วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 9

วรรษากลับมาบ้าน ทิ้งตัวนั่งลงอย่างแรงด้วยความหัวเสียข้างๆ
วชรวรรษ "พี่วัชรรู้มั้ยคะว่าแฟนพี่บุกไปด่าพี่ไผ่ถึงที่ร้าน
พูดจาหยาบคายจนน่ารังเกียจ เหมือนพวกไร้การศึกษา แถมยังดูถูกขนมไทยที่พี่ไผ่ทำ
พี่วัชรต้องจัดการเรื่องนี้ให้ฝนนะคะ ฝนไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาด่าพี่ไผ่ฟรีๆ"
"ฝนเห็นกับตาเหรอว่าคุณแพนทำอย่างที่ฝนพูด ไม่ได้ไปฟังใครมา"
"นี่พี่วัชรหาว่าฝนโกหกเหรอ ฝนเห็นกับตาได้ยินกับหู พี่แพนกำลังคุกคามพี่ไผ่
พี่ไผ่ไม่ได้เถียงพี่แพนสักคำ"

"แน่ใจนะว่าพี่ไผ่ของฝนไม่ได้ใช้กำลังตอบโต้ หรือออกฤทธิ์ออกเดช
ถึงทำให้คุณแพนเขาทนไม่ไหว" "นี่ฝนพูดจนปากจะฉีกถึงรูหู
พี่วัชรก็ยังเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอคะ" "ฝน เรียกคุณแพนเขาให้ดีๆ หน่อย
ยังไงเขาก็จะมาเป็นพี่สะใภ้ของฝน"
"ชาตินี้ฝนไม่มีทางรับผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สะใภ้เด็ดขาด ไม่มีวัน" "ฝน!!"
วรรษาลุกเดินหนี วชรวรรษลุกตาม นรารียืนอยู่ตรงประตูได้ยินทุกอย่าง วชรวรรษตกใจ
"คุณแพน" นรารีเดินเข้ามาประจันหน้าวรรษา
"มันผิดด้วยเหรอคะน้องฝนกับการที่พี่จะปกป้องผู้ชายที่พี่รัก แม่ทอมนั่นไม่ใช่คนดี
เขาเล่นละครตบตาน้องฝน น้องฝนกำลังถูกเขาครอบงำรู้ตัวมั้ยคะ" "พี่ไผ่เป็นคนดี
ไม่เคยหลอกใคร พี่แพนต่างหากล่ะคะที่กำลังถูกหลอกรู้ตัวเหรอเปล่า"
นรารีมองวรรษาสงสัย วชรวรรษหน้าถอดสี "ฝน พูดอะไร" วรรษามองวชรวรรษเย้ยๆ
ก่อนจะหันไปมองนรารี
"พี่แพนเคยคิดบ้างมั้ยคะว่าที่พี่วัชรแต่งงานกับพี่แพนเพราะอะไร" "ทำไมพี่จะไม่รู้
เพราะคุณวัชรรักพี่ยังไงล่ะคะ" "แน่ใจมากเหรอคะพี่แพน" "ฝนหยุดพูดเดี๋ยวนี้!!"
วัชรวรรษห้าม "พี่แพนนี่น่าสงสารนะคะที่เข้าใจผิดมาโดยตลอด" "ฝน
พี่บอกให้หยุดพูดไง" "พี่วัชรเขาไม่ได้รักพี่แพนหรอกนะคะ
แต่ที่เขาขอพี่แพนแต่งงานก็เพราะ…" วรรษายังพูดไม่จบก็ถูกวชรวรรษตบหน้าอย่างแรง
ทำเอาวรรษาอึ้งช็อค นรารียิ้มหยัน วรรษาจับหน้าตัวเองแล้วหันไปมองวชรวรรษน้ำตาคลอ
"ฝน พี่" วรรษาโกรธและเสียใจวิ่งออกไป วชรวรรษกำลังจะตาม
แต่นรารีเข้ามาควงแขนวชรวรรษเอาไว้ "อย่าเพิ่งตามน้องฝนไปนะคะคุณวัชร
ตอนนี้น้องฝนเหมือนไฟ ยิ่งเอาน้ำมันไปราด ไฟมันจะยิ่งลุก ให้เวลาแกสักพักเถอะค่ะ"
"คุณแพนครับ" "คุณวัชรไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะ แพนรู้ว่าสิ่งที่น้องฝนพูด
น้องฝนพูดไปเพราะยัยทอมนั่นสอน แพนเชื่อใจคุณค่ะ" "ขอบคุณมากนะครับคุณแพน
ว่าแต่ที่คุณแพนมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ" "คุณพ่อให้แพนมาพาคุณไปพบท่านค่ะ"
วชรวรรษไปพบพยุทธ์ ก็ถูกพยุทธ์ตั้งคำถามตรงๆ ทำเอาวชรวรรษชะงัก
"ได้ข่าวว่าคุณไปติดพันผู้หญิงเหรอ" "คุณพ่อขา" "เราไม่ต้องแก้ตัวแทน
ว่าไงครับคุณวัชร" "มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ ผมกับผู้หญิงคนนั้น
เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คนที่ผมรัก คือคุณแพนครับ
และผมจะไม่วันยกเลิกงานหมั้นเด็ดขาด"นรารียิ้มด้วยความดีใจ
"ผมได้ยินคุณพูดจากปากก็สบายใจ เพราะวันมะรืนนี้บริษัทผมจะมีงานฉลองครบรอบ 25 ปี
ผมจะประกาศเรื่องหมั้นของคุณกับลูกสาวผมในงานนี้ หวังว่าคุณคงไม่ว่าผมนะ
ที่ผมวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยไม่ได้ปรึกษา" "ผมจะไปว่าอะไรได้ล่ะครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณพยุทธ์ทุกอย่าง ทุกคนจะได้รู้สักทีว่าคุณแพนมีเจ้าของแล้ว"
นรารียิ้มด้วยความตื้นตัน พลันเสียงมือถือดังขึ้น พยุทธ์รับสาย "ฮัลโหล
ฉันจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้" "มีปัญหาอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ" "ไม่เป็นไร
ผมจัดการเอง พ่อไปออฟฟิศก่อนนะลูก ฝากดูแลลูกสาวผมด้วยนะครับ" วชรวรรษไหว้ลา
พยุทธ์เดินออกไป "งั้นเราไปดูแหวนหมั้นกันนะคะคุณวัชร
แหวนที่แพนสั่งเอาไว้เสร็จวันนี้พอดีเลย"000000000000000 วรรษามาที่ร้านขนมหวาน
ช่วยใบไผ่ทำขนมอย่างรุนแรงด้วยอารมณ์โกรธแค้น
ธราทิตย์ไม่รู้เรื่องเดินเข้ามาในครัวล้อเล่นกับวรรษา แต่หญิงสาวไม่เล่นด้วย
ธราทิตย์สังเกตเห็นรอยแดงบนใบหน้าของวรรษาก็แปลกใจถามว่าเธอไปโดนอะไรมา
วรรษาปฏิเสธแต่น้ำตาคลอจนธราทิตย์จับสังเกตได้ "ฝน มีคนทำร้ายคุณใช่มั้ย
บอกผมมาว่ามันเป็นใคร" "ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน" วรรษาปาดน้ำตาจะเดินออกไป
ธราทิตย์จับแขนรั้งเอาไว้ ยังไม่ทันที่วรรษาจะตอบ
ใบไผ่ก็เดินเข้ามาเห็นวรรษาร้องไห้จึงซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น
พอรู้เรื่องใบไผ่ตบโต๊ะด้วยความโมโห "เป็นพี่ชายภาษาอะไรใช้กำลังกับน้องสาว
ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด" "นี่ขนาดพี่วัชรยังไม่แต่งงาน
เขายังทำกับฝนขนาดนี้ ถ้าเขาพากันแต่งเข้าบ้านมาเมื่อไหร่
ฝนคงถูกไล่ออกจากบ้านแน่ๆ" "ลองทำแบบนั้นดูสิ พี่จะเล่นงานให้น่วมเลย"
"ฝนไม่อยากได้ผู้หญิงคนนั้นเป็นพี่สะใภ้เลยค่ะพี่ไผ่ ถ้าเป็นพี่ไผ่ยังว่าไปอย่าง
ฝนจะไม่ขัดขวางเลยสักนิด" ใบไผ่ถึงกับสะดุ้ง "น้องฝนอย่าพูดเป็นลางร้ายขนาดนั้นสิ
พี่เกลียดขี้หน้าพี่ชายเราอย่างกับอะไรดี เราก็รู้ ถ้าพี่ต้องแต่งงานกับเขา
พี่ขอไปบวชชีตลอดชีวิตดีกว่า" "แล้วนี่พี่ชายฝนหายไปไหน
ไม่คิดจะมาดูดำดูดีน้องบ้างเลยหรือไง" ธราทิตย์ถามอย่างไม่พอใจ
"พี่วัชรคงไม่สนใจฝนหรอกค่ะ เขาออกไปกับผู้หญิงคนนั้น
คงจะไปเตรียมเรื่องงานหมั้นกันนั่นแหละ" "มีความสุขกันจังเลยนะ
มันน่าหมั่นไส้จริงๆ" ใบไผ่พูดไปก็ครุ่นคิดหรี่ตาเจ้าเล่ห์ ธราทิตย์มองใบไผ่รู้ทัน
แต่ก็ไม่อาจห้ามการกระทำของใบไผ่ได้
ใบไผ่รีบออกจากร้านไปโดยฝากให้ธราทิตยน์ดูแลวรรษาด้วย
นรารีกำลังดูแหวนหมั้นอยู่ที่ร้านเพชรสีหน้าแช่มชื่น
ผิดกับวชรวรรษที่หน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์
ระหว่างนั้นดาริกาสาวหน้าสวยอกเซ็กซี่ก็เดินเข้ามาทักวชรวรรษ
วชรวรรษหน้าเหวอเพราะไม่รู้จัก "เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมจำคุณไม่ได้จริงๆ
เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอครับ" "แหมคุณวัชรเนี่ย มันน่าน้อยใจจริงๆ
เราเคยไปพัทยาด้วยกันในวันวาเลนไทน์ แล้วก็อยู่เล่นน้ำกันทั้งคืนยังไงล่ะคะ"
นรารีชะงักหันมาตาเขียวใส่วชรวรรษ วชรวรรษหน้าซีด "ทีนี่จำได้แล้วใช่มั้ยคะคุณวัชร"
ดาริกาควงแขนวชรวรรษ นรารีมองไม่พอใจ ดาริกาหันมาทางนรารีทำเป็นเพิ่งเห็น "อุ๊ย
นี่ใครคะเนี่ย พี่สาวคุณวัชรใช่มั้ยคะ สวัสดีค่ะ
คุณพี่รู้มั้ยคะว่าน้องชายของคุณพี่เป็นคนที่น่ารักและโรแมนติคมาก"
วชรวรรษพูดไม่ออก นรารีทนไม่ไหวผลักดาริกา
แล้วก็ควงแขนวชรวรรษแน่นประกาศตัวว่าเป็นคู่หมั้นของชายหนุ่ม "อุ๊ย ตายแล้ว
คุณวัชรหมั้นแล้วก็ไม่บอก น่าเสียดายจัง" "เสียดายอะไรยะ หล่อนออกไปห่างๆ
วัชรเขาเลยนะ แล้วก็ไม่ต้องติดต่อคุณวัชรอีก ตอนนี้คุณวัชรเขามีเจ้าของแล้ว"
"ดาไม่เกี่ยงหรอกค่ะว่าจะโสด หรือว่าแต่งงานแล้ว ถ้าคุณวัชรเบื่อเมื่อไหร่
มาหาดานะคะ ดารอคุณวัชรเสมอ" ดาริกาเข้าไปจูบแก้มวชรวรรษแล้วก็เดินออกไป
นรารีโกรธจนหน้าแดง นรารีจุกอกเปล่งเสียงไม่ออกเลยเดินออกไป วชรวรรษรีบเดินตามออกไป
"คุณแพนอย่าโกรธผมเลยนะครับ" "คุณทำขนาดนี้ ยังจะให้แพนใจเย็นอยู่อีกได้เหรอคะ"
"ผมกับเขาไม่รู้จักกันจริงๆ นะครับ เขาจำคนผิด" "จำผิด
แต่รายละเอียดถี่ยิบอย่างกับตาเห็น ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอกค่ะ" "ผมสาบานก็ได้
ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นจริงๆ" "วิชญ์!!" วิชญ์สะดุ้ง "ครับ"
"เจ้านายเธอเคยไปเที่ยวพัทยาวันวาเลนไทน์หรือเปล่า"
วิชญ์หน้าเหรอหราหันไปมองวชรวรรษ วชรวรรษขมึงตาใส่ "เอ่อ ผม ผมจำไม่ได้ครับ"
"พอกันเลยนะคะทั้งเจ้านายลูกน้อง ความจำเสื่อมพร้อมกันเลยนะคะ" นรารีสะบัดหน้างอน
วชรวรรษถอนหายใจโล่งอก พลันบริทนีย์ แอร์โฮสเตสสาวสวยเดินเข้ามา "วัชรขา"
นรารีหันไปมองวชรวรรษ "วัชรจริงๆ ด้วย บริทนีย์คิดถึงคุณจังเลยค่ะ" "บริทนีย์เหรอ"
"นี่อย่าบอกนะคะว่าคุณจำบริทนีย์ไม่ได้ เราสองคนเคยไปล่องเรือยอร์ช
แล้วก็นอนกอดกันจนถึงเช้ายังไงคะ" นรารีปากค้าง กำมือแน่นมองวชรวรรษ
วชรวรรษหันไปมองนรารีส่ายหัว บริทนีย์ควงวชรวรรษแนบแน่น
"คืนนั้นบริทนีย์มีความสุขจนลืมไม่ลงเลยล่ะคะ
บริทนีย์ยังจำไออุ่นในอ้อมกอดของวัชรไม่รู้ลืมเลยนะคะ" บริทนีย์กอดวชรวรรษ
นรารีควันแทบออกหู วชรวรรษรีบผละออกจากบริทนีย์ "ผมว่าคุณคงเข้าใจผิด
ผมไม่เคยไปล่องเรือกับคุณนะครับ" "จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ
เดี๋ยวเราค่อยมาทำความรู้จักกันใหม่ก็ได้ นี่นามบัตรบริทนีย์นะคะ
วัชรโทรหาได้บริทนีย์ยี่สิบสี่ชั่วโมง จะรอรื้อฟื้นความหลังของเรานะคะ"
บริทนีย์จูบไปที่นามบัตรก่อนจะเสียบไปที่กระเป๋าเสื้อวชรวรรษ แล้วก็เดินออกไป
วชรวรรษหันไปมองนรารี นรารีโมโหจนตัวเกร็ง
"บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะวิชญ์ว่านอกจากพัทยาแล้วก็เรือยอร์ชแล้ว
เจ้านายเธอยังไปที่ไหนอีก" "อ่า คือ" "พูดมาสิ อย่าโกหกฉันนะ"
"คือผมรู้แค่สองที่นี้เท่านั้นเองแหละครับ ที่อื่นผมไม่รู้" วชรวรรษตาเหลือก
วิชญ์ก้มหน้าจ๋อย วชรวรรษหันไปมองนรารียังไม่ทันพูด นรารีก็จ้ำเดินออกไป
วชรวรรษถอนหายใจหันมาทางวิชญ์ "ผมขอโทษครับนาย มันจวนตัวจริงๆ ครับ" "ช่างมันเถอะ
ฉันผิดเอง ว่าแต่ผู้หญิงพวกนั้นเป็นใคร เขารู้เรื่องของฉันได้ยังไง"
"นายเคยเผลอไปเล่าให้ใครฟังหรือเปล่าครับ" วชรวรรษครุ่นคิดอยู่ครู่แล้วก็นึกออก
วชรวรรษกัดกรามแน่นด้วยความแค้น "ยัยตัวแสบ!!" วชรวรรษเร่งตามนรารีมาตามทาง
จับแขนนรารีให้หันมา "ปล่อยแพนนะคะคุณวัชร" "ผมจะปล่อยก็ต่อเมื่อคุณแพนฟังผมก่อน
ผมยอมรับครับว่าเรื่องที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดเป็นความจริง แต่มันเป็นเรื่องในอดีต"
"อดีตเหรอคะ คุณไม่ต้องมาแก้ตัว แพนรู้ค่ะว่าคุณเป็นเสือผู้หญิง
แต่ไม่นึกว่าคุณจะเป็นมากขนาดนี้" "คุณแพนเชื่อผมเถอะนะครับ ผมลดละเลิกแล้วจริงๆ
ตอนนี้ผมมีแค่คุณแพนคนเดียว หัวใจทั้งดวงของผมมีแต่คุณนะครับ"
วิชญ์ถึงกับสำลักเสียงดัง วชรวรรษหันไปมอง วิชญ์รีบทำหน้าเฉย "จริงเหรอคะคุณวัชร"
"จริงแท้และแน่นอนครับ" "แพนเชื่อคุณก็ได้ค่ะ" "งั้นเราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะครับ"
สองคนกำลังจะเดินไปก็เจอใบไผ่ยืนอยู่ วชรวรรษกับนรารีตกใจ "แก แกมาที่นี่ได้ยังไง"
"ที่นี่มันเป็นที่สาธารณะ ใครๆ ก็มาได้ ไม่เห็นแปลกเลย เจอนายก็ดีแล้ว
ฉันมีเรื่องอยากบอกนายอยู่พอดี งานหมั้นของนายฉันคงไปร่วมแสดงความยินดีไม่ได้หรอกนะ
เพราะว่าฉันยังทำใจไม่ได้กับรสจูบของนาย" นรารีอึ้ง ใบไผ่เข้าไปลูบแผ่นอกวชรวรรษ
"ที่ยังติดตรึงอยู่ตรงนี้อยู่เลย" ใบไผ่ลูบปากตัวเองท่าทางเซ็กซี่
"จูบใดไหนเลยจะเท่าจูบของเจ้า" ใบไผ่แกล้งทำหน้ารวดร้าวเสียใจ
วชรวรรษนึกไม่ถึงว่าใบไผ่จะมาไม้นี้ นรารีทนไม่ไหวกรี๊ดออกมาดังลั่นจะตบใบไผ่
ใบไผ่หลบทัน วชรวรรษรีบเข้ามาจับนรารี ใบไผ่ยั่วต่อ "อุ๊ย ฉันนี่แย่จังเลย
ลืมไปว่าคุณยืนอยู่ด้วย ขอโทษนะคะถ้าคำพูดของฉันทำให้คุณเส้นกระตุก ฉันไปนะ"
ใบไผ่เดินไป วชรวรรษเจ็บใจผละจากนรารีเดินไปหาใบไผ่ "คุณเล่นบ้าอะไรของคุณ"
"ฉันม่ได้เล่น ฉันเอาจริง เวลาฉันโกรธฉันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ"
ใบไผ่หน้าเปลี่ยนเป็นเสียใจ แล้วตบหน้าวชรวรรษอย่างแรง วชรวรรษเหวอ
"สำหรับความเจ็บปวดที่คุณให้ฉัน" ใบไผ่เดินออกไป
วชรวรรษหันไปมองนรารีรีบเดินเข้ามาหา "คุณแพนครับ คือ…" นรารีตบหน้าวชรวรรษอีกด้าน
"คนใจร้าย ไม่รู้จักพอ แม้แต่ทอมก็ยังเอา" นรารีเดินฉับๆ ออกไป วชรวรรษอึ้ง
วิชญ์ยื่นยาหม่องให้ "ผมว่างานนี้เจ้านานยต้องเหมาดอกไม้ทั้งสวนแล้วล่ะครับ
คุณแพนถึงจะหายโกรธ ให้ผมจัดการให้เลยมั้ยครับ" "ไม่ต้อง เรื่องคุณแพนฉันจัดการเอง
แต่ฉันขอจัดการยัยทอมแสบนั่นก่อน" 00000000000000000 วชรวรรษมาที่บ้านสวนอรุณรักษ์
ซื้อทั้งรังนกและโสมมาเอาใจกริช อุบลและนาท พวกผู้ใหญ่ต่างถูกใจไปตามๆ กัน
ใบไผ่เดินเข้าเห็นวชรวรรษก็อึ้งไล่วชรวรรษออกไปจากบ้าน
ทั้งอบลและนาทบอกว่าวชรวรรษเอาของดีๆ มาให้ทั้งนั้น
"คนอย่างไอ้หมอนี่เหรอจะซื้อของมาให้ฟรีๆ นายใส่ยาพิษให้ลุง ป้า
แล้วก็อาฉันกินใช่มั้ย" "คุณไผ่ครับ ผมไม่ใช่คุณนะ จะได้ชอบใช้วิธีลอบกัด
ผมเป็นคนตรงๆ ทำอะไรก็ทำกันเห็นๆ ไม่มีหมกเม็ดหรือปิดบัง" ใบไผ่กำมือแน่นโกรธ
หยิบของวชรวรรษยัดใส่ถุง "เอาของนายคืนไป แล้วก็ออกไปได้แล้ว" กริชร้องห้าม "ไอ้ไผ่
มันจะเกินไปแล้ว ขอโทษคุณวัชรเขาซะ" "ไม่มีทาง!!"
ใบไผ่มองวชรวรรษด้วยความแค้นแล้วก็เดินเข้าไป
วชรวรรษยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็หันมายิ้มให้กริช อุบล นาท "ไม่เป็นไรครับ
ผมว่าผมกลับดีกว่า ไม่อยากให้ไผ่ไม่สบายใจ" ทั้งสามเดินออกมาส่งวชรวรรษที่หน้าบ้าน
แต่ทุกคนดูง่วงเหงาหาวนอนอย่างมาก วชรวรรษยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเดินออกไป
คืนนั้นใบไผ่หิวจึงมาหาอะไรกินร้องเรียกอุบลก็ไม่มีใครตอบ
แปลกใจว่ายังหัวค่ำอยู่แต่ทุกคนหลับกันหมด จึงลงมือทำไข่เจียวกินเอง
พลันได้ยินเสียงประตูบ้านเปิด จึงเดินออกไปดูว่าใครมาดึกๆ ดื่นๆ แต่ก็ไม่เห็นใคร
นอกจากประตูที่เปิดทิ้งเอาไว้ ใบไผ่หน้าเสียใจไม่ดีตะโกนเรียกลุง ป้า และอา
แต่ทุกคนก็หลับกันหมด ใบไผ่เริ่มระวังตัวคว้าไม้ตะพดของกริชขึ้นมา ค่อยๆ
เดินไปตรงประตู ทันใดนั้นวชรวรรษก็เข้ามารวบตัวใบไผ่ทางด้านหลัง ใบไผ่สะดุ้งตกใจ
"ใครวะ" วชรวรรษกระซิบข้างหูใบไผ่ "จำฉันไม่ได้เหรอ" "นาย! ปล่อยฉันนะ"
ใบไผ่ดิ้นแล้วกระทืบเท้าวชรวรรษ วชรวรรษสะดุ้งปล่อย ใบไผ่หันไปจะตีวชรวรรษ
วชรวรรษรับหมับดึงไม้ออก ใบไผ่หน้าเสีย "ลุง ป้า อานาท ช่วยไผ่ด้วย"
"ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ป่านนี้เขาหลับกันไปหมดแล้ว" "นายรู้ได้ไง นี่
นายวางยาลุงป้าแล้วก็อาฉันเหรอ" "ฉลาดขึ้นมาแล้วนี่" "ไอ้บ้า ไอ้สารเลว"
ใบไผ่จะต่อย วชรวรรษหลบแล้วก็ดึงใบไผ่มากอดแน่น "เกมนี้เธอเป็นคนเริ่มก่อนนะใบไผ่
อยากหาเรื่องกับเจ้าพ่อ เธอก็ต้องโดนวิธีสั่งสอนอย่างเจ้าพ่อ" "ไอ้หมาวัด
ปล่อยฉันนะ" "ฉันไม่ปล่อย ยังไงวันนี้ฉันต้องสั่งสอนเธอให้ได้
เธอจะได้รู้ไว้ว่าคุณแพนมีความสำคัญกับฉันมาก เธอจะได้เลิกทำลายชีวิตฉันซะที"
ใบไผ่ทนไม่ไหวหงายหัวโขกหน้าวชรวรรษ วชรวรรษถึงกับมึนปล่อยมือ ใบไผ่รีบวิ่งออกไป
วชรวรรษจับหัวด้วยความเจ็บ "นอกจากแสบแล้วยังหัวแข็งอีก" วชรวรรษรีบตามใบไผ่ไป
ใบไผ่วิ่งหนีมาตามทาง โดยมีวชรวรรษไล่ตามมาติดๆ "เธอหนีฉันไม่รอดหรอกใบไผ่"
ทันใดนั้นวิชญ์โผล่ออกมาตากมุมมืด เอาเครื่องช้อตไฟฟ้าช้อตใบไผ่โดยไม่ทันตั้งตัว
ใบไผ่สลบแน่นิ่งไป วชรวรรษวิ่งมาหยุดยืนหอบมองใบไผ่ที่สิ้นฤทธิ์ไปแล้ว
วิชญ์ไม่ค่อยสบายใจ "ทำแบบนี้มันจะดีเหรอครับเจ้านาย"
"แกก็เห็นผู้หญิงคนนี้พิษสงร้ายกาจ ธรรมดาซะที่ไหน"
"แล้วเจ้านายจะสั่งสอนคุณไผ่ยังไงครับ" "ฉันจัดการเอง แกกลับไปได้แล้ว"
วชรวรรษอุ้มใบไผ่มานอนบนเตียงในห้องของหญิงสาว "อย่ามาโกรธกันเลยนะ
ถ้าเธอไม่คิดทำลายฉัน ฉันก็ไม่คิดจะทำกับผู้หญิงแบบนี้หรอก"
วชรวรรษนั่งลงเริ่มปลดกระดุมเสื้อใบไผ่000000000000000 เช้าวันรุ่งขึ้น
ใบไผ่นอนอยู่บนเตียง ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วก็รู้สึกปวดตามเนื้อตามตัว
แปลกใจที่เห็นตัวเองอยู่ในห้อง "แล้วเราเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง" ใบไผ่ชะงัก
รู้สึกหวิวๆ ใจไม่ดีก้มมองตัวเองเห็นว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
ตกใจรีบเอาผ้าห่มคลุมไว้ทั้งตัว "เฮ้ย นี่มันอะไรวะ"
ใบไผ่รวบผ้าห่มพันตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นมายืนงงๆ
ก่อนจะเห็นคราบสีแดงเหมือนเลือดบนเตียง ใบไผ่ช็อค "ไอ้หมาวัด!!! ไอ้สารเลว"
วชรวรรษกำลังจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ อารมณ์ดี อยู่ที่คฤหาสน์
ไม่นานวิชญ์ก็เดินเข้ามา "นายครับ ดอกไม้ที่นายสั่งไปให้คุณแพน
คุณแพนเธอโยนทิ้งหมดเลยครับ" "โยนทิ้งก็ส่งไปอีกสิ" ไม่นานทศก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"แย่แล้วครับนาย คุณใบไผ่มาครับ" "เชิญเข้ามาเลย" วชรวรรษรออยู่แล้ว
จิบกาแฟต่ออย่างใจเย็น ทศเดินพาใบไผ่เข้ามาในห้อง วชรวรรษมองใบไผ่แล้วยิ้มกวน
ทศเดินออกไป "มาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง นึกว่าจะมาเช้ากว่านี้ซะอีก"
ใบไผ่ไม่พูดอะไรตรงเข้าไปเอาขวดซอสมะเขือเทศที่เตรียมมาสาดเข้าที่เสื้อของวชรวรรษเลอะแดงไปทั้งตัว
"ไอ้สารเลว นายนี่มันเลวไม่มีที่ติจริงๆ ล้อเล่นกับผู้หญิงแบบนี้ มันสนุกนักเหรอไง"
วชรวรรษหัวเราะแล้วหยิบผ้ามาเช็ดคราวซอสที่เสื้อตัวเอง "เอาน่า
ค่าซอสมะเขือเทศที่มันเลอะที่นอนเธอฉันจะจ่ายค่าซักให้
ไอ้เรื่องแบบนี้ธรรมดาฉันไม่เอามาล้อเล่นกับใครหรอก
แต่กับผู้หญิงที่มันแสบซ่าส์อย่างเธอ ฉันต้องงัดเอามันออกมาใช้ จะได้รู้สำนึก"
ใบไผ่กำมือแน่นแค้น เงื้อหมัดจะต่อย วชรวรรษหลบได้ทันเฉียดฉิว
ยิ่งทำให้ใบไผ่โกรธหันไปต่อยอีกสองสามหมัด วชรวรรษแค่โยกตัวหลบนิดหน่อยก็พ้น
ใบไผ่เจ็บใจหันไปหยิบที่ตัดจดหมายบนโต๊ะขึ้นมา "อ๊ะๆ อย่าคิดจะทำอะไรฉันที่นี่นะ
เพราะที่นี่เป็นบ้านของฉัน อยากติดคุกยาวก็เอาจะได้เป็นเจ้าแม่ในคุก"
ใบไผ่นึกได้เจ็บใจ วางอาวุธลง "ทีเธอยังล้อเล่นฉันซะแรง ฉันเอาคืนบ้างนิดๆ หน่อยๆ
ไม่ได้ทำอะไรเธอสักนิด ตัวเองยังบริสุทธิ์อยู่ แล้วเธอจะโกรธฉันไปทำไม"
"ถึงนายไม่ได้ทำอะไรฉัน แต่นายก็เห็นของฉันหมดแล้ว" "ทีแรกฉันว่าฉันจะหลับตา
แต่พอนึกไปนึกมา ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะมีอะไรเหมือนๆ
กับผู้หญิงทั่วไปหรือเปล่า ที่แท้ก็ซ่อนรูปเหมือนกันนะ"
วชรวรรษวาดมือเป็นสัดส่วนผู้หญิง แต่ตรงหน้าอกใหญ่หน่อย "ไอ้หมาวัด!!" ใบไผ่จะตบ
วชรวรรษจับใบไผ่ดึงมากอดรัดทั้งตัว "ฉันรู้ทางเธอหมดแล้วใบไผ่
เธอไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอก" "ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้หมาวัด ไอ้ผู้ชายเฮงซวย
ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ" วชรวรรษเอามือปิดปากใบไผ่ ใบไผ่ตาเหลือกร้องอู้อี้ๆ
"ทำไมถึงได้พูดมากอย่างนี้ หา ถ้าเธอยังไม่หยุดพูด ฉันจะจูบล่ะนะ จะหยุดได้หรือยัง"
ใบไผ่พยักหน้า วชรวรรษผลักใบไผ่ออกไป
"เลิกล้มความคิดที่จะมาทำลายฉันกับคู่หมั้นได้แล้ว และถ้าเธอยังไม่เชื่อ
คราวหน้าฉันจะเอาพรหมจรรย์ออกจากตัวเธอจริงๆ" ใบไผ่ตบหน้าวชรวรรษด้วยความโมโห
วชรวรรษหันมาหน้ายิ้ม "จะตบฉันอีกข้างก็ได้นะ เธอจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที"
ใบไผ่กำมือแน่นจนตัวเกร็ง แล้วก็ตบที่หน้าวชรวรรษสองข้างพร้อมๆ กัน
ทำเอาวชรวรรษมึนเซ "ยัยใบไผ่" "นายไม่ต้องห่วง ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีกแน่"
ใบไผ่ไปหาแก้วขวัญด้วยความโมโหเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
แล้วบอกว่าแม้เธอจะบอกว่าไม่ยุ่งกับวชรวรรษอีก
แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงของวชรวรรษ "ไผ่เอ๊ย การจองเวรอาฆาตแค้น
มันจะทำให้เราไม่มีความสุขนะ เลิกยุ่งกับเขาเถอะไผ่" "ไม่มีทาง
ผู้ชายคนนั้นมันต้องได้รับรู้รสชาติของความเสียใจ
ว่าแต่น้าแก้วจัดการตามที่ไผ่บอกแล้วใช่มั้ย" "อือ น้าเตรียมทุกอย่างให้ไผ่หมดแล้ว
ไหนไผ่ลุกขึ้นยืนให้น้าดูสิ" ใบไผ่ลุกขึ้นยืน แก้วขวัญมองใบไผ่ไปรอบๆ
ตั้งแต่หัวจรดเท้า "ทำไมเหรอน้าแก้ว" "น้าว่ามันออกจะยากสักนิดนะ
"แต่คงไม่เกินความสามารถของน้าแก้วหรอกมั้ง น้ารีบจัดการให้ไผ่ก็แล้วกันนะ"
แก้วขวัญพยักหน้ารับ ใบไผ่ยิ้มเจ้าเล่ห์ "นายจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ไอ้หมาวัด"
พยุทธ์ช่วยวชรวรรษง้อนรารีจนสำเร็จ จากนั้นทุกคนก็พากันไปงานเลี้ยงครบรอบ 25 ปี
ของบริษัทพยุทธ์ โดยพยุทธ์แนะนำให้ทุกคนรู้จักวชรวรรษในฐานะว่าที่ลูกเขย
และแก้ต่างให้วชรวรรษตลอดเวลาเมื่อคนสงสัยในความเป็นเจ้าพ่อของวชรวรรษ
ระวห่างนั้นเสี่ยทำนุเข้ามาป่วนในงาน
วชรวรรษจึงช่วยไล่เสี่ยทำนุให้ออกไปจากงานจนพยุทธ์และนรารีซึ้งน้ำใจของวชรวรรษ
ขณะที่วชรวรรษแยกตัวจากนรารีเพื่อไปเข้าห้องน้ำ
ใบ ไผ่ปลอมตัวเป็นผู้ชายใส่สูทเข้ามาเดินชนวชรวรรษทางด้านหลังแล้วเอาปากที่ทา ลิปสติกจนแดงจัดจูบไปบนเสื้อสูทสีขาวของวชรวรรษจนเป็นรอยปากเห็นได้ชัด
เมื่อนรารีเห็นรอยลิปติกบนเสื้อของวชรวรรษก็ไม่พอใจคิดว่าเขาหายไปห้องน้ำนานเพราะนัดกับสาวๆ
ไว้ นรารีโกรธมากเดินร้องไห้หนีไป เลยชนกับใบไผ่ในชุดผู้ชายเข้า "ขอโทษครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ" "คุณเป็นอะไรเหรอเปล่า ร้องไห้ทำไมครับ หรือว่าผมทำคุณเจ็บ"
"ไม่ใช่คุณหรอกค่ะ" วชรวรรษตามนรารีมาทัน จับแขนนรารีไว้ "คุณแพนครับ"
"ไม่ต้องมายุ่งกับแพน" "คุณแพน" ใบไผ่รีบแทรก "นี่คุณ
คุณผู้หญิงคนนี้เขาก็บอกแล้วว่าอย่ามายุ่ง ผมว่าคุณอยู่ห่างๆ เธอไว้ดีกว่า"
"คุณต่างหากที่ไม่ต้องยุ่ง ถอยไป คุณแพนครับ ผมไม่รู้จริงๆ
นะครับว่าไอ้รอยนี้มันมาได้ยังไง คุณแพนต้องเชื่อผมนะครับ" นรารีเงียบไม่พูด
ระหว่างนั้นพนักงานเดินเข้ามาบอกว่าพยุทธ์ให้มาตามนรารีและวชรวรรษไปเต้นรำ
วชรวรรษยื่นมือให้นรารีไปเต้นรำด้วยกัน แต่นรารียังนิ่ง
ใบไผ่ยื่นมือออกไปให้นรารีแทน "ถ้าคุณไม่อยากเต้นรำกับเขา เต้นรำกับผมก็ได้นะครับ
ผมว่าง" วชรวรรษมองใบไผ่ไม่พอใจ
นรารีนิ่งคิดอยู่ครู่แล้วก็จับมือใบไผ่พากันเดินออกไปจงใจประชด
"แพนเตือนคุณแล้วนะคะคุณวัชร แพนขอตัวค่ะ" ใบไผ่จับมือนรารีพามาที่กลางฟลอร์
พยุทธ์มองใบไผ่ด้วยความสงสัยเพราะไม่รู้จัก จึงหันไปถามวชรวรรษว่าเกิดอะไรขึ้น
"คุณแพนเข้าใจผมผิดนิดหน่อยน่ะครับ" "อีกแล้วเหรอ"
พยุทธ์ถอนหายใจหันไปมองนรารีกับใบไผ่ นรารียังคงหน้าเศร้า
"ผมทำให้คุณกับแฟนของคุณทะเลาะกันมากกว่าเดิมเหรอเปล่า" ใบไผ่ถามขึ้น "ไม่หรอกค่ะ
คุณไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก" "ผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณ ผู้ชายควรจะทนุถนอมมากกว่านะครับ"
"คุณนี่ปากหวานจังเลยนะคะ พูดอย่างนี้กับผู้หญิงมากี่คนแล้ว"
"ผมไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงสักเท่าไหร่ คุณเป็นคนแรกเลยครับ คุณชื่ออะไรครับ"
"นรารีค่ะ เรียกว่าแพนก็ได้ แล้วคุณล่ะคะ" "เอกครับ ทองเอก" "คุณทองเอก
ชื่อเหมือนขนมเลยนะคะ" "ทองเอกเดียวกันนั่นแหละครับ" ทั้งสองคนส่งยิ้มหวานให้กัน
นรารีทำเป็นมองวชรวรรษแล้วโอบไหล่ใบไผ่จงใจยั่วโมโห
วชรวรรษมองชายสูทดำอย่างไม่ชอบขี้หน้า พยุทธ์ก็มองวชรวรรษไม่พอใจ
"นี่ถ้าวันนี้คุณไม่ช่วยผมจากเสี่ยทำนุ ผมไล่คุณออกจากงานแล้วคุณวชรวรรษ"
พยุทธ์เดินออกไป วชรวรรษเซ็ง

ไม่มีความคิดเห็น: