วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 21-24 จบ

ทศมาแอบหลบอยู่ด้านหลังรถคันหนึ่งในจุดที่สามารถ
ลอบมองเห็นเสี่ยทำนุเดินออกมาจากผับกับลูกน้องได้อย่างถนัด
แล้วเล็งปืนยิงไปที่เสี่ยทำนุ แต่พลาด กระสุนไปโดนลูกน้องแทน
ทศตกใจรีบวิ่งออกมาระดมยิงใส่ไม่ยั้ง กระสุนหมด ระหว่างเปลี่ยนใส่กระสุน
ลูกน้องเสี่ยทำนุเข้ามาเอาปืนจ่อหัวทศ ใบไผ่กำลังเก็บของ
วชรวรรษแอบเข้ามาข้างหลังเอาผ้ามาปิดตาใบไผ่ไว้ "นายทำอะไร" "อย่าเพิ่งแกะ
ฉันทำขนมมาให้เธอชิม" "ทำขนมมาให้ฉันชิม แล้วทำไมต้องปิดตาฉันด้วย"
"ไม่งั้นมันจะเซอร์ไพร์สเหรอ น่า ตื่นเต้นดี" วชรวรรษจับแขนใบไผ่พามานั่ง
บนโต๊ะมีขนมใส่ลงในแต่ละกระทง ประมาณสามสี่อย่าง
"เชิญรับประทานรสชาติขนมฝีมือผมได้แล้วครับเจ้านาย"


ใบ ไผ่หยิบขนมในกระทงแรกเข้าปาก แล้วก็ทายชื่อ ก่อนจะชมว่าวชรวรรษทำได้รสชาติดี
วชรวรรษเลื่อนกระทงต่อไปให้ ใบไผ่หยิบขึ้นมากินเคี้ยวได้สักพัก ก็ทายถูกอีก
ชมว่าวชรวรรษทำอร่อยจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของเขา วชรวรรษมีความสุข จน
มาถึงกระทงขนมใบสุดท้ายที่มีแหวนเพชรน่ารักๆ อยู่ในนั้น
วชรวรรษตั้งใจจะใช้แหวนวงนี้ขอใบไผ่แต่งงาน แต่ไม่ทันจะได้เลื่อนกระทงให้ใบไผ่
เสียงมือถือก็ดังขึ้น วชรวรรษแปลกใจกดรับ เสียงเสี่ยทำนุกรอกมาตามสาย
"ว่าไงไอ้หลานชาย ฉันเอง ว่างอยู่ใช่มั้ย คุยเรื่องสำคัญกันหน่อยสิ"
วชรวรรษเดินเลี่ยงไปหาที่คุย "โทรมาทำไม" เสี่ยทำนุยิ้มร้าย ส่งมือถือให้ทศพูด
ทศเสียงสั่น หน้าตื่นกลัว "นะ นะ นาย นายครับ" วชรวรรษตกใจ ทศพูดแค่นั้น
เสี่ยทำนุก็ดึงโทรศัพท์กลับมาคุยต่อ "อย่ามาโทษฉันเลยนะ
ลูกน้องแกอยากแส่ไม่เข้าเรื่อง ฉันก็เลยต้องสั่งสอนให้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่" วชร
วรรษอึ้ง รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงปังดังขึ้นข้างหู วชรวรรษช็อค
แทบหมดแรงยืน รู้ว่าได้สูญเสียลูกน้องไปแล้ว
เขามองไปเห็นใบไผ่กำลังเอื้อมมือไปที่กระทงใบสุดท้ายซึ่งจะเจอแหวน
วชรวรรษพุ่งเข้ามารวบกระทงเก็บได้ทัน ใบไผ่แปลกใจ "ขนมหมดแล้วเหรอ" "เอ่อ ใช่"
ใบไผ่เอาผ้าปิดตาออก วชรวรรษพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ " นายนี่ฝีมือไม่เลว
แสดงว่าที่มาขอเป็นลูกจ้างร้านฉัน นายตั้งใจทำงานจริงๆ ก็ดี
เลิกจับปืนมาจับไม้พายขนมได้แบบนี้
เผื่อฉันจะใจดีเลื่อนขั้นให้นายเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน" ใบไผ่ตบบ่าว
ชรวรรษแล้วเดินออกไป วชรวรรษมองตามหญิงสาว หยิบแหวนขึ้นมาดูอย่างเสียใจ
และเจ็บใจเสี่ยทำนุ วชรวรรษรีบมาที่โรงพยาบาล ก็เห็นวิชญ์เข้าเฝือกนอนอยู่
เข้าไปกระชากคอเสื้อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน "ผมขอโทษครับนาย
ผมกับไอ้ทศไปรู้มาว่าไอ้พยุทธ์กับไอ้ทำนุมันร่วมมือกันหลอกนายครับ
ตอนนี้กิจการที่นายขายต่อให้คุณพยุทธ์ตกเป็นของไอ้ทำนุมันหมดแล้ว
พวกมันร่วมมือกันทรยศหักหลังนายครับ" "เป็นไปไม่ได้" "นายครับ
ที่ผ่านมาไม่ใช่นายหรอกนะครับที่คิดจะได้ผลประโยชน์จากพวกมัน
แต่พวกมันต่างหากที่วางแผนหลอกนายมาตลอด" วชรวรรษชะงัก นึกไม่ถึง
ปล่อยมือจากคอวิชญ์ " ผมกับไอ้ทศอยากแก้แค้นให้นาย
เพราะไม่อยากให้มือนายต้องเปื้อนเลือดชั่วๆ ของไอ้คนพวกนี้อีก
พวกผมก็เลยมีเรื่องกับพวกมัน ตอนนี้ไอ้ทศมันกำลังไปฆ่าไอ้ทำนุอยู่" "ทศทำไม่สำเร็จ"
"หมายความว่ายังไงครับนาย ไอ้ทศ ไอ้ทศมัน" "มันตายแล้ว" วิชญ์ ตกใจมาก
วชรวรรษสั่งให้วิชญ์นำเงินไปให้พ่อแม่ของทศห้าล้านบาทและให้คอยดูแลครอบครัว
ของทศเป็นอย่างดี วิชญ์ถามว่าเรื่องเสี่ยทำนุจะทำอย่างไรต่อไป วชรวรรษไม่ตอบ
บอกว่าเพียงว่าเขาขออยู่คนเดียว วิชญ์เดินกะเผลกหน้า ซึมเศร้าออกมาหน้าบ้านวชรวรรษ
แล้วก็ชะงักที่เห็นวรรษาดักรออยู่
วรรษาคาดคั้นให้วิชญ์บอกความจริงเรื่องการตายของทศ วรรษาเจ็บใจมาก
รีบมาปรึกษาใบไผ่กับธราทิตย์ บอกว่าพยุทธ์กับเสี่ยทำนุร่วมมือกันหลอกวชรวรรษมาตลอด
ใบไผ่ฟังหน้าเครียด "แล้วตอนนี้เราทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยเหรอครับคุณฝน" "
จะทำอะไรได้ ตอนนี้พี่วัชรเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
กิจการทุกอย่างก็ตกไปอยู่ในมือพวกมันหมด ลูกน้องที่เคยมีก็กระจัดกระจายกัน
ขืนลงมือทำอะไรลงไปตอนนี้ พวกมันได้เหยียบย่ำพี่วัชรจมดินแน่ ฝนรู้แล้ว
ถ้าพี่วัชรลงมือเองไม่ได้ ฝนนี่แหละที่จะทวงความยุติธรรมมาให้พี่ชายฝนเอง" "คุณฝน
คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ" " ฉันไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ ฉันพูดจริง ทำจริง
ถึงฉันจะเกลียดการเป็นมาเฟีย แต่ฉันก็ไม่ชอบให้ใครมารังแกครอบครัวของฉัน
เพราะฉะนั้นฉันจะแก้แค้นแทนพี่วัชร" วรรษาลุกขึ้นจะออกไป ใบไผ่ดึงแขนวรรษาเอาไว้
"แล้วคิดบ้างมั้ย ถ้าฝนทำลงไปแล้วความเดือดร้อนก็จะย้อนกลับมาที่พี่ชายฝนอีก"
วรรษาชะงัก "แล้วพี่ไผ่จะให้ฝนทำยังไง"
วชรวรรษนั่งดูแหวนแต่งงานที่จะให้ใบไผ่อยู่คนเดียวเงียบๆ ที่ริมน้ำ ใบไผ่เดินเข้ามา
"นายหมาวัด!!!" วชรวรรษชะงักหันไปเห็นใบไผ่เดินมา รีบเก็บแหวน "หายมาอยู่นี่เอง
รู้มั้ยฉันตามหาตั้งนาน" "เป็นห่วงกลัวฉันจะตายเหรอ" "ใช่ ฉันห่วง แต่ห่วงร้านฉัน
ไม่ได้ห่วงนาย ฉันจ้างนายมาทำงาน ไม่ได้ให้มากินเงินเดือนฟรีๆ
จะไปไหนทำไมไม่โทรบอก" "ฉันขอโทษ เอาเป็นว่าวันนี้ฉันลางานเธอเลยก็แล้วกัน"
"ถ้าจะลางานเพราะเหตุผลไปแก้แค้นเรื่องลูกน้องนายตายล่ะก็ ฉันไม่อนุญาต
ฉันรู้เรื่องจากน้องฝนแล้ว" "ก็ดีในเมื่อเธอรู้แล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องคิดหาคำอธิบาย
ฉันไปล่ะ" "หยุดนะนายวชรวรรษ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่อนุญาตให้นายลางาน
ฉันเป็นเจ้านายของนายอยู่นะ" วชรวรรษหยุดชะงัก " ก่อนที่ฉันจะรับนายเข้ามาทำงาน
นายบอกฉันเองว่าหันหลังให้ทุกอย่างเพื่อจะขอมาทำงานกับฉัน
ถ้านายคิดจะกลับไปเดินทางเก่าอีก ต่อไปนายก็ไม่ต้องมาเหยียบร้านฉันอีก" "
แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง กี่ครั้งแล้วที่คนรอบข้างฉันต้องเดือดร้อน ไม่บาดเจ็บ ก็ตาย
ฉันกลัวนะ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นรายต่อไป ถ้าเป็นอย่างนั้น
ฉันก็คงมีชีวิตอยู่ไม่ได้เหมือนกัน"
วชรวรรษดึงใบไผ่มากอดแน่นด้วยความรักและเป็นห่วง
ใบไผ่อึ้งนึกไม่ถึงแต่ก็ยอมให้วชรวรรษกอด "เวลาที่นายกอดฉันแล้ว
นายรู้สึกดีขึ้นมั้ย" "ดีสิ เพราะเธอคือคนที่ฉัน ฉันรักที่สุด"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อย่าไป" ใบไผ่ดึงวชรวรรษเข้ามากอดบ้าง วชรวรรษอึ้ง
"อยู่กับฉันนะ นายหมาวัด" ใบ ไผ่กอดวชรวรรษด้วยความรักและเป็นห่วง วชรวรรษนิ่งงัน
ก่อนจะเอามือโอบใบไผ่ตอบ ทั้งสองคนกอดกันแนบแน่น ในขณะใบไผ่คิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
วชรวรรษกับใบไผ่กลับมาที่ร้านขนม ก็เจอวิชญ์มานั่งรออยู่ วิชญ์บอกว่าเขามาของาทำ
เพราะวชรวรรษบอกให้เขาเป็นคนดี หางานสุจริตทำ ใบไผ่อนุญาตให้วิชญ์ทำงาที่ร้าน
แล้วจัดการปลดอาวุธทั้งหมดของวิชญ์ คืน นั้นใบไผ่กำลังจะปิดร้าน
หันไปหยิบถาดขนมถาดสุดท้าย เดินเข้าไปในครัว ได้ยินเสียงวิชญ์กับวชรวรรษคุยกันอยู่
ใบไผ่รีบแอบฟังหลังประตู "ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจไอ้เสี่ยทำนุ
ยิ่งตอนนี้มันร่วมมือกับไอ้พยุทธ์ด้วย ผมทิ้งนายไม่ได้จริงๆครับ"
"ฉันเองก็ยังไม่วางใจพวกมันเหมือนกัน หึ แต่ถ้ามันบุกมายิงฉันจริงๆ
แกจะเอาอะไรมาป้องกัน ไม้พายเหรอ" "ไม่มีปืนก็รับลูกกระสุนแทนก็ยังดีครับนาย เอ๊ย
คุณวัชร" ใบไผ่ฟังด้วยความกังวล เป็นห่วงวชรวรรษขึ้นมา ตอน เช้าทั้งกริช อุบล
นาทและแก้วขวัญต่างคุยกันด้วยความเป็นห่วงวชรวรรษ
เพราะรู้ว่าวงการมาเฟียใครเข้าแล้วไม่ออกได้ง่ายๆ
วันดีคืนดีวชรวรรษยืนเคี่ยวน้ำตาลอยู่อาจจะถูกยิงตายก็ได้
ใบไผ่กับวรรษาฟังอยู่ด้วยก็ยิ่งหน้าซีดเป็นห่วงวชรวรรษ
ใบไผ่บอกว่าเธอต้องทำอะไรสักอย่าง จะปล่อยให้คนเลวชนะคนดีไปไม่ได้
เธอต้องหาหลักฐานมัดพยุทธ์กับเสี่ยทำนุให้ดิ้นไม่หลุด และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่
"ทองเอก" จะต้องกลับมาอีกครั้ง วชรวรรษเตรียม ขนมลงกล่องที่จะนำไปส่งลูกค้า
วิชญ์ใส่ชุดฟอร์มเดินออกมาแต่ไม่ใส่ผ้ากันเปื้อน
บอกกับวชรวรรษว่าเขาไม่อยากผูกเพราะสีหวานเกินไป
ระหว่างนั้นเกดเดินเข้ามาทักทายวชรวรรษ วิชญ์หันไปเห็นตกหลุมรักเกดขึ้นมาทันที
วชรวรรษถามหาใบไผ่ เกดบอกว่าใบไผ่โทรศัพท์มาบอกว่าวันนี้จะไม่เข้าร้าน
วชรวรรษงงว่าใบไผ่ไปไหน ใบ ไผ่มาหาแก้วขวัญเพื่อให้ช่วยแปลงโฉมเป็นนายทองเอกให้
โดยธราทิตย์ขอตามใบไผ่ไปด้วยเพราะเป็นห่วงเพื่อน
แก้วขวัญช่วยปลอมตัวธราทิตย์เป็นบอดี้การ์ดของนายทองเอก ภายในผับเป็น
ปาร์ตี้เลี้ยงฉลองเปิดผับใหม่
พยุทธ์กับเสี่ยทำนุชนแก้วฉลองให้กับความพ่ายแก้ของวชรวรรษ
และความสำเร็จของเขาทั้งสอง ระหว่างนั้นนรารีเข้ามา
เสี่ยทำนุมองนรารีหัวจรดเท้าสายตาโลมเลีย "แพนมีเรื่องอยากถามพ่อหน่อย ค่ะ
แพนได้ข่าวว่ามีคนฆ่าลูกน้องคุณวัชร ฝีมือคนแถวนี้ใช่มั้ยคะ
ทำแบบนี้ไม่กลัวคุณวัชรเขากลับมาแก้แค้นเหรอ เขาไม่ใช่ธรรมดานะ" "ไม่
เห็นจะต้องมานั่งห่วงเลยเลยครับคุณแพน คนอย่างไอ้วชรวรรษถ้ามันคิดจะทำ
มันมาเดี๋ยวนั้นแล้ว แต่ที่มันไมทำเพราะตอนนี้มันไม่มีน้ำยาเหลือแล้ว" เสี่ย
ทำนุหัวเราะชอบใจกับพยุทธ์ ก่อนที่พยุทธ์จะขอตัวไปต้อนรับลูกค้า นรารีจะตามพ่อไป
แต่เสี่ยทำนุจับแขนนรารีไว้ นรารีตกใจคว้าแก้วไวน์สาดใส่หน้าเสี่ยทำนุเต็มแรง
"พ่อฉันเป็นหุ้นส่วนงานนี้กับแก แต่สำหรับฉัน ฉันไม่อยาก" นรารีพรวดพราดออกไป
เสี่ยทำนุโมโหตามไปจะปลุกปล้ำนรารี นรารีขยะแขยงสุดขีด แต่สู้แรงเสี่ยทำนุไม่ได้
ทันใดนั้นเสียงทองเอกดังขึ้น "ปล่อยคุณแพนเดี๋ยวนี้!!!" เสี่ยทำนุชะงัก
หันมาเห็นทองเอก "ผมบอกให้คุณปล่อยคุณแพนเดี๋ยวนี้" "กลับบ้านไปกินนมนอนเถอะ
ไอ้หนู" เสี่ยทำนุหันกลับไป ไม่สนใจ ใบไผ่กระชากเสี่ยทำนุมาแล้วชกเปรี้ยง
"พวกมึงเป็นใคร กล้าดียังไงมาหาเรื่องถึงที่ของกู" "ที่นี่อาจจะเป็นที่ของคุณ
แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของผม" นรารีชะงักมองทองเอกด้วยความทึ่ง "เพราะฉะนั้น
คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเธอ" ใบไผ่มองเอาเรื่อง
เสี่ยทำนุหันมาเจอธราทิตย์ยืนค้ำหัวอยู่ก็รู้ว่าเสียเปรียบ รีบออกไป "คุณแพน
เป็นยังไงบ้างครับ" นรารีดีใจที่เจอทองเอกอีก
แต่อารมณ์โกรธจึงผลักใบไผ่ออกไปแล้วตบฉาด "เป็นยังไงน่ะเหรอคะ เจ็บค่ะ เจ็บมาก
คุณกลับมาอีกทำไม" นรารีตัดพ้อแล้วเดินออกไป ใบไผ่สั่งให้ธราทิตย์ไปรอข้างนอก
แล้วเธอก็รีบตามนรารีไป "คุณจะตามแพนอีกทำไม ในเมื่อคุณคิดจะไป
ไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ ปล่อยให้แพนคิดถึงคุณ จนแพนคิดว่าคุณตายไปแล้ว"
"ตอนนี้ผมก็มาแล้วไงครับ ผมมาเพราะอยากอธิบาย" "จะอธิบายอะไรคะ อธิบายว่าที่หายไป
เพราะอกหักจากยัยแม่ค้านั่น ก็เลยกลับมาหาแพนงั้นเหรอคะ แพนไม่ใช่ตัวเลือกของคุณนะ"
"คุณแพนเข้าใจผิดแล้ว กับผู้หญิงคนนั้น ผมไม่ได้จริงจังอะไรด้วยเลย" "ไม่ต้องโกหก
แพนไม่เชื่อคุณอีกแล้ว" " คุณแพนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจนะครับ แต่ที่ผมทำไป
เพราะผมเกลียดไอ้วชรวรรษ ผมอยากทำให้มันเจ็บใจเล่นๆ เลยแกล้งคบกับผู้หญิงคนนั้น
ส่วนคนที่ผมรักจริง คือคุณแพนคนเดียวนะครับ" นรารีแทบระทวยไปกับคำหวาน
แต่ยังเก็บอาการไว้ ใบไผ่จับมือ นรารียิ่งสะท้านทรวง แต่พยายามทำหน้าเป็นปกติ "
ผมรู้ครับว่าครั้งนั้นผมทำให้คุณแพนโกรธมาก แล้วอยู่ดีๆ
ผมจะมาให้คุณแพนอภัยให้ผมตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้ ผมไม่อยากเร่งรัดคุณแพน
แต่อยากให้คุณแพนเก็บไปคิด อย่าเพิ่งตัดเยื่อใยผมเลยนะครับ"
นรารีเกือบจะแพ้สายตาเว้าวอนของใบไผ่ แต่เสียงพยุทธ์ดังขึ้น "แพน!!" "คุณพ่อ!!"
"นั่นใคร" ใบไผ่ก้าวเข้ามาประจันหน้า "สวัสดีครับคุณพยุทธ์ ผม ทองเอกครับ"
พยุทธ์ชะงักหันไปมองนรารี "คุณพ่อคะ กลับบ้านกันเถอะค่ะ แพนรู้สึกไม่ค่อยสบาย"
นรารีควงพยุทธ์พาออกไป ใบไผ่ถอนหายใจหันมาเจอธราทิตย์
"แกแน่ใจเหรอไอ้ไผ่ว่ามันจะได้ผล" "ไม่รู้ว่ะ แต่ตอนนี้รีบไปกัน
ก่อนที่พวกไอ้เสี่ยทำนุจะตามออกมาเช็คบิล" ตอนค่ำ วชรวรรษกำลังเก็บกวาดร้าน
เสียงประตูเปิดดังขึ้น วชรวรรษหันไปเห็นใบไผ่เข้ามา "อ้าว นายยังอยู่นี่อีกเหรอ"
"ก็รอเธอนั่นแหละ หายไปไหนมาทั้งวัน" "ฉันเอ่อ ฉันไปทำธุระกับมาร์ค
แล้วนี่เก็บร้านเสร็จแล้วเหรอ" "เพิ่งเสร็จครับเจ้านาย" "ฉันไว้ใจนายได้ใช่มั้ย"
"ถ้าไม่เชื่อ จะตรวจอีกรอบก็ได้ แต่ถ้าไม่มีอะไรพลาด
ลูกน้องขอจูบเจ้านายเป็นรางวัล" "ไอ้บ้า งั้นนายก็กลับบ้านไปได้แล้ว" "แล้วเธอล่ะ"
"ฉันจะเข้าไปเช็คสต็อค ดูว่าพรุ่งนี้มีอะไรต้องซื้อเพิ่ม" "ฉันเช็คให้หมดแล้ว
นี่คือรายการของที่ต้องซื้อเพิ่ม" "รอบคอบดี ค่อยคุ้มกับค่าจ้างของนายหน่อย"
ใบไผ่รับกระดาษมาเก็บ วชรวรรษยังมองอยู่ "มีอะไร" "ใบไผ่ ฉันขอกอดหน่อยสิ"
"จะบ้าเหรอนายหมาวัด" "อ้าวก็เธอเป็นคนบอกเองว่าถ้าอยากให้ฉันรู้สึกดี
ก็ให้กอดเธอได้ไง วันนี้ฉันเหนื่อยมากอยากได้กำลังใจจากเธอเหมือนวันนั้น"
"อย่ามาทะลึ่งนะ" "ไม่ได้ทะลึ่ง แค่กอดเฉยๆ กอดอย่างเดียว ขอกอดหน่อยนะ นะ
เธอไม่ใช่คนชอบผิดสัญญาไม่ใช่เหรอ" วชรวรรษทำหน้าเว้าวอน
ใบไผ่เสียทีเพราะไปเอ่ยปากไว้จริงๆ "ก็ได้ แต่ให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ" วชร
วรรษพยักหน้า ใบไผ่ยืนตัวแข็ง วชรวรรษเข้ามาใกล้ ใบไผ่ใจเต้นแรง
ไม่มองหน้าวชรวรรษเพราะเขินอาย วชรวรรษกอดใบไผ่ด้วยความนุ่มนวล
ความรู้สึกประหลาดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจ ใบไผ่รู้สึกดีมากๆ วชรวรรษเองก็เช่นกัน
"ผมหอมจัง ใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไร" "นี่ ไหนว่ากอดเฉยๆ ไง" "ขอโทษ" ทั้ง
สองคนยังกอดกันนิ่ง ใบไผ่ปล่อยไปตามความรู้สึก เพราะร่างกายที่สัมผัสกัน
ประกอบกับกลิ่นของหอมของใบไผ่ทำให้วชรวรรษอดใจไม่ไหวกอดใบไผ่แน่นขึ้น
ใบไผ่หลับตาเคลิ้ม วชรวรรษเองก็หลับตาพริ้ม อารมณ์พาไป มือวชรวรรษค่อยๆ
เลื่อนลงมาตรงชายเสื้อใบไผ่ เปิดเสื้อ เอามือเข้าไปแตะเนื้อ ใบไผ่สะดุ้งลืมตา ตกใจ
ผลักวชรวรรษอย่างแรง "นายจะทำอะไร" "เอ่อ ฉันไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นนะ
แค่อารมณ์มันพาไป" ใบไผ่โมโหต่อยวชรวรรษจนเซล้มไปชนโต๊ะ แล้วเดินออกไปด้วยความโมโห
"ไม่น่าเลยเรา อุ๊ย" วชรวรรษจับปากตัวเองด้วยความเจ็บ
วันรุ่งขึ้นทั้งสองไปซื้อของที่ห้างสรรสินค้าด้วยกัน
วชรวรรษหยิบของใส่รถเข็นไม่หยุด ใบไผ่หันไปเห็นก็หยิบออก "หยิบของฉันออกทำไม"
"ของที่นายซื้อราคามันแพง เราไม่จำเป็นต้องซื้อของราคาขนาดนี้ก็ได้"
"แต่มันเป็นของนอกนะคุณ" " ของนอกแพงๆ ใช่ว่าจะเป็นของดี ของไทยๆ แบบนี้แหละ
ถูกปากคนไทยเรานัก นายไม่ต้องเลือกแล้ว ไปรอฉันข้างนอกเลย ไม่รู้จะมาด้วยทำไม
เกะกะ" ใบไผ่เข็นของเดินออกไป วชรวรรษหันไปเห็นลูกค้าสองคนซุบซิบกัน
"สงสัยจะเพิ่งแต่งงานกันนะเธอ ผู้ชายดูกลัวผู้หญิงจังเลย" วชรวรรษได้ยิน คิดอะไรออก
ยิ้มเจ้าเล่ห์ รีบเดินไปโอบใบไผ่ ใบไผ่ตกใจ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร วชรวรรษชิงพูดก่อน
"ที่รักอย่างอนผมนะจ๊ะ" "ที่รักบ้าอะไรของของนาย" วชรวรรษไม่ปล่อยใบไผ่ โอบแน่นขึ้น
"เงียบๆ สิคุณ คนแถวนี้เขานึกว่าเราเป็นคู่แต่งงานใหม่ ผมไม่อยากให้พวกเขาหน้าแตก"
"ฝันไปเถอะว่าชาตินี้ฉันจะแต่งงานกับนาย" ใบ ไผ่กระทืบเท้า วชรวรรษสะดุ้งปล่อยมือ
หันไปเห็นลูกค้ามองขำๆ วชรวรรษยิ้มหน้าแหยรีบตามใบไผ่ไป พลันเสียงมือถือดังขึ้น
ใบไผ่หยิบขึ้นมาชะงักเมื่อเห็นชื่อนรารี "ใครโทรมาเหรอใบไผ่" "เอ่อ ลูกค้าน่ะ
สงสัยจะโทรมาสั่งของ นายซื้อของให้ครบนะ ฉันจะไปรอข้างนอก" ใบ
ไผ่ลุกลี้ลุกลนเดินออกไป ขณะนั้นนรารีเอาชุดมาทาบตัวเอง
พลางคุยโทรศัพท์กับทองเอกไปด้วยอย่างมีความสุข
บอกว่าเธอจะให้โอกาสทองเอกได้อธิบายสิ่งที่ทำไว้กับเธอ
โดยนัดกันไปเจอที่ร้านอาหารภายในหนึ่งชั่วโมง นรารีวางสาย ยิ้มดีใจ
ตัดสินใจเลือกชุดที่เซ็กซี่ที่สุดเพื่อใส่ไปเจอทองเอก ฝ่ายใบไผ่รีบดูเวลา
"ฉันซื้อของเสร็จแล้วนะใบไผ่" "ฝากนายเอาไปที่ร้านหน่อยแล้วกัน" "อ้าว
แล้วเธอจะไปไหน" "ฉันมีธุระ ไม่ต้องถาม นายเป็นลูกจ้าง ทำตามที่ฉันสั่ง" "คร้าบ
แต่ถ้าเธอกลับมา ฉันขอกอดอีกทีนะ" ใบไผ่เงื้อหมัด วชรวรรษยิ้มแหยๆ รีบวิ่งออกไป
ใบไผ่มองตามวชรวรรษเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนจะเดินออกไป ธรา ทิตย์ในชุดสูทสีดำ
สวมแว่นดำ ยืนอยู่ข้างหลังใบไผ่ ระหว่างนั้นนรารีเดินเข้ามา
ใบไผ่เลื่อนเก้าอี้ให้นรารีนั่ง นรารีมองธราทิตย์ถามว่าเป็นใคร
ใบไผ่บอกว่าเป็นบอดี้การ์ด แล้วก็บอกให้ธราทิตย์ออกไปรอข้างนอก
"ดูการกลับมาของคุณคราวนี้ มีลับลมคมในจังเลยนะคะ มันยังไงกันแน่"
"ที่ผมหายหน้าไปจากคุณแพน เพราะผมกลับไปเชียงใหม่ จัดการเรื่องมรดกมาครับ" "มรดก" "
ครับ มรดกของคุณปู่ ก็ไม่มากไม่มายหรอกครับ ร้อยกว่าล้านเท่านั้นเอง
ทางนั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของผม ผมก็เลยต้องมีคนคุ้มกัน
แต่ถึงสถานภาพของผมจะเปลี่ยน แต่หัวใจของผมยังเหมือนเดิมกับคุณแพนนะครับ"
ใบไผ่จับมือนรารีกุมไว้ "ผมถึงต้องกลับมาหาคุณแพนยังไงล่ะครับ"
นรารีลุกขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วกอดใบไผ่ร้องไห้ ใบไผ่เหวอ
"คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วค่ะคุณเอก
เพราะว่าแพนให้อภัยคุณตั้งแต่วันที่คุณกลับมาแล้วล่ะค่ะ" ใบไผ่โล่งใจ
"คุณรู้มั้ยว่าคุณทรมานแพนมากแค่ไหน แพนคิดถึงคุณทุกวัน ทุกนาที ทุกวินาที
ไม่ว่าแพนจะทำอะไร แพนก็เห็นแต่หน้าคุณ" นรารีพูดไปก็ร้องไห้ไป
จนคนทั้งร้านหันมามอง ใบไผ่ยิ้มแหย "ลมหายใจเข้าออกของแพนคือคุณนะคะคุณเอก
แพนรักคุณมาก รักคุณเหลือเกิน อย่าหนีแพนไปอีกนะคะ แพนคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถ้าขาดคุณ"
นรา รีกอดใบไผ่แน่น ใบไผ่จำต้องกอดนรารีตอบ
จากนั้นนรารีก็ควงใบไผ่ในคราบทองเอกมาเปิดห้องพักที่โรงแรม
โดยห้ามไม่ให้ธราทิตย์ตามเข้าไป นรารีเปิดเพลงเซ็กซี่ยั่วยวน ใบไผ่ตกใจ
นรารีถอดเสื้อตัวนอกออก ใบไผ่นิ่งงันทำอะไรไม่ถูก ขณะที่นรารีจะถึงตัวใบไผ่
เสียงเคาะประตูดังขึ้น นรารีชะงัก ใบไผ่โล่งอก
นรารีปิดเพลงเดินไปเปิดประตูเจอธราทิตย์ยืนอยู่ "ไวน์ที่นายสั่งไว้ครับ
"ผมสั่งเองครับคุณแพน เอาเข้ามาเลย" ธราทิตย์เข็นเข้ามา
"งั้นแพนขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" ทันทีที่นรารีเข้าห้องน้ำ ใบไผ่ถอนหายใจโล่งอก
"ถ้าแกมาไม่ทัน ฉันต้องโดนยัยนั่นปล้ำแน่ๆ" "แน่ใจนะว่าแกไหว ถ้าไม่ไหว
ให้แสตนอินอย่างฉันทำแทนก็ได้นะเว้ย" "ไอ้บ้า ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวความแตก"
ธราทิตย์เดินออกไป ใบไผ่หันไปมองยังไม่เห็นนรารีออกมา
รีบเทไวน์ใส่แก้วแล้วเอายานอนหลับใส่ลงไป วชรวรรษกับหยอดเก็บจานเข้ามาในครัว
เกดกับวิชญ์กำลังช่วยกันล้างจาน พร้อมส่งตาหวานให้กัน วชรวรรษเห็น ยิ้มส่ายหัว
"แฮ่ม เกดกับหยอด ถ้าเสร็จงาน ก็กลับได้แล้วนะ เดี๋ยวฉันกับไอ้วิชญ์เก็บร้านเอง"
"นี่คุณวัชรติดต่อพี่ไผ่ไม่ได้เลยเหรอคะ" "ยังเลย" "หมู่นี้พี่ไผ่ไม่เข้าร้านเลย
ดีนะคะที่คุณวัชรอยู่ ไม่งั้นเกดกับหยอดคงทำอะไรไม่ถูก" "แต่มันก็น่าแปลกนะครับ
ปกติพี่ไผ่ไม่เคยหายไปแบบนี้ เฮ้ยหรือว่าพี่ไผ่จะมีกิ๊ก" วชรวรรษหน้าเสีย
ทองหยอดบอกว่าเขาพูดเล่น เช้า วันใหม่ นรารีตื่นขึ้นมา ยังมึนๆ
แล้วก็ชะงักรู้สึกโล่งๆ เปิดผ้าห่มก้มมอง เห็นตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง
นรารีตกใจหันไปเห็นใบไผ่ยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก "คุณเอก!!" ใบไผ่หันมาเห็นนรารี
ทำหน้ารู้สึกผิดเข้ามานั่งข้างๆ "ผมขอโทษนะครับคุณแพน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ผมทำไปเพราะผมรักคุณแพนนะครับ" นรารีตบหน้าใบไผ่ฉาด ใบไผ่งง
"ทำไมคุณทำแบบนี้กับแพนคะ" "อ้าว เอ่อ ผมนึกว่าคุณแพน เต็มใจ" "ใช่ค่ะ แพนเต็มใจ
แต่แพนเสียดาย ที่ไม่ได้ร่วมรับรู้เวลาที่คุณเอกทำให้แพนมีความสุขน่ะสิคะ"
ใบไผ่อึ้ง แต่ก็โล่งใจ นรารียิ้ม "แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ แพนรอเวลานี้มานานแล้ว
แพนรักคุณมากๆ เลยล่ะค่ะคุณเอก" นรารียิ้มร่ากอดใบไผ่แน่น
จากนั้นนรารีควงใบไผ่ออกมาหน้าโรงแรม ใบไผ่ยังรู้สึกแหยงๆ
"เดี๋ยวผมไปส่งคุณแพนที่บ้านนะครับ" "อย่าเลยค่ะแพนยังไม่อยากกลับบ้าน " "อ้าว
แล้วคุณแพนอยากไปไหนต่อครับ" "คือว่าแพนหิวน่ะค่ะ อยากหาอะไรทาน
แพนรู้จักอยู่ร้านหนึ่ง อร่อยมาก คุณเอกไปกับแพนนะคะ" วชรวรรษเดินเข้ามาในร้าน
เจอเกดกับทองหยอดกำลังจัดร้านก็ถามหาใบไผ่ "พี่ไผ่ยังไม่มาเลยค่ะ
เกดโทรไปตามที่บ้านสวน ป้าอุบลบอกว่าพี่ไผ่ยังไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน"
วชรวรรษหน้าเสีย เป็นห่วงใบไผ่ทันที
"ไม่นึกเลยนะครับว่าเรื่องกิ๊กที่ผมพูดเมื่อวานจะเป็นเรื่องจริง" "หยอด!!" ทอง
หยอดยิ้มแหยๆ วชรวรรษหยิบมือถือโทรหาใบไผ่ทันที แต่ติดต่อไม่ได้ วชรวรรษยิ่งกังวล
ขณะนั้นนรารีลงจากรถ
ใบไผ่ตามลงมาถึงกับยืนอึ้งเมื่อเห็นว่านรารีพามาที่ร้านของตัวเอง
นรารีแปลกใจที่ใบไผ่ไม่ตามมา "คุณเอก เป็นอะไรไปคะ"
"คุณแพนทำไมมาทานร้านนี้ล่ะครับ" "ทำไมคะ
หรือว่าคุณเอกยังมีเยื่อใยกับนังแม่ค้านั่นอยู่" ใบไผ่ทำหน้าไม่ถูก ฝืนยิ้ม
"โธ่คุณแพน ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้รักเขา" " ไม่รักก็ดีค่ะ
แพนแค่อยากพิสูจน์ว่าเรื่องเมื่อคืนคุณเอกทำไปเพราะรักแพนจริงๆ
คุณเอกต้องเป็นคนพูดว่าเกลียดนังนั่น แพนถึงจะเชื่อค่ะ" นรารีควงใบไผ่พาเดินไป
ใบไผ่หน้าซีดจบตอน 21
แม่ค้าขนมหวาน 22
วชรวรรษกดวางสายหันมาทางเกดกับทองหยอดสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"ยังโทรหาพี่ไผ่ไม่ได้เหรอคะ" วชร วรรษพยักหน้า เสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น
วชรวรรษตกใจที่เห็นนรารี นรารียังไม่เห็นวชรวรรษเพราะมัวแต่จะดึงทองเอกเข้ามาในร้าน
วชรวรรษแปลกใจที่ทองเอกมากับนรารี ใบไผ่หน้าเสียพยายามก้มหน้ากลัววชรวรรษจับได้
"อ้าวคุณวัชร คุณอยู่ที่นี่ด้วยเหรอคะ
งั้นที่มีคนพูดว่าคุณมาเป็นลูกจ้างร้านขนมหวาน ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ
นี่คุณตกอับขนาดนี้เลยเหรอ" "ถ้าคุณแพนจะพูดแค่นี้ กรุณากลับไปเถอะครับ
ที่นี่เป็นร้านขนม" "แพนก็มากินขนมไงคะ ไม่ได้มาเพราะอยากเห็นคุณ
อย่าสำคัญตัวผิดสิคุณวชรวรรษ" นรารีหน้าเชิดเดินไปนั่ง ทองเอกยังยืนแข็งทื่อ
"คุณเอกนั่งสิคะ" ทองเอกจำต้องยอมนั่งลง แต่ไม่ยอมสบตาวชรวรรษ วชรวรรษเดินมาที่โต๊ะ
"งั้นพวกคุณจะรับอะไร" "อะไรก็ได้ที่อร่อยที่สุด" " หยอด ไปเอาข้าวตังหน้าด้าน เอ๊ย
ข้าวตังหน้าตั้งกับข้าวเกรียบปากเสีย เอ๊ยไม่ใช่ ขอโทษนะครับพูดผิดอยู่เรื่อย
ข้าวเกรียบปากหม้อ มาให้โต๊ะนี้หน่อย" ทองหยอดกับเกดยิ้มชอบใจแล้วรีบเดินออกไป
นรารีเชิดหน้าคอตั้งไม่พอใจ "แล้วนี่แม่ค้าหายไปไหนคะ ทำไมถึงไม่เห็น
อ๋อหรือว่ามีลูกจ้างคนใหม่แล้วก็เลยทิ้งร้าน" ทองเอกเทน้ำดื่มอักๆ
หน้าตาไม่ค่อยดีเพราะพูดถึงตัวเอง "ใบไผ่ไม่อยู่ ถ้าคุณมีธุระอะไรกับเขา
คุยกับผมก็ได้" "แหม ลูกจ้างร้านนี้ปกป้องเจ้านายจังเลยนะคะ
เรื่องสำคัญของแพนคือแพนอยากเคลียร์กับนังนั่นค่ะ คงไม่เกี่ยวกับคุณวัชร"
"งั้นผมว่าคุณคงมาเสียเที่ยว เพราะไม่รู้ใบไผ่จะกลับมาเมื่อไหร่" "ไม่เป็นไร
แพนรอได้ จะรอจนกว่ายัยใบไผ่จะกลับมา คุณคงไม่ไล่ลูกค้าออกจากร้านนะ" เวลา
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทองเอกรีบชวนนรารีกลับ แต่นรารียืนยันรอใบไผ่
ใบไผ่ในคราบทองเอกครุ่นคิดหาทางออก ทันใดนั้นก็บอกกับนรารีว่าคุณย่าโทรมา
ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์นอกร้าน แล้วใบไผ่ก็แอบย่องเข้ามาทางประตูหลังร้านหน้าเครียด
"โธ่เอ๊ย ทำไงดีวะไอ้ไผ่ ซวยจริงๆ เลย เอาวะ เป็นไงเป็นกัน" นรา
รีมองหาทองเอกว่าไม่กลับเข้ามาสักที
ระหว่างนั้นใบไผ่ถอดสูทออกเหลือเสื้อเชิ้ตพับแขน
แล้วใส่ผ้ากันเปื้อนตัวยาวของร้านปกปิดเดินเข้ามาในร้าน เกดเห็นแปลกใจ "อ้าว
พี่ไผ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย" "มาได้สักพักแล้ว พี่เอาของไปเก็บหลังร้าน
อ้าวคุณนรารี มาซื้อขนมเหรอคะ" " มาก็ดีแล้ว ฉันไม่ได้มาเพราะขนมของหล่อน
แต่ฉันมาเพราะต้องการเตือนให้หล่อนตัดใจแล้วก็เลิกยุ่งกับคุณเอกของฉันได้ แล้ว
เพราะฉันกับเขามีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งมาก" "อ๋อ ถ้าเรื่องนั้น ฉันรู้แล้ว"
นรารีตกใจ "แกรู้ได้ยังไง" ใบ ไผ่หน้าถอดสี "เอ่อ อ๋อ ฉันเห็นหน้าคุณก็รู้แล้ว
สีหน้าออกจะสดชื่นขนาดนี้ มาบอกฉันแค่นี้ใช่มั้ย งั้นก็กลับไปได้แล้ว
ฉันจะเลิกยุ่งกับเขา โอเคแล้วนะ" "เดี๋ยว ฉันยังไม่เสร็จธุระ
ความจริงแกควรจะได้ยินจากปากของคุณเอกว่าเขารู้สึกยังไงกับแก อย่าไปไหนนะ
ฉันจะออกไปตามเขาเข้ามา" ใบไผ่ตกใจ เห็นนรารีกำลังจะออกไป รีบเข้าไปขวาง นรารีชะงัก
"จะไปตามเขาทำไม เท่านี้ฉันก็เข้าใจแล้ว" "แต่ฉันต้องการให้แกจำใส่หัวสมอง
จะได้ไม่ต้องทำมารยามายุ่งกับคุณเอกของฉันอีก หลีกไป" นรารีเปิดประตูออกไป
ใบไผ่หน้าเสีย หันหลังจะไปที่หลังร้าน แต่วชรวรรษขวางทางเอาไว้ "เธอจะไปไหน" "เอ่อ
ฉันอบขนมเอาไว้ จะไปดู" "ฉันไปดูให้" "ไม่ต้อง นายจัดการอดีตคู่หมั้นของนายให้ดีๆ
อย่าให้ก่อความวุ่นวายในร้านฉันอีก" ใบ ไผ่รีบออกไปด้านหลังร้านทันที
ในขณะที่นรารีออกมามองหาทองเอกแต่ไม่เห็นก็เริ่มหงุดหงิดหัวเสีย
ใบไผ่ในคราบทองเอกวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "แพนนึกว่าคุณหนีกลับไปแล้วซะอีก"
"ผมจะกลับไปได้ยังไงล่ะครับ คือผมไปห้องน้ำมาครับ"
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้วค่ะรีบเข้าไปกับแพนเถอะ นังนั่นมันมาแล้ว
คุณเอกต้องจัดการนังนั่นให้แพน เอาให้มันเจ็บไปถึงทรวงเลย"
นรารีลากทองเอกเข้ามาในร้าน แต่ไม่เห็นใบไผ่ตัวจริง "อ้าว แล้วไหนล่ะ
ยัยแม่ค้านั่นหายไปไหนแล้ว" วชรวรรษบอกว่าใบไผ่อยู่หลังร้าน นรารีลากทองเอกจะเข้าไป
วชรวรรษคว้าแขนนรารีเอาไว้ "ผมว่าคุณพาเพื่อนของคุณกลับไปดีกว่า อย่ามาระรานที่นี่
ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจ" นรารีชะงักกับสายตาเอาเรื่อของวชรวรรษ
ใบไผ่เห็นเป็นโอกาสดีเลยทำเป็นโกรธ "เฮ้ย แกปล่อยมือสกปรกของแกออกจากคุณแพนนะเว้ย"
ใบไผ่ใบคราบทองเอกเข้ามาผลักอกวชรวรรษสร้างสถานการณ์ แล้วดึงนรารีให้ออกห่าง
วชรวรรษมองอย่างไม่พอใจ " ผมว่าเราอย่าเสียเวลารอคุยกับใบไผ่เลยครับ
ฝากแกไปบอกใบไผ่ให้รู้จักเจียมตัว และรู้ไว้ด้วยว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร
ที่ผ่านมาฉันเห็นเขาเป็นแค่ของเล่น" วชรวรรษไม่พอใจกำมือแน่นมองทองเอกด้วยความโมโห
"แล้วก็อย่าลืมบอกไปด้วยว่า ผู้หญิงที่จืดชืดไร้อารมณ์อย่างนั้น
ฉันไม่เอาทำเมียหรอก" นรารีรีบเสริม "แต่ถ้าคุณวัชรอยากได้ก็เอาไว้แล้วกันนะคะ
ของเหลือเดนจากผู้ชายคนอื่น ใช่มั้ยคะคุณเอก" ทองเอกชะงัก "เอ่อ คือ ใช่ครับ"
ทองเอกทำเป็นหัวเราะในลำคอกลบเกลื่อน วชรวรรษทนไม่ไหวต่อยเข้าที่ปากทองเอกอย่างแรง
จนทองเอกเซกระเด็น นรารีตกใจ "คุณเอก" ใบไผ่เจ็บมาก แต่พยายามวางมาด
"ผมไม่เป็นไรหรอกครับ" "ไม่เป็นไรได้ยังไง ดูสิคะปากแตกเลย"
นรารีซับเลือดที่มุมปากให้ทองเอก "ผมเป็นลูกผู้ชายพอ
เอาเป็นว่าถือว่าเราหายกันก็แล้วกัน หวังว่าต่อไปนี้เราคงไม่ต้องเจอกันอีก
กลับกันเถอะครับคุณแพน" ทอง เอกรีบจับมือนรารีพาเดินออกไป วชรวรรษโกรธมาก
เดินเข้าไปหาใบไผ่ในครัวแต่ไม่เห็น นอกจากเห็นกระดาษโน้ตที่แปะอยู่หน้าตู้อบ
วชรวรรษดึงออกมาอ่าน "ลืมของไว้ที่ตลาด กลับไปเอา ฝากร้านด้วย"
วชรวรรษขมวดคิ้วสงสัย แปลกใจที่ใบไผ่หายตัวไปอีก เสี่ย
ทำนุนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องรับแขก พยุทธ์เดินเข้ามาหน้าเครียดกว่า
ต่อว่าเรื่องที่เสี่ยทำนุคิดจะปล้ำนรารี เสี่ยทำนุแกล้งบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด
"แต่ยัยแพนยืนยันกับผม" " คุณแพนโดนคนอื่นบังคับให้มาพูดต่างหาก ไอ้หมอนั่นไง
ไอ้คนที่อยู่ๆ ก็โผล่เข้ามาตีสนิทกับคุณแพนไง มันเป็นคนนอกนะคุณพยุทธ์
เข้ามาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนั้น คุณว่ามันไว้ใจได้เหรอ" พยุทธ์ครุ่นคิด
เสี่ยทำนุมาตบไหล่ "ปกติคุณเป็นคนระมัดระวังอยู่แล้วนี่ จริงมั้ย"
นรารีประคองทองเอกที่ปากเจ่อเข้ามาในบ้าน พยุทธ์ถามว่าทองเอกไปโดนอะไรมา
นรารีบอกว่ามีเรื่องกับวชรวรรษนิดหน่อย เพราะวชรวรรษหึง " อะไร้
ไอ้วรรษมันหมดน้ำยาแล้ว ยังโดนมันต่อยซะน่วมยังงี้ อ่อนจริงๆ" เสี่ยทำนุเยาะ
นรารีไม่พอใจ ขอตัวพาทองเอกไปทำแผล ทองเอกมองสองคนสงสัยว่ากำลังคุยเรื่องอะไรกัน
และในระหว่างที่นรารีทำแผลให้ ทองเอกจึงพยายามตะล่อมถาม
"เสี่ยทำนุอะไรนั่นเขาสนิทกับคุณพ่อคุณแพนมากเหรอครับ" นรารีชะงัก
"คุณเอกถามทำไมคะ" "เอ่อ ก็ ผมแค่ไม่ชอบหน้ามัน ไม่ชอบที่มันทำกับคุณแพนคืนนั้น"
"โถ หึงแพนเหรอคะ ไม่ต้องห่วงนะคะ แพนน่ะเกลียดมันยิ่งกว่าไส้เดือนอีก"
"แล้วทำไมมันถึงเข้าออกบ้านคุณแพนได้ล่ะครับ คุณพ่อคุณน่าจะโกรธ" "
แพนไม่รู้หรอกค่ะ เรื่องของคุณพ่อ แพนขี้เกียจถาม คุณเอกยังเจ็บอยู่มั้ยค่ะ
เดี๋ยวแพนเป่าเพี้ยงให้" นรารีตั้งท่าจะเข้ามาเป่าปากให้จริงๆ ทองเอกกระเด้ง
"ไม่เป็นไรครับ เอ่อ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะครับ" ใบ ไผ่เข้าห้องน้ำล็อคประตู
สงสัยว่าเสี่ยทำนุมาทำไม พลันก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ข้างนอก ใบไผ่มองหา ค่อยๆ
ปีนขึ้นบนฝาโถส้วมเห็นพยุทธ์และเสี่ยทำนุหลบมาคุยกัน "ตกลงว่าเสี่ยจะไม่เก็บมันไว้"
"ผมไม่ไว้ใจมัน ถึงเราจะได้กิจการของมันมาเกือบทั้งหมด แต่ผมก็ยังไม่วางใจ
ไม่รู้มันจะกลับมาเล่นงานเราเมื่อไหร่" "เสี่ยไม่เชื่อเรื่องที่มันวางมือจากวงการ"
" นิทานหลอกเด็กทั้งนั้น คุณพยุทธ์ มาเฟียอย่างพวกเรา
ยังไงมันก็เป็นมาเฟียวันยังค่ำ
คุณก็รู้ดีนี่การที่จะออกจากวงการนี้ได้มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น" เสี่ย
ทำนุยิ้มเหี้ยม ใบไผ่ได้ยินทั้งหมดก็หน้าเสีย
กลับมาเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนที่บ้านฟัง ธราทิตย์เห็นว่าเรื่องชักจะใหญ่กว่าที่คิด
เขาเริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของใบไผ่ "เดินมากันเกินครึ่งทางแล้ว
จะให้ถอยกลับไปคงไม่ได้ ยังไงก็ต้องเล่นเกมนี้ให้จบ
แล้วที่ฉันให้ไปสืบเรื่องของไอ้เสี่ยทำนุมีอะไรที่พอจะเป็นจุดอ่อนเพิ่มรึ เปล่า"
"ไม่มีเลยว่ะ ตอนนี้ท่าทางมันระวังตัวแจ คงยังกลัวคุณวชรวรรษหาทางแก้แค้นอยู่" "
พี่ไผ่คะ ฝนนึกออกแล้วค่ะว่าจะหาทางเล่นงานพวกนั้นได้ยังไง
ฝนจำได้ว่าสาเหตุที่พี่วัชรไม่ยอมขายกิจการให้กับไอ้เสี่ยนั่นเพราะว่า
พี่วัชรสงสัยว่ามันจะค้ายาเสพติดค่ะ"
"มันก็ไม่แปลกนี่ครับที่พวกมาเฟียจะค้ายาเสพติด" " ใช่ค่ะ มาเฟียคนอื่นอาจจะไม่แปลก
แต่เสี่ยทำนุตั้งตัวมาพร้อมกับคุณพ่อของฝน คุณพ่อกับพี่วัชรถึงจะเป็นมาเฟีย
แต่เรื่องยาพวกเราไม่ยุ่งเด็ดขาด
สาเหตุที่คุณพ่อแตกหักกับเสี่ยทำนุก็มาจากเรื่องนี้แหละค่ะ" "ไม่แน่นะ
ตอนนี้มันอาจจะทำอาชีพนี้อยู่ก็ได้ ของอย่างนี้ถ้าจับได้ขึ้นมาเมื่อไหร่
มันเสร็จเราแน่" ธราทิตย์พูดขึ้น "งั้นก็ต้องหาหลักฐานเรื่องนี้มาให้ได้" ใบไผ่ย้ำ
ภายในร้านขนมหวาน ใบไผ่ซึ่งยังมีรอยแผลช้ำๆ ที่มุมปาก กำลังเตรียมทำขนมอยู่
วชรวรรษเดินเข้ามาเห็น "มาทำงานได้แล้วเหรอครับเจ้านาย" ใบไผ่หันไปค้อน
วชรวรรษชะงักที่เห็นแผลที่มุมปากของใบไผ่ "ปากคุณไปโดนอะไรมา"
ใบไผ่นึกได้รีบหลบสายตา "ไม่มีอะไร เมื่อวานฉันซ้อมมวยกับอานาท"
วชรวรรษหรี่ตาไม่เชื่อ "งั้นเหรอ" ใบไผ่ไม่ยอมสบตาก้มหน้าก้มตาทำเป็นยุ่ง
วชรวรรษเดินมากระซิบ "คิดถึงจัง" "นี่ ผีเข้ารึไง" "เปล่า ฉันก็พูดไปอย่างที่รู้สึก
ก็หลังๆ เธอไม่ค่อยอยู่ร้าน ฉันก็คิดถึงนะสิ" ใบไผ่แอบยิ้ม วชรวรรษเดินเอาของไปจัด
ใบไผ่แอบมองตามด้วยความเป็นห่วง วชรวรรษหันมา ใบไผ่รีบหลบ
"เธอรู้มั้ยว่าเมื่อวานหลังจากที่เธอออกไปแล้ว
ไอ้หน้าอ่อนนั่นมันให้ฉันมาบอกเธอว่าอะไร" "รู้แล้ว" "อะไรนะ" "เอ่อ เปล่า ทำไม
เขาฝากบอกว่าอะไร" " มันบอกว่าที่ผ่านมามันเห็นเธอเป็นแค่ของเล่น
แล้วก็บอกด้วยว่าอย่ากลับไปหามันอีก เป็นไง คนดีของเธอ
หลงรักหลงแก้ตัวให้มันอยู่ได้ตั้งนาน แต่ฉันก็ไม่ได้ให้มันพูดอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ
ฉันสอยปากมันไปที โทษฐานที่มาพูดจาชุ่ยๆ ใส่แฟนฉัน" "นี่ อย่ามาเนียน ใครแฟนนาย"
"ก็ใครยอมให้ฉันกอดล่ะ" "นายหมาวัด พูดอีกคำเดียว ฉันชกปากนายจริงๆ ด้วย" "ชกเลย
แต่ไม่ให้ใช้มือชกนะ ให้ใช้อย่างอื่น" วชรวรรษมองที่ปากใบไผ่
ใบไผ่โถมเข้ามาจะต่อยวชรวรรษ วชรวรรษรวบตัวเธอไว้ "ฉันพูดจริงๆ นะ ใบไผ่
อย่าไปสนใจผู้ชายเลวๆ อย่างนั้นอีกเลย มันไม่ได้รักเธออย่าง
เอาเป็นว่าฉันขอก็แล้วกัน อย่าไปยุ่งกับมันอีก" "ทำเป็นว่าคนอื่น
แล้วฉันจะเชื่อใจนายได้เหรอ" " ฉันสัญญากับเธอแล้วไง
ว่าฉันตั้งใจจะเป็นคนดีเพื่อเธอ เมื่อฉันตัดสินใจวางปืนลง
นั่นแปลว่าฉันวางชีวิตทั้งหมดของฉันไว้ในมือเธอนะใบไผ่" ใบไผ่อึ้ง สองคนสบตากัน
คืนนั้นใบไผ่สัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายวชรวรรษเด็ดขาด
ตอนเช้าวชรวรรษเดินเข้าร้านก็ถามหาใบไผ่ เกดบอกว่าใบไผ่โทรมาบอกว่าจะไม่เข้าร้าน
วชรวรรษเริ่มสงสัย บริเวณสระน้ำของบ้านพยุทธ์ นรารีอยู่ในชุดว่ายน้ำเซ็กซี่
ยื่นครีมกันแดดให้ทองเอกช่วยทาหลังให้ ทองเอกมองหยั่งเชิงถาม "
ทำไมพ่อของคุณถึงทำธุรกิจกับเสี่ยทำนุล่ะครับ ผมขอโทษที่ถาม
แต่เพราะผมเป็นห่วงคุณนะครับ คือผมได้ยินมาว่าเสี่ยทำนุเขาเป็นพวกค้ายาเสพติด"
นรารีหน้านิ่งไปเพราะรู้อยู่แล้ว แต่ตีหน้าว่าไม่รู้เรื่อง
"เรื่องแบบนั้นคุณเอกไปรู้มาจากไหนคะ" " ผมรักคุณแพนนะครับ
ผมถึงต้องใช้เงินจ้างให้คนเช็คทุกคนที่มาข้องเกี่ยวกับคุณแพนและคุณพยุทธ์
กลัวคุณแพนของผมจะโดนหลอก โดนทำร้ายอีก" นรารีหันมากุมมือทองเอกดีใจที่เขาเป็นห่วง
"ขอบคุณคุณเอกนะคะที่เป็นห่วงแพนกับคุณพ่อ ไว้แพนจะเตือนคุณพ่อเรื่องนี้เอง
เรามาว่ายน้ำกันดีกว่านะคะคุณเอก" ทองเอกหน้าเสียรั้งตัวเองเอาไว้ "เอ่อ
อย่าเลยครับคุณแพน วันนี้ผมไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่" "ไม่เห็นจะเป็นไรเลย
เดี๋ยวแพนถอดเสื้อให้ จะได้เล่นน้ำกัน" นรารีรุกทองเอกจนจะแย่
โชคดีที่พยุทธ์เดินเข้ามาพอดี "ยัยแพน!!" "คุณพ่อ" ใบไผ่รีบยกมือไหว้พยุทธ์
แล้วเอาตัวรอดจากนรารี "ยัยแพน พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก ตามลำพัง"
พยุทธ์เดินนำเข้าไปในบ้าน บอกกับนรารีว่าเขาไม่ชอบที่นรารีพาทองเอกเข้ามาในบ้าน
"ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนนี่คะ เขาเป็นคนที่แพนรัก" " แกพูดบ้าอะไรของแก
อย่าลืมสิว่าเรามีงานใหญ่รออยู่ ฉันไม่ไว้ใจมัน ถ้าเกิดมันรู้เรื่องของเราเข้า
แล้วเอาไปบอกตำรวจ ทุกอย่างได้พังหมด" "ถ้าพ่อกลัว
พ่อก็เลิกร่วมมือกับไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นค้ายาสิคะ" "แพน แกจะพูดเสียงดังทำไม" "
แพนไม่สนหรอกค่ะ พอกันทีกับความเป็นลูกกตัญญู
แพนทำเพื่อพ่อมามากจนแพนเกือบต้องเสียคนที่แพนรักไป
ต่อไปนี้แพนจะขอเลือกทางเดินของตัวเอง แพนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายของพ่อ
และพ่อก็ห้ามแพนไม่ได้ด้วย" นรา รีเดินออกไป พยุทธ์ถึงกับอึ้ง
ทองเอกยืนอยู่หน้าห้องได้ยินทุกอย่าง พอเห็นนรารีออกมาก็รีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง
นรารีโผเข้ากอดทองเอกแน่น เกือบจะร้องไห้ "คุณเอกคะ คุณช่วยพาแพนออกไปจากบ้านทีนะคะ
ไปที่ไหนก็ได้ แพนอยากอยู่กับคุณเอกตามลำพัง" "งั้นเราไปดื่มกันนะครับ"
วชรวรรษกับวิชญ์ช่วยกันทำขนม แต่แล้วก็ได้กลิ่นไหม้ วิชญ์นึกขึ้นได้รีบไปเปิดตู้อบ
เห็นขนมไหม้เกรียม วชรวรรษหน้าเสีย "ซวย ถ้าใบไผ่กลับมาเห็น แกกับฉันตายแน่
รีบทำลายหลักฐานเร็วเข้า" วิชญ์รีบเททิ้งขยะ "เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆๆ แค่นี้ไม่ได้
ถ้าใบไผ่เปิดเจอ โดน แกเอาถุงนี้ไปทิ้งเลย เอาไปทิ้งให้ไกลๆ เลยนะ"
"นายกลัวคุณใบไผ่มากขนาดนี้เลยเหรอครับ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกันนะครับเนี่ย
ไม่น่าเชื่อ ความรักจะทำให้คนเปลี่ยนไปมากขนาดนี้" "ไม่ได้กลัว แค่เกรงใจ นิดหน่อย
เอ้อ แล้วเรื่องที่ฉันให้ไปสืบล่ะ" " เรียบร้อยแล้วครับนาย
ไอ้ทำนุมันใช้บริษัทในเครือของพยุทธ์เป็นแหล่งฟอกเงินที่มันได้มาจากการค้า
ยาเสพติดด้วยกัน มันแบ่งผลประโยชน์ด้วยกันมาตลอด" "มันถึงได้ร่วมมือกันหักหลังฉัน
กลัวว่าฉันจะไปขวางทางมัน ไอ้สารเลว"
"ผมได้ข่าวมาว่าคืนนี้พวกมันมีการส่งของกันครั้งใหญ่
ผมว่าไอ้สองคนนั่นต้องไม่พลาดแน่นอนครับ" นรา รีดื่มอย่างหนัก
พร้อมกับร้องห่มร้องไห้ที่พยุทธ์กีดกันเธอกับทองเอก ทองเอกดึงนรารีมากอด
ว่าเขาเข้าใจเธอดี แล้วพยายามจะถามเพื่อล้วงข้อมูล " เอ่อ คุณแพนครับ
ผมได้ยินว่าพ่อของคุณมีงานใหญ่ มันงานอะไรเหรอครับ แล้วเกี่ยวกับเสี่ยทำนุหรือเปล่า
ผมเป็นห่วงกลัวว่ามันจะเป็นงานที่ไม่ดี"นรารีมองหน้าทองเอก "ผมขอโทษ
ผมคงถามคุณแพนมากไป งั้นเรามาดื่มกันต่อเถอะครับ" ทองเอกรินเหล้าให้
นรารีรับมาดื่มจนหมดแก้ว ทองเอกรินเหล้าให้อีก "คุณเอก แพนไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ"
"อีกแก้วนะครับคุณแพน แก้วสุดท้ายแล้ว ผมจะได้พาคุณแพนไปนอน"
นรารีรับแก้วมาดื่มจนหมด มึนมากจนเซ ทองเอกรีบเข้ามารับ นรารีหลับตานิ่ง "คุณแพน
คุณแพน" ทันใดนั้นนรารีก็ลืมตาขึ้นมา ผละมามองหน้าทองเอก
"คืนนี้จะมีการขนยาเสพติดครั้งใหญ่ คุณพ่อกับไอ้เสี่ยนั่นจะไปด้วยกัน
คุณเอกอย่าไปบอกใครอีกนะคะ" นรารีพูดจบก็หลับคาอกทองเอก
ทองเอกยิ้มดีใจหยิบมือถือมาโทรหาธราทิตย์ "ไอ้มาร์ค ได้เรื่องแล้ว
แกช่วยมาดูแลคุณแพนแทนฉันที ฉันมีงานต้องทำ" พยุทธ์ ขับรถออกมาจากบ้าน
ใบไผ่แอบดูอยู่ในรถก็สตาร์ทรถขับตามออกไป เวลาเดียวกันนั้น
วชรวรรษกับวิชญ์ซุ่มดูอยู่บนหลังตู้คอนเทนเนอร์บริเวณท่าเรือ
ทั้งคู่ใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจ เห็นเสี่ยทำนุยืนรอยู่ที่ลาน
ไม่นานพยุทธ์ก็เดินเข้ามา
ระหว่างนั้นวิชญ์ใช้กล้องสำรวจดูทางอื่นแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นทองเอกซุ่ม
อยู่อีกด้าน รีบเรียกให้วชรวรรษมาดู "ไอ้ทองเอก มันมาทำอะไรที่นี่" ใบ
ไผ่ในคราบทองเอกแอบมองเสี่ยทำนุ พยุทธ์ อย่างระมัดระวัง
ระหว่างนั้นรถบรรทุกหกล้อแล่นเข้ามา ใบไผ่หยิบกล้องถ่ายรูปออกมา
เล็งไปที่เสี่ยทำนุกับพยุทธ์ที่เดินเข้าไปตรวจของ สองคนหยิบห่อยาเสพติดออกมา
ใบไผ่ซูมเข้าไปใกล้ถ่ายรูปเก็บไว้ให้ได้ทุกมุมเลยไม่ทันระวังเหยียบเศษ
กระเบื้องแตกทำให้เกิดเสียงดัง ลูกน้องเห็น ร้องขึ้น เสี่ยทำนุกับพยุทธ์หันไปมอง
ใบไผ่ตกใจรีบวิ่งหนี เสี่ยทำนุสั่งจับตัวมาให้ได้ ใบไผ่วิ่งหนีพวกลูกน้องมาตามทาง
ลูกน้องชักปืนออกมายิง ใบไผ่ตกใจสะดุดล้ม กล้องถ่ายรูปตกพื้น รีบลุกขึ้นจะหยิบกล้อง
แต่ลูกน้องยิงปังโดนกล้องถ่ายรูปกระจุย
ใบไผ่มองกล้องด้วยความเสียดายที่เสียหลักฐานไป แต่ต้องหนีเอาตัวรอดก่อน
ใบไผ่วิ่งมาจนถึงประตู แต่ประตูล็อค ออกไม่ได้ หันไปเห็นลูกน้องตามมา
ยกปืนจะยิงใบไผ่ ใบไผ่แกล้งทำเป็นเห็นอะไรบางอย่าง "เฮ้ย" ลูก
น้องหันไปมองเสียจังหวะ ใบไผ่เข้าไปแย่งปืน ลูกน้องอีกคนเข้ามา ตีหัวใบไผ่สลบเหมือด
เล็งปืนจะยิง วชรวรรษพุ่งเข้ามาเอาไม้ตีแขนลูกน้อง วิชญ์เข้ามาช่วย
ทั้งสองซัดลูกน้องเสี่ยทำนุจนสลบ แล้วรีบแบกทองเอกออกไปบริเวณตึกร้าง
ทองเอกนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น วชรวรรษกับวิชญ์มองทองเอกด้วยความเซ็ง
"กำลังจะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว ดันโผล่เข้ามาทำไมก็ไม่รู้" "นั่นสิครับนาย
เห็นมันสนิทกับคุณนรารีนึกว่ามันจะอยู่พวกกัน น่าแปลกนะครับ"
ใบไผ่รู้สึกตัวแล้วเลยได้ยินเสียงทั้งสอง ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกลัวความแตก
พยายามครุ่นคิดหาทางออก "แกรีบไปเอารถมา ฉันจัดการทางนี้เอง" วิชญ์ เดินออกไป
จังหวะที่วชรวรรษหันไปมองวิชญ์ ใบไผ่ค่อยๆ ขยับตัวคลานหนี
แต่กลับเจอรองเท้ามายืนตรงหน้า ใบไผ่ชะงักกึก เงยหน้าเห็นวชรวรรษยืนค้ำหัวอยู่
"จะไปไหน" "กลับบ้านไง ถามมาได้" "แล้วไม่คิดจะขอบใจฉันหน่อยเหรอ
ที่ฉันช่วยชีวิตแก" "ขอบใจ แค่นี้ใช่มั้ยที่ต้องการ" ทองเอกหันหลังจะเดินกลับ
วชรวรรษคว้าคอเสื้อเอาไว้ ทองเอกหันไปปัดมือวชรวรรษออก "อะไรอีก"
"แกโผล่หัวไปที่นั่นทำไม" "ไม่เกี่ยวกับนาย" วชรวรรษโมโหตบหัวทองเอก "เฮ้ย ทำอะไรวะ
เจ็บนะเว้ย" "คิดว่าฉันจะเชื่อแกเหรอไอ้อ่อน" ทองเอกจะออกไปอีก
วชรวรรษเข้ามารวบตัวกอดจากด้านหลัง "ไอ้วชรวรรษปล่อยฉันนะเว้ย" ทอง เอกพยายามดิ้น
วชรวรรษคว้าตัวแน่นขึ้น จึงโดนหน้าอกเต็มๆ ทองเอกแทบช็อค วชรวรรษอึ้ง
ทองเอกผลักวชรวรรษแล้วจัดการเตะผ่าหมาก วชรวรรษจุกหน้าเขียวทรุดลงไปกองกับพื้น
ทองเอกไม่สนใจรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกไป "โอ๊ย ไอ้บ้าเอ๊ย ผู้ชายอะไรวะ
ทำไมหน้าอกนิ่มจัง" เช้า วันรุ่งขึ้น
นรารีนอนพลิกตัวหันมายิ้มพริ้มมีความสุขอยู่ในห้องของโรงแรม
มือควานหาทองเอกแต่ไม่เจอ แปลกใจรีบลุกขึ้นก็เห็นกระดาษโน้ตแปะอยู่บนโคมไฟ
นรารีดึงมาอ่าน "ผมต้องไปทำงาน เลยไม่อยากปลุกคุณ ทองเอก"
นรารีมองกระดาษโน้ตแล้วยิ้มมีความสุข ทิ้งตัวลงนอน เอากระดาษโน้ตมาจูบ
ภายในร้านขนมหวาน ใบไผ่จัดขนมใส่ในกระทง วชรวรรษถือถุงปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้เข้ามา
"ปาท่องโก๋ กับ น้ำเต้าหู้ร้อนๆ ครับ" ใบไผ่หันมาหน้าบึ้ง
ยังโกรธเรื่องที่วชรวรรษไปสืบเรื่องของเสี่ยทำนุเมื่อคืนนี้ " อุ้ย
ถ้าเจ้านายไม่ชอบ งั้นรับนี่มั้ยครับ หัวใจสี่ห้อง แถมความรักจากหัวใจ
ใส่ความห่วงใย เติมความคิดถึง และคำว่ารัก เมนูนี้ไม่เสียเงิน ขอแค่ความรู้สึกดีๆ
ก็พอ" ใบไผ่ยังหน้านิ่ง วชรวรรษเจื่อน "แหม วันนี้ดูองค์จะลงนะครับเจ้านาย" "ไม่ขำ
ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย" ใบไผ่ให้วชรวรรษตามไปที่หลังร้าน แล้วพูดใส่ทันที
"เมื่อคืนนายหายไปไหนมา" วชรวรรษชะงักแปลกใจ "เมื่อคืนนี้เหรอ ผมก็อยู่บ้านผมน่ะสิ"
"โกหก ฉันรู้ว่าเมื่อคืนนายไปหาไอ้เสี่ยทำนุ นายไปยุ่งกับเขาอีกทำไม
ไหนนายรับปากฉันแล้วว่านายจะไม่กลับไปเดินทางเก่าอีก" "ใครเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเธอ
ไอ้ทองเอกใช่มั้ย" ใบไผ่สวมรอย "ใช่ เขาเล่าให้ฉันฟัง" "ใบไผ่ เธอเป็นอะไร
ไอ้ทองเอกมันพูดจาดูถูกเธอขนาดนี้แล้ว ทำไมยังกลับไปยุ่งกับมันอีก"
"นั่นมันคนละเรื่องกัน ฉันกำลังต่อว่าที่นายโกหกฉัน
นายรับปากว่าจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องนั้นอีก แต่นายก็ไม่รักษาสัญญา" "แล้วเธอล่ะ
ที่เธอหายไปจากร้านบ่อยๆ เธอหายไปไหนมา" "ฉันไปทำธุระ" "ธุระอะไร
ธุระกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นน่ะเหรอ เธอกลับไปเจอมันมาอีกใช่มั้ย ใช่มั้ย"
"นายหมาวัด!!" "ทำไม ทำไมเธอถึงไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวเธอเองบ้าง กลับไปหามันอีกทำไม
ตอบคำถามฉันมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน" วชรวรรษหน้าบึ้ง เดินออกไป
ใบไผ่หน้าเสีย ไม่รู้จะทำอย่างไร เสี่ยทำนุมาหาพยุทธ์ที่บ้าน
บอกว่าลูกน้องของเขารายงานว่าคนที่มาแอบดูที่โกดังเมื่อคืนคือทองเอก พยุทธ์ตกใจ
โกรธ "เห็นมั้ยว่ามันใช่อย่างที่ฉันเคยเตือน แกต้องรีบจัดการมันให้เร็วที่สุด
เพราะถ้าแกไม่ทำ ฉันจะทำตามวิธีของฉัน" ทันใดนั้นเสียงนรารีดังขึ้น
"ห้ามใครหน้าไหนยุ่งกับคุณเอกของแพนเด็ดขาด" "ยัยแพน!!"
"มีใครมาฟ้องอะไรพ่ออีกเหรอคะ" " หนูแพนอย่ามองฉันในแง่ร้ายนักสิ ที่ฉันพูด
เพราะหวังดีกับหนูนะ ไอ้หมอนั่นมันไว้ใจไม่ได้ ที่มันเข้ามาตีสนิทกับหนู
เพราะมันต้องการสืบเรื่องของเรา บางทีมันอาจจะเป็นสายตำรวจก็ได้" "ไม่จริง
เสี่ยกำลังใส่ร้ายคุณเอก" "ไม่ได้ใส่ร้ายแต่ลูกน้องฉันเห็นมันจริงๆ"
"งั้นลูกน้องเสี่ยก็คงตาถั่ว
เพราะเมื่อคืนนี้คุณเอกอยู่กับแพนที่โรงแรมด้วยกันทั้งคืน" พยุทธ์กับเสี่ยทำนุตกใจ
"พ่อคะ แพนว่าหุ้นส่วนของพ่อต่างหากที่กำลังหาแพะรับบาป
ระวังจะโดนหักหลังโดยไม่รู้ตัวนะคะ" "พยุทธ์แกจะเชื่อฉัน หรือ เชื่อลูกสาวแก
ก็เลือกเอา" เสี่ยทำนุเดินออกไป นรารีหันมาทางพยุทธ์ " พ่อคะ แพนยืนยันได้จริงๆ
ไอ้เสี่ยนั่นมันไม่ใช่คนดี ตอนนี้มันได้ทุกอย่างที่มันต้องการแล้ว
แต่พอแพนไม่ยอมมัน มันเลยคิดจะหาทางหักหลังพ่อใช้คุณทองเอกเป็นเหยื่อ
เชื่อแพนนะคะพ่อ" ใบไผ่กำลังนั่งกลุ้มอยู่หลังร้าน พลันโทรศัพท์ก็ดังดัง
ใบไผ่มองซ้ายมองขวา กดรับ "ครับ คุณแพน" "คุณเอกคะ
เมื่อคืนนี้คุณอยู่กับแพนทั้งคืนใช่มั้ยคะ" ใบไผ่ชะงักนิดนึง คิดว่าจะตอบอะไรดี
"คุณเอกเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" "เปล่าครับเปล่า ทำไมคุณแพนถามผมแบบนี้ล่ะครับ
ผมเขียนโน้ตบอกคุณแพนแล้วไง" " นั่นน่ะสิคะ
คุณรู้มั้ยคะว่าไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นมาบอกพ่อแพนว่าคุณเป็นสายตำรวจ เลยมาตีสนิทแพน
แถมมันยังบอกอีกนะคะว่าเมื่อคืนมันเห็นคุณที่ท่าเรือ เหลวไหลสิ้นดี
มันจะเป็นไปได้ยังไง" "แล้วคุณแพนบอกคุณพ่อว่ายังไงครับ"
"แพนก็บอกไปว่าคุณอยู่กับแพนทั้งคืน" "แล้วคุณพ่อคุณแพนเชื่อมั้ยครับ" "
ก็ต้องเชื่อสิคะ ในเมื่อแพนเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ ดีแล้วล่ะค่ะ
คุณพ่อจะได้หูตาสว่างซะที แพนว่าไอ้เสี่ยนั่นมันกำลังวางแผนหักหลังคุณพ่ออยู่แน่ๆ
คุณเอกเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะคะ"
ใบไผ่เก็บเรื่องที่นรารีเล่ามาเล่าให้กับทุกคนที่บ้านสวนฟัง "โป๊ะเชะ
แสดงว่าเรามาถูกทางแล้วล่ะคะพี่ไผ่"
"ในเมื่อจะจับเสือด้วยมือเปล่าแต่มันเสี่ยงเกินไป เราก็ปล่อยให้เสือมันกัดกันเอง
แล้วค่อยจัดการตอนเสือมันลำบาก" "แหมพ่อมาร์ค ฟังดูโหดจังเลยนะจ๊ะ"
"ไม่โหดหรอกค่ะน้าแก้ว ถ้าเทียบกับความเลวที่พวกมันเคยก่อไว้กับฝนกับพี่วัชร" "
งั้นต่อไปเราก็ต้องปล่อยให้พวกมันกัดกัน รอให้มันแตกคอแล้วค่อยเล่นงานทีเดียว
แต่แกก็อย่าประมาทนะไอ้ไผ่ ยังไงก็ยังต้องเสี่ยงอยู่" นาทเตือน ใบไผ่เอาแต่เงียบ
"เป็นอะไรไปไผ่" "ไม่ค่อยสบายใจจ้ะน้าแก้ว รู้สึกเหมือนไผ่กำลังหลอกใช้คุณนรารี" "
พี่ไผ่อย่าคิดว่าตัวเองผิดสิคะ ทีเขายังทำกับพี่วัชรทำกับพี่ได้เลย
คนเราทำเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก ถ้าใครกล้ามาว่า เดี๋ยวฝนจัดการให้เอง" "ฝน
พี่ไม่ได้รักพี่ชายฝนแบบนั้นนะ" "ค่ะไม่รักก็ไม่รัก แค่ช่วยเพื่อนเฉยๆ"
วรรษาหันไปยิ้มกับทุกคนที่รู้กันดีว่าใบไผ่ปากแข็ง "เอาล่ะๆ
ในเมื่อทุกอย่างเดินมาทางนี้แล้ว เห็นทีต่อไปก็ต้องเดินเกมรุก
งานนี้สงสัยไผ่ต้องพึ่งอานาทแล้วล่ะค่ะ" ใบ
ไผ่ขอให้นาทปลอมตัวไปล่อซื้อยาจากเสี่ยทำนุ โดยให้เข่งเป็นลูกน้อง
ตอนแรกเสี่ยทำนุไม่ยอมให้พบเพราะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน
แต่นาทก็บุกเข้าไปพบพร้อมกับเปิดกระเป๋าเงินเป็นฟ่อนให้ดู เสี่ยทำนุจึงเริ่มสนใจ
นาททิ้งนามบัตรให้ไว้ บอกว่าติดต่อเขาได้ทุกเมื่อ วันรุ่งขึ้น
ทองเอกไปหานรารีที่บ้านบอกว่าเขาให้คนไปสืบมาแล้ว
ได้ความว่าเสี่ยนทำนุคิดจะหักหลังพยุทธ์จริงๆ "จริงเหรอคะคุณเอก!!"
"คุณแพนไม่เชื่อผมเหรอครับ" "ไม่ใช่ค่ะ แพนขอบคุณมากนะคะที่คุณไม่รังเกียจแพนกับพ่อ
แพนนึกว่าคุณจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ซะอีก" "ผมรักคุณนะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง
ผมก็รักคุณ" นรารียิ้มให้ทองเอกด้วยความดีใจ มีความสุข
ระหว่างนั้นพยุทธ์เดินออกมาเห็น "ยัยแพน นี่แกยังพามันเข้าบ้านอีกเหรอ" "พ่อคะ
พ่อไล่คุณเอกไปไม่ได้นะคะ เพราะคุณเอกมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกพ่อค่ะ"จบตอน 22
แม่ค้าขนมหวาน 23 พยุทธ์ฟังเรื่องที่ทองเอกเล่า แต่ยังไม่ค่อยไม่ไว้ใจนัก
"ฉันจะเชื่อแกได้ยังไง" "ต้องเชื่อได้สิคะ คุณเอกเป็นคนรักของแพนนะคะ
คุณเอกไม่มีทางโกหกแพนเด็ดขาด" "จริงครับคุณพยุทธ์
ผมหวังดีกับคุณแล้วก็คุณแพนนะครับ แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อ ดูนี่ก็แล้วกัน"
ทองเอกเปิดคลิปในมือถือให้พยุทธ์ดู
พยุทธ์เห็นภาพขณะที่เสี่ยทำนุกำลังเจรจาธุรกิจกับนาทเมื่อคืน พยุทธ์ถึงกับอึ้ง
"เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าคุณพ่อกำลังทำธุรกิจกับอสรพิษอยู่
จะได้รู้สักทีว่าใครกันแน่ที่ดีกับเราจริงๆ" พยุทธ์กำมือถือแน่นด้วยความโกรธแค้น
ทองเอกพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน สักครู่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทองเอกกดรับ
"ฮัลโหล ครับ" "ไอ้ไผ่ ไอ้เสี่ยทำนุมันเพิ่งโทรมาหาอา มันนัดให้อาไปเจอ" "ขอบใจมาก"
ทองเอกวางสายจากนาทหันไปบอกพยุทธ์ "คนของผมรายงานมาว่ามันนัดส่งของกันบ่ายนี้"
"หลังจากนี้ ฉันจัดการเอง แต่ถ้าฉันไปแล้วไม่เจออะไรล่ะก็ เตรียมใจไว้ให้ดีๆ
ก็แล้วกัน" เสี่ยทำนุกำลังนั่งรอนาทอยู่ที่ห้องทำงาน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เสี่ยทำนุคิดว่าเป็นนาท ลูกน้องเปิดประตูออกไป เจอพยุทธ์
พยุทธ์เดินเข้ามาหน้าเหี้ยมเกรียม "ว่ายังไงหุ้นส่วน รอใครอยู่เหรอ" "เปล่า
เปล่านี่ ไม่ได้รอใคร คุณพยุทธ์มีอะไร มาถึงนี่เลย"
พยุทธ์หันไปเห็นลูกน้องเสี่ยทำนุพยายามยืนบังห่อของ เสี่ยทำนุหน้าถอดสี
"แล้วนี่อะไร" พยุทธ์เดินมาผลักลูกน้อง แล้วโยนของโครมลงบนโต๊ะ ยาบ้ากระจาย
"ปล่อยของโดยไม่ถามฉันสักคำ แกคิดหักหลังฉันใช่มั้ย" "เอาอะไรมาพูด" "ความจริงไง
แกคิดว่าฉันโง่นักใช่มั้ย แกดูถูกฉัน แกเล่นกับคนผิดแล้ว" เสี่ย ทำนุอึ้ง
เห็นว่าจนมุม "ใช่ ฉันทำอย่างที่แกว่า แต่ที่ฉันไม่บอก
เพราะฉันไม่ไว้ใจไอ้เสี่ยนั่น แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ไอ้สารเลวนั่นมันหายหัวไปเลย ฉันผิดเอง" "แกไม่ต้องแก้ตัว
นี่ถ้าลูกสาวฉันไม่มาเตือนล่ะก็ ฉันคงจะโดนแกหักหลังจนหมดตัว" เสี่ย ทำนุชะงัก
"มีใครเป่าหูแกมาใช่มั้ย งานนี้มีคนต้องการให้เราแตกคอกันแน่ ไอ้
ต้องเป็นฝีมือไอ้หน้าอ่อนนั่นแน่ มิน่าล่ะมันถึงมาตีสนิทกับลูกสาวแก
ฉันจะไปลากคอมันมาเค้นถามเดี๋ยวนี้" เสี่ยทำนุจะออกไป พยุทธ์ชักปืนออกมาจ่อ
ลูกน้องเสี่ยรีบชักปืนขึ้นมาป้องกันนาย แต่โดนพยุทธ์หันไปยิงทิ้ง ลูกน้องตายคาที่
เสี่ยทำนุตกใจตาเหลือก " พยุทธ์ ใจเย็นๆ ก่อนสิ เรื่องแค่นี้
ทำไมต้องฆ่าแกงกันด้วยวะ ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ศัตรูของเราคือไอ้หมอนั่น
อย่ามาทะเลาะกันเองแบบนี้เลยน่า" พยุทธ์ไม่พูด ขึ้นไกปืนเสียงดังกริ๊ก
เสี่ยทำนุหน้าซีด " ในเมื่อแกคิดไม่ซื่อ เรือมันก็คงต้องถึงฝั่งแยกทาง
ฉันจะถอนทุนของฉันคืนทั้งหมด แล้วถ้าแกปากโป้งเรื่องของฉัน
เตรียมตัวจองศาลาไว้ได้เลย" พยุทธ์ยิงเปรี้ยงเป็นการขู่ เสี่ยทำนุสะดุ้งตกใจ
พยุทธ์เดินออกไป เสี่ยทำนุมองด้วยความแค้น ใบไผ่เข้ามาในร้าน
เจอเกดกับทองก็ถามหาวชรวรรษ เกดบอกว่าอยู่หลังร้าน ใบไผ่เดินเข้าไปหาเงียบๆ
วชรวรรษหันมามองนิดเดียว "นายโกรธฉันเหรอ" วชรวรรษเงียบ
"นี่ใจคอนายจะไม่พูดกับฉันไปตลอดชีวิตเลยหรือไง ฉันกับทองเอก เราสนิทกันมาก
ฉันรู้จักเขามานานจนเหมือนคนๆ เดียวกัน" "แล้วเธอมาบอกฉันทำไม"
"เพราะฉันบริสุทธิ์ใจ
ฉันคุยกับเขาก็เพราะอยากเตือนเขาว่าอย่ากลับไปยุ่งกับคนพวกนั้นอีก"
วชรวรรษฟังนิ่งอยู่ ใบไผ่พูดต่อ เหมือนพูดเตือนวชรวรรษมากกว่า "
คนพวกนั้นเป็นคนไม่ดี ทองเอกเขาเคยหลุดออกมาจากวงจรนั้นได้แล้ว
ฉันไม่อยากเห็นเขากลับไปเดินทางเดิมอีก ฉันห่วงเขาในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น"
"แล้วทำไมมันถึงกลับไปอีก" "เพราะความจำเป็นไง แต่จำเป็นอะไร
นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แล้วนี่นายหายโกรธฉันรึยัง" "ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่
ฉันก็แค่ หึง" ใบไผ่หน้าแดง แว้ดใส่ "นายหมาวัด" "ก็ฉันหวงนี่
ยังไงฉันก็ไม่ชอบให้เธอไปยุ่งไปคุยกับผู้ชายอื่น"
"แล้วนายมาเป็นเจ้าของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ หา" "ไม่เป็นวันนี้
วันหน้าเธอก็ไม่รอดฉันหรอก" ใบไผ่หยิบอะไรใกล้มือได้ก็ปาเข้าไป แต่หน้าแดงเขิน
"ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต" "นี่ พอได้แล้ว ฉันยังไม่หายโกรธร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะ
มีข้อแม้อีกหนึ่งอย่างที่เธอต้องทำให้ฉัน ฉันถึงจะยกโทษให้" "อะไรวะ
ไหนว่าไม่โกรธไง เออ เออ อะไรล่ะ" "เย็นนี้เธอห้ามไปไหน เธอต้องทำกับข้าวให้ฉันกิน"
"แค่เนี้ย" "นั่นแหละ ฉันไม่ได้กินข้าวฝีมือเธอมาหลายวันแล้ว มันหงุดหงิด นะ
นะใบไผ่ ทำข้าวเย็นทานด้วยกันนะ" ใบไผ่ทำเป็นเงียบ "จะกินอะไร" วชร วรรษยิ้มออก
สองคนมองหน้ากันอย่างมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ใบไผ่เดินเข้ามาในครัว หน้าตาสดชื่น
สูดหายใจลึก คิดถึงการทำขนมหลังจากไม่ได้ทำมาหลายวัน เริ่มจัดเตรียมของ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์นรารี ใบไผ่หน้าแหย "อะไรอีกเนี่ย ครับ คุณแพน
มีอะไรครับ" "วันนี้คุณเอกว่างมั้ยคะ คุณพ่อชวนทานกลางวันด้วยกันค่ะ"
"คุณพ่อคุณแพนเหรอครับ" "ใช่ค่ะ
คงอยากขอบคุณคุณที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เรื่องไอ้เสี่ยบ้ากามนั่น มานะคะ
คุณพ่อแพนไม่ชวนใครง่ายๆ นะคะ" "ครับ คุณแพน งั้นเดี๋ยวพบกันครับ
ฝากขอบคุณคุณพยุทธ์ด้วยที่เชิญผม" ใบไผ่วางสายอย่างกังวล วชรวรรษเดินเข้ามาเห็นพอดี
"ใครโทรมาน่ะ" "อ๋อ เอ่อ น้าแก้วน่ะ บอกว่าให้ฉันเข้าไปหาหน่อย มีเรื่องให้ช่วย"
"ตอนนี้เลยเหรอ" "อื้ม งั้นฉันฝากร้านนะ จะได้รีบไปรีบกลับ" "ใบไผ่
อย่าลืมนัดของเรานะ" "ไม่ลืมหรอกน่า ฉันไปนะ" ใบ ไผ่รีบออกไป
วชรวรรษไม่ค่อยไว้ใจนัก จึงฝากให้วิชญ์ช่วยดูร้านแทน แล้วเขาก็รีบสะกดรอยตามใบไผ่ไป
ใบไผ่มาที่ร้านแก้วขวัญ เห็นกระดาษโน้ตติดอยู่กับถุงเสื้อทองเอก
"น้าติดธุระอยู่ช่วยไม่ได้ แต่เตรียมทุกอย่างให้หมดแล้ว ขอให้โชคดี" ใบ ไผ่ดูเวลา
รีบเดินออกไป วชรวรรษเห็นใบไผ่หอบกระเป๋าออกมาจากร้านแล้วขึ้นรถแท็กซี่ไป
วชรวรรษรีบตามไป เห็นใบไผไผ่เข้าไปในโรงแรม เขารีบตามเข้าไปแต่ไม่ทัน ระหว่างนั้น
ใบไผ่เปิดห้องของโรงแรมเพื่อปลอมตัวเป็นทองเอก วชรวรรษนั่ง รออยู่ที่ล็อบบี้
เห็นทองเอกเดินออกมจากลิฟต์ วชรวรรษรีบหลบ เป็นจังหวะเดียวกับที่พยุทธ์
นรารีเดินเข้ามาพร้อมบอดี้การ์ด นรารีเดินเข้ามาหาทองเอก วชรวรรษเห็นสามคนทักทายกัน
พยุทธ์ยิ้มแย้มกับทองเอก "ผมขอโทษที่มองคุณผิดไป" "ไม่เป็นไรครับ
เป็นธรรมดาของคนเป็นพ่อที่มีลูกสาวที่น่ารักอย่างคุณแพนจะไม่ไว้ใจผม"
"แพนดีใจนะคะที่เห็นคุณพ่อกับคุณเอกเข้ากันได้
วันนี้เป็นวันที่แพนมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะ" "อย่ามัวแต่พูดกันตรงนี้เลย
พ่อหิวแล้ว ไปกันเถอะ" ผู้จัดการโรงแรมพาทั้งหมดไปที่ห้องอาหาร
วชรวรรษไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงมารวมกันอยู่ที่นี่ รวมทั้งใบไผ่ด้วย เวลา ผ่านไป
วชรวรรษยังนั่งรอดูอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กลุ่มของพยุทธ์เดินผ่านกลับมาจะไปขึ้นรถ
นรารีกลับไปกลับพยุทธ์ ทองเอกรีบกลับไปยังห้องพัก
วชรวรรษตามมาแอบดูเห็นทองเอกเข้าไปในห้อง แล้วสักครู่ใบไผ่ก็เดินออกมา หัวยุ่งเหยิง
ท่าทางลุกลี้ลุกลนรีบเดินออกไป วชรวรรษตาค้าง
ไม่คิดว่าทองเอกกับใบไผ่จะลึกซึ้งกันขนาดนี้ วชรวรรษทั้งโกรธทั้งเสียใจ ผิดหวัง
ใบไผ่รีบกลับมาที่ร้าน จัดอาหารวางบนโต๊ะที่จัดไว้อย่างน่ารักสำหรับสองที่
วชรวรรษเดินกลับเข้าร้านมา สายตานิ่ง ไม่มีความรู้สึกใดๆ เหลืออยู่อีก "นายหมาวัด
ไปไหนมา ฉันนึกว่านายจะเบี้ยวฉันแล้วซะอีก นี่ เป็นไง
รับรองว่าทานแล้วนายต้องหายโกรธฉันเป็นปลิดทิ้ง" วชรวรรษยังนิ่ง
ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ "นายเป็นอะไร มีอะไรรึเปล่า" "วันนี้เธอไปไหนมา" "อ๋อ ฉันเหรอ
ฉันก็ไปทำธุระให้น้าแก้ว แล้วก็ไปซื้อกับ…" "หยุดโกหกได้แล้วใบไผ่
ฉันรู้หมดแล้วว่าเธอไปไหนมา" ใบไผ่หน้าเสีย นึกว่าวชรวรรษรู้เรื่องปลอมตัว
"นายรู้แล้ว" "ใช่ ฉันเห็นหมดทุกอย่าง เรื่องที่เธอนัดแนะไปเจอกับไอ้ทองเอกนั่น
ฉันไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงอย่างเธอจะทำตัวไร้ค่าได้ขนาดนั้น" "นี่ นายพูดอะไรของนาย"
" เธอไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง ไอ้ทองเอกมันเดินลงมากินข้าวกับแฟนมัน
เธอก็ยอมรอมันอยู่ข้างบน ฉันผิดหวังในตัวเธอมากนะใบไผ่
ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะรักมันมากขนาดต้องยอมมันทุกอย่างขนาดนี้"
"นี่นายหยุดพูดจาดูถูกฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ นายไม่รู้จริงอย่าพูดออกมาดีกว่า" "
ไม่รู้จริงเหรอ จนฉันเห็นกับตาทุกอย่าง เธอยังจะโกหกว่าอะไรอีก ไปทำธุระ
ไปช่วยน้าแก้ว เธอจะโกหกฉันอีกทำไม ฉันรักเธอนะใบไผ่
ฉันรักเธอมากกว่าไอ้เฮงซวยนั่นไม่รู้เท่าไหร่ ฉันไม่มีวันทำกับเธออย่างที่มันทำ
แต่ทำไมกับฉัน เธอถึงไม่เคยสนใจเลย ทีกับมัน มันเรียกเมื่อไหร่ เธอก็ต้องไปงั้นเหรอ
ยังงั้นเหรอ ใบไผ่" ใบไผ่กลั้นน้ำตาไว้ "นายดูถูกฉันมากไปแล้วนะ" วชร
วรรษเริ่มอ่อนลง "ฉันไม่ได้ดูถูกเธอเลย ใบไผ่ แล้วฉันก็ไม่อยากให้ใครมาดูถูกเธอ
ไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเอง
ที่ไอ้ทองเอกมันทำแปลว่ามันไม่เห็นค่าของเธออย่างที่ฉันเห็น ฉันขอร้องล่ะใบไผ่
หยุดยุ่งกับมันเถอะ ให้มันหายไปจากชีวิตเธอได้มั้ย ใบไผ่" ใบไผ่อึดอัดที่สุด
อยากอธิบาย อยากบอกทุกอย่างแต่ก็ยังพูดไม่ได้ "ใบไผ่" "ไม่ได้ ฉันยังไปจากเขาไม่ได้
มันยังไม่ถึงเวลา" วชรวรรษชะงัก สายตาบ่งบอกความผิดหวัง ความเสียใจทั้งหมด
"ฉันเข้าใจแล้ว" วชร วรรษลุกเดินออกไปเงียบๆ ใบไผ่มองตาม อยากให้ทุกอย่างหยุด
แต่วชรวรรษก็เดินออกประตูไป ทันทีที่ประตูปิด ใบไผ่ปัดจานข้าวกระจาย
ร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่000000000000000 วันรุ่งขึ้น
ใบไผ่เดินออกมาจากในครัวพร้อมถาดขนม ประจันหน้ากับวชรวรรษที่เดินออกมา
ต่างคนต่างจะเดินไปทางเดียวกัน จนชนกันเอง ขนมหกลงพื้น
"มัวแต่ฝันหวานจนเหม่อเหรอไง" "พูดอะไร" "ไม่มีอะไร" ใบไผ่โกรธน้อยใจทนไม่ได้
"ไปเอาผ้ามาทำความสะอาดเดี๋ยวนี้เลย!!" วชรวรรษไม่พูด เดินไปหยิบผ้า ก้มลงเก็บขนม
เช็ดพื้น "ให้ไวหน่อยสิ ลูกค้าจะเข้าร้านแล้วไม่เห็นเหรอไง" วชรวรรษเก็บขนมใส่ถาด
จะเดินไป แต่ใบไผ่ยืนขวาง "หลีก" ใบไผ่ชะงักเจอวชรวรรษทำเสียงดุ ใบไผ่ไม่พอใจ
เดินตามวชรวรรษไป พูดใส่ไม่ยั้ง " นี่ กล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอ
ฉันเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้นาย นายเป็นแค่ลูกจ้างของฉัน
ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร" วชรวรรษไม่สนใจ ทำโน่นทำนี่ "ได้ยินฉันหรือเปล่า
ฉันให้เวลานายครึ่งชั่วโมง ทำขนมที่หล่นเมื่อกี๊ให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จ
ฉันจะหักเงินเดือนนาย เข้าใจมั้ย" "แค่นี้ใช่มั้ยเจ้านาย" ใบไผ่เงียบ
วชรวรรษเดินออกไป ใบไผ่หัวเสียเดินไปอีกทาง
เกดกับวิชญ์แอบมองแต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ใบ ไผ่เดินถือถาดกลับเข้ามาในครัว
ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าเตา พยายามกลั้นน้ำตาไว้เพราะทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ แต่ก็ไม่ไหว
ใบไผ่รีบเอามือป้ายออกไป วชรวรรษมาแอบมองอยู่ แต่ก็ทำได้แค่นั้น คืน นั้น
วชรวรรษนั่งเศร้าอยู่ที่บ้าน คิดถึงแต่เรื่องใบไผ่
วรรษากับธราทิตย์เดินมาเห็นวชรวรรษ ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความเห็นใจ
จนวรรษาอยากจะบอกความจริงทั้งหมดเรื่องทองเอก แต่ธราทิตย์ห้ามไว้
แล้วขอคุยกับวชรวรรษตามลำพัง "คุณวัชรครับ
คุณวัชรอย่าไปถือสาคำพูดของไอ้ไผ่มันเลยนะครับ มันเลือดจะไป ลมจะมา ก็เลยพูดจาบ้าๆ
บอๆ แต่ผมยืนยันได้นะครับว่าทุกอย่างที่ไผ่ทำ เพราะมันหวังดีกับคุณจริงๆ"
วชรวรรษเอะใจ "รออีกสักพักนะครับ อย่าเพิ่งตัดใจจากไอ้ไผ่
อีกไม่นานคุณจะเข้าใจทุกอย่าง" "นี่คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ
เพื่อนคุณเขาเลือกที่จะอยู่กับไอ้ทองเอก เขาจะมาทำอะไรเพื่อผม"
"บางครั้งเส้นผมเส้นเล็กๆ มันก็สามารถบังภูเขาลูกใหญ่ๆ ได้มิดเลยนะครับ
เชื่อผมสักครั้งนะครับ คุณวัชร ผมรู้จักเพื่อนผมดี" ใบ ไผ่ วชรวรรษ เกด ทองหยอด
วิชญ์ กำลังช่วยกันจัดร้าน บรรยากาศดูเงียบๆ ไม่สนุกสนานเหมือนเคย
เสียงโทรศัพท์ใบไผ่ดังขึ้นมา ทุกคนสะดุ้ง ใบไผ่หยิบมาดูเบอร์
พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาอำมหิตของวชรวรรษจ้องอยู่ ใบไผ่เดินออกไปข้างนอก
วชรวรรษมองตาม ทุกคนทำงานต่อเงียบๆ สักพักใบไผ่เดินกลับเข้ามา "เอ่อ
ฉันฝากดูร้านด้วยนะ" วชรวรรษไม่มองหน้าแต่วางของลงดังโครม
ใบไผ่ไม่กล้าสบตาเดินออกไปเลย วชรวรรษขบกรามแน่นทนไม่ไหวเดินตามออกไปหน้าร้าน
"จะไปไหน!!!" "ไม่เกี่ยวกับนาย" "จะไปหาไอ้ทองเอกใช่มั้ย"
"ฉันบอกแล้วไงไม่เกี่ยวกับนาย กลับไปทำงานได้แล้ว" "เป็นเจ้าของร้านภาษาอะไร
ลางานไปหาผู้ชาย" "นี่มันร้านของฉันน ฉันจะทำอะไรก็ได้"
"งั้นฉันก็ขอฟันธงเลยว่าร้านเธอเจ๊งแน่นอน" "ไอ้บ้า!!" "ทำไม มันทนคิดถึงกันไม่ได้
จนต้องไปหากันตลอดเวลาเลยรึไง" ใบ ไผ่ไม่ตอบ มองวชรวรรษด้วยความโกรธ แล้วเดินออกไป
วชรวรรษทั้งโมโหทั้งน้อยใจ เสียใจ เซ็ง กลับไปในร้านนวดแป้งด้วยความโมโห
วิชญ์เดินมาด้อมๆ มองๆ "ผมไม่อยากเชื่อเลยครับว่าคุณไผ่จะไปคว้าไอ้หมอนั่นมาเป็นแฟน
ทั้งๆ ที่นายหล่อกว่า เก่งกว่ามัน มันมีดีตรงไหน" "เลิกพูดชื่อมันได้แล้ว
ฉันไม่อยากฟัง!!" "ขอโทษครับนาย แต่มันก็แปลกนะครับนาย
ผมไม่เคยเห็นคุณไผ่กับไอ้ทองเอกนี่พร้อมๆ กันเลย คบกันภาษาอะไร" วชรวรรษชะงัก
เริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง เขาเริ่มประมวลภาพระหว่างใบไผ่กับทองเอก แล้วก็คิดออก
เสี่ยทำนุโกรธแค้นพยุทธ์จึงสั่งให้ลูกน้องหาหลักฐานทุกอย่างเพื่อเปิดโปงพยุทธ์
"ไอ้พยุทธ์ อย่าคิดว่ามึงจะรอด กูจะส่งมึงให้ไปอยู่ในคุก ส่วนไอ้ทองเอก
ใช้วิธีไหนก็ได้ เก็บมันซะ!!" "ครับเสี่ย" นรา รีนั่งดูหนังสือแฟชั่นอยู่
พยุทธ์เดินเข้ามาหาลูกสาว
ระหว่างนั้นคนรับใช้ถือซองเอกสารเข้ามาให้บอกว่ามีคนมาฝากไว้
พยุทธ์เปิดซองเอกสารเห็นสมุดบัญชีรายได้ทางลับที่เสี่ยทำนุคิดจะใช้เปิดโปง
พยุทธ์ตกใจ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พยุทธ์หยิบมือถือขึ้นมาเห็นชื่อเสี่ยทำนุ
"ได้รับของจากฉันแล้วใช่มั้ยไอ้พยุทธ์" "คิดจะขู่ฉันเหรอ" " ทำไมฉันต้องขู่
ในเมื่อฉันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว นั่นยังแค่ส่วนน้อย ไอ้ที่สำคัญๆ ยังมีอีกเพียบ
ไว้รอถึงมือตำรวจเมื่อไหร่ แกเสร็จแน่" "ถ้าฉันถูกจับ แกก็ต้องโดนจับเหมือนกัน"
"ลำพังฉันไม่เท่าไหร่ ฉันมีทางหนีทีไล่เยอะ แต่แกน่ะสิ ฮึๆๆ ไหนจะลูกสาวแกอีก
ถ้าไม่ถือ ฉันรับเลี้ยงได้นะ" "ไอ้ทำนุ แกจะเอายังไง" "พรุ่งนี้เตรียมเงิน 50
ล้านมาให้ฉัน อย่าตุกติก เพราะฉันมีสำเนาอีกหลายฉบับ" นาท
กับแก้วขวัญนั่งดูแบบการ์ดแต่งงานกันอยู่ ใบไผ่นั่งเศร้าอยู่ด้วย
แก้วขวัญเป็นห่วงความรู้สึกหลานสาว จึงไพยายามไม่ตื่นเต้นกับงานแต่งของตัวเองนัก
"นี่แล้วเราจะทำยังไงต่อไป" "ก็ไม่ทำอะไร
ตอนนี้ไอ้เสี่ยทำนุกับไอ้พยุทธ์มันแตกกันแล้ว ไผ่ว่าเรื่องมันน่าจะจบได้เร็วๆนี้"
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ ถ้าคุณวัชรเขาไปจากชีวิตเราจริงๆ ไผ่จะทำยังไง" ใบไผ่เงียบ
เสียงมือถือดังขึ้น ใบไผ่เดินเลี่ยงไปรับสาย "ครับคุณแพน ได้ครับ เดี๋ยวเจอกัน"
"ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วเหรอใบไผ่" "จ้ะ อย่าห้ามไผ่เลยนะน้าแก้ว
ไผ่ต้องไปทำให้มันจบ" ทอง เอกรีบไปหานรารีที่บ้าน นรารีเห็นทองเอกก็โผเข้าหา
บอกว่าเสี่ยทำนุจะเปิดโปงพยุทธ์เธอจะทำอย่างไรดี
ใบไผ่กลับมาที่ร้านคิดถึงเรื่องที่นรารีเล่าให้ฟัง
เหม่อจนไม่ได้ยินเสียงวชรวรรษที่เดินเข้ามาข้างหลัง "คิดอะไรอยู่เหรอครับ
คุณทองเอก" ใบไผ่สะดุ้งเฮือก "เฮ้ย นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ" "ก็เรียกชื่อคุณไง คุณทองเอก" "นี่
นายพูดบ้าอะไรของนาย ฉันไม่รู้เรื่อง" "เลิกเล่นละครได้แล้ว ใบไผ่
ฉันว่ามันถึงเวลาที่เราต้องคุยกันจริงๆ แล้ว"
วชรวรรษปิดประตูล็อคแน่นหนาก่อนจะหันกลับมาหาใบไผ่ "เล่ามา
เธอปลอมตัวเป็นทองเอกได้ยังไง" "ฉันก็ไปหาน้าแก้ว แล้วก็เอาผ้าพันหน้าอก ใส่วิก"
"อย่ามาตลก ใบไผ่ วันนี้ถ้าฉันไม่ได้ความจริงจากเธอฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่"
ใบไผ่รู้ว่าวชรวรรษเอาจริง "ตอนแรกฉันก็แค่อยากจะแก้แค้นนายที่มาทำร้านฉันพัง
ฉันก็เลยจะสั่งสอนนาย" "ด้วยการมาแย่งผู้หญิงของฉันไป" ใบไผ่หน้าตึง "แหม
พูดชัดเชียวนะ ผู้หญิงของฉัน" "ใบไผ่ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง
เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยรักคุณแพนเลย" "ก็นั่นแหละ แล้วพอสุดท้าย ฉันก็เลยเลิกไง"
"แล้วตอนนี้ นายทองเอกกลับมาอีกทำไม" ใบไผ่อึกอัก "ใบไผ่ เราพูดกันดีๆ ตรงๆ
ไม่ได้เหรอ โตๆ กันแล้ว เธอมีอะไรเธอก็บอกฉันได้นี่"
ใบไผ่เห็นแววตาที่จริงใจแต่คาดคั้นของวชรวรรษก็รู้ว่าคงปิดต่อไปไม่ได้ "
ฉันไม่อยากให้นายกลับไปเป็นเจ้าพ่ออีก นายพยายามจะเป็นคนดีก็เพราะ เพราะฉัน
แต่พวกมันก็ตามราวีนายไม่เลิก ฉันกลัวว่าถ้าวันนึงนายทนไม่ได้ นายจะ…"
"จะกลับไปเป็นเจ้าพ่ออีก" ใบไผ่พยักหน้า
"แต่เธอก็ไม่น่าจะต้องเอาตัวเข้าไปแลกขนาดนั้นนี่ มันอันตรายมากรู้มั้ยใบไผ่
ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะทำยังไง" ใบ ไผ่น้ำตาคลอ "แล้วถ้านายเป็นอะไรขึ้นมา
ฉันจะทำยังไง ฉันไปได้ยินมาว่าไอ้เสี่ยทำนุมันตั้งใจจะฆ่านาย
ตราบใดที่มันยังลอยนวลอยู่ ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่ามันจะไม่กลับมาฆ่านาย"
วชรวรรษเข้าใจทุกอย่าง ดึงใบไผ่มากอด "ใบไผ่ ฉันขอโทษที่เข้าใจเธอผิด"
"แต่นายยังไม่ตอบฉันเลยว่าคืนนั้นนายไปที่โกดังอีกทำไม" "
ก็เหตุผลเดียวกับเธอนั่นแหละ ไอ้เสี่ยทำนุมันรู้จุดอ่อนของฉัน
มันพูดว่ามันจะทำลายคนรอบข้างฉันทั้งหมด ฉันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอกับยายฝนไม่ได้
ทีนี้ นายทองเอกจะหายไปจากชีวิตเธอได้รึยัง" "ยัง เรื่องมันใกล้จะจบแล้ว
อะไรที่ฉันเริ่มไว้ ฉันต้องจบมันให้ได้ อย่าห้ามฉันเลยนะ" "ฉันไม่ห้าม
แต่ฉันจะไม่ให้เธอไปคนเดียว!!" ใบ
ไผ่แอบมาที่ร้านแก้วขวัญเพื่อเปลี่ยนชุดเป็นทองเอกอีกครั้ง
วชรวรรษล่วงรู้เข้าจึงแอบตามมาที่ร้าน
และสวมรอยเป็นแก้วขวัญช่วยส่งอุปกรณ์ปลอมตัวให้ใบไผ่ แต่ใบไผ่อยู่ในห้องลองเสื้อ
ไม่รู้เรื่อง คิดว่าเป็นแก้วขวัญ "ไผ่จะเป็นทองเอกครั้งสุดท้ายแล้วค่ะน้าแก้ว"
"เธอคิดจะทำอะไรโดยไม่บอกฉันอีกแล้วนะใบไผ่" ใบไผ่สะดุ้งหันมาเห็นว่าเป็นวชรวรรษ
ใบไผ่หลบตา "ฉันก็แค่ปลอมตัวเข้าไปสังเกตการณ์เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหลอกนายหมาวัด"
วชรวรรษจับบ่าทั้งสองข้างของไผ่ "ใบไผ่ ฉันรู้นะว่าเธอกำลังจะทำอะไร
ทำไมเธอต้องปิดบังฉันตลอดเวลา เพราะอะไร ฉันไม่มีความสำคัญอะไรกับเธอเลยใช่มั้ย"
ใบไผ่อึ้งลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินเข้ามาหาวชรวรรษ กอดชายหนุ่มทางด้านหลัง
"ก็เพราะนายเป็นคนสำคัญของฉันน่ะสินายหมาวัด
ฉันไม่อยากให้นายเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกนั้นอีก"
ใบไผ่ปล่อยมือที่กอดวรรษออกเดินไปตรงหน้า จับมือวชรวรรษไว้ทั้งสองข้าง
"เชื่อใจฉันเถอะนะ ฉันจัดการทุกอย่างได้ ฉันเตรียมแผนการไว้หมดแล้ว"
วชรวรรษดึงใบไผ่เข้ามากอด "ฉันเชื่อใจเธอใบไผ่
แต่เธอจะไปที่นั่นโดยไม่มีฉันไม่ได้เด็ดขาด" ใบไผ่ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของวชรวรรษ
"ฉันยอมให้เธอเป็นนายทองเอกครั้งสุดท้าย
ส่วนฉันก็จะเป็นเจ้าพ่อครั้งสุดท้ายเหมือนกัน" "นายหมาวัด" "พร้อมหรือยัง
นายทองเอก" "พร้อมแล้วฮะ เจ้าพ่อ" ใบไผ่ยิ้ม
หอมแก้มวชรวรรษหนึ่งทีโดยที่วชรวรรษไม่ทันตั้งตัว แล้วเดินออกไปด้วยความเขิน
วชรวรรษยืนอึ้ง จับแก้มตัวเองยิ้มอยู่คนเดียว พยุทธ์ เตรียมเงินเต็มกระเป๋า
พร้อมปืน นั่งรถออกไปกับลูกน้อง นรารีเป็นห่วงพ่อ ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาทองเอก
ขณะนั้น วชรวรรษขับรถโดยมีใบไผ่นั่งอยู่ข้างๆ เสียงโทรศัพท์ใบไผ่ดังขึ้น
ใบไผ่หยิบขึ้นมาดู "คุณแพน" วชรวรรษคว้าโทรศัพท์มากดทิ้ง
แล้วเปลี่ยนมาจับมือใบไผ่ไว้ "รีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ
ส่วนเรื่องคุณแพนค่อยจัดการทีหลัง" นรารีหงุดหงิดที่โทรไม่ได้ พยายามโทรอีกครั้ง
แต่ก็โทรไม่ติด หัวเสียโยนโทรศัพท์ทิ้ง พลันได้ยินเสียงกุกกัดที่ประตู "ใครน่ะ
ฉันถามว่าใคร" ทุกอย่าง เงียบสงบ นรารีชักใจไม่ดี เดินมาที่หน้าประตู
แล้วปิดประตูล็อค ถอนใจโล่งอก หันหลังกลับมา แล้วตกใจสุดขีด
ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง ทอง เอกเดินมาเจอลูกน้องยืนอยู่ที่หน้าโกดัง
ลูกน้องมองไม่ไว้ใจ ทองเอกวางมาดเป็นปกติไม่ให้มีพิรุธ บอกว่าพยุทธ์สั่งให้ตามมา
ลูกน้องมองทองเอกอยู่ครู่ก่อนจะปล่อยให้เดินเข้าไป พอลูกน้องเผลอ
วชรวรรษที่ซุ่มอยู่ก็เข้ามาจัดการลูกน้องสลบ วชรวรรษกับทองเอกรีบเข้าไปข้างใน
เสี่ยทำนุยืนถือซองเอกสารรออยู่ ระหว่างนั้นพยุทธ์หิ้วกระเป๋าเงินเข้ามาประจันหน้า
พยุทธ์ส่งเงินให้ในขณะที่เสี่ยทำนุส่งหลักฐานทั้งหมดให้ เสี่ยทำนุหัวเราะชอบใจ
"ฮ่าๆๆ หวังว่าคงไม่ต้องเจอกันอีกนะพยุทธ์" พยุทธ์ยิ้มเจ้าเล่ห์
"แกกับฉันไม่มีทางเจอกันแน่" พยุทธ์ชักปืนออกมาจ่อเสี่ยทำนุทันที เสี่ยทำนุตกใจ
"อย่านะเว้ย ลูกน้องฉันอยู่เต็มโกดัง"
"แน่ใจเหรอว่าลูกน้องแกยังพร้อมที่จะช่วยเหลือแก ในเมื่อแกยังหักหลังฉันได้
แล้วทำไมลูกน้องแกจะหักหลังแกไม่ได้"
เสี่ยทำนุชะงักหน้าเสียหันไปมองไม่เห็นมีใครเข้ามา
"ลูกน้องแกถูกฉันซื้อตัวไปหมดแล้ว ตอนนี้แกไม่เหลือใครแล้วไอ้ทำนุ" เสี่ย
ทำนุหน้าเหรอหรา กำลังจะชักปืน แต่พยุทธ์ไวกว่ายิงไปที่มือเสี่ยทำนุ
เสี่ยทำนุร้องลั่น พยุทธ์ยิงขาเสี่ยทำนุสองข้างจนทรุดลงไปกองกับพื้น " ไอ้พยุทธ์
แกคิดว่าแกชนะฉันแล้วงั้นเหรอ เฮอะ แกอยากฆ่าฉันให้ตายก็เชิญเลย
แต่แกจะไม่มีวันรู้เลยว่าตอนนี้ลูกสาวแกกำลังถูกพาไปขายซ่องประเทศไหน"
"แกทำอะไรลูกสาวฉัน" "ก็หางานที่เหมาะสมให้ลูกสาวแกทำไง" "ไอ้สารเลว!!" พยุทธ์
ยิงเปรี้ยงเข้าแสกหน้าเสี่ยทำนุ ร่างเสี่ยทำนุค่อยๆ ล้มลงตายตาเบิกโพลง
พยุทธ์จุดไฟเผาหลักฐานต่างๆ
แล้วโยนไปบนร่างของเสี่ยทำนุก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงิน เดินออกไปอย่างเลือดเย็น
ทันใดนั้นทองเอกเข้ามายืนขวางไว้ "คิดว่าจะหนีไปได้เหรอคุณพยุทธ์" "ทองเอก
นี่แกคิดจะทำอะไร" "ฉันไม่ใช่ทองเอก นายทองเอกน่ะไม่มีตัวตน ฉันเป็นคนของคุณวชรวรรษ
วชิรธาน คนที่แกหลอกใช้เขาไง จำได้มั้ย" "บัดซบเอ๊ย จริงอย่างที่ไอ้ทำนุพูด
แกเข้ามาตีสนิทยายแพนเพื่อต้องการให้ฉันกับเสี่ยทำนุแตกคอกันใช่มั้ย"
"ไม่ใช่วิธีนี้แล้วฉันจะจัดการกับอสรพิษอย่างพวกแกได้ยังไง" "แต่มันก็สายไปแล้ว
ฉันทำลายหลักฐานทุกอย่างไปพร้อมๆ กับไอ้ทำนุไปหมดแล้ว ฮึๆๆ แกพลาดแล้ว"
"ใครกันแน่ที่พลาดครับคุณพยุทธ์" พยุทธ์หันไปเห็นวชรวรรษเดินเข้ามา
พร้อมกับกล้องวิดีโอตัวเล็ก "หลักฐานทุกอย่างอยู่ในนี้หมดแล้ว"
พยุทธ์ตกใจที่ถูกแอบถ่าย เงื้อปืนจะยิงใบไผ่แต่เสียงเปรี้ยงดังขึ้น
พยุทธ์ถูกยิงมือจนปืนกระเด็น หันไปเห็นธราทิตย์พาตำรวจเข้ามา
"คุณไม่มีทางหนีแล้วครับคุณพยุทธ์ มอบตัวซะเถอะ" พยุทธ์ กัดฟันแน่นเจ็บใจไม่ยอม
แต่ตำรวจกรูเข้ามาล้อมเอาปืนจ่อ พยุทธ์ถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น
ตำรวจเข้ามาจับพยุทธ์ใส่กุญแจมือ พยุทธ์หันไปมองใบไผ่ด้วยความเคียดแค้น
"ฉันประมาทไอ้วชรวรรษเกินไป ไม่คิดว่าจัดการกับเจ้าพ่ออย่างมันได้แล้ว
จะยังเหลือเจ้าแม่ช่วยมันอีกคน" ตำรวจช่วยกันพาพยุทธ์ออกไป
วชรวรรษกับใบไผ่หันมามองหน้ากัน ยังมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการ บริเวณ โกดังท่าเรือ
นรารีโดนมัดมือมัดเท้าสลบอยู่ สักพักเธอเริ่มรู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตา แล้วก็ตกใจ
แต่ร้องไม่ได้เพราะมีผ้าปิดปากไว้อยู่ สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจบตอน 23
แม่ค้าขนมหวาน 24 (ตอนอวสาน) นรารีมองซ้ายมองขวา พยายามหาทางหนีทีไล่
สักพักได้ยินเสียงลูกน้องเสี่ยทำนุคุยโทรศัพท์ นรารีพยายามตะแคงหูฟัง "อะไรนะ
เสี่ยตายแล้ว แล้วจะเอายังไงกับอีผู้หญิงนี่ล่ะ" นรารีตกใจ คิดหาทางหนี ระหว่างนั้น
รถของใบไผ่กับวชรวรรษเข้ามาจอด มือถือใบไผ่สั่น ใบไผ่หยิบมามองก่อนจะกดรับ
"ว่าไงมาร์ค ตำรวจกำลังมา ขอบใจนะ" วชรวรรษขอพูดโทรศัพท์กับธราทิตย์ "มาร์ค
คุณช่วยไปดูยายฝนให้ผมหน่อย ผมยังไม่ค่อยไว้ใจ ยังไงผมฝากดูแลน้องสาวผมด้วย"
ใบไผ่ฟังแล้วเหมือนเป็นลางไม่ดี "ทำไมต้องพูดจายังงั้นด้วย
ยังไงนายก็ต้องกลับไปดูแลน้องฝน" "ก็ฝากไว้ก่อน" "ปากเสีย" "รีบเข้าไปกันก่อนเถอะ
ผมกลัวว่าคุณแพนจะไม่ปลอดภัย" นรา รียังคิดหาทางอยู่ ประตูเปิดออก
ลูกน้องเสี่ยสองคนเข้ามาดึงที่ปิดปากให้นรารี นรารีขอร้องให้ปล่อยเธอไป
แต่คนร้ายไม่สนใจชักปืนออกมาเล็ง วชรวรรษกับใบไผ่ในคราบทองเอกพังประตูเข้ามาพอดี
"คุณเอก!!" ลูก น้องไม่สนใจ จะยิงนรารี วชรวรรษตกใจ เอาตัวเข้าไปบังไว้ จนถูกยิง
นรารีตกใจ คนร้ายหัวเสีย จะยิงทุกคน วิชญ์เข้ามายิงจากทางด้านหลังคนร้ายตายสนิท
ใบไผ่โผเข้ามากอดวชรวรรษไว้แน่นด้วยความเป็นห่วง นรารีมองทองเอกแปลกใจ
เห็นทองเอกถอดวิกออกเป็นใบไผ่ นรารีตกใจ เป็นลมล้มตึงไป
วชรวรรษถูกเข็นพาขึ้นรถพยาบาล ใบไผ่ขึ้นรถไปด้วย เธอกุมมือวชรวรรษแน่น ร้องไห้
"นายหมาวัด อดทนหน่อยนะ" "ไผ่" "อย่าเพิ่งพูดอะไร รอให้ถึงโรงพยาบาลก่อน"
วชรวรรษจับมือใบไผ่แนบไว้ที่อก น้ำตาไหล ใบไผ่เองก็ร้องไห้ไม่หยุด
"แต่งงานกับฉันนะใบไผ่" "ฉันบอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง
ทำไมนายชอบขัดคำสั่งฉันอยู่เรื่อย" "รับปากฉันสิใบไผ่ รับปากฉัน
ฉันรอให้เธอรับปากฉันอยู่นะ" วชรวรรษมองใบไผ่ เจ็บจนจะทนไม่ไหว
ใบไผ่น้ำตาไหลอาบแก้ม "ตกลง ฉันตกลงแต่งงานกับนาย ฉันจะแต่งงานกับนาย
แต่นายต้องห้ามตายนะนายหมาวัด" วชรวรรษหมดสติไปทันที ใบไผ่ตกใจ เมื่อมาถึงโรงพยาบาล
ใบไผ่ยืนอยู่หน้าห้อง มาร์คกับฝนวิ่งเข้ามา "พี่ไผ่ พี่วัชรเป็นยังไงบ้าง"
ใบไผ่ปล่อยโฮ "พี่ไม่รู้ หมอยังไม่ออกมาเลย พี่ไม่อยากให้เขาตายฝน พี่รักเขา"
ใบไผ่ร้องไห้ กอดวรรษาแน่น ธราทิตย์เอามือจับหลังใบไผ่ปลอบใจ
"คุณวัชรต้องไม่เป็นอะไร คำว่ารักเขาของแก
ฉันว่ามันดังเข้าไปในห้องให้เขาได้ยินแน่" "ฉันรักเขา ฉันรักเขา!!"
ใบไผ่ตะโกนออกมาสุดเสียงแล้วร้องไห้ไม่หยุด ตอนเย็น ใบไผ่นั่งนิ่งอยู่
ตาแดงแต่ไม่มีน้ำตาอีก ธราทิตย์เดินมามองเพื่อนอย่างเป็นห่วง " มาร์ค
แกไปบอกหมอให้ฉันทีสิ ให้เขาเอาอะไรจากฉันไปก็ได้ เอาเลือด เอาอะไรไปก็ได้
แต่อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ มาร์ค แกไปบอกเขาสิ ไปสิ" "ไผ่ แกใจเย็นๆ คุมสติดีๆ
คุณวัชรต้องไม่เป็นอะไร แกเชื่อฉันสิไอ้ไผ่" "ฉันรักเขา ฉันรักเขา แกได้ยินมั้ย
ไอ้มาร์ค ฉัน ฉัน..." "ฉันรู้ไผ่ ฉันได้ยินแล้ว
แต่แกเคยบอกเขารึเปล่าว่าแกรักเขาแค่ไหน" ใบไผ่อึ้งไป มองเพื่อน
"ทำไมถึงต้องรอให้คุณวัชรเขาเจ็บขนาดนี้ แกถึงจะยอมรับ รักเขาแกก็บอกเขาไปเลย
จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังอย่างนี้" ใบไผ่เดินมาที่ประตู มองเข้าไปในห้อง
วรรษาเดินมาข้างหลัง "พี่วัชรต้องปลอดภัยค่ะ พี่ไผ่
ฝนรู้ว่าพี่ชายฝนต้องไม่เป็นอะไร" วรรษา พูดไปก็ร้องไห้ไป ใบไผ่หันมากอดวรรษาไว้
สองคนกอดกันร้องไห้ ธราทิตย์มองเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
หมอกำลังพยายามช่วยชีวิตวชรวรรษไว้สุดความสามารถ
จิตสำนึกของวชรวรรษมีแต่ภาพของใบไผ่ ใบไผ่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
นั่งมองไปที่ประตูน้ำตาไหลเงียบๆ ประตูเปิดออก หมอเดินออกมา ใบไผ่พุ่งเข้าไปคนแรก
หมอมองหน้าทุกคนสีหน้าไม่ดีนัก เวลาต่อมา ใบไผ่ วชรวรรษ วรรษา ธราทิตย์ กริช อุบล
แก้วขวัญ นาท ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า มีวชรวรรษนอนอยู่บนเตียง
ทุกคนรุมกันป้อนข้าวป้อนขนม ใบไผ่เหลือบมอง นั่งหน้าหงิกขี้อิจฉาอยู่มุมหนึ่ง "ดีนะ
ทีไผ่เข้าโรงพยาบาลไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมสักคน กินแต่น้ำเกลือ ทีกับคนอื่น
รุมกันเข้าไป ระวังจะจุกตายนะนั่นน่ะ" "คนอื่นที่ไหนเล่า
ออกจากโรงพยาบาลก็เป็นคนในครอบครัวแล้ว เนอะพ่อวัชรเนอะ" "ลุง หยุดพูดไปเลยนะ"
"นั่นน่ะสิ ไอ้แก่ ยังไงหลานเราก็เป็นผู้หญิงนะ" "ใช่ป้า" "สินสอดไม่แพงหรอกค่ะ
คุณวัชร" "ป้า!!" "ก็มันจริง อย่าเล่นตัวนักเลย ไอ้ไผ่
หลุดจากคุณวัชรแล้วป้าก็ไม่เห็นใครแล้วนะ" วชร วรรษยักคิ้วยิ้มให้
ใบไผ่ค้อนแต่ก็พยายามหุบยิ้มไปด้วย สักพักทุกคนเตรียมตัวจะกลับ ใบไผ่จะไปด้วย
อุบลขวางไว้ สั่งให้ใบไผ่อยู่เฝ้าไข้วชรวรรษ ใบไผ่จะเถียง
แต่ทุกคนก็เดินออกไปแล้วปิดประตูใส่หน้า ใบไผ่ละล้าละลัง ไม่รู้จะทำอย่างไร
วชรวรรษอ้อนทันที "ใบไผ่" ใบไผ่เขินหน้าแดง สงบสติก่อนจะหันมาตีหน้ายักษ์ใส่
"หิวน้ำ" ใบไผ่เดินไปเทน้ำ เอามาให้ "ป้อนด้วย" "อย่ามั่ว
มือนายใช้ไม่ได้ข้างเดียว" "แต่อีกมือฉันไม่ถนัด ป้อนหน่อยไม่ได้เหรอไง
เลิกใจดำกับฉันสักทีเถอะนะ" "พูดมาก น่ารำคาญ นายน่าจะโดนยิงที่ปาก
จะได้เป็นใบ้ไปเลย" "ถ้าฉันเป็นใบ้ ใครจะบอกรักเธอ" ใบไผ่เขิน "กินเข้าไปเลย
อย่าพูดมาก" วชรวรรษดูดน้ำไปยิ้มไป พยาบาลเดินเข้ามา "ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วค่ะ"
"เดี๋ยวให้ภรรยาผมเช็ดให้ก็ได้ครับ" ใบไผ่ตกใจ พยาบาลยิ้มๆ แล้วเดินออกไป
"นายหมาวัด ฉันกับนายยังไม่ได้เป็นอะไรกัน" "โกหกมันบาปนะ
ฉันได้ยินที่เธอพูดตอนที่ฉันถูกยิง เธอบอกว่าเธอตกลงแต่งงานกับฉัน"
"นายได้ยินด้วยเหรอ" วชรวรรษยักคิ้ว ใบไผ่พูดไม่ออก เขิน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ใบไผ่คิดว่าใครลืมอะไรเลยเดินไปเปิด "คุณแพน!!" นรารีเดินมาที่เตียงวชรวรรษ
ใบไผ่ยืนอยู่ห่างๆ ทำหน้าไม่ถูก "แพนนึกว่าคุณจะตายแล้วซะอีก"
วชรวรรษมองหน้าแต่ไม่ตอบโต้ "แต่ก็ดีค่ะ ถ้าคุณตายแพนก็ต้องมานั่งรู้สึกผิดอีก
ทำไมต้องทำหน้าอย่างนี้กันด้วยล่ะคะ แพนแค่จะมาขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตแพนไว้"
"คุณแพนครับ" " แพนยังพูดไม่จบค่ะ แพนต้องขอบคุณที่คุณสองคนช่วยให้พ่อของแพนโดนจับ
ขอบคุณคุณทองเอก ที่หลอกลวงแพนทุกอย่าง คุณสองคนคงมองว่าแพนโง่งี่เง่ามาก" "คุณแพน
มันไม่ใช่" ใบไผ่พยายามจะอธิบาย "อย่าอธิบายเลยค่ะ อธิบายให้ตาย
ฉันก็ไม่มีวันเข้าใจ คุณมาช่วยฉันไว้ทำไม" นรารีหันมาถามวชรวรรษ
"ผมกับใบไผ่ก็ทำผิดกับคุณเหมือนกัน" " คุณไม่ได้ทำอะไรเลย คุณวัชร
คุณต่างหากที่โดนแพนกับพ่อหลอกใช้มาโดยตลอด คุณคิดว่าการที่คุณมารับกระสุนแทนแพน
มันจะช่วยลบล้างความผิดที่แฟนคุณทำไว้กับแพนได้เหรอคะ" "ฉันรู้ว่าจริงๆ
แล้วคุณเองก็ไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่พ่อคุณทำ" ใบไผ่พูดขึ้น " แต่เขาก็เป็นพ่อฉัน
แต่ก็เอาเถอะ ฉันมาวันนี้ก็แค่จะมาดูน้ำหน้าให้ชัดๆ ว่าความจริงมันเป็นยังไง
ฉันมันโง่เองที่มองไม่เห็นว่าความจริงมันคืออะไร"นรารีมองใบไผ่ก็เห็นแต่หน้าทองเอก
" ช่างมันเถอะค่ะ แพนจะอโหสิกรรมให้คุณทั้งสองคน ขอให้มีความสุขกันจนตาย
แต่หวังว่าชาตินี้คงไม่ต้องพบต้องเจอกันอีก" นรารีเดินออกไปทันที
วรรษากำลังทำสปาเก็ตตี้อยู่ในครัวที่บ้าน โดยมีธราทิตย์คอยช่วยอยู่ข้างๆ
"เดี๋ยวนี้ฝีมือคุณฝนพัฒนาไปไกลมากเลยนะครับเนี่ย อย่างกับมืออาชีพ" "แน่นอน"
"แล้วไอ้เรื่องหัวใจของเราสองคน มันพัฒนาหรือยังครับ" วรรษาเขิน "พูดอะไร
ฉันไม่เข้าใจ" "คุณฝน พี่ชายคุณกับเพื่อนผมแฮปปี้เอนดิ้งกันแล้ว
แล้วผมกับคุณล่ะครับ จะถึงตอนจบหรือยัง แต่ผมขอจบแบบมีความสุขตลอดไปนะครับ"
"ฉันกับนายยังรู้จักกันไม่เท่าไหร่" "เรื่องเวลาไม่เกี่ยว มันสำคัญตรงหัวใจ"
ธราทิตย์ขยับตัววรรษาให้มายืนตรงกับตัวเอง "แค่นี้หัวใจเราก็ตรงกันแล้วครับ" "แหวะ"
วรรษาเบ้หน้า หันไปหยิบจานสปาเกตตี้ขึ้นมา ธราทิตย์ไม่ยอมลดละ
"คุณฝนตอบผมมาก่อนสิครับ" " หลีกไป" ธราทิตย์ส่ายหัว วรรษาไปทางไหน
ธราทิตย์ก็ขวางไม่ให้ไป วรรษาพลาดทำจานสปาเก็ตตี้แปะเข้าไปที่เสื้อธราทิตย์เต็มๆ
ธราทิตย์กับวรรษาอึ้ง "อย่ามาโทษฉันนะ" ใบไผ่กับวชรวรรษ และวิชญ์เดินเข้ามาในบ้าน
ป้าแหวววิ่งเข้าไปรับด้วยความดีใจที่วชรวรรษออกจากโรงพยาบาล "แล้วนี่ฝนอยู่ไหนครับ"
"คุณฝนอยู่กับคุณมาร์คข้างบนค่ะ" วชร วรรษตกใจ รีบเดินขึ้นไปชั้นบน
ขณะนั้นธราทิตย์ถอดเสื้อตัวที่เปื้อนซอสออก วรรษถือเสื้อของวชรวรรษมาให้เปลี่ยน
ธราทิตย์สวมหัว แต่หัวใหญ่เกินไปเลยไม่เข้า "คุณฝนช่วยผมด้วย" วรรษาเข้ามาใกล้ช่วย
ดึงเสื้อให้ลงมาที่คอ ทันใดนั้นประตูเปิดเข้ามาอย่างแรง
วรรษากับธราทิตย์หันไปเห็นวชรวรรษกับใบไผ่ วชรวรรษเข้าใจผิด "แกทำอะไรน้องสาวฉัน"
ธราทิตย์รีบผละออกห่างวรรษาหน้าตื่น เสียงปืนดังปัง ธราทิตย์ถือรองเท้าวิ่งออกมา
หันไปเจอวชรวรรษถือปืน ใบไผ่กับวรรษารีบเข้ามาห้าม "พี่วัชรอย่ายิงนายมาร์คนะคะ
มันไม่ใช่อย่างที่พี่วัชรเข้าใจ" "ไม่ใช่อย่างที่พี่เข้าใจแล้วมันอย่างไหน
พี่เห็นมันถอดเสื้ออยู่ในห้องของเรานะ" "นายวชรวรรษ
อย่าสักแต่หวงน้องไม่เข้าท่าได้มั้ย มีสติหน่อย" "เท่านี้ผมก็มีสติที่สุดแล้ว แก
ไอ้มาร์ค คิดตีท้ายครัวน้องสาวฉันตอนที่ฉันนอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลเหรอวะ"
ธราทิตย์ชักโมโห "แล้วถ้าผมจะทำแบบนั้น คุณจะทำไม ในเมื่อผมกับน้องสาวคุณรักกัน"
"ไอ้มาร์ค" วชรวรรษจะเข้าไปเล่นงานธราทิตย์ วรรษากับใบไผ่รีบล็อคแขนห้าม "พอสักที
ฝนไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่วัชร" "แต่ไม่ว่ายังไงฝนก็ยังเด็กในสายตาของพี่" "นี่คุณวัชร
ก่อนจะมาด่าคนอื่น แล้วคุณกับเพื่อนผมล่ะ" "ไอ้มาร์ค ฉันเกี่ยวอะไรด้วยวะ" ใบไผ่งง
"ทำไมจะไม่เกี่ยว คุณเองก็ชอบแต๊ะอั๋งเพื่อนผมเหมือนกัน เห็นชอบกอดมั่งล่ะ
จับมั่งล่ะ ตัวอย่างดีๆ ทั้งนั้น" "ไอ้นี่" วชรวรรษผลักใบไผ่กับวรรษาออกไป
เดินถือปืนไปหา ธราทิตย์ตาเหลือก วรรษารีบเข้ามาขวาง "หลีกไปยัยฝน"
"พี่วัชรเป็นบ้าอะไร คิดจะกลับไปเป็นมาเฟียอีกเหรอ ถึงเที่ยวยิงคนอื่นเขาแบบนี้"
วชรวรรษนิ่งไป พยายามใจเย็น "พี่จะอนุญาตให้ฝนคบกับมันก็ได้
แต่แกต้องรอให้ยัยฝนเรียนจบปริญญาเอกก่อน" "ถ้าเป็นแบบนั้น
ผมว่าคุณฝนขึ้นไปเก็บกระเป๋าแล้วหนีตามผมมาเลยดีกว่า" "ไอ้มาร์ค!!!"
ธราทิตย์รีบเผ่นแนบออกไป วชรวรรษหันไปมองวรรษากับใบไผ่ต่างก็มองค้อนเขา
"เป็นอะไรกัน ตกลงฉันผิดเหรอ" 000000000000000
แก้วขวัญและนาทพากันมาหาย่าใหญ่เพื่อขอนุญาตแต่งงาน ย่าใหญ่อนุญาต
นาทกับแก้วขวัญดีใจ "เรื่องของเธอสองคนก็ลงเอยกันแล้ว
แต่ฉันยังมีอีกเรื่องที่อยากคุยด้วย" ใบไผ่กำลังทำขนม ธราทิตย์ยืนอยู่ข้างๆ
"แฟนแกนี่มันโหดจริงๆ ถ้าฉันถูกยิงพิการทำงานไม่ได้ แกต้องรับผิดชอบ" "สมน้ำหน้า
อยากปากเสียเอง" "ไม่ทันไร เข้าข้างสามีแล้วเหรอ" "ไอ้นี่ ท่าทางอยากโดนยิงจริงๆ
มั้ง" "อ้ะล้อเล่น" ใบไผ่หันไปทำขนมต่อ
ธราทิตย์ชะโงกหน้าเขามาดูเห็นใบไผ่ทำขนมรูปร่างแปลกตา "แล้วนี่แกทำขนมอะไร
หน้าตาไม่เคยเห็นเลยว่ะ" "ขนมมงคลสำหรับงานแต่งงาน กำลังฝึกทำอยู่"
"ใช้ในงานแต่งงานแกกับคุณวัชรเหรอ" "ไม่ใช่ งานแต่งงานของอานาทกับน้าแก้ว"
นาทกับแก้วขวัญเดินเข้ามา สีหน้าไม่ค่อยดี ใบไผ่สังเกตเห็น
"น้าแก้วกับอานาทมีอะไรกับไผ่รึเปล่า ท่าทางแปลกๆ" "ไผ่จ๊ะ
คุณย่าใหญ่อยากเจอไผ่กับคุณวัชรน่ะจ้ะ" "เรื่องอะไรเหรอน้าแก้ว" "ไม่รู้
คุณย่าบอกแค่ว่าเป็นเรื่องสำคัญ" ใบไผ่กับวชรวรรษไปที่บ้านย่าใหญ่ในวันรุ่งขึ้น
"ใบไผ่ มาคุยกับฉัน ส่วนคุณ รอที่นี่" ใบไผ่หันไปมองวชรวรรษ ต่างคนต่างเป็นห่วง
ใบไผ่ตามย่าใหญ่ไปตรงมุมหนึ่ง " เอาล่ะ ฉันรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
รวมทั้งเรื่องที่เธอปลอมตัวไปช่วยจับผู้ร้ายให้หมอนั่นด้วย
เธอรักผู้ชายคนนี้มากจนยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับพวกเสือพวกจระเข้
ขนาดนั้นเลยเหรอ" "ค่ะย่าใหญ่" "ฉันไม่เข้าใจ ผู้ชายที่ไม่เป็นผู้ชาย
ต้องให้ผู้หญิงออกหน้า ทำไมถึงรักเข้าไปได้" "เพราะแค่รักไงคะคุณย่า
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว" "ความรักมันเหมือนขนมอาบยาพิษ อาจจะหอมหวานในตอนแรก
แต่พอผ่านไป มันจะฆ่าเธอ เธอแน่ใจแล้วเหรอที่จะให้ผู้ชายคนนี้เป็นสามี"
วชรวรรษมองใบไผ่กับย่าใหญ่เป็นห่วงจนทนไม่ไหวเดินเข้ามาหา "คุณย่าครับ"
"ฉันบอกให้คุณรอก่อนไง" "ผมรู้ครับว่าคุณย่าจงใจให้ผมได้ยิน ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คนดี
แต่ผมรักหลานสาวคุณย่าจริงๆ นะครับ" "นายวัชร!!" " เอาล่ะ
ฉันซาบซึ้งที่เห็นเธอรักใบไผ่ ที่ฉันเรียกเธอสองคนมาวันนี้ ฉันไม่ได้ต้องการขัดขวาง
หรือเรียกมาด่า ฉันต้องการเตือนความจำใบไผ่ในสิ่งที่พูดกับฉัน
เธอยังพิสูจน์ให้ฉันเห็นได้อยู่อีกรึเปล่า" "เรื่องอะไรเหรอใบไผ่"
ใบไผ่มองวชรวรรษนึกถึงสิ่งที่เคยพูดไว้กับย่าใหญ่ "
หล่อนรับปากฉันเองนะว่าหล่อนกับเขาจะช่วยกันทำขนมที่อร่อยที่สุด
ถ้าฉันชิมแล้วรสชาติของพวกหล่อนไม่ได้เรื่อง ฉันหวังว่าหล่อนคงจำคำพูดของหล่อนได้"
ใบไผ่เดินมาตามทางเดินในสวนกับวชรวรรษ สีหน้าเครียดๆ "เฮ้อ
ไม่น่าพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยใบไผ่" "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้
มันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ ถ้าเราร่วมมือกัน
เราสองคนต้องทำขนมที่อร่อยที่สุดในโลกให้คุณย่ากิน" "อื้อ ตกลง งานนี้สู้แค่ตาย"
"เฮ้ย ไม่ตายสิ ถ้าเธอตาย ใครจะแต่งงานกับฉัน" ใบไผ่ชะงัก วชรวรรษเอาแหวนออกมา
"พร้อมจะเป็นภรรยาของผมรึยังครับคุณใบไผ่" วชรวรรษมองลุ้น ใบไผ่ยื่นมือซ้ายให้
วชรวรรษยิ้มดีใจ สวมแหวนที่นิ้วนางซ้ายให้ใบไผ่ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุขมาก
"งั้นเรามาเริ่มกันเลยมั้ย ขนมมงคลที่ว่ามีอะไรบ้าง" ทั้งสองพากันเข้ามาในครัว
ใบไผ่อธิบายถึงขนมมงคลต่างๆ ที่จะใช้ในงานแต่งงานของนาทกับแก้วขวัญ ให้วชรวรรษฟัง "
ขนมมงคลของไทยส่วนใหญ่ที่ใช้ประกอบในพิธีมีหลากหลายชนิด
ทั้งขนมที่มีอยู่ในตระกูลทอง และขนมที่เป็นมงคลนาม เช่น จ่ามงกุฎ ขนมเสน่ห์จันทร์
ขนมเทียนแก้ว ทองหยิบ ทองหยอด ทองม้วน" "แล้วเราจะทำขนมอะไรให้คุณย่าชิม" "
ฉันจะทำขนมมงคลเจ็ดอย่าง เริ่มด้วยขนมกง ขนมชนิดนี้เชื่อกันว่าไม่มีรอยต่อ
เปรียบได้กับความรักของหนุ่มสาวที่จะมีต่อกันไม่รู้จบ ขนมทองเอก
เชื่อกันว่าเป็นขนมที่สื่อความหมายจะได้เป็นเอกเป็นหนึ่งในการครองชีวิตคู่
ขนมสามเกลอ ใช้เป็นขนมเสี่ยงทายในพิธีแต่งงาน เพราะทำจากแป้งหุ้มไส้
และมาบีบให้ติดกัน ก่อนจะนำไปทอด ถ้าขนมสามลูกแยกออกจากกัน แสดงว่าจะอยู่กันไม่ยืด
ถ้าติดกันสองลูกจะอยู่ได้ดี แต่มีลูกยาก ถ้าติดกันทั้งสามลูก จะเจริญรุ่งเรือง
มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง" คืน นั้น วรรษา ธราทิตย์
ถามเกดกับทองหยอดถึงใบไผ่กับวชรวรรษ
เกดบอกว่าทั้งสองคนอยู่ในครัวตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกก็ยังไม่
ออกมาเลย วรรษาตกใจดึงแขนธราทิตย์เข้าไปในครัว วชรวรรษกำลังเอาขนมจัดวางใส่ในจาน
ถอยออกไปมองว่าสวยงามหรือยัง แต่ไม่แน่ใจ "ใบไผ่ เธอว่ามันดูดีหรือยัง" ใบ ไผ่เงียบ
วชรวรรษแปลกใจหันไปมอง เห็นใบไผ่ฟุบหลับคาโต๊ะ จึงเดินเข้ามาดู วชรวรรษอมยิ้ม
เห็นแป้งเลอะจมูกใบไผ่ จึงปัดแป้งออกจากจมูกให้อย่างแผ่วเบา
ก่อนจะหันไปหยิบเสื้อมาคลุมให้ มองใบไผ่ตาไม่กระพริบ
วรรษากับธราทิตย์แอบมองอยู่ตรงประตู สองคนหันมาอมยิ้ม "ผมว่าเราไม่ต้อง
ช่วยเขาหรอกครับ เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าขนมพวกนั้นต้องเป็นขนมแห่งความรัก
เรามาช่วยกันทำขนมแบบนี้บ้างมั้ยครับคุณฝน" "ฝันไปเถอะว่าฉันจะทำขนมกับนาย"
"ไม่ทำขนมก็ได้ ทำลูกแทนก็แล้วกัน" "ตาบ้า!!" วรรษาหยิกแขนธราทิตย์
ธราทิตย์ร้องไม่ออกเพราะกลัวใบไผ่ได้ยิน วรรษาหน้าแดงเขินเดินออกไป ธราทิตย์รีบตาม
วชร วรรษเอาจานขนมที่จัดวางสวยงามมาวางเรียง มองด้วยความชื่นชมในฝีมือของตัวเอง
แล้วเหลือบไปเห็นแป้งขนมสามเกลอที่เหลืออยู่ เขามองครุ่นคิด ตัดสินใจหยิบแป้งขึ้นมา
ปั้นเป็นสามก้อนเล็กๆ เอามาวางติดกัน ตั้งกระทะเอาน้ำมันเทใส่ รอจนน้ำมันเดือด
หยิบแป้งขนมสามเกลอที่ปั้นขึ้นมา หลับตาตั้งจิตอธิษฐาน "ขอให้สมหวังด้วยเถอะนะครับ"
วชรวรรษค่อยๆ หย่อนแป้งลงไป มองลุ้น ใจระทึกว่าแป้งจะแยกออกจากกันหรือไม่
เขาทอดจนแป้งสุก ตักขึ้นมา แป้งยังติดกันทั้งสามก้อน "เย้!!!"
เสียงดังทำให้ใบไผ่สะดุ้งตื่นตกใจ "เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น" วชรวรรษตกใจที่ทำใบไผ่ตื่น
ใบไผ่แปลกใจมองว่าวชรวรรษทำอะไร จึงลุกเดินมาเห็นขนมสามเกลอที่เพิ่งทำเสร็จ
ใบไผ่อึ้ง "อย่าบอกนะว่านายกำลังเสี่ยงทายขนม" "
ก็ฉันอยากรู้ว่าเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปรึเปล่า ดูนี่สิใบไผ่
แป้งทั้งสามลูกไม่แตกออกจากกัน
แปลว่าฉันและเธอจะได้อยู่ด้วยกันจนมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง"
วชรวรรษถือโอกาสเข้ามากอด ใบไผ่ตีแขนเพี้ยะ "เพ้อเจ้อ ก็แค่คำบอกเล่า
เชื่ออะไรนักหนา รีบทำขนมต่อได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันพรุ่งนี้เช้า"
ใบไผ่หันไปเตรียมของ วชรวรรษมองใบไผ่เซ็ง กร่อย ไม่โรแมนติคเอาเสียเลย
แล้วทั้งองก็ช่วยกันทำขนมต่อ " โพรงแสม แทนความหมายว่าเสาบ้าน เสาเรือน
คู่สมรสจะมีหลักมีฐานที่ร่ำรวยกันอย่างรวดเร็ว ขนมพระพาย
เชื่อกันว่าแป้งข้าวเหนียวที่ใช้หุ้มไส้ หมายถึง ความเหนียวแน่นมั่นคง
ความหวานของไส้คือความรักอันแสนหวาน ขนมฝักบัว เหมือนบัวที่โตขึ้นมาโดยไม่ต้องดูแล
ไม่มีอุปสรรค เหมือนความรักที่ราบรื่น ไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ และสุดท้าย ขนมเกลียว
หมายถึง ให้ความรักของคู่บ่าวสาวกลมเกลียวกัน"
รุ่งเช้าขนมมงคลทั้งเจ็ดอย่างถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เอาออกมาวางเรียงบนโต๊ะ
วรรษากับธราทิตย์ยืนมองด้วยความตะลึง "โอ้โฮ น่าทานทั้งนั้นเลย มีอะไรบ้างคะพี่ไผ่"
วชร วรรษรีบบอก "ฉันตอบเอง ขนมทองเอก ขนมสามเกลอ ขนมกง ขนมพระพาย ขนมฝักบัว
ขนมเกลียว และ ขนมโพรงแสมจ๊ะ
ชื่อของขนมทุกอย่างมีความหมายเกี่ยวกับการครองคู่ทั้งนั้น"
"สมแล้วค่ะที่มีแฟนเป็นแม่ค้าขนมหวาน" วชรวรรษหันไปยักคิ้วให้ใบไผ่
ใบไผ่กระทุ้งศอกเข้าให้เพราะหมั่นไส้
"ส่วนอันนี้ก็สมแล้วครับที่มีแฟนเป็นอดีตเจ้าพ่อ" วรรษาทุ้งศอกใส่ธราทิตย์บ้าง
"อันนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ น้องสาวอดีตเจ้าพ่อเหมือนกัน อุ๊ย" "คนโบราณนี่ช่างคิดนะคะ
เปรียบอาหารกับความรัก ช่างซาบซึ้งตรึงใจ" วรรษาเคลิ้ม "แต่ก่อนจะซาบซึ้ง
ผมว่ารีบไปกันเถอะครับ ใกล้เวลาแล้ว" ธราทิตย์ตัดบท "ขอให้คุณย่าชอบด้วยเถอะ"
ใบไผ่หันมามองหน้าวชรวรรษอย่างเป็นกังวล บริเวณ ถนนหน้าบ้านสวน
เสียงกลองของขบวนขันหมากรัวดังขึ้น นาท วชรวรรษ กริช ธราทิตย์ เม่น วี
เข่งกำลังรำด้วยความสนุกสนาน พร้อมโฮ่ไม่หยุด ใบไผ่
กับวรรษาทำหน้าที่กั้นประตูเงินประตูทอง
โดยทั้งสองแกล้งไม่ให้เจ้าบ่าวผ่านไปได้ง่ายๆ นาทสั่งให้วชรวรรษและธราทิตย์จัดการ
ทั้งสองตรงเข้มมาอุ้มหญิงสาวคู่ของตัวเอง สองสาวตกใจร้องลั่น
เข่งสั่งขบวนขันหมากลุยเข้าไป ใบไผ่กับวรรษาหันไปค้อนวชรวรรษกับธราทิตย์
สองหนุ่มยิ้มหน้าเป็นไม่ยอมปล่อยสาวๆ ทุกคนนั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา ย่าใหญ่ อุบล
กริช นาทกับแก้วขวัญพับเพียบอยู่บนพื้น อุบลเริ่มกล่าว " เอาล่ะ
วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่เจ้านาทกับหนูแก้วตกลงปลงใจแต่งงานกัน
ฉันก็ขอให้ทั้งสองอยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร หนักนิดเบาหน่อย
อภัยให้กัน เป็นผู้ชายก็ให้เป็นช้างเท้าหน้า คอยดูแลเมียให้ดีล่ะ"
"พอได้แล้วแม่อุบล เดี๋ยวค่อยอวยพร ยกตะกร้าขนมเข้ามา ฉันอยากเห็น" ย่าใหญ่พูดขึ้น
ทุก คนชะงักหน้าถอดสีมองด้วยอาการลุ้น ไม่นานตะกร้าขนมถูกนำวางตรงหน้าย่าใหญ่
ย่าใหญ่กวาดตามองขนมแต่ละชนิด ใบไผ่กับวชรวรรษตื่นเต้น
จับมือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ย่าใหญ่ตักขนมขึ้นมากินเคี้ยวอย่างช้าๆ
เพื่อลิ้มรสชาติ ย่าใหญ่กินขนมกงจนหมด "เค็ม" ทุกคนหน้าเสีย
ย่าใหญ่กินขนมที่เหลืออีกหกชนิด ติทุกชนิด ใบไผ่กับวชรวรรษคิดว่าคงไม่รอดแน่
"สรุปแล้วรสชาติไม่ได้เรื่องสักอย่าง" อุบลมองหลานสาวด้วยความสงสาร
ใบไผ่กับวชรวรรษก้มหน้างุด " คุณย่าคะ อย่าหาว่าอุบลสอดเลยนะคะ ถึงขนมจะแย่
แต่ใบไผ่กับพ่อวัชรเขาก็ทุ่มเทตั้งใจทำขนมพวกนี้ขึ้นมาจากความรักนะคะ
คุณย่าจะไม่ลองคิดพิจารณาอีกทีเหรอคะ" "นั่นสิครับคุณย่า
เห็นแก่ความรักของใบไผ่เถอะนะครับ" กริชช่วยอ้อนวอน " ก่อนจะสอดอะไรขึ้นมา
ช่วยฟังฉันให้จบก่อนได้มั้ย ขนมแต่ละอย่างไม่ได้ดีอย่างที่ฉันหวัง
แต่เมื่อฉันกินจนครบเจ็ดอย่างแล้ว รสชาติทั้งเจ็ดของมัน กลับกลมกลืน สอดคล้องกัน
ทำให้ฉันรู้สึกว่านี่เป็นขนมแต่งงานที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ฉันเคยทานมา"
ทุกคนตกใจหันมามองหน้ากัน "คุณวชรวรรษ" "ครับ" "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เธอคือคนในครอบครัวของฉัน" วชรวรรษกับใบไผ่หันมายิ้มให้กัน "ฉันยังพูดไม่จบ
เธอต้องดูแลหลานสาวของฉันให้ดีที่สุด ถ้าฉันเห็นใบไผ่เสียใจ ฉันจะเอาหลานสาวฉันคืน"
"ขอบคุณมากครับคุณย่า ผมให้สัญญาด้วยชีวิตว่าผมจะรักและดูแลใบไผ่ให้ดีที่สุดครับ"
ทุกคนเฮดังลั่น ย่าใหญ่หันไปยิ้มให้อุบลกับกริช เข่งลุกขึ้นยืนส่งเสียงลั่น
"แบบนี้มันต้องฉลอง โฮ่ฮี้โฮ่ฮี้โฮ่" ภาย ในครัวของร้านขนมหวาน
ใบไผ่กำลังปั้นขนมสามเกลอ เอาแป้งสามก้อนมาติดกันด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและจริงจัง
เธอหลับตาอธิษฐานก่อนหย่อนแป้งที่ปั้นเสร็จลงในกระทะ
"ถ้าเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปขอให้ห่วงทั้งสามนี้อย่าแตกออกจากกันเลย สาธุ"
ใบไผ่เอาแป้งหย่อนลงในกระทะแล้วมองลุ้นๆ "อย่าแตกออกจากกันนะ ขอร้อง อย่าแตกนะ"
ใบไผ่นั่งเฝ้ามองจนกระทั่งขนมสุกเหลืองอร่าม ดีใจมากตักขนมขึ้นจากกระทะ "เยส
คำอธิษฐานเราเป็นจริงแล้ว" ใบไผ่ยกขนมขึ้นมาดูแล้วยิ้มดีใจ
วชรวรรษเข้ามาด้านหลังโดยที่ใบไผ่ไม่รู้ตัว แล้วพูดเสียงดัง "หยุด ยกมือขึ้น"
ใบไผ่ตกใจปล่อยมือ ขนมสามเกลอร่วงลงตรงหน้า แตกกระจาย ใบไผ่ใจหายวาบ เสียใจยืนนิ่ง
"ล้อเล่น ตกใจเหรอจ๊ะ" วชรวรรษเดินเข้ามาใกล้ใบไผ่ จับใบไผ่หันหน้ามา
ใบไผ่หน้าบึ้งใส่ "นายเล่นอะไรของนาย รู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป
เห็นมั้ยมันแตกออกจากกันหมดเลย นายทำมันพัง ทุกอย่างพังเพราะนายอีกแล้ว" "นี่
อย่าบอกนะว่าเธอกำลังเสี่ยงทายอยู่น่ะ ฮ่าๆๆ" "มันน่าขำตรงไหน"
"ไหนเธอเคยบอกว่าฉันเพ้อเจ้อไง แล้วทำไมเธอมาแอบเสี่ยงทายซะเองล่ะ" "เอ่อ เอ่อ
ฉันก็แค่ลองทำดูเล่นๆ เท่านั้นเอง
เสี่ยงทงเสี่ยงทายอะไรที่ไหนฉันไม่ได้เชื่อสักหน่อย"
"แต่ขนมแตกออกจากกันแบบนี้แปลว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้แน่" ใบไผ่ชะงัก
"ถ้าเธอแค่ทำเล่นๆ ก็ไม่เป็นไร คงไม่มีผลอะไรกับเราสองคน" "แล้วถ้าฉันทำจริงๆ ล่ะ
เราสองคนจะเป็นไปตามขนมที่มันแตกมั้ย"
ใบไผ่หน้าเศร้าเดินออกจากครัวมายืนตรงประตูข้างร้าน ถอนหายใจด้วยความเศร้าน้ำตาคลอ
"ฉันไม่ได้ต้องการให้ขนมมันแตกแบบนี้" ใบ ไผ่เศร้าก้มหน้าจะร้องไห้ แล้วจู่ๆ
ที่พื้นก็มีดวงไฟสว่างขึ้น
ชี้นำทางเป็นลูกศรพาให้เดินตามไปยังลานจอดรถด้านหน้าที่มีรถขนมหวานจอดอยู่
ใบไผ่เงยหน้า เมื่อเดินมาถึงรถ เธอตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ที่หน้ากระโปรงรถของเธอมีหัวใจสองดวงเกี่ยวกันอยู่ภายในรูปหัวใจโรยด้วยกลีบ
กุหลาบสีชมพูกับสีแดง ใบไผ่อึ้ง ดวงไฟที่พื้นรอบๆ ตัวรถสว่างพรึ่บขึ้นมา
ใบไผ่มองรอบๆ ตัวที่มีแสงไฟระยิบระยับเต็มไปหมด วชรวรรษเดินออกมาหยุดตรงหน้าใบไผ่
"เราจะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับหัวใจของเราสองคนต่างหาก
ตราบใดที่เรารักกัน ยังไงเราก็ไม่มีวันพรากจากกัน" วชรวรรษจับมือใบไผ่ขึ้นมา
"นอกซะจากว่าเธอจะไม่รักฉัน" "นายหมาวัด" ใบไผ่อารมณ์เสียปล่อยมือออก
วชรวรรษจับไหล่ทั้งสองข้างของใบไผ่แล้วพูดอย่างจริงจัง "ใบไผ่ เธอรักฉันมั้ย"
"ทำไม่ต้องให้ฉันพูดด้วย ในเมื่อนายก็รู้คำตอบอยู่แล้วนี่" "
ฉันอยากได้ยินจากปากของเธอ การเสี่ยงทายไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความรัก
ความรู้สึกของตัวเราเองต่างหากที่ทำนายความรักของเราได้ เธอรักฉันมั้ย"
ใบไผ่ก้มหน้าเขิน ตอบเบาๆ "เอ่อ รัก" "รักที่มีให้ฉันมันน้อยจนไม่มีเสียงเลยเหรอ"
ใบไผ่ตะโกน "ฉันรักนาย ได้ยินยัง ฉันรักนาย ไอ้เจ้าพ่อบ้า"
วชรวรรษยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบที่ดังลั่นของไผ่ "ผมก็รักคุณ" วชรววรรษดึงไผ่เข้ามากอด
"เจ้าพ่ออย่างผมจะหยุดชีวิตไว้กับ แม่ค้าขนมหวานตลอดไป" สองคนมองตากันซึ้ง
วชรวรรษจูบใบไผ่ ท่ามกลางแสงระยิบระยับที่อบอวลไปด้วยความรัก

ไม่มีความคิดเห็น: