วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บริษัทบำบัดแค้น 20

ห้อง ผู้ป่วย นงไฉนนอนแบบอยู่บนเตียง ที่ไหล่มีผ้าพันแผล จอมในชุดขาวสะอาด ยืนอยู่ข้างเตียง จับมือนงไฉนอย่างทนุถนอม มองเธออย่างเห็นใจ จอมก้มลงไปพูดกระซิบข้างหูบางนงไฉน ประตูเปิดเข้ามา ชาคริต ถวัลย์ พิมพา เดชชาติ เข้ามา
"แก เข้ามาได้ยังไง"
เดชชาติเข้ามากระชากคอเสื้อของจอม แล้วลากออกไปจากห้อง
จอมถูก เดชชาติ ผลักออกมาที่ทางเดิน ถวัลย์ ชาคริต พิมพาตามออกมา
"ยังไม่เลิกยุ่งกับลูกสาวฉันอีกเหรอ"
"ผมแค่มาเยี่ยมคุณนง"
"ไม่ต้องมายุ่งกับยายนงอีก เพราะนายคนเดียวแท้ๆ ที่ทำให้ครอบครัวยายนงต้องแตกแยกแบบนี้"
"ถ้าคุณเข้าใจอย่างนั้น ผมก็ขอโทษ"
จอมแยกไป ถวัลย์มองตามอย่างโกรธจัด แล้วก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมา เดชชาติประคองไว้
"ท่านครับ"
"พาท่านไปพักที่บ้านเถอะ กลับบ้านก่อนนะคะคุณ"
ถวัลย์พยักหน้า เดชชาติพาถวัลย์ออกไป
"ต้องเจรจากับนายจอมให้รู้เรื่อง ไปลูก"
พิมพากับชาคริต รีบตามจอมไปจนทัน
"เฮ้ย เดี๋ยว นายพาตัวสลิลไปกบดานไว้ทำไม"
"เพื่อเป็นการรับประกันว่าคุณจะไม่ทำร้ายคุณนงอีก ถ้าคุณนงเป็นอะไรไป ผมให้สลิล ออกมาให้การปรักปรำพวกคุณทันที"
"รักยายนงมากซีนะ ที่พายายนงหนีไปน่ะ เพื่อปกป้องงั้นซี"
"ใช่ครับ เพื่อให้พ้นความอำมหิตของพวกคุณ อีกไม่นานหรอกครับทุกอย่างจะเฉลยออกมา แล้วคุณสองคนจะต้องชดใช้บาปของคุณอย่างสาสมที่สุด"
จอมแยกไป ชาคริตหันมามองแม่ พิมพาหน้าเครียด เกิดอาการซวนเซ
"ไหนล่ะครับ แม่ ที่แม่บอกว่าเรามีทาง เรากำลังจนมุมนะครับ"
"เราไม่มีวันจนมุมหรอก"
พิมพาเกิดอาการเซ ชาคริตเข้าประคองไว้ "แม่ครับ"
พิมพาตวาด "ปล่อย แม่ไม่เป็นไร"
พิมพาแยกมาเครียดจนเส้นขึ้นที่ขมับ ชาคริตมองตามอย่างจนปัญญา
พิมพาเข้าไปในห้องผู้ป่วย นงไฉนยังนอนแบบอยู่บนเตียง พิมพามองนงไฉนด้วยสายตาอำมหิต ก่อนจะกุมขมับปวดหัว ชาคริตตามเข้ามา
"แม่ครับ ไม่ใช่แค่นังสลิล ถ้านังนงมันฟื้นแล้วร่วมให้การอีกคน เราไม่มีทางรอดเลยนะครับ ผมว่าเราหนีดีกว่า"
"อะไรนะ หนีเหรอ แกจะหนีไปไหน"
ชาคริตบอกแม่ว่า "ไปต่างประเทศ กบดานอยู่ที่ไหนก็ได้ครับ ที่ทางการตามตัวเราไม่ถึง"
"ไม่หนีไปไหนทั้งนั้น เราไม่แพ้ เราจะแพ้ไม่ได้"
ชาคริตกล่อม "แม่ครับ ยอมรับความจริงเถอะครับ"
"ไม่ แพ้ไม่ได้ แกหยุดพูดเดี๋ยวนี้"
พิมพาปัดแจกันดอกไม้ และข้าวของบนโต๊ะของนงไฉนกระเด็น
"แม่ครับ แม่เป็นอะไรไป"
ชาคริตประคองพิมพาทรุดลงนั่ง นงไฉนครางออกมาเบาๆ พร้อมขยับตัว พิมพาและชาคริตหันขวับมามองตะลึงงัน พยาบาลสองนางเข้ามาในห้อง
"ว้าย เกิดอะไรขึ้นคะ"
"ไม่มีอะไรครับ คุณแม่ผมล้มไปโดนน่ะครับ"
พยาบาลเข้ามาดูอาการนงไฉน "คนไข้ เริ่มตอบสนองแล้วค่ะ เริ่มรู้สึกตัวแล้ว เรียกคุณหมอเลย"
พยาบาลสองรับคำ แล้วออกไป สองแม่ลูกที่หายใจไม่ทั่วท้อง
ที่สปาอารักษ์ จอมนั่งอยู่กับโชค แหวน ธง ลุงคำกำลังช่วยเลี้ยงนัทอยู่ที่สนาม
" เจ้าปีศาจเทวัญมันครอบงำฉัน ยิ่งเห็นคุณนงผลักแหวนตกบันได เจ้าเทวัญก็เชื่อสนิทว่าเธอคือนางมารร้าย มันถึงพาเธอไปขังไว้ที่เกาะมุก" จอมว่า
"แล้วทำไมแกพาเธอกลับ" โชคถาม
จอมยิ้ม "ฉันหายบ้าแล้วไง เจ้าปีศาจมันครอบงำฉันไม่ได้อีกแล้ว"
แหวนไม่เชื่อ "อย่ามาพูดเล่นนะคะพี่ เชื่อได้ยังไงว่าพี่หายบ้า"
"เชื่อ เชื่อ มองตามัน ไม่มีไอ้ผีเทวัญเข้าสิงแล้ว คนบ้าด้วยกันดูออกอีกอย่าง คุณนายเขารักษาเก่ง"
โชคกับแหวนหน้าตาตื่น "หา คุณนาย!/คุณนงน่ะเหรอคะรักษาพี่"
"ใช่ ใช่ ไปแหกปากตะโกนกันที่หาด ไม่อายคนเลย เลยโดนยิง"
แหวนกับโชคมองหน้ากันยิ่งงง
"เฮ้ย เล่ามา เล่ามา เรื่องเด็ดอย่างนี้ อย่ามาทำอมพะนำ"
จอมยิ้มไม่ยอมพูด นัทวิ่งมากอดจอมไว้ ลุงคำตามมา
"พ่อจอมครับ เมื่อไหร่จะได้ไปหาแม่"
"นั่นซี ตกลงแกพาคุณสลิลไปอยู่ที่ไหนวะ"
"ที่ที่คุณจอมนึกไม่ถึงน่ะครับ" ลุงคำว่า จอมฉงนสนเท่ห์
สถานพักฟื้นจิตเวชหรู หมอดามพ์เดินนำจอม โชค น้องนัท เข้ามาที่หน้าห้องคนไข้หญิงชื่อว่า ลัดดา โกสุม
"ระวังนะครับ ให้คนไข้กับคนนอกรู้ไม่ได้เลย" หมอดามพ์เปิดประตูเข้าไป
ใน ห้องพัก สลิลยังนอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือ และอุปกรณ์ครบเครื่อง จอม โชคและน้องนัทตามหมอดามพ์เข้ามา นัทวิ่งเข้ามาหาแม่ พยาบาลนางหนึ่งดูแลอยู่ รีบออกไป
"แม่ แม่ คิดถึงแม่"
"นัท ลูก"
"แม่อย่าทิ้งนัทไปอีกนะ"
"แม่ไม่ทิ้งลูกไปไหนอีกแล้ว" สลิลมองมาที่จอม "คุณจอมคะ ฉันขอโทษที่ฉันทำร้ายคุณกับยายนง"
"ไม่เป็นไรครับ"
"ฉันจะบอกความจริงเรื่องภาพในมือถือด้วย ฉันสั่งให้ยายเริงโกหกคุณ"
"ผมรำลึกได้หมดแล้วครับ" จอมว่า
สลิลงง "รำลึกได้ พูดเหมือนคุณเห็นภาพพวกนั้นมาก่อน"
จอมและโชคมองหน้ากัน "เออ เปล่าครับ นงไฉนจำได้ทั้งหมด แล้วก็เล่าให้ผมฟังแล้ว"
"มีอะไรที่ฉันจะช่วยคุณได้อีก"
"มีสิครับ คุณช่วยผมได้แน่ๆ" สลิลพยักหน้ารับ
ที่ สปาอารักษ์ อานนท์ถือดอกไม้น่ารัก แต่งตัวหล่อ เดินเข้ามาในส่วนตึกสปา เห็นแหวนกำลังคุยกับลุงคำ อานนท์จะเข้าไปแต่แล้วก็ต้องชะงัก
"คุณเท หายจากป่วย ผมก็ดีใจครับ"
อานนท์ หลบมุมทันทีแอบฟัง "แหวนละกลัวที่สุดเลยเรื่องนี้ หายจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ากลับไปเป็นพี่เทคนเก่าอีก คราวนี้ต้องส่งหมอดามพ์ถาวรเลยละค่ะ"
อานนท์ ยิ่งสงสัย ลุงคำกล่าวว่า "แกบอกว่าแกทำใจได้แล้วนะครับ เฮ้อ ถ้ากลับเป็นคุณเทอีก ก็ขอให้เป็นคุณเทวัญแสนดีคนเดิมก็แล้วกันครับ"
"ลุงคะ ระวังหน่อยนะ อย่าเรียกพี่เท เรียกจอม ดีกว่า"
"นั่นซี ผมก็ลืมไป เรียกคุณเท จนติดปาก" อานนท์ได้ยินก็อึ้งไป
บ้านสิรินทะเล ชาคริตเข้ามาในห้องสันทนาการ พบพิมพากำลังพูดมือถือ สีหน้ายิ้มแย้ม
"เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ ทุกอย่างจะเรียบร้อย"
พิมพาหันมาเห็น ชาคริตที่เดินเข้ามาด้วยอาการหัวเสีย ถือแก้วเครื่องดื่มเข้ามาด้วย ดื่มรวด พิมพาขอเลิกสายโทรศัพท์
"จะไปไหนลูก ไหนว่าจะทานข้าวเย็นด้วยกัน"
"ผมอยู่บ้านไม่ไหวแล้วครับ กลุ้มจะแย่ คืนนี้อาจจะไม่กลับ" ชาคริตจะออกจากห้อง
"คริต คุยกับเพื่อนแม่หน่อยไหม เขาอยากคุยกับลูก"
"ไม่ละครับแม่ ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น" ชาคริตออกไป
"ออกไปแล้วค่ะ ไม่เป็นไรนะคะคุณอรศรี ค่ะ ฉันจะส่งยายนงไปอยู่กับคุณเร็วๆ นี้ ค่ะ ยายนงบ่นคิดถึงคุณอรทุกวันเลย"
พิมพายิ้ม นัยน์ตาฉายแววไม่ปรกติ
0000000000000
หน้าตึกอารักษ์ แหวนออกมาจากตัวตึก เห็นช่อดอกไม้วางอยู่ที่โต๊ะสนามหน้าตึก แหวนหยิบมา อานนท์ปรากฏตัวมาทางเบื้องหลัง
"คุณแหวนครับ แทนคำขอโทษของผม" แหวนอึ้งไป "รับไว้เถอะครับ"
แหวนและอานนท์ เดินมาตามทางสวยของอารักษ์ แหวนถือดอกไม้ของอานนท์
"ฉันเพิ่งรู้ว่า คุณไปเฝ้าฉันตลอดที่ฉันหมดสติในโรงพยาบาล"
"ครับ เป็นห่วงคุณ"
อานนท์และแหวนมองกันด้วยสายตาลึกซึ้ง แหวนหลบตา
"ขอบคุณค่ะ"
อานนท์เปลี่ยนท่าทีเล็กน้อย "นึกถึงตอนที่ไปเฝ้าไข้คุณ คุณละเมอออกมาด้วยนะ พูดอะไรแปลกๆ"
"พูดอะไรคะ"
"พูดถึงคนชื่อพี่เท" แหวนอึ้งไป "บอกว่าอย่าให้พี่เททำร้ายคุณนง ใช่พี่นงไฉนรึเปล่าครับ แล้วพี่เทไหน"
"ไม่ทราบค่ะ ฉันคงเพ้อไปเอง"
อานนท์หันไปยิ้มกับต้นไม้ใบหญ้า
"ผมทบทวนแล้วนะครับ แหวน จริงอย่างที่คุณว่า คุณไม่เคยโกหกผมสักเรื่องเดียว ผมเข้าใจผิดไปเองแท้ๆ"
แหวนมองอานนท์แล้วหลบตา อานนท์มองอย่างจับสังเกต
"เฮ้อ วันนี้อากาศดีจัง เดินเล่นกับผมก่อนนะ แล้วเราไปหาของอร่อยในเมืองทานกัน"
"ฉันยังไม่ได้ยกโทษให้คุณนะ"
"งั้นก็ยกโทษให้เดี๋ยวนี้ซีครับ" แหวนลังเลก่อนยิ้มออกมา
คืนเดียวกันนั้น ถวัลย์นอนหลับอยู่บนเตียง ถมยาดูแลอยู่ข้างเตียง
"เฮ้อ ป่วยกันทั้งคุณพ่อคุณลูก ขอให้หายวันหายคืนเถอะนะคะ ทั้งคู่เลย"
ถมยาหันไป แล้วอุทานเบาๆ ร่างของพิมพายืนทะมึนอยู่หน้าประตู เห็นเป็นเงาดำ
"ว้าย ตาเถรหัวถลอก คุณพิมคะ ทำไมมายืนอยู่เงียบๆ"
พิมพาก้าวเข้ามาข้างเตียง ถมยาอึ้งไป เพราะพิมพาแต่งหน้าเข้มจัด แต่งตัวพร้อมจะออกไปนอกบ้าน มองถวัลย์ด้วยสายตาเย็นเยียบ
"คุณถวัลย์เป็นยังไงบ้าง"
"ทานยาหลับไปแล้วค่ะ คุณพิมแต่งตัวจะไปไหนคะ"
"ออกไปหาคุณอรน่ะ"
"อรไหนคะคุณ"
พิมพามองหน้าถมยา สีหน้าเย็น ถมยาถึงกับขนลุก
"พูดอะไรป้า ตลกจัง ทำเป็นไม่รู้จักคุณอร ป้าไปทำธุระเถอะจ๊ะ"
"ค่ะ" ถมยามองพิมพา ทั้งงงทั้งหวาด แล้วออกไป
พิมพายิ้มกับถวัลย์ "คุณถวัลย์คะ คุณอรสั่งให้ฉันทำ ฉันมาขออนุญาตคุณก่อน คืนนี้ฉันจะส่งหนูนงไปอยู่กับคุณอร"
พิมพายิ้มหวานกับถวัลย์ ถมยาแอบฟังอยู่นอกห้องตกใจ
หน้าตึกโรงพยาบาล พิมพาถือถุงใบย่อมมาด้วย ตรงไปที่ห้องผู้ป่วย
พิมพาเดินเข้ามาในห้องนงไฉน ที่เปิดไฟไว้เพียงสลัวๆ เดินตรงมาที่เตียง นงไฉนนอนหลับอยู่ พิมพายิ้มกับนงไฉน
"เดี๋ยวหนูก็จะไปสบายแล้วนะ นงไฉน นั่นไง คุณอรแม่หนูมายืนรอรับอยู่โน่นแล้ว"
พิมพาหันไปมองที่ประตูห้อง ที่มีแสงสลัวๆ ส่องออกมา พิมพาเปิดถุงออก มีทั้งมีด เข็มฉีดยา และยาสลบ
เวลา เดียวกันที่ผับ ชาคริตกำลังกระดกเหล้า สีหน้ากลัดกลุ้ม แม้จะมีสาวๆ รุมล้อม เดชชาติกำลังหัวเราะเมามันกับสาวๆ มือถือดังขึ้น ชาคริตแยกมา
"มีอะไรป้า"
ป้าถมยาอยู่ในห้องถวัลย์ "คุณคริตคะ คุณแม่ท่าทางแปลกๆ ค่ะ"
"แปลกยังไง"
"งงค่ะ พูดถึงคุณอร ไม่ทราบว่าหมายถึงคุณอรศรีรึเปล่า พูดเหมือนคุณอรนัดออกไปพบทำนองนี้ละค่ะ อิฉันว่าอาการไม่ดีนะคะ"
"ป้า แล้วแม่ออกไปไหน"
"ไม่ทราบค่ะ แต่ออกไปแล้ว พูดด้วยว่าจะส่งคุณนงไปอยู่กับคุณอร"
ชาคริตเลิกสายทันที รีบวิ่งไปหาเดชชาติ "เดช ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้"
"มีอะไรครับ"
ชาคริตไม่ตอบแต่เร่ง สองหนุ่มออกจากผับไป
ที่ห้องผู้ป่วยนงไฉน พิมพากำลังฉีดน้ำยาออกจากไซริงค์
"ไม่ต้องห่วงนะ นงไฉน เธอจะไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น เป็นการตายที่เป็นสุขที่สุด"
พิมพาจะฉีดยาเข้าเส้น "อย่าตำหนิฉันเลยนะ ฉันทำเพื่อลูกชายฉัน เธอจะมาเป็นอุปสรรคให้ลูกชายฉันอีกไม่ได้แล้ว"
พิมพาปักเข็มลงกับสายน้ำเกลือ ประตูเปิดเข้ามาพร้อม ชาคริต และ เดชชาติ
"แม่!!" ทั้งสองวิ่งเข้ามาแย่งเข็มฉีดยาจากพิมพา
"ปล่อยฉัน ปล่อย"
"แม่ ทำไมทำอย่างนี้"
"อรศรีให้ฉันทำ"
"คุณอร ตายแล้วนะแม่"
"ตายยังไง ยังยืนอยู่ตรงนั้น ปล่อยนะ ปล่อย"
เดชชาติและชาคริตดันร่างพิมพา ไปที่ผนัง แย่งเข็มฉีดยามาได้ เดชชาติกลัวผี นงไฉนรองครางขึ้น
"ใครน่ะ ใครกัน"
ทั้งสองหยุดกิจกรรมหันมามองนงไฉน นงไฉนขยับร่างขึ้นมอง
"ใครอยู่ตรงนั้น" นงไฉนร้องถาม
ชาคริตรีบผละจากพิมพามาหานงไฉน "คุณนง ผมเอง"
"คุณคริต ฉันอยู่ที่ไหนคะ"
"คุณอยู่ที่โรงพยาบาล"
"เกิดอะไรขึ้น"
"คุณถูกยิง จำได้ใช่ไหม"
นงไฉนส่ายหน้า "จำไม่ได้ค่ะ จำอะไรไม่ได้เลย"
"ใครพาตัวคุณไปที่เกาะมุก"
นงไฉนส่ายหน้า "ฉันอยู่ที่เกาะมุกเหรอ จำไม่ได้ ใครพาฉันไป เกิดอะไรขึ้น"
"แล้ว เรื่องที่บ้านละครับ ก่อนที่คุณจะถูกลักพาตัวไป"
"คุณคริต ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ทำไมเป็นอย่างนี้ สมองฉันเป็นอะไรคุณคริต ฉันกลัว"
"ไม่ต้องกลัวนะครับ คุณปลอดภัยแล้ว"
ชาคริตกอดนงไฉนไว้ หันมามองทางพิมพาและเดชชาติ ทั้งสามโล่งอกพร้อมกัน
วันรุ่งขึ้น นงไฉนนั่งอยู่ตรงหน้าพนักงานสอบสวน สารวัตรวิกรมฟังอยู่ด้วย ก่อนจะออกจากห้อง
ที่หน้าห้อง ถวัลย์ที่ยังซีดเซียว ชาคริต อานนท์ รออยู่หน้าห้อง วิกรมออกมา
"เธอจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่คนที่ลักพาตัวเธอไป ก็ยังจำไม่ได้ เหตุการณ์ที่คุณสลิลถูกยิง ก็จำไม่ได้เหมือนกัน"
"แล้วทางสารวัตรจะจัดการยังไงต่อครับ"
"ผมไม่สามารถจะดำเนินคดีได้น่ะซีครับ เพราะตอนนี้ทางเจ้าทุกข์อย่างคุณสลิลก็ไม่ปรากฏตัว ทางคุณแหวนก็ไม่ได้เอาความอะไร"
"ลูกนงพ้นข้อหาใช่ไหมครับ"
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ยังไงผมก็ต้องสอบปากคำให้แน่ชัดก่อน"
"ได้ยินเท่านี้ก็ดีใจแล้วครับ" ถวัลย์ว่า
วิกรมแยกไป ชาคริตโล่งอก อานนท์มองจับสังเกต
อานนท์พานงไฉนที่นั่งเก้าอี้รถเข็นมาตามทางเดินสวยในสวน ชาคริตและถวัลย์ นั่งอยู่มุมหนึ่ง
"ทำใจให้สบายนะครับพี่ อีกไม่กี่วัน พี่ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว"
นงไฉนมองเลยไป เห็นร่างของจอมยืนอยู่ที่มุมสวน จอมเดินเข้ามาหานงไฉนพร้อมช่อดอกไม้
"คุณนง ผมเอง"
นงไฉนมองจอมนิ่ง รับดอกไม้มา "หายดีแล้วนะครับ"
"ค่ะ ดอกไม้สวยจัง"
"หายดีแล้วกลับไปอยู่กับผมที่อารักษ์นะ"
"อารักษ์ ไปอยู่กับคุณ คุณเป็นใครคะ"
จอมอึ้ง อานนท์ก็เช่นกัน "พี่นงครับ นี่คุณจอมไงละครับ"
จอมทรุดลงนั่ง "คุณนง จำผมไม่ได้เหรอ"
นงไฉนมองจอมนิ่ง แล้วเบือนหน้าหนีไป ส่ายหน้า "จำไม่ได้ จำอะไรไม่ได้เลย"
"คุณนง ผมจอมไง เราสัญญากันแล้ว คุณกลับมา คุณจะหย่าจากนายคริต เราจะไปด้วยกัน"
"พอ หยุด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันไม่รู้จักคุณ"
"คุณนง ไม่รู้จักผมได้ยังไง ผมจอมไงครับ"
ชาคริตประคอง ถวัลย์ตรงมา ชาคริตเข้ากระชากคอเสื้อจอมลุกขึ้น ผลักออก
"บอกแล้วไง อย่ามายุ่งกับลูกสาวฉัน นนท์ พายายนงกลับห้องไป"
"ครับ" อานนท์เข็นรถพานงไฉนกลับ ถวัลย์ตามไปด้วย นงไฉนยังหันมามองจอม
"คุณนงจำคุณไม่ได้แล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด" ชาคริตว่า
"น่ายินดีที่เธอจำเรื่องที่คุณทำร้ายเธอไม่ได้ต่างหาก เอาเป็นว่าคุณพ้นข้อหา"
"ใช่แล้ว โชคเข้าข้างผม ไอ้เรื่องที่ขู่จะปรักปรำผม ก็ลืมไปได้เลยนะ"
ชาคริตยิ้มกริ่ม แยกมาจากจอม จอมถอนใจสีหน้าสลด
00000000000000
วันรุ่งขึ้น ชาคริต เดชชาติ ลาวัลย์ ชนแก้วดื่มพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่น บรรดาพนักงานจากสิริน มาช่วยตกแต่งสถานที่
เดชชาติเอ่ยว่า "ในที่สุดพวกเราก็รอด"
"โชคเข้าข้างพวกเรานะคะ นี่ละค่ะที่เรียกว่าคนดีผีคุ้ม"
"วันนี้ต้องฉลองกันหน่อย"
"ฉลองให้ยายนงกลับมาจากโรงพยาบาลเย็นนี้ใช่ไหมคะ วัลย์เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งดอกไม้ ทั้งอาหาร"
"ไม่ใช่ฉลองให้ยายนง ฉลองให้พวกเราเองต่างหาก" ชาคริตว่า
ทั้งสามหัวเราะ พิมพาเดินเข้ามา สีหน้าซีดเซียว อยู่ในชุดอยู่บ้าน
"คริต คนพวกนี้มาทำอะไรในบ้านเรา"
ชาคริตเข้ามาหาพิมพา "แม่ครับ นอนพักผ่อนเถอะครับ"
"ไม่ อยากรู้ว่าทำไมคนเต็มบ้านแบบนี้"
"พนักงานที่โรงแรมน่ะครับ เขามาจัดงานให้นงไฉน"
"จัดงานเหรอลูก"
"ครับ นงไฉนจะกลับมาเย็นนี้แล้ว แม่ต้องพักผ่อนให้พอนะครับ จะได้แต่งตัวสวยๆ มาร่วมงาน"
พิมพายิ้มออกมาได้ "ได้ลูก แม่จะแต่งให้สวยเชียวนะ"
ชาคริตพาพิมพาออกไป "บ้าไปแล้วเหรอแก"
"ก็จะเข้าไปฆ่านังนงมันถึงที่โรงพยาบาล ไม่บ้าได้ไง"
"กรรมตามสนองว่ะ ทำกับยายนงไว้มาก เลยเข้าตัว"
"อย่าพูดซีวะ ยิ่งหยองๆ วันที่โรงพยาบาล แกพูดเรื่องผีคุณอรศรีด้วยนะ บอกว่ามายืนที่หน้าประตู เป็นคนสั่งให้แกมาฆ่า"
ลาวัลย์ทำท่าสยองอีกคน เข้ามาเบียดเดชชาติ "ลูบหลังฉันหน่อยซีวะแก"
"เป็นไร" ชาคริตลูบหลังให้ "จะอาเจียนเหรอ"
"เปล่า มันเย็นสันหลังวาบๆ น่ะ"
ชาคริตพาพิมพาเข้ามาในห้องนอน ลงนั่ง
"แม่ต้องทานยานะครับ แม่เครียดเกินไป"
"เฮ้อ แม่ไม่น่าเครียดขนาดนี้เลย ทำเอาจิตหลอน คิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด"
"ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรแล้วครับแม่ โชคเข้าข้างเราแล้ว ยายนงจำอะไรไม่ได้ เราพ้นความผิดทั้งหมด เหลืออีกอย่างเดียวเท่านั้น"
"อะไรลูก"
"หุ้นไงครับแม่ ถ้านายถวัลย์ยอมยกหุ้นให้นงไฉน งานเราก็สำเร็จแล้วละครับ"
"นายถวัลย์จะยอมยกหุ้นให้งั้นเหรอ"
"นายถวัลย์ป่วยขนาดนี้ ต้องรู้ตัวแล้วละครับ ผมจะเกลี้ยกล่อมนายถวัลย์เอง แม่พักผ่อนนะครับ"
ชาคริตออกไป พิมพาถอนใจ "คริต"
"ครับแม่"
"แม่ไม่ได้บ้าใช่ไหม"
"ครับแม่ แม่ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น"
ชาคริตยิ้มปลอบใจ แล้วออกไป พิมพาถอนใจโล่งอก หยิบมือถือขึ้นมา
"เธอเหรอ เมื่อวานฉันพลาดไป แต่วันนี้ ฉันจะแก้ตัวใหม่ จ๊ะอรศรี" พิมพายิ้มละไมนัยน์ตาโหด
นงไฉนแต่งตัวสวยเตรียมออกจากโรงพยาบาล ดอกไม้ยังสวยเต็มห้อง มือยังคล้องแขนอยู่ ชาคริตเข้ามาแล้วกอดนงไฉนไว้
"คุณนง เราจะได้กลับบ้านกันแล้วนะ"
"เมื่อวันก่อน ผู้ชายคนนั้นเป็นใครคะ เขาบอกว่าเขาชื่อจอม"
"นี่คุณจำนายจอมไม่ได้ใช่ไหม" นงไฉนส่ายหน้า
ชาคริตดีใจมาก "ลืมเขาไปเถอะครับ แค่ไอ้สิบแปดมงกุฏคนหนึ่ง มันมาหลอกคุณนงน่ะ"
นงไฉนพยักหน้า ชาคริตพาออกจากห้อง
ถวัลย์หน้าตาหมองคล้ำ กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกในห้องส่วนตัว พิมพาเคาะประตู
"เชิญ" พิมพาแต่งตัวใหม่แล้ว สะสวยสง่างาม สีปากดูแดงชาดกว่าทุกวัน เข้ามาพร้อมเครื่องดื่มบำรุง
"คุณถวัลย์คะ ทานเสียหน่อยจะสดชื่นขึ้น"
"ขอบคุณ แล้วป้าถมยา ไปไหนล่ะ"
"ดูแลคนงานอยู่ข้างล่างน่ะค่ะ"
ถวัลย์รับเครื่องดื่มมาจิบ พิมพามองอย่างพึงใจ
"เฮ้อ ผมอ่อนแอลงทุกวัน เห็นทีจะต้องหาคนมาดูแลส่วนตัวเสียแล้ว"
"ก็ดีนะคะ อยากจะรบกวนคุณ ปรึกษาเรื่องหุ้นน่ะค่ะ"
"หืมม์ เรื่องหุ้น ทำไมเหรอครับ"
"ฉันคิดว่า ถึงเวลาแล้วละค่ะ ที่คุณควรจะยกหุ้นให้หนูนง หรือไม่ก็นายคริตได้แล้ว"
"คุณพิม ผมบอกแล้วไง จะยกให้ก็ต่อเมื่อผมได้อุ้มหลาน"
"นายคริตเป็นหมันค่ะคุณถวัลย์ คงมีลูกกับยายนงไม่ได้หรอก"
ถวัลย์มองพิมพา อย่างตกตะลึง "คุณพิม นี่คุณพูดเรื่องอะไร"
พิมพายิ้มให้ถวัลย์อย่างจริงใจ
ณ เวลาเดียวกันนี้รถคันหรูขับเข้ามาหน้าบ้าน ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้งดงาม บรรดาพนักงานสิริน เดชชาติ ลาวัลย์ อานนท์ รออยู่แล้ว ทุกคนปรบมือให้ ชาคริตวิ่งลงจากรถ แล้วมาเปิดประตูให้นงไฉน เสียงปรบมือดังขึ้นอีก เดชชาติผิวปากลั่น
ขณะที่ห้องถวัลย์ ถวัลย์ยังเถียงกับพิมพาต่อ
"คุณกับนายคริตหลอกผมงั้นเหรอ"
"คุณโง่เองที่หลงเชื่อฉันกับลูกชาย นายคริตไม่ได้รักยายนงหลอกค่ะเราต้องการโรงแรมสิรินของคุณต่างหาก"
"ออกไปนะ ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ"
ถวัลย์เดินไปที่โทรศัพท์จะกดเบอร์ พิมพาเข้ามากระชากโทรศัพท์จากถวัลย์ แล้วตบหน้าถวัลย์ฉาดใหญ่
"คุณควรจะรู้ไว้ด้วย นังนงน่ะ มันไม่ได้บ้าด้วยตัวมันเองหรอก มันบ้าด้วยนี่ต่างหาก"
พิมพาหยิบกล่องยาขึ้นมาให้ดู "เวลาที่มันหึงหวงนายคริต ฉันช่วยให้มันคลั่งมากขึ้น ด้วยยาหลอนประสาทพวกนี้"
"แกทำได้ยังไง"
" ฉันใช้ความรู้สึกผิดของคุณไงคะ คุณถวัลย์ ต้นเหตุอาการทางจิตของนงไฉนมาจากความสำส่อนของคุณ คุณทำให้บ้านแตก อรศรีเป็นบ้าฆ่าตัวตาย คุณเลยเชื่ออย่างไม่ติดใจเลยว่า นงไฉนบ้าเพราะนายคริตมีผู้หญิงอื่น"
ถวัลย์โกรธมาก "แก นังปีศาจ"
ถวัลย์กระโดดเข้ามาบีบคอพิมพา แต่แล้วก็เกิดอาการเกร็ง แขนซ้ายมีอาการร้าวไปทั้งแขน ถวัลย์เซล้มไปกับพื้น
ที่ห้องโถงล่าง นงไฉนยิ้มละไมอยู่กับชาคริต เดชชาติ ลาวัลย์ อานนท์ และกลุ่มพนักงานและป้าถมยา
เดชชาติกล่าวเริ่ม "เราในฐานะพนักงานสิริน เป็นห่วงคุณนงกันทุกคน และนี่ครับคือสิ่งที่แทนความรู้สึกของพวกเรา"
เดชชาติส่งดอกไม้ช่อใหญ่ให้นงไฉน นงไฉนรับมาท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน
"พ่อละคะคุณคริต"
"อยู่ข้างบนน่ะครับ เดี๋ยวคงลงมา"
ถวัลย์หอบหายใจอยู่ที่พื้น มือกุมหน้าอก พิมพามองอย่างสะใจ
"แกทำอะไรฉัน"
"เครื่องดื่มสมุนไพรที่คุณทานอยู่ทุกวันนี่ไงคะ ด้วยตัวยาพวกนี้ มันช่วยทำให้หัวใจคุณล้มเหลวเร็วขึ้น"
พิมพาหยิบยาเม็ดอีกชนิดออกมา
"เอายาของฉันมา เอายามาให้ฉัน"
ถวัลย์ คืบคลานไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียง พยายามจะหยิบยา แก้วน้ำหล่นลงมาที่พื้นพรม ขวดยาล้มตาม พร้อมกับรูปถ่ายที่ตกลงมาคว่ำหน้ากับพื้น ขวดยากระเด็นไปทางหนึ่ง ถวัลย์หันไปทางขวดยา คลานไปจนหยิบมาได้ พยายามจะเปิดขวด พิมพาลงนั่ง แล้วปัดขวดยากระเด็นไปที่มุมโต๊ะเล็กมุมเดิม
ถวัลย์ พยายามคืบคลานไป ที่ขวดยาอย่างเอน็จอนาถ พิมพามองตาม ลงนั่งที่ข้างเตียงแล้วฮัมเพลงเบาๆ ถวัลย์เอื้อมมือไปถึงขวดยา แต่ไม่หยิบขวด กลับหยิบรูปที่คว่ำอยู่ขึ้นมาแทน เอามาดูคือรูปนงไฉนยิ้มสะสวย
"ลูกนง พ่อขอโทษ"
ถวัลย์น้ำตา ไหลพราก มีอาการสะดุ้งเฮือกครั้งสุดท้าย พลิกร่างเป็นนอนหงาย ตาเบิ่งค้าง มือยังถือรูปไว้แนบอก พิมพายิ้มละไมมองไปนอกหน้าต่างไม่ทุกข์ร้อน
ที่โถงล่าง นงไฉนกำลังกล่าวกับทุกคน
"ขอบคุณสำหรับน้ำใจของทุกคนค่ะ ว่าแต่บางคนฉันอาจจะจำไม่ได้ว่าเป็นใครบ้าง อย่าโกรธกันเลยนะคะ"
บรรดาพนักงานมองหน้ากันงงๆ แต่พยายามคุมสีหน้าให้ปรกติ
"ตอนนี้ หิวแล้วค่ะ" ทุกคนหัวเราะ "แล้วก็อยากเจอพ่อเต็มทีแล้ว"
"งั้นเราทานกันเลยนะคะ"
"ขอเชิญทุกคนที่ห้องอาหารเลยครับ"
ทุกคนตรงไปห้องอาหาร เดชชาติ ลาวัลย์ อานนท์ เข้ามาสมทบ ชาคริตกับนงไฉน
"เอ แม่ก็หายไปด้วย" ชาคริตสงสัย
อานนท์ว่า "อยู่ข้างบนกันทั้งคู่มั้งครับ"
"เดี๋ยววัลย์ไปตามคุณถวัลย์ให้"
"ผมไปด้วย" เดชชาติกับลาวัลย์แยกไป
ถวัลย์ยังนอนตาเบิ่งค้างอยู่ พิมพาฮัมเพลง แล้วหยิบมือถือขึ้นมา
"ยายอร ฉันทำสำเร็จแล้วนะ สามีเธอเดินทางไปอยู่กับเธอแล้ว"
เดชชาติกับลาวัลย์เคาะประตู "คุณถวัลย์ครับ"
"เข้ามาสิ"
เดช ชาติกับลาวัลย์มองหน้ากันงงๆ ที่เป็นเสียงพิมพา ทั้งสองเปิดประตูเข้ามา เห็นร่างของถวัลย์นอนตาเบิ่งค้างกลางห้อง ลาวัลย์กรี๊ดลั่น เดชชาติปิดปากลาวัลย์ไว้
"อย่าร้องนะแก เดี๋ยวแขกได้ยิน"
ชาคริตเข้ามา "ร้องอะไรน่ะ"
ชาคริตชะงักกับศพถวัลย์ "คุณคริต คุณถวัลย์"
เดชชาติเข้าดูอาการของถวัลย์ และเข้าไปหาแม่
"แม่ครับ แม่ทำอะไร"
"แม่ช่วยกำจัดมารให้ลูกไง"
"โธ่แม่ คุณลาวัลย์ พาแม่กลับไปที่ห้อง"
ลาวัลย์ยังช็อค "คุณคริต คุณถวัลย์ตายแล้ว"
"บอกให้พาแม่กลับไปที่ห้อง"
"ค่ะ ค่ะ" ลาวัลย์ประคองพิมพาออกไป
"เอาไงดีครับ"
"ก็ต้องปล่อยไว้แบบนี้ เช็ดรอยเท้า กับรอยนิ้วมือให้หมด แล้วกลับลงไปแจ้งข่าว"
"ครับ ครับ" เดชชาติเช็ดตามตู้และเตียง
สักครู่ชาคริตวิ่งหน้าตื่นลงมา นงไฉนนั่งอยู่หัวโต๊ะ อานนท์นั่งอยู่ข้างๆ
"คุณนงครับ"
"มีอะไรคะ พ่อล่ะ"
"ทำใจดีๆ ไว้นะครับ คุณพ่อเสียแล้ว"
นงไฉนตะลึง อานนท์ลุกพรวด ทุกคนเงียบเสียงกันไป นงไฉนลุกวิ่งออกไป ท่ามกลางเสียงซุบซิบ ถมยาออกมาจากห้องครัว
"เรื่องอะไรกันคะ"
"บอสเสียแล้วค่ะป้า"
"ว้าย" ถมยารีบออกไป
นง ไฉนกับอานนท์วิ่งเข้ามาในห้อง ตามด้วยชาคริต ถมยา นงไฉนมองสภาพของพ่อแล้วทรุดลงนั่งข้างศพ อานนท์ทรุดตาม เดชชาติกำลังโทรเรียกรถพยาบาล
นงไฉนกอดถวัลย์ไว้แน่น "พ่อ พ่อคะ พ่อจากหนูไปไม่ได้นะ พ่อ พูดกับหนูสิ พ่อ"
นงไฉนร่ำไห้กับศพ เหลือบไปเห็นมือถวัลย์ที่ยังกุมรูปถ่าย นงไฉนเปิดมือออก เป็นรูปของตัวเอง
"กรี๊ดดดดดด" นงไฉนฟุบไป อานนท์กอดนงไฉนไว้
ชาคริตกับเดชชาติทั้งกลัวความผิด ทั้งสลดใจ
เย็น วันนั้น นงไฉนยืนโดดเดี่ยวอยู่ที่ริมหาดหน้าบ้านสิริน น้ำตายังไหลพราก อานนท์เป็นเพื่อนอยู่ห่างๆ จอมเข้ามาสมทบอานนท์ ก่อนจะเดินเข้ามาหานงไฉน
"คุณนง"
นงไฉนหันมา จอมเข้ามากอดนงไฉนไว้
"คุณนง ผมขอโทษ ผมช่วยคุณพ่อคุณไม่ได้"
นงไฉนสะอื้นไห้อย่างแรง อานนท์แยกมา
ที่ห้องพิมพา ชาคริตนั่งอยู่ตรงหน้าพิมพา ที่ยังมีอาการนิ่งงัน เดชชาติกับลาวัลย์มองอยู่หน้าห้อง
"แม่ครับ ทำไมแม่ทำอย่างนี้ แม่ต้องไปรักษาตัวแล้ว"
ที่หน้าห้อง เดชชาติกระซิบ "บ้าแล้วฆ่าคนแบบนี้ ต้องส่งโรงพยาบาลแล้วว่ะ"
"โอย น่ากลัว นี่พวกข้างล่างสงสัยกันรึเปล่าเนี่ย"
"ไม่หรอก ฉันบอกว่าคุณพิมไม่ค่อยสบาย เลยพักอยู่ในห้อง ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย"
"ยังไงก็ต้องมีคนสงสัย ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันวางแผนหนีไปรอบโลกแล้วแก อยู่กับฆาตกรโรคจิต ฉันไม่เอาด้วยแล้ว"
ชาคริตออกมาสมทบ เดชชาติกับลาวัลย์ "คุณนงอยู่ไหน"
"เห็นออกไปกับนาย อานนท์ที่หาดน่ะครับ"
"ดูแม่ไว้ด้วย อย่าให้ออกไปไหน" ชาคริตแยกไป
ชาคริตเดินมาที่หาด พบนงไฉนคุยกับจอม ส่งเสียงเอะอะ อานนท์พยายามไกล่เกลี่ย
"ฉันไม่รู้ คุณพูดเรื่องอะไร ฉันจำอะไรไม่ได้"
"พยายามนึกสิครับ คุณต้องจำผมได้ แล้วคุณจะรู้ว่า ผมทำทุกอย่างเพื่อช่วยคุณ"
อานนท์ปราม "คุณจอม พอเถอะครับ พี่นงกำลังเสียใจเรื่องคุณพ่อ"
"ก็เพราะอย่างนี้ ผมถึงต้องให้คุณนงเชื่อผม คุณต้องรีบหนีจากนายชาคริต เขาฆ่าพ่อคุณ"
"คุณนง" ชาคริตถึงตัวและผลักจอมออก "บอกแล้วไงครับว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้คนนี้ มันเป็นสิบแปดมงกุฏ"
"แต่ว่า เขาบอกว่าที่พ่อเสีย เพราะคุณกับคุณพิมเป็นคนฆ่า คุณคริตคืออะไรคะ"
"อย่าไปฟังนะครับ แก ไปให้พ้นเขตบ้านฉัน"
"คุณนงต้องรู้ความจริงเข้าสักวัน คุณนงคุณต้องรักษาตัวโดยด่วนนะครับ เพื่อให้ความทรงจำของคุณกลับมา"
"ไปครับคุณนง"
ชาคริตประคองนงไฉนกลับไป นงไฉนยังหันมามองจอม
อานนท์ ตวาดลั่น "ผมบอกแล้วไงว่าอย่าพูดอะไรทั้งนั้น พี่นงกำลังเสียใจ"
อานนท์ตามไป จอมมองอย่างเป็นห่วง
000000000000000
คืนต่อมา หน้าศาลา ชาคริต เดชชาติ เป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกที่ทะยอยเข้ามาในงาน พวงหรีดนับไม่ถ้วนเต็มศาลา
ในศาลานงไฉนนั่งซึมอยู่กับอานนท์ ป้าถมยาคอยดูแลอยู่ ป้าตาบวมยังร้องไห้ไม่เลิก
สารวัตรวิกรมเข้ามา พร้อมลูกน้องติดตามหนึ่งนาย กล่าวกับชาคริต
"เสียใจด้วยนะครับเรื่องคุณ ถวัลย์"
"ครับ คุณพ่ออาการทรุดมาตลอด ตั้งแต่คุณนงหายไป แล้วท่านยังดื่มอีกห้ามท่านก็ไม่ฟัง"
"เข้าใจครับ"
"เชิญสารวัตรด้านในเลยครับ" วิกรมและลูกน้องเข้าไป
เดชชาติหันมากระซิบกับชาคริต "โล่งอกนะครับ ที่ผลชันสูตร ไม่พบอะไรน่าสงสัย"
"โชคเข้าข้างเราอีกครั้งแล้ว" ชาคริตว่า
ลาวัลย์เข้ามาถามป้าถมยาว่าพิมพาไม่มาเหรอ
"ป้า คุณพิมไม่มาเหรอ"
"ทานยาคลายเครียด พักผ่อนอยู่ที่บ้านค่ะ"
"อาการเป็นยังไงบ้าง"
" อาการดีขึ้นแล้วค่ะ แหม พูดแล้วขนลุก อาการเหมือนคุณนงกับ คุณอรศรีสมัยยังอยู่เลย โรคประสาทนี่มันติดต่อกันรึยังไงไม่ทราบ บ้านนี้เป็นกันหมดเลย"
"แล้วคุณนงล่ะ เป็นยังไง"
"นี่ละที่หนักใจค่ะ คุณนงเหม่อลอยแล้วเริ่มพูดคนเดียวอีกแล้ว"
"จริงเหรอ"
ลาวัลย์มองไปทางนงไฉน ที่ยังนั่งเหม่อลอยปากพึมพำบางอย่าง
ชาคริตและเดชชาติ ยังอยู่หน้าศาลา รับแขก กลุ่มของจอม โชค แหวน เข้างานมาด้วยกัน
"ใครเชิญไม่ทราบ"
"ผมมาเคารพศพคุณถวัลย์ ในฐานะที่คนนับถือกัน อย่าลืมสิครับ ผมเคยทำสปาสิรินให้ท่านมาก่อน ถือว่าเป็นอดีต พนักงานของท่านคนหนึ่ง"
"แต่ฉันเป็นเจ้าภาพ ไม่ต้อนรับพวกนาย กลับไปได้แล้ว"
"จอม กลับเถอะว่ะ" โชคชวนกลับ
สารวัตรวิกรมเดินออกมาพอดี "สวัสดีครับคุณจอม"
"สวัสดีครับ"
"ได้เจอคุณพอดี วันนี้ถือโอกาสสอบถามคุณเสียเลย มีปัญหาหลายอย่างที่ผมต้องการคำตอบ"
"ไม่สะดวกมังครับ เพราะคุณชาคริต ไม่ต้องการให้ผมเคารพศพ"
วิกรมมองชาคริตอย่างหยั่งเชิง "ถ้าสารวัตรต้องการสอบปากคำ ผมก็ไม่ขัดข้องครับ"
จอมมองชาคริตยิ้มหยันๆ ชาคริตมองอย่างหมั่นไส้เต็มที
จอม โชค แหวนเข้ามาทำการคารวะศพ อานนท์มองมาที่แหวน นงไฉนมองมาที่จอม ทั้งสามเคารพศพแล้วไปนั่งอีกด้านหนึ่ง สารวัตรวิกรมเข้ามาคุยเข้มกับจอม
นงไฉนมองไปทางจอมเป็นระยะ จอมเหลือบมองมาบ้าง มือถือของแหวนดังขึ้น แหวนรับสาย นงไฉนลุกขึ้นเดินไปหาแหวน
"ขอฉันพูดด้วย"
"อะไรนะคะ" แหวนงง
"ขอสายฉันพูด แม่โทรมาไม่ใช่เหรอ"
จอมมองนงไฉนนิ่ง นงไฉนดึงมือถือไปจากแหวน จอมห้ามแหวนไว้ไม่ให้เอามือถือกลับ นงไฉนแนบหู
"แม่คะ หนูเอง แม่คะ หนูขอโทษ หนูเสียใจที่ทำให้พ่อตาย" นงไฉนน้ำตาไหล
คนในศาลาหันมามองนงไฉนเป็นตาเดียว จอมลุกขึ้นมองนงไฉน
"พ่อตรอมใจเรื่องหนูน่ะค่ะแม่ หนูไม่ใช่ลูกที่ดีที่ทำให้ท่านภูมิใจ หนูเป็นบ้าค่ะแม่ พ่อเขาคงทนหนูไม่ได้"
"คุณนงครับ พอเถอะ" จอมปลอบ
"พ่อเขารับไม่ได้ที่มีลูกสาวเป็นบ้า"
"คุณนง ได้ยินผมไหม เลิกพูดเถอะครับ" จอมดึงมือถือไปจากนงไฉน
"เอามือถือมา ฉันยังพูดกับแม่ไม่จบ นายเป็นใคร มายุ่งกับฉันทำไม"
"คุณนง นี่ผมเอง"
"ฉันทำให้ทั้งพ่อทั้งแม่ตาย คุณได้ยินไหม ฉันมันลูกเนรคุณ ฉันมันเลว"
"มีสติหน่อยสิครับคุณนง"
จอมเขย่าร่างของนงไฉน นงไฉนกรีดลั่น แล้วทรุดฮวบลงกับพื้น
ชาคริต เดชชาติ ลาวัลย์ วิ่งเข้ามาทันที ชาคริตกระชากจอมออก อานนท์ประคองนงไฉน
"นายกลับไปได้แล้ว" ชาคริตกอดนงไฉนไว้ นงไฉนยังร้องไห้
"จอม ไปเถอะ"
วิกรมตัดบทว่า "กลับก่อนเถอะครับ ให้เกียรติคนตายบ้าง"
"ไปเถอะค่ะพี่"
แหวนกับโชคดึงจอมออกจากงาน จอมมองไปที่นงไฉน ที่ยังทรุดกับพื้น ร้องไห้ระล่ำระลัก มือยังถือมือถือของแหวนอยู่
พอก ลับ มาที่โรงแรมแล้ว อานนท์ถือมือถือของแหวนมา แล้วลงนั่งที่มุมหนึ่ง ลองกดดูภาพที่บันทึกไว้ในเครื่อง มีภาพแหวนเมืองนอกถ่ายกับเพื่อนๆ ถ่ายกับโชค และจอม โดยเฉพาะแหวนถ่ายกับจอม กอดรัดฟัดเหวี่ยง เล่นหัวกัน ดูไม่เหมือนนายจ้าง ลูกจ้าง แหวนสมัยเรียนมหาลัย ติดป้ายไว้ที่หน้าอกว่า แหวน นรลักษณ์ อานนท์เขม้นมองไปที่ชื่อกดขยายภาพ
"แหวน นรลักษณ์" อานนท์นิ่งงันไป
วันรุ่งขึ้นแหวนกำลังทำงานอยู่ในห้องทำงานของสปา อานนท์วางมือถือลงตรงหน้าแหวน
"ผมเอามือถือมาคืนน่ะครับ"
"ฉันกำลังจะไปทวงที่สิรินพอดี"
"เที่ยงแล้วนะครับ ไม่พักทานข้าวเหรอ"
"กำลังจะไปทานที่ห้องอาหารนี่ละค่ะ"
"อยากคุยเรื่องพี่นงกับคุณจอมน่ะครับ ทานมื้อเที่ยงกับผมในเมืองนะ"
"งั้น ขอตัวฉันแป๊บหนึ่ง" แหวนเดินกลับไปห้องด้านใน ลุงคำเดินออกมาพอดี
"สวัสดีครับ มาหาคุณแหวนเหรอครัไ
"ครับ ลุงครับ คุณแหวนนี่เขานามสกุลอะไรนะ"
"จะรู้ไปทำไมเหรอครับ"
อานนท์หลอกว่า "ลุงอย่าไปบอกเขานะ ผมจะซื้อของขวัญวันเกิดเซอร์ไพรส์เขาน่ะ สิ้นเดือนนี้วันเกิดเขา แต่นามสกุลเขาผมสะกดไม่ถูก"
"ประภัสสร์น่ะครับ"
"ลุงช่วยสะกดให้ผมหน่อย"
ลุงคำมองอานนท์อย่างสงสัยเล็กๆ แต่ก็เขียนให้ที่โต๊ะ
"อย่าลืมนะครับ อย่าบอกคุณแหวน" อานนท์แยกไป ลุงคำมองงงๆ

ไม่มีความคิดเห็น: