วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สายสืบดิลิเวอรี่ 9

รถชลธีแล่นมาจอดแถวสะพานปลา ชลธีมองเหลียวไปเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา
ก็หันมาดูอาการหนูพุก หนูพุกซึ่งถูกแม้ฟาดที่ข้อแขน แต่เธอกลับดึงมือเขาออก
ชลธียื้อไว้เลยกลายเป็นหนูพุกดึงตัวชลธีมาใกล้กันจนหน้าแทบชิด
"เรื่องเปิดร้านพิซซ่า ฉันว่านายเลิกฝันเถอะ" หนูพุกบอก "ไม่ ยังไงฉันก็จะทำให้ได้"
"แต่แม่นายคงไม่ปล่อยให้เรื่องจบแค่นี้หรอก ยิ่งรู้ว่าฉันมีเอี่ยว
รับรองนายไม่มีวันได้เปิดร้านแน่" ชลธี อึ้งไป
ก่อนจะดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาพันข้อมือให้หนูพุก"ฉันไม่ยอมแพ้หรอก
ขนาดบริษัทยามฉันยังเปิดได้ กะอีแค่ร้านพิซซ่าทำไมฉันจะเปิดไม่ได้" หนูพุกฉุน
"นายจะทำไปเพื่ออะไร มันก็แค่ร้านพิซซ่าธรรมดา" ชลธีสบตาหนูพุก "ฉันแค่อยากเป็นคนดี
อย่างน้อยก็ในสายตาของใครบางคน" หนูพุกอึ้งไป
มีความจริงบางข้อในสายตาชลธีที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว "เธอจะไม่ถามหน่อยเหรอ
ว่าคนๆนั้นเป็นใคร" ชลธีจ้องตาหนูพุก หนูพุกหลบตาส่ายหน้าอย่างหวั่นไหว ชลธียิ้ม
ก่อนจะบรรจงผูกผ้าเช็ดหน้าพันแผล มาริ
โอ้กับโรสและอรลออนั่งคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้น โรสหัวเสีย
ยืนกรานว่าจะไม่มีวันยอมให้ชลธีเปิดร้านอาหารแน่
แค่บริษัทยามอย่างเดียวก็อายจะแย่อยู่แล้ว อีกอย่างไม่อยากให้ร่วมหุ้นกับหนูพุก
เพราะเธอไม่ไว้ใจว่าชลธีอาจจะโดนปอกลอกก็ได้ "เรื่องไหนที่ยอมได้
พ่อก็ยอมให้ลูกทุกอย่าง แต่เรื่องนี้พ่อขอเถอะนะโรส
อย่าแตะต้องหนูพุกกับร้านพิซซ่าเด็ดขาด" โร สสบตากับมาริโอ้
แววตาของมาริโอ้กร้าวแกร่งยืนยันว่าเอาจริง โรสหงุดหงิด หัวเสีย
เมื่อเห็นมาริโอ้ออกไปแล้ว โรสก็ขอยืมมือถืออรลออ กดไปหาพนมทันที พอพนมรับโทรศัพท์
โรสก็พูดใส่เป็นชุด "ไอ้ดาบพนม ฉันรู้นะว่าแกวางแผนให้ลูกสาวมาปอกลอกลูกชายฉัน
แต่แกอย่าหวังเลย สักวันลูกสาวแกต้องเจอดีแน่" โรสพูดจบก็วางสาย
โดยที่พนมยังไม่ทันได้โต้ตอบ พนมอ้าปากค้าง งง "เฮ้ย อะไรกันวะ บ้ารึเปล่า"
"ใครโทรมาเหรอพี่พนม" "ไม่รู้ พอรับสายก็ด่าฉอดๆ
แถมยังขู่จะเล่นงานลูกสาวเราอีกต่างหาก" "ตายจริง โทรผิดรึเปล่า" นาถนภาคิด
"ไม่มั๊ง เห็นเรียกชื่อไอ้ดาบพนมชัดแจ๋ว แถมเสียงยังคุ้นๆซะด้วย เสียงเหมือน
นังโรส" พนมฉุกใจ นภาได้ยินชื่อโรสก็นึกหวั่น000000000000000000000000 ชลธี
มาส่งหนูพุกเสร็จ หนูพุกเดินเข้ามาในห้องรับแขกแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเจอพนม นาถนภา
จันทร์เจ้านั่งรออยู่ หนูพุกสงสัยว่าพนมรอเธอกินข้าวหรือเปล่า พนมบอกว่าไม่กินข้าว
แต่อย่ากกินพิซ่า หนูพุกอึ้งไป นาถนภาบอก "วันนี้นังโรสมันโทรมาขู่ พ่อ
เรื่องแกกับลูกชายของมัน ทำไมเราถึงทำแบบนี้หือพุก
รู้ทั้งรู้ว่าบ้านเขาเป็นพวกนอกกฎหมาย แล้วไปเข้าหุ้นกับเขาทำไม"
หนูพุกมองไปที่จันทร์เจ้าอึ้งๆ จันทร์เจ้าหน้าจ๋อยขอโทษที่เธอจำเป็นต้องบอก
หนูพุกเถียงพนม "พุกไม่ได้ทำอะไรผิดนะพ่อ พุกก็แค่ทำมาค้าขาย
ไม่ได้นอกลู่นอกทางซะหน่อย" " ยังจะมาเถียงอีก นังโรสมันเป็นพวกวายร้าย
ลูกชายมันก็เหมือนกัน แกไปค้าขายกับมัน
ประเดี๋ยวมันก็เอาเงินค้ายาค้าผงมาฟอกที่ร้านให้หรอก" พนมค้อนควั่ก
"คงไม่หรอกค่ะคุณอา ชลธีเป็นคนดีนะคะ" จันทร์เจ้าช่วยหนูพุก นาถนภาไม่เชื่อ
"จะรู้ได้ยังไงจันทร์เจ้า เรื่องแบบนี้ใครมันจะรับประกันได้" เสียงชลธีดังขึ้น "
ผมเองครับคุณอา" ทุก คนหันไปมองเห็นชลธีเดินเข้ามา หนูพุกตาโต
พนมโกรธที่ชลธีถือวิสาสะเข้ามา ชลธีบอกว่าเขาอยากจะอธิบาย
นาถนภาเลยบอกให้พนมให้โอกาสชลธีได้พูด พนมฮึดฮัดมองไปที่ชลธี
"ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำผิดกฎหมายเลยสักครั้งเดียว แต่เพราะผมเป็นลูกของมาเฟีย
ทุกคนถึงได้มองผมในแง่ลบมาตลอด" พนมยักไหล่ "แล้วไง จะร้องขอความเห็นใจสิท่า"
ชลธีพูดด้วยความจริงใจ "ผมอยากได้โอกาสมากกว่าครับ
ขอแค่โอกาสที่จะพิสูจน์ว่าตัวผมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆคิด" "
แล้วทำไมพวกเราต้องให้โอกาสคุณด้วยล่ะ นี่ยังไม่ทันไรแม่คุณก็เอาเรื่องหนูพุกซะแล้ว
ถ้าต่อไปหนูพุกมีอันตรายขึ้นมาคุณจะว่ายังไง" นาถนภายังไม่เชื่อ "ผมขอรับรองครับ
ว่าหนูพุกจะต้องปลอดภัย" ชลธีแข็งขัน "เอาอะไรมารับรองไม่ทราบ" พนมเสียงสูง
ชลธีมองมาที่หนูพุก "ผมขอสัญญา ผมจะปกป้องดูแลหนูพุกด้วยชีวิตของผม
ถ้าใครทำร้ายหนูพุก ก็เท่ากับคนๆนั้นทำร้ายผมด้วยเช่นกัน" ท่า
ทางจริงจังของชลธีทำให้ทุกคนลังเล
โดยเฉพาะจันทร์เจ้าที่เริ่มผิดสังเกตในอาการของชลธี
ขณะที่หนูพุกรู้สึกสะท้านใจอย่างไรชอบกล จันทร์เจ้าเริ่มเดาได้ลางๆ ก็ซึมไป
000000000000000000000 จันทร์เจ้ากำลังขายกาแฟ
ก่อนจะเหลือบเห็นชัชนินทร์แต่งหญิงมาก็ตกใจรีบตรงไปห้าม
เห็นชัชนินทร์ถือกระเช้าดอกไม้มาด้วย
ชัชนินทร์บอกว่าเขาตั้งใจมาอธิบายเรื่องให้ทุกคนได้รู้
จันทร์เจ้าบอกว่าเธอเข้าใจแล้ว ไม่ต้องอธิบาย จันทร์เจ้าหวั่นใจว่าพนมจะมาเห็นเข้า
เลยรีบบอกขอโทษชัชนินทร์ที่เธอตบหน้าเขาไปเมื่อวันก่อน
แล้วรีบให้ชัชนินทร์กลับไปก่อน แต่ไม่ทันเสียแล้ว พอพนมเจอชัชนินทร์
ก็ต่อยจนชัชนินทร์คว่ำ ชัชนินทร์ถูกจันทร์เจ้ากับนภาช่วยกันประคองพา
ไปนั่งลงที่โซฟา ชัชนินทร์ถูกต่อยจนแก้มช้ำ ชัชนินทร์ทำเป็นร้องไห้ ขอโทษพนม
บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้านหนูพุก เขาพยายามจะเปลี่ยนตัวเองแล้ว
แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จันทร์เจ้าจับมือชัชนินทร์อย่างเข้าใจ
ชัชนินทร์ได้โอกาสร้องไห้แล้วโผกอดจันทร์เจ้า "ขอบคุณครับคุณจันทร์ ที่เข้าใจชัช
ตั้งแต่เกิดมาชีวิตชัชไม่เคยมีใครให้ความรักความเข้าใจขนาดนี้มาก่อน
แม้แต่พ่อกับแม่ก็รังเกียจที่ชัชเป็นแบบนี้" ชัชนินทร์บีบน้ำตาใหญ่ นาถนภาสงสาร
"โถพ่อคุณ น่าสงสาร" พนมส่ายหน้า "ใช่ สงสารพ่อแม่มัน" นภามองพนมดุๆ ชัชนินทร์
ฟูมฟาย "ชัชไม่เหลือใครอีกแล้ว ไปไหนก็มีแต่คนยี้ใส่ตอนอยู่แอลเอ
พวกฝรั่งมันก็ล้อเลียนชัช เวลามันเจอชัชทีไร มันบอกว่าโย่ ลุคอัพแมน ไทยตุ๊ด"
นาถนภาบอกว่าให้อภัยชัชนินทร์แล้ว ชัชนินทร์ได้ทีรีบบอก "ขอบคุณ
คุณอามากครับที่เมตตาชัช เอ่อแต่ถ้าคุณอาสองคนไม่รังเกียจจริงๆล่ะก็ ชัชขอฝาก
เนื้อฝากตัวเป็นลูกเป็นหลานอีกสักคน จะได้มั้ยครับ" ชัชนินทร์เริ่มทำตามแผน
พนมกับนาถนภามองหน้ากันลังเล ชัชนินทร์จะบีบน้ำตาต่อ นาถนภารีบบอก "
ก็ดีเหมือนกันนะนี่พี่พนม มีลูกหลานเพิ่มอีกสักคน
ไหนเคยบอกว่าอยากได้ลูกชายไม่ใช่เหรอ" พนมอึ้งๆ "เออ ก็ดีเหมือนกัน
บ้านเราจะได้มีของแปลก เอ้ย จะได้ครึกครื้น" "ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่มากนะครับ
ที่กรุณาชัช" ชัชนินทร์กราบตักนาถนภา นาถนภากอดอย่างเอ็นดู พนมมองชัชนินทร์กลุ้มๆ
"อ้อ ไหนๆก็เป็นลูกหลานกันแล้ว
จะแต่งตัวยังไงก็ตามใจแต่ห้ามแต่งหญิงอย่างนี้อีกเข้าใจป่ะ ฉันรับไม่ได้"
ชัชนินทร์มองพนมตาปรอย00000000000000000000000000
อิสระกับจ่าสมหมายปลอมตัวเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง
สักพักหนูพุกพาชลธีมาแนะนำให้รู้จักกับอิสระและจ่าสมหมาย "ธีคะ นี่ลุงอิฐกับน้าหมาย
ช่างรับเหมาที่พุกเคยพูดถึง" ชลธีถาม ว่ามากันแค่สองคน ไม่ได้พาลูกน้องมาด้วยเหรอ
อิสระลืมตัว บอก "ครับ ถ้าเหตุการณ์ปกติ ผมจะไม่เรียกกำลังเสริม" ชลธีอึ้ง
"กำลังเสริม" สมหมายรีบแก้แทนให้ "เอ่อ พี่ชายผมเขาหมายถึงลูกน้องน่ะครับ
ถ้างานนิดๆหน่อยๆเราจะทำกันเองแค่สองคน" ชลธีถามหนูพุกว่าจะทันเหรอ
หนูพุกว่าทันอยู่แล้ว ชลธีพยักหน้าแม้จะลังเลหน่อยๆก็ตาม
มองทั้งอิสระและสมหมายอย่างผิดสังเกต นาถ นภาลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
แล้วหิ้วปิ่นโตถุงขนมพะรุงพะรังมาที่หน้าบ้านเพื่อเอาของกินมาให้หนูพุก
เป็นการมาสืบเรื่องแทนพนมด้วย เพราะไม่ไว้ใจให้อยู่กับชลธีตามลำพัง
แต่หนูพุกกับชลธีไปซื้อของใช้เข้าร้านด้วยกัน ยังไม่กลับ นาถนภาเดิน เข้ามา
เจอเข้ากับอิสระก็ตกใจ ท่ามกลางสายฝนตกกระหน่ำ
นาถนภายืนเปียกปอนอยู่ต่อหน้าผู้ชายที่เคยเป็นกิ๊กเก่าของเธอ
อดีตรักบนชายหาดได้หวนกลับมาอีกครั้ง
"คุณมาทำอะไรที่นี่แล้วทำไมถึงแต่งตัวมอมแมมแบบนี้ล่ะคะ" "เอ่อคือ.."
อิสระยังหาทางออกไม่เจอ นาถนภาทึกทัก "หรือว่าคุณมาสืบคดีอะไรอยู่"
"เอ่อไม่ใช่อย่างงั้นนะนภา คือว่าผม..." ปั้นเรื่อง ทำเป็นสลด
"ผมถูกให้ออกจากราชการ" "คุณพระช่วย " "คดีที่ผมทำไม่คืบหน้า
แถมยังถูกใส่ร้ายว่ามีพัวพันกับผู้ต้องหาทางผู้ใหญ่ก็เลยเล่นงาน" "ใจร้าย
แล้วนี่คุณถึงกับต้องมาทำงานก่อสร้างเชียวเหรอคะ" "โชคยังดีที่ได้หนูพุกช่วยเอาไว้
คุณอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะนภา ถ้าเกิดลูกค้ารายนี้รู้ว่าผมเป็นอดีตตำรวจ
คงไม่พอใจหนูพุกแน่ๆ" "เข้าใจแล้วค่ะสารวัตร"
"ไม่ใช่แล้วครับตอนนี้ผมเป็นอดีตสารวัตรไปแล้วครับ" นาถนภามองอิสระอย่างเวทนา
อิสระแอบโล่งอก จ่าสมหมายพลอยโล่งใจไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: