วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สายสืบดิลิเวอรี่ 8

ที่สุด สถานที่ที่จะใช้เปิดร้านพิซซ่า ก็ลงตัวว่าเป็นที่บ้านเก่าของจันทร์เจ้า
ชลธีให้มาริโอ้และเตวิชมาช่วยดูสถานที่ โดยจะให้เตวิชเป็นคนออกแบบร้าน
โดยมีหนูพุกและจันทร์เจ้าพาดูสถานที่บ้าน มาริโอ้กวาดตามองไปรอบๆอย่างพอใจ
เพราะเขาเคยมีความหลังกับบ้านหลังนี้มาก่อน เตวิชถ่ายรูปบ้านไป เรื่อยๆ
แล้วแอบแพนมาที่จันทร์เจ้าก่อนจะซูมภาพเข้าไปหวังจะถ่ายเก็บไว้
ด้วยเตวิชนั้นแอบหลงรักจันทร์เจ้ามานานแล้ว แต่แล้วหนูพุกก็เดินมาตบบ่าเสียก่อน
เตวิชตกใจนึกว่าถูกจับได้ "เว้ย เอ่อ ป เปล่าๆ นะครับ ผมแค่ถ่ายรูปบ้านเฉยๆ" "
ก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉันแค่จะบอกว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของพี่จันทร์เขา
จะออกแบบยังไงก็ดูๆ ด้วยล่ะห้ามรื้อถอนซี๊ซั๊ว เข้าใจ๋" หนูพุกเสียงเข้ม "ครับ เอ่อ
ว่าแต่พี่จันทร์เจ้าทำไมถึงไม่อยู่ที่นี่ล่ะครับบ้านก็ยังดีๆ อยู่เลย" เตวิชพาซื่อ
ทุกคนหน้าเสีย ชลธีแอบส่งซิกบอกเตวิชด้วยการเอานิ้วปาดคอ จันทร์เจ้าฝืนยิ้ม
"พ่อกับแม่พี่เสียไปนานแล้วจ้ะ พี่ก็เลยอยู่ที่บ้านหนูพุก"
มาริโอ้สังเกตท่าทีเศร้าๆ ของจันทร์เจ้าก็นึกเห็นใจ
จันทร์เจ้าเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง มาริโอ้ตามมาเงียบๆ
"ถ้าหนูไม่สบายใจเรื่องอดีตของฉัน จะยกเลิกสัญญาก็ได้นะ" " สำหรับจันทร์
ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วค่ะ ชีวิตคนเราถ้ามัวจมอยู่กับความหลัง
สภาพก็คงไม่ต่างกับบ้านหลังนี้ มีแต่ผุพังรกร้างไปวันๆ" "นั่นสินะ ฉันเห็นด้วย
ถ้าเรายอมเปิดโอกาสให้อนาคต ชีวิตก็ย่อมมีความหวัง
บางทีสิ่งดีๆอาจจะรอเราอยู่ก็ได้" จันทร์เจ้าสบตากับมาริโอ้ อย่างรู้สึกเป็นมิตร
พนมกำลังนั่งตัดผมอยู่ในร้านแถวตลาด
แต่แล้วก็เหลือบเห็นชัชนินทร์เดินแต๋วแตกผ่านหน้าร้านไปก็ตกใจ "เฮ้ยนั่น
นั่นมัน..." พนมรีบผลุนผลันไปดูทั้งที่หน้ายังมีครีมโกนหนวด ตัวยังห่มผ้าคลุมอยู่
ทำเอาช่างตัดผมงงเป็นไก่ตาแตก ชัชนินทร์มัวแต่เริงร่า ดีใจที่ตัวเองประสบความสำเร็จ
เดินไปไหนมีฝรั่งมองกันตรึม "แหล่มเว้ยแหล่ม ไอ้ชัช ได้แล้วทีนี้
เรตติ้งพุ่งกระจุยกระจาย น้องชัชนีกระเทยหน้าใหม่ขอแจ้งเกิด ยิปปี้" ชัชนินทร์
หมุนตัวแรดอย่างลิงโลด ที่การสร้างสถานการณ์ของเขาเป็นไปด้วยดี
โดยไม่ทันสังเกตพนมที่ยืนมองอยู่จากหน้าร้านตัดผม พนมตะลึงชะเง้อมองตามไป
ก่อนจะกุมศรีษะซวนเซเหมือนหน้ามืด พนมกลับไปบอกที่บ้านอย่างซึมๆว่า
เขาเห็นว่าแฟนของหนูพุกเป็นกะเทย ซึ่งขณะนั้นหนูพุกไม่ได้อยู่บ้าน
ทำเอานาถนภาและจันทร์เจ้าที่ได้ยินเรื่องราว ถึงกับตกใจ จันทร์เจ้าโทรนัดชัชนินทร์
ขอคุยเป็นการส่วนตัว ชัชนินทร์กลับสู่สภาพ เดิม กำลังยืนรออยู่
ก่อนจะหันจันทร์เจ้าเดินดุ่มๆมาหา จันทร์เจ้าตบหน้าชัชนินทร์ฉาดใหญ่
ทำเอาเจ้าตัวตกใจยิ่งเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าร้องไห้มาก่อน "ทำไมคะคุณชัช
จันทร์อุตส่าห์ไว้ใจคุณ ทุกคนในบ้านยอมยกหนูพุกให้คุณดูแล
ทำไมคุณถึงได้หักหลังพวกเราแบบนี้" ชัชนินทร์งง "นี่มันเรื่องอะไรกันครับเนี่ย"
"ยังต้องอธิบายอีกเหรอคะ ในเมื่อคุณก็รู้อยู่แก่ใจ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย
คุณหลอกพวกเราทุกคน ตอนนี้คุณอาไม่สบายมาก เพราะเสียใจที่รู้ว่าคุณเป็นแต๋ว
คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคะคุณชัช คุณหลอกหนูพุก หลอกพวกเราทำไม"
จันทร์เจ้าร้องไห้แล้วเดินหนีไป ชัชนินทร์พยายามคว้าตัวเธอไว้ "คุณจันทร์เจ้าครับ
ฟังผมก่อน" ชัชนินทร์เสียหลักสะดุดเชือกผูกเรือล้มไป เลยตามจันทร์เจ้าไม่ทัน
"คุณจันทร์เจ้า โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ" หนู พุกกลับมาถึงบ้าน
เห็นนาถนภากำลังถือถาดยาจะเอาขึ้นไปให้พนมบนบ้าน หนูพุกถามว่าพ่อเป็นอะไร
นาถนภาถามว่าหนูพุกรู้ไหมว่าชัชนินทร์เป็นกระเทย
หนูพุกที่รู้เรื่องแผนการนี้อยู่แล้ว ก็ทรุดตัวนั่งบอกว่าเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว
นาถนภาตาโต ถามว่ารู้ว่าแฟนเป็นกระเทยแล้วยังเอามาทำแฟนอีกเหรอ
หนูพุกอึกอักซักพักก็เริ่มแก้ตัว "โธ่แม่ มันก็แบบ แฟชั่นวัยรุ่นไง
เขากำลังฮิตนะแม่เขา เขาเรียกว่าพวกวายน่ะแม่
แบบว่าพุกเห็นคุณชัชเขาตุ้งติ้งน่ารักดี ก็เลยคบเป็นกิ๊กอ่ะ แม่เข้าใจป่ะ
คบกันกระหนุงกระหนิงเฉยๆ แต่ไม่มีอะไรกันหรอก" "แต่พ่อมีโว๊ย" พนมเสียงดัง
เดินโผเผลงมา นาถนภารีบเข้าประคอง " สิ่งที่พ่อมีก็คือความหวัง
ที่จะได้เห็นแกเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาซะที พ่อมีลูกแค่คนเดียว
คิดว่าต่อไปจะได้ฝากผีฝากไข้ แต่ที่ไหนได้เรียนก็ห่วย งานบ้านก็ไม่เอาถ่าน
สมัครงานก็ไม่เคยผ่านโปร เอาแต่ตะลอนๆ ก่อเรื่องไปทั่ว นี่คราวก่อน
เรื่องหนีตามผู้ชายก็งามหน้ามาทีนึงแล้ว คราวนี้แกยังกล้ามีแฟนเป็นกระเทยอีกเหรอ
นังพุก แกจะฉีกอกพ่อแม่ไปถึงไหน" หนูพุกหน้าเสีย "พ่อ พุก พุกขอโทษ"
"ไม่ต้องมาขอโทษ ออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยว ไสหัวไปจากบ้าน"
หนูพุกวิ่งหนีไปด้วยความเสียใจ นภาห้ามไม่ทัน000000000000000000000 มาลินี
รู้ว่าหนูพุกถูกไล่ออกจากบ้าน แถมชัชนินทร์ก็ยังเป็นกระเทยอีก เลยจะทำข่าวต่อ
ด้วยการไปสัมภาษณ์ความรู้สึกของชลธีที่บ้าน ชลธีพอรู้เข้า ก็ไม่สนใจให้สัมภาษณ์
รีบออกตามหาหนูพุกทันที และก็มาเจอหนูพุกอยู่ที่วอล์กสตรีท พัทยา
หนูพุกกำลังเดินเศร้าอยู่ที่ด้านหนึ่ง หนูพุกตะลึงที่เห็นชลธี
ชลธีถอดเสื้อตัวนอกออกคลุมร่างหนูพุกเอาไว้ ป้องกันอากาศที่หนาวเย็น
พลางปัดบ่าตัวเอง "บ่าฉันว่างนะ" หนูพุกกอดชลธีแล้วซบหน้าร้องไห้กับบ่าของเขา
ชลธีรู้สึกโล่งอกที่หนูพุกปลอดภัย ชลธีพาหนูพุกมานอนที่บริษัทยาม
จัดแจงเรื่องที่หลับที่นอนให้หนูพุกเสร็จสรรพ ก็บอกว่าตัวเขาจะออกไปนอนข้างนอก
หนูพุกเรียกไว้ "นี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย ที่นายทำทั้งหมดเนี่ย เพื่อพี่จันทร์เจ้า
หรือเพราะอยากเอาชนะฉันกันแน่" "เธอไม่รู้จริงๆเหรอ" หนูพุกส่ายหน้าแบ๊วๆ
ชลธียิ้มจางๆ "ถ้างั้นสักวันก็รู้เอง" ชลธีลูบหัวหนูพุกอย่างเอ็นดูแล้วปลีกตัวไป
ทิ้งให้หนูพุกคลำหัวมองตามด้วยความสงสัย นาถ นภานอนไม่หลับกระสับกระส่าย
พนมที่นอนไม่หลับเช่นกันจึงได้เอ่ยถามว่านอนไม่หลับเหรอ
นาถนภาบ่นว่าพนมไม่น่าไล่หนูพุกไปอย่างนั้นเลย พนมรู้สึกผิด
บอกว่าเขาเองก็หลุดปากไปแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง พนมลุกขึ้นไปแต่งตัว จะออกตามหาหนูพุก
แต่สักพัก จันทร์เจ้าก็เข้ามาก่อน บอกว่าหนูพุกส่งเมสเซสมา
บอกว่าตอนนี้ค้างอยู่ที่บ้านเพื่อน พรุ่งนี้จะรีบกลับแต่เช้า ถ้าพนมยอมหายโกรธ
นภามองพนมอย่างวิงวอน พนมรีบบอกว่าให้หนูพุกกลับมาบ้านได้เลย ทางบ้าน
ยินดีให้อภัยทุกอย่าง จะมีผัวเป็นตุ๊ดเป็นทอมเป็นกระปอมพ่อแม่ยอมรับได้
จันทร์เจ้ายิ้ม รีบส่งข้อความบอกน้อง
หนูพุกยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้รับข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ "พ่อกับแม่
น่ารักที่สุดเลย จะมีใครรักเรามากกว่า พ่อกับแม่อีกนะเนี่ย"
หนูพุกนึกปลื้มก่อนจะนึกถึงใครบางคนที่อยู่นอกห้องขึ้นมาได้ เต
วิชรีบทำโครงการร้านพิซซ่าจนเสร็จด้วยความภาคภูมิใจ
พร้อมที่จะส่งงานที่เครื่องแฟ็กซ์ พอส่งเสร็จ เตวิชก็เดินขึ้นบ้านไป
ลืมเอกสารไว้ตรงเครื่องแฟ็กซ์ โรสเข้ามาเห็น ดูรูปถ่ายอย่างคุ้นตา "บ้านใคร
ร้านพิซซ่าเหรอ" โรสพลิกดูต่อไปพอเห็นป้ายร้านและโครงการร้านพิซซ่าก็ตาววาว เต
วิชกำลังนอนหลับสบายแต่แล้วก็ถูกโรสกระชากคอขึ้นมา
เอาเอกสารชูให้ดูแล้วคาดคั้นให้เตวิชบอกว่าคือร้านอะไร เตวิชตกใจน้ำตาเล็ด
เสียงสะท้าน บอกว่าเป็นร้านพิซซ่า โรสถามว่าแล้วหนูพุกรู้เรื่องด้วยใช่ไหม
เตวิชพยักหน้ากลัวๆ โรสเลือดเดือดขยำเอกสารในมือจนยับ เช้าวันต่อมา
เลขาของชลธีกำลังเก็บที่นอนพับผ้าห่มของชลธีที่ทิ้งไว้ตรงโซฟา ก่อนจะเห็นโรสโผล่มา
ถามหาชลธี เลขาชลธีบอกว่าออกไปแต่เช้าแล้ว กับเพื่อนชื่อหนูพุก
โรสมองไปที่เครื่องนอนผ้าห่ม เดือดเมื่อเดาได้ว่าทั้งคู่ค้างด้วยกันที่นี่
รถชลธีมาจอดที่บ้าน จันทร์เจ้า แล้วชลธีกับหนูพุกกำลังเดินไปที่บ้านด้วยกัน
ชลธียิ้มบอกว่าที่สุดกิจการของเราก็ใกล้เป็นจริงแล้ว หนูพุกเบ้ปาก
"พูดซะเลี่ยนเชียว ของเรา" "ก็นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่เราได้ร่วมมือกัน
เธอไม่ตื่นเต้นเหรอ" แวว ตาชลธีดูมีประกาย จนหนูพุกที่สบตาเขาอดไม่ได้ที่จะอินตาม
ท่ามกลางหาดทรายสายลมและสองเรานั้น หนูพุกไม่ทันขยับปากจะตอบคำถาม
แต่แล้วก็นิ่งมองไปที่ถนน ชลธีมองตามไป
ท่ามกลางความเงียบมีเสียงรถคันหนึ่งกระหึ่มมาแต่ไกล และจอดสนิทอยู่ที่ไหล่ทาง
คนที่เปิดประตูก้าวลงมาอย่างเดือดดาลคือโรสนั่นเอง "วันนี้ล่ะ แกเสร็จฉันแน่"
โรสคำราม หนู พุกไม่ทันได้ว่าอะไรก็มีเสียงรถตามมาอีก
ปรากฏว่าอรละออมากับรถตู้ที่บรรจุสมุนมาเฟียเต็มคันรถ
ทั้งหมดกรูกันลงมาพร้อมอาวุธครบมือ ชลธีดึงหนูพุกมาหลบข้างหลังเขา
แต่หนูพุกสะบัดออก ชลธีตะลึงอึ้งกิมกี่
บัดนี้เขาตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิของผู้หญิงสามคนด้วยกันคือโรส อรละออ และหนูพุก
โรสกับอรละออเดินนำสมุนมาประจัญหน้าหนูพุกกับชลธี "คุณแม่ ผมขอเถอะครับ
แค่เรื่องเล็กอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ดีกว่า" โรสหันขวับ "สำหรับแม่
ศักดิ์ศรีเป็นเรื่องใหญ่เสมอ แม่ไม่ยอมให้นังเด็กบ้าคนนี้ มาปอกลอกแกเด็ดขาด"
"อ้าวพูดดีๆนะคุณนาย คนจนก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน
บ้านหลังนี้ฉันให้ลูกคุณนายเช่าค้าขาย ปอกลอกตรงไหนไม่ทราบ" อร
ลออสั่งให้สมุนจัดการหนูพุก สมุนของโรสกระจายกำลังโอบล้อมหนูพุกเอาไว้
หนูพุกรีบตั้งการ์ตป้องกันตัว ชลธีร้องห้าม แต่โรสและอรลออไม่ฟัง
สมุนทั้งหมดกรูกันเข้าเล่นงานหนูพุกทันที สมุนของโรสถูกเตะกระเด็นกระดอน
โดยหนูพุกที่ต่อสู้อย่างดุเดือด แต่เธอไม่ทันระวังสมุนอีกคนที่ถือไม้พุ่งมาข้างหลัง
หนูพุกหันไปยกแขนรับไม้แต่ถูกฟาดจนเจ็บ และถูกถีบซ้ำที่ท้องจนกระเด็น
ชลธีทนดูไม่ได้ขยับจะเข้าไปช่วยหนูพุก โรสสั่งสมุนจับชลธีไว้ หนูพุกกำลังจะเสียท่า
สมุนช่วยกันดึงมือของหนูพุกข้างหนึ่งให้แผ่มาตรงหน้า
โรสคว้าไม้ที่หล่นอยู่ขึ้นมาแล้วเดินตรงไปหาหนูพุก
"นี่สำหรับที่แม่แกตบชั้นคราวก่อน นังพุก" โรสเงื้อไม้ขึ้นจะฟาดใส่มือหนูพุก
เสียงมาริโอ้ดังขึ้น "โรส หยุดได้แล้ว" โรสชะงักมองไปเห็นมาริโอ้เดินมา "คุณพ่อ
เรื่องนี้คุณพ่อไม่เกี่ยวนะคะ" โรสหงุดหงิด "ทำไมจะไม่เกี่ยว
ในเมื่อหนูพุกเป็นหุ้นส่วนของฉัน ห้ามใครทำร้ายหนูพุกเด็ดขาด เจ้าธี
พาหุ้นส่วนของฉันไปส่งที่บ้าน" ชลธีสะบัดตัวออกจากพวกสมุนแล้วตรงไปรับตัวหนูพุก
โรสจะไม่ยอมสั่งสมุนอีก แต่มาริโอ้ชี้หน้าขวาง "ถ้าใครกล้าแตะหนูพุกแม้แต่เส้นผม
มันคนนั้นถือว่าเป็นศัตรูกับฉัน" สมุนชะงักมองหน้ากันลังเลไม่รู้จะเชื่อใครดี
ชลธีรีบประคองหนูพุกไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป โรสมองตามด้วยความแค้น มาริโอ้มองหน้าโรส
"ดูเหมือนว่าเรามีเรื่องต้องเคลียร์กันใช่มั้ย ลูกพ่อ"
โรสมองมาที่มาริโอ้อย่างเจ็บแค้น

ไม่มีความคิดเห็น: