วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สายสืบดิลิเวอรี่ 6

มาลินี จัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน เพื่อฉลองข่าวที่ได้รางวัล
นั่นคือข่าวที่แม่หนูพุกกับแม่ของชลธีที่ตบกันจนปากเบี้ยว ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย
จะเห็นลูกนัทจับกลุ่มเม้าท์กับเพื่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง
ขณะที่ชลธีนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่อย่างเหงาๆ
คอยชะเง้อไปที่ประตูเหมือนรอการมาของใครบางคน มาลินีในชุดหรูเริ่ดสุด
เซ็กซี่เดินทักทายแขกเหรื่อมาอย่างครื้นเครง
มาลินีเห็นชลธีนั่งอยู่ก็รีบปรี่เข้าไปทัก แล้วถามชลธีว่ารอใคร ชลธีอึกอัก
อ้างว่าไม่ได้รอใคร เขามากับลูกนัท ชลธีตั้งท่าจะพูดแต่ก็ชะงักไป
เมื่อเห็นหนูพุกเดินควงแขนกับจันทร์เจ้าเข้ามาในงาน โดยมีชัชนินทร์เดินตามต้อยๆ
มาลินีรีบเดินไปทักเพื่อน ชลธีเดินมาสมทบ ทั้ง หมดทักทายกัน หนูพุกนึกขึ้นได้
รีบคว้าแขนชัชนินทร์มากอด พลางแนะนำกับชลธีว่านี่คือแฟนคนล่าสุดของเธอ
ที่เจอกันทางเน็ต ชลธีถึงกับอึ้งไป
จำได้ว่าชัชนินทร์คือคนที่แบกหนูพุกขึ้นบันไดที่คอนโด
พร้อมบอกว่ามีแผนจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้อีกต่างหาก หนูพุกยิ้มเชิดกะเย้ยชลธี
แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่องรอยความปวดร้าวในแววตาของเขา
มันทำเอาเธอใจแป้วไม่แพ้กัน จันทร์เจ้า หนูพุกและชัชนินทร์ยังเต้นรำกันอยู่สามคน
ระหว่างนั้นชัชนินทร์ก็แอบมองจันทร์เจ้าอย่างปลื้มๆ ตลอดเวลา
หนูพุกหมุนตัวไปตามเสต็ปการเต้น แต่พอหันกลับมา
ก็พบว่าเหลือตัวเองเต้นอยู่คนเดียวเด๋อๆ
ส่วนชัชนินทร์กับจันทร์เจ้าดันเต้นคู่กันอีกมุมหนึ่ง เป็นอย่างนี้อยู่หลายรอบ
จนหนูพุกเดินเข้าไปจิกชัชนินทร์ออกมาถาม "นี่ผู้กอง ผู้กองสวมบทเป็นแฟนพุกอยู่นะ
ไม่ใช่พี่จันทร์" ชัชนินทร์ยิ้มแหย "เออนั่นสินะ ลืมไป" หนูพุกจับผิด
"คิดอะไรกับพี่สาวพุกรึเปล่า" ชัชนินทร์ส่ายหน้า "ฮื๊อ ไม่เคย" จันทร์เจ้าตามมา
"เอ่อพุก พี่ว่าเราพักก่อนดีกว่า พี่เหนื่อยแล้วล่ะ" "ก็ได้ค่ะ"
หนูพุกหันไปหาชัชนินทร์ "งั้นนายไปเอาเครื่องดื่มให้ชั้นกับพี่จันทร์ด้วยนะ
คอแห้งพอดีเลย" ชนินทร์ จะไปอย่างว่าง่าย จันทร์เจ้ารีบคว้าแขนเอาไว้
บอกว่าไม่เป็นไร เธอไปเอาให้เอง ชัชนินทร์ฉวยโอกาสกุมมือจันทร์เจ้าหน้าตาเฉย
เล่นเอาหนูพุกมองตาค้าง ชัชนินทร์บอกว่าไม่เป็นไร เขาไปเอาให้เอง
หนูพุกเริ่มรำคาญบอกว่าเดี๋ยวเธอไปเอาให้เอง ถามทั้งคู่ว่าจะดื่มอะไร
ทั้งคู่ใจตรงกันบอกว่าน้ำเปล่า ก่อนจะสะดุ้งมองหน้ากันเขินๆ
หนูพุกเดินไปด้วยความงุนงง จันทร์เจ้ากับชัชนินทร์สบตากัน
จันทร์เจ้าเป็นฝ่ายละสายตาไปอย่างเขินๆ แต่ชัชนินทร์ยังลอบมองเธอ มาลินี
ประกาศบนเวที ว่าจะมีบัตรรับประทานอาหารแจกสำหรับคนที่ร้องคาราโอเกะชนะเลิศ 1
รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ชลธีรีบอาสาขึ้นไปร้อง หนูพุกยอมไม่ได้
ก็จะขึ้นไปร้องแข่ง เพื่อแย่งเอาบัตรรับประทานอาหาร หนูพุกกับชลธี อยู่บนเวที
ตอนนี้ยางอายละลายหายหมดแล้ว ทั้งคู่ร้องเต้นเชือดเฉือนลีลากัน ในเพลง คู่กัด
อย่างไม่อายดินฟ้า เพลงเข้าท่อนโซโล่จบลงพอดี
ชลธีอาศัยจังหวะนั้นโอบเอวหนูพุกเข้ามาแนบตัว
เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆกองเชียร์กันยกใหญ่ หนูพุกตาโต
ลูกนัทถลึงตามองหนูพุกกับชลธีอย่างหึงหวง จันทร์เจ้าทำท่าจะปลีกตัวไป
ถ่ายรูปทั้งคู่เอาไว้ ลูกนัทหันขวับไปอย่างขวางหูขวางตา
ถือโอกาสที่จันทร์เจ้ากำลังเดินผ่านมาใกล้ๆ แกล้งเบียดกระแทกเธอจนตกสระว่ายน้ำไป
ทุกคนในงานพากันตกใจ ชัชนินทร์รีบโดดลงสระว่ายน้ำไปช่วยจันทร์เจ้าขึ้นมา
หนูพุกกับชลธีรีบทิ้งไมโครโฟนลงมาดูเหตุการณ์ "ทำไมจู่ๆ
พี่จันทร์ถึงตกน้ำล่ะคะคุณชัช" หนูพุกถาม ชัชนินทร์ ไม่กล้าบอก
แต่สายตามองไปยังลูกนัทที่ยืนยิ้มสะใจอยู่กับเพื่อนๆ หนูพุกรีบปรี่เข้าไปหาทันที
ชลธีเห็นเข้าก็รีบขวาง แต่หนูพุกผลักชลธีออก บอกว่าไม่เกี่ยวกับชลธี
แต่ชลธีคว้าข้อมือเธอไว้หมับ "ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อฉันเป็นคนพาลูกนัทมางานนี้"
"อ๋อ ก็เลยจะปกป้องเด็กนายงั้นสิ ฉันไม่กลัวหรอก ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ"
หนูพุกจะสะบัดมือ "เลิกเจ้าอารมณ์ได้มั้ยหนูพุก หัดมีเหตุผลซะบ้างสิ
เธอกำลังฉีกหน้ามาลินี เพื่อนสนิทของเธออยู่นะ" ชลธีพยายามบอก
หนูพุกมองไปเห็นมาลินียืนตาละห้อยอยู่ แต่หนูพุกก็ไม่อาจยอมได้ "ฉันว่าตามเหตุผล
ไม่ได้ใช้อารมณ์ คนอย่างฉันถูกผิดต้องมาก่อน" ลูกนัทเหยียดปาก "บ้ากำลังสิไม่ว่า
ผู้หญิงอะไรเอะอะโผงผางเหมือนพ่อไม่มีผิด" หนูพุกถลกแขน "เธอว่าใครยายลูกนัท" หนู
พุกรี่เข้าใส่ ชลธีรีบฉุดไว้ หนูพุกพยายามผลักชลธีออกเพื่อเข้าไปเล่นงานลูกนัท
ชลธีพยายามยื้อยุดเอาไว
โดยการกระชากเธอเอาไว้แต่ดันกลายเป็นเหวี่ยงเธอตกลงไปในสระน้ำ ทุกคนพากันตกใจ
ชลธีหน้าเสีย เมื่อเห็นหนูพุกสำลักน้ำ งานเลี้ยงทั้งงานตกอยู่ในความเงียบ
ชลธีรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังฝืนทำใจแข็งบอกกับหนูพุก "เธอเที่ยวว่าคนอื่นเป็นมาเฟีย
บ้าอำนาจ แล้วตัวเธอล่ะ เอาแต่ใช้กำลังแบบนี้ มันต่างกับอันธพาลตรงไหน"
หนูพุกทั้งโกรธทั้งอายที่ถูกว่าต่อหน้าผู้คน จนร้องไห้ออกมา "นาย
นายมันน่าขยะแขยงที่สุด ได้ยินมั้ย ฉันเกลียดนาย" หนู
พุกขึ้นจากสระน้ำโดยมีชัชนินทร์ช่วยฉุด หนูพุกหนีไปจากงานทันที
จันทร์เจ้ากับชัชนินทร์รีบวิ่งตามหนูพุกไป มาลินียืนเก้ๆกังๆสักพักก็ตามออกไปอีกคน
ทิ้งให้ชลธียืนซึมโดยมีลูกนัทยืนยิ้มกระแซะอยู่ใกล้ๆ0000000000000000000000000000000
ลูก นัทถือบัตรรับประทานอาหารที่ชลธีชนะได้รางวัลมาให้ และบอกให้ไปทานด้วยกัน
ชลธีหงุดหงิด ฉีกทิ้งเป็นเสี่ยง แต่หาถังขยะไม่เจอ
เลยเก็บเศษกระดาษไว้ในกระเป๋าเสื้อ ลูกนัทกระทืบเท้าขัดใจ แต่ก็เดินตามไป ตลอด ทาง
ลูกนัทก็ยังด่าหนูพุกไม่เลิก ว่าเป็นพวกอันธพาล ชลธีทนฟังไม่ได้
เลยไล่ลูกนัทให้ลงจากรถ ลูกนัทตาโตตกใจ ที่ชลธีทำกับเธอแบบนี้ ชลธี กลับมาบ้าน
ระบายให้มาริโอ้ฟัง มาริโอ้เลยให้แง่คิดว่า หากทำอะไรตามใจตัวเองจะดีกว่า
มานั่งเสียใจในภายหลัง ชลธีเลยรีบวิ่งออกจากบ้านไปกลางดึก เพื่อไปหาหนูพุก
ชลธีไปที่ หน้าต่างห้องหนูพุก แล้วโยนหินไปที่หน้าต่าง
เพื่อเรียกหนูพุกให้เปิดออกมา หนูพุกเห็นชลธีมา ก็โมโห คิดว่าจะมาหาเรื่องกันอีก
เลยเปิดประตูเดินกระแทกส้นโครมๆมาหาชลธี "บุกมาถึงบ้านฉัน นายมีปัญหาหรือไง"
ชลธีพยักหน้า "เธอเจ็บตรงไหนรึเปล่า" ท่าทีเป็นห่วงของชลธีทำเอาหนูพุกอึ้งไป
แต่ยังทำเสียงเข้ม "ไม่" "ถ้าคืนนี้ฉันทำอะไรผิดไป ขอโทษด้วยนะ"
หนูพุกอึ้งไปไม่คิดว่าชลธีจะมามุขนี้
ชลธีล้วงบัตรทานอาหารที่ถูกฉีกเป็นสองส่วนออกมาอวดให้ดู
เห็นว่าแปะสก๊อตเทปเรียบร้อยแล้ว "แต่ว่าเกมส์นี้เราเสมอกัน
พรุ่งนี้เธอต้องไปทานข้าวกับฉัน" หนูพุกงง "อะไรนะ" "แปดโมงเช้า ฉันจะมารับ"
ชลธีว่าแล้วพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นรถไปหน้าตาเฉย หนูพุกได้สติก็รีบห้าม
แต่ชลธีไม่ฟัง บึ่งรถไปแล้ว ลูกนัทเดินหน้ากลุ้มมาตามถนนเปลี่ยวๆ มีรถประปราย
เห็นรถสองแถววินคันหนึ่งขับรถมาจอดถาม "เอ่อคุณลูกนัทรึเปล่าครับ
ค่ำมืดดึกดื่นมาเดินทำไมแถวนี้ล่ะครับคุณ ให้ผมไปส่งดีมั้ยครับ" ลูกนัทชักสีหน้า
"ไม่ต้องสะเออะ ฉันอยากเดินเล่น" วิ
นสองแถวหน้าเจื่อนรีบผงกศรีษะอย่างนอบน้อมก่อนจะออกรถไป
เห็นลูกนัทเดินต่อสักครู่ก็มีขี้เมาสองคนเดินหิ้วขวดเหล้าสวนมา
พวกมันพยักเพยิดให้กันเมื่อเห็นลูกนัท คนหนึ่งปราดมาขวางทางพูดจาพยายามลวนลาม
ขี้เมาทั้งสองพยายามจะลากลูกนัทลงไปที่แผงลอยว่างๆ ข้างทาง
และพยายามลงมือปลุกปล้ำลูกนัทแต่ระหว่างนั้นแสงไฟหน้ารถก็สาดส่องเข้ามา
เห็นรถของวรพงษ์ก็แล่นมาจอดเอี๊ยด ก่อนที่เจ้าตัวจะลงจากรถมาพร้อมไม้เบสบอลคู่ชีพ
วรพงษ์ฟาดผลั้วะไม่ยั้ง ขี้เมาชักมีดออกมาแต่ก็ถูกวรพงษ์ซัดหงายไปเช่นกัน
ขี้เมาอีกคนโดนเสยสลไปเช่นกัน ลูกนัทตะลึงงัน วรพงษ์ขับรถมาจอดที่หน้า บ้านลูกนัท
ลูกนัทขอบคุณที่วรพงษ์มาส่ง วรพงษ์ถามว่าทะเลาะกับชลธีมาเหรอ ลูกนัทเมินหน้า
ไม่อยากพูดถึง วรพงษ์แสร้งพูดลอยๆ "เฮ้อ เจ้านี่มันไก่ได้พลอยจริงจริ๊ง
มีของดีอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ไม่รู้จักรักษา ดันไปคว้านังลูกตำรวจมาทำกิ๊กซะได้
นี่ถ้าเป็นพี่นะพี่คงไม่ปล่อยให้ลูกนัทต้องเหงาแบบนี้หรอก"
"เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ ลูกนัทไม่อยากคิดถึงมัน
เอาเป็นว่าลูกนัทขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับทุกอย่าง"
"เปลี่ยนจากขอบคุณเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอจ๊ะ" ลูกนัทไม่ทันตั้งหลัก
วรพงษ์ก็ถือโอกาสหอมแก้มเข้าฟอดใหญ่ ลูกนัทตกใจ แทนคำตอบวรพงษ์จะหอมซ้ำอีกข้าง
ลูกนัทรีบผลักออก "อย่าทำแบบนี้อีกนะคะพี่พงษ์ ลูกนัทไม่ชอบ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" ลูก
นัทลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านไป ครู่หนึ่งก็อดเหลียวมาดูไม่ได้ วรพงษ์มองตามยิ้มๆ
ลูกนัททั้งโกรธทั้งรู้สึกปลื้มใจอย่างแปลกประหลาด เธอรีบเดินหนีเข้าไปในบ้าน
วรพงษ์มองตาม ยังไงลูกนัทก็หนีเขาไม่พ้นแน่ๆ ชลธี มารับหนูพุกแต่เช้า
แต่หนูพุกจะไม่ยอมไป ชลธีเลยกวนด้วยการบีบแตรดังลั่น จนหนูพุกต้องยอมขึ้นรถไปด้วย
เพราะกลัวพนมจะออกมาเห็นเข้า โดยอ้างกับพนมว่าชัชนินทร์มารับไปทานข้าว
พนมจะเดินตามออกมาดู หนูพุกก็ขึ้นรถไปแล้ว พนมงงๆ
เพราะเมื่อวานชัชนินทร์ไม่ได้ขับรถคันนี้
แต่จันทร์เจ้าที่ตามมาสมทบจำได้ว่าเป็นรถชลธี ชลธีพาหนูพุกมาทานอาหาร ที่โรงแรม
ถามว่าบัตรมันขาดแต่แปะสก็อตเทปมาแล้ว ใช้ได้ไหม พนักงานบอกว่าได้
แต่ไม่ใช่ตรงนี้ครับ เพราะเป็นบัตรสมนาคุณสำหรับลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นครับ
จะได้รับบริการอาหารเช้า ฟิตเนส สปา
และก็ใช้สนามกอล์ฟของโรงแรมฟรีเป็นมูลค่าห้าพันบาท ถ้าอยากใช้ต้องเปิดห้องของโรงแรม
ชลธีรีบเปิดห้องทันที ทำเอาหนูพุกงง หนู พุกทานอาหารจนอิ่มแปล้
ก่อนจะบ่นๆว่าชลธีท่าจะประสาท แค่อยากกินฟรีถึงกับลงทุนเปิดห้อง
แค่ค่าห้องก็ขาดทุนแล้ว ชลธีบอกว่าเขาแค่อยากทานข้าวกับหนูพุกตามลำพัง
เพราะอยากปรับความเข้าใจกัน หนูพุกเชิด "ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้เข้าใจอะไรผิดซะหน่อย"
"รวมทั้งเรื่องที่ฉันเป็นมาเฟียด้วยรึเปล่า" "นั่นมันชีวิตนาย
ครอบครัวนายไม่เห็นเกี่ยวกับฉันตรงไหน" " เวลาพูดถึงฉัน
เธอช่วยมองฉันให้เต็มตาบ้างไม่ได้เหรอหนูพุก แล้วถามตัวเอง ว่าฉันเลวตรงไหน
ตรงที่มีแม่เป็นมาเฟีย หรือที่ตัวของฉันจริงๆ" "มันสำคัญด้วยเหรอ
ว่าฉันจะมองนายยังไง" ชลธีสบตาหนูพุก
ราวกับจะบอกใบ้ถึงความสำคัญที่เธอมีต่อหัวใจของเขา หนูพุกหลบตา
"ถึงไงครอบครัวของเราก็ไม่มีวันญาติดีกัน นายกับฉันเราอยู่กันคนละฝ่าย
อย่าใกล้ชิดกันเกินไปดีกว่า" ชลธี เอนตัวพิงพนักอย่างอ่อนใจ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชลธีเห็นว่าเป็นของลูกนัทก็กดปุ่มวางสายแล้วปิดเครื่อง
หนูพุกเห็นเข้าก็หมั่นไส้ การปิดเครื่องของชลธี ทำให้เตวิชที่พยายามจะโทรบอกข่าว
เรื่องที่ลูกนัทมาฟ้องอรลออ และกำลังรวมหัวกันจะจัดการหนูพุก
ติดต่อกับชลธีไม่ได้เลย เตวิชได้แต่ภาวนาให้เรื่องผ่านพ้นด้วยดี

ไม่มีความคิดเห็น: