วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 14

บริเวณ ห้องพักญาติของโรงพยาบาล วชรวรรษเข้ามาคุยกับลุงกริช นาท แก้วขวัญ อุบล และเข่งที่รออยู่ บอกว่าเขาคุยกับหมอแล้วคิดว่าอีกไม่กี่วันใบไผ่คงจะพื้น ส่วนเรื่องรักษาพยาบาลเขาจะรับผิดชอบทั้งหมด ขอให้ทุกคนสบายใจได้ อุบลจึงหันไปต่อว่ากริชว่าเป็นเพราะกริชเสื้ยมสอนหลานให้เหมือนผู้ชาย บ้าดีเดือดไม่กลัวใครจึงต้องมาเจ็บตัวแบบนี้
"คุณป้าอย่าโทษคุณลุงเลยครับ เรื่องนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมขอโทษนะครับ"
เข่ง หมั่นไส้สุดจะทน "เออ ใช่ ที่ไผ่ถูกยิง มันเป็นเพราะแกนั่นแหละไอ้มาเฟีย แกทำให้ไผ่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับลูกปืน เพราะไผ่ดันมาคบกับมาเฟียอย่างแก ไอ้มาเฟียเฮงซวย ไอ้มาเฟียเห็นแก่ตัว ไอ้มาเฟีย"
"หยุดได้แล้วไอ้เข่ง แกจะด่าเขาไปถึงไหน" นาทปราม
"ไม่หยุด วันนี้ไอ้เข่งมันเหลืออดแล้ว ใครทำไผ่เจ็บ ก็เหมือนทำเข่งเจ็บไปด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เข่งจะทำให้มันได้รู้จักเจ็บมั่ง"
เข่งเดินไปประจันหน้าจะเอาเรื่อง วิชญ์กับทศเดินเข้ามาจ้องหน้าเข่ง ทำเอาเข่งเหวอ รีบถอยไปยืนข้างๆ นาทตั้งหลัก
"เห็นมั้ยอานาท พูดไม่ทันขาดคำ พวกมันจะชักปืนยิงใส่ฉันแล้ว เห็นมั้ย"
วชรวรรษหันไปมองลูกน้องเตือนด้วยสายตาให้ถอยไป แก้วขวัญเดินมาหาวชรวรรษ
"ฉันว่าคุณกลับไปก่อนเถอะนะคะคุณวัชร"
วชรวรรษนิ่งไปครู่ก่อนจะตัดสินใจยกมือไหว้ลากริชกับอุบล
"แล้วผมจะมาเยี่ยมไผ่อีกนะครับ"
เสี่ยทำนุตบหน้าลูกน้องอย่างแรงที่ทำงานผิดพลาด
" โง่งี่เง่า แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เฝ้ากันไม่ได้ มันหนีไปแบบนี้ พาความซวยมาให้แท้ๆ แบบนี้ไอ้วัชรมันต้องไม่ปล่อยฉันเอาไว้แน่ๆ ถ้าฉันเป็นอะไร พวกแกต้องตายก่อน ไสหัวออกไปให้หมด"
ลูกน้องพากันกลัว ออกไป เสี่ยทำนุทิ้งตัวลงนั่งด้วยความโมโห แววตาเต็มไปด้วยความกังวล โดยไม่รู้เลยว่าวชรวรรษได้บุกเข้ามาที่บ้านของตัวเองแล้ว ทันทีที่หันไปเสี่ยทำนุก็สะดุ้งตกใจที่เห็นวชรวรรษยืนหน้าเหี้ยมอยู่ เสี่ยทำนุเปิดลิ้นชักจะหยิบปืนออกมา แต่วชรวรรษไวกว่ากระโดดเข้ามาคว้าคอเสื้อเสี่ยทำนุ เสี่ยทำนุหน้าตื่น
"ไอ้สารเลว!!" วชรวรรษเงื้อหมัดจะต่อย
"แกจะทำอะไร จะฆ่าฉันเหรอ"
วชรวรรษชะงักมองเสี่ยทำนุ เสี่ยทำนุทำใจดีสู้เสือ
"เสี่ยอย่าท้าผมนะ"
" ฉันไม่ได้ท้า อยากฆ่าฉันก็ทำเลย ยังไงฉันก็ไม่มีทางหนีไปได้อีกแล้ว หัวใจฉันอยู่นี่ ยิงเลย แต่บอกไว้ก่อนนะ ลูกน้องฉันเยอะแยะ พวกมันพร้อมจะชี้ตัวว่าแกเป็นฆาตกร ให้แกตายทั้งเป็นอยู่ในคุกทรมานกว่าฉันเยอะไอ้หลานชาย"
วชรวรรษจ้องหน้า เสี่ยทำนุลังเล กำคอเสื้อเสี่ยทำนุแน่น นึกถึงสิ่งที่เขาให้สัญญากับวรรษา วชรวรรษมองเสี่ยทำนุอยู่อีกครู่ก่อนจะค่อยๆ คลายมือปล่อย แล้วผลักเสี่ยทำนุอย่างแรง
"ผมไม่อยากเอาชีวิตไปแลกกับคนไม่มีค่าอย่าง เสี่ย เพราะผมยังมีเรื่องสำคัญรอให้ผมรับผิดชอบ มือของผมมันสะอาดแล้ว ผมจะไม่ให้มันเปื้อนเลือดชั่วๆ ของเสี่ยอีก"
"แกเป็นมาเฟีย พ่อแกก็เป็นมาเฟีย เพราะฉะนั้นสันดานของแกก็ยังเป็นมาเฟียนั่นแหละ แกไม่มีทางเปลี่ยนสีดำเป็นสีขาวได้หรอก"
" ถึงผมเปลี่ยนสีดำไม่ได้ แต่ผมก็ลบมันออกไปได้ และถ้าเสี่ยยังมายุ่งกับครอบครัวของผม เพื่อนของผมอีก ผมไม่ฆ่าเสี่ยหรอก แต่เสี่ยอย่าลืมว่าผมรู้ไส้รู้พุงของเสี่ยดี หลักฐานชั่วๆ ธุรกิจเลวๆ ที่เสี่ยทำเอาไว้ รับรองถึงมือตำรวจแน่"
วชรวรรษจ้องหน้าเอาจริงแล้วเดินออกไป เสี่ยทำนุมองตามเคียดแค้นก่อนจะปัดของบนโต๊ะทิ้งด้วยความโมโห
คืน นั้น ใบไผ่นอนหลับอยู่บนเตียง วชรวรรษยืนมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอยู่ข้างๆ ระหว่างนั้นแก้วขวัญเปิดประตูเข้ามาชะงักที่เห็นวชรวรรษ
"คุณวัชร น้านึกว่าคุณวัชรจะมาเยี่ยมไผ่พรุ่งนี้ซะอีก"
"เป็นห่วงไผ่เขาครับ เลยอยากจะมาอยู่เฝ้า น้าแก้วกลับบ้านไปพักเถอะครับ คืนนี้ผมจะเฝ้าใบไผ่ให้เอง"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
"อย่าเลยครับ ให้ผมได้ทำอะไรเพื่อใบไผ่บ้างเถอะนะครับ"
แก้วขวัญมองวชรวรรษลังเลก่อนตัดสินใจ เธอเดินออกมาที่หน้าโรงพยาบาลพร้อมกับนาท ธราทิตย์และวรรษา บอกว่าวชรวรรษจะขอเฝ้าไข้ใบไผ่เอง
" จะดีเหรอครับคุณแก้วปล่อยแมวไว้กับปลาย่างได้ยังไง ผมไม่ไว้ใจไอ้หมอนั่น อาขอโทษนะหนูฝนที่ต้องพูดตรงๆ แต่หนูก็รู้ว่าพี่ชายเราทำงานอะไร"
"หยุด พูดไร้สาระได้แล้วคุณนาท หนูฝนไม่ต้องไปฟังเสียงนกเสียงกาหรอกนะจ๊ะ ใครไม่ไว้ใจคุณวัชรก็ช่าง แต่น้าไว้ใจ และน้าก็เชื่อว่าคุณวัชรต้องดูแลไผ่ได้ดีกว่าคนบางคนแถวนี้ ไม่อย่างนั้นเขาไม่กล้าพูดยืนยันกับน้าหรอก"
"นายวัชรพูดอะไร"
"เรื่องอะไรจะบอก ง่วงแล้วกลับบ้านดีกว่า"
"เดี๋ยวสิครับคุณแก้ว นายวัชรเขาบอกอะไรคุณ"
แก้วขวัญไม่ยอมตอบ นาทรีบเดินตาม ธราทิตย์หันไปเห็นวรรษาแอบอมยิ้ม
"น่าอิจฉาไอ้ไผ่มันจริงๆ รู้งี้น่าจะเอาตัวไปรับกระสุนบ้าง เผื่อจะมีคนนอนเฝ้าไข้อยู่ใกล้ๆ"
"อยากโดนยิงเหรอ ได้สิ เดี๋ยวฉันไปเอาปืนพี่ชายฉันมายิงนายเอง จะเอาตรงไหนดี แสกหน้าหรือว่ากลางอก"
"กลางอกดีกว่า เล็งตรงหัวใจด้วย แต่ต้องกระสุนรักนะ จะเปิดใจรอเลยเจ้าหญิง"
"บ้า น้ำเน่า" วรรษาเขินเดินออกไป ธราทิตย์อมยิ้ม
วัน รุ่งขึ้น ใบไผ่ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบๆ ห้อง ไม่เห็นใครก็แปลกใจ พยายามจะลุกขึ้นแต่เจ็บแผลที่ถูกยิงบริเวณท้อง เลยค่อยๆ นอนลงเหมือนเดิม เสียงชักโครกดังขึ้น ใบไผ่ชะงักหันไปเห็นวชรวรรษเดินออกมา
"นายหมาวัด!!!"
"ฟื้นแล้วเหรอใบไผ่"
"นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ใบไผ่เห็นซิบกางเกงไม่ได้รูด รีบเอามือปิดตาตัวเอง
"เฮ้ย!! ไอ้บ้า ทำอะไรเสร็จแล้ว ทำไมไม่รู้จักเก็บให้เรียบร้อย"
วชรวรรษชะงักคิด เห็นว่าไม่ได้รูดซิบเลยรีบหันหลังแล้วรูดซิบ ก่อนจะหันมายิ้มแหยๆ
"ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโชว์"
ใบไผ่เปิดตาออก "แล้วตกลงนายเข้ามาในห้องได้ยังไง"
"ฉันมาเฝ้าเธอตั้งแต่เมื่อคืน"
"ทำไมเป็นนาย แล้วญาติๆ ฉันล่ะ"
"เขาไม่ว่าง"
"นายกลับได้แล้ว"
"จะกลับได้ยังไง ฉันยังไม่ได้ขอบใจที่เธอช่วยยัยฝนเลย"
"ขอบใจแล้วก็กลับออกไปได้แล้ว"
"ไม่ได้ ฉันต้องดูแลเธอ เธอหิวเหรอยัง อยากกินอะไรมั้ย บอกฉันมาได้เลย เดี๋ยวฉันไปซื้อให้"
"ไม่ต้องมาห่วงเรื่องกินของฉัน หุบปากแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องได้แล้ว หนวกหู" ใบไผ่ขยับตัว แต่เจ็บแผล "โอ๊ย"
วชรวรรษตกใจรีบเข้ามาประคอง
"เธอจะนั่งใช่มั้ย มา ฉันช่วย"
วชรวรรษเงยหน้าเห็นว่าหน้าตัวเองใกล้กับหน้าใบไผ่มาก ใบไผ่ตกใจรีบผละออก
"ไม่ต้องมายุ่ง"
"ไม่ยุ่งไม่ได้ เธอเพิ่งผ่าตัด แผลยังไม่หายดี ถ้าขยับตัวมากๆ ระวังจะเป็นแผลเป็น ใส่บิกีนี่แล้วจะไม่สวยนะ"
"ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ" ใบไผ่ดันๆ วชรวรรษออกไป
"เห็นหน้านาย แผลฉันยิ่งจะไม่หาย"
"ยังไงเธอก็ต้องทนเห็นหน้าฉัน เพราะฉันต้องรับผิดชอบ"
"รับผิดชอบอะไร"
แก้วขวัญเล่าให้ทุกคนที่บ้านสวนรวมทั้งธราทิตย์และวรรษาฟังว่าวชรวรรษบอกว่าจะรับผิดชอบใบไผ่ไปตลอดชีวิต ทุกคนตกใจ แต่วรรษาอมยิ้ม
"พี่วัชรพูดเหมือนขอพี่ไผ่แต่งงานเลยนะคะ"
ทุกคนชะงักกึกหันขวับไปมองวรรษาแล้วคิดตาม
"จะว่าไปมันก็ดี" อุบลพูดขึ้น
"ดีที่จะได้พ่อวัชรมาเป็นเขยน่ะเหรอจ๊ะแม่" กริชถาม
" ไม่ใช่ ดีตรงที่ได้พ่อวัชรมาช่วยดูแลไผ่ต่างหาก เมื่อวานตอนที่พ่อวัชรเขาขอโทษ ฉันเห็นแล้วก็สงสาร เห็นใจ รู้เลยว่าพ่อวัชรเขารู้สึกผิดจริงๆ"
"แต่เขาเป็นต้นเหตุทำให้ไอ้ไผ่มันถูกยิงนะพี่อุบล" นาทแย้ง
"แต่พ่อวัชรเขาไม่ได้ตั้งใจ ใครจะโกรธพ่อวัชรก็โกรธไป แต่ฉันไม่โกรธ" กริชบอก
"ฉันก็ไม่โกรธ" อุบลย้ำ
"แก้วก็ไม่โกรธเหมือนกันค่ะ"
ทุกคนหันขวับไปมองนาทเป็นตาเดียว นาทกลืนน้ำลายเอื๊อกก่อนจะตอบว่าเขาก็ไม่โกรธเช่นกัน วรรษายกมือไหว้ทุกคน
"ฝนขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ไม่โกรธพี่วัชร ถ้ามีอะไรที่ฝนทำให้พี่ไผ่ได้ บอกฝนได้เลยนะคะ ฝนพร้อมยอมทำทุกอย่างเลยค่ะ"
ธรา ทิตย์กระแอมเสียงดัง "ฮะแฮ่ม ดูเหมือนงานนี้ไอ้ไผ่จะได้หน้าไปเต็มๆ เลยนะครับ ทั้งๆที่ผมเป็นคนบุกเข้าไปช่วยคุณฝนแท้ๆ อยู่ก็เหมือนไร้ตัวตน ผมกลับบ้านดีกว่า" ธราทิตย์ไหว้ลาทุกคนแล้วเดินออกไป
"อย่าไปสนใจเลยค่ะ ตัวก็โตขี้ใจน้อย ทำเป็นเรียกร้องความสนใจ" วรรษาบ่นไปหันมาเจอทุกคนมองมา
"แหม จะตัวโตตัวเล็กก็มีหัวใจเหมือนๆ กันนั่นแหละ น้าว่าฝนไปง้อเขาหน่อยดีมั้ย อย่าให้คนทำดีต้องเสียใจเลย"
"จะดีเหรอคะน้าแก้ว พูดมากๆ เดี๋ยวจะยิ่งเหลิง"
"ดี!!" ทุกคนพร้อมเพรียงกัน วรรษาสะดุ้งยิ้มแหยๆ
ธราทิตย์เดินออกมาจากบ้านหันไปเห็นวรรษาเดินออกมาก็แกล้งตีหน้าเศร้า วรรษาตามออกมา
"จะรีบกลับไปไหน"
"กลับไปหาคนช่วยซับน้ำตาน่ะสิครับ เพราะอกมันกลัดหนอง ที่มีคนมองข้ามความสำคัญ"
"แหวะ นายนี่เน่าไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ อยากได้คำขอบคุณใช่มั้ย ก็ได้ ขอบคุณ"
"โดนบังคับให้ขอบคุณมาเหรอไงครับเจ้าหญิง ถ้าไม่ได้มาจากใจก็ไม่ต้องหรอกครับ กระผมไม่อยากได้"
"แล้วนายจะให้ฉันพูดอะไร จะให้ฉันชมนายงั้นเหรอ ก็ได้ พ่อคนเก่ง เก่งมาก ซุบเปอร์ฮีโร่"
"เฮ้อ แค่นั้นฟังมาบ่อยแล้วครับ ใครๆ ก็ชอบบอกว่าผมเก่ง ฟังจนเบื่อแล้ว"
"งั้นก็สุดยอด สุดยอดมากๆ"
"โอ๊ย คำนี้ผมก็ฟังจนเอียนแล้วเหมือนกัน"
"นายมาร์ค นายอย่าเล่นตัวนักได้มั้ย นายอยากให้ฉันพูดอะไรก็บอกมาเลยดีกว่า"
"พูดว่ารักสิครับ"
วรรษาชะงักหน้าแดง เขิน "ไอ้บ้า!"
"บอกให้พูดว่ารัก ไม่ได้บอกให้พูดว่าบ้า ถ้าคุณไม่กล้าพูด ผมพูดเองก็ได้ รักนะเด็กโง่" ธราทิตย์ยิ้มพริ้ม จนวรรษาหน้าแดง
"นายสิโง่" วรรษาแลบลิ้นแล้วหันหลังแอบอมยิ้ม ธราทิตย์ยิ้มชื่นใจ
วชรวรรษพยายามป้อนยาให้ใบไผ่ แต่ใบไผ่ไม่ยอมกิน
"ทำไมล่ะ ถ้ากินไม่ได้ ผมป้อนให้ก็ได้นะ"
"ไม่ต้อง" ใบไผ่นิ่ง วชรวรรษสงสัย แล้วก็นึกออก
"หรือว่าโตจนป่านนี้แล้วกินยาเม็ดไม่เป็น ต้องให้บดยาให้กิน"
ใบไผ่ตกใจรีบปฏิเสธ "ไม่ใช่!!"
วชรวรรษยิ้มรู้ทัน "ไม่ใช่ งั้นก็กินให้ฉันดูสิ"
"ทำไมฉันต้องกินให้นายดูด้วย นายออกไปได้แล้วฉันจะเรียกพยาบาลมาป้อนยาฉัน"
วชรวรรษหัวเราะก๊ากออกมา ใบไผ่เสียหน้ามากๆ
" เธอกินยาไม่เป็นจริงๆ ด้วย อะไรกัน ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเก่ง ไม่เคยกลัวใครอย่างเธอเนี่ยนะจะกินยาเม็ดไม่เป็น ตกม้าตายตอนจบนี่ใบไผ่"
ใบไผ่หยิบหมอนปาใส่หน้าวชรวรรษ วชรวรรษรับหมับ พยายามกลั้นหัวเราะ
"ขอโทษขอโทษ ฉันไม่ล้อเธอแล้วก็ได้ ฉันป้อนยาเธอเอง"
" ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง กลับบ้านไปซะ ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน แล้วก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะฉันแส่หาเรื่องเอง นายไม่ต้องมาเฝ้าฉันอีก ฉันจะโทรให้ลุงกับป้ามาอยู่กับฉัน"
ใบไผ่หยิบมือถือออกมากดโทร อุบลรับโทรศัพท์หน้าเลิ่กลั่กอยู่กับกริช นาท และ แก้วขวัญ
"ไผ่เหรอลูก"
"ป้าอยู่ไหน ไผ่ฟื้นแล้ว ทำไมไม่มีใครมาเยี่ยมไผ่เลยสักคน"
อุบล มองหน้ากริช นาท แก้วขวัญเหรอหราว่าจะแก้ตัวอย่างไร แล้วอุบลก็รีบหาข้อแก้วตัวให้กับทุกคนจนครบ ใบไผ่วางสายด้วยความหัวเสียหันไปเห็นวชรวรรษยืนยิ้มหน้าเป็นอยู่
"ตกลงมีใครมาดูแลเธอหรือเปล่า"
ใบไผ่หงุดหงิดไม่ตอบ วชรวรรษยิ้ม
"ถ้าไม่มีก็ดี" ใบไผ่ค้อน
"เอ่อ ฉันหมายถึง ฉันจะได้ดูแลเธอเป็นอย่างดียังไงล่ะ"
"นายไม่ต้องมาดูแลฉัน ดูแลตัวเองให้ดีเหอะ"
ใบไผ่พยายามพยุงตัวลงจากเตียง วชรวรรษรีบเข้ามาประคอง ใบไผ่ผละออก
"ไม่ต้องมาโดนตัวฉัน"
"เธอจะไปไหน"
" ฉันจะไปฉี่ นายไปฉี่แทนฉันได้มั้ยล่ะ ถ้าฉันออกมา ฉันต้องไม่เห็นหน้านายอีกนายวชรวรรษ!!" ใบไผ่ค่อยๆ เดินไปเข้าห้องน้ำ วชรวรรษมองใบไผ่ ถอนหายใจ
00000000000000
แก้วขวัญบอกกับอุบลและกริช ว่าเธอต้องจัดการให้ใบไผ่ลงเอยกับวชรวรรษให้ได้เพราะเธอเห็นว่าทั้งคู่เหมาะ สมกันดี คนอย่างใบไผ่ ต้องเจอผู้ชายอย่างวชรวรรษมาปราบพยศ อุบลตบเข่าฉาดเห็นด้วย กริชเห็นด้วยตามอุบล นาทเหล่มองกริชกับอุบลไม่เห็นด้วย แล้วก็หันไปทางแก้วขวัญ
"อย่ามัวแต่ไปจัดการเรื่องของคนอื่น แล้วลืมเรื่องของเราล่ะครับคุณแก้ว ตกลงว่าเมื่อไหร่จะได้เคลียร์กันสักที"
แก้วขวัญแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ "ฉันไปมีเรื่องอะไรกับคุณ ไม่เห็นจะจำได้สักหน่อย"
แก้วขวัญรีบเดินหนีนาทออกไป นาทรีบตาม
"ก็เรื่องรักสามเส้าเคล้าน้ำตา ระหว่างผม คุณแก้ว แล้วก็ไอ้หน้าแต๋วนั่นยังไงล่ะครับ"
แก้วขวัญชะงักนึกขึ้นมาได้
"จำได้หรือยังครับคุณแก้ว ครับ จนป่านนี้ไอ้หน้าแต๋วนั่นมันยังไม่ติดต่อคุณแก้วกลับมาเลยใช่มั้ยครับ"
"เอ่อ คุณทองเอกเขาติดธุระ วันนั้นเขาก็เลยมาไม่ได้"
"ติดธุระ ฮึ ผมว่ามันกลัวผมมากกว่า ไม่แน่จริงนี่หว่า ฝากคุณแก้วไปบอกมันด้วยนะครับว่าให้มันหากระโปรงมานุ่งดีกว่ากางเกง"
แก้วขวัญทนไม่ไหว "เลิกต่อว่าคุณทองเอกได้แล้วคุณนาท ทุกอย่างที่คุณคิด คุณเข้าใจผิดทั้งหมด ฉันกับคุณทองเอกไม่ได้มีอะไรกัน"
นาทชะงักเพิ่งได้ยินชัดๆ "คุณแก้วว่าอะไรนะครับ คุณกับมันไม่ได้มีอะไรกันเหรอครับ"
"ใช่ ขืนมีได้ฟ้าผ่าตายพอดี"
"คุณแก้วว่าอะไรนะครับ"
"เอ่อ ฉันหมายถึงว่าฉันกับคุณทองเอก ไม่มีทางเป็นไปได้ คุณเลิกคิดแบบนั้นไปได้เลย"
นาทหน้าบาน "ผมดีใจที่สุดเลยครับคุณแก้ว แล้วคุณแก้วจะได้เจอกับเขาอีกมั้ย"
"คงอีกนานกว่าจะได้เจอ หรือไม่ก็คงไม่ได้เจอกันอีก"
นาทยิ่งดีใจดึงแก้วขวัญมากอดแน่น แก้วขวัญตกใจ
"ไชโย คุณแก้วเป็นอิสระแล้ว ไชโย"
"คุณนาท คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ"
"โธ่คุณแก้ว ผมขอกอดให้ชื่นใจหน่อยเถอะนะครับ ผมดีใจ ดีใจจริงๆ"
นาทหอมแก้มแก้วขวัญฟอดใหญ่ แก้วขวัญหน้าแดงด้วยความตกใจและอาย
"คุณนาท!!"
" ผมขอโทษนะครับที่ล่วงเกินคุณแก้ว แต่ผมรักคุณแก้วจริงๆ นะครับ คุณแก้วให้โอกาสผมได้มั้ยครับ ผมอยากพิสูจน์ให้คุณแก้วเห็นว่าผมมั่นคงและรักคุณแก้วคนเดียว นะครับคุณแก้ว" นาทจ้องแก้วขวัญ จนแก้วขวัญเขิน ผลักนาทออกไปอย่างแรง
"ตาบ้า!!" แก้วขวัญรีบเดินออกไป พอคล้อยหลังนาท แก้วขวัญก็อมยิ้มออกมา นาทยิ้มชื่นฉ่ำหัวใจ
ใบไผ่เดินออกมาจากห้องน้ำเห็นอาหารวางเต็มโต๊ะ วชรวรรษ วิชญ์และทศยืนอยู่ ใบไผ่เหวอ
"นี่นายฟังฉันไม่รู้เรื่องเหรอ ฉันบอกว่าถ้าฉันออกมาจากห้องน้ำ ฉันต้องไม่เห็นหน้านายอีก แล้วนี่อะไรยกขโยงมาทั้งแก๊งเหรอไง"
" ฉันไปไหนไม่ได้หรอกเพราะฉันสั่งอาหารมาให้เธอเลือกเต็มเลยนะใบไผ่ มีทั้งอาหารจีน อาหารอิตาลี อาหารฝรั่งเศส แล้วก็อาหารญี่ปุ่น ฉันคุยกับพ่อครัวแล้ว เขาบอกว่าเป็นอาหารที่เหมาะกับคนป่วย"
"เอาออกไปให้หมด ฉันไม่กิน ฉันไม่หิว"
"ไม่ได้นะไผ่ ยังไงเธอก็ต้องกิน ร่างกายเธอจะได้แข็งแรง"
"เฮ้ย นี่นายพูดไม่รู้เรื่องเหรอ ฉันไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น"
"ยาก็ไม่กิน อาหารก็ไม่กิน ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันจะอยู่ได้ยังไงใบไผ่"
ใบไผ่อึ้ง วิชญ์กับทศแอบอมยิ้มกรุ่มกริ่ม วิชญ์หันไปกระซิบกับทศ
"งานนี้มีเฮเว้ย"
ทศหัวเราะคิกคัก ใบไผ่หันไปจ้อง วิชญ์กับทศรีบหุบยิ้ม วชรวรรษยังพยายามใจเย็น
"ใบไผ่ เรามาพูดกันดีๆ เถอะนะ เอาอย่างนี้ดีมั้ย ถ้าเธอไม่ชอบอาหารพวกนี้ ฉันไปซื้อให้ใหม่ก็ได้"
ใบไผ่สุดจะทน กดออดเรียกพยาบาลให้มาเช็ดตัว วชรวรรษบอกว่าเขาจะเช็ดให้
"ไอ้บ้า ออกไป ออกไปให้หมด ไป!!"
วชรวรรษถูกใบไผ่ดันออกไปนอกประตู ใบไผ่ปิดประตูใส่หน้าวชรวรรษอย่างแรง วชรวรรษถอนหายใจเซ็ง กลับมาบ่นกับวรรษา
" พี่พยายามแล้วนะฝน แต่ไม่ว่าทำยังไงใบไผ่ก็ไม่พอใจ พี่ไม่รู้จะเอาใจยังไงแล้ว อะไรๆ ก็ไม่เอา อะไรๆ ก็ไม่ชอบ ผู้หญิงนี่เข้าใจยากชะมัด"
ธราทิตย์นั่งฟังอยู่ "ปกติไอ้ไผ่มันก็เป็นคนเข้าใจยากอยู่แล้วครับ แล้วยิ่งเดินไปไหนมาไหน ทำอะไรไม่ได้แบบนี้ ฮอร์โมนมันคงพลุ่งพล่าน ใครทำอะไรให้ก็คงขัดหูขัดตาไปหมด"
"กับพี่ไผ่ พี่วัชรต้องใจเย็นๆ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ"
วชรวรรษตกใจ "ฝน พี่ไม่ได้คิดอะไรกับใบไผ่เขานะ พี่แค่อยากรับผิดชอบ ที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาบาดเจ็บ"
วรรษายิ้มรู้ทัน "พี่วัชรอย่าปากแข็งไปหน่อยเลยค่ะ ฝนรู้ว่าพี่วัชรคิดอะไร"
"ผมก็รู้ครับ ผู้ชายด้วยกันดูออก" ธราทิตย์คล้องคอวชรวรรษทำซี้สุดฤทธิ์
" ใครเป็นพี่ชายนาย อย่าคิดว่าการที่นายช่วยน้องสาวฉัน จะทำให้ฉันยอมรับนายง่ายๆ นะ นายยังต้องฝ่าด่านอีกเยอะ" วชรวรรษหักนิ้วเสียงดัง ธราทิตย์กลืนน้ำลายเอื๊อก
"ฝน เลิกคิดอย่างที่ฝนคิดได้เลย พี่แค่เป็นห่วงใบไผ่ อย่างเพื่อน พี่อยากให้เขาหายไวๆ แต่เขาไม่ยอมกินอะไรเลย แล้วมันจะไปหายได้ยังไง"
"ก็งี้แหละครับ คนทำอาหารอร่อย มักจะกินของคนอื่นไม่ได้"
"ใครถามนาย" ธราทิตย์รีบปิดปากหน้าจ๋อย
"พี่วัชร มาร์คเขาก็แค่แนะนำ เอาอย่างนี้สิคะ พี่วัชรก็ทำอาหารให้พี่ไผ่ทาน รับรองพี่ไผ่ต้องประทับใจแน่ๆ"
"ฝนจะบ้าเหรอไง ลำพังแค่พี่ก็กินยากจะตายอยู่แล้ว แล้วจะให้พี่ทำอาหารให้ใบไผ่กินเนี่ยนะ วันนั้นฟ้าคงถล่ม"
"พี่วัชรต้องทำได้ เชื่อฝนสิคะ งานนี้ฝนหาตัวช่วยให้พี่วัชรได้อยู่แล้วค่ะ ป้าแหวว"
ป้า แหววเข้ามาพร้อมเครื่องมือทำครัวพร้อม สอนให้วชรวรรษทำโน่นทำนี่ วชรวรรษก็พยายามเต็มที่ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน แม้จะต้องใช้ความอดทนแค่ไหนเขาก็ไม่ย่อท้อ
0000000000000000
วชร วรรษเอาอาหารมาวางตรงหน้าใบไผ่ พร้อมกับเปิดฝาให้ดู ใบไผ่ถึงกับตะลึงเพราะหน้าตาของอาหารดูไม่น่ารับประทานโดยสิ้นเชิง ชวนให้รู้สึกพะอืดพะอมมากกว่า
"ไอ้นี่คืออะไร"
"อาหารสำหรับคนป่วยไง"
ใบไผ่เหวอ วชรวรรษหยิบอาหารอีกกล่องมาวางบนโต๊ะ
"ของหวานก็มีนะ"
วชรวรรษเปิดฝาออกเห็นเป็นขนมที่ดูเละๆ
"แน่ใจเหรอว่าของพวกนี้นายเรียกว่าอาหาร"
วชรวรรษชะงักเสียความมั่นใจ "แน่ใจสิ ฉันเป็นคนทำอาหารพวกนี้เองกับมือ"
"หา!!"
" ฉันเห็นเธอไม่กินอะไรเลย ไอ้นั่นก็ไม่ชอบ ไอ้นี่ก็ไม่เอา ฉันได้ยินมาว่าคนทำอาหารอร่อย กินอาหารฝีมือคนอื่นไม่ได้ ฉันเลยทำอาหารให้เธอ เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก"
"ทางตันน่ะสิ นายยังกินอะไรไม่อร่อย คนลิ้นจระเข้อย่างนายเนี่ยนะ จะมาทำอาหารให้ฉันกิน บ้าหรือเปล่า"
"ด่าฉันจนพอใจแล้วใช่มั้ย ถ้าสะใจแล้วก็กินซะ ถึงหน้าตามันจะดูไม่ดี แต่รสชาติรับรองระดับห้าดาว"
"แผลฉันกำลังจะหาย ไม่อยากกินของแสลง เดี๋ยวแผลมันจะอักเสบ"
"ของที่ฉันทำ มันเป็นของบำรุงร่างกายเธอทั้งนั้น ไม่แสลงหรอก กินเถอะนะใบไผ่"
"ไม่ ฉันไม่อยากท้องเสีย"
"กินสักหน่อยเถอะนะ คำเดียวก็ยังดี"
"เฮ้ย บอกว่าไมกินไง ไม่อยากกิน ไม่หิว เข้าใจมั้ย เอากลับไปให้หมดเลยไป"
วชร วรรษตีหน้าเศร้า "ใบไผ่ เธอเองก็เป็นแม่ครัว เวลาที่เธอตั้งใจทำกับข้าวที่มันกลั่นออกมาจากใจให้ใครสักคนที่เธออยากให้ เขากิน แต่เขากลับไม่กิน มันเสียใจนะใบไผ่"
ใบไผ่นิ่ง แต่เริ่มใจอ่อน วชรวรรษเก็บอาหารบนโต๊ะ ใบไผ่มองด้วยความสงสาร
"ฉันกินก็ได้"
วชรวรรษมองหน้าใบไผ่ด้วยความดีใจ
"ไม่ต้องมายิ้ม"
วชร วรรษหุบยิ้มรีบเอาอาหารมาวางตรงหน้าใบไผ่ แล้วหยิบช้อนกับส้อมให้ ใบไผ่มองอาหารลังเล ตัดสินใจตักขึ้นมากิน เธอชะงักเพราะว่ามันอร่อยมาก หันไปมองหน้าวชรวรรษที่รอลุ้น จากนั้นใบไผ่ก็กวาดอาหารในกล่องจนเกลี้ยงแล้วก็อ้าปากกว้างก่อนจะกินเข้าไป สีหน้าบ่งบอกถึงความอร่อย วชรวรรษยืนยิ้มด้วยความภาคภูมิใจและมีความสุข
" โอ้โห กินหมดเลย อร่อยใช่มะ อาหารที่ฉันทำก็เหมือนตัวฉันนั่นแหละใบไผ่ ถึงภายนอกฉันจะดูเหมือนคนโหดเหี้ยม แต่ข้างใจลึกๆ ฉันพร้อมจะเป็นคนดีนะใบไผ่"
"อย่าเข้าใจผิด มันไม่ได้อร่อยเลยสักนิดเดียว แต่ที่กินไปเพราะว่าฉันหิว จะสอนให้นะ ใครเขาให้ใส่น้ำมันหอยผัดกับกะเพรา มันไม่ได้เข้ากันเลย แล้วหมูสับก็ยังเป็นชิ้นอยู่เลย ทำอาหารมันต้องละเอียดอ่อน คนจับแต่ปืนผาหน้าไม้อย่างนาย ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ"
"ครับอาจารย์ ผมจะจำเอาไว้ ถ้าเกิดวันหนึ่งผมไม่มีงานทำขึ้นมา ผมขอสมัครเป็นผู้ช่วยเธอได้มั้ย อาจารย์ใบไผ่"
"ไม่ได้ ฉันรับแต่คนดีๆ ไม่ใช่คนที่มือเปื้อนเลือดอย่างนาย"
วชรวรรษจ๋อย ใบไผ่เหลือบมองแล้วแอบเห็นใจ
"นอกเสียจาก นายจะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านายเป็นคนดีกับเขาได้เหมือนกัน"
"งั้นถ้าฉันพิสูจน์ให้เธอดูได้ เธอจะเลิกเรียกฉันว่ามาเฟียใช่มั้ย"
นรา รีกดโทรศัพท์หาทองเอก แต่ติดต่อไม่ได้ เธอวางสายใจคอไม่ดีคิดว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับทองเอก จึงรีบไปที่บ้านวชรวรรษ คาดคั้นถามวิชญ์ว่าที่วชรวรรษไม่อยู่เพราะไปทำร้ายอะไรทองเอกหรือไม่ วิชญ์ปฏิเสธ
"แล้วทำไมคุณทองเอกถึงได้หายตัวไป"
"ผมไม่ทราบครับ"
"ฉันไม่ได้ให้แกตอบ ฉันเปรยขึ้นมาเฉยๆ"
วรรษา เดินออกมา "ถึงเปรยเฉยๆ ก็ไม่ได้ค่ะ มาบ้านพี่วัชร แต่กลับถามหาผู้ชายคนอื่น พี่วัชรจะรู้มั้ยนะว่าพี่แพนกำลังทำตัวเป็นนังวันทองสองใจ"
"ฝน พูดจาอะไรให้เกียรติพี่บ้างนะ พี่มาถามหาเพื่อนพี่"
" เพื่อนแบบไหนเหรอคะถึงได้เป็นห่วงเป็นใยกลัวพี่วัชรไปทำร้ายเขา ฝนจะบอกให้นะคะพี่แพน ว่าทำไมพี่วัชรเขาถึงไม่สนใจพี่แพน ก็เพราะพี่วัชรเขาไม่ได้รักพี่แพนยังไงล่ะคะ"
"ไม่จริง เธอโกหก"
"พี่แพนจะเดือดร้อนไปทำไม ในเมื่อตอนนี้พี่แพนก็กำลังคบคนอื่น และพี่วัชรเองก็กำลังดูแลคนอื่นอยู่เหมือนกัน"
"ใคร คุณวัชรไปดูแลใคร"
วรรษายิ้มเย้ยหยัน นรารีทนไม่ได้ กลับมาบอกพยุทธ์ว่าเธอจะยกเลิกการแต่งงานกับวชรวรรษ
"ยัยแพน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดเล่นๆ นะ"
" แพนไม่ได้ล้อเล่น แพนพูดจริง พ่อรู้มั้ยคะว่าคนดีของพ่อ ตอนนี้เขาอยู่ไหน น้องสาวเขาถูกจับ แล้วนังแม่ค้านั่นก็ไปช่วยจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ คุณวัชรเลยทำหน้าที่เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดูแลนังนั่นอย่างใกล้ชิดจนเกิน หน้าที่ แล้วแบบนี้คุณพ่อยังจะให้แพนแต่งงานกับเขาอยู่อีกเหรอคะ"
"แต่ พ่อไม่เห็นว่าคุณวัชรจะทำผิดอะไร คุณวัชรเขาทำถูกต้องแล้ว เขาเป็นลูกผู้ชาย เขาถึงแสดงความรับผิดชอบ คนแบบนี้สิพ่อถึงอยากให้แพนได้แต่งงานด้วย"
"พ่อ!!"
"อย่าเอาเรื่อง นี้มาอ้าง พ่อรู้ว่าเรากำลังนอกใจคุณวัชร คนเดียวที่พ่อจะยอมรับเป็นลูกเขยคือคุณวัชร เพราะฉะนั้นลูกควรจะเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของคุณวัชร"
"พ่อ ปกติพ่อเป็นคนไม่ชอบใครง่ายๆ แล้วทำไมกับคุณวัชร พ่อถึงได้ดูเข้าข้างเขานัก"
"เพราะพ่อมองใครไม่เคยผิด ยังไงเราก็ต้องแต่งงานกับคุณวัชร ส่วนผู้ชายคนนั้น เลิกยุ่งกับมันซะ"
ใบไผ่เดินออกมาจากในโรงพยาบาล เจอวชรวรรษนั่งรออยู่
"ฉันจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เรากลับกันได้เลย"
"ไม่ต้อง ฉันจะรอญาติฉันมารับ"
"คุณลุงกับคุณป้าบอกให้ฉันพาเธอกลับบ้าน"
"อะไรกัน นี่ใจคอจะไม่มาหากันบ้างเลยเหรอ เยี่ยมก็ไม่มาเยี่ยม วันกลับยังไม่มารับอีก มันจะเกินไปแล้ว"
"อย่าไปว่าพวกท่านเลย พวกท่านไม่ว่างจริงๆ"
"ไม่ว่างอะไรกัน ทำอะไรกันนักหนา"
"ไปกับผม เดี๋ยวคุณก็รู้"
ใบไผ่กับวชรวรรษมาถึงร้านขนมหวาน ใบไผ่ตกตะลึงที่เห็นความวุ่นวาย ลูกค้าเต็มร้าน
ทอง หยอดกับเกดกำลังง่วนกับการเสิร์ฟขนม ใบไผ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกค้ามากขนาดนี้ ทองหยอดบอกว่าพอใบไผ่ไม่อยู่ลูกค้าก็เต็มร้านทุกวัน แล้วทุกคนก็ต้องช่วยกันทำขนมมือระวิง วชรวรรษอมยิ้มรู้ดีว่าเพราะอะไร
ใบ ไผ่เดินเข้ามาในครัว ทุกคนหันไปเห็นใบไผ่ก็ดีใจ ต่างแย่งกันถามถึงอาการใบไผ่ ใบไผ่บอกว่าหายดีแล้ว แต่น้อยใจที่ไม่มีใครไปเยี่ยม กริชบอกว่าทุกคนต้องอยู่ช่วยที่ร้าน
"แล้วลูกค้ามาจากไหน ปกติไม่เห็นล้นหลามขนาดนี้เลยนี่"
วรรษายิ้ม "ฝีมือพี่วัชรเสกคาถาเรียกลูกค้ามาให้ค่ะพี่ไผ่"
"ฝีมือพี่ชายเราเนี่ยนะ"
"ค่ะ พี่วัชรพยายามเพื่อพี่ไผ่เลยนะคะเนี่ย"
วรรษา เล่าว่าวชรวรรษให้วิชญ์นำขนมหวานจากร้านใบไผ่ไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่ผับ ลูกค้าติดใจ วิชญ์จึงแจกนามบัตรของร้านขนมหวานให้ ส่วนทดก็ไปตามตลาดบอกว่าถ้าใครมากินขนมที่ร้านใบไผ่จะผ่อนผันค่าเช่าแผงให้ ถ้าใครไม่ไปจะเก็บค่าเช่าเพิ่ม ใบไผ่ฟังแล้วก็อึ้งนึกไม่ถึง กริชเดินเข้ามาหาใบไผ่
"พ่อวัชรเขาเป็นคนดีจริงๆ นะไอ้ไผ่ เขาไม่ได้แกล้งทำเพื่อให้พวกเราชื่นชม"
"ใช่ เรามองเขาผิดมาตลอด เขาเป็นห่วงเป็นใยเราจริงๆ" อุบลช่วยพูด
"พี่วัชรดูแลพี่ไผ่ดีกว่าดูแลฝนด้วยซ้ำ"
"ลุงว่าเอ็งไปขอบคุณเขาเถอะ"
"เขาช่วยแกซะขนาดนี้ คำขอบคุณอย่างเดียวคงไม่พอ เอาขนมไปให้เขาสิ" ธราทิตย์บอก
อุบลหยิบกล่องขนมยื่นให้ใบไผ่ ใบไผ่ตามวชรวรรษออกไปหน้าร้าน
"นายหมาวัด นายจะไปไหน"
"ฉันพายเรือมาส่งเธอถึงฝั่งแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะอยู่ต่อ เธอจะได้สบายใจสักที"
ใบ ไผ่ยื่นถุงขนมให้ "เอาไปกินซะ แล้วก็อย่านึกว่าฉันจะซึ้งใจกับสิ่งที่นายทำ การที่นายทำแบบนี้ มันไม่ได้น่ายกย่องสรรเสริญหรอกนะ นายใช้อิทธิพลไปลากให้คนอื่นมาซื้อขนม ขนมที่ฉันทำ คนที่ชอบต้องชอบด้วยใจ ไม่ใช่โดนบังคับ"
"จะแมวดำแมวขาว มันก็จับหนูได้เหมือนกัน ถ้าขนมของเธอไม่อร่อย คงไม่มีใครมาแย่งซื้อกันขนาดนี้หรอก ที่ลูกค้าแน่นร้าน เป็นเพราะฝีมือเธอนะไผ่"
ใบไผ่นิ่งงันไปเพราะเขิน ไม่พูดอะไรเดินเข้าไปในร้าน วชรวรรษนำกล่องขนมกลับมาที่บ้าน เปิดออกดูเห็นเป็นขนมกระเช้าสีดา หยิบขึ้นมากิน รู้สึกอร่อยมาก วชรวรรษหยิบกินอีกสองสามชิ้น แล้วก็เห็นกระดาษสีชมพูดวางอยู่ใต้ขนม แปลกใจหยิบขึ้นมาอ่าน
"กระเช้าน้อยร้อยใจอันแสนหวาน ดั่งน้ำตาลเคลือบรักบรรจุไว้ โอ้เจ้าพี่ พี่ช่างงามบาดหัวใจ งามสดใสเสน่ห์รักไม่มีจาง"
วชรวรรษอึ้ง คิดถึงตอนที่ใบไผ่เอาขนมมาให้
"ตั้งแต่นายมาดูแลฉัน ฉันไม่เห็นนายกินอะไรเลย เดี๋ยวจะหิวตาย กินให้หมดล่ะ"
วชรวรรษถึงกับมือสั่นหน้าซีด เก็บกระดาษแล้วปิดกล่องขนม ครุ่นคิด ระหว่างนั้นป้าแหววเดินเข้ามา
"อุ๊ยตายแล้วคุณวัชร คุณวัชรทานของหวานหรือของเผ็ดกันคะ หน้าแด๊งแดง"
วชรวรรษเลิ่กลั่ก "ป้าพูดอะไร"
"โบราณว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว มันก็ถูกต้องนะคะเนี่ย"
"ป้าต้องการจะบอกอะไรผมครับ"
" นกตัวแรกก็คือ คุณวัชรได้คืนดีกับคุณฝน ส่วนนกที่สอง นกตัวนี้ใหญ่หน่อย ป้าจะได้มีคนมาช่วยดูแลคุณวัชรเพิ่มขึ้น บู๊ก็ได้ ทำกับข้าวก็เก่ง เหมือนต้มยำเลยนะคะ ครบเครื่อง ครบรส"
วชรวรรษอาย "ป้าแหวว"
"สงสัยจะพูดมาก ป้าไปดีกว่า"
ป้าแหววยิ้มกริ่ม เดินออกไป ทิ้งให้วชรวรรษครุ่นคิด ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมาแล้วก็หยิบขนมมากินต่อ

ไม่มีความคิดเห็น: