วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

คุณแม่จำแลง 20

เขตอรัญกำลังหว่านล้อมเกรียงชัยเพราะไม่มีเอกสารตัวจริงในมือ
โดยมีพิษณุและเอมี่กำลังจับจ้องอยู่ ทั้ง2หันมามองหน้ากัน
รู้แล้วว่ารัญนรีมาเป็นนางนกต่อนี่เอง
แล้วเอมี่ก็เห็นรัญนรีลุกลี้ลุกลนเหมือนหาอะไร แล้วลุกจากโต๊ะเดินไปทางห้องน้ำ
เอมี่รีบตามไปทันที พิษณุจะห้ามไว้ก็ไม่ทัน
รัญนรีเปิดตูห้องน้ำเข้ามาหน้าตาตื่น
มองหาแล้วก็เจอมือถือวางอยู่ข้างอ่างล้างมือ รัญนรีโล่งอก
"อยู่นี่เอง
นึกว่าหายซะแล้ว เงินทองยิ่งหายากๆ อยู่"
รัญนรีพูดพลางมองกระจก
ดูหน้าผมเผ้าตัวเอง แล้วรัญนรีก็ต้องผงะ เมื่อเจอเอมี่อยู่ในห้องน้ำ ยืนมองเธออยู่
เอมี่ถามว่ารัญนรีมาทำอะไรที่นี่ และรู้จักกับเขตอรัญตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้ไหมว่าเขตอรัญเป็นคนคบไม่ได้ รัญนรีตั้งสติได้ก็แหวใส่
"ทำไมจะคบไม่ได้
ถ้าฉันอยากจะคบ มันเกี่ยวอะไรกับเธอห่ะ"
"ผมเอ่อ ฉันอยากเตือนคุณด้วยความหวังดี
ถ้าธันวามาเห็นเข้า เขาก็ต้องเตือนคุณอย่างนี้เหมือนกัน"
รัญนรีทำลอยหน้าลอยตานึก "ธันวา ใครเหรอ อ๋อ สามีเก่าเธอแต่เป็นกิ๊กเก่าฉันชิ!
ผู้ชายเฮงซวยพรรณนั้น ฉันลืมไปหมดแล้ว อย่ามาเอ่ยชื่อให้ฉันได้ยินอีก อยากจะอ้วก"
เอมี่โกรธ "ฉันอุตส่าห์มาเตือนเธอดีๆ นะ ถ้าคิดจะทำอะไรผิดๆ ล่ะก็ เลิกซะ"
"เก็บปากไว้เตือนตัวเองเถอะแม่คู๊ณ! อย่ามาแส่เรื่องของฉัน
ไปเลี้ยงไอ้ปอโต้ให้ดี
เถอะไป๊ ก่อนที่ไอ้เด็กบ้านั่นจะมีปัญหา
เพราะพ่อมันกำลังจะเอานังชัชชาลูกติด
มาเป็นแม่ใหม่ให้มัน อี่ย์
น่าสมเพชที่สุด"
รัญนรีสะบัดหน้าเดินออกไป
ธันวาในร่างเอมี่ยืนตะลึงกับความร้ายกาจของรัญนรี
เขตอรัญมาที่ทำงานของชัชชา
แต่วีรรัชนีกันเอาไว้ บอกว่าชัชชากำลังประชุมอยู่ เขตอรัญทำเหมือนว่าง่าย
ยอมกลับโดยดี แต่พอคล้อยหลังวีรรัชนี เขตอรัญก็ลอบเข้าห้องทำงานของชัชชาไป
แล้วรีบวิ่งมาเปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานของชัชชาเขตอรัญล้วงแผ่นซีดีออกมา
เตรียมพร้อมก็อปโครงงานอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ใส่แผ่นซีดีก็อปปี้งานทันที
ใช้เวลาอันรวดเร็วก็เสร็จ เขตอรัญเก็บแผ่นใส่กระเป๋า ปิดคอมพิวเตอร์
ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม แล้วรีบเปิดประตูเดินออกจากห้อง ไม่เจอใคร
รีบเดินไปยังลิฟท์
เขตอรัญกดลิฟท์รออย่างกระหยิ่มใจ ที่ลิฟท์เปิดออก
เขตอรัญชะงักหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเห็นธันวายืนอยู่
ขณะที่ธันวามีสีหน้าตกใจที่มาเจอเขตอรัญที่นี่ เดินออกมามองจับผิด
แต่เขตอรัญเดินเลี่ยงเข้าลิฟท์ กดปิดประตูทันที แต่ธันวารั้งประตูไว้อ้าไว้ทัน
"เดี๋ยว! คุณมาทำไมที่นี่?"
"แล้วแกแส่อะไรด้วยวะ ออกไป!"
เขตอรัญปรี่เข้ามาผลักอกธันวาจนผงะออกไป ประตูลิฟท์ปิดลง
ธันวาถลาไปจะขวางไว้แต่ไม่ทัน ธันวาตบประตูลิฟท์อย่างหัวเสีย รีบเดินเข้าบริษัท
เจอวีรรัชนีเดินถือถาดออกมาจากห้องประชุมพอดี จึงรีบถามหาชัชชา
วีรรัชนีบอกว่ากำลังประชุมอยู่ ธันวาพรวดพราดเข้าห้องประชุมไปทันที วีรรัชนีตกใจ
ห้ามไม่ทัน
ธันวาผลักประตูผัวะเข้ามาในห้องประชุม
ทำเอาชัชชาและทุกคนที่กำลังประชุมอยู่อย่างเคร่งเครียดตกใจ ธันวารีบบอก
"ขอโทษครับที่เสียมารยาท แต่ผมมีเรื่องสำคัญจริงๆ ต้องรีบบอกคุณ"
ชัชชาถอนใจ ปิดแฟ้มหันไปบอกกับทุกคนหยุดไว้แค่นี้ก่อน
พรุ่งนี้10โมงเช้าค่อยมาประชุมกันต่อ พนักงานพากันยิ้มรีบเก็บข้าวของกลับบ้าน
เดินออกไป ธันวารีบบอกชัชชาว่าเขาเจอเขตอรัญที่ลิฟท์ เลยถามว่าชัชชาได้เจอหรือเปล่า
ชัชชาชะงักไป
"ปล่าวนี่ หึ นี่เหรอเรื่องสำคัญของคุณ
ถึงขนาดบุกเข้ามาในห้องประชุมทำให้ฉัน เสียงาน
ฉันนึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรเสียอีก"
"นี่ยังไม่ใช่เรื่องอะไรคอขาดบาดตายอีกเหรอ
อยู่ๆสามีคุณก็โผล่มาที่นี่โดยไม่เจอคุณก่อน แล้วก็รีบร้อนกลับออกไปแบบนั้น
เขาต้องมาทำอะไรๆแน่ๆ"
ชัชชาชักคล้อยตาม มองไปที่วีรรัชนี
ถามว่าเขตอรัญมาจริงหรือเปล่า วีรรัชนีบอกว่ามาจริง แต่เธอไล่กลับไปแล้ว
ธันวายืนยัน
"ไล่อะไรกันครับ ผมเพิ่งเจอเค้าเมื่อกี้นี้เอง"
"หรือว่า
ตอนที่ฉันเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟในห้องประชุม เขาแอบกลับเข้ามาอีก?" วีรรัชนีนึก
ชัชชานึกหวั่นใจ รีบลุกเดินออกไป ธันวากับวีรรัชนีตามออกไป
000000000000000000000000000
ชัชชาเดินเข้ามามาดูที่ห้องขยับลิ้นชัก
ยังล็อคอยู่ ข้าวของเอกสารบนโต๊ะก็ยังอยู่ครบ ชัชชาหันไปมองจอคอมพิวเตอร์
มันยังคงปิดเหมือนเดิม ธันวากับวีรรัชนีเดินตามเข้ามา ถามว่ามีอะไรหายไปไหม
ชัชชายืนยันว่าไม่มี ทุกอย่างในห้องยังอยู่ครบ
ธันวาไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างเขตอรัญจะเดินออกไปมือเปล่า
ชัชชาบอกว่าเขตอรัญอาจจะแค่มากวนประสาทเธอก็ได้ ธันวาบอก
"แต่ที่ผมรู้มา
เค้ากำลังจะร่วมหุ้นกับคนอื่นทำธุรกิจใหญ่หลายสิบล้าน"
"เหรอคะ ก็ดีค่ะ
ได้ยินอย่างงี้แล้ว ฉันก็ดีใจด้วย ที่เขาคิดจะทำมาหากินเสียที"
"มันจะไม่เป็นอย่างที่คุณว่าน่ะสิ เพราะตอนนี้เค้ากำลังร้อนเงินหนัก
ต้องหาเงินไปใช้หนี้ก้อนใหญ่ เขาอาจจะดึงคุณไปเดือดร้อนด้วยก็ได้"
ชัชชางงๆ
"ยังไงกันคะ? เดี๋ยวบอกว่าเขตอรัญทำธุรกิจ เดี๋ยวก็บอกว่าเขาเป็นหนี้
ตกลงนี่คุณกำลังจะบอกอะไรฉันกันแน่คะ?"
"คุณเขตอรัญ เอ่อ" ธันวากำลังจะบอก
ปารินโผล่เข้ามาพอดี " ผมว่าคุณสนใจแต่เรื่องร้านขนมคุณดีกว่า!"
ธันวาหันไปมอง เห็นปารินเดินเข้ามา ปารินหรี่ตามอง
"ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะต้องมาใส่ใจเรื่องส่วนตัวของชัชชา
เพราะเธอมีผมดูแลอยู่แล้ว"
"ผมแค่รู้อะไรมาก็เป็นห่วงเธอ" ธันวาหันมาหาปาริน
"ถ้าเป็นห่วงเธอ คุณก็ควรอยู่ห่างๆ เธอไว้ดีกว่า"
"ปาริน" ชัชชาปราม
"ที่ผมพูดเพราะป้องกันเอาไว้
ไม่อยากให้นายเขตเอาเรื่องคุณกับคุณธันวาไปเป็นประเด็นกล่าวหาคุณว่าคบหาคนอื่น
ในการต่อสู้ฟ้องหย่าในศาล"
ชัชชาอึ้งไป อย่างจำนน ก่อนจะมองไปที่ธันวา
"ขอบคุณมากนะคะสำหรับสิ่งที่คุณรู้มาแล้วมาเตือนฉัน ฉันจะระวังตัวค่ะ"
"งั้น ผมก็หมดธุระแล้ว"
ธันวาหันเดินออกไป
ในใจผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกที่ไม่อาจจะช่วยชัชชาได้อย่างใจนึก
ชัชชาแอบมองตาม
ปารินเห็นเข้า ก็รีบเปลี่ยนบรรยากาศชวนพูดยิ้มแย้ม
"ผมไปรับน้ำฟ้าที่เรียนพิเศษไปส่งบ้านให้เรียบร้อยแล้วนะครับ
คุณชัชชาต้องพาผมไปเลี้ยงข้าว ตามสัญญานะครับ"
"กลัวฉันเบี้ยวหรือไง
ไม่เห็นต้องทวงกันขนาดนี้เลย รอเดี๋ยวนะ ขอเก็บของก่อน"
ชัชชาฝืนยิ้ม
หันไปเก็บเอกสาร ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นไม่สบายใจ ปารินหุบยิ้ม
เขาจำเป็นต้องทำตัวกันธันวาเพราะรักชัชชา ไม่ยอมเสี่ยงให้เธอรักใครอีก
และคิดว่านอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครจะทำให้ชัชชามีความสุขได้
0000000000000000000000000
หลังจากซ้อมละครเสร็จ ธันวาในคราบของเอมี่
ก็ต้องรีบไปพบชัชชาตามที่นัดไว้ เพื่อคุยเรื่องงานต่อ เอมี่รีบขึ้นรถ
โดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่าศศิวิภาขับรถตามมาตั้งแต่ที่ซ้อมละครแล้ว
เพื่อหวังจับผิดเอมี่ให้ได้คาหนังคาเขา
เมื่อไปถึงห้างสรรพสินค้า
ธันวาก๋ถอดวิกผมเอมี่ออก กำลังแปลงร่างกลับมาเป็นธันวาอย่างเร่งรีบ อยู่ในรถ
ธันวาเห็นชัชชากำลังเดินจากลานจอดรถเข้าประตูห้างไป
ธันวามองพลางควานหารองเท้าจากเบาะหลังรถ อารามรีบไม่ทันมอง หยิบรองเท้ามาคนละข้าง
ยัดลงใส่เท้าตัวเองโดยไม่ทันได้มอง
ศศิวิภากำลังขับรถช้าๆ มองหารถของเอมี่
แล้วก็เห็นรถจอดอยู่ไม่ไกล ศศิวิภาจ้องไป
เห็นประตูรถเปิดออกพร้อมกับเท้าที่ใส่รองเท้าผ้าใบข้าง
รองเท้าหนังข้างที่เก่าทั้ง2ข้าง แต่แทนที่จะเป็นเอมี่ที่เธอตามมา
กลับเป็นธันวาซะอย่างนั้น ศศิวิภาตกใจ
"ห๊า! ผีหลอกกลางวันรึปล่าวนี่
ฉันขับรถตามยัยเอมี่มานี่นา ทำไมกลายเป็นนายธันวาไปได้
มันจอดรับส่งกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เอ้ มันยังไงกันเนี่ยะ"
ศศิวิภามองไปอีกที
ธันวาเดินไปไกลแล้ว ศศิวิภาคว้ากระเป๋ารีบลงจากรถ วิ่งตามไป
ผ่านรถของธันวาก็ส่องๆดูในรถ แต่ไม่พบใคร
"แล้วยัยเอมี่หายตัวไปไหนเนี่ยะ?
ลงไปตอนไหนนะ?"
ศศิวิภาก้มมองดูใต้รถแต่ไม่มีเอมี่ รีบผละตามธันวาไป
ชัชชาเดินมา ก้าวขึ้นบันไดเลื่อน ธันวาเข้ามาเรียก ชัชชาหันไปมอง
เห็นธันวากำลังวิ่งมาด้วยรอยยิ้ม หัวใจเธอเต้นโครมครามอีกแล้ว
จนชัชชาต้องบีบสายสะพายกระเป๋าแน่น
ธันวาวิ่งขึ้นบันไดเลื่อน
มายืนหอบอยู่ต่อหน้าเธอ ชัชชาถาม
"ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วยคะ"
"เดี๋ยวผมมาไม่ทันคุณน่ะสิ ผมอยากเจอคุณ"
ชัชชาอึ้งมองหน้าธันวาทันที
จนไม่ทันสังเกตว่าบันไดเลื่อนถึงชั้นบนแล้ว ทำเอาชัชชาเกือบล้ม
ธันวาคว้าตัวชัชชาดึงออกมาได้ทัน ทำให้มือของธันวากุมมือชัชชาไว้แน่น
ชัชชาเขิน
ดึงมือตัวเอง ผละห่างออกมาจากธันวา ศศิวิภาตามมาทัน เห็นทั้งคู่กำลังยืนคุยกัน
"นึกว่ารีบร้อนไปไหน ที่แท้ก็มานัดพบกับยัยชัชชานี่เอง แบบนี้ต้องเก็บหลักฐาน"
ศศิวิภาล้วงมือถือออกมาถ่ายรูปไว้ ขณะที่ธันวาออกเดินคุยกับชัชชาไป
ธันวาพยายามจะพูดกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ไก่ตื่น
"ที่ผมอยากมาเจอคุณ
เพราะอยากจะแก้แบบตกแต่งร้านบางมุมน่ะครับ"
"อ๋อ เหรอคะ หื๊อ?"
ชัชชาปรายตามองเห็นรองเท้าของธันวา ชัชชากลั้นขำ
"นี่คุณรีบมากหรือว่าเป็นแฟชั่นใหม่ค่ะ"
ธันวาก้มลงมองรองเท้าตามสายตาชัชชา
แล้วตกใจ ธันวาหันมองรอบตัว เห็นคนมองพากันยิ้มขำกัน ธันวายกมือปิดๆหน้าอย่างอาย
รีบบอกให้ชัชชาพาไปเลือกคู่ใหม่ ธันวาคว้าแขนชัชชาดึงไป
ศศิวิภาขึ้นบันไดเลื่อนตามมาถ่ายรูปไว้
ธันวาลองรองเท้า แต่ใส่ติดส้น
ชัชชานั่งยองลงจับรองเท้าให้ธันวาสวม ทำเอาธันวาถึงกับอึ้ง
นานมากแล้วที่ไม่มีใครดูแลใส่ใจเขา ศศิวิภาแอบถ่ายรูปอยู่หน้าร้าน
ตั้งใจเอาไปประจาน ขณะที่ชัชชานั่งยิ้มเมื่อเห็นธันวาใส่รองเท้าได้พอดี
"ใส่ได้พอดีเลยค่ะ คุณชอบไหม๊คะ?"
ชัชชาเงยหน้าถามด้วยรอยยิ้ม
ธันวานั่งยองลงบอกกับเธอ
"ชอบครับ" แล้วธันวาก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มชัชชา
"ขอบคุณมากครับ"
ชัชชาตะลึงงัน มองหน้าธันวา
ศศิวิภาถ่ายรูปไม่ได้เพราะทั้งคู่นั่งลงมีชั้นวางรองเท้าบังมิด
ศศิวิภาชะเง้ออย่างหงุดหงิด ขณะที่ชัชชาลุกขึ้นหลบหน้า
"เอ่อ
ฉันคงไปดูร้านไม่ได้แล้ว มีประชุมที่บริษัท ฝากคุณดูด้วยนะคะ"
แล้วชัชชาก็รีบเดินออกจากร้านไป ศศิวิภารีบหลบ ธันวาลุกขึ้นยืนมอง
อยากจะตบกะบาลตัวเองนัก
"ไอ้ธันวาเอ้ย ทำไมแกทำอย่างงั้นวะ"
ธันวายืนถอนใจ
ก้มลงมองรองเท้าแล้วยิ้ม
ตกกลางคืน ธันวาส่งข้อความหาชัชชา
"ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ หลับฝันดีนะครับ"
ชัชชานั่งยิ้มน้อยๆ จับแก้มตัวเอง
นึกถึงตอนที่ถูกธันวาหอมแก้ม ชัชชานั่งเหม่อ
จนน้ำฟ้าที่นอนอยู่ข้างๆงัวเงียหันมาถาม
"ใครส่งอะไรมาให้คุณแม่คะ?"
ชัชชารีบหลบมือถือ "อ๋อ เลขาแม่น่ะจ้ะ นอนเถอะลูก"
ชัชชาหันไปปิดโคมไฟ
นอนลงกอดลูก
000000000000000000
ที่ทำงานเกรียงชัยด้านนอกบริษัท
รัญนรีก้าวเดินเข้าตึกมา แล้วต้องชะงักเมื่อจ๊ะเอ๋เข้ากับศศิวิภาที่ก้าวเข้ามาพอดี
"อ้าวคุณน้อง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน มาทำอะไรแถวนี้คะ?"
"ฉันก็มีธุระของฉันน่ะสิคะ"
รัญนรีพูดตัดบทเชิดๆ
แบบไม่อยากเสวนาด้วยเท่าไหร่ เลยทำให้ศศิวิภาหมั่นไส้
"ธุระที่บริษัทธุรกิจใหญ่อย่างนี้น่ะเหรอคะ หึ อย่างคุณน้อง
ไม่น่าจะเชี่ยวชาญเรื่องงานธุรกิจอะไรกับเค้าเลยนะคะ
ถ้าเชี่ยวชาญเรื่องอื่นก็ว่าไปอย่าง"
รัญนรีเสียงเขียว "เชี่ยวชาญเรื่องอะไร?"
"แหมก็รู้ๆ กันอยู่ อย่าให้พี่ต้องพูดให้อายปากเลยค่ะ พี่ว่านะ คุณน้องเอาเวลา
ไปไล่จับนายธันวากิ๊กน้องให้อยู่หมัดดีกว่ามาทำปากดีกับพี่ รู้ม่ะ ว่านายธันวา
ของคุณน้องเที่ยววิ่งโร่ตามยัยชัชชายังกับอดอยากมานาน สงสัยน้องจะไม่มี
น้ำยาล่ะพี่ว่า ผู้ชายถึงหันไปหาของมือสอง"
รัญนรีเท้าเอว
"ฉันว่า...คุณนี่คงป่วยนะ"
"ป่วยอะไร?"
"ป่วยทางจิตไง!
เที่ยวสอดแส่เรื่องของชาวบ้านอยู่ได้ สามีตัวเองน่ะ ดูให้ดีก่อนเถอะ
โง่อย่างนั้นมีหวังหมดตัวเพราะมีเมียปัญญาอ่อนอย่างคุณ"
"แกสิปัญญาอ่อน?"
ศศิวิภาตบรัญนรี
"อ๊าย! แกตบฉันเหรอ เอาซี้" รัญนรีตบคืน
ทั้งคู่เสียงดังจนรปภและคนแถวนั้นต้องเข้ามาห้าม พอถูกแยกกันได้
รัญนรีก็เป็นฝ่ายเดินผละ ศศิวิภาเข่นเขี้ยว
"อย่าให้เจออีกนะนังบ้า"
รัญนรีเดินมาหลบมุมโทรหาเกรียงชัย "ฮัลโหล คุณเกรียงชัยรีบหลบออกมาเร็วๆ ค่ะ
เมียคุณกำลังเข้าไป ฉันรออยู่ข้างนอกนะคะ"
เกรียงชัยหน้าตาตื่น
เมื่อรู้ว่าศศิวิภากำลังจะเข้ามา รีบสั่งเพื่อนทุกคนไม่ให้บอกว่าเขาไปไหน
แล้วรีบชิ่งไปทันที อุเทนมอง เห็นเกรียงชัยลับสายตาไปแล้ว
ก็ลุกจากโต๊ะเดินเลียบๆเคียงๆไปที่โต๊ะเกรียงชัยเพื่อไม่ให้ใครสงสัย
อุเทนรีบมาดูเอกสารโปรเจ็คที่เกรียงชัยลืมเก็บวางทิ้งไว้บนโต๊ะ
เห็นเป็นโปรเจ็คของชัชชากรุ๊ป อุเทนตะลึงมอง เป็นอย่างที่ก่อนหน้านี้ธันวาโทรหาเขา
และบอกเรื่องที่เกรียงชัยกำลังจะโดนเขตอรัญหลอกจริงๆ อุเทนรีบกดมือถือหาธันวา
"ฮัลโหล คุณธันวาเหรอ? ผมเองนะ ได้เรื่องแล้ว
ผมเห็นเอกสารโปรเจ็คอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ตัวจริงของบริษัทชัชชากรุ๊ปอยู่บนโต๊ะเกรียงชัย
ตอนนี้เขา รีบร้อนออกไปแล้ว
ผมได้ยินเขาพูดโทรศัพท์นัดแนะกับใครไม่รู้ว่าจะไปเจอกันร้านเดิม
อาจจะเป็นนายเขตอรัญก็ได้ ครับแล้วคุณจะทำยังไงต่อไป อ๋อเหรอครับ ระวังตัวนะครับ"
อุเทนกดวางสาย เห็นศศิวิภาเข้ามา มองไม่เจอเกรียงชัยที่โต๊ะ
ถามว่าเกรียงชัยไปไหน เพราะโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด
แต่ไม่มีใครบอกเลยว่าเกรียงชัยหายไปไหน ศศิวิภาหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ
เอมี่กับพิษณุขับรถเข้ามาจอด รีบลงจากรถเดินไปที่ร้าน มองเข้าไปในร้าน
แต่ไม่ทันการณ์แล้ว เห็นเกรียงชัยกำลังเซ็นเช็คให้เขตอรัญไปแล้ว
เขตอรัญมองเช็คแล้วก็หุบยิ้ม
"อ้าว ทำไมเซ็นเช็คให้แค่ 10 ล้านล่ะครับ?"
"ผมจ่ายแค่ครึ่งนึงก่อน จนกว่าผมจะเห็นสัญญาเซ็นอนุมัติเพื่อเป็นหลักประกัน
แล้วผมจะจ่ายที่เหลืออีก 10 ล้าน" เกรียงชัยบอก
"แหม
คุณเกรียงชัยนี่รอบคอบจริงนะคะ สมกับเป็นนักธุรกิจคนเก่งอนาคตไกล" รัญนรีทำยอ
"โอเคครับ 10 ล้านเป็นมัดจำล่วงหน้า ผมว่าก็แฟร์ดี แล้วผมจะรีบเอาสัญญา
อนุมัติโครงการมาให้คุณ"
เขตอรัญจำยอมไป เอมี่กับพิษณุมองหน้ากันอย่างมาช้าไป

ไม่มีความคิดเห็น: