วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สายสืบดิลิเวอรี่ 4

สารวัตร
อิสระเหนี่ยวไกยิงใส่หนูพุกหลายนัดด้วยกัน สามสาวปิดตาร้องกรี๊ดกันเสียงหลง
ขณะที่หนูพุกได้แต่หลับตายืนตัวเกร็งอยู่สักก่อนจะพบว่าไม่มีเลือด อิสระหัวเราะ
"ใช่สิ ก็ใช้กระสุนปลอมนี่นา"ชัชนินทร์มาตบบ่า "ยินดีด้วยนะหนูพุก"
หนูพุกหันไปมองชัชนินทร์ ที่ยืนยิ้มเป็นปกติ "ผู้กอง ผู้กองไม่ได้ถูกยิงเหรอคะ"
"ทั้งหมดเป็นแผนของสารวัตรอิสระที่ต้องการทดสอบพวกเธอ
ว่ามีความพร้อมแค่ไหนที่จะเป็นตำรวจ" สามสาวมองหน้ากันอย่างงุนงง
ก่อนจะมองไปที่สารวัตรอิสระ อิสระยิ้มบอกหนูพุก"เธอสอบผ่านหนูพุก ฉันดีใจด้วยนะ"
"ฉัน ฉันได้เป็นตำรวจ ไชโย ได้เป็นตำรวจ ได้เป็นตำรวจแล้วในที่สุดพจมาน
กลมเกลี้ยงก็ทำสำเร็จได้เป็นตำรวจแล้ว" หนู พุกดีใจวิ่งพล่านขึ้นไปบนอัฒจันทร์
ท่ามกลางความหมั่นไส้ของสามสาว
แต่แล้วเท้าหนูพุกเหยียบถูกคราบน้ำที่นองอยู่จนเท้าลื่นเสียหลัก หนูพุกกลิ้งโครมๆ
ตกอัฒจันทน์ลงมา ชัชนินทร์ประคองหนูพุกมาถึงหน้าลิฟต์ ก่อนจะเห็นป้ายติดว่า
"ลิฟต์เสีย อยู่ระหว่างซ่อมแซม" ชัชนินทร์หน้าเสียแล้วหนูพุกจะขึ้นห้องยังไง
ชัชนินทร์จำใจให้หนูพุกขี่หลัง ขณะนั้นชลธีเพิ่งไปซื้อของกลับมาก็เห็นเข้าพอดี
เห็นหนูพุกขี่หลังผู้ชายขึ้นห้อง ก็ตกใจ คิดว่าหนูพุกพาผู้ชายเข้าห้อง ชัชนินทร์
แบกหนูพุกมาโดยไม่ได้สังเกตว่าชลธีแอบย่องตามมาด้วย เมื่อชัชนินทร์ส่งเสร็จ
ก็ทวงรางวัลที่หนูพุกบอกว่าถ้าส่งถึงห้องนอน แล้วจะให้
หนูพุกทำตาหวานก่อนจะค่อยรูดซิปเสื้อวอร์มลงทีละน้อย ชัชนินทร์ตกใจ
เมื่อเห็นสอดมือเข้าไปในอกเสื้อ ชัชนินทร์กลืนน้ำลายลงคออย่างลุ้นระทึก
ก่อนที่หนูพุกจะล้วงท๊อฟฟี่จากกระเป๋าเสื้อมาส่งให้เม็ดนึงบอกว่าเป็นรางวัล
ชัชนินทร์จ๋อย ถามว่าแค่นี้เหรอ "อุ๊ย แล้วผู้กองอยากได้แค่ไหนเหรอคะ
หรือผู้กองกำลังคิดจะ โอ้วไม่นะคะจ๊อช ซาร่ารับไม่ได้" ชัชนินทร์ประคองตัวยืนขึ้น
"เออขำตายล่ะ มุขนี้อย่าลืมไปเล่นกับวินมอเตอร์ไซด์แถวบ้านนะ รับรองโดนยำเละแน่"
"แหมผู้กองอ่ะ พุกล้อเล่น อ้าวแล้วนั่นจะกลับแล้วเหรอคะ"
"จะช่วยประคองลงไปส่งรึเปล่าล่ะ" หนูพุกเบะปาก ส่ายหน้า
ชัชนินทร์ตีหน้าเซ็งทำท่าจะออกไป "เอ่อ ผู้กองคะ
แล้วไอ้ภารกิจตำรวจที่พุกต้องไปทำเนี่ย มันเป็นคดีอะไรเหรอคะ"
"ฉันยังบอกอะไรเธอตอนนี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวสารวัตรก็คงบอกเธอเอง
แต่คิดว่าอาจจะเกี่ยวกับเธอโดยตรง" "ลึกลับจังเลยนะคะ" "คดีสำคัญ เอาล่ะหมดธุระแล้ว
เจอกันพรุ่งนี้" "ค่ะผู้กอง ขอบคุณมากนะคะที่แบกพุกขึ้นมา" ชัชนินทร์มองพุกนิ่งๆ
แอบคิดว่าความจริงพุกก็สวยดีเหมือนกัน ก่อนจะตัดใจออกไป โร
สให้อรละออสืบจนรู้ว่าชัชนินทร์อยู่ไหน ก็สั่งให้อรลออมาตามชัชนินทร์กลับบ้านแทนเธอ
แต่ชัชนินทร์ไม่ยอมกลับ เขาไม่อยากแต่งกับลูกนัท
และไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจเถื่อนของแม่ด้วย อรลออเลยบอกว่า
ยังไงสิ่งที่ชัชนินทร์เกลียด ก็เลี้ยงชัชนินทร์มาจนโต ยังไงก็หนีเงาตัวเองไม่พ้น
อรละออสบตากับชลธีก่อนจะเดินจากไป ปล่อยทิ้งให้ชลธีอยู่เพียงลำพัง 0000000000000000
อิสระจะให้หนูพุกเป็นตำรวจสายลับ ซึ่งพื้นที่ที่หนูพุกได้รับมอบหมายก็คือแถวบ้าน "
จากรายงานที่เราสืบทราบ ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ที่สุดสองรายในพื้นที่ก็คือ กำนันคุ้ย
แห่งบ้านน้ำเหนือ แล้วก็เจ้าแม่โรส แห่งบ้านน้ำใต้" หนูพุกหูผึ่ง "โรส โรส
ไหมแก้วน่ะเหรอคะ" "ลูกสาวของมิสเตอร์มาริโอ้อดีตมาเฟียข้ามชาติตัวเอ้
และก็เป็นแม่ของนายชลธีไหมแก้ว เพื่อนร่วมมหาลัยของเธอ" หนูพุกหน้างอ
"เคยอยู่สถาบันเดียวกันค่ะ แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เพราะแบบนี้รึเปล่าคะ
หนูถึงได้รับงานนี้" "ก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือความสามารถของเธอต่างหาก"
ชัชนินทร์บอก อิสระเสริม "หนูพุก
ฉันต้องการให้เธอหาข่าวในองค์กรของโรสโดยล้วงข้อมูลผ่านทางนายชลธี" หนูพุกอึ้งไป
ชลธีอีกแล้วหรือนี่ หนู พุกนั่งอ่านประวัติที่บ้านของชลธี
พบว่ามาริโอ้นั้นเคยเป็นมาเฟีย แต่ตอนนี้ล้างมือแล้ว เหลือลูกสาวคือโรส
ที่ยังทำงานต่อ หนูพุกมั่นใจว่ามาริโอ้ไม่ได้วางมือ แต่ส่งงานให้โรสทำต่อ
โดยมีอรลออและวรพงษ์คอยช่วย ส่วนชลธี เธอพยายามค้นเท่าไหร่
ก็ยังไม่พบว่าเคยทำสิ่งผิดกฎหมาย หนำซ้ำยังมีโล่ และรางวัลดีเด่นอีกเพียบ
แต่หนูพุกไม่เชื่อ คิดว่าชลธีต้องมีความผิดอะไรบ้างสักอย่างสิน่า ลูก
นัทมาที่คอนโดชลธีจนได้ และถือวิสาสะเข้าไปในห้องชลธี
ค้นจนทั่วว่าชลธีมาอยู่กับผู้หญิงจริงหรือไม่
เพราะเธอให้สายคอยสืบดูว่าชลธีอยู่กับใครหรือเปล่า แต่นักสืบที่เธอจ้าง
กลับเคยเห็นชลธีคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่คอนโด ซึ่งก็คือหนูพุก
ลูกนัทคิดว่าชลธีต้องซ่อนใครไว้แน่ๆ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
ลูกนัทเลยเปลี่ยนเป็นหันมาหาชลธี ทำสีหน้าเซ็กซี่ใส่ทันที ชลธีหนาว
พยายามร้องเตือนลูกนัทไม่ให้ทำอะไรเขา ระหว่างนั้น
หนูพุกที่อยู่ข้างห้องชลธีได้ยินเสียงแว่วๆดังมา
ก็คิดว่าชลธีลากผู้หญิงมาทำมิดีมิร้าย เลยถีบประตูพรวดเข้ามาในห้องชลธี
กะว่าได้หลักฐานเด็ดแน่ แต่แล้วหนูพุกชะงักไปเพราะภาพที่เห็น
คือลูกนัทกำลังคร่อมร่างพยายามจะถอดกางเกงของชลธีอยู่
ลูกนัทหันมามองหน้าหนูพุก"นี่แก แกเองเหรอนังพุก" "ยัยลูกนัท " สอง
สาวประจัญหน้ากัน ชลธีรีบหอบกางเกงหลุดลุ่ยหนีหลบไปทางหนึ่ง
ทั้งสองสาวจ้องตากันอย่างเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมา
เพราะสมัยเรียนเคยมีเรื่องกันมาก่อน ลูกนัทหันไปต่อว่าชลธี "พี่ธีโกหก
ไหนว่าอยู่คนเดียวไงคะ แล้วทำไมนังพุกถึงเข้ามาในห้องนี้ได้" หนูพุกฉุนๆ
"อ้าวพูดให้มันดีๆ นะยัยนัท ใครอยากจะเข้ามาถ้ารู้ว่ากำลังหาความสำราญกันอยู่ล่ะก็
ฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก" "ทำเป็นพูดดี ฉันรู้หรอกน่าว่าแกมาอยู่ที่นี่
เพราะมีแผนจะยั่วสวาทพี่ชลธีใช่มั้ยล่ะ" "อย่ามาดูถูกฉันนะ
นังลูกมาเฟียขาดความอบอุ่น" "อี๊ นังลูกตำรวจปลดประจำการณ์
แกนั่นแหละระวังปากเอาไว้สักวันจะโดนยิงตายเหมือนลุงของแก" หนู
พุกปรี่เข้าจะตบลูกนัทๆ รีบหลบไปหลังชลธี
ชลธีรีบตวัดขาตัวเองรัดหนูพุกไว้สุดฤทธิ์จนล้มไปบนโซฟาด้วยกัน
แล้วบอกให้ลูกนัทหนีไป ลูกนัทลังเล แต่เห็นท่าไม่ดี รีบวิ่งหนีไป หนู
พุกพยายามดิ้นรนจากอ้อมแขนอ้อมขาของชลธีแต่ไม่สำเร็จ ก็ส่งเสียงร้องให้ปล่อยเสียที
ชลธีหน้าเป็นบอกว่าอยากกอดไว้นานๆ อุ่นดี หนูพุกอายหน้าแดง
เหวี่ยงศอกใส่ท้องชลธีจนจุกแล้วลุกหนี บ่นว่าแล้วจะได้เห็นดีกัน หนูพุกออกไปจากห้อง
ปิดประตูโครมจนข้าวของร่วง
ชลธีนั่งกอดเข่ามองตามอย่างมีความสุขที่เห็นหนูพุกเขินก็เป็น ลูกนัท
ไปฟ้องกับโรสว่าหนูพุกไปกกอยู่กับชลธีที่กรุงเทพฯ ก็เดือด
สั่งวรพงษ์และอรลออไปที่บ้านของพนมกับเธอ ขณะนั้นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า
รวมถึงมาลินีด้วย มาลินีตื่นเต้นที่โรสบุกมาถึงบ้านพนมอดีตตำรวจ
เลยยกกล้องขึ้นรายงานสถานการณ์ พนมรีบคว้าปืนมา ยิงขู่ให้พวกโรสกลับไป
โรสเหยียดปากว่าเธอก็ไม่อยากมาหรอก แต่จะมาบอกว่าหนูพุกไปกกกับลูกชายเธอที่กรุงเทพฯ
จันทร์เจ้าที่ถึงกับช็อคไป โรสด่าต่อ "งามหน้านักนะ
นี่เหรอลูกสาวอดีตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เรียนจบมาตั้งนานยังหางานทำไม่ได้
สงสัยคงแบบนี้ล่ะสิท่า ถึงได้เร่ไปขายตัวถึงกรุงเทพฯโน่น" พนมโกรธจนพูด ไม่ออก
แต่นาถนภากลับเดินฉับๆไปประจัญหน้าโรส แล้วตบเข้าฉาดใหญ่โรสหน้าหัน
ขณะที่วรพงษ์กับสมุน และจันทร์เจ้าพากันตกตะลึง
นาถนภาบอกว่าหน้าไหนกล้าดูถูกลูกสาวเธอ ต้องเจอแบบนี้
จากนั้นอดีตนางงามประจำจังหวัด และเจ้าแม่ ก็แลกตบกันอย่างดุเดือด
มาลินีรายงานข่าวด้วยความตื่นเต้น วรพงษ์รีบบอกให้โรสกลับก่อน
เพราะอยู่ในถิ่นเขามีแต่เสียเปรียบ โรสมองนภากับพนมด้วยความแค้นใจ
ก่อนที่วรพงษ์จะพากลับขึ้นรถไป ข่าวของหนูพุกและชลธี แพร่กระจายไปใหญ่โต
หนูพุกได้รับฟังข่าวจากที่จันทร์เจ้าโทรบอกก็ตกใจ ถามว่าใครกระพือข่าว
พอรู้ว่าเป็นมาลินี ก็ต่อว่าเพื่อนยกใหญ่
มาลินีบอกว่าเธอเป็นนักข่าวก็ต้องทำไปตามหน้าที่
หรือจะให้เธอยอมรับความจริงว่าหนูพุกมาอยู่กรุงเทพฯเพื่ออะไร หนูพุกเครียด
หนูพุกไปต่อว่าชลธีว่าตอนนี้เธอเสียหายหมดแล้ว
ชลธีต้องช่วยเธอแก้ข่าวกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง
มาลินียอมรับผิดชอบด้วยการให้ทั้งคู่แก้ข่าวออกทีวี แต่ว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
ว่าถ้าเขาไปแก้ข่าวที่บ้านของหนูพุก หนูพุกก็ต้องไปแก้ข่าวที่บ้านเขาด้วย
รถของชลธีแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน ลูกนัทวิ่งนำโรสออกมาดูที่หน้าบ้าน
เห็นว่าเป็นชลธีก็ดีใจยิ้มหวาน
ก่อนจะต้องชะงักไปเมื่อเห็นหนูพุกกับมาลินีก้าวลงมาจากรถของชลธีด้วยเช่นกัน
ลูกนัทตกใจ "นังพุก" หนูพุกแกล้ง "จ๋า" ลูกนัทโกรธจนหน้าแดง
ขณะที่โรสอึ้งไปเพราะเพิ่งเคยเจอหนูพุกถนัดๆวันนี้ หนูพุกยิ้มให้โรสอย่างใจเย็น
ก๋ากั่นท้าทาย ถึงร้ายก็น่ารัก

ไม่มีความคิดเห็น: