วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เมียหลวง 1

"การแต่งงาน คือตอนจบในเทพนิยายแต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตจริง"
เสียง ดร.วิกันดาบอกกับตัวเอง ห้าปีแล้วที่เธอกับดร.อนิรุทธิ์ตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน และมีพยานรักสองคือโหน่งกับนุ่น วิกันดายังจำจดบรรยากาศในงานวิวาห์เมื่อห้าปีก่อนได้ดี แขกที่มาในงานต่างพากันชื่นชมว่า เธอกับอนิรุทธิ์เป็นคู่ที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกและคู่ควรกันทุกประการ และที่สำคัญอนิรุทธิ์รักและให้เกียรติเธอมาก ทำให้เธอปลาบปลื้มเป็นที่สุดที่ได้เป็นเจ้าสาวของเขา แต่เมื่อมาถึงวันนี้ วิกันดาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ารู้จักดร.อนิรุทธิ์ดีพอ
ฉวีเพ็ญกับอนงค์ นารถเพื่อนรักของวิกันดามาหาวิกันดาที่บ้าน พร้อมกับฟ้องว่า อนงค์นารถเห็นอนิรุทธิ์พาผู้หญิงไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง เพราะบังเอิญว่าไปงานเลี้ยงรุ่นที่ร้านนั้นพอดี และดูท่าอนิรุทธิ์จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าหล่อนเสียด้วย
"อย่าเพิ่งเชื่อคุณนายอนงค์นะยายวิ เขาอาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงานก็ได้" ฉวีเพ็ญออกความเห็น
"โอ๊ย เพื่อนบ้าเพื่อนบอที่ไหนกัน อายุไม่เกิน 22 23 มั้ง นุ่งกางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋ลงรูปแบบนี้ร้อยทั้งร้อยเป็นกิ๊ก" อนงค์นารถยืนยัน

วิ กันดากำมือแน่นนั่งตัวแข็งพูดไม่ออก เพราะเมื่อคืนนี้อนิรุธ์กลับดึกและบอกเธอว่า ไปทานข้าวกับสิทธิชัย อนงค์นารถเห็นวิกันดานั่งนิ่งก็รีบออกตัว
"ถ้าฉันทำให้เธอไม่สบายใจก็ขอ โทษด้วยนะวิ ฉันไม่ได้มีเจตนาให้ผัวเมียทะเลาะกัน เพียงแต่ไม่อยากให้เธอถูกหลอกเท่านั้น อุตส่าห์เรียนถึงด็อกเตอร์แล้วถูกผัวหลอก มันน่าเจ็บใจพิลึก"
วิกันดา ตัดสินใจถามอนิรุทธิ์เรื่องที่อนงค์นารถมาบอกในค่ำวันต่อมา อนิรุทธิ์ยอมรับพร้อมอ้างว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย จะต้องไปสนใจทำไม และเขาก็ไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงพวกนั้น
"ไม่จริงจัง แต่คุณนอนกับมัน" วิกันดาสวน
"ผมเป็นผู้ชาย ผมนอนกับทุกคนที่ผมพอใจได้ มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย"
"เห็นแก่ตัว คุณเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ"
"คุณจะบังคับให้ผมอยู่กับคุณทุกวันทุกคืนไม่ได้หรอก มันผิดธรรมชาติ" อนิรุทธิ์เสียงขรึม
"สันดานต่างหาก สันดานเห็นแก่ตัวของคุณ" วิกันดาโกรธจัดเดินออกไป อนิรุทธิ์มองตามหงุดหงิด
วิ กันดาลงมาหาลูกที่เล่นอยู่กับอ้อมและเตื้องสองพี่เลี้ยง นุ่มเห็นอนิรุทธิ์เดินตามวิกันดามาก็โผเข้าหา พร้อมกับต่อว่า ที่พ่อผิดสัญญาไม่ยอมไปรับที่โรงเรียนไป วิกันดาปรายตามองอนิรุทธิ์แล้วบอกกับลูกๆ ว่า
"แม่จะอ่านนิทานให้ฟัง ใครจะไปกับแม่บ้าง" โหน่งกับนุ่มยกมือทันที อนุรุทธิ์ยกมือบ้าง
"รุทธิ์ด้วยครับ" วิกันดาทำหน้าขรึมเดินจูงลูกออกไป อนิรุทธิ์รีบไปตามไปเอาใจ
วิ กันดาให้ลูกๆ เลือกนิทานที่จะให้เธออ่านให้ฟังและสอนลูกชายว่าให้ ต้องให้เกียรติสุภาพสตรีก่อน แล้วอ้อมก็เข้ามาตามบอกว่า มีโทรศัพท์ วิกันดาจึงให้ลูกๆ เอานิทานไปให้อนิรุทธิ์อ่านให้ฟังแทน
ฉวีเพ็ญโทรมา ถามวิกันดาว่าได้คำตอบจากอนิรุทธิ์หรือยัง วิกันดาถึงกับน้ำตาคลอตอบว่า อนิรุทธิ์ยอมรับ ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงอยากจะหย่ากับเขา ฉวีเพ็ญรีบห้ามเพราะสงสารหลานๆ ที่ยังเล็กอยู่และปลอบใจว่าอนิรุทธิ์แค่สนุกๆ เท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไร แถมยังแนะนำวิกันดาว่า
"วิก็ไม่ควรแยกรถกันคนละคันกับเขานี่น้า เขาถึงได้เถลไถลตามใจชอบ เลิกงานแล้วให้เขาไปรับเธออย่างเดิมดีกว่าเชื่อฉันเถอะ"
วิ กันดาสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด แล้วบอกเรื่องนี้กับอนิรุทธิ์ในเช้าวันต่อว่า แต่อนิรุทธิ์ไม่เห็นด้วย และเป็นสาเหตุให้เธอกับอนิรุทิ์ต้องมีปากเสียงกันอีก แล้วอนิรุทธิ์ก็หลุดออกมาว่า
"ถ้ารู้มันยุ่งอย่างนี้ ผมจะไม่แต่งงาน"
"แล้วคุณคิดว่าฉันอยากแต่งนักเรอะ" วิกันดาเจ็บปวด
" ใช่ คุณอยากแต่ง ผู้หญิงน่ะอยากแต่งงานจนตัวสั่นแทบทุกคน พออายุมากหน่อยก็ทุรนทุรายกลัวหาผัวไม่ได้ต้องขึ้นไปแขวนอยู่บนคานหรือคุณ ว่าไม่จริง" อนิรุทธ์เสียงดัง วิกันดาโกรธจนพูดไม่ออก
หลายวันต่อมา นงคราญผู้หญิงที่อนิรุทธิ์ไปติดพันอยู่มาพบวิกันดาที่บ้านและบอกกับเธอว่า ตั้งท้องกับอนิรุทธิ์แต่อนิรุทธิ์ไม่ยอมรับผิดชอบ
"คุณพี่ต้องช่วยหนู นะคะ ไม่งั้นหนูจะประจานให้อับอายขายหน้าให้หมดทุกคน หนูมันไม่มีอะไรที่จะเสีย แต่ด็อกเตอร์อนิรุทธิ์กับพี่นี่ซิค่ะ เสียเต็มๆ ถ้ากล้าแลกก็ลองดู"
นงคราญทิ้งท้ายก่อนลากลับไป และเมื่ออนิรุทธิ์กลับมาถึง วิกันดาก็ถามเรื่องนี้กับเขา อนิรุทธิ์ตอบกลับว่า
"ขอทีเถอะวิ ผมไม่โง่พอทีจะยอมมีลูกกับมันหรอก มันไปกับผู้ชายไม่รู้เท่าไหร่แล้วคิดจะมาจับผม"
"ฉันไม่รับรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ขออย่างเดียว อย่าให้มาเหยียบบ้านนี้อีก" วิกันดาน้ำตาคลอ
"วิ ผมจะไม่ยอมมีลูกกับใครทั้งนั้นนอกจากวิ ผมอาจจะไปกับใครต่อใครแต่คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมรัก" อนิรุทธิ์เข้ามากอดวิกันดา
"ฉันไม่มีวันเชื่อคุณ ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด" วิกันดาร้องไห้สะอึกสะอื้น
"วิคนดี ผมสัญญาจะไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นมารบกวนคุณอีก" อนิรุทธิ์ยืนยัน แต่วิกันดายังคงน้ำตาไหลพรากด้วยความอัดอั้นตันใจ
อนิ รุทธิ์ จัดการกับนงคราญไม่ให้มารบกวนวิกันดาได้ตามที่รับปากไว้ ฉวีเพ็ญรู้เรื่องเขาก็บอกกับวิกันดาว่า คราวนี้อนิรุทธิ์คงเข็ด แต่วิกันดายังลังเล และหลังจากเรื่องนงคราญผ่านไป อ้อมก็พานวลมาพบวิกันดา และบอกว่า "คุณผู้หญิงขา แม่ให้หนูกลับบ้านด่วนค่ะ พ่อเป็นอัมพาต หนูต้องไปช่วยดูแล แต่หนูหาคนมาอยู่แทนแล้วค่ะ" นวลยกมือไหว้วิกันดาอย่างนอบน้อม
"นวลเป็นคนสะอาดสะอ้าน แล้วก็รักเด็กค่ะ หนูเลยไว้ใจพามาอยู่แทน" อ้อมรีบบรรยาย
วิ กันดาถามนวลว่า ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ นวลตอบว่าเท่ากับอ้อม วิกันดาไม่ทันได้พูดอะไรต่อ โหน่งกับนุ่มก็วิ่งลงมาพร้อมกับเตื้อง สองพี่น้องเข้ามากอดแม่ วิกันดาถามลูกว่าวันนี้มีการบ้านหรือเปล่า นุ่มรีบเอาหน้าตอบว่า
"ของนุ่มมีเยอะค่ะ แต่นุ่มทำเสร็จที่โรงเรียนแล้ว พี่โหน่งมัวแต่เล่น"
"ขี้ฟ้อง ยัยนุ่มขี้ฟ้อง เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" โหน่งว่าน้องสาว วิกันดาตกใจรีบปรามลูก นวลได้ยินก็หัวเราะคิกคัก
"ญาติเสียเรอะ"โหน่งหันมาเล่นงาน นวลสะดุ้งเฮือก
" ตายแล้ว พูดเพราะๆ ซิค่ะน้องโหน่ง นวลเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงลูกแทนอ้อม เพราะพี่อ้อมต้องไปดูแลพ่อที่ไม่สบายค่ะ" วิกันดาอธิบายกับลูก
โหน่ง นั่งจ้องนวลแล้วตอบว่า "ก็ดีเหมือนกันโหน่งชอบพี่เลี้ยงสวยๆ แต่ห้ามหัวเราะเยาะโหน่งอีก" นวลส่งยิ้มหวาน ในขณะที่วิกันดามองลูกพลางถอนใจ
000000000000000
เตื้องไม่สบายใจนัก ที่เห็นนวลหน้าตาดีจึงเข้ามาเตือนวิกันดาว่าไม่ควรรับนวลไว้ แต่วิกันดากลับไล่เตื้องออกไปเพราะไม่อยากระแวงจนเกิดเหตุ เธอลงมาที่ชั้นล่างก็เห็นอนิรุทธิ์กำลังพูคุยกับนวลด้วยท่าทางสนิทสนมจึง เดินเข้าไปหาแล้วไล่ให้นวลไปดูโหน่งกับนุ่ม นวลหน้าเจื่อนลุกออกไป อนิรุทธิ์เห็นวิกันดามองเขาด้วยสายตาจับผิดก็ลุกหนีอ้างจะไปอาบน้ำ วิกันดามองตามแล้วนึกถึงคำเตือนของเตื้องจึงเดินตามอนิรุทธิ์ไปและขอร้องเขา ว่า อย่ายุ่งกับนวล
"ถ้าคุณรู้จักผมดีขนาดนั้น คุณก็ต้องรู้ซิว่า ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับผมเลย ผมรักวิคนเดียว"
" ฉันเอียนคำว่ารักของคุณเต็มที คนรักกันเขาไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนที่บอกว่ารักหรอก แต่ถ้าคุณรู้สึกเพียงครึ่งหนึ่งของที่พูด ก็กรุณาอย่ายุ่งกับนวลเลย ขอให้เตือนสติตัวเองอยู่เสมอว่า เขาเป็นพี่เลี้ยงของลูกเรา"
"โอ.เค. ผมจะทำตามที่คุณบอก พอใจหรือยัง" อนุรุทธิ์ทำท่ายอมแพ้ แต่วิกันดาก็ยังกังวล
วิ กันดานั่งดูทีวีอยู่กับลูกๆ และอนิรุทธิ์ นวลเข้ามาเสนอหน้าและแอบสบตากับอนิรุทธิ์อย่างรู้กัน วิกันดาสังเกตเห็นจึงขยับตัวลุกขึ้นแล้วชวนลูกๆ ขึ้นนอน นุ่มขอร้องให้อนิรุทธิ์ไปส่งเธอเข้านอนด้วย วิกันดาจึงแกล้งประชด
"ไม่เป็นไรหรอกลูก คุณพ่อกำลังสนุก" แล้ววิกันดาจูงก็ลูกทั้งสองขึ้นไป
อนิรุทธิ์นิ่วหน้านิดหนึ่งแล้วลุกเดินตาม นวลมองตามอนิรุทธิ์ด้วยสายตาหลงใหลชื่นชม
นวล เดินเข้ามาในครัวก็โดนเตื้องว่า กระทบเรื่องอนิรุทธิ์ ทำให้นวลไม่พอใจจะเข้ามาเล่นงานเตื้อง เตื้องตั้งรับพลางร้องท้า อ้อมเข้ามาขวางแล้วไล่นวลออกไปก่อน
"อย่าขึ้นไปข้างบนล่ะ" เตื้องสั่ง นวลหันขวับมา อ้อมรีบปรามเตื้อง
" เตื้อง แกก็หุบปากเสียทีได้ไหม แกอย่าท้ามันนะเตื้อง นวลมันยิ่งบ้าอยู่ด้วย อย่าคิดมากเลยน่าลึก ๆ แล้วนวลมันเป็นคนดีนะ ไม่งั้นฉันไม่พามาหรอก"
"เออ แล้วฉันจะคอยดูคนดีของแก" เตื้องไม่อยากเชื่อ ส่วนนวลเมื่อกลับถึงห้องก็นอนฝันหวานถึงอนิรุทธิ์และวาดหวังจะได้เลื่อนขั้น เป็นคุณนายอีกคน
ถาวรมาชวนอนิรุทธิ์ไปเข้าป่าในช่วงกลางเดือน และบ่นว่า ความจริงแล้วเขาอยากจะไปเสียตั้งแต่ต้นเดือนแต่ต้องไปรับน้องสาวที่เพิ่ง เลิกกับสามีที่สนามบิน
"อรอินทร์ น้องสาวผม อายุไม่เท่าไหร่กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดไปแล้ว ทีแรกว่าจะไปปักหลักอยู่ออสเตรเลีย แต่ทนเหงาไม่ไหว"
ถาวรบอกรายละเอียด อนิรุทธิ์พยักหน้ารับ ถาวรจึงถามต่อว่าตกลงจะไปป่าด้วยกันหรือเปล่าหรืว่าต้องขออนุญาตวิกันดาก่อน
"เฮ่ย วิเขาตัดหางปล่อยวัดอยู่แล้ว" อนิรุทธิ์หัวเราะแล้วจู่ๆ ก็นึกถึงหน้านวลขึ้นมา
วิ กันดาแปลกใจมากเมื่อเห็นอนิรุทธิ์กลับบ้านเร็วกว่าปกติ เธอเดินเข้าในครัวก็พบนวลกำลังจะป้อนนมให้นุ่มดื่มและมีอนิรุทธิ์ยืนลูบผม นุ่มอยู่ข้างๆ
"ไม่ต้องป้อน ให้น้องดื่มเอง เดี๋ยวจะเคยตัว" วิกันดาเดินเข้ามา
นวล สะดุ้ง อนิรุทธิ์หน้าเจื่อนไปนิดโหน่งกับนุ่มวิ่งเข้ามาสวัสดีพร้อมกอดวิกันดา วิกันดาพาลูกไปที่โต๊ะบอกให้ทั้งคู่ดื่มนมให้หมด แล้วเดินขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า อนิรุทธิ์รีบตามไปเอาใจ วิกันดารู้ทันความคิดอนิรุทธิ์จึงปรามว่า
"ฉันอยากให้คุณระวังตัวไว้ บ้าง เพราะโหน่งกับนุ่มเป็นเด็กฉลาด แกอาจจะผิดสังเกตได้ว่าคุณพ่อของแกเอาใจใส่สนิทสนมกับพี่เลี้ยงคนใหม่ผิด ปกติ และฉันก็คิดว่า คุณคงไม่ได้คิดจะเอาพี่เลี้ยงลูกเป็นเมียหรอกนะคะ" อนิรุทธิ์ถึงกับอึ้งแล้วเดินออกไป วิกันดามองตามด้วยความเจ็บช้ำ
วิกัน ดาเดินออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสดใสของนุ่นกับนวลดังประสาน กันขึ้นมา เธอมองออกไปทางหน้าต่างเห็นนวลกับนุ่มเล่นไล่จับกัน โดยใช้อนิรุทธิ์เป็นตัวขวาง ทำให้นวลกับอนิรุทธิ์มีโอกาสถูกเนื้อต้องตัวกันและต่างก็ทำท่าพอใจ จังหวะหนึ่งนวลเซถลาทำเป็นจะล้ม อนิอรุทธิ์รีบประคอง วิกันดาทนดูไม่ได้รีบผละออกมาแล้วพยายามสะกดอารมณ์ไว้
ฉวีเพ็ญกับอนงค์ นารถมาหาวิกันดาที่บ้านและทันเห็นภาพอนิรุทธิ์ประคองนวลพอดี ทั้งคู่ตกตะลึงรู้สึกโกรธแทนวิกันดา และเมื่อได้พบวิกันดาอนงค์นารถก็รีบฟ้องเรื่องที่เห็นพร้อมเตือนว่าท่าทาง นวลอยากเลี้ยงพ่อมากกว่าลูก
"ปกติฉันไม่ชอบยุใครหรอกนะ แต่เรื่องนี้วิต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ไม่งั้นแม่คนนี้มันต้องขยับเลื่อนฐานะจากพี่เลี้ยงเป็นคุณนายแน่ๆ" ฉวีเพ็ญเอ่ยขึ้นบ้าง
"หน้าตาผิวพรรณมันดีเสียอีกด้วย บ้านนี้เขาเข้าใจหาพี่เลี้ยงจริ๊ง เชื่อฉันเถอะวิ ไล่มันออกไป" อนงค์นารถสนับสนุน แต่วิกันดาแย้งงว่านวลยังไม่ได้ทำอะไรผิด
"โอ๊ย แม่คนนี้จะใจเย็นเป็นแม่พระไปถึงไหน" อนงค์นารถกับฉวีเพ็ญสบตากันเซ็งๆ
วิ กันดายืนทอดสายตาอยู่ที่ระเบียงห้องเพราะนึกคำเตือนของเพื่อนทั้งสอง อนิรุทธิ์เดินมากอดวิกันดาถามว่ารักยมมายุยงอะไรอีกพร้อมตัดพ้อที่วิกันดา เชื่อเพื่อนมากกว่าสามี
"คุณเห็นฉันโง่มากใช่ไหม รุทธิ์" วิกันดาหันกลับมา
"โธ่ ใครจะไปบังอาจคิดอย่างนั้น คุณเรียนจบปริญญาเอกนะครับ ด็อกเตอร์วิกันดา"
"ฉันก็เหมือนคนที่ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เรียนจนจบปริญญาเอกแต่กลับกลายเป็นแค่เด็กอนุบาลในการดำเนินชีวิต"
" คุณก็พูดเกินไป ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา คนรับใช้สมัยนี้หายากจะตาย ถ้าหากผมได้นวลมันก็จะไม่ไปไหน คุณก็ไม่ต้องเดือดร้อนคอยหาคนใช้บ่อยๆ ผมเองก็กลับบ้านเร็วขึ้น สมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย"
"คุณไม่อายหรือรุทธิ์ คุณกล้าลงไปนอนกับมันโดยไม่กลัวว่าเตื้องหรือนายพาจะเห็นเรอะ"
" ก็ให้มันขึ้นมานอนข้างบนซิ ห้องใกล้ๆ ห้องพระน่ะ ว่างอยู่นี่ คุณน่าจะรู้จักผมดีกว่าใครๆ ทั้งหมดผมก็แค่คนรักสนุก ชีวิตต้องมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าคุณเข้าใจ คุณจะไม่ถือเพราะยังไง ผมก็ต้องกลับมาตายรังวันยังค่ำ ผมจะไม่มีวันทำอะไรให้กระทบกระเทือนชีวิตคู่ของเราเลย"
"ฉันไม่เข้าใจ หรอก รุทธิ์ ยังไงๆ ฉันก็เข้าใจไม่ได้ ฉันมีชีวิตจิตใจ รู้สึกเจ็บปวดรู้จักขมขื่น คุณทำลายความรักความศรัทธาทั้งหมดที่ฉันเคยมี ก่อนหน้านี้ฉันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเราต้องแต่งงานกันแล้วจะต้องหย่า แต่เดี๋ยวนี้ ฉันเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เข้าใจจนนึกอยากจะหย่ากับคุณด้วยซ้ำ"
" วิ ในสายตาคุณผมเลวถึงขนาดนั้นเชียวหรือ" อนิรุทธ์สะดุ้ง วิกันดาเดินกลับหยิบเครื่องนอนจะไปนอนที่ห้องลูก อนุรุทธิ์เข้าขวางเอ่ยว่า
"คุณอยากให้ลูกรู้หรือว่า เรามีปากเสียงกันเรื่องของเรา อย่าให้ลูกมารับรู้ด้วยเลย"
วิ กันดานิ่ง แล้ววางหมอนกลับที่เดินก่อนล้มตัวลงนอนหันหลังให้อนุรุทธิ์พร้อมออกคำสั่ง ให้เขามือออกไปจากตัวเธอเพราะขยะแขยงเต็มที แล้ววิกันดาก็แอบร้องไห้
ใน ขณะที่วิกันดากำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องอนิรุทธิ์ อนงค์นารถกับฉวีเพ็ญก็กำลังเผชิญปัญหาเรื่องสามีของพวกเธออยู่เช่นกัน พลเวทย์สามีของอนงค์มากเป็นคนธรรมะธัมโมจัดจนอนงค์นารถชักจะหมดความอดทนและ เริ่มเบื่อหน่ายสามีตัวเอง ส่วนฉวีเพ็ญก็ต้องผันตัวเองมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวรับชอบงานทุกอย่างในบ้าน และปล่อยให้สามีคือสีหนาทออกทำงานนอกบ้านเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว วันหนึ่งอนงค์นารถก็โทรมาชวนฉวีเพ็ญออกไปดูหนังแก้เซ็งด้วยกัน และชวนวิกันดาไปด้วย วิกันดาตอบตกลงเพราะไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ มานานแล้ว เธอโทรบอกอนิรุทธ์ขอให้กลับบ้านไปดูลูกๆ แทน
"ได้จ้ะ ผมจะรีบกลับไปอยู่กับลูก วิไม่ต้องห่วงนะ ผมดีใจที่วิได้ไปพักผ่อนหย่อนใจเสียบ้าง วิน่ะเครียดมากรู้ไหม ขอให้สนุกนะครับ"
อนิ รุทธิ์ วางโทรศัพท์ สีหน้าเหมือนพึงพอใจอะไรบางอย่าง ในขณะที่วิกันดานึกสังหรณ์ใจขึ้นมา และเมื่อดูหนังจบวิกันดาก็ขอตัวกลับบ้านทันที เช่นเดียวกับฉวีเพ็ญที่ต้องรีบไปเตรียมอาหารเย็นให้สามี
วิกันดากลับมา ถึงบ้าน ก็พบว่าอนิรุทธิ์เข้านอนแล้วเธอจึงออกไปดูลูกๆ ที่ห้องและพบสร้อยของนวลตกอยู่ วิกันดาหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาแล้วตามไปสอบถามอนิรุทธิ์ในห้องนอน แต่อนิรุทธิ์ตีหน้าซื่อบอกว่าจำไม่ได้ว่าเป็นของนวล
"โกหก ฉันให้คุณกลับบ้านเร็วก็เพื่อจะได้มาอยู่กับลูก แต่คุณกลับเอาเวลาไปปล้ำกับแม่นวลนั่น"
"เหลวไหล ใครเขาจะไปปล้ำได้ง่ายๆ" อนิรุทธิ์ทำพาล แล้วเอนตัวลงนอนหลับตา วิกันดากำสร้อยแน่น มองอนิรุทธิ์อย่างเจ็บอกเจ็บใจ
000000000000000
เช้า วันใหม่ วิกันดาเอาสร้อยไปคืนนวล นวลถึงกับสะดุ้งมีสีหน้าสำนึกผิด แต่วิกันดาไม่พูดอะไร เธอรีบเดินออกไปทันที นวลใจคอไม่ดีนักรีบไปดักรออนิรุทธิ์และฟ้องว่า
"นวลว่าคุณผู้หญิงทราบแน่ๆเลยค่ะ เมื่อกี้เธอเอาสร้อยมาคืนนวล นวลไม่รู้ตัวว่ามันขาดตั้งแต่เมื่อไหร่"
"เคยทำยังไงก็ทำอย่างนั้น อย่าได้ตีตัวเสมอคุณผู้หญิงเป็นอันขาด" อนิรุทธิ์สั่ง
นวลรับคำ อนิรุทธิ์จับหัวนวลโยกนิดหนึ่งแล้วขับรถออกไป เตื้องออกมาเห็นถึงกับตะลึง เมื่อนวลเข้ามาช่วยงานในครัวจึงโดนเตื้องต่อว่า
"ถามจริงๆ แกทำได้ยังไงเฮอะ คุณผู้หญิงสุดแสนจะดี แต่แกก็ยังทรยศ อย่างแกมันต้องปีนต้นงิ้วให้เข็ด"
"ไม่ใช่เรื่องของแก อ้อ หรือว่าอิจฉา คุณผู้ชายไม่สนแกใช่ไหมล่ะ" นวลย้อน
" ฮึ ต่อให้ฉันสวยกว่าแก ฉันก็ไม่เอา ฉันมีคุณธรรมและไม่หน้าด้านพอที่จะแย่งผัวใคร โดยเฉพาะสามีของเจ้านายผู้มีพระคุณ" เตื้องเดินกระแทกไหล่นวลออกไป นวลโกรธจัด
อนิรุทธิ์โทรมาง้อวิกันดาพร้อมยืนยันว่า ไม่เคยคิดเอานวลขึ้นมาเทียบวิกันดาเลย แต่วิกันดาไม่รับฟังเพราะเธอรู้สึกเสียศักดิ์ศรีและหมดความภูมิใจในตัวเองไป แล้ว
"จะพูดยังไงก็พูดได้ แต่การกระทำของคุณมันบอกว่าอย่างนั้น เท่านี้นะรุทธิ์ ฉันไม่อยากได้ยินเสียงคุณเพราะฉันกำลังจะอ้วก" วิกันดาปิดโทรศัพท์แล้วร้องไห้ออกมา
"ทำไมผู้หญิงถึงได้เป็นเพศที่เข้า ใจอะไรยากนัก กับแค่เรื่องสนุกๆ ของผู้ชายก็เอามาฟูมฟายเป็นจริงเป็นจัง" อนิรุทธิ์นั่งปรับทุกข์กับสิทธิชัย
"นอกใจคุณวิ แล้วเขาจับได้อีกละซี" สิทธิชัยเดา
" ไม่ได้นอกใจ เพราะนอกใจผมก็ต้องไปรักคนอื่นแต่นี่ผมยังรักเขา แถมยังยกย่องอีกต่างหาก เขาควรจะเข้าใจว่าผมเป็นของผมอย่างนี้และมันก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้"
"แล้วก่อนแต่งงานคุณบอกเขาหรือเปล่าล่ะ"
"เปล่า เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมรักเขาเท่านั้นก็พอแล้ว"
"ขอโทษนะถ้าจะพูดอะไรตรงๆ คุณนี่เห็นแก่ตัวว่ะ เห็นแก่ตัวสุดๆเลย นี่ผมพูดจากใจจริงนะ" สิทธิชัยว่า อนิรุทธิ์ถึงกับหน้าเจื่อน
นวล คิดจะเลื่อนชั้นให้ตัวเอง เพราะถือว่าเป็นเมียอนิรุทธิ์แล้ว ทำให้วิกันดาไม่พอใจนักจึงเรียกนวลมาเตือน แต่นวลสวนกลับว่า ตอนนี้ฐานะเธอเปลี่ยนไปแล้ว และเธอก็ไม่ชอบการแบ่งชั้นวรรณะ
"ถ้าอย่าง นั้นเธอก็ออกไป อย่าลืมว่าฉันรับเธอมาเป็นพี่เลี้ยงลูก เราตกลงกันว่าอย่างนั้น แล้วทุกคนในบ้านเขาก็เรียกลูกของฉันว่า น้องโหน่งน้องนุ่มทุกคน เธอเองเข้ามาใหม่ๆ ก็เรียกเหมือนกัน ส่วนคำว่าลูกน่ะให้ฉันเรียกคนเดียว เพราะฉันเป็นแม่ของพวกเขา แต่เธอไม่ใช่ ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็เก็บข้าวเก็บของออกไปจากบ้านฉัน วิกันดาขยับจะเดินออกแต่ก็นึกขึ้นได้จึงหันมาทิ้งท้าย
"อ้อ จะไปฟ้องคุณผู้ชายก็ได้นะ" วิกันดาเดินเข้าบ้าน
"เออ กูฟ้องแน่" นวลบอกกับตัวเอง
อนิรุทธิ์ลงมาหานวลที่ห้อง นวลรีบฟ้องเรื่องวิกันดาหวังให้อนิรุทธิ์ช่วยจัดการ แต่อนิรุทธิ์กลับยื่นคำขาดว่า
" ทำตามคำสั่งคุณผู้หญิง ฉันจะให้นวลเลือกเอานะ ถ้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปก็ต้องทำตัวให้เหมือนเดิม แต่ถ้าหากไม่พอใจ ฉันจะให้เงินก้อนหนึ่งแล้วออกไปจากบ้านหลังนี้" อนิรุทธิ์มองนวลด้วยสายเย็นชา นวลรีบเข้ามาอ้อน
"คุณผู้ชายอย่าไล่นวลไปจากที่นี่เลยนะคะ นวลรักคุณผู้ชาย รักมาก"
" ถ้ารักฉัน อยากอยู่กับฉันละก็ ต้องอย่าลืมตัวว่าเราเข้ามาอยู่บ้านนี้ในฐานะอะไร แล้วก็ทำตามหน้าที่นั้น อย่าลืมตัวหรือตีเสมอคุณผู้หญิงเด็ดขาด แล้วนวลก็จะได้อยู่ที่นี่ต่อไปอย่างมีความสุข"
"ค่ะ นวลจะทำตามคำสั่งที่คุณผู้ชายบอก ทุกอย่าง ขออย่างเดียว อย่าผลักไสไล่ส่งนวลไปไหนเลย"
" จำเอาไว้ว่า คุณผู้หญิงใหญ่ที่สุดในบ้านหลังนี้ ถ้าอยากอยู่อย่างสบายก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนทำตัวเสมอต้นเสมอปลายเข้าใจไหม" อนิรุทธิ์ย้ำ นวลรีบรับคำ
วิกันดาหลบเข้ามานอนในห้องลูก โหน่งที่ยังไม่รับเอ่ยถามว่า แม่ทะเลาะกับพ่ออีกหรือ แต่วิกันดาไม่ตอบเธอบอกสั่งโหน่งนอนก่อนที่นุ่นจะตื่นมาอีกคน
"โหน่งรักคุณแม่มากครับ" โหน่งบอกกับแม่ แล้วรีบหลับตา
"แม่ก็รักโหน่งลูก" วิกันดาโอบกอดลูกไว้น้ำตาซึม
เช้า วันใหม่ วิกันดาเดินจูงลูกคนละข้างลงบันไดมา นวลรีบเข้ามาเอาใจและจะเตรียมอาหารเช้าให้ แต่ก็ไม่ทันเตื้องที่แย่งทำทุกอย่างเองแล้วหันมาบอกกับนวลว่า ไม่ไว้ใจกลัวนวลจะใส่ยาพิษ
นุ่มหันไปเห็นอนิรุทธิ์เดินลงมาก็ชวนไปเที่ยวด้วยกันเพราะวิกันดาจะพาออกไปข้างนอก
"วันนี้พ่อมีธุระลูก พ่อต้องไปธุระกับคุณลุงถาวร วิ วันนี้ผมอาจจะกลับดึกหน่อยนะ" อนิรุทธิ์มองมาทางวิกันดาเห็นรอยยิ้มเยาะของเธอ
"คุณผู้ชายจะไปไหนคะ" นวลรีบถาม อนุรุทธิ์ทำท่าไม่พอใจ นวลจ๋อย
" คุณจะไปไหนก็ไป เชิญเถอะค่ะ น้องโหน่ง น้องนุ่ม แม่จะไปรอข้างนอกนะลูก" วิกันดาเดินออกไป อนิรุทธิ์รีบตามไป นวลมองตามด้วยความน้อยใจ
"วิโกรธผมเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม" อนิรุทธฺเข้ามาง้อ
"ฉันไม่สนใจว่าคุณจะไปทำอะไร ที่ไหนกับใครแล้วละค่ะ ขออย่างเดียวอย่าให้มันประเจิดประเจ้อจนลูกจับได้ก็แล้วกัน"
"ถึงวิไม่อยากรู้ ผมก็จะบอกเพราะผมไม่เคยมีความลับกับคุณ ถาวรเขาชวนผมไปรับน้องที่จะกลับจากออสเตรเลีย แล้วก็อาจจะเลยไปทานข้าวกัน"
"ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ" วิกันดาอดถามไม่ได้
" ไหนว่าไม่สนไง ผู้หญิงครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง น้องสาวของถาวรเขาแต่งงานแล้ว มีลูกคนหนึ่งสบายใจแล้วหรือยัง" อนิรุทธิ์เข้ามากอด วิกันดาสั่งให้ปล่อยเพราะกลัวมีคนมาเห็น
"ก็ช่างเขา เป็นไร คืนนี้รอผมด้วยนะ ผมคงไม่กลับดึกมากหรอก แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะโทร.มาบอก" อนิรุทธิ์ปล่อยวิกันดาแล้วเดินจูงมานั่ง
"ไม่ยักรู้ว่า คุณถาวรมีน้องสาว ชื่ออะไรนะคะ" วิกันดาถามต่อ
"อรอินทร์ เขาชื่ออรอินทร์" อนิรุทธิ์ตอบ
ถาวร พาอนิรุทธิ์ไปรับอรอินทร์กับนิ่มที่สนามบินฯ และเมื่ออรอินทร์กับอนิรุทธิ์ได้ทำความรู้จักกันแววตาของทั้งคู่ก็บ่งชัดเจน ว่าพอใจกันและกันอยู่ และมันก็เป็นสาเหตุให้อนิรุทธิ์กลับบ้านดึกอีก นวลที่ดักรออยู่หน้าบ้านรีบถามอนิรุทธิ์ว่าทำไมกลับดึกนัก
"ประโยคนี้ควรจะให้เมียฉันถามมากกว่านะ ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยด้วย"
อนิรุทธิ์สั่งแล้วเดินหนีขึ้นห้อง นวลมองตามแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจ
วิ กันดาตัดสินใจแยกห้องนอนกับอนิรุทธิ์ ทำให้อนิรุทธ์ไม่พอใจนัก เขาไปเคาะประตูเรียก แต่วิกันดาไม่ยอมเปิดให้เพราะกำลังเจ็บช้ำเป็นที่สุด
อร อินทร์ลงมานั่งคุยกับถาวรและหลอกถามเรื่องอนิรุทธ์ ถาวรรีบปรามน้องสาวว่า อนิรุทธิ์มีลูกมีเมียแล้ว แต่อรอินทร์ไม่สน เธอตอบกับพี่ชายว่า
"อรก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ผู้ชายเพอร์เฟคไม่มีลูกไม่มีเมียซิแปลก คุยไปคุยมาชักง่วงแล้ว อรไปนอนละค่ะ" อรอินทร์เดินออกไป ถาวรมองตาม
"โกรธหรือที่เมื่อคืน ผมกลับดึก" อนิรุทธิ์เอ่ยถามเมื่อวิกันดาเปิดประตูห้องออกมา แต่วิกันดาไม่ตอบ เธอบอกเพียงว่าจะไปทำงานแล้ว
"นี่มันอะไรกันอีกล่ะวิคุณจะแยกห้องนอนกับผมหรือวิ"
" ค่ะ เพราะฉันทนอยู่ห้องเดียวกับคุณไม่ได้อีกต่อไปและทนมีสามีคนเดียวกับพี่ เลี้ยงของลูกไม่ได้ด้วย คุณไม่อาย แต่ฉันอายอย่างน้อยฉันก็อายตัวเอง" วิกันดาเดินออกไป อนิรุทธิ์สะอึกยืนอึ้ง
อนิรุทธิ์นั่งกลุ้มคิดถึงคำพูด ของวิกันดาอยู่ในห้องทำงาน แล้วอรอินทร์ก็โทรเข้ามา เธอนัดอนิรุทธิ์ออกไปทานกลางวันด้วยกันเพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาไปรับเธอ เมื่อวันก่อน ทำให้อนิรุทธิ์หายกลุ้มในทันที แล้วหันมาสานสัมพันธ์กับอรอินทร์
"คุณผู้หญิงคะ หมู่นี้คุณผู้ชายกลับบ้านดึกทุกวันเลย เอ้อ คุณผู้หญิงไม่รู้สึกผิดปกติบ้างหรอกหรือคะ"นวลเข้ามาเปรยกับวิกันดาในค่ำวัน หนึ่ง
"งั้นหรือไม่ว่าคุณผู้ชายจะกลับดึกหรือกลับเร็วมันก็ผิดปกติได้ ทั้งนั้นแหละ" วิกันดาพูดเหมือนเยาะ นวลสะดุ้งรีบลุกออกไป วิกันดามองตามแล้วก็ถอนใจ
"คุณแม่จะไปไหนคะ" นิ่มร้องถามเมื่อเห็นอรอินทร์แต่งตัวสวยเดินลงมา
"แม่ไปธุระค่ะลูก พี่บัว อรฝากน้องนิ่มด้วยนะคะ" อรอินทร์บอกบัว เสียงแตรรถดังขึ้น บัวประชดว่า
"ธุระของคุณอรมารับแล้วค่ะ" อรอินทร์หัวเราะก้มลงจูบลูก "แม่ไปละนะ แล้วจะซื้อขนมมาฝากทั้งป้าทั้งหลาน"
อร อินทร์เดินไปอย่างแจ่มใส นิ่มบ่นว่า คุณแม่ไปธุระทุกวันเลย บัวโอบนิ่มอย่างเวทนา ที่หน้าบ้าน อรอินทร์เปิดประตูออกไป อนิรุทธิ์รีบออกจากรถมาเปิดประตูให้ ทั้งสองสบตากัน อรอินทร์ส่งสายตาท้าทายนิดๆ อนิรุทธิ์ยิ้มให้กับแววตาเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น: