรกัน"
"เงียบๆ
สิ"
"ก็บอกมาก่อนสิว่าเกิดอะไรขึ้น"
"หุบปาก" หนูดำดุ
"ไม่หุบ"
ดาววดีได้ยินเสียงคุยกันก็ก้มลงมองจะพลิกเข่ง แต่ทันใดนั้นพวกแม่ค้าวิ่งมาเจอ
ดาววดีรีบบอก
"ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ"
"หน็อย ยังจะเถียงอีก"
"โอเคๆ
ฉันจะจ่ายเงินให้"
"เงินไม่เอา จะเอาเรื่องเว้ย
เล่นทำของพังแล้วหนีอย่างนี้มันต้องซัดกันหน่อยล่ะวะ เอาเลย"
ดาววดีรีบวิ่งหนีไป พวกแม่ค้าตามเป็นพรวน
หนูดำรีบหงายเข่งและพาทุติยะมาจนถึงลานจอดรถ วิ่งตัดหน้ามอเตอร์ไซค์ธงรบเข้าพอดี
"เฮ้ยยย หนูดำ!"
หนูดำฉีกยิ้มก่อนจะรีบลากทุติยะไปที่รถ ธงรบเรียกก็ไม่ฟัง
ดาววดีที่วิ่งหนีแม่ค้าอยู่ เห็นรถกระบะของหนูดำออกตัวเอี๊ยดอ๊าดหนีไป
และมีทุติยะนั่งไปด้วย ทั้งดาววดีและธงรบต่างเรียก
"คุณทุติยะ"
"หนูดำรอก่อน"
"นั่นรถใคร นายรู้จักเหรอ" ดาววดีถามธงรบ
"รู้สิ
พวกไร่กาฬมณี ถามทำไม"
"ไร่กาฬมณี รีบไปเร็วเข้า ตามรถคันนั้นไป"
ดาววดีกระโดดขึ้นซ้อนรถทันที
"เฮ้ย อะไรของคุณกันเนี่ย"
ดาววดีไม่สนสั่ง
"รีบไปสิ"
ขณะที่ธงรบพาดาววดีมาที่ไร่
ก็รู้ว่าทุติยะได้เจอกับดาววดีแล้วตั้งแต่เมื่อวาน จึงไม่ไว้ใจชายหนุ่ม
สั่งให้ไปเก็บเสื้อผ้าออกไปจากไร่ด้วยกัน แล้วทิ้งบุญโฮมกับคนอื่นๆ
ไว้รับหน้าดาววดี
ธงรบพาดาววดีมาถึง
ไก่ก็ลากบุญโฮมออกมาต้อนรับเพื่อยืนยันว่าทุติยะไม่ได้อยู่ที่นี่
แต่ดาววดีไม่ยอมเชื่อ ลุยเข้าไปตามหาในไร่ แต่เดินไปได้ไม่เท่าไรก็ขาแพลง
จนธงรบต้องช่วยประคองมานั่งพัก แล้วปฐมพยาบาลให้
"คุณจะทำอะไรน่ะ"
"ประคบเท้าให้คุณไง จะได้ไม่บวม" ธงรบประคบเท้าให้ดาววดี
ดาววดีแอบประทับใจ
"คุณใจดีแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ"
"ถามทำไมเหรอครับ"
"ก็ใครๆ
ก็ชอบคนใจดีกันทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าคุณใจดีอย่างนี้กับทุกคน
คุณก็ต้องเป็นที่รักของทุกคนเลยน่ะสิ"
"รวมทั้งคุณด้วยเหรอ อ้อ ไม่สินะ ผมลืมไป
คุณรักคุณทุติยะนี่ คงจะรักมากด้วยสินะ ถึงได้ยอมทำได้ถึงขนาดนี้ ผมถามจริงๆ เถอะ
ทำไมคุรถึงมั่นใจนักว่าไฮโซอย่างเขาจะอยู่ที่นี่"
"ฉันเห็นเขาน่ะสิ
เห็นแค่แวบเดียวก็จำได้แล้ว เขาออกจะโดดเด่น สะดุดตา
ไม่ธรรมดาเหมือนชาวบ้านแถวนี้หรอก"
"โดดเด่น สะดุดตา ไม่ธรรมดางั้นเหรอ"
ธงรบคิดๆ แล้วขมวดคิ้ว "หรือว่าจะเป็นนายทุย"
"คุณว่าอะไรนะ"
"ไม่มีอะไร
ผมชักอยากเห็นแล้วสิว่า คุณทุติยะแผนคุณจะโดดเด่นอย่างที่คุณคุยรึเปล่า"
ธงรบแก้ตัว แต่ก็ครุ่นคิดด้วยความติดใจสงสัยว่าทุยจะเป็นทุติยะ
00000000000000000
หนูดำกับทุติยะมุ่งหน้าไปกางเต้นท์บนเขา
โดยรับเสบียงจากถนอมไปเป็นอาหารมื้อเย็น
ก่อนจะปักหลักกางเต้นท์ก่อกองไฟกันบนเขานั่นเอง ทุติยะต้องทนกินอาหารแห้งๆ ชืดๆ
ที่ได้รับมาอย่างฝืดคอเต็มที
"เป็นชาวไร่นี่ลำบากจริงๆ งานก็หนักร้อนก็ร้อน
ออกแรงตั้งเยอะ แล้วยังจนอีกดูสิ ต้องมานั่งกินข้าวแข็งๆ
ที่นอนก็ไม่มีไฟฟ้าก็ไม่มี"
หนูดำโผล่ออกมาจากเต้นท์ "จะบ่นอะไรนักหนา
มีข้าวให้กิน มีเปลให้นอน มีไฟให้ผิง จะเอาอะไรอีก นายนี่มันเรื่องมากจริงๆ เลยนะ
ไม่มีความอดทนเอาซะเลย"
"ผมเห็นด้วย ผมไม่มีความอดทนจนน่าสงสัย
บางทีนะเวลาทำงานหนัก ผมยังสงสัยเลยว่า นี่ตกลงเราเป็นชาวไร่จริงๆ เหรอ
เราเป็นคนงานแน่เหรอ นายหนูดำคิดเหมือนผมไหม
ว่าบางทีผมอาจจะไม่ได้เป็นคนอย่างที่หนูดำคิดก็ได้นะ" ทุติยะพูดซื่อๆ
"หมายความว่ายังไง ไม่ใช่คนงานแล้วจะเป็นอะไร"
"บางทีผมอาจจะเป็นลูกคนรวย
เป็นลูกเศรษฐีที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน แต่บังเอิญว่ามีการสลับตัวเกิดขึ้น
ผมตกไปอยู่ในมือชาวไร่ ส่วนลูกชาวไร่ก็ตกไปอยู่ในมือพ่อผม"
หนูดำดุ "จะบ้าเหรอ
นั่นมันมีแต่ในนิยายแล้ว เพ้อเจ้อจริงๆ เลย แกเนี่ย ฮ่าๆๆ น้ำเน่าชะมัดเลย
หน้าอย่างนายนี่นะจะเป็นลูกเศรษฐี ถ้าจริงก็ดีสิ ฉันจะได้ยืมเงินนาย ฮ่าๆๆ"
"อืมม์ นั่นสิ สงสัยจะเพ้อเจ้อจริงๆ ฮ่าๆๆ"
หนูดำแกล้งหัวเราะไปเหล่ทุติยะไป
"นายไม่ชอบเป็นชาวไร่งั้นสิ
คิดว่ามันเป็นงานที่ต้อยต่ำน่ารังเกียจมากใช่ไหมล่ะ ชาวไร่เนื้อตัวก็มอมแมม
น่าขยะแขยง หนังสือก็ไม่ค่อยได้เรียน หน้าไม่ขาว ปากไม่แดง สวยก็ไม่สวย จนก็จน
ไม่ผู้ดีงั้นสิ"
"ไม่นะ ผมไม่ได้เกลียดเรื่องพวกนั้นนะ
ผมแค่ไม่ชอบคนที่เอาเปรียบคนอื่น คนขี้โกหก ไม่มีความจริงใจ
คนที่ปากอย่างใจอย่างไว้ใจไม่ได้ ผมไม่ชอบคนแบบนั้นต่างหาก"
หนูดำถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก รีบเสไปเรื่องอื่น
"คนความจำเสื่อมอย่างนายมันจะไปรู้อะไร"
หนูดำหนีเข้าเต้นท์ไปแล้วแอบไปนั่งทำหน้านิ่งตามลำพัง
"หลอกด่าเรารึเปล่าเนี่ย เชอะ ไม่ชอบก็อย่าชอบสิ
ฉันก็ไม่ชอบนายเหมือนกันน่ะแหละ นายจะต้องติดอยู่ที่ไร่นี่ไปจนแก่คอยดู"
อีกด้านหนึ่งที่บ้านของทิวาที่กรุงเทพฯ
พวกแก้วเริ่มเป็นห่วงที่ทุติยะขาดการติดต่อ จึงเอาโทรศัพท์มากดหาลูกชายด้วยตัวเอง
เมื่อไม่ติดก็เริ่มกระวนกระวายออกมา
แต่ทิวาไม่กล้าบอกความจริงจึงโกหกว่าอีกฝ่ายไปเที่ยวหัวหินกับดาววดี
"แต่ว่าทำอย่างนี้มันจะไม่งามน่ะสิ
ค้างคืนกันอย่างนี้กลับมาคงต้องจับหมั้นกันไปเลย แล้วเราก็ค่อยจัดงานแต่งให้
คนเขาจะได้ไม่นินทาเอา แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ฉันจะจัดงานแบบไหนดีนะ เอาแบบไฮเวดดิ้ง
ดีไหมคุณ ขึ้นไปจัดที่ลานเฮลิคอปเตอร์บนยอดตึก ใช้กุหลาบขาวปูให้ทั่ว
ปล่อยหงส์ขาวสองตัวคลอเคลียในบ่อน้ำพุ ให้เจ้าบ่าวลงจาก ฮ. เข้ามาในงาน
ให้เครื่องบนิบินผ่านพ่น ฟอร์เอเวอร์ เลิฟ พาดบนท้องฟ้า สงสัยฉันต้องปรึกษามาธา
สตวร์ตก่อนแล้วล่ะ หนูดาวเขาอาจจะอยากให้มีแฟชั่นโชว์ในงาน"
ทิวาที่ฟังอยู่ทนไม่ไหว "พอทีเถอะ เพ้อเจ้อมากไปแล้ว
ใครว่าทุติยะมันจะแต่งงานกับยัยหนูดาววดีของคุณ มันจะแต่งงานกับหนูดำต่างหาก"
พวงแก้วหันมามองอย่างงงงัน "หนูดำไหน"
"ก็ลูกไอ้แดงที่อยู่โคกน้ำเชี่ยวไง"
"โคกน้ำเชี่ยว บ้านเกิดคุณน่ะเหรอเฮอะ
แล้วทุติยะลูกชายฉันเกี่ยวอะไรกับยัยหนูดำนั่นไม่ทราบ"
"เกี่ยวไม่เกี่ยว
ตอนนี้เขาก็ดูตัวกันอยู่ล่ะน่า"
"ดูตัว" พวงแก้วลุกพรวดอย่างตกใจ
"ก็ใช่น่ะสิ ทุติยะมันไม่ได้ไปหัวหินหรอก
มันไปหาหนูดำว่าที่ภรรยามันต่างหากล่ะที่มันยังไม่กลับมาก็เพราะว่ากำลังหลงรักเขาอยู่หัวปักหัวปำยังไงล่ะ"
"ไม่จริง เป็นไปไม่ได้"
"แต่มันก็เป็นไปแล้ว
ผมว่าจะให้จัดงานแต่งโลว์คอสต์ที่ไร่ข้าวโพด ให้เจ้าบ่าวขับรถไถเข้ามา มีไก่สักเล้า
วัวสักฝูง ทั้งหมดคลอเคลียร์กันอยู่ในบ่อปลาแรด มีอีกาบินผ่านร้องว่า อีแก่ อีแก่
คุณว่าไงล่ะ"
พวงแก้วเถียงทันที "ไม่เอา ฉันไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาด ฉันก็ไม่ยอม
ฉันจะไปตามลูกกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เอาสะใภ้โคกน้ำเชี่ยว ฉันจะเอาสะใภ้ไฮโซ"
พูดแล้วพวงแก้วก็ผลุนผลันออกไปเลย ทิวาพูดตามหลังว่า
"ใจเย็นๆ สิคุณ
ดึกดื่นป่านนี้คุณจะไปได้ยังไง แถวนั้นก็กันดาร ลำบาก อันตราย โจรผู้ร้ายก็มี
ดีไม่ดีไปแล้วไม่ได้กลับนะจะบอกให้"
"ถ้างั้นคุณก็ต้องไปตามมา ถ้าวันพรุ่งนี้
ฉันยังไม่เห็นลูกอีกละก็ เราสองคนขาดกัน"
พวงแก้วเดินปึงปังออกไป
ทิวาอมยิ้มชอบใจ
คืนนั้นดาววดีตัดสินใจไม่กลับไปนอนที่รีสอร์ต
ธงรบเลยต้องพาเธอมาพักที่บ้านของหนูดำในไร่แทน
แต่เมื่อถนอมรู้เข้าก็วางแผนหาทางไร่ดาววดีออกไปอีกครั้ง
ด้วยการให้บุญโฮมปีนบ้านเข้าไปพยายามจะปลุกปล้ำดาววดี หญิงสาวตกใจแทบสิ้นสติ
แต่ก็ไม่ยอมกลับบ้าน แต่ขอไปนอนข้างกองไฟนอกบ้านกับธงรบแทนจนเช้า
ธงรบเห็นความลำบากของดาววดีแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้
"นี่คุณคิดจะปักหลักอยู่ตรงนี้ตลอดเลยใช่มั้ย"
"ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าจะเจอคุณทุติยะ"
ธงรบพยักหน้ารับรู้แล้วส่งถุงกระดาษให้ ดาววดีงง "อะไร"
"ครัวซองค์"
"ปาท่องโก๋เนี่ยนะ"
"ทำไม รังเกียจเหรอครับ ของถูกๆ กินไม่เป็นล่ะสิ"
"มันไม่เกี่ยวกับถูกหรือแพงหรอกนะ
แต่คุณรู้มั้ยว่าของพวกนี้เป็นแป้งสีขาวที่ย่อยยาก
กินเข้าไปก็ไม่มีอะไรดีกับร่างกาย ถ้าคุณอยากดูดีก็หยุดกินของแบบนี้ได้แล้ว"
ดาววดีเทศนา
"ไม่กินก็ไม่กินสิครับ ไม่ต้องติมากหรอก ผมก็แค่ชวนตามมารยาทน่ะ
เอานี่อาหารเช้าจากรีสอร์ตของคุณ ผมแวะไปเอามาให้
เขาบอกว่าเมื่อวานคุณก็สั่งแบบนี้"
ดาววดีแกะกล่องแล้วโวยวาย "น้ำผึ้งล่ะ
น้ำผึ้งไม่ได้เอามาเหรอ"
"เฮ้อออ แม่คุณเอ้ย มีใครเรื่องมากเท่าคุณไหมเนี่ย
ผมว่านายทุติยะอะไรนี่ต้องแน่มากๆ เลยนะ ถึงทนคุณได้
ไม่งั้นก็ต้องเหมือนคุณเด๊ะเลยแน่ๆ"
"เราก็แค่คนสองคนที่เหมาะสมกันมากๆ
คุณเข้าใจคำว่าเพอร์เฟกต์ใช่ไหม"
"สมบูรณ์แบบ"
"อะฮ้า
เราสองคนเป็นพวกเพอร์เฟกต์ชั่นนิสน่ะ"
"ไม่จริงหรอกคุณไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก
เราต่างก็โหยหาสิ่งที่เราขาดจากคนที่มีอย่างนั้นต่างหากที่เขาเรียกว่าเหมาะสมกัน"
"ฉันคิดไว้แล้วล่ะว่าคุณต้องไม่เข้าใจไม่เป็นไรหรอก มันอาจจะลึกไปน่ะ"
ดาววดีขยิบตา
"คุณล่ะ เป็นแฟนกับเจ้าของไร่เหรอ" ธงรบแทบสำลัก ทำหน้าไม่ถูก
"หนูดำน่ะเหรอ เรารู้จักกันตั้งแต่เกิดแล้วโตมาด้วยกัน"
"อ๋อ ก็โอเค.นะ
พื้นฐานเหมือนกัน คบกันก็ไม่มีปัญหา"
"พื้นฐานยังไง"
"ก็บ้านๆ ไง บ้านๆ
เหมือนกัน คุณนี่เข้าใจยากนะ เรียนหนังสือไม่เยอะเหรอ เอ๊ะ แล้วหัวช้าอย่างนี้
คุณทำงานรู้เรื่องหรอ"
ธงรบหมดความอดทน ลุกพรวด
"ผมเป็นปลัดอำเภอนะคุณ
ตอนสอบเข้าวัดกันที่สมอง ไม่ใช่หน้าตา"
"แหม ถ้าวัดหน้าตา คุณก็สอบตกน่ะสิ"
ธงรบถอนใจยอมแพ้ หันหน้าหนีไปเคี้ยวปาท่องโก๋เซ็งๆ
ดำขำ จบ 3

ไม่มีความคิดเห็น: