วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

แม่ค้าขนมหวาน 4

ใบไผ่กลับมาบ้านสวน เตะต่อยต้นกล้วยด้วยความโมโหจากเหตุการณ์ที่เจอวชรวรรษเมื่อ
"ไอ้บ้ายังไงฉันก็ไม่มีวันยอมให้นายเล่นงานฉันแน่
ฉันไม่กลัวเจ้าพ่ออย่างนายหรอก ครอบครัวข้าใครอย่าแตะ"
ใบไผ่คิดหาทางหนีการคุกคามของวชรวรรษ
โดยไปขอยืมเงินจากนาทก้อนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนทำเลร้านใหม่ แต่นาทไม่ยอมให้
บอกว่าไม่มีแล้ว และเตือนว่าทำอะไรต้องจริงจัง และห้ามท้อ
"เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
อย่างไอ้ไผ่สู้แค่ตายเว้ย!!"
วชรวรรษเดินอยู่กับผู้จัดการโรงแรมท่าทางสุภาพนอบน้อม
ผู้จัดการขอโทษที่เขาบริหารโรงแรมไม่ดี แต่วชรวรรษไม่นึกโทษผู้จัดการ
บอกว่าเรื่องนี้น่าจะมีเบื้องหลังแล้วเขาจะหาทางสืบเอง
ทศเดินเข้ามาบอกว่าเขาสืบประวัติของใบไผ่ได้แล้ว
พร้อมกับนำสไลด์มาฉายให้วชรวรรษดูพร้อมคำบรรยาย
"สมาชิกในครอบครัวอรุณรักษ์นอกจากผู้หญิงคนนั้นแล้วก็มีอีกสามคนครับ คนแรกคือ
ลุงกริช อดีตกำนันแหนบทอง เกษียณอายุแล้ว ชอบเลี้ยงนก ปลูกต้นไม้
เปิดค่ายมวยเป็นของตัวเอง ชอบคนลุยไหนลุยนั่น ไม่เคยกลัวใคร ป้าอุบล
อดีตสาวงามเมืองเพชร เป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อม มีวิชาอาหารและขนมจากในรั้วในวัง
อร่อยจนหาใครทัดเทียมได้ยาก อานาท เจ้าของสวนอรุณรักษ์ มีทั้งสวนทุเรียน สวนส้ม
สวนมังคุด สวนลิ้นจี่ เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีย่อมๆ ชอบเคี้ยวหมาก พูดจาโผงผาง
ใจนักเลง ส่วนคนนี้เป็นน้าสาวทางฝั่งแม่ ชื่อว่าแก้วขวัญ เป็นดีไซเนอร์
มีกิจการห้องเสื้ออยู่แถวสุขุมวิท เป็นคนทันสมัย แต่งตัวเก่ง และยังโสด
และคนสุดท้าย นางสาวมณีรัตนา อรุณรักษ์"
วชรวรรษชะงักกึกหันขวับไปมองทศ
"แกว่าผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไรนะ"
"มณีรัตนาครับ"
"แกสืบชื่อมาผิดหรือเปล่า"
"ไม่ผิดหรอกครับนาย ชื่อจริงของเธอคือมณีรัตนา
แต่ชื่อเล่นชื่อใบไผ่ครับ พ่อแม่เสียตั้งแต่ยังเล็ก เรียนจบวิศวะ
ได้งานเป็นวิศวกรในโรงงานที่อุบลฯ
แต่ไปมีเรื่องกับหัวหน้าจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันก็เลยลาออกกลับมาเปิดร้านขายขนมไทยเป็นของตัวเอง"
วชรวรรษฟังเรื่องราวของใบไผ่ด้วยความสนใจก่อนจะลุกเดินมาตรงหน้ารูป
หยิบขนมของว่างบนโต๊ะขึ้นมากิน แล้วก็ชะงักเพราะไม่อร่อย วชรวรรษโยนทิ้ง
จ้องใบไผ่อย่างขัดใจ
"ชื่อก็หวาน หน้าก็สวย ทำขนมก็เก่ง
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเธอ ยัยตัวแสบ"
ใบไผ่มาหาเกดซึ่งเป็นพนักงานโรงแรม
โดยให้ทองหยอดน้องสาวของเกดพามา เพื่อจะขอให้เกดไปเป็นผู้จัดการที่ร้านขนมไทยของเธอ
ระหว่างที่คุยกับเกด
หัวหน้าหน้าตาหื่นกามของเกดเดินเข้ามาต่อว่าเกดที่มายืนคุยกับญาติในเวลางาน
เกดปูเตียงในห้องพักแชก หัวหน้าเข้ามาหาแล้วจะปลุกปล้ำเธอ
เกดดิ้นรนต่อสู้หนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำแล้วนึกขึ้นได้รีบโทรศัพท์หาทองหยอด
"หยอดช่วยพี่ด้วย"
"พี่เกด เกิดอะไรขึ้น"
ทองหยอดพูดได้แค่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็เงียบไปเพราะแบตเตอรี่ของเกดหมด
ทองหยอดร้อนใจรู้ว่าพี่สาวกำลังได้รับอันตรายจึงรีบวิ่งย้อนกลับเข้าไปที่โรงแรมพร้อมกับใบไผ่
ขณะเดียวกันหัวหน้าก็ไปเอากุญมาไขประตูห้องน้ำเข้าไปปลุกปล้ำเกดอีก
เกดร้องสุดเสียง วชรวรรษกับทดได้ยินรีบวิ่งมาที่ห้องพัก
หัวหน้าหน้าซีดโยนบาปว่าเกดเป็นหัวขโมย วชรวรรษมองสภาพของเกดแล้วไม่เชื่อ
เดินเข้าไปชกหัวหน้าเปรี้ยง แล้วไล่ออกจากงานทันที วชรวรรษมองเกดด้วยความสงสาร
ถอดเสื้อนอกมาคลุมให้
ใบไผ่กับทองหยอดวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
เห็นวชรวรรษเดินออกมากับเกด ใบไผ่เลือดขึ้นหน้าทันที
"ไอ้บ้านี่อีกแล้วเหรอ"
ใบไผ่ถลกแขนเสื้อตรงเข้าไปตั๊นหน้าวชรวรรษอย่างแรง เกดตกใจรีบห้าม
บอกว่าวชรวรรษช่วยเธอ และยังเป็นเจ้าของโรงแรมด้วย
ใบไผ่นิ่งงันไปแต่ก็ทำใจดีสู้เสือ วชรวรรษเดินเข้ามาหาใบไผ่
ใบไผ่รีบดึงเกดมาหาแล้วก็เอาตัวขวางทองหยอดกับเกดไว้
"อย่าทำอะไรเขาสองคนนะ
ฉันเป็นคนทำให้นายเจ็บ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง"
"เธอเห็นฉันโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ใช่ ก็นายเป็นเจ้าพ่อนี่
แต่ขอโทษเถอะนะ ใครๆ อาจจะกลัวนาย แต่ไม่ใช่ฉัน"
ปากว่าไม่กลัว แต่มือไม้สั่น
ใบไผ่กำมือแน่นเพื่อไม่ให้ใครเห็น วชรวรรษขยับตัว ใบไผ่รีบจับมือเกด ชวนกันกลับไป
ใบไผ่พาเกดกับทองหยอดเข้ามาในร้าน บอกให้เกดเริ่มมาทำงานวันพรุ่งนี้เลย
สองพี่น้องพากันออกไป ใบไผ่หันมองร้านขนมหวานด้วยความหวงแหน
"ถึงนายจะเป็นเจ้าพ่อใหญ่ แต่ฉันจะไม่ยอมให้นายมาทำอะไรร้านฉันเด็ดขาด"
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ใบไผ่เข้าใจว่าเป็นทองหยอด
แต่พอหันไปก็แทบช็อคเมื่อเห็นวชรวรรษยืนอยู่
"นาย นายมาที่นี่ได้ยังไง"
วชรวรรษหยิบสติ๊กเกอร์ร้านของใบไผ่ที่เขาเคยได้จากงานเปิดตัวน้ำหอมออกมา
ใบไผ่ถึงนึกได้ วชรวรรษล้วงเข้าไปในเสื้อ ใบไผ่เข้าใจว่าวชรวรรษจะหยิบปืนออกมา
แต่ในที่สุดวชรวรรษก็หยิบเงินค่าทำขวัญของเกดมายื่นให้ใบไผ่
"เสร็จธุระของนาย
ก็กลับไปได้แล้ว"
วชรวรรษไม่สนใจที่ใบไผ่พูด ทำเป็นเดินสำรวจ
"ร้านสวยดีนะ"
"ขอบใจ แต่ออกไปได้แล้ว"
"ท่าทางเธอต้องไปอบรมมารยาทให้มากกว่านี้
พูดจากับลูกค้าแบบนี้ได้ยังไง"
"นายไม่ใช่ลูกค้าของฉัน
แล้วฉันก็ไม่มีวันรับนายเป็นลูกค้าด้วย"
"นี่เธอ ขายของมันต้องรักในการบริการนะ
ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ชอบลูกค้า เธอก็ต้องให้บริการเขา"
"เลิกหลอกด่าฉัน
แล้วก็กลับไปซะ ถ้าไม่อยากเจอหมัดอีก"
"ฉันยังไม่กลับ เพราะยังทำธุระไม่เสร็จ"
ใบไผ่ชักฝ่อ วชรวรรษเดินเข้ามาใกล้ใบไผ่
"เธอคิดว่าการที่เธอต่อยหน้าฉันต่อหน้าลูกน้องแล้วฉันจะไม่เอาคืนเหรอ
รู้มั้ยว่าเธอมันทำให้ฉันเสียการปกครอง"
"แล้วไง ไม่ใช่ธุระของฉันนี่"
"แน่ใจนะว่าไม่ใช่ธุระของเธอ"
วชรวรรษทำหน้าโหด พุ่งเข้ามา ใบไผ่เงื้อแจกัน
แต่วชรวรรษรับแจกันได้หมับบิดแขนใบไผ่ ทำให้แจกันหล่นแตก
วชรวรรษจับใบไผ่ให้หันหน้ามาแล้วก็ดันไปจนติดกำแพง ตัวเขากับใบไผ่ห่างกันแค่คืบ
ใบไผ่พยายามดิ้นแต่วชรวรรษล็อคแน่น
"ปล่อยฉันนะไอ้เจ้าพ่อหื่น
ไอ้เจ้าพ่อบ้ากาม"
"ฮืม แปรงฟันเหรอเปล่าเนี่ย หา"
"ไอ้บ้า!!"
ใบไผ่นึกได้รีบหุบปากเสียความมั่นใจ แล้วก็พูดแบบไม่อ้าปากมาก
"นายจะเอายังไงกับฉัน"
"จะให้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้ แต่เธอต้องไปกับฉัน"
"ไปไหน"
"ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง"
"งั้นฉันก็ไม่ไป"
วชรวรรษบีบแขนจนใบไผ่เจ็บทรมาน
"โอ๊ย
ก็ฉันจะไว้ใจได้ยังไงว่านายจะไม่เอาฉันไปขาย นายมันพวกเจ้าพ่อนี่"
"ดูหนังมากไปรึเปล่า เจ้าพ่อไม่ได้เป็นเหมือนในหนังทุกคนหรอก
ยังไงฉันก็ไม่เอาเธอไปขายหรอก เอาไปขายก็ไม่ได้ราคา เสียเวลาเปล่า"
"ไอ้บ้า!!"
"ตกลงจะยอมไปดีๆ มั้ย"
ใบไผ่ยังคงเงียบไม่ยอมไป
"ก็ได้
อยากเห็นฉันเป็นเจ้าพ่อโหดๆ ฉันก็จะเป็นให้ดู จะให้จัดการกับเธอยังไงดี
เอามีดมาตัดนิ้วก้อยแล้วค่อยจับถอดเสื้อผ้า หรือว่าจะให้ยิงทิ้งเลย
ก็น่าจะดีนะอยู่ในนี้กันสองคน ฆ่าเธอตายก็ไม่มีใครรู้"
ใบไผ่เหงื่อผุดเต็มใบหน้า
"เอ หรือว่าจะตัดขาให้พิการ ทรมานเล่น
หรือว่าจะเผาร้านนี้ดี"
"พอได้แล้ว!!"
"เปลี่ยนใจไปกับฉันแล้วใช่มั้ย"
"ไปก็ได้ แต่ไม่ได้กลัวหรอกนะ"
วชรวรรษยิ้มสะใจ แก้วขวัญลงมาจากรถ
เห็นวชรวรรษกำลังเปิดประตูให้ใบไผ่ขึ้นรถก็ตกใจงงๆ
วรรษามาเชียร์พอลแข่งบาสเก็ตบอลกับเด็กวัยโจ๋ด้วยกัน พอลชนะ
วัยรุ่นฝ่ายตรงข้ามมองมองวรรษาและพูดจาโลมเลียจนวรรษาแปลกใจถามพอลว่าทำไมฝ่ายตรงข้ามต้องพูดกับเธออย่างนั้น
พอลอึกอักไม่ยอมตอบ วรรษารู้ได้ทันทีว่าพอลเอาตัวเธอไปพนันกับพวกนั้น
วรรษาโกรธมากเดินหนี พอลรีบตาม ธราทิตย์มาถ่ายแบบบริเวณนั้น
เห็นท่าไม่ดีรีบเดินเข้าไปหาวรรษา
"มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยคุณ"
วรรษาเห็นธราทิตย์ก็รีบไปหา บอกให้ช่วยพาเธอกลับบ้าน
ธราทิตย์พาวรรษามานั่งนั่งพักที่ริมน้ำแห่งหนึ่ง วรรษาก้มหน้าร้องไห้อย่างหนัก
ธราทิตย์ยืนอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร จนวรรษาแปลกใจ
"คุณไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยเหรอ"
"จะให้ผมพูดอะไร"
"อย่าง ปลอบใจฉัน
หรือทำยังไงก็ได้ให้ฉันรู้สึกดีขึ้น"
"นี่ผมก็ช่วยคุณอยู่ไง
คุณไม่เคยได้ยินเหรอ คนเราถ้าเก็บกดมากๆ มันจะเป็นบ้า
ผมไม่อยากให้คุณเป็นบ้าก็เลยปล่อยให้คุณระบายออกมาไง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยล่ะ"
วรรษานิ่งไป แล้วก็รู้สึกว่าการร้องไห้มันทำให้เธอดีขึ้นจริงๆ
"สบายใจแล้วใช่มั้ย"
"คุณนั่นแหละที่บ้า"
"เอ้า อะไรกันเนี่ย
ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ยังมาถูกด่าว่าบ้าอีก"
"ก็ใครใช้ให้นายมายุ่งกับฉันล่ะ"
"อ้าว คุณเป็นคนลากผมมานะเจ้าหญิง"
วรรษาสะบัดหน้าเดินออกไป
ธราทิตย์ส่ายหัวยิ้มอย่างเอ็นดู ด้วยความรีบเดินทำให้วรรษาสะดุดขาตัวเองจะล้ม
ธราทิตย์ตกใจรีบพุ่งเข้าไปรับวรรษา หน้าของสองคนห่างกันแค่คืบ
วรรษากับธราทิตย์ถึงกับนิ่งงัน แล้วเสียงวิชญ์ก็ดังขึ้น
"ปล่อยคุณฝนเดี๋ยวนี้นะเว้ย"
ยังไม่ทันที่ธราทิตย์จะได้ตั้งตัว
วิชญ์กับลูกน้องก็เข้ามากระชากธราทิตย์ออกไปจากวรรษา ธราทิตย์งงว่าเกิดอะไรขึ้น
"นี่ ตกลงคุณเป็นเจ้าหญิงจริงๆเหรอ ถึงมีบอดี้การ์ดมาคุ้มกันให้พรึ่บขนาดนี้"
"ฉันจะเป็นอะไร มันก็เรื่องของฉัน"
วรรษบอกให้วิชญ์ปล่อยธราทิตย์แล้วพาเธอกลับบ้านได้แล้ว
ธราทิตย์มองด้วยความสนใจวรรษามากขึ้นไปอีก
"เจ้าหญิงชื่อฝนนี่เอง"
เม่นกับวีเล่าเรื่องที่ใบไผ่ไปมีเรื่องกับวชรวรรษให้ครอบครัวของใบไผ่ฟัง
ทุกคนต่างพากันตกใจ
ประกอบกับแก้วขวัญก็มาที่บ้านแล้วบอกว่าเธอเห็นใบไผ่ขึ้นรถไปกับวชรวรรษ
ยิ่งทำให้ทุกคนที่บ้านอรุณรักษ์ยิ่งเป็นห่วงใบไผ่มากขึ้น
วชรวรรษพาใบไผ่มาที่บ้านพักคนชรา เพื่อนำของมาแจกให้ เจ้าหน้าเดินเข้ามาหา
"สวัสดีครับคุณวัชร วันนี้เอาของมาเยอะแยะเลยนะครับ ผมช่วยครับ
ถ้าคุณตาคุณยายรู้ว่าคุณวัชรมา คงดีใจกันน่าดู นี่บ่นคิดถึงคุณวัชรทุกวันเลยนะครับ
เชิญครับเชิญ"
วชรวรรษเอาผ้าห่มแจกให้คุณยาย ทุกคนต่างขอบอกขอบใจ
"พ่อหนุ่มช่างประเสริฐจริงๆ ขอให้เจริญๆ นะพ่อ"
วชรวรรษยิ้มๆ
แล้วก็รู้สึกว่ามีคนมอง หันไปก็เห็นใบไผ่ยืนมองอยู่
"เอ้า
ยืนมองอยู่นั่นแหละคุณ แจกของสิ หรือจะแอบเอาไปใช้เอง"
"ไอ้บ้า!!"
"แฟนเหรอพ่อหนุ่ม"
"ไม่ใช่ค่ะ หนูถูกเขาลักพาตัวมา"
"สมัยสาวๆ
ยายก็ถูกตาเขาลักพาตัวมาเหมือนกัน แล้วเป็นไง ตอนนี้ลูกสาม เฮอะๆๆ"
ใบไผ่หน้าแดงเขินรีบเดินออกไปอีกทาง วชรวรรษมองใบไผ่เริ่มรู้สึกว่าใบไผ่น่ารัก
เวลาต่อมาวชรวรรณจับไมค์ครวญเพลงลูกทุ่ง แล้วก็เรียกใบไผ่ให้ออกมาเป็นหางเครื่อง
ใบไผ่รีบส่ายหน้าปฏิเสธแต่คุณตาคุณยายปรบมือ ทำให้ใบไผ่จำต้องเดินออกไป
"นายจะแกล้งอะไรฉันอีก"
"ผมไม่ได้แกล้งนะ
ไม่เห็นเหรอว่าคุณตาคุณยายเขามีความสุขมากแค่ไหน ทำเพื่อคุณตาคุณยายหน่อยเถอะ
คุณตาคุณยายท่านไหนอยากออกมาเต้นก็ออกมาได้เลยนะครับ"
นาท ลุงกริช ป้าอุบล
และแก้วขวัญพากันมาแจ้งความกับตำรวจว่าหลานสาวถูกวชรวรรษลักพาตัวไป
แต่พอถามแก้วขวัญซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์ก็เห็นว่าใบไผ่ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด
จึงไม่รับแจ้งความ ทั้งหมดจึงพากันบุกมาที่คฤหาสน์ของวชรวรรษ ทศบอกให้ใจเย็นๆ
เขาจะโทรศัพท์ถามวชรวรรษก่อน
"บอกพวกเขาว่าไม่ต้องห่วง เสร็จธุระแล้ว
ฉันจะพาหลานสาวเขาไปส่งที่บ้านเอง"
วชรวรรษวางสาย พลันได้กลิ่นอาหารลอยมา
วชรวรรษหลับตาพริ้มเดินไปตามกลิ่นจนถึงห้องครัว
แล้วก็เห็นใบไผ่กำลังทำอาหารด้วยท่าทางชำนิชำนาญ วชรวรรษมองด้วยความทึ่ง
"นี่คุณทำเองหมดเลยเหรอ"
ใบไผ่ยังไม่ทันตอบ แม่ครัวหันมาตอบแทน
"ค่ะ
เพื่อนคุณวัชร ทำอาหารเก่งมาก รสชาติหยั่งกับชาววัง ป้าอายไปเลยล่ะค่ะ
คุณวัชรลองชิมดูสิคะ"
วชรวรรษชิมอาหารที่ใบไผ่ทำ แล้วก็นิ่งงัน
เพราะรสชาติเหมือนฝีมือของแม่ไม่มีผิด ด้านคุณตาคุณยายทานข้าวกันด้วยความเอร็ดอร่อย
ใบไผ่คอยตักอาหารให้คุณตาคุณยาย วชรวรรษช่วยอยู่ข้างๆ
"นายมาที่นี่บ่อยเหรอไง
ถึงได้ประจบเขาไปทั่ว"
"ถ้างานไม่ยุ่ง ผมก็จะแวะมาประจำ"
"ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าพ่ออย่างนายจะมีน้ำใจ"
"เจ้าพ่อไม่ได้โหดร้ายเหมือนในหนังหรอกนะคุณ ผมก็เป็นคนเหมือนกัน
และผมก็ต้องการความสุข การมาที่นี่คือความสุขของผม"
ใบไผ่อึ้งไปกับคำพูดของวชรวรรษ
"แล้วอะไรคือความสุขของคุณ"
"การได้ทำอาหารไง ฉันถึงเปิดร้าน เพราะฉันอยากให้คนที่กินอาหารของฉันมีความสุข"
"ผมเองก็ไม่ต่างจากคุณหรอก คุณตาคุณยายพวกนี้คืออาหารใจของผม"
ใบไผ่หันไปมองวชรวรรษ เห็นแววตาแห่งความเศร้าที่ปรากฏขึ้น
เริ่มรู้สึกเห็นใจชายหนุ่ม วชรวรรษรู้ว่าเขาแสดงออกมากเกินไป เลยรีบกลบเกลื่อน
"เรากลับกันเถอะ ผมต้องพาคุณไปส่งบ้าน ญาติคุณรออยู่แล้ว"
"คุณรู้ได้ยังไง"
วชรวรรษไม่ตอบ เดินออกไป ใบไผ่รีบตามไปขึ้นรถ
ไม่นานก็มีมือปืนในชุดดำขี่มอเตอร์ไซค์ตามรถวชรวรรษไปติดๆ วชรวรรษเห็น
หน้าเครียดทันที มองไปที่ลิ้นชักด้านหน้ารถ ใบไผ่สังเกตเห็น
"นายจะเอาอะไร"
"เอ่อ เปล่า"
วชรวรรษเห็นมอเตอร์ไซค์พยายามตีคู่ขึ้นมาก็ยิ่งเครียด
"คุณไผ่ ก้มหัวลง"
ใบไผ่หันไปมองวชรวรรษตกใจ
"ไอ้บ้า ไอ้ลามก ไอ้ทุเรศ
ฉันไม่นึกเลยนะว่านายจะหื่นขนาดนี้"
วชรวรรษเห็นมอเตอร์ไซค์ใกล้เข้ามา
"ผมบอกให้ก้มหัวลงไง"
ใบไผ่ยังไม่ทันพูดอะไร วชรวรรษกดหัวใบไผ่ลง
ใบไผ่ตกใจร้องลั่น วชรวรรษเปิดลิ้นชักหยิบปืนออกมา เปิดกระจกยิงใส่มือปืนทันที
ใบไผ่ตาเหลือกกับเสียงปืนที่ได้ยิน มอเตอร์ไค์กลิ้งตกไปข้างทาง
รถของวชรวรรษแล่นต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: