วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 15

วรรษา คุยโทรศัพท์กับธราทิตย์ บอกว่าท่าทางวชรวรรษจะหลงรักใบไผ่เข้าแล้ว เพราะเห็นพี่ชายกินขนมของใบไผ่แล้วหน้าแดง แสดงว่าแผนจะได้ผล ธราทิตย์บอกว่าได้ยินอย่างนี้ก็สบายใจขึ้น แล้วก็ชวนวรรษาออกไปหาอะไรกินบอกว่าเขามารออยู่หน้าบ้านแล้ว วรรษาหันไป ตกใจที่เห็นธราทิตย์ยืนโบกมือยิ้มให้ที่หน้าบ้าน
ระหว่างรอวรรษาออกมา ธราทิตย์ก็เจอวชรวรรษเอาปืนจ่อหน้า เขายิ้มใจดีสู้เสือบอกว่ามาชวนวรรษาไปหาของกิน
"มากินอะไรตอนนี้ แกคิดจะมาล่อลวงน้องสาวฉันใช่มั้ย"
"ไม่ไม่ใช่นะครับพี่ชาย เอ๊ย คุณวัชร ผมจริงใจกับคุณฝนจริงๆ นะครับ"
" ผู้ชายหน้าตาอย่างแก เชื่อใจไม่ได้ ที่ฉันไม่จัดการกับแกเพราะเห็นว่าแกเคยช่วยชีวิตน้องสาวฉัน แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะปล่อยให้แกมาจีบน้องสาวฉันได้นะเว้ย"
"อ้าว ใจเย็นสิครับ ผมมาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ รักจริงหวังแต่งนะครับพี่"
"แก!!" วชรวรรษตั้งท่าจะยิง ธราทิตย์จับมือวชรวรรษแน่น
" ฟังผมก่อนสิครับ เรามาคุยกันอย่างลูกผู้ชายไม่ดีกว่าเหรอครับ ผมเองไม่มีอาวุธสักชิ้น ถ้าคุณยิงผมตายตรงนี้ แสดงว่าคุณยอมรับว่าคุณยังเป็นมาเฟียอยู่"
"ก็ได้ ฉันให้เวลาแก 10 วินาที ถ้าคำพูดของแกฟังไม่เข้าหู แกก็เตรียมเข้าโลงได้เลย"
วชรวรรษเก็บปืน ธราทิตย์ปาดเหงื่อ ระหว่างนั้นวรรษาเดินออกมาเห็นธราทิตย์ยืนประจันหน้ากับวชรวรรษก็ตกใจ กำลังจะออกมา แต่ชะงัก
"ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกคุณฝน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงไม่กล้ามา ผมแค่อยากขอโอกาส"
"เวลาของนายใกล้จะหมดแล้ว"
" ถ้าคุณยังเกลียดผม ผมยอมให้คุณยิงก็ได้ ผมจะไม่หนีไปไหน และถึงผมต้องพิการ ผมก็จะมาเฝ้าหน้าบ้านรอคุณฝนทุกวัน เพราะหัวใจผมไม่ได้พิการตามไปด้วย"
วรรษาแอบฟังอยู่ถึงกับอมยิ้ม ทันใดนั้นธราทิตย์ก็คุกเข่าลงตรงหน้าวชรวรรษ
"พี่วัชรครับ ขอให้ผมได้จีบน้องสาวของพี่เถอะนะครับ"
"ถ้าแกทำอะไรให้น้องสาวฉันต้องเสียใจหรือล่วงเกินน้องสาวฉัน ฉันจะตัดนิ้วแก"
ธราทิตย์ยิ้มดีใจ "ขอบคุณมากครับพี่ชาย"
"อีกอย่างน้องสาวฉันเป็นพวกกินจุ ถ้าแกเลี้ยงน้องฉันไม่ดีเหมือนฉัน แกตายเหมือนกัน"
วชรวรรษเดินเข้าบ้านไป ธราทิตย์เข่าอ่อนเซพิงกับรถ วรรษาเดินออกมายิ้มชอบใจ
"กล้ามากนะนายมาร์ค"
"คุณได้ยินเหรอ"
" อย่างกับดูหนังมาเฟีย นี่ ไปกันได้ยัง ฉันหิวแล้ว อยากกินตั้งหลายอย่าง ทั้งข้าวมันไก่ประตูน้ำ เต้าทึงซอยทองหล่อ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตลาดนางเลิ้ง ขนมปังชาเย็นมนต์นมสด ผัดไทยประตูผี เอ๊ะ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพระรามสี่ก็น่าสนใจ มัวแต่ยืนบื้ออยู่นั่น เปิดประตูให้ฉันสิ"
"ครับ ครับเจ้าหญิง"
ธราทิตย์พาวรรษาไปกินอาหาร ทุกอย่างที่เธอชอบ แล้วก็พากันมาคุยต่อที่ริมแม่น้ำ ดดยวรรษายังซื้อขนมมากมายมานั่งกินต่อ จนธราทิตย์ต้องเตือนว่ากินมากจะอ้วน
"อ้วนแล้วทำไม ฉันไม่สนใจ ฉันอยากจะอ้วนๆๆ ถ้าไม่มีใครรักก็เชิญ"
"โธ่เอ๊ย คุณไม่รู้ซะแล้ว ผมนี่แหละชอบผู้หญิงเจ้าเนื้อ ยิ่งอ้วนเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะกอดแล้วเต็มไม้เต็มมือ" ธราทิตย์ยิ้มกรุ่มกริ่ม
"ตาบ้า พูดแบบนี้คิดอะไรกับฉันใช่มั้ย"
"ใช่ คิด" ธราทิตย์แกล้งมองด้วยสายตาโลมเลีย
"นายธราทิตย์"
" เอ้า ก็ผมพูดจริงๆ นี่ ผมชอบคุณก็ต้องคิดอยากกอดอยากหอมแก้มคุณเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้ผมรอได้ รอให้คุณโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วก็รักผมจนหัวปักหัวปำซะก่อน เมื่อถึงตอนนั้น คุณไม่มีทางหนีไปจากอ้อมกอดผมได้หรอก หึๆๆๆ"
ธราทิตย์ขยี้หัววรรษา ก่อนจะเดินออกไป วรรษาเขินหน้าแดง คิดอะไรบางอย่างออกมา แล้วโไปกอดธราทิตย์ทางด้านหลัง
"คุณทำอะไรของคุณเจ้าหญิง"
"ก็ให้รางวัลนายไง ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถ้าอยากกอดก็กอด อยากหอมแก้มฉันก็ทำเลยสิ"
"ไม่ได้ เดี๋ยวพี่คุณยิงผม"
" พี่ฉันไม่ได้อยู่แถวนี้ซะหน่อย หรือว่าที่จริงแล้ว นายไม่ได้ชอบฉัน แค่เห็นฉันเป็นคอลเลคชั่นผู้หญิงคนหนึ่งของนาย เลยใช้คำหวานหว่านเสน่ห์ให้ฉันหลง"
"โธ่ อย่ากระตุ้นผมแบบนี้สิ ผมไม่ได้โกหก ผมรักคุณ ผมอยากกอดคุณจะตายอยู่แล้ว"
วรรษามองท้าทายเขยิบเข้าใกล้ "งั้นก็กอดสิ"
ธรา ทิตย์เหงื่อแตกพลั่ก ใจสั่น ทำใจไม่ค่อยได้ยิ่งมองไปที่ริมฝีปากของวรรษายิ่งใจสั่นเต้นรัว แล้วตัดสินใจยื่นหน้าไปจะจูบ พลันเสียงโทรศัพท์จากวชรวรรษก็ดังขึ้น
"ห้ามแกจูบน้องสาวฉัน ไม่งั้นแกตาย"
ธราทิตย์ตกใจหน้าซีดเมื่อรู้ว่าวชรวรรษส่งคนสะกดรอยตาม วชรวรรษห้ามไม่ให้บอกวรรษาว่าเขาโทรมา
วชร วรรษกินข้าวหมดเกลี้ยง ทำเอาป้าแหววถึงกับตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น วชรวรรษบอกว่าวันนี้ป้าแหววทำอาหารอร่อยมาก แต่ป้าแหววบอกว่าเป็นเพราะขนมหวานจากร้านใบไผ่มากกว่าที่ทำให้วชรวรรษเจริญ อาหาร วชรวรรษพูดไม่ออกทำเป็นดื่มน้ำ ป้าแหววอมยิ้ม ระหว่างนั้นทศเดินเข้ามาสีหน้าไม่ดี บอกว่าพยุทธ์โทรศัพท์มาขอพบวชรวรรษ
วชร วรรษรีบไปพบพยุทธ์ที่บ้าน พยุทธ์พูดเรื่องการแต่งงานของวชรวรรษกับนรารี วชรวรรษออกตัวว่าเขายังไม่พร้อม อ้างว่าเขาต้องะสางเรื่องธุรกิจให้เสร็จเสียก่อนจะได้ไม่เสื่อมเสียมาถึง พยุทธ์ พยุทธ์จึงเสนอว่าเขาจะช่วยหานายทุนมารับช่วงต่อธุรกิจของวชรวรรษให้ วชรวรรษกลุ้มใจ อ่อนล้า อยากพักเขาตัดสินใจไปหาใบไผ่ ระหว่างนั้นใบไผ่นึกถึงเรื่องที่วชรวรรษเคยทำกับข้าวไปให้เธอกินที่โรง พยาบาลพอดี พอหันมาเห็นวชรวรรษก็ตกใจ
"นายหมาวัด นี่นายมาทำไมเนี่ย"
"ฉันหิว"
ใบไผ่มองวชรวรรษว่าจะมาไม้ไหน วชรวรรษหยิบตำราอาหารยื่นมาตรงหน้าใบไผ่
"ฉันไปซื้อตำราอาหารมาอ่านดู เห็นเมนูที่ไม่เคยกินเพียบ คิดว่าของพวกนี้เธอคงทำได้สบายใช่มั้ย"
ใบไผ่รับมาเปิดๆ ดู "หลับตาทำก็ได้ ของหมูๆ"
"งั้นดีเลย ฉันอยากกินแกงสายบัว ฉู่ฉี่ปลาคัง ต้มยำปลาช่อน เต้าหู้ทรงเครื่อง ผัดยอดมะระไฟแดง"
"นี่ มันจะมากไปแล้วนายหมาวัด ฉันไม่ใช่แม่ครัวของนาย กลับไปบอกให้คนที่บ้านนายทำเถอะไป"
วชรวรรษแววตาอ้อนวอนขอร้อง "ถ้าป้าแหววทำได้ ฉันคงไม่มาหาเธอ ใบไผ่ถือว่าสงสารผู้ชายหน้าตาดีๆ อย่างฉันเถอะนะ"
"ทุเรศ พูดมาได้ไม่อายปาก นายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย ทำไมฉันต้องทำให้ด้วย"
"วันนี้ไม่ได้เป็น แต่วันหน้าก็ไม่แน่"
"นายหมายความว่ายังไง"
วชรวรรษเขยิบเข้าใกล้ "อย่าปากแข็งไปหน่อยเลยใบไผ่ เธอชอบฉันก็บอกมาเถอะ"
"นี่ ถ้าพูดจาไม่เข้าหูอีกทีนายตายแน่"
วชรวรรษยิ้มไม่ตอบแล้วเอากลอนมาให้ใบไผ่ดู ใบไผ่รับมาอ่าน
"กระเช้าน้อยร้อยใจอันแสนหวาน ดั่งน้ำตาลเคลือบรักบรรจุไว้ โอ้เจ้าพี่ พี่ช่างงามบาดหัวใจ งามสดใสเสน่ห์รักไม่มีจาง"
"มันมากับขนมที่เธอให้ฉันวันก่อน"
"นายหมาวัด นายอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้เป็นคนเขียนไอ้กลอนพวกนี้"
" อย่ามาไก๋น่า ขนมร้านเธอมีจุดเด่นที่เธอเขียนกลอนเองไม่ใช่เหรอ อืมม์ ถ้าจะทำอะไรก็รีบๆ เข้านะ ฉันไม่ใช่พระอิฐพระปูน อยู่ใกล้เธอทุกวันใจมันชักสั่นๆ"
ใบไผ่เอาผ้ากันเปื้อนปาหน้าวชรวรรษ "ไอ้บ้า!!"
เข่ง กำลังช่วยอานาทเอาผลไม้ใส่ที่ท้ายรถกระบะ นาทหันไปเห็นรถเก๋งรุ่นโบราณคันหนึ่งขับเข้ามาจอด นาทหน้าตื่นใจไม่ดี นาทเหงื่อแตกซิกๆ มือสั่นทำตะกร้าผลไม้ในมือร่วงลงพื้น คนขับรถของย่าใหญ่เดินมาเปิดประตูรถให้แล้วกางร่มรับย่าใหญ่ที่แต่งตัว เหมือนหลุดมาจากยุคร.7 นาทกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความสยดสยองก่อนจะรีบวิ่งหนีไป
อุบลกำลังป้อน น้ำตะไคร้ให้กริชดื่ม ใบไผ่เดินปึงปังเข้ามา ต่อว่าทั้งสองเรื่องกลอนที่ใส่ไปในขนม ทั้งสองโยนความผิดกันไปมาว่าไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องนี้ วชรวรรษรีบเข้ามา
" ใบไผ่ เธออย่าโทษลุงกริชกับป้าอุบลหน่อยเลย ถ้าเธอไม่มีใจให้ฉัน คงไม่เอาขนมมาให้ฉันหรอก ยอมรับมาเถอะใบไผ่ว่าเธอแอบชอบฉัน มันจะได้จบๆ กันไป"
"นายหมาวัด ฉันทนนายไม่ไหวแล้ว"
ใบไผ่โมโหคว้าเหยือกน้ำตะ ไคร้สาดวชรวรรษ แต่วชรวรรษหลบได้ทันทำให้โดนหน้าย่าใหญ่เข้ามาพอดี ทุกคนตาเหลือกตกใจ ใบไผ่เข่าอ่อนทรุดฮวบไปกับพื้นยกมือไหว้ ย่าใหญ่มองทุกคนด้วยความไม่พอใจ และต่อว่าอุบลกับกริชที่เลี้ยงใบไผ่จนไม่เหลือความเป็นกุลสตรี
วชร วรรษไม่รู้ว่าย่าใหญ่เป็นใคร แต่คิดอยากจะช่วยใบไผ่ ก็ออกรับว่าเป็นความผิดของเขาเอง ย่าใหญ่ปรายตามองวชรวรรษไม่พอใจ ถามว่าเขาเป็นใคร และถามไปถึงครอบครัว ก่อนจะไล่วชรวรรษออกไปเพราะไม่เกี่ยวกับคนในตระกูล
ย่าใหญ่บอกที่มา วันนี้เพราะรู้ว่าใบไผ่เปิดร้านขนมหวานตามสูตรการทำขนมของเธอ จึงต้องการพาใบไผ่ไปทำขนมอวดพวกเพื่อนๆ ของเธอว่ามีหลานสาวมีฝีมือการทำอาหาร ใบไผ่กลุ้มใจรีบมาปรึกษาแก้วขวัญว่าย่าใหญ่จะให้เธอไปออกงาน
"งานอะไรนะไผ่"
" ราตรีคืนฝันย้อนวันวาน งานนี้คุณย่าเป็นแม่งาน เป็นงานรำลึกความหลังของคนแก่ๆ มีแต่เพื่อนคุณย่ามากันทั้งนั้น ย่าเลยมีคำสั่งให้ไผ่เตรียมอาหาร พร้อมเครื่องเคียง และขนมหวาน ไปจัดในงาน"
"ฟังดูก็ไม่เห็นมีอะไร แล้วไผ่จะมานั่งปวดหัวทำไม"
"ก็ไอ้ไฮไลท์สำคัญมันอยู่ตรงที่คุณย่าจะเอาไผ่ไปอวดกับคุณหญิงคุณนายเพื่อนๆ ของเขาน่ะสิน้าแก้ว"
"น้าก็ไม่เห็นว่ามันจะน่ากลุ้มใจตรงไหนอยู่ดี ดีซะอีกขนมของไผ่จะได้ดัง"
"แต่คุณย่าสั่งให้ไผ่แต่งตัวเป็นผู้หญิง นุ่งชุดไทย ห่มสไบ ไปยืนแจกขนมหน้างาน ใครเห็นเข้าอายเขาตาย"
แก้วขวัญหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความสะใจ
"จากทองเอก กลายเป็นทองม้วนซะแล้วเหรอเจ้าคะคุณม้วนขา"
"ไผ่ไม่ขำนะน้าแก้ว ไผ่เครียด โอ๊ย อยากจะบ้าตาย"
เสียง มือถือดังขึ้น ใบไผ่หยิบขึ้นมาดู ตกใจเห็นว่าเป็นนรารี นรารีขอให้ทองเอกออกไปพบเธอเพราะเธอถูกบังคับให้แต่งงาน ทั้งที่เธอรู้ใจตัวเองว่าเธอรักทองเอก ใบไผ่ตัดสินใจบอกนรารีว่าทองเอกมีแฟนแล้ว นรารีโกรธมากสะกดรอยตามทองเอกไปที่ร้านเสื้อของแก้วขวัญ แต่กลับเจอใบไผ่ซึ่งถอดคราบทองเอกออกแล้ว นรารีแปลกใจว่าใบไผ่มาทำอะไรที่นี่ แล้วทองเอกอยู่ที่ไหน แก้วขวัญตัดสินใจบอกนรารีว่าใบไผ่เป็นแฟนกับทองเอก เพราะคิดว่าเรื่องจะได้จบ
วชรวรรษตัดสินใจบอกวรรษาว่าเขาจะแต่งงานกับนรารี วรรษาไม่พอใจเพราะรู้ว่าพี่ชายรักใบไผ่
"ฝน พี่ไม่ได้รักคุณใบไผ่เขานะ"
"ฝนไม่เชื่อ ถ้าพี่วัชรไม่รักพี่ไผ่ แล้วตอนพี่ไผ่บาดเจ็บ ทำไมพี่วัชรถึงห่วงพี่ไผ่ขนาดนั้น แล้วยังพยายามทำอาหารให้พี่ไผ่อีก"
"พี่ทำ เพราะพี่อยากทำดีตอบแทนที่เขาเจ็บเพราะไปช่วยฝน พี่ไม่ได้ทำเพราะความรัก"
" อย่าปฏิเสธหัวใจตัวเองเลย ที่ทุกวันนี้พี่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนมันเป็นเพราะใคร ฝนบอกให้ก็ได้ว่ามันเป็นเพราะตั้งแต่พี่รู้จักพี่ไผ่ยังไงล่ะ"
"แต่ พี่คุยกับคุณพยุทธ์พ่อของคุณแพนเขาไปแล้ว ฟังพี่นะฝน สิ่งที่พี่กำลังทำ พี่ทำเพื่อเราทุกคน ถ้าชีวิตพี่ยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน พี่ก็คงไม่กล้าออกมาเดินกับฝนตามลำพังโดยไม่มีลูกน้องคอยตาม วันนี้พี่ได้เห็นฝนมีความสุข ปลอดภัยจากเรื่องอันตราย เพราะฉะนั้นพี่คงปฏิเสธคุณพยุทธ์ไม่ได้"
วรรษาลุกพรวดด้วยความโมโห "หนทางเป็นคนดีมีตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่เห็นจะต้องเอาตัวเองไปผูกติดกับผู้หญิงคนนั้น ฝนไม่อยากมีความสุขแค่คนเดียว แล้วนั่งดูพี่ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผู้หญิงที่พี่ไม่ได้รัก"
วรรษา น้ำตาคลอร้องไห้วิ่งออก แล้วโทรศัพท์ไปหาธราทิตย์บอกว่าเธอต้องการเจอชายหนุ่มเดี๋ยวนี้ แต่ธราทิตย์บอกว่าเขายังติดงานถ่ายแบบอยู่ วรรษาไม่ยอม ระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงชาช่า นางแบบที่ถ่ายแบบด้วยกันเล็ดรอดมาจึงโกรธมากคิดว่าธราทิตย์กำลังอยู่กับ ผู้หญิงอื่น
วรรษาเสียใจมากจึงไปที่ผับก็เจอนรารีนั่งดื่มอยู่ก่อน วรรษาจึงเข้าไปพูดไม่ให้นรารีแต่งงานกับวชรวรรษ เพราะวชรวรรษมีคนรักอยู่แล้ว แต่นรารีไม่สนใจ ทั้งสองมีปากเสียงและตบตีกัน
วชร วรรษมาหาใบไผที่ร้านขนมหวานเพื่อตามหาวรรษา แต่ใบไผไผ่บอกว่าวรรษาไม่ได้มาที่นี่ วชรวรรษเห็นใบไผ่ทำขนมมากมาย ถามว่าทำไปทำไม ใบไผ่บอกว่าฝึกทำไปจัดงานเลี้ยงให้ย่าใหญ่ วชรวรรษอาสาชิมให้ ด้วยความอร่อยจึงรีบกินจนติดคอ ไอหน้าดำหน้าแดง ใบไผ่ช่วยตบหลังให้ แต่ก็ไม่ได้ผล จึงตัดสินใจกอดด้านหลังวชรวรรษแล้วบีบท้อง
ทันใดนั้นนรารีเดินเข้ามา เห็นเข้าใจผิดอย่างแรง เข้าไปตบหน้าใบไผ่ กล่าวหาว่าเป็นนางกากี ชอบแย่งผู้ชาย แล้วบอกกับวชรวรรษว่าใบไผ่เป็นแฟนกับทองเอก วชรวรรษตกใจหันไปมองใบไผ่
"เป็นความจริงเหรอใบไผ่ คุณเป็นแฟนกับนายทองเอกจริงเหรอ"
ใบไผ่จำใจ "ใช่ ฉันเป็นแฟนกับคุณทองเอก ทีนี้พวกคุณก็ออกไปจากร้านฉันได้แล้ว"
วชรวรรษพานรารีออกมาจากร้าน นรารีฟ้องเรื่องที่เธอถูกวรรษาตบหน้าอยากให้วชรวรรษกำราบวรรษาไม่อย่างนั้นคงแต่งงานกันไม่ได้
วรรษา มาดักรอธราทิตย์ที่หน้าคอนโดฯ ก็เห็นธราทิตย์เดินเข้ามาพร้อมกับน้องชาช่า เธอคิดว่าธราทิตย์พาชาช่ามาหาความสุขด้วยกัน โดยไม่รู้ว่าชาช่าจะมาซื้อห้องคอนโดฯต่อจากธราทิตย์ เพราะธราทิตย์ต้องการไปซื้อบ้านหลังใหญ่ไว้สำหรับวรรษา
วรรษากลับมาบ้าน นั่งทึ้งหมอนด่าธราทิตย์ด้วยความโกรธและหึง วชรวรรษเปิดประตูเข้ามาเอาเรื่องน้องสาวทันทีที่ไปหาเรื่องนรารี
" ฝนไม่เข้าใจ ยังไงฝนก็ไม่มีวันเข้าใจ ทำไมพี่วัชรต้องแต่งงานกับคนที่พี่วัชรไม่ได้รัก พี่วัชรเห็นแก่ตัว ถ้าพี่วัชรแต่งงานกับคุณแพน แล้วพี่ไผ่ล่ะคะ พี่ไผ่จะรู้สึกยังไง"
"เขาจะรู้สึกอะไรฝน พี่ไผ่ของฝนเขาไม่รู้สึกอะไรหรอก"
"พี่วัชรหมายความว่ายังไง"
"ใบไผ่เขามีแฟนแล้ว คราวนี้เลิกพูดว่าพี่เป็นแฟนกับเขาสักที"
วชรวรรษตัดสินใจไปหาใบไผ่ในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อเตือนว่าทองเอกไม่ใช่คนดี ใบไผ่อาจจะถูกหลอก ใบไผ่ชะงัก แต่พยายามทำหน้าให้ปกติ
"นายไม่ต้องมายุ่ง ไปเตรียมงานแต่งงานของตัวเองกับคุณแพนเถอะ ฉันจะคบกับใคร มันก็เรื่องของฉัน"
"แต่เธอจะไปคบกับไอ้หมอนั่นไม่ได้"
"ทำไม"
"ก็…ไอ้หมอนั่นมันเลว"
"นายจะไปรู้จักเขาดีกว่าฉันได้ยังไง"
"แล้วเธอรู้จักมันดีมากเลยเหรอ"
"ใช่ ฉันรู้จักเขาดี ดีมากกว่าที่ฉันรู้จักกับนาย"
"นี่คุณอย่าบอกนะว่าคุณ คุณมีอะไรกับมันแล้ว"
ใบไผ่ตบหน้าวชรวรรษอย่างแรงด้วยความโกรธ วชรวรรษตกใจ รู้สึกผิดที่พลั้งปากพูดไป
"ใบไผ่ ฉัน"
"ออกไป"
"ฉันขอโทษ ฉันไม่ตั้งใจจะดูถูกเธอ แต่ฉันเป็นห่วง ฉันอยากให้เธอฟังคำเตือนของฉันบ้าง"
" ถ้าคุณทองเอกเลวอย่างที่นายว่า แล้วตัวนายเป็นคนดีนักเหรอ สุดท้ายนายก็หลอกผู้หญิงมาแต่งงานกับตัวเองเพราะผลประโยชน์อยู่ดี ชาตินี้นายไม่มีทางเป็นคนดีกับใครเขาได้หรอก" ใบไผ่พรวดพราดเข้าไปในร้าน ทิ้งให้วชรวรรษยืนอึ้ง

ไม่มีความคิดเห็น: