วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 2

นาทกลับมาที่บ้านอรุณรักษ์
จับหน้าที่บวมปูดจากการโดนชกเดินเข้ามากับใบไผ่ซึ่งเหมือนคนไร้วิญญาณ
เพราะรสจูบของวชรวรรษยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
แม้นาทจะพูดอะไรใบไผ่ก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ
อุบลทำอาหารมาให้ทั้งสองกินเพราะเห็นนาทบอกว่ายังไม่ทันได้กินอะไรก็เกิดเรื่องเสียก่อน
แต่ระหว่างนั้นใบไผ่เหม่อลอย กินอาหารอะไรก็ไม่ถูกปาก
จนกริชแปลกใจคิดว่าอาหารคงไม่อร่อย
"ไม่ใช่นะจ๊ะ
ข้าวต้มฝีมือป้ายังอร่อยเหมือนเดิม แต่ฉันขอโทษเถอะจ้ะ
ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์มากินข้าวต้มจืดๆ จริงๆ ฉันอยากกินอะไรก็ได้ที่มันจัดจ้าน
รสจัด เผ็ดร้อน แซ่บลิ้น จี๊ดจ๊าด โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว
ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วไม่งั้นอกแตกตาย"
ใบไผ่รีบเข้าครัว
สับพริกขี้หนูขาดฉับ แล้วก็สับๆ
เหมือนต้องการระบายความแค้นที่โดนวชรวรรษขโมยจูบแรกของเธอไป
กระหน่ำตำพริกในครกจนเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ร้อนจนทนไม่ไหว
ถอดเสื้อเชิ้ตออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามตัวในดูเซ็กซี่มาก เธอตั้งเตา เอากะทะขึ้นวาง
หยิบพริกขี้หนูมาโปรยลงในกะทะ ไฟลุกพรึบจนเกือบถึงเพดาน การคั่วพริก
ออกลีลาวาดลวดลายรุนแรง
เวลาเดียวกันนั้น วชรวรรษกลับมาที่คฤหาสน์วชิรธาน
ยังติดใจรสจูบของใบไผ่จนมีอาการเหม่อลอย ไร้สติไม่แพ้ใบไผ่เหมือนกัน จนวรรษาแปลกใจ
วชรวรรษบอกว่าเขาคงเหนื่อย วรรษาเบื่อไม่อยากยุ่งกับพี่ชายจึงแยกตัวขึ้นไปบนห้อง
ในขณะที่วิชญ์มองวชรวรรษด้วยความสงสัย ถามทศว่าเจ้านายเป็นอะไร
ทศทำหน้าหน้ากระอักกระอ่วน ขนลุก เมื่อนึกถึงว่าวชรวรรษเพิ่งไปจูบกับผู้ชายมา
วชรวรรษยังคงนั่งนิ่งจับริมฝีปากตัวเอง คิดถึงตอนที่จูบปากใบไผ่
"รสจูบแบบนี้
แปลก ไม่เคยเจอมาก่อน ทำไมมันยังมีรสชาติติดอยู่อีก"
วชรวรรษครุ่นคิดก่อนจะไปปลุกป้าแหววให้ลุกขึ้นมาทำอาหารให้เขาทาน บอกว่าเขาหิว
ป้าแหวถามว่าวชรวรรษต้องการจะทานอะไร
"อืม อะไรที่มันหวานๆ อมเปรี้ยวนิดๆ
เค็มแล้วก็มันหน่อยๆ เวลาที่มันสัมผัสปากมันรู้สึกนุ่ม หอมหวาน
เหมือนตัวเองลอยอยู่ในวิมาน"
"คุณวัชล้อป้าเล่นเหรอเปล่าคะ
อาหารอะไรจะมีรสชาติขนาดนั้น คุณวัชไปทานอาหารเทวดามาเหรอไงคะ"
"ไม่รู้ล่ะป้า
เอาเป็นว่าป้าต้องทำให้ผมทานให้ได้ก็แล้วกัน"
ป้าแหววได้แต่อึ้งกลุ้มใจ
จะทำอย่างไรดี จนในที่สุด ป้าแหววก็ยกอาหารสามสี่อย่างมาวางตรงหน้าวชรวรรษ
วชรวรรษชิมดูแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่รสชาติที่ต้องการเลยสักจาน
"คุณวัชบอกป้ามาตามตรงเถอะค่ะว่าคุณวัชไปทานอะไรมา ป้าจะได้ทำได้ถูกใจ"
"เฮ้อ ผมไม่ได้ไปกินอะไรมาหรอกครับ แต่ผมไปจูบ"
"หา!! จูบ"
"ครับ
ผมไปจูบผู้หญิงคนหนึ่งมา รสสัมผัสที่ริมฝีปากของเธอทำให้ผมลืมไม่ลง"
ป้าแหววหัวเสียกระแทกถาดลงบนโต๊ะ "งั้นป้าก็คงทำให้คุณทานไม่ได้หรอกค่ะ
ป้าไปนอนก่อนนะคะ เสียเวลาจริงๆ"
วชรวรรษเอนตัวพิงพนักเก้าอี้คิดหนัก
ถวิลหารสสัมผัสนั้น
ที่ครัวบ้านสวนอรุณรักษ์
ทุกคนในบ้านรวมทั้งทองหยอดเด็กคนงานต่างได้กลิ่นอาหารที่โชยมาจากครัว
ต่างรีบพากันมาตามกลิ่น
และพบว่าใบไผ่ทำอาหารตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งเช้ามากมายหลายอย่าง
ในขณะที่เจ้าตัวฟุบหลับน้ำลายยืดอยู่ตรงนั้น
รสชาติอาหารที่ใบ่ไผ่ทำทุกอย่างล้วนรสชาติจัดจ้านที่ทุกคนไม่เคยเห็นเธอทำมาก่อน
อุบลคิดว่าอาหารรสจัด ส่อความหมายถึงอารมณ์สวาท จึงคิดว่าใบไผ่อาจจะกำลังมีแฟน
วชรวรรษมาทานสเต็กกับนรารี แต่เขายังคงนั่งนิ่งกินอะไรไม่ลงจนนรารีแปลกใจ
วชรวรรษบอกว่าเขาทานอาหารมาก่อนหน้าแล้วอิ่มมาก
ระหว่างนั้นทศเข้ามารายงานวชรวรรษว่าลูกน้องของวชรวรรษถูกทำร้าย
เป็นฝีมือของแป๋งคนของเสี่ยทำนุ วชรวรรษเจ็บใจ ฝากให้นรารีช่วยดูแลวรรษาแทนเขาก่อน
วชรวรรษตามไปลากตัวแป๋งจากโต๊ะสนุ้กฯ
แล้วลากคอไปพบกับเสี่ยทำนุที่อาบอบนวดบอกว่าลูกน้องของเสี่ยทำนุแทงลูกน้องของเขา
เสี่ยทำนุมองแป๋งไม่พอใจ สอบถามเมื่อรู้ว่าแป๋งทำจริงๆ เขาจึงยิงแป๋งกลางแสกหน้า
ตายคาที่ต่อหน้าวชรวรรษ วชรวรรษถึงกับอึ้ง รู้สึกผิดต่อแป๋งอย่างมาก
"ผมไม่ได้ต้องการให้เสี่ยทำแบบนี้"
"แล้วลื้อพามันมาหาอั๊วทำไม
หรือว่าลื้อจะให้อั๊วตีก้นมันเป็นการลงโทษ"
"ผมแค่ต้องการให้เสี่ยรู้ว่าข้อตกลงระหว่างเสี่ยกับพ่อผมยังเหมือนเดิม
ต่างคนต่างอยู่
เสี่ยคงไม่อยากให้วิญญาณพ่อผมต้องลุกขึ้นมาเอาเรื่องกับเสี่ยหรอกนะครับ"
"ฮึ
ลื้อคิดผิดซะแล้ว ถ้าพ่อลื้อยังอยู่ มันก็ต้องทำแบบที่อั๊วทำเหมือนกัน
อั๊วกับพ่อของลื้อร่วมหัวจมท้ายกันมา เรามีอุดมการณ์อย่างเดียวกัน ไม่เหมือนลื้อ
อั๊วรู้มาว่าลื้อกำลังจีบลูกสาวนักธุรกิจใหญ่
งั้นที่อั๊วได้ยินมาว่าลื้อจะล้างมือจากวงการก็เป็นเรื่องจริงใช่มั้ย"
วชรวรรษไม่ตอบ ทำให้เสี่ยทำนุยิ่งมั่นใจ
"น่าเสียดายธุรกิจของพ่อลื้อที่อุตส่าห์สร้างมาให้ลูกชายคนเดียว
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลื้อขายอาบอบนวด บ่อน คาราโอเกะ คาเฟ่
แล้วก็ธุรกิจทั้งหมดให้อั๊ว อั๊วให้สองร้อยล้าน"
วชรวรรษแค่นหัวเราะ
ทำให้เสี่ยทำนุแปลกใจ
"ธุรกิจผมเป็นพันล้านน่ะเสี่ย แค่สองร้อยล้าน
เสี่ยเอาไปบริจาคซื้อโลงศพเถอะ"
เสี่ยทำนุไม่พอใจ แต่พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้
"เอาเป็นว่าลื้อกลับไปคิดดูให้ดีๆ ก็แล้วกัน เชิญ…"
วชรวรรษลุกขึ้นยืนหันหลังจะเดินออกไป พลันเสี่ยทำนุพูดขึ้น
"เดี๋ยว
อั๊วจะสอนอะไรให้ลื้ออย่างในฐานะที่อั๊วเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของลื้อ
คนอย่างพวกเรามันอยู่แต่ในที่มืด และในความมืดมันก็ไม่เคยมีแสงสว่าง ลื้อจำเอาไว้"
วชรวรรษกับทศเดินมาที่รถ วชรวรรษรู้สึกผิดที่ทำให้แป๋งตาย
จึงสั่งให้ทศนำเงินไปช่วยเหลือลูกเมียของแป๋ง
ถ้าหากทางนั้นต้องการอะไรเพิ่มก็ให้จัดหาให้
แก้วขวัญพาใบไผ่มาดูร้านที่เธอคิดว่าทำเลน่าค้าขาย แต่ราคาสูงลิบลิ่วถึง 10
ล้าน แก้วขวัญเป็นห่วงว่าใบไผ่จะมีเงินไม่พอ ระหว่างนั้นธราทิตย์
นายแบบชื่อดังเพื่อนของใบไผ่ก็ตามมาช่วยดูทำเลของร้าน
เจ้าของตึกตื่นเต้นมองธราทิตย์อย่างลุ่มหลง
ธราทิตย์จึงใช้โอกาสนี้ออดอ้อนจนเจ้าของตึกยอมลดราคาให้ใบไผ่ 2 ล้านบาท
แต่แก้วขวัญก็ยังรู้สึกว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป
ธราทิตย์บอกจะช่วยใบไผ่เรื่องเงินแต่ใบไผ่ไม่ยอมอยากจะพึ่งตัวเอง
ธราทิตย์พาใบไผ่มาทานข้าวต่อ แต่ใบไผ่รู้สึกไม่ค่อยมีอารมณ์ เพราะมีแต่สาวๆ
มองหน้าธราทิตย์และต่างรุมขอลายเซ็น
จนใบไผ่ขอร้องให้ธราทิตย์กลับแล้วเธอจะทำอาหารให้เขาทานเอง
ธราทิตย์ดีใจมากเพราะไม่ได้ทานอาหารฝีมือใบไผ่มานานแล้ว
นรารีพาวรรษมาซื้อเสื้อผ้าในห้าง
วรรษาไม่ชอบเสื้อผ้าที่นรารีเลือกให้เพราะดูฉูดฉาด เธอจึงคิดจะแกล้งนรารีบ้าง
โดยการเลือกชุดให้นรารี ซึ่งเป็นชุดที่ไม่เข้ากับนรารีเลย
แต่วรรษาก็แกล้งชื่นชมว่านรารีใส่ชุดนี้แล้วสวยมาก
ระหว่างนั้นมือถือนรารีดังขึ้น นรารีกดรับ
วรรษาเห็นนรารีเผลอจงแอบย่องออกมาแล้วถือถุงเสื้อผ้าชุดเดิมของนรารีออกมาด้วย
โดยบอกกับวิชญ์และเก่งงว่า นรารีมีธุระบอกให้กลับก่อน
แล้ววรรษาก็แอบเอาถุงเสื้อผ้าชุดเดิมของนรารีโยนทิ้งยะไป
เมื่อนรารีพูดโทรศัพท์เสร็จไม่เห็นวรรษา
จะเดินออกไปนอกห้างก็ถูกรปภ.จับตัวไว้เพราะเธอยังไม่ถอดชุดที่ลองออก
นรารีกลับไปที่ห้องลองเสื้อก็ตกใจร้องกรี๊ดเมื่อไม่พบถุงเสื้อผ้าชุดเดิม
วิชญ์รู้ทันว่าวรรษาแกล้งนรารีจึงเตือนว่าวรรษาทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
เพราะนรารีเป็นเพื่อนของวชรวรรษ และยังอายุมากกว่าวรรษาด้วยซ้ำ
วรรษาไม่พอใจที่ถูกตำหนิ
เธอเหลือบไปเห็นใบไผ่กับธราทิตย์เดินมาเลยเกิดความคิดเจ้าเล่ห์ร้องตะโกนว่าเธอถูกลวนลาม
ใบไผ่และธราทิตย์ได้ยินเข้ารีบเข้ามาช่วยเหลือ ซัดวิชญ์กับทศจนสะบักสะบอม
วรรษาเห็นได้จังหวะบอกให้ใบไผ่รีบพาเธอหนี ใบไผ่เหรอหรา
เห็นเก่งกำลังจะลุกขึ้นมาเลยจับมือวรรษาพาวิ่งหนี ไม่นานเก่งก็ลุกขึ้นวิ่งตาม
ใบไผ่พาวรรษาวิ่งหนีมาตามทาง เหลือบไปเห็นมุมมืด
จึงรีบพาวรรษาเข้าไปหลบหันมาเห็นเก่งตามมา วรรษาตกใจ
"แย่แล้ว
แบบนี้มันคงต้องเห็นเราแน่ๆ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันนเคยเห็นในหนัง
เขาชอบทำแบบนี้กัน แล้วก็รอดทุกที"
ใบไผ่หันมองวรรษาด้วยความงง
ยังไม่ทันตั้งตัววรรษาก็ดึงใบไผ่เข้ามาจูบ เก่งหันมาเห็นพอดีก็ตกใจ
"กลางวันแสกๆ ทำไปได้"
เก่งส่ายหัวเอือมๆ แล้วก็เดินไปอีกทาง
วรรษาถอนปากออกจากใบไผ่ที่ยืนตัวแข็งด้วยความตะลึง
"เขาไปแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ฉันไปก่อนนะคะ"
วรรษาเดินออกไป
แล้วก็นึกได้หันมามองใบไผ่
"อ้อ เกือบลืมบอกไป คุณเป็นจูบแรกของฉันเลยนะคะ"
วรรษายิ้มๆ แล้วก็เดินไป ใบไผ่ยังคงนิ่งงัน
ที่โดนผู้หญิงจูบปากแบบไม่ทันตั้งตัว
วิชญ์กับเก่งยืนหน้าบวมปูด
สำนึกผิดอยู่ตรงหน้าวชรวรรษ
นรารีแกล้งบอกว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ดูแลวรรษาไม่ได้จนวรรษาหายตัวไป
วชรวรรษบอกว่าไม่ใช่ความผิดของนรารี แต่เป็นเพราะวรรษาเอาแต่ใจตัวเองมากกว่า
คืนนั้น
ใบไผ่นอนหลับอยู่แล้วฝันว่าวชรวรรษและวรรษาตามมาหลอกหลอนจะรุมจูบเธอใบไผ่ตกใจร้องลั่น
"อย่านะ ไม่ อย่ามาจูบฉันนะ ไม่ ไม่ อย่า อย่าจูบ ไม่เอา"
อุบลกับกริชได้ยินเสียงก็รีบเข้ามาถามว่า
ที่ใบไผ่ร้องว่าอย่ามาจูบหมายความว่าอย่างไร หรือว่าใบ่ไผ่เคยถูกใครจูบมาแล้ว
หรือว่าใบไผ่กำลังมีแฟน ใบไผ่เซ็งบอกว่าไม่มีอะไรให้ลุงกับป้ากลับไปนอนได้แล้ว
ใบไผ่ปรึกษากับธราทิตย์และเพื่อนที่อู่รถเรื่องเงินทุนที่จะเอามาเซ้งตึก
โดยขอความร่วมมือจากเพื่อนทั้งสามให้ตามไปที่บ้าน
จากนั้นเธอก็ลงมือทำกับแกล้มแสนอร่อยให้กิน นาทเห็นหนุ่มๆ ก็เข้ามาทักทาย
ธราทิตย์ชวนนาทให้ดื่มด้วยกัน นาทปฏิเสธ
แต่พอได้กลิ่นกับแกล้มของใบไผ่นาทก็อดใจไมได้ลงนั่งร่วมวงกับสามหนุ่ม
ธราทิตย์ส่งสายตาให้ใบไผ่ว่าแผนสำเร็จ
ใบไผ่มอมเหล้านาทจนได้ที่
จากนั้นก็หลอกให้นาทเซ็นเช็คได้ จากนั้นเธอก็รีบเอาเช็คไปให้เจ้าของตึก
แก้วขวัญแปลกใจว่าใบไผ่ไปเอาเงินมาจากไหน ใบไผยังไม่ทันจะบอก
นาทก็ขับรถตามใบไผ่มาด้วยความโมโหที่ใบไผ่หลอกเอาเงินเขามา แก้วขวัญไม่พอใจหลาน
แต่ใบไผ่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ แก้วขวัญจึงหันไปจับบ่านาท ทำเอานาทเคลิ้ม
"ใจเย็นๆ นะคะคุณนาท อย่าไปต่อว่าไผ่เขาเลย
คุณนาทรู้มั้ยคะว่าการกระทำของคุณมันยิ่งใหญ่มาก
มันจะเป็นวีรกรรมที่เล่าสู่กันฟังไปชั่วลูกชั่วหลาน คุณเป็นอาที่เสียสละทำเพื่อหลาน
ช่างน่าประทับใจจริงๆ เลยค่ะ"
คำพูดของแก้วขวัญได้ผล นาทถึงกับตัวลอย
จับมือแก้วขวัญ แก้วขวัญชะงัก
"จริงเหรอครับคุณแก้ว"
"ค่ะ จริงค่ะ
เห็นแก่พี่ชายของคุณกับพี่สาวฉันที่ตายไป
ถ้าพวกเขารู้ว่าคุณช่วยผลักดันความฝันของยัยไผ่
แก้วว่าพวกเขาต้องขอบคุณคุณอยู่บนสวรรค์แน่ๆ"
"ถ้าคุณแก้วเห็นด้วยและชื่นชมว่าผมทำเพื่อหลานสาว ผมก็ไม่เสียดายเงินหรอกครับ
ไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้"
"ขอบคุณค่ะอานาท ถ้างั้นอาก็พาน้าแก้วไปกินข้าวเลยสิ
ไหนๆ วันนี้น้าแก้วก็ว่างแล้ว"
แก้วขวัญหันมาทำตาเขียวใส่ใบไผ่
ใบไผ่ทำหน้าขอร้อง แก้วขวัญหันไปยิ้มให้นาทจำใจต้องช่วยเหลือ
นาทเปิดประตูรถให้แก้วขวัญขับออกไป
ใบไผ่มองตามจนรถลับตาก่อนจะหันมามองร้านด้วยความชื่นใจอีกครั้ง
"แบบนี้ต้องฉลอง"
ใบไผ่ไปที่อู่รถ
พาธราทิตย์และเพื่อนไปเลี้ยงฉลองที่แผนการสำเร็จ โดยเพื่อนๆ
ขอให้พาไปเที่ยวที่ผับแหงหนึ่ง ใบไผ่ได้ยินสาวๆ ที่นั่นคุยกันว่าวันนี้
วชรวรรษจะมาที่นี่ ทำให้พวกสาวๆ ต้องพากันแต่งตัวสวยเพื่อให้สะดุดตาชายหนุ่ม
ใบไผ่สงสัยว่าชื่อของชายที่เธอได้ยินเป็นใคร ใบไผ่เดินออกมาจากห้องน้ำ
ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดกร๊าด หันไปมองเห็นสาวๆ กำลังรุมใครคนหนึ่ง เสียงดังเซ็งแซ่
"คุณวชรวรรษขา"
ใบไผ่มองสนใจอยากรู้ แล้วก็เห็นวชรวรรษเต็มๆ
เธอจำได้ทันทีว่าคือผู้ชายที่ขโมยจูบเธอ ใบไผ่จ้องไปที่วชรวรรษด้วยความแค้นใจ
"ที่แท้ก็ไอ้บ้านี่เอง"
ใบไผ่จ้องวชรวรรษดวงตากร้าวแข็งเตรียมพร้อมจะเอาคืน
"วชรวรรษ ชื่อเพราะเกินไปแล้ว!!"

ไม่มีความคิดเห็น: