วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 12

ทุกคนที่ร้านขนมหวานช่วยกันทำขนมอย่างรีบร้อน
เพราะต้องรีบนำขนมไปส่งลูกค้า
ใบไผ่แม้จะง่วงแสนง่วงเพราะเมื่อคืนอยู่ทำอาหารให้วชรวรรษกินจนดึก
แต่ก็ต้องฝืนร่างกายเร่งมือทำขนม
นรารีเปิดประตูเข้ามาในร้านอารมณ์ฉุนเฉียวถามหาใบไผ่
เมื่อใบไผ่ออกมานรารีไม่พูดพร่ำทำเพลงตบหน้าใบไผ่อย่างแรง
อุบลโวยว่ามาตบหน้าหลานสาวของเธอทำไม
"ก็เมื่อคืนนี้หลานสาวแกหลอกล่อให้แฟนฉันมาขลุกอยู่กับมันค่อนคืน
หัดสั่งสอนมันให้สะกดคำว่ายางอายซะบ้าง"
"คุณวัชรมาที่นี่เมื่อคืนนี้
เพราะเขาทนผู้หญิงดีแต่วี้ดว้าย ไม่มีสมองไม่ไหว เลยต้องมาหาอะไรทานที่นี่"
ใบไผ่โต้กลับ
"คุณวัชรมาทานข้าวที่นี่ แก แกโกหก ฉันไม่เชื่อ
คุณวัชรเป็นคนทานอะไรยาก ขนาดกับข้าวฝีมือฉันเขายังไม่ทานเลย"
"เหรอ
แต่เขากินฝีมือฉันไปตั้งสี่จาน นี่ดีนะ กินแต่ของคาว
จะให้ของหวานตบท้ายด้วยแต่เขาดันอิ่มซะก่อน ส่วนคุณ ทำแทบตาย เขาก็ไม่แล โถ
น่าสงสาร"
นรารีโกรธจัดจะตบใบไผ่อีกแต่คราวนี้ใบไผ่รู้ทันจับแขนนรารีบิดไปทางด้านหลังแล้วผลักไปให้พ้นทาง
นรารีโมโหปัดถาดขนมจนหกกระจาย บอกว่าชาตินี้ใบไผ่ไม่มีทางแย่งวชรวรรษไปจากเธอได้
ใบไผ่เลือดขึ้นหน้าที่นรารีทำลายข้าวของในร้าน กำหมัดแน่นวิ่งไล่นรารีไปรอบๆ ห้อง
นรารีวิ่งออกไปที่ประตูคว้าขนมจากพื้นขึ้นมาจะปาใส่ใบไผ่ วชรวรรษเข้ามาเห็นพอดี
"หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณแพน"
"คุณวัชร คุณต้องช่วยแพนนะ พวกมันจะรุมทำร้ายแพน"
วชรวรรษมองสภาพขนมที่เกลื่อนพื้นแล้วมองขนมในมือนรารี
"พอได้แล้วคุณแพน
ขอโทษคุณใบไผ่ซะ"
"ว่าไงนะคุณวัชร แพนไม่ผิด แพนไม่ขอโทษ
มันต่างหากที่พยายามทำร้ายแพน"
วชรวรรษไม่สนใจเดินเข้าไปหาใบไผ่ "ผมขอโทษนะครับ
ผมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้"
"ไม่ต้อง พาแฟนคุณกลับไปซะ"
"หนอย
ทำเป็นหยิ่งยัยทอมเอ๊ย เอาไปเลย ถือเป็นค่าจ้างให้เธอเลิกยุ่งกับคุณวัชร"
อุบลหยิบธนบัตรมากำใส่กำปั้นแน่นก่อนจะเข้าไปชกหน้านรารีเต็มแรง
นรารีหน้าหงายสลบเหมือด วชรวรรษตกใจรีบเข้าไปประคองนรารี
"รีบพาแฟนคุณออกไปซะคุณวชรวรรษ ก่อนที่ป้าจะทำอะไรมากกว่านี้"
วชรวรรษหันไปมองใบไผ่รู้สึกผิด ก่อนจะอุ้มนรารีออกไป
ใบไผ่มองไปรอบร้านด้วยความเซ็งไม่รู้ว่าจะทำขนมให้ทันส่งลูกค้าได้หรือไม่
วชรวรรษพานรารีกลับมาที่บ้าน
พอฟื้นขึ้นนรารีเธอก็รีบถามว่าแจ้งความจับพวกของใบไผ่หรือยัง
แต่วชรวรรษบอกว่านรารีต่างหากที่ต้องถูกตำรวจจับเพราะบุกเข้าไปพังร้านใบไผ่
นรารีโกรธที่วชรวรรษเข้าข้างใบไผ่
ย้ำว่าถ้าวชรวรรษไม่แจ้งความก็ต้องส่งลูกน้องไปจัดการกับใบไผ่
แต่วชรวรรษบอกว่าเขาไม่ได้
000000000000
ใบไผ่ปิดกล่องขนมกล่องสุดท้ายใส่ลงในถุงแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนเพลียที่ทำขนมเสร็จทันส่งลูกค้า
วชรวรรษเปิดประตูเข้ามา ขอโทษอุบลที่เกิดเรื่องขึ้น พร้อมกับจะชดใช้ค่าเสียหายให้
แต่ใบไผ่ไม่ยอมรับ แล้วก็เดินหนีจะไปส่งขนม แต่สตาร์ทรถไม่ติด
วชรวรรษได้จังหวะบอกให้ขึ้นรถเขา เขาจะพาไปส่งขนมเอง ใบไผ่หัวเสีย
ดูเวลาแล้วก็จำใจต้องขึ้นรถวชรวรรษ
ธราทิตย์ฟังเม่นกับวีเล่าเรื่องที่พอลเป็นหนี้พนันบอลแล้วก็ตกใจ
เม่นบอกให้ธราทิตย์เตือนวรรษาให้อยู่ห่างๆ พอลเอาไว้
ธราทิตย์จึงนัดวรรษาออกมาเจอที่ร้านกาแฟเพื่อจะบอกเรื่องนี้
เป็นเวลาเดียวกับที่พอลส่งข้อความมาบอกให้วรรษาไปรับพอลออกจากโรงพยาบาล
ธราทิตย์จึงรีบบอกเรื่องที่พอลเป็นหนี้พนันบอล
วรรษาครุ่นคิดแล้วนำเรื่องนี้มาถามพอล พอลทำท่าตกใจ
ปฏิเสธว่าเขาไม่เคยเล่นพนันบอลแต่ถ้าวรรษาเชื่อธราทิตย์เขาก็ไม่มีอะไรจะพูด
ใบไผ่เดินหาวพร้อมบิดขี้เกียจออกมาจากตึกแห่งหนึ่งหลังจากส่งขนมเสร็จ
แล้วชะงักที่เห็นวชรวรรษยังยืนรออยู่ที่รถ
"ส่งของทันเวลาใช่มั้ย
บอกแล้วว่ารถผมเครื่องมันแรง"
"ถ้าคิดอยู่รอเพื่อฟังคำขอบใจจากฉันล่ะก็
ขอบอกว่านายคิดผิด"
ใบไผ่เดินไปเลย วชรวรรษดึงแขนใบไผ่ให้หันมา
"เดี๋ยว
คำขอบคุณน่ะไม่อยากได้ แต่อยากจะไปส่งกลับบ้าน"
ใบไผ่สะบัดแขนออก "ไม่ต้อง
ไม่ได้เป็นง่อยเหมือนแฟนนายนะ ฉันกลับมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้"
วชรวรรษไม่ยอมไป
ตื๊อขอไปส่งใบไผ่
"โว้ย นายเป็นบ้าอะไร จะเซ้าซี้กวนใจฉันไปถึงไหน ฉันเหนื่อย
เหนื่อย แล้วก็เหนื่อย เมื่อคืนฉันก็แทบไม่ได้นอนเพราะต้องทำอาหารให้นายกิน
แถมต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมขนม แล้วไหนจะแฟนนายที่มาอาละวาดพังร้านฉันอีก
นายจะเอายังไงกับฉัน หา นายวชรวรรษ นายจะเอายังไง"
"ให้ผมไปส่ง"
"โอ๊ย
นายกวนฉันเหรอนายหมาวัด นายนี่มันบ้าจริงๆ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย"
"ทนไม่ไหวก็ขึ้นรถ"
ใบไผ่อึ้ง วชรวรรษเปิดประตูรถให้
"ผมรู้ว่าคุณเกลียดขี้หน้าผม รู้ว่ายังไงซะผมก็เป็นแค่เจ้าพ่อในสายของคุณ
แต่วันนี้ผมอยากเป็นแค่คนขับรถธรรมดา ไม่ทำอย่างอื่นนอกจากขับรถให้คุณ
เชื่อใจผมเถอะ หมาวัดมีคนให้ข้าวยังซื่อสัตย์ ผมเป็นคนไม่ใช่หมานะ"
ใบไผ่เจอคำพูดแบบนี้ถึงกับพูดไม่ออก ยอมนั่งรถมากับชายหนุ่ม
ใบไผ่มองออกไปนอกหน้าต่าง วชรวรรษค่อยๆ เหลือบมองหญิงสาว
"มองอะไร ขับรถไป
เดี๋ยวก็ไม่ถึงบ้านหรอก นายคนขับรถ"
วชรวรรษอมยิ้มแล้วหันไปขับรถต่อ
ใบไผ่นั่งหาวคำโตแต่ดูน่ารัก วชรวรรษมองแล้วยิ้มชอบ เวลาผ่านไปสักพัก
วชรวรรษเหลือบไปมองใบไผ่อีกครั้ง เห็นหญิงสาวนั่งหลับคออ่อนคอพับด้วยความอ่อนเพลีย
วชรวรรษขับรถมาจอดที่ริมน้ำ ดับเครื่อง มองใบไผ่ที่หลับไม่รู้เรื่อง
แล้วยิ้มเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมืออ้อมตัวใบไผ่เพื่อจะปรับที่นั่งให้เอนลงไป
ทำให้ใบของเขากับใบไผ่อยู่ใกล้กันมาก วชรวรรษชะงักมอง
เพราะไม่เคยเห็นใบไผ่ใกล้ขนาดนี้ วชรวรรษตะลึงไปกับความสวยยามที่ใบไผ่สงบนิ่ง
เขาค่อยๆ เอามือปัดผมที่ปรกลงมาตรงหน้าผากของใบไผ่ อยากเอามือลูบไล้ไปที่หน้า
แต่ไม่กล้า เลยมองไม่วางตา อยากจะหอมแก้ม ก็ต้องตัดใจ ผละออกมา ถอนหายใจยาว
ก่อนจะเปิดประตูรถเดินออกไปยืนที่ริมน้ำ
นึกถึงเรื่องที่นรารีบอกให้เขาไปจัดการกับใบไผ่
วชรวรรษละสายตาจากใบไผ่นั่งลงที่ฝากระโปรงรถครุ่นคิดหนัก
อุบลกับกริชชะเง้อคอเป็นห่วงใบไผ่เห็นว่ายังไม่กลับ
นาทเดินหน้าเครียดเข้ามาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงใบไผ่ ขอให้มาช่วยเขาแก้ปัญหาดีกว่า
เพราะเขาอยากจะให้ทั้งสองคนไปสู่ขอแก้วขวัญให้ เพราะแก้วขวัญกำลังมีคนอื่น
กริชบอกว่าถ้าแก้วขวัญเลือกแล้วก็ขอให้นาทตัดใจ แต่นาทไม่ยอมแพ้
บอกว่าเขาจะใช้วิถีทางของลูกผู้ชาย คนอย่างเขาฆ่าได้ หยามไม่ได้
ตอนเช้า
ใบไผ่ขยับตัวตื่นขึ้นมาแปลกใจที่เห็นตัวเองนอนอยู่ในรถมีเสื้อตัวนอกของวชรวรรษคลุมอยู่
มองออกไปก็เห็นวชรวรรษนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมน้ำ
"นี่คุณ ทำไมไม่พาฉันไปส่งบ้าน
ปล่อยให้ฉันนอนอยู่ในรถได้ยังไง"
วชรวรรษไม่ตอบหันไปหยิบกาแฟในแก้วกระดาษยื่นให้ใบไผ่
"กาแฟสักหน่อยมั้ยจะได้สดชื่น" ใบไผ่มองนิ่งไม่รับ
"ผมเห็นคุณหลับสบายก็เลยไม่อยากปลุก กลัวตื่นแล้วจะหลับไม่ลงอีก"
"ถ้าอยากให้ฉันหลับสบาย ก็ช่วยอย่ามายุ่งอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"
ใบไผ่คืนเสื้อให้วชรวรรษแล้วรีบเดินออกไป วชรวรรษจะเดินตาม
แต่ใบไผ่หันมาชี้หน้า
"ไม่ต้องตาม ฉันจะกลับเอง คราวนี้ฉันพูดจริงนะ
กลับไปหาแฟนนายซะ ฉันไม่อยากเดือดร้อนเพราะนายอีก"
วชรวรรษกลับมาบ้านเจอนรารีนั่งรออยู่
นรารีถามเรื่องที่เธอบอกให้วชรวรรษไปจัดการกับใบไผ่ วชรวรรษบอกว่าเขาทำไม่ได้
เพราะเขาไม่ใช่มาเฟีย และขอให้ต่างคนต่างอยู่
"คุณวรรษ แพนไม่ยอมนะคะ ทำไม
เมื่อก่อนคุณไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ทำไมตอนนี้พอมีอีทอมนี่เข้ามา คุณถึง หรือว่า
นี่คุณ คุณรักมันใช่มั้ยคะ"
วชรวรรษเองก็ตกใจเหมือนกัน เงียบไป พูดไม่ออก
นรารีวี้ดลั่น
"คุณรักมันจริงๆ ด้วย ใช่มั้ยคะ คุณวัชร บอกแพนมาสิคะ"
"น่าจะจริงนะคะ" เสียงวรรษาดังขึ้น วชรวรรษกับนรารีหันมามอง
"เพราะเมื่อคืนพี่ไผ่ไม่ได้กลับบ้านหลังจากไปส่งของกับพี่วัชร
น่าจะอยู่ด้วยกันทั้งคืน คนไม่รักกัน เขาคงไม่หายไปด้วยกันอย่างนั้นหรอกค่ะ
ใช่มั้ยคะ คุณแพน"
"จริงหรือเปล่าคะ วัชร คุณบอกแพนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"
วชรวรรษเงียบ นรารีเสียใจ วรรษาหัวเราะ
"โถ น่าสงสารจัง
ตัดใจตอนนี้ยังทันนะคะ คุณแพน"
"คุณวัชร คุณทำกับแพนอย่างนี้ทำไม
แพนก็มีหัวใจเหมือนกันนะคะ บอกมาสิคะ คุณทำอย่างนี้ทำไม ทำไม"
วชรวรรษเงียบ
นรารีโกรธเข้ามาตบตีวชรวรรษ วรรษาเข้ามาดึงนรารีออกไป
"ฝน พอเถอะ ออกไปก่อน
ขอพี่คุยกับคุณแพนเอง"
"ไม่ค่ะพี่วัชร ฝนทนผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เขาไม่เหมาะสมกับพี่วัชรเลย"
"หยุดนะ น้องฝน
น้องฝนมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินว่าใครเหมาะสม ไม่เหมาะสม หยุดฟังอีทอมนั่นได้แล้ว
น้องฝนกำลังโดนมันล้างสมองอยู่ รู้ตัวรึเปล่า"
"ไม่มีใครมาล้างสมองฝนได้ทั้งนั้นแหละค่ะ แล้วฝนก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนดีๆ
ให้พี่ชายคนเดียวของฝนด้วย"
"แล้วอีแม่ค้านั่นมันมีดีอะไร ไหนน้องฝนบอกพี่มาซิ
มันมีอะไรดีกว่าพี่บ้าง"
"พี่ไผ่อยากเห็นพี่วัชรกลับตัวเป็นคนดี!!"
วชรวรรษได้ยินก็อึ้งไปเหมือนกัน
"พี่ชายฝนตั้งใจจะล้างมือจากวงการสกปรก
อยากเป็นคนดี เขาก็สมควรจะได้คนดีๆ มาอยู่กับเขา
ไม่ใช่คนที่คอยแต่จะฉุดให้เขากลับไปอยู่กับสิ่งเน่าๆ โสมมอย่างเดิมอีก
พี่แพนอยากอยู่กับวงจรเน่าๆ เหม็นๆ ก็เชิญอยู่ไปคนเดียว
อย่ามาดึงพี่วัชรไปอยู่ด้วย"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะฝน
หยุดพูดจาก้าวร้าวคุณแพนเดี๋ยวนี้"
นรารีร้องไห้ สะบัดเดินออกไป
วชรวรรษหันมามองหน้าน้องสาว
"พี่วัชรที่ฝนพูดทั้งหมดนี้ก็เพราะ..."
"หยุดแก้ตัวได้แล้ว"
"พี่วัชรตะคอกฝนทำไม
พี่วัชรเข้าข้างผู้หญิงคนนี้เหรอคะ"
"พี่ไม่ได้เข้าข้างใคร
แต่พี่ไม่ชอบให้ฝนก้าวร้าวผู้ใหญ่ เรื่องของพี่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝนคิด
ฝนเป็นเด็ก ฝนไม่เข้าใจหรอก"
"ฝนโตแล้วนะพี่วัชร
ผู้หญิงคนนั้นไม่ดีพอสำหรับพี่วัชรเลย ไม่เหมือนพี่ไผ่"
"หยุดพูดได้แล้วฝน
หยุดยุ่งกับเรื่องของพี่สักที ชีวิตพี่พี่ตัดสินใจเองได้"
"ได้ พี่วัชร
ถ้าพี่วัชรยืนยันว่ามันเป็นชีวิตของพี่ ฝนไม่เกี่ยว ฝนก็จะไม่ยุ่งกับพี่อีก
เชิญพี่อยู่กับผู้หญิงของพี่ไปก็แล้วกัน ฝนจะไม่อยู่ให้พี่วัชรรำคาญอีก"
วรรษวิ่งออกไปด้วยความเสียใจ วชรวรรษว้าวุ่นใจ
นรารีโทรศัพท์หาใบไผ่ในคราบทองเอก
ร้องห่มร้องไห้บอกว่าเมื่อคืนวชรวรรษอยู่กับผู้หญิงอื่น
ใบไผ่ถึงกับชะงักเพราะเป็นตัวเอง พยายามปลอบให้นรารีใจเย็นๆ ใบไผ่ลำบากใจ
รีบมาปรึกษาแก้วขวัญ บอกว่าเธอคงต้องไปพบนรารีตามนัด เพราะถ้านรารีเป็นอะไรไป
เธอก็คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
ใบไผ่ในคราบทองเอกเดินออกมาจากร้าน
นาทเห็นเข้าก็หัวเสีย ก่อนจะรีบนำกล่องขนมไปให้แก้วขวัญ
แก้วขวัญมองอย่างแปลกใจว่านาทมาไม้ไหน
พอแกะห่อใบเตยเห็นว่าข้างในคือข้าวเหนียวสังขยา มีกระดาษแปะอยู่
แก้วขวัญหยิบกระดาษมาแกะออกอ่าน
"สังขยาหน้าตั้งไข่ ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าพี่เศร้าโศกเหลือ ไม่เกิดเป็นผู้หญิงซะเลยล่ะ
ช่างประชดประชันเหลือเกิน"
"ถ้าผมเกิดเป็นผู้หญิง
ผมก็ไม่ได้เจอคุณแก้วน่ะสิครับ ที่ผมมาหาคุณแก้ววันนี้ ผมจะบอกว่าผมทำใจได้แล้ว
ผมมันแค่ไอ้หนุ่มบ้านนาคนซื่อ ไหนเลยจะสู้หนุ่มกรุงเทพหน้าอ่อนนั่นได้ล่ะครับ"
แก้วขวัญรู้สึกสงสาร ทานขนมที่นาทนำมาให้ เวลาผ่านไปสักพัก
แก้วขวัญก็หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่นาทใส่ลงไปในขนม
นาทอุ้มแก้วขวัญมาที่กระท่อมกลางนา สั่งให้เข่งคอยดูต้นทางให้
นรารีนัดใบไผ่ในคราบทองเอกมาพบที่ผับ
เธอดื่มจนเมาพร้อมกับรำพันเรื่องวชรวรรษมีหญิงอื่น ก่อนจะฟุบหลับไป
เวลาผ่านไป
แก้วขวัญตื่นขึ้นมาตกใจที่เห็นตัวเองอยู่ในกระท่อม มือถูกมัด
แก้วขวัญพยายามลุกขึ้นมานั่ง นาทก็เดินเข้ามาหา
"ฟื้นแล้วเหรอครับคุณแก้ว"
"คุณนาท นี่คุณทำอะไรฉัน คุณวางยาแล้วจับฉันมาเหรอ"
"ผมขอโทษนะครับที่ต้องใช้วิธีนี้ แต่ผมจำเป็นจริงๆ ถ้าผมไม่ทำ
คุณแก้วคงไม่ยอมออกมากับผม"
"คุณคิดจะปล้ำฉันเหรอคุณนาท"
"ไม่ใช่ครับ
ผมไม่ทำอะไรที่มนเป็นการกระทำไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่ผมรักหรอกครับ
ผมแค่อยากจะมีโอกาสได้อยู่ตามลำพัง
ได้คุยเปิดอกกับคุณแก้วเอาให้เคลียร์กันวันนี้เลย"
แก้วขวัญโมโหที่นาทมัดเธอ
พยายามทำใจเย็นบอกว่าเธอจะคุยกับนาทดีๆ ถ้านาทยอมปล่อยเธอ
นาทลังเลก่อนจะตัดสินใจแก้มัด พอแก้วขวัญเป็นอิสระก็จัดการกับนาทจนสะบักสะบอม
นาทอ้อนวอนว่าจะฆ่าเขาให้ตายแล้วควักหัวใจออกมาพิสูจน์ก็ได้ว่าเขารักแก้วขวัญจริง
แก้วขวัญเห็นท่าทีของนาทก็ใจอ่อน
"คุณนาท ความจริงแล้ว คุณทองเอกเขา เขา เขา"
แก้วขวัญอึกอักอยากจะบอกความจริง
"ทำไมครับ เขาทำไมคุณแก้ว หรือว่า เขา
เขาได้คุณแก้วแล้ว"
"ตาบ้า คุณทองเอกเขาไม่ใช่คนอย่างที่คุณคิด" แก้วขวัญตบฉาด
"แล้วเขาเป็นแบบไหน"
"เขาเป็นคนที่คุณรู้จักดีกว่าฉันซะอีก"
แก้วขวัญเดินออกไป นาทนั่งงงไม่เข้าใจ

ไม่มีความคิดเห็น: