วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คุณแม่จำแลง 21

เอมี่ให้พิษณุช่วยคิดแผนที่จะ ช่วยเกรียงชัยไม่ให้เสียท่ารัญนรีกับเขตอรัญ พิษณุเลยวางแผนโทรไปบอกศศิวิภาว่าตอนนี้เกรียงชัยกำลังพาผู้หญิงไปกินข้าว ทำเอาศศิวิภาเต้น โทรไปหาเกรียงชัยทันที
ศศิวิภาในชุดนอนพอกหน้าขาว ยืนแว๊ดๆ ใส่โทรศัพท์ ถามว่าเกรียงชัยอยู่ไหน เกรียงชัยเหงื่อแตกพลั่ก อ้างว่ากำลังคุยงานอยู่ แต่ศศิวิภาไม่เชื่อ บอกว่ามีคนโทรมาฟ้องเธอหมดแล้ว เกรียงชัยตกใจเหงื่อแตก หันมองรอบตัวให้ควั่กว่ามีคนรู้จักไหม๊ เกรียงชัยยังยืนยันว่าเขามากับลูกค้าจริงๆ ศศิวิภาขอพูดสายด้วย เกรียงชัยรีบบอก
"ที่ผมไม่ให้คุณคุยด้วย เพราะว่าลูกค้าผมเป็นฝรั่ง คุณพูดภาษาอังกฤษแย่ยิ่งกว่าเด็กอนุบาลเสียอีก ขืนผมให้คุณคุยด้วยผมก็อายขายขี้หน้าเขาน่ะสิ"
ศศิวิภากรํดลั่น "กรี๊ดดด นี่คุณด่าฉันว่าโง่เหรอ กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่าให้ฉันออกไปตามนะ ฝร่งฝรั่งฉันไม่สนทั้งนั้น ฉันด่าไม่เลี้ยง"

"เลิกแว๊ดๆ ใส่หูผมเสียทีได้ไหม๊ ผมกลับแล้ว แค่นี้นะ!"
เกรียงชัยกดวางสายอย่างหัวเสีย บอกกับเขตอรัญ
"ผมกลับล่ะ ต้องไปอบรมเมียเสียหน่อย"
เขตอรัญตอแหล "คุยดีๆ อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยนะครับ ไม่ดีหรอก ผู้ชายเรา
ไม่ควรทำรุนแรงกับเพศแม่ หึๆ งั้น พรุ่งนี้ผมเอาเช็คนี่เข้าบัญชีเลยนะครับ"
"ได้เลยครับ ระดับผม รับรองไม่มีเด้ง เอ่อ" เกรียงชัยหันมาทางรัญนรี รัญนรีรีบพูด
"ไม่ต้องห่วงรัญหรอกค่ะ เดี๋ยวรัญกลับเอง คุณรีบกลับไปรับหน้าเมียเถอะ เกิดคุณศศิสงสัยขึ้นมา เรา2คนจะไม่ได้พบกันอีกนะค๊า"
รัญนรีทำเป็นกอดแขนซบเกรียงชัย ขณะที่ตามองเกรียงชัย ยิ้มให้กันอย่างสำเร็จ
เกรียงชัยกำลังขับรถกลับอย่างอารมณ์เสีย
" ไอ้บ้าที่ไหนวะ ดันโทรไปฟ้องเมีย คืนนี้ได้ฟังแม่บ่นทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอนกัน อี่ย์ ไอ้โรคจิตตัวไหนวะยุ่งเรื่องชาวบ้าน อย่าให้รู้ตัวนะมึง"
เกรียงชัย มองกระจกมองหลังแล้วต้องตกใจตาเหลือก เมื่อเห็นเงาตะคุ่มของใครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากเบาะหลัง เกรียงชัยร้องลั่น ตกใจจนเสียศูนย์จนบังคับรถไม่อยู่ รถขับเซไปเซมา เอมี่แหกปากตกใจร้องลั่นเกาะเบาะแน่น
"อ๊ายยย คนไม่ใช่ผี เบรกๆๆ สิปัดโธ่ ผมเอ้ย ฉะๆ ฉันยังไม่อยากตาย"
เอี๊ยด! เสียงเกรียงชัยเหยียบเบรกตัวโก่ง รถหยุดกึกหัวทิ่มอยู่ริมทาง พร้อมเสียงร้องของเอมี่ เกรียงชัยรีบลงจากรถไปยืนใจหายใจค่ำอยู่นอกรถ เอมี่ลากสังขารกลับมาเบาะหลังในสภาพที่วิกหลุด ซิลิโคลนโผล่ ดีที่เกรียงชัยลงจากรถไปแล้ว เอมี่รีบตะปบวิก ยัดนมให้เข้าที่เข้าทาง แล้วลงจากรถตามไป เกรียงชัยเห็นเป็นเอมี่ชี้ปากคอสั่น
"คะๆ คุณ! คุณขึ้นมาอยู่ในรถผมได้ยังไง? ศศิส่งคุณมาจับผิดผมใช่ไหม๊ ขอร้องล่ะ คุณอย่าเอาเรื่องผมมีกิ๊กไปบอกเมียผมนะ ศศิต้องฆ่าผมแน่ๆ เขาจ้างคุณมาเท่าไหร่ล่ะ ผมจะจ่ายให้คุณเท่านึงเลย ขอร้องคุณอย่าบอกศศินะ"
เอมี่ขำ "ฉันไม่ใช่สายของเมียคุณ ฉันมาเพื่อเตือนคุณต่างหาก"
"เตือนผม! เตือนผมเรื่องอะไร?"
"ก็เรื่องที่คุณไปร่วมหุ้นทำธุรกิจกับนายเขตอรัญน่ะสิ"
เกรียงชัยขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ "หา คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?"
"รู้สิ! แล้วก็รู้ด้วยว่าเขตอรัญกับรัญนรีรวมหัวกันหลอกคุณ"
เกรียงชัยอึ้ง แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ "คุณมีหลักฐานอะไรว่ารัญนรีร่วมมือกับเขตอรัญมาหลอกผม"
"หลักฐานเหรอ หึ ฉันไม่มีหลักฐานหรอก"
"อ้าว งั้นคุณก็มากล่าวหาเขาลอยๆ น่ะสิ ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง"
"แล้วคุณคิดว่าฉันจะมากล่าวหา2คนนั่นทำไม ในเมื่อฉันไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย รัญนรีก็เอ่อ เลิกกับธันวาไปแล้ว"
"หา รัญนรีเคยคบกับสามีเก่าคุณด้วยเหรอ?"
" ใช่ เพิ่งเลิกกันได้ไม่ถึงเดือน ส่วนนายเขตอรัญก็กำลังจะถูกคุณชัชชาฟ้องหย่า แถมยังถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้หลายล้าน ตอนนี้เขากำลังเดือดร้อนเรื่องเงินมาก"
"แต่เอกสารโครงงานอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่เขาเอามาชวนผมลงหุ้น เป็นของบริษัทเมียเขานะ เอกสารนั่นเป็นของจริง ผมเห็นมากับตา"
" ฉันไม่รู้ว่าเขาขโมยเอกสารนั่นมาได้ยังไงนะ แต่อยากให้คุณพิสูจน์ความจริง ด้วยตัวคุณเองซะก่อน ก่อนที่จะผลีผลามลงทุนกับนายเขตอรัญไป"
"คุณจะให้ผมพิสูจน์ยังไง?"
"งั้นคุณลองทำตามแผนของเอมี่ซิคะ"
เกรียงชัยนิ่งคิด ชั่งใจ ก่อนจะหันมามองเอมี่
00000000000000000000000
เช้าวันต่อมา หน้าธนาคารแห่งหนึ่งเห็นรถเขตอรัญมาจอดฝั่งตรงข้ามถนนของธนาคาร
เขตอรัญและรัญนรีอารมณ์ดี รัญนรีชูมืออย่างดีใจ
"ฉันจะได้จับเงินล้านแล้ว ฉันจะรวยแล้ว วู้"
"รอผมแป๊บหนึ่งนะจ๊ะที่รัก"
เขตอรัญหยิบเช็คของเกรียงชัยขึนมาจูบ หน้ายิ้มระรื่นแล้วเปิดประตูรถข้ามถนนไปธนาคารฝั่งตรงข้าม รัญนรีเริงร่าฝันหวาน
"ลาที ห้องเช่าสัปรังเคอึดอัดเท่ารูหนู ลาก่อนเมืองไทย ฉันจะได้ไปอยู่เมืองนอก ได้เห็นหิมะแล้ว วู้!"
เขตอรัญเดินอกมาจากธนาคารข้ามถนนมา เปิดเข้าไปนั่งในรถ รัญนรีรีบโผเข้าไปโอบกอดรอบคอเขตอรัญ
"ไหนล่ะเงินล้าน? ขอฉันดูหน่อยเร็ว"
"เงินล้านที่ไหนกัน อี่ย์!" เขตอรัญผลักรัญนรีกระเด็น
"คุณอย่ามาเล่นอย่างงี้นะ รัญไม่ตลกด้วย คุณเอาเช็คไปเบิกที่มาไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะเงิน10ล้าน เอามาดูซี?"
"10ล้านอะไร สักสลึงนึงก็ไม่มี เช็คมันเด้ง!"
เขตอรัญล้วงเช็คออกมาปาทิ้ง รัญนรีถลาไปหยิบเช็คมาดู
"หา เช็คเด้งเหรอ! ไม่จริง เกรียงชัยเขามีเงิน เขาไม่มาแหกตาเราหรอก"
" ใช่ มันมีเงิน แต่ที่ธนาคารบอกว่า มันโทรมาที่ธนาคารสั่งระงับการจ่ายเงิน ผมพยายามโทรติดต่อมันเท่าไหร่ แต่มันไม่ยอมรับสายเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ วันนี้มันถึงเปลี่ยนใจไม่ให้เงิน ทั้งๆ ที่เมื่อวานมันหลงเชื่อเราเสียสนิท"
รัญนรีนั่งคอตก แล้วก็คิดถึงเอมี่ที่เจอในร้านขึ้นมาได้
" นังเอมี่! ต้องเป็นนังเอมี่แน่ๆ ตอนที่ฉันเจอมันที่ร้านอาหาร มันเตือนฉันไม่ให้ยุ่งกับคุณ นังเอมี่มันต้องไปบอกอะไรกับนายเกรียงชัยแน่ๆ"
แต่เขตอรัญไม่สนใจเอมี่ เขาสนใจจะได้เงินเท่านั้น เขตอรัญถลาเข้ามาจับไหล่รัญนรี
"รัญ คุณต้องช่วยผมนะ มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะเกลี่ยกล่อมไอ้เกรียงชัยได้"
"แล้วจะให้รัญทำยังไง?"
" ไปหามันที่บริษัท ไปพูดกับมัน เกลี่ยกล่อมมันให้โอนเงินให้เราให้ได้ ไม่อย่างงั้นความฝันของเราที่จะได้ไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน ก็ต้องหายวับไปในพริบตา คุณอยากให้มันเป็นอย่างนั้นเหรอรัญ คุณอยากให้มันเป็นอย่างนั้นเหรอห่ะ!"
"ไม่มีทาง! ฉันทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ฉันจะไปเอาเงินจากไอ้เกรียงชัยให้เอง หึ! คุณไปรอฉันที่ห้อง"
รัญนรีคว้ากระเป๋าเดินออกไปจากรถ ปิดประตูปั๊ง ขึ้นรถแท็กซี่ ขณะที่เขตอรัญก็หันมาอาละวาดในรถทุบพวงมาลัยแทบพัง
"ฉันเกือบจะรอดอยู่แล้ว ทำไมต้องมีมารผจญทุกทีวะ"
เสียงมือถือเขตอรัญดังขึ้นเขตอรัญสะดุ้งทันที หยิบมามองเบอร์ยิ่งเหงื่อแตกพลั่ก
"ดันโทรไปบอกมันว่าจะจ่ายหนี้วันนี้ โธ่เว้ย ไอ้เกรียงชัยทำกูเสียแผนหมด อีเจ๊หมอน มันต้องฆ่ากูแน่ๆเลย ทำไงดี"
เขต อรัญรีบโยนมือถือทิ้งแต่มือถือก็ยังดังอย่างต่อเนื่องเขตอรัญนั่งกุมขมับ 2มือปิดหูอย่างประสาทเสีย เขตอรัญรีบออกรถทันที กลัวลูกน้องสมรศรีจะตามมาเจอ
เกรียงชัยกำลังจะเข้าห้องประชุม เดินมากับกลุ่มเพื่อนรวมทั้งอุเทน แต่รัญนรีเดินท่าทางรีบร้อนปรี่เข้ามาหา เพื่อนๆแซวเกรียงชัย ก่อนเดินเข้าห้องประชุมไป อุเทนทำเป็นเดินหลบมุมไปยืนถ่ายเอกสารที่มุมใกล้ๆพลางเงี่ยหูคอยฟัง
คำบอกเล่าที่เอมี่บอกว่ารัญนรีร่วมหัวกับเขตอรัญ ทำให้เกรียงชัยอยากพิสูจน์ ทำเป็นตีหน้ายืนยิ้มอ้าแขนรับ
"มาหาผมแต่เช้า คิดถึงผมขนาดนี้เชียวเหรอรัญ"
"คุณสั่งให้ธนาคารระงับเช็คทำไม?"
รัญนรีเสียงแข็ง เกรียงชัยชะงัก แต่ยังเก็บอาการ ยังทำไม่รู้ไต๋
"คุณรู้ได้ไง เขตอรัญโทรบอกคุณเหรอ?"
"ก็เขาโทรหาคุณ คุณไม่รับสาย เขาก็ต้องโทรหารัญซีคะ ทำไมคะเกรียงชัย
มันเกิดอะไรขึ้น คุณเซ็นเช็คให้เขาไปแล้ว ทำไมไม่ให้เงินเขา?"
"ช่างมันเถอะน่ารัญ คุณอย่าไปสนใจเลย"
เกรียงชัยจะโอบไหล่รัญนรี แต่รัญนรีผลักมืออย่างหัวเสีย
"ไม่สนใจได้ไง ก็คุณทำไม่ถูก! เขตอรัญเขาจริงใจจะร่วมหุ้นทำธุรกิจกับคุณ แต่คุณทำเป็นเด็กเล่นขายของแบบนี้ เขาเสียหายนะคะ"
เกรียงชัยมั่นใจแล้วว่า รัญนรีร่วมมือกับเขตอรัญแน่
"หึ นายเขตอรัญเสียหาย แล้วคุณเป็นอะไร๊ ท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนมากเลยนี่ ถึงได้ตามมาโวยวายกับผมถึงที่นี่"
รัญนรีสะอึกไป รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นออดอ้อน
"เอ่อ ปล่าว รัญไม่ได้เดือดร้อน รัญก็แค่อยากให้คุณได้ทำธุรกิจดีๆ"
"หึ ทำธุรกิจดีๆคุณนี่เข้าใจปั้นคำได้สวยหรูจริงนะ จนผมเกือบจะโง่หลงเชื่อตามคุณไปซะแล้ว"
"ปั้นคำอะไรคะ?"
"มันก็เหมือนที่คุณปั้นหน้าหลอกผมอยู่นี่ไง! นายเขตอรัญมันจะแบ่งเงินให้คุณเท่าไหร่ห่ะ คุณถึงยอมร่วมมือกับมันมาหลอกผม"
รัญนรีถึงกับช็อคหน้าซีดไปเลย "รัญ รัญปล่าว รัญไม่รู้เรื่อง"
"เอางี้ดีกว่า ผมไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราวคุณ แต่เงิน5หมื่นที่หลอกผมไป จะใช้คืนเมื่อไหร่?"
เจอ ไม้นี้เข้า รัญนรีถึงกับก้าวถอยหลังแล้วหันวิ่งหนีไปทันที เกรียงชัยยืนมองอย่างสมเพชตัวเอง หันจะเข้าห้องประชุม เห็นอุเทนยืนมองอยู่ เกรียงชัยนิ่วหน้า
"นายมายืนฟังอะไรห่ะ?"
อุเทนยิ้มๆ "หึ นายน่าจะขอบใจฉันมากกว่าจะมาโวยฉัน"
อุเทนพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องประชุมไป ทิ้งให้เกรียงชัยยืนงง
"ขอบใจแกเรื่องอะไรวะหึ! คนที่ฉันควรขอบใจน่าจะเป็น"
เกรียงชัยนึกไปถึงเอมี่
000000000000000000000000
ที่ โรงละคร ธันวาในร่างเอมี่กำลังยืนอึ้งอยู่โรงละคร มองรูปตัวเองกับชัชชาตอนที่ไปซื้อรองเท้าด้วยกันในห้าง ถูกแอบถ่ายและอัดรูปแปะทั่วบอร์ด มีจอมขวัญ แจ่มจันทร์และเหล่าสมาคมแม่บ้านพากันยืนดูวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ ศศิวิภาแอบยืนมองมาที่เอมี่อย่างสะใจ พิษณุเพิ่งมาถึง เดินควงแขนชนะชลเข้ามาเลย ชนะชลท่าทีรำคาญ แต่พอเห็นเอมี่ ก็รีบวิ่งไปหาทันทีว่าเอมี่ดูอะไรอยู่ ชนะชลเห็นรูปก็ตกใจ พิษณุที่วิ่งตามมาทีหลังเห็นเข้าก็อุทานออกมาเสียงดัง จอมขวัญ แจ่มจันทร์บอกว่าไม่รู้ใครเอามาแปะเต็มไปหมด ทุกคนมองไปที่เอมี่อย่างเห็นใจ ชนะชลปลอบ
"อย่าคิดมากนะครับคุณเอมี่ ไหนๆคุณก็เลิกกับคุณธันวาไปนานแล้ว เขาจะไปกิ๊กกับใคร...กุ๊กกับใคร...มันก็เป็นเรื่องของเขา"
ธัน วาในร่างเอมี่ก็ตีหน้าเฉยรับมือได้ทัน "ถูก! คุณชนะชลพูดถูกค่ะ ธันวาเขาจะทำอะไร มันเป็นสิทธิ์ของเขา มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันหรือใครทั้งนั้น แล้วอีกอย่างนึงรูปพวกนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ตกอกตกใจอะไรกันคะ ที่ฉันหงุดหงิด ก็ฝีมือคนถ่ายรูปนี่แหละค่ะ ถ่ายได้ห่วยจริงๆ"
ศศิวิภาหน้าชา ปรี่เข้ามาทันทีใจจังหวะที่เกรียงชัยก้าวเข้ามาในโรงละครพอดี
" จะบอกว่าไม่มีอะไรได้ยังไง! ถึงจะเลิกกับคุณไปแล้ว แต่คุณธันวาก็ทำไม่ถูกเพราะคุณชัชชาก็มีลูกมีสามีอยู่ ในฐานะประธานสมาคมผู้ปกครองนักเรียน คุณเอมี่น่าจะเตือนสามีตัวเองบ้างนะคะ ว่าทำแบบนี้เท่ากับตีท้ายครัวคนอื่นเขา มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี มันเสื่อมเสียมาถึงคุณเอมี่ด้วย"
เอมี่ตอกกลับ " ทำไมต้องเสื่อมเสียค่ะ ในเมื่อธันวากับคุณชัชชาเขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"
ศศิวิภาไม่ยอมแพ้ "แอบไปนัดพบกันสองต่อสอง ช้อปปิ้งด้วยกันเนี่ยะนะคะ ไม่ได้ทำอะไรผิด?"
" เขาไปทำงานกันค่ะคุณศศิ ไม่ได้แอบนัดพบ แล้วที่ไปซื้อรองเท้า เพราะธันวาเขารีบมากจนใส่รองเท้าผิดข้างไป ก็เลยไปซื้อคู่ใหม่ใส่ คุณชัชชาไปช่วยเลือกก็แค่นั้นเอง ไม่เห็นมีอะไร" เอมี่แก้ต่าง
"ไปทำงาน ฮิๆๆ คุณธันวากับคุณชัชชามีงานอะไรต้องไปทำด้วยกันไม่ทราบ" ศศิวิภาเบ้ปาก เหยียดๆ
"ต๊าย พูดอยู่ได้ตั้งนาน สรุปว่าคุณไม่รู้ ว่าคุณชัชชากับธันวาเป็นหุ้นส่วนเฟรนไชน์ถังทองไทเครปกันแล้ว" พิษณุช่วยอีกแรง
ศศิวิภาอึ้ง หน้าถอดสี "เอ่อ ฉันจะไปรู้ได้ไง ก็ไม่มีใครบอกฉันนี่"
เอมี่เสริมพิษณุ "แล้วห้างที่เห็นในรูปนี่ ธันวากับคุณชัชชาเขาก็ไปดูตกแต่งร้านถังทองสาขาแรกกัน"
จอม ขวัญได้ทีกัดว่าศศิวิภาหน้าแตก ขณะที่แจ่มจันทร์รีบเก็บรูปก่อนที่ชัชชาจะมาเห็นเข้า พลางบ่นอย่างไม่รู้ว่าเป็นศศิวิภา ว่าทำไมใครโรคจิตเอารูปพวกนี้มาแปะได้ จอมขวัญเหล่มอง ศศิวิภารีบหลบตา เกรียงชัยยืนถอนใจเพราะรู้ว่าเป็นฝีมือเมียตัวเองแน่ๆ เมื่อทุกคนแยกย้ายไป
เอ มี่หันไปเห็นเกรียงชัย ทั้ง2มองหน้าอย่างรู้กัน เกรียงชัยบุ้ยใบ้ให้เอมี่ออกไปคุยกันข้างนอก ศศิวิภาหันมาเห็นเกรียงชัยพอดี ถามเกรียงชัยมาทำอะไรที่นี่ เกรียงชัยอ้างว่ามาดูศศิวิภาซ้อมละคร ศศิวิภาผละไปอย่างไม่ไว้ใจนัก ไปหาทุกคนที่กำลังวอร์มอยู่บนเวที ขณะที่เกรียงชัยทำเป็นนั่งดู แต่รอจังหวะที่จะหลบออกไปหาเอมี่
เกรียงชัยหลบออกจากโรงละครมาหาเอมี่ ที่ยืนรออยู่อย่างร้อนใจ พอเอมี่ออกมา เกรียงชัยก็ขอบคุณที่เอมี่ไม่ทำให้เขาต้องหมดตัว เสียท่าให้กับเขตอรัญไป พลางขอโทษแทนศศิวิภาที่ทำไม่ดีกับเอมี่ด้วย เอมี่ยิ้ม
"ก็ไม่อยาก ถือสาหรอกค่ะ แต่เมียคุณพยายามจับผิดฉันตลอดเวลา อย่าว่าฉันพูดมากเลยนะคะ แต่ฉันว่า คุณเอาเวลาที่ไปทุ่มให้กับพวกกิ๊กกั๊กอย่างรัญนรี มาเอาใจใส่เมียกับลูกจะดีกว่าค่ะ ครอบครัวจะได้อบอุ่นขึ้นไงคะ"
"โอ๊ย ผมคงไม่กล้ามีกิ๊กอีกนาน แล้วผมจะพยายามเตือนๆศศิไม่ให้มายุ่งกับคุณ"
" ดีค่ะ ฉันจะได้ไม่ปวดหัว ตอนนี้เขตอรัญไม่ได้เงินจากคุณแล้ว มันคงไม่มีเงินไปใช้หนี้ มันต้องดิ้นพล่านๆหาเงินจากที่ไหนแน่" เอมี่ชักห่วงชัชชา "ฝากอะไรหน่อยนะ ถ้าใครถาม บอกว่าฉันมีธุระด่วนต้องรีบไป ขอบใจนะ"
ธันวาลืมตัวตบไหล่เกรียงชัยแบบผู้ชายแมนๆ ก่อนเดินผละไป เกรียงชัยยืนงงๆ แล้วเอมี่ก็หยุดเหมือนนึกอะไรได้ หันมาบอก
"อ้อ อีกคนที่คุณควรจะไปขอบใจคือคุณอุเทน เค้าเป็นคนสงสัยว่ารัญนรี กำลังหลอกสูบเลือดสูบเนื้อคุณ เลยเอามาบอกฉัน ฉันถึงได้เตือนคุณ"
เอ มี่เดินไป เกรียงชัยยืนอึ้งเพิ่งตาสว่าง ศศิวิภาเดินออกมา เห็นเข้า ก็ระแวงว่าเกรียงชัยจะนอกใจไปหาเอมี่หรือเปล่า เกรียงชัยหงุดหงิด
"พอ ทีเถอะคุณ! คุณเอมี่เขาไปทำอะไรให้ คุณถึงคอยไล่บี้เขายังงี้ เลิกยุ่งกับเขาเสียทีได้ไหม๊ ยุ่งแต่เรื่องของคุณเถอะน่า ไป ไปซ้อม"
เกรียงชัยจูงมือศศิวิภาเข้าโรงละครไปพร้อมเสียงบ่นของศศิวิภา
"แล้วอยู่ๆ ทำไมไปเข้าข้างยัยนั่น อย่าให้รู้แล้วกันนะว่านอกใจฉัน"
00000000000000000000000
เป็น อย่างที่เอมี่คิด เพราะพอเขตอรัญรู้จากรัญนรีว่าเกรียงชัยรู้ตัวแล้ว ก็หมดหนทางจะไปเอาเงินที่ไหน นอกจากไปข่มขู่ชัชชาที่ทำงาน เขตอรัญล็อกตัวชัชชาไว้ และบอกให้เซ็นเช็คเงินสดให้เขา 10 ล้าน ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าชัชชา
"อยากตายหรืออยากอยู่กับลูกห่ะ? ถ้าอยากตาย ฉันจะได้เลี้ยงน้ำฟ้าให้เอง แต่ถ้าเธอไม่อยากให้ลูกอยู่กับฉัน ยังอยากจะอยู่กับลูก ก็เซ็นเช็คให้ฉันเดี๋ยวนี้!"
ด้วยความห่วงลูก ชัชชารีบล้วงควานหาสมุดเช็คจากกระเป๋าถือด้วยมือที่สั่นเทา
ประ ตูถูกธันวาถีบผางเข้ามา แล้วภาพที่ธันวากับวีรรัชนีเห็นแล้วช็อคคือ ชัชชาถูกเขตอรัญล็อคให้เขียนเช็คอยู่ที่โต๊ะทำงาน วีรรัชนีถึงกับยกมือปิดปาก ขณะที่ชัชชาเงยหน้ามองมาเห็นธันวา เธอดีใจจนร้องตะโกนเรียกธันวาออกมา เขตอรัญรีบบีบปากชัชชาไว้แน่น และจิกหัวบังคับให้ชัชชาเซ็นเช็ค แต่วินาทีนั้นชัชชาได้โอกาสเลยกัดมือเขตอรัญที่ปิดปากเธออยู่เต็มแรง เขตอรัญร้องลั่น
ชัชชาผลักเขตอรัญผงะออกไป แล้วลุกวิ่งมาหาธันวา แต่เขตอรัญก้าวตามเข้ามาคว้าแขนชัชชาไว้ได้ ชัชชายื่นมืออีกข้างไขว่คว้ามาที่ธันวา ธันวาคว้ามือชัชชาไว้ได้ แล้วก็ถีบเต็มแรงไปที่ท้องของเขตอรัญที่ยื้อยุดแขนอีกข้างของชัชชาอยู่ ร่างของเขตอรัญกระเด็นไปชนโต๊ะข้าวของล้มระเนระนาด ขณะที่ร่างของชัชชาถลาเข้ากอดธันวาไว้ ธันวาให้วีรรัชชะนีโทรแจ้งตำรวจ เ
ขตอ รัญได้ยินตำรวจก็รีบลุกวิ่งหนีออกไปทันทีจนชนวีรรัชนีที่กำลังไปโทรศัพท์ที่ โต๊ะ ชัชชาตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของธันวา จนธันวาต้องดึงไหล่เธอออกมาดู ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ชัชชาส่ายหน้า พยายามอดกลั้นน้ำตาไว้ อายพนักงานที่พากันมามุมดูเต็มไปหมด ก่อนจะบอกวีรรัชนีว่าไม่ต้องแจ้งตำรวจแล้ว ปล่อยเขตอรัญไป
ธันวาจับ หน้าชัชชาถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง ว่าแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ชัชชาพยักหน้า ค่อยๆ ถอยห่างออกมาจากธันวา จัดผมเผ้าเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง แล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะทำงาน เก็บเช็คและทุกอย่างใส่กระเป๋าถือด้วยท่าทางที่พยายามควบคุมสติตัวเอง ธันวายืนมองอย่างสงสาร แต่พูดอะไรไม่ออก ชัชชาหิ้วกระเป๋าลุกขึ้น ธันวาถามว่าจะไปไหน ชัชชาบอกจะออกไปดูร้านที่ตกแต่ง ธันวาตามไปด้วย
ด้าน ปารินพยายามโทรมือถือหาชัชชาอยู่ที่ห้องทำงาน ขณะที่วีรรัชนีกับแม่บ้านกำลังเก็บกวาดข้าวของในห้องอยู่ แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด ยิ่งเป็นห่วงว่าชัชชาจะเป็นอะไรไหม วีรรัชชะนีเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมด และบอกว่าชัชชาไม่ให้เธอแจ้งความ แถมยืนยันจะออกไปดูงานท่าเดียว ธันวาเป็นห่วงเลยตามไปด้วย ปารินทรุดนั่งอย่างเครียด
"ทำไม! เวลามีเรื่อง ต้องมีนายธันวาอยู่กับคุณทุกครั้ง ทำไมไม่เป็นผม ผมห่วงคุณ จนจะบ้าตายอยู่แล้ว"
0000000000000000000000000
หลัง จากดูงานเสร็จแล้ว ชัชชาก็ไปรับน้ำฟ้า ส่วนธันวาก็ไปรับปอโต้ ธันวาทำท่าจะอาสาไปส่ง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อปารินเข้ามาแทรกตรงหน้า ชัชชาแปลกใจที่เห็นปาริน ปารินเข้าไปอุ้มน้ำฟ้าขึ้นรถ แล้วบอกจะพาไปกินไอติมก่อนกลับ น้ำฟ้าดีใจใหญ่ เร่งแม่ให้ขึ้นรถ ชัชชามองไปที่ธันวาก่อนก้าวขึ้นไปนั่งบนรถปาริน ปารินขับรถผ่านหน้าธันวาไป ธันวาได้แต่มองตามแล้วกลับเข้ารถ ลืมตัวถอนใจดังจนปอโต้หันมามอง
"พ่อชอบคุณแม่น้ำฟ้าเหรอฮะ?"
ธันวาแทบช็อคกับคำถาม หันมาฝืนยิ้มมองปอโต้
"เฮ้ย ทำไมถามพ่ออย่างงั้นล่ะไอ้เสือ?"
"ก็ดูพ่อผิดหวัง ที่ไม่ได้ไปส่งคุณแม่น้ำฟ้า แต่มีคนอื่นตัดหน้าไปส่งแทน"
"ผิดหวังอะไร พ่อแค่อยากทำดี ตอบแทนน้ำใจคุณแม่น้ำฟ้าเขา ที่อนุมัติเฟรนไชน์ร้อยสาขาให้เราก็เท่านั้นเอง"
"เท่านั้นจริงเหรอฮะ?"
"ก็จริงน่ะซี พ่อเคยโกหกเราเหรอ?"
"บ่อยไป"
"ยังกะเราไม่เคยโกหกพ่องั้นแหละ กลับบ้านเราดีกว่า"
ธันวาตัดบทรีบขับรถออกไป
ปา รินนั่งครุ่นคิดเครียด ชัชชาส่งน้ำฟ้าให้ขึ้นไปอาบน้ำข้างบน มองมาที่ปาริน ถอนใจกับท่าทีที่นับวันจะดูจริงจังของปาริน ชัชชาเดินออกมาหา ชัชชาถามว่าโกรธที่เธอไม่ได้โทรบอกเรื่องเขตอรัญหรือ ปารินเสียดสี ว่าชัชชามีธันวาอยู่ทั้งคน จะโทรหาเขาทำไม และไม่เข้าใจทำไมทุกครั้งที่มีเรื่อง ชัชชาต้องอยู่กับธันวาตลอด ชัชชาบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ปารินหัวเราะขื่นๆ บอกว่าตอนแรกเขาก็คิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้ว
"บางที นายธันวาอาจจะคอยตามดูคุณก็ได้"
"เขาจะทำอย่างนั้นเพื่ออะไรกัน?"
"ก็เพราะเขาชอบคุณไง!"
ชัชชาตะลึงงัน ปารินระเบิด
" นายธันวาเขาชอบคุณ เขาถึงได้คอยตามดูแลคุณ คอยทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องคุณ ทุกครั้งที่มีเรื่องมีราวเกิดขึ้นกับคุณ ต้องมีนายธันวาอยู่ด้วยทุกครั้ง"
"พอทีเถอะปาริน วันนี้ฉันเจอแต่เรื่องมามากแล้ว ฉันอยากพัก"
ชัชชาหันจะเดินเข้าบ้าน เห็นชัชชาโกรธ...ปารินรีบคว้าแขนไว้
"ผมขอโทษชัช ผมไม่ตั้งใจทำให้คุณโกรธ ผมอาจจะคิดมากไปเอง เพราะเป็นห่วงคุณ"
ชัชชานิ่งอึ้ง มองปารินผู้แสนดีอย่างเห็นใจ
" ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ ฉันทำให้คุณเอาทุกวินาทีที่มีค่าในชีวิตคุณมาจมปลักอยู่กับเรื่องของฉัน ฉันอยากให้เรื่องฟ้องหย่าของฉันกับเขตอรัญจบลงเร็วๆ คุณจะได้ไปมีชีวิตของคุณเองเสียทีปาริน"
"ไม่! ชีวิตของผมก็คือคุณ ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนทั้งนั้น ไม่มีเขตอรัญแล้ว ขอให้ผมได้เป็นคนดูแลคุณกับน้ำฟ้าเถอะนะชัชชา"
ชัชชาได้ยืนอึ้งอ่อนใจ
00000000000000000000
อุ เทนกำลังนั่งพิมพ์งานที่คอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียด เกรียงชัยชงกาแฟมาเผื่ออุเทน และถามว่ามีอะไรให้เขาช่วยไหม อุเทนชะงัก หันมาขมวดคิ้วมอง เกรียงชัยบอกว่าเขาติดหนี้บุญคุณอุเทนอยู่ อุเทนอึ้งเมื่อเห็นว่าเกรียงชัยรู้แล้ว
"อืม คุณเอมี่เล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ว่านายเป็นคนไปบอกเธอว่าสงสัยรัญนรีกับเขตอรัญรวมหัวกันวางแผนหลอกเงินจาก ฉัน ขอบใจมากนะอุเทนที่แล้วๆ มา ถ้าฉันกวนโอ๊ยอะไรนายเอาไว้ ก็โหสิให้ฉันก็แล้วกันนะ บางทีคนโง่ก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองโง่"
เกรียงชัยใช้แก้วกาแฟตัวเองชนกับแก้วกาแฟของอุเทนที่วางอยู่
"ไว้มีอะไรให้ช่วย ก็บอกแล้วกัน"
เกรียงชัยเดินผละไป ขณะที่อุเทนยังนั่งขมวดคิ้วคิดอยู่
"เฮ้ย ฉันไม่ได้บอกคุณเอมี่นะ ฉันบอกคุณธันวาต่างหาก"
แต่เกรียงชัยไม่ได้ยิน เดินไปแล้ว
ปอ โต้นั่งเล่นอยู่ที่หน้าโรงละครคนเดียว ขณะที่บรรดาแม่ๆ กำลังซ้อมละครอยู่ด้านใน ทำเอา2สาวน้ำฟ้ากับบุ้งกี๋ที่เพิ่งเดินถือขนมออกมาจากโรงละครมองอย่างแปลกใจ ว่าทำไมปอโต้ไม่พูดไม่จา น้ำฟ้ากับบุ้งกี้เดินเข้ามาหาปอโต้ น้ำฟ้ายื่นขนมให้ ปอโต้ส่ายหน้าไม่เอา น้ำฟ้าสงสัยว่าปอโต้โกรธตัวเองหรือเปล่า ปอโต้บอก
"ปล่าวโกรธ แต่ปอโต้ไม่ชอบเลย ที่คุณแม่น้ำฟ้ามาสนิทกับพ่อเรา"
น้ำฟ้าอึ้งไป ขณะที่บุ้งกี้ดูสนอกสนใจ นิสัยเหมือนแม่ จนต้องเข้ามานั่งข้างถามปอโต้
"อะไรนะ คุณพ่อปอโต้กับคุณแม่น้ำฟ้าสนิทกันจริงเหรอ?"
ปอโต้พยักหน้า "หื๊อ คุณแม่น้ำฟ้าเคยนั่งรถพ่อเราไปรับเรากับน้ำฟ้าที่โรงเรียนด้วย"
"หา งั้นก็แปลว่าคุณพ่อปอโต้กับคุณแม่น้ำฟ้าก็เป็นแฟนกันน่ะสิ" บุ้งกี้ตาโต
ปอโต้ลุกพรวด "คุณแม่น้ำฟ้าจะมาเป็นแฟนกับพ่อเราไม่ได้นะ! เราไม่ยอมหรอก พ่อเราต้องรักแม่เอมี่คนเดียว"
"เราก็ไม่ยอมให้แม่เรารักพ่อตัวเหมือนกันแหละ ตัวก็ไปบอกพ่อตัวสิ ว่าอย่ามายุ่งกับแม่เรา!"
น้ำ ฟ้าเม้มปากมองปอโต้อย่างโกรธ บุ้งกี้ตกใจมองอ้าปากหว๋อ ทั้งคู่ทะเลาะกัน จนน้ำฟ้าผลักปอโต้ล้มลง แล้ววิ่งไป วินาทีนั้นปอโต้รู้สึกผิด วิ่งไปจะขอโทษน้ำฟ้า แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชาย 2 คน โผล่ออกมาจากต้นไม้ ยืนดักหน้าน้ำฟ้า ขณะที่ปอโต้ที่วิ่งตามหลังไป มาหยุดยืนข้างๆ น้ำฟ้า หน้าตาทั้งสองตกตะลึงจ้องมองชายทั้งสองไม่กระพริบ เพราะหน้าตาดูไม่เป็นมิตรเลย
บุ้งกี้ผลักประตูโรงละครวิ่งร้องไห้เข้ามา ทุกคนชะงักหันไปมอง จอมขวัญรีบลงจากเวที ขณะที่บุ้งกี้วิ่งร้องไห้เข้ามาโผกอด บอกว่าน้ำฟ้ากับปอโต้ถูกโจรพาขึ้นรถตู้ไป เสียงร้องตกใจดังขึ้นทั่วโรงละคร ชัชชากรีดร้องลั่นพร้อมกับวิ่งออกไปทันที เอมี่วิ่งตามไปติดๆ แต่ไม่เจอเงาปอโต้และน้ำฟ้าแล้ว ชัชชาทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เอมี่รีบเข้ามาพยุง
"ทำใจดีๆ ไว้คุณชัชชา ลูกเราต้องไม่เป็นอะไร"
ชัชชาเงยหน้ามองเอมี่ทั้งน้ำตา
"ทำยังไงดีคะคุณเอมี่ ช่วยน้ำฟ้าด้วย"
ชัชชาโผกอดเอมี่ร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ ธันวาเองก็เป็นห่วงปอโต้แทบขาดใจ
ใน รถตู้ ปอโต้กับน้ำฟ้ากำลังดิ้นกรีดร้องอยู่ในรถตู้ ขณะที่กำลังถูดมัดมือมัดเท้า ปอโต้ดิ้นกัดมือโจร โจรโมโหตบผัวะ ปอโต้ถึงกับมึนหยุดไป
"เป็นไง สงบเลยมึง! อยู่ดีไม่ว่าดี เสือกวิ่งตามมา ฆ่ามันทิ้งซะดีไหม๊จะเอามาด้วยทำไม"
โจร อีกคนที่ทำหน้าที่ขับรถร้องห้ามขึ้น "เฮ้ย! มึงจะฆ่ามันให้เรื่องถึงมือตำรวจทำไมวะ งานนี้เฮียเค้าสั่งมาให้แค่ลักพาตัว พอได้เงินแล้ว เราก็ปล่อยเด็ก ให้เรื่องมันจบเงียบๆ"
รถตู้วิ่งออกนอกเมืองไป

ไม่มีความคิดเห็น: