วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บริษัทบำบัดแค้น 22

แหวนและโชคแยกออกมาจากอานนท์ แหวนกังวลใจมาก
"ทำไงดีละคะพี่โชค ถ้าคุณนนท์เห็นรูปพี่ธง ก็รู้ทันทีว่าพี่ธงคือคนของเรา ความแตกแน่"
"ก็ต้องหาทางเปลี่ยนเอกสารก่อนจะมาถึงมือของนายนนท์"
"ค่ะ" แหวนกลับมาหาอานนท์
"คุณนนท์คะ แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งข้อมูลมาให้เมื่อไหร่ แล้วส่งทางไหน"
"อ๋อ ผมให้ส่งเป็นเอกสารมาเลยครับ มีใบเซ็นรับรองจาก ผอ.โรงพยาบาลด้วย คิดว่าบ่ายนี้ก็น่าจะได้รับ"
แหวนสบตากับโชคคิดแผนทันที
ที่ห้องทำงานชาคริต ชาคริตและพิมพายิ้มขันต่อหน้าจอมและนงไฉน
"เริ่มแรกเหรอ ก็แค่จีบนิดๆ หน่อย แล้วก็ได้ผล คุณนงมาเห็นเข้า ก็อาละวาดใส่นรีเสียใหญ่โต" ชาคริตเล่า
" จากนั้น ผมก็รู้ว่าต้องใช้ยายนรีนี่แหละให้เป็นประโยชน์ที่สุด แล้วคืนหนึ่งทุกอย่างก็เป็นใจ เพราะยายนรีมาร้องไห้อยู่ที่ผับ บ่นเรื่องผัวไม่ไปฉลองวันครบรอบแต่งงาน"
จอมนึกถึงวันนั้น ซึ่งเขาลืมและมีงานด่วนที่ต้องส่งพรุ่งนี้ เขาถูกนรีต่อว่า
"พี่เท รู้ไหม ทำไมนรีซื้อสร้อยให้พี่ อยากไปทานดินเนอร์กับพี่คืนนี้"
"ทำไม"
"วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเรา"
นรีมองหน้าเทวัญอย่างเย็นชา น้ำตาคลอนิดๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
จอมโพล่งออกมา "แล้วคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น"
นงไฉนมองหน้าจอมอย่างสงสัยท่าที
ชาคริตหยัน "ทุกอย่างง่ายดายมาก แค่คำพูดหวานๆ กินใจสักหน่อย กับเหล้าแก้วเดียวเท่านั้น" จอมขบกรามแน่น
คืนเดียวกันนั้น นรีนั่งดื่มอยู่คนเดียว ปาดน้ำตาแห่งความทุกข์ ชาคริตเข้ามาเห็น
"คุณนรี ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวละครับ"
"คุณคริต"
"คุณร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
"เล่ามาเถอะครับ ผมรับฟังได้ นะ เล่าให้ผมฟัง"
" ฉันเพิ่งทะเลาะกับแฟนมา คืนนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเรา ฉันซื้อสร้อยให้เขา กะจะให้เขาใส่มาดินเนอร์ด้วยกัน แต่เขาไม่สนใจเลย อ้างแต่เรื่องงาน"
นรีสะอื้น ชาคริตดึงนรีมาโอบไว้ นรีขืนตัวไว้ "คุณคริต"
"เห็นใจคุณจริงๆ ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องผมก่อนดีไหม"
นรีสายตาลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมขึ้นไป ชาคริตรินเหล้าให้นรี แล้วลงนั่งดื่มด้วย
"คุณใจดีจัง ที่รับฟังเรื่องส่วนตัวของฉัน"
"ที่จริงอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตส่วนตัวคุณมากกว่านี้ด้วยซ้ำ"
"หมายความว่ายังไงคะคุณคริต"
"ผมรักคุณนรี"
นรีเป็นอึ้ง รีบลุกขึ้น ชาคริตลุกตามยึดร่างไว้
"ผมพูดจริงๆ นะ รักตั้งแต่แรกเห็นเลย"
"ไม่ค่ะ คุณนงไฉนยิ่งระแวงเราอยู่ อย่าให้มันเลยเถิดมากกว่านี้เลย ปล่อยนรีเถอะค่ะ"
"ไม่ปล่อย คุณไม่รู้หรอกว่าผมทรมานแค่ไหน ที่อยู่กับเขา"
"ทำไมคะ"
" เขาเป็นบ้า คุณก็เห็น แถมเขา เขาตอบสนองทางเพศผมไม่ได้ เราอยู่กินกันแค่ในนามเท่านั้น ผมทรมานมากนะ แล้วยิ่งทรมานมากขึ้นเมื่อพบคุณ และรู้ว่าหัวใจตัวเองกำลังสลายเพราะหลงรักคุณเข้าแล้ว"
"คุณคริต"
"ผมจะหย่าจากเขา แล้วมาแต่งกับคุณ เราจะหนีไปด้วยกัน"
ชาคริตจูบที่ซอกคอนรี "อย่าค่ะคุณคริต"
"หย่าจากสามีคุณเถอะนะ มาอยู่กับผม"
นรีระทวยอยู่ในอ้อมกอดชาคริต ชาคริตประคองร่างนรีลงนอนที่โซฟายาว
จอมฟังแล้วกำหมัดแน่น ชาคริตและพิมพายิ้มหยัน
"โทษนะครับคุณนง ที่ต้องบอกว่าผมใช้ห้องนี้เป็นรังรักของผมกับนรี คงไม่รังเกียจ"
"เรื่องน่ารังเกียจของคุณมันมีมากกว่านี้เยอะ เล่ามา หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น"
"หลังจากที่มันตกเป็นของผม เราก็ได้เสียกันเรื่อยมา แล้ววันหนึ่งมันก็เอาสร้อยราคาถูกๆ มาให้ผม"
จอมอึ้งไป "นรีเอาไปให้คุณงั้นเหรอ"
"ใช่ มันหลอกให้ผมใส่สร้อย แล้วมันก็แอบถ่ายคลิปในมือถือไว้ ผมไม่น่าเสียรู้มันเลย"
นงไฉนและจอมสบตากัน
นรีกำลังจัดดอกไม้อยู่ในห้อง แล้วแอบวาง มือถือไว้ในกระถางดอกไม้ ชาคริตเข้ามาโอบร่าง นรีจากเบื้องหลัง
"ดอกไม้สวยอีกแล้ว สวยขึ้นทุกวัน ไม่แพ้คนจัดเลย"
"หวานอีกแล้วคุณคริตเนี่ย คุณคริตคะนรีมีของขวัญจะให้คุณ"
"อะไรครับ"
"สร้อยค่ะ นรีซื้อมาให้คุณ"
"โธ่ ทำไมต้องลำบาก"
"นรีอยากให้คุณคริต อยากตอบแทนคุณคริตมานานแล้ว สำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้นรี" นรีสวมสร้อยให้ชาคริต "เข้ากับคุณที่สุดเลย"
"ตอนนี้ผมต้องตอบแทนคุณบ้างแล้ว"
"คุณคริตอย่าค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็น"
ชาคริต จูบไซร้นรี นรีหัวเราะระรื่น เหลือบมองกล้อง แล้วผละไป ชาคริตเริ่มถอดเสิ้อแล้วตามไป นรีกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ชาคริตเหลือเสื้อกล้าม ตามมาสวมกอดนรี
"คุณคริต ฉันขาดคุณไม่ได้แล้วค่ะคุณคริต"
"ผมเข้าห้องน้ำก่อน"
นรีเดินมาหยิบมือถือ ปิดเครื่อง ยิ้มกับตัวเอง
จอมลูบหน้าตัวเอง ฟังความทั้งหมดด้วยความสะเทือนใจ นงไฉนมองมาที่จอมอย่างสังเกต
จอมเครียด "แล้วสร้อยนั่น คุณไปทิ้งไว้ที่ไหน"
"สร้อยบ้าๆ นั่นน่ะเหรอ ผมกลับมาที่บ้าน ก็โยนทิ้งไป"
จอมยังหน้าเครียด นงไฉนมองจอมแล้วละสายตามาที่ชาคริต
"แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก"
"นังนรีทำท่าเป็นเจ้าของผมมากขึ้นทุกทีจนผมชักทนไม่ไหว แล้วก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องได้เห็นภาพบาดตาบาดใจของผมกับมันครั้งสุดท้าย"
วัน นั้นนงไฉนกำลังเดินเลี้ยวมาที่ห้องทำงานชาคริต เห็นชาคริตโอบร่างนรี ที่ถือแจกันดอกไม้มาด้วย ชาคริตเปิดประตูให้นรีเข้าไป ชาคริตจี้ที่เอวนรี นรีร้องว้ายปนหัวเราะ ชาคริตมองซ้ายขวาก่อนจะปิดล็อคประตู
นงไฉนเดิน มาที่ประตู แนบหูกับประตู เสียงหัวเราะระรื่นปนกันทั้งนรีและชาคริต นงไฉนบิดลูกบิดแต่ล็อค เธอปิดหูตัวเอง มือสั่นตัวสั่น น้ำตาไหลพราก
นงไฉนแยกไป ชาคริตแง้มประตูออกมามอง ยิ้มย่ามใจ
เสียงพิมพาเล่าว่า "แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นหน้าที่ของฉันต่อ"
นงไฉนเข้ามาในห้องนั่งเล่น พิมพากำลังอ่านหนังสืออยู่
"หนูนง เป็นอะไรน่ะ"
"แม่คะ หนูต้องรู้ความจริงให้ได้ เขาทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไง"
"ใครทำอะไรกับหนู"
"คุณคริต คุณคริตเขา"
ป้าถมยา วางยาใส่ถ้วยเล็กมาให้
"ทานยาก่อนนะ ทานยาก่อน"
นงไฉนทานยาเข้าไป น้ำหกเลอะเสื้อ
พิมพาบอกต่อ "สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เดี๋ยวหนูจะสงบลงนะ"
เสียงพิมพาเล่าต่ออีกว่า "จริงๆ แล้วเธอไม่ได้สงบลงหรอก เพราะยาที่เธอทานเข้าไป คือยากระตุ้นให้เธอคลั่งต่างหาก"
พิมพากระซิบข้างหู นงไฉน "นงไฉน ฟังนะ ยายนรีมันจะแย่งนายคริตไปจากเธอ ตั้งแต่วันแรกที่มันเข้ามาทำงานแล้ว ไปจัดการมัน"
"ค่ะแม่ ไม่มีใครแย่งคุณคริตจากหนูได้"
นงไฉนเดินตรงมาหานรี แล้วกระชากแขนนรีออกมาจากกลุ่ม
"อยากเล่นชู้กับผู้ชาย โน่นไปโน่นเลย ตามหาดโน่น ฝรั่งเยอะแยะ คงสนองความต้องการแกได้หรอก"
"ปล่อยฉันนะ นังบ้า"
นงไฉนมองนรีเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
"แกว่าฉันบ้าเหรอ อย่าอยู่เลย"
นง ไฉนตบหน้านรีสองฉาด นรีล้มลงกรี๊ดด เด็กชายโก้ที่วิ่งมากับกลุ่มเด็กสองสามคนจากเนอสเซอรี โก้ตะลึงงันไปเห็นแม่โดนตบ เดชชาติกับลาวัลย์มาดึงร่างนงไฉนออกไป
นงไฉนมองสองแม่ลูกอย่างชิงชัง พิมพาเล่าต่อว่า
"ทุกอย่างได้ผลเกินคาด นังนรีต้องลาออกไป ส่วนเธอ ก็คลั่งไม่เลิก"
"คุณสะกดจิตฉันงั้นเหรอ" นงไฉนถาม
" ใช่ ยาประเภทนี้ทานเข้าไปแล้ว จะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ทุกคนก็เชื่อแล้วว่าเธอบ้าจริง เห็นภาพหลอนว่านายคริตมั่วกับสาวๆ"
จอมถามแทรกขึ้น "คุณต้องการแต่งงานกับคุณนง แล้วคุณจัดฉากให้คุณนงมีอาการทางจิตไปเพื่ออะไร"
" อ้าว ตอนนั้นใครๆ ก็ชื่นชมผมทั้งนั้นว่าผมรักคุณนงจริง รู้ทั้งรู้ว่าคู่หมั้นเป็นบ้า ก็ยังยืนยันจะแต่งด้วย นายถวัลย์พ่อคุณ รีบหาฤกษ์ยามให้ผมแต่งงานกับคุณทันที คงกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจ แล้วคุณจะกลายเป็นนังบ้าทึนทึกละมัง ฮ่ะฮ่ะ" ชาคริตหัวเราะอย่างสะใจ
"เลว เลวที่สุด" นงไฉนจะถลาเข้าหาชาคริต
จอมยึดไว้ นายตำรวจและวิกรมทำท่าจะเข้ามา "ใจเย็นครับคุณนง"
จอมประคองนงไฉนลงนั่ง นงไฉนเบือนหน้าเช็ดน้ำตา ชาคริตและพิมพายิ้มหยันอย่างสะใจเต็มที
00000000000000000
แหวนกลับมานั่งร่วมกับอานนท์ โชคมองอยู่ห่างๆ
"คุณนนท์คะ จะรออยู่ที่นี่หรือคะ"
"ต้องรอสิครับ ข้างบนกำลังสอบสวนกันอยู่ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปดูสักหน่อย"
"เออ โทษเถอะนะคะ ฉันจะต้องกลับอารักษ์เดี๋ยวนี้ ไม่ได้เอารถมาด้วยช่วยไปส่งฉันหน่อยได้ไหมคะ"
อานนท์ลังเลนิดหน่อย "ได้ครับ"
แหวนไปกับอานนท์ พลางส่งสัญญาณให้โชค
ที่ห้องทำงานชาคริต การสอบสวนยังต่อเนื่อง นงไฉนยังเช็ดน้ำตา
จอมถามต่อ "แล้วในงานแต่งงาน คุณให้ยาคุณนงอีกงั้นเหรอ เธอถึงเอาปืนไล่ยิงนรี"
พิมพาตอบว่า "เปล่าเลย ที่จริงวันนั้นเราต้องการให้นงไฉนมีสติที่สุด แต่ดันเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน มันมาจากนังนรีนั่นคนเดียว"
ชาคริตเสริมว่า "ถ้ามันไม่แอบถ่ายภาพมือถือนั่นไว้ งานแต่งครั้งแรกก็คงไม่มีปัญหา"
นงไฉนและจอมมองหน้ากันยังสงสัยอยู่
งาน แต่งงานครั้งแรก นงไฉนสะสวยอยู่กับชาคริตกลางงาน กำลังประคองมือตัดเค็ก ดนตรีบรรเลงอยู่มุมเวที เดชชาติ ลาวัลย์ อานนท์ ถวัลย์ พิมพา และบรรดาแขกปรบมือให้บ่าวสาว นรีหลบอยู่ในกลุ่มแขกสีหน้าเศร้า มองมาที่ชาคริตที่ยืนยิ้มมีความสุขกับนงไฉน
นรีตัดสินใจเดินตรงเข้ามาหาทั้งคู่ นงไฉนกับชาคริตหันมามองนรี แล้วเจื่อนไปทั้งคู่
"ขอให้มีความสุขนะคะ บ่าวสาว" นรีกล่าว
นงไฉนมองนรีอย่างไม่เป็นมิตร ชาคริตตอบเสียงเย็นชา "ขอบคุณ"
นรีมองหน้าชาคริตอย่างตัดพ้อ เดชชาติและลาวัลย์รีบเข้ามา
"คุณนรี ออกไปก่อนเถอะครับ"
"ไม่ต้องไล่หรอก คุณคริต ขอคุยส่วนตัวหน่อยได้ไหมคะ"
"เอ๊ะ คุณ คุณไม่ได้รับเชิญมานะ รีบออกไปดีกว่า" ลาวัลย์เสียงดุ
นรียังยืนยัน "ขอคุยครู่เดียวเท่านั้น"
"ไม่มีอะไรต้องคุยครับ"
"คุณคริต คุณควรจะได้ดูภาพพวกนี้"
นง ไฉนเป็นงง ชาคริตเองก็งงเช่นกัน นรีหยิบมือถือจะเอาออกมาจากกระเป๋า แต่ยังไม่ทันหยิบออกมา เสียงเอะอะดังมาจากอีกมุมของงาน ทุกคนหันไปมอง
สลิลผลักกลุ่มรปภ แล้ววิ่งเข้ามากลางงาน เมาได้ที่ พิมพากับถวัลย์ตกใจ นงไฉน ชาคริต เดชชาติ ลาวัลย์ อานนท์ ตะลึง นรีรีบถอยฉากออกไป
"สลิล เธอออกไปเดี๋ยวนี้นะ"
"ไม่ต้องมาไล่ฉัน ฉันเข้ามาเพื่อจะอวยพรให้ไอ้คู่บ่าวสาวคู่นี้"
"ไล่มันไป" ถวัลย์สั่ง
อานนท์ กับเดชชาติจะเข้ามา สลิลหยิบขวดเหล้าแล้วฟาดลงกับโต๊ะ ยื่นขวดที่กลายเป็นปากฉลามเข้าใส่สองหนุ่ม และกลุ่มรปภที่จะเข้ามาชะงัก บรรดาแขกอุทานตกใจ
"อย่าเข้ามานะ ฉันต้องอวยพรให้เสร็จก่อน นังนงถ้าแกแต่งกับไอ้คริต ความซวย ความหายนะจะตกอยู่กับแก รวมทั้งกิจการโรงแรมของแกด้วย เหมือนอย่างที่ฉันเคยเจอ มันกับแม่มันผลาญสมบัติฉันไม่เหลือแม้แต่แดงเดียว จำเอาไว้ หายนะจะอยู่กับแก"
นงไฉนอึ้ง "หยุดพูด หยุด"
อานนท์เข้าจับข้อมือของสลิล บิดอย่างแรงจนขวดปากฉลามหลุดจากมือ จากนั้นเดชชาติเข้าช่วยยึดร่าง
"ปล่อยฉัน ปล่อยสิวะ"
"พาออกไป แล้วอย่าให้เข้ามาเหยียบโรงแรมเราอีก"
อานนท์กับเดชชาติพาสลิลออกไป ตามด้วยรปภ.นงไฉนเป็นงงมองหน้าชาคริตอย่างตั้งคำถาม
"เกิดอะไรขึ้นคุณคริต เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมียเก่าของคุณพูดอย่างนั้น"
"ไม่มีอะไรนะครับคุณนง ไม่มีอะไรทั้งนั้น"
นงไฉนน้ำตาไหลพราก "คุณปล่อยเธอเข้ามาได้ยังไง ปล่อยเข้ามาได้ยังไง"
"คุณนง ไม่เอาน่า แขกมองกันใหญ่แล้ว"
พิมพา ถวัลย์ ถมยาเข้ามาประกบนงไฉน ที่ร้องไห้สะอื้น
"ยายหนู ไม่ร้องนะลูก"
"พาขึ้นไปสงบสติอารมณ์บนห้องดีกว่านะคะ"
"ดีเหมือนกัน งั้นผมอยู่ต้อนรับที่นี่ก่อน"
พิมพาพยักหน้าชาคริตประคองนงไฉนออกไป ถมยาตามไปด้วย นรีแอบอยู่มุมหนึ่ง เธอมองตามมาอย่างคับแค้นใจ
นงไฉนเข้ามาในห้องพร้อมด้วย พิมพา ชาคริต อานนท์ ถวัลย์ และป้าถมยา นงไฉนมีอาการไม่สู้ดี
"ปล่อยเข้ามาได้ยังไง ปล่อยเธอเข้ามาได้ยังไง" นงไฉนพร่ำ
"คุณนง ตั้งสติหน่อยครับ ตั้งสติหน่อย"
"ฉันถามว่าคุณปล่อยเธอเข้ามาในงานแต่งงานของเราได้ยังไงเธอมาทำลายงานแต่งของเรา"
"ยายหนู อย่าโทษนายคริตเขาเลย มันเหตุสุดวิสัยน่ะลูก"
นงไฉนร้องไห้ ชาคริตลงนั่งตรงหน้านงไฉน
"ผมขอโทษคุณนง ตอนนี้สลิลไม่อยู่แล้ว เธอออกไปจากโรงแรมของเราแล้ว ไม่ต้องกลัวนะครับ ทุกคนครับ ผมขออยู่กับคุณนงลำพังสักครู่"
ทุกคนพยักหน้ากันแล้วออกจากห้อง ชาคริตดึงนงไฉนมากอดไว้
" ไม่ร้องนะ เจ้าสาวของผม สลิลน่ะแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้นเอง วันนี้วันมงคลของเรานะครับ คิดแต่เรื่องดีๆ พรุ่งนี้เราไปฮันนีมูนกันแล้วนะ"
นงไฉนสงบลง มือถือชาคริตดังขึ้น เขามองเบอร์และบอกให้นงไฉนพักก่อน ชาคริตประคองนงไฉนเอนกับโซฟา แล้วออกจากห้องไป นงไฉนมองตาม
ที่ห้องทำงานชาคริต นงไฉนถามขึ้นว่า
"ใครโทรมาหาคุณ"
"นังนรีไง มันยังตื๊อผมไม่เลิก ผมก็เลยต้องลงไปจัดการมัน แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ ทำไมคุณเห็นภาพในมือถือของนังนรีนั่นด้วย"
"เรื่องนี้มีคำอธิบายค่ะ"
จอมบอกตำรวจ "เชิญคุณสลิลเข้ามาเลยครับ"
นายตำรวจเข็นรถเข็นพาสลิลที่หน้าตายังซีดเซียวเข้ามา ชาคริตกับพิมพาหันมามองด้วยอาการเจื่อนไป
"คุณสลิลจะอธิบายเรื่องนี้ให้คุณฟังเอง"
"ไงคะ แม่ลูกจอมโฉด เสียใจด้วยนะที่ฉันไม่ตายสมใจพวกคุณ เอาละ เรื่องมาถึงตอนไหนแล้วคะคุณจอม"
"ตอนที่คุณเห็นคุณคริตมาเจอนรี"
สลิลมองแม่ลูกแล้วยิ้มอย่างสะใจ
วันนั้นชาคริตเดินมาตามทางเดิน พบนรีรออยู่มุมเปลี่ยว
"โทรหาฉันทำไมอีก" ชาคริตถามนรี
"เราต้องพูดกัน"
"แล้วเมื่อกี้จะให้ดูภาพอะไร เธอพูดถึงอะไร คิดจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ"
"ไปคุยกันส่วนตัวเถอะค่ะ"
ชาคริตมองนรีอย่างระอาใจเต็มที ดึงนรีไปตามทางเดินอย่างเร็ว สลิลกลับเข้ามาในสวนอีก แล้วเห็นคนทั้งคู่ สลิลรีบเข้ามาในตัวอาคารตามไป
สลิลเดินมาตามทางเดิน เห็นนรีและชาคริตกำลังคุยกันอยู่ ชาคริตยื้อยุดกับนรี นรีเข้าทุบตีชาคริต ชาคริตผละออก นรีร้องไห้ สลิลแอบมอง
"ฉันแค่เห็นนายกับนรีกำลังทะเลาะกัน แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเรื่องอะไร" สลิลบอกทุกคน
จอมบอกชาคริตว่า "งั้นช่วยเล่าหน่อยเถอะครับ คุณทะเลาะอะไรกับนรี"
ชาคริตและนรียืนอยู่กลางห้อง ชาคริตถามนรีว่าจะเอายังไง
"ฉันมาลาน่ะค่ะ" นรีบอก
"เสียเวลา นี่งานแต่งของผมนะ"
นรีส่งมือถือให้ชาคริตดู ชาคริตเห็นภาพั้งหมด
"เธอทำอะไรเนี่ย ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ่ายไปทำไม"
"ฉันอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกน่ะค่ะ ว่าวันหนึ่งเราเคยรักกัน"
ชาคริตจะลบภาพในมือถือ นรีเข้าแย่ง "นี่คุณจะทำอะไร"
"ก็ลบออกน่ะสิ"
"ไม่ได้นะคะคุณคริต ปล่อยนะ"
"จะเก็บไว้ทำไม"
"ไว้เป็นที่ระลึกน่ะสิ ไม่ได้นะ ปล่อย"
ชาคริตผลักนรีล้มลงไปที่โซฟา นรียังกำมือถือไว้แน่น
"อย่าให้ใครเห็นนะ ไม่งั้นเกิดเรื่องแน่" ชาคริตออกไป นรีร้องไห้
สลิลมองผ่านประตู เห็นนรีกำลังร้องไห้อยู่ในห้อง วางมือถือไว้ที่โต๊ะ แล้วเข้าห้องน้ำ สลิลเข้ามาดูมือถือ ยิ้มย่ามใจ
"ฉันขโมยมือถือไปจากนรี แล้วฉันก็เข้าไปในห้องนงไฉน" สลิลเล่า
นงไฉนนั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเพียงลำพัง ประตูห้องเปิดเข้ามาช้าๆ สลิลเข้ามา
"ว่าไงเจ้าสาวมือสอง"
"คุณสลิล ออกไปนะ เข้ามาทำไม"
"มีเรื่องที่ต้องคุยกับเธอส่วนตัวน่ะ"
"ถ้าจะรังควาญฉันอีก ฉันเรียกรปภ."
"เปล่า ฉันมาเพราะหวังดี อยากให้เธอรู้แจ้งเห็นจริงพฤติกรรมผัวเธอ ฉันเพิ่งได้คลิปเด็ดมาสดๆ ร้อนๆ"
สลิลเดินตรงเข้ามาหานงไฉน แล้วโชว์มือถือนรีให้นงไฉนดู
"ดูสิ ดูให้เต็มตา"
นงไฉนรับมือถือมาดู เธอดุแล้วมือสั่นตัวสั่น น้ำตานองหน้า
"มันเป็นเรื่องจริง"
สลิลหัวเราะ "ไงล่ะ เห็นบทบาทผัวของเธอแล้วรึยัง"
"มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด" สลิลเข้ามากระชากเสื้อนงไฉน
สลิล บอกอีกว่า "ใช่ มันเรื่องจริง ไอ้คริตมันกำลังหลอกเธอ เหมือนที่มันหลอกฉัน แต่เธอตกที่นั่งลำบากกว่า เพราะเธอมันเป็นประสาท มันเล่นงานเธอแน่ถ้ายังกระสันจะแต่งกับมัน"
สลิลผลักนงไฉนเซไป นงไฉนเริ่มควบคุมตัวเอง สลิลมองอย่างตะลึงไปนิดหนึ่ง
"ขอให้มีความสุขนะจ๊ะ เจ้าสองมือสอง"
สลิลสะบัดออกไป นงไฉนมองภาพในมือถืออีกครั้ง เดินออกมาจากห้องนอน กรี๊ดลั่น ป้าถมยากับสาวใช้วิ่งเข้ามา
"ว้ายคุณนง คุณนงเป็นอะไรคะ จับคุณนงไว้ก่อนเร็ว"
"ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน"
"คุณหนูขา วันนี้แต่งงานนะคะ อย่าให้มีเรื่องเลย"
มือ ถือกระเด็นหลุดจากมือ กระเด็นตกไปที่พื้นพรม เห็นชัดว่าเครื่องดับไปทันที กระโปรงยาวของนงไฉน ปัดมือถือกระเด็นหวือ เข้าไปใต้ตู้ โดยไม่มีใครสังเกต
"ไม่ได้ยังไงวันนี้ก็ต้องมีเรื่อง ปล่อยฉันนะป้า"
พิมพาวิ่งเข้ามา "ว้าย อะไรกันเนี่ย"
"ช่วยหน่อยเถอะค่ะคุณ คุณนงอาละวาดอีกแล้ว"
"ให้ยาเลยป้า หนูนง ตั้งสติหน่อยนะจ๊ะ วันนี้วันแต่งงานของหนู"
"ปล่อยค่ะคุณแม่ ปล่อยหนู"
ถมยาให้ยาพิมพา นงไฉนถูกจับนั่งเก้าอี้ พิมพาป้อนยาให้
"ไม่ หนูไม่ทาน อย่าบังคับหนู"
"ทานเถอะนะคะ เชื่อแม่ เดี๋ยวหนูก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง"
นงไฉนทานยาตามด้วยน้ำ แล้วร้องไห้สะอื้น พิมพากอดนงไฉนไว้
"มันไม่จริงใช่ไหมคะคุณแม่ มันไม่จริงใช่ไหม"
พิมพามองป้าถมยาที่ส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง "จ๊ะ จ๊ะ มันไม่จริงจ๊ะ"
ชาคริตกลับเข้ามา "อะไรกันครับคุณแม่"
พิมพาทำมือห้ามชาคริตพูด กอดนงไฉนไว้ ที่ทำท่าสงบลง
นง ไฉนนอนอยู่บนเตียงลำพัง ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอนึกถึงภาพในมือถือ แล้วลุกขึ้นนั่งกุมหัวตัวเอง มองไปที่ประตู ร่างของสลิลยืนยิ้มอยู่หัวเราะ
นงไฉนเหงื่อซึมเต็มหน้า เดินเซออกมาที่ประตู เสียงคุยกันแว่วมา เป็นพิมพากับชาคริตกำลังคุยกันอยู่
"บอกว่ามันไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม แม่ไม่รู้ว่ายายนงพูดอะไร"
ชาคริตไม่กล้าบอกเรื่องมือถือนรีที่เอามาให้ดูเมื่อกี้ "คงไม่มีอะไรหรอกครับ"
"ทำไมมันต้องมาเกิดเหตุวันนี้ด้วย อ้อ คริต ไม่ใช่แค่ยายสลิล ลูกต้องไล่นังนรีนั่นออกไปจากงานด้วย มันยังเสนอหน้าอยู่ในงานอยู่เลย"
"ครับแม่"
ชาคริตออกไป พิมพามองมาทางห้องนอน นงไฉนรีบหลบ นงไฉนมองอีกที พิมพาออกจากห้องไปเสียแล้ว นงไฉนเปิดประตูมองออกมา กุมหัว
"นรี" นงไฉนเซไปที่โต๊ะหัวเตียง แล้วหยิบปืนออกมา ตรงไปประตูทางออกห้องน้ำ
นงไฉนถือปืนด้วยอาการเมายา เหงื่อเต็มหน้า เห็นแขกในงานเดินผ่านมา นงไฉนรีบซ่อนปืนไว้หลังกระโปรง
นงไฉนเดินเลี้ยวมา เห็นร่างนรียืนอยู่ลำพังที่สุดโถง กำลังเช็ดน้ำตา นงไฉนตาลุกวาวตรงไปหาทันที
"นังสารเลว" นรีหันขวับมา นงไฉนตบหน้านรีฉาดใหญ่ นรีกรี๊ดเซไป
"แกเล่นชู้กับผัวฉัน นังหน้าด้าน ภาพในมือถือนั่นน่ะ ฉันเห็นหมดแล้ว"
" เห็นก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่าคุณคริตเขาไม่ได้รักหล่อน เขารักฉันต่างหาก เขาสัญญากับฉันแล้วว่า เราจะไปอยู่ด้วยกัน เขาจะหย่าจากหล่อนเพราะหล่อนน่ะมันบ้า"
"แก แกว่าฉันบ้าเหรอ"
"ผัวที่ไหนจะไปทนอยู่กับเมียโรคจิตอย่างแกได้"
"กรี๊ดดด" นงไฉนเข้าตบตีนรี
นรีพยายามสู้สุดฤทธ์ ตบนงไฉนล้มฟาดไป แล้ววิ่งหนีกระเจิง
นงไฉนวิ่งตามนรีมาที่ซุ้มต้นไม้ นงไฉนหยิบปืนออกมา แล้วไล่ตามไป ยิงนรีไปถูกรูปปั้นกระจุย
ชาคริต เดชชาติ ลาวัลย์ พิมพา ถวัลย์ อานนท์ ถมยา พร้อมด้วยแขกในงาน หันขวับมามองทางต้นเสียงพร้อมกัน
"เสียงปืนจากไหนเนี่ย" ชาคริต อานนท์ เดชชาติ ลาวัลย์วิ่งออกจากงานทันที
เทวัญและโก้ หันขวับมามองตามเสียงพร้อมกัน
นงไฉนถือปืนไล่ยิงนรีมาตามทางเดินยาว นรีร้องกรี๊ดๆๆๆ กระสุนเฉียดไปนิดเดียว นงไฉนยิงจนหมดแม็ค ขว้างปืนทิ้งไป
เทวัญ หันมามองตัวโรงแรมตามเสียงปืนลั่น เด็กชายโก้ทำรถร่วงจากมือ เทวัญมองไปยังหน้าตึกนรีวิ่งลงมาจากทางรถแล่นหน้าตึก ตามมาด้วยนงไฉน เทวัญวิ่งเข้าไปหานรี
"พี่เทพาลูกหนีเร็ว มันจะฆ่านรี"
เทวัญพานรีวิ่งมาที่รถ นงไฉนตามมา "แกจะหนีไปไหน"
"โก้ขึ้นรถเร็ว"
โก้ ยังยืนตะลึง เทวัญเปิดประตูรถให้นรีนั่งตอนหลัง แล้วจับโก้ที่ทำท่าจะร้องไห้เข้านั่งตอนท้ายตามไปด้วย นงไฉนวิ่งมาถึงรถ ทั้งนรีและโก้ร้องไห้เสียงลั่น
"คุณนงไฉน นี่มันเรื่องอะไรกัน" เทวัญถาม
"เอานังนั่นออกมา ฉันจะฆ่ามัน ลากมันออกมา ถ้าแกไม่อยากตาย"
"ใจเย็นๆ ครับ มีอะไรค่อยๆ พูดกัน เมียผมไปทำอะไรให้คุณ"
"มันเป็นชู้กับผัวฉันน่ะซี"
"คุณเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้เราเคลียร์กันแล้วนะครับ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นรีจะทำงานที่นี่"
"ไม่ต้องแก้แทนเมียคุณ ไม่รู้หรอกเหรอ มันสวมเขาให้คุณตั้งแต่มันมาทำงานกับคุณชาคริตแล้ว"
"พี่เท อย่าไปฟังนะคะ ยายคนนี้เป็นบ้า"
นงไฉนหันขวับมามองนรี "บ้าเหรอ ฉันไม่ได้บ้า แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ"
นงไฉนเข้ามากระชากประตู นรีและลูกร้องลั่น เทวัญบิดแขนของนงไฉน แล้วตบหน้าหนึ่งฉาดล้มไป
เทวัญ กระโดดขึ้นรถ ในจังหวะที่กลุ่มคนในงานคืออานนท์ เดชชาติ และกลุ่มรปภ วิ่งออกมาจากโรงแรมพอดี เทวัญบึ่งรถออกอย่างรวดเร็ว นงไฉนลุกขึ้นได้ วิ่งตามมาที่กระจกรถ แล้วทุบกระจกอย่างแรง รถเทวัญแล่นจากไปแล้ว ร่างนงไฉนล้มลงกับพื้น กลุ่มอานนท์และรปภ เข้ามาถึงตัวนงไฉน ชาคริตในชุดเจ้าบ่าวเข้ากอดนงไฉน
"คุณนง"
"ปล่อย อย่ามาแตะตัวฉัน ปล่อย กรี๊ดดด"
นงไฉนกรีดร้องบ้าคลั่ง ชาคริตพยายามยึดร่างนงไฉนไว้ อานนท์มองอาการพี่สาวด้วยอาการสลด
0000000000000000
ที่ห้องทำงานของชาคริต นงไฉนและจอมยังสงสัยอยู่ นงไฉนถามก่อนว่า
"ทำไมฉันถึงคลั่งขนาดนั้น ยาที่ป้าถมยาให้ เป็นยาระงับไม่ใช่เหรอ"
"ความผิดพลาดมันอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ นังป้าหน้าโง่มันหยิบยาผิด"
ที่มุมหนึ่งของงานแต่ง ถวัลย์ พิมพา และ ถมยา ยังคุยกันอยู่ ลาวัลย์หน้าตื่นเข้ามารายงาน
"ตายแล้วน่ากลัวค่ะ คุณนงเอาปืนไปไล่ยิงน้องนรีที่หน้าโรงแรมค่ะ"
"พาฉันไปเดี๋ยวนี้" ถวัลย์สั่ง
"ค่ะ ค่ะ" ลาวัลย์พาถวัลย์ออกจากงานไป
พิมพาหันมามองถมยา "ป้า ให้ยาอะไรหนูนงทาน"
"ก็ ยาที่คุณสั่งไงคะ"
"สีอะไร"
"สีเหลืองน่ะค่ะ"
"ป้า ที่ฉันให้ทานคือสีขาวล้วน" พิมพาดุ
ที่ห้องทำงานชาคริต นงไฉนน้ำตาซึม พิมพากล่าวต่อว่า
"นังป้ามันให้ยาเธอผิด ถึงได้เกิดเหตุให้เธอคลั่งแบบนั้น"
"แล้วเรื่องครอบครัวนายเทวัญ คุณรับผิดชอบอะไรบ้าง" นงไฉนถาม
จอมหันมามองนงไฉน ชาคริตตอบ "ทำไมต้องรับผิดชอบ มันเกิดขึ้นเพราะความบ้าของคุณ"
นงไฉนสวน "ฉันบ้าเพราะยาที่คุณให้ฉันกิน คุณทำให้ครอบครัวนั้นต้องตายกันหมด"
ชาคริตไม่สน "ไม่เกี่ยวกับผม"
"ต้องเกี่ยว คุณกับแม่ชั่วของคุณต้องรับผิดชอบ ฉันแน่ใจว่านายเทวัญยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะให้เขากลับมาฟ้องร้องคุณแน่"
จอมมองหน้าสองแม่ลูก "งานนี้คุณเป็นจำเลยหลายข้อหานะครับ โทษน่ะถ้าไม่ติดคุกตลอดชีวิตก็ต้องโทษประหาร"
ชาคริตสีหน้าสลด พิมพาโอบลูกชายไว้ "ไม่เป็นไรลูก อย่ากลัวมัน"
พิมพายิ้มเหี้ยมออกมา สลิล นงไฉนและจอม มองท่าทีเย็นเยียบของพิมพาด้วยอาการขนลุก
เวลาเดียวกันนี้แหวนและอานนท์มาที่สปาอารักษ์
"ผมส่งคุณแค่นี้นะครับ" อานนท์ว่า
"ทำไมละคะ อยู่ทานกลางวันกันก่อนดีกว่า วันนี้เรามีอาหารมังสวิรัติด้วย"
"ผมต้องกลับไปที่สิรินครับ ไปดูแลพี่นง อีกอย่างเอกสารจะส่งมาให้ผมตอนบ่ายนี้"
"ให้ทางพี่โชครับให้ก็ได้นี่ค่ะ แล้วพี่โชคจะเอาเอกสารมาส่งที่นี่เลย" อานนท์ลังเล
"อยู่ที่นี่เถอะนะคะ ฉันไม่อยากทานกลางวันคนเดียว" แหวนส่งสายตาหวานไปให้
อานนท์ใจอ่อน "ก็ได้ครับ งั้นเดี่ยวผมบอกเด็กที่ออฟฟิศให้"
"ค่ะ"
อานนท์หันไปโทรศัพท์ "น้องหมู เดี๋ยวรับเอกสารจากศาลายาให้พี่ด้วยนะ แล้วส่งให้คุณโชคครับ คุณโชคจากอารักษ์นั่นแหละ"
แหวนแอบยิ้ม อานนท์ชำเลืองมองแหวนแล้วแอบยิ้มหยันเช่นกัน
ที่ห้องทำงานชาคริต นงไฉนยังคุยต่อว่า
"แล้วงานแต่งงานครั้งที่สอง คุณวางยาฉันอีกรึเปล่า"
พิมพามองหน้า ชาคริตยิ้มหยัน ก่อนจะเล่าถึงงานแต่งงานครั้งที่สอง
ในห้องแต่งตัว นงไฉนโวยวายว่า
"ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องซ้ำซากแบบนี้ในวันแต่งงานอีก คุณสัญญาแล้วนี่ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณสัญญาแล้ว" นงไฉนมือสั่น
ถวัลย์เตือน "ยายนง สงบสติหน่อยลูก"
นงไฉนตวาด "หนูควบคุมไม่ได้ พ่อก็รู้ หนูควบคุมตัวเองไม่ได้"
"สงสัยต้องทานยาแล้วค่ะ ป้าจ๊ะ" พิมพาหันมาสั่งถมยา
"ยาอยู่นี่ค่ะ"
ถมยาเตรียมยามาให้ พร้อมแก้วน้ำ ชาคริตถอยไป นงไฉนปัดแก้วออกตัวสั่น
"ไม่ ไม่ทาน"
"ทานหน่อยเถอะค่ะ"
"ทานเข้าไปแล้ว ฉันก็มึนไปหมด ฉันกลับเข้างานไม่ได้ พูดจากับใครไม่รู้เรื่อง ไม่ทาน"
"ไม่ค่ะ ยาตัวใหม่ชนิดนี้ไม่มึนค่ะ คุณจะรู้สึกดีขึ้นนะ"
"ไม่" นงไฉนยังยืนยัน
พิมพากล่อม "ทานเถอะหนู"
พิมพาเข้ายึดมือของนงไฉน ป้าป้อนยาให้ นงไฉนดื่มน้ำตาม อาการสั่นทุเลาลง นงไฉนหลับตาสะอื้นเบาๆ
พิมพาบอกความจริงว่า "ยานั่นเป็นยาคลายเครียดจริงๆ ฉันไม่ได้วางยาอะไรเธอทั้งนั้น"
ชาคริตเล่าต่อ "คุณคลั่งเพราะความบ้าของคุณเองแท้ๆ"
" ความบ้าของฉันเองเหรอ ไม่ใช่ สาเหตุมันมาจากพวกคุณทั้งนั้น วันนั้นที่ฉันคลั่งเพราะรูปในมือถือของนรี ภาพของคุณที่กอดจูบกับนรี รวมทั้งสารพิษของยาที่ยังตกค้างอยู่ในตัวฉัน นั่นแหละที่ทำฉันคลั่งทำให้ฉันต้องหนีออกไปจากงาน"
ชาคริตไม่สน "แล้วไงล่ะ ฮ่ะฮ่ะ รู้ไหมตอนนั้นผมไม่แคร์สักนิด ว่าคุณจะหนีไปตายที่ไหน เพราะเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ยังไงคุณก็เป็นเมียผมอยู่ดี"
พิมพาเสริม "แล้วอย่ามาโทษฉันเรื่องยา โทษอาการบ้าของเธอดีกว่า เชื้อบ้าของเธอน่ะ มันยังไม่หาย มันสืบเชื้อมาจากแม่ของเธอ มันอยู่ในตัวเธอ ไม่มีวันที่จะรักษาหายหรอก นงไฉน"
"หยุด หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ หยุดลำเลิกแม่ฉันด้วย"
นงไฉนระเบิดออกมา จอมกอดนงไฉนที่ร้องไห้ตัวสั่นเทิ้มไว้
"พักกันแค่นี้ก่อนดีไหมครับ"
สารวัตรวิกรมพยักหน้า จอมรีบประคองนงไฉนออกจากห้อง สลิลมองหน้าสองแม่ลูกอย่างเอาเรื่อง
"ไม่ต้องยิ้มหรอกค่ะ เดี๋ยวเราต้องสาวใส้คุณต่อนะคะคุณพิม"
พิมพามองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
จอมประคองนงไฉนลงนั่งที่โถงกลาง นงไฉนยังร้องไห้เห็นคราบน้ำตา บรรดาตำรวจสองสามนายที่ยังเฝ้าอยู่ด้านนอก
"ใจเย็นๆ ครับคุณนง"
"สองแม่ลูกนั่น ไม่มีสำนึกเลยใช่ไหม"
"คงยากละครับ วางแผนชั่วร้ายได้ขนาดนี้ คงไม่เหลือสำนึกอะไรแล้ว" จอมว่า
พนักงานวางเครื่องดื่มให้ทั้งสอง
"คุณนงครับ ผมยังสงสัยอยู่ คุณเล่าว่าทิ้งมือถือของนรีไปแล้ว แต่ทำไมเมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเห็นรูปของนรีในมือถืออีกครั้ง"
"ฉันปามันทิ้งตั้งแต่วันแต่งงานวันแรก แล้วฉันก็ลืมไปหมดว่ามันตกอยู่ที่ไหน จนกระทั่งวันแต่งงานครั้งที่สอง"
นงไฉนยังระลึกอดีต "ฉันพยายามหามันแต่ไม่เจอ แต่แล้วอยู่ดีๆ เหมือนแกล้ง มือถือเครื่องนั้นก็ดังขึ้น"
จอม นึกถึงวันนั้นฝนเริ่มโปรยปราย เทวัญยังมองรูปนรีในมือถืออยู่ แล้วกดปุ่มเรียกเข้า แล้วเอาเครื่องแนบหู แปลกที่คราวนี้ สัญญาณติดต่อได้
เสียง มือถือดังขึ้นจากใต้ตู้ นงไฉนหันมามอง และเดินตรงมาที่ตู้เหมือนโดนมนต์สะกด แล้วทรุดลงกับพื้น ควานมือไปใต้ตู้ แล้วหยิบมือถือที่กำลังส่งสัญญาณติดต่อ นงไฉนกดรับทันที
เทวัญพูดสายด้วยอาการดีใจ น้ำตารื้น "ผมดีใจเหลือเกินที่ได้คุยกับคุณอีก ผมนึกว่าผมจะสูญเสียคุณไปตลอดกาลแล้ว"
"เดี๋ยวค่ะ คุณพูดกับใคร" นงไฉนงุนงง
เทวัญเริ่มไม่คุ้นกับเสียง "นรี นั่นไม่ใช่คุณหรอกหรือ"
นงไฉนตกใจ "นรี นาย นายใช่ไหมนายเทวัญ"
"ยายคุณนายเหรอ เธอรับสายได้ยังไง นี่เบอร์มือถือของเมียฉันเธอขโมยมือถือเมียฉันไปงั้นเหรอ"
"ฉันเปล่า มันตกอยู่ที่พื้น ใต้ตู้ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ฉันฝันไปเองอีกแล้วใช่ไหม นี่ไม่ใช่เรื่องจริง"
นงไฉนปามือถือลงกับพื้น เทวัญร้องบอก "อย่าตัดสายนะ อย่าตัดสาย ฮัลโหล ฮัลโหล"
จอมนั่งนิ่งรำลึกถึงอดีต ขณะที่นงไฉนเล่า จอมรำพึงคนเดียว
"เป็นอย่างนี้นี่เอง ทีแรกผมนึกว่าคุณขโมยมือถือนรีไป"
"คุณจอม คุณว่าอะไรนะคะ"
"เออ เปล่าครับ"
"คุณบอกว่าฉันขโมยมือถือนรี"
"อ๋อ ผมเดาตามสถานการณ์น่ะครับ"
จอมยิ้มเจื่อนเต็มที นงไฉนมองอย่างสงสัย

ไม่มีความคิดเห็น: